พระเอยพระแม่ฟ้า ปวงไทย พระจริยางามไกล ทั่วหล้า พระเมตตาโอบเอื้อ อาดูร ราษฎร์แฮ พระกรณียกิจมากล้น ปกเกล้าฯ เหล่าประชา ศิลปาชีพทรงสรรค์ สร้างมา ทรงกอบเกื้อไพร่ฟ้า ยากแค้น ป่ารักน้ำ รักษ์ไว้ เพื่อลูก หลานแฮ สองพระหัตถุ์โอบอุ้ม คุ้มเกล้าฯ ไทยเอย เฉลิมชนม์มายุ พรรษา สิบสองสิงหามา บรรจบ เหล่าข้าฯ ปวงชาวไทย น้อมเกล้า ถวายเอย ขอพระยิ่งยืนฟ้า ตราบชั่วกาลนาน เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๓ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๘ ขอถวายพระพรให้ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน มีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ ทรงพระเกษมสำราญ สถิตย์เป็นมิ่งขวัญแก่ปวงพสกนิกรชาวไทยตลอดกาลนานเทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ความยากจนไม่น่าเป็นสิ่งที่น่าละอาย "...เมื่อยังเล็กๆ อยู่ ข้าพเจ้าเคยเสียใจมาก ที่คุณแม่ไม่มีเสื้อผ้าสวยๆ ให้ใส่เลย เสื้อผ้าที่ใส่เล่นในบ้านก็รับช่วงจากพี่ชายสองคน และได้เห็นแม่นั่งเย็บจักร เย็บชุดนักเรียน ให้แก่ข้าพเจ้าและน้องสาว ได้เห็นพ่อของข้าพเจ้า ไปไหนๆ ก็ขึ้นแต่รถราง ข้าพเจ้าก็บ่นกับพี่น้องว่า แหมเบื่อจัง เห็นพ่อต้องวิ่งขึ้นรถราง ท่านพ่อ ก็จะสอนมาตลอดว่า "ลูก ความยากจนไม่น่าเป็นสิ่งที่น่าละอาย ความชั่วช้าคดโกงนั่นแหละเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ น่าละอายอย่างยิ่ง" ข้าพเจ้าเองก็เดินจากบ้านที่เทเวศร์ซึ่งไกลมาก ไปโรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์ นานๆ จึงจะได้ขึ้นรถรางเมื่อฝนตก ตอนนี้ ข้าพเจ้าอธิษฐานเสมอเวลาทำบุญ และแม้แต่เวลานั่งรถผ่านพระปฐมเจดีย์ว่า เกิดชาติหน้าฉันใด ขอให้ได้เกิดกับพ่อแม่เช่นนี้ พ่อแม่ที่สอนลูกให้ห่างไกลจากความรู้มาก และก็เค็มปี๋..." ความตอนหนึ่งในพระราชดำรัส สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เฝ้าฯ ถวายชัยมงคลเนื่องในโอกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา วันพุธ ที่ ๑๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๗ Cr.https://www.facebook.com/RoyalArchivesofOHM
[ประกาศ] วันนี้ เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมมราชินีนาถ และวันแม่แห่งชาติ พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และงานศิลป์แผ่นดิน พระที่นั่งอนันตสมาคม จะยกเว้นค่าเข้าชม ให้แก่ผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ชาวไทยทุกท่านตลอดทั้งวัน
ป่าฝนต้นน้ำของไทย "...ป่าไม้ของประเทศไทยเป็นเรียกว่าป่าฝน ซึ่งชาวต่างประเทศเขาบอกว่า แหล่งน้ำของไทยนี่มาจากป่าฝน เขาใช้คำว่า RAIN FOREST ว่าเรานี่แหล่งน้ำได้มาจากที่นี่ ถ้าเราตัดป่ามากๆ ข้าพเจ้าก็เกรงว่า น้ำของเรานี่ก็จะหมดไป ค่อยๆ ร่อยหรอไป ไม่สมดุลกับการเกิดของประชากรที่ต้องใช้น้ำ ป่าไม้นี้ช่วยซึมซับน้ำฝนไว้ใต้ดิน เรียกว่าทำน้ำใต้ดินแล้วค่อยๆ ระบายลงมา เป็นธารน้ำ เป็นลำคลอง เป็นแม่น้ำ ที่ให้เราใช้ได้เสมอมา เราจึงควรถนอมรักษาป่าไว้ให้คงอยู่เป็นต้นน้ำลำธาร เพื่อว่าลูกหลานเราจะได้ไม่ลำบาก เพราะคนไทยก็ประชากรมากขึ้นทุกที..." พระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา วันอาทิตย์ ที่ ๑๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๓๔ Cr.https://www.facebook.com/RoyalArchivesofOHM
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ หนุ่มเขมรร่วมปั่น‘ไบค์ ฟอร์ มัม’ ซาบซึ้่ง‘ราชินี’ให้ชีวิตใหม่พ้นภัยสงคราม ด้วยพระเมตตาของ “สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ” ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรไปทั่วทุกสารทิศ ด้วยน้ำพระราชหฤทัยที่สุดจะเปรียบเปรยยังแผ่ขจรไกลไปถึงผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยมิได้ทรงคำนึงว่า “คนเหล่านั้นจะเป็นชนชาติใด” แม้เวลาจะผ่านเนิ่นนานเพียงใด น้ำพระราชหฤทัยของพระองค์ไม่เคยเสื่อมคลายไปจากหัวใจของ “ดนัย ดีนา คมคาย เคือน” นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ชาวกัมพูชาที่ประสบความสำเร็จสู่จุดสูงสุดของชีวิตอันเป็นผลมาจากพระมหากรุณาธิคุณของ “สมเด็จพระบรมราชินีนาถ” เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมศูนย์ผู้ลี้ภัยเขาล้าน จ.ตราด เมื่อปี พ.ศ. 2522 ปัจจุบัน ดนัยดำรงตำแหน่งประธานบริษัท English3Siam แต่ใครจะรู้ว่าชีวิตที่เหมือนตายแล้วเกิดใหม่เป็นเพราะเขาได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระแม่แห่งแผ่นดินไทย ตั้งวัยเยาว์จนเติบใหญ่ ทั้งชีวิตความเป็นอยู่ในวันที่ประเทศบ้านเกิดแตกระส่ำ ตลอดจนการร่ำเรียนสูงสุดจากทุนพระราชทาน “วันหนึ่งพระราชินีเสด็จฯ มาที่แคมป์ของพวกเรา ตอนนั้นมีเฮลิคอปเตอร์อยู่ทุกที่ ทหารจากกองทัพบก และกองทัพเรือไทยอยู่ที่นั่นด้วย ในความคิดตอนนั้นพวกเราคิดว่าสงครามเกิดขึ้นอีกครั้ง พวกเราไม่คิดว่า สมเด็จพระราชินีเสด็จฯ มาเยี่ยม ในเวลานั้นยอมรับว่าไม่มีความรู้เกี่ยวกับพระราชา และพระราชินี ไม่เข้าใจว่าบุคคลสำคัญจะต้องมาสถานที่แห่งนี้เพื่อมาเจอพวกเรา เพราะมันเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้บาดเจ็บจำนวนมากในแคมป์ บางคนไม่มีแขนขา อีกทั้งในแคมป์มีกลิ่นคลุ้งคล้ายกับกลิ่นปลา เป็นกลิ่นบาดแผลของร่างกาย บางคนดูไม่เป็นมิตร แต่พระราชินีทรงแสดงความกล้าหาญอย่างมาก เดินเข้ามาในแคมป์พวกเราทั้งที่รู้ว่ามันเป็นเขตสงคราม" ดนัย กล่าวด้วยความซาบซึ้งว่า พระองค์ทรงเสี่ยงอันตรายด้วยชีวิตของพระองค์ เพราะในสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยพวกเขมรแดงที่ซุ่มตัวอยู่ภายในแคมป์ แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรพระราชินียังคงเสี่ยงพระองค์เพื่อมาช่วยเหลือผู้ลี้ภัย พระราชินีทรงนำธงสภากาชาดขึ้นสู่เสา เพื่อให้ทุกคนในแคมป์สามารถเห็นได้ พร้อมรับสั่งว่า ธงจะช่วยป้องกันพวกเราจากการถูกฆ่า จากนั้นพระองค์ทรงพระดำเนินไปรอบๆ แคมป์ ทรงแจกนม น้ำสะอาด และอาหารให้ ทุกคนมองที่พระองค์และรู้สึกได้ว่าพระองค์เป็นสตรีที่มีพระบารมี งามสง่าน่าเคารพนับถือ พระองค์ทรงมาเยี่ยมพวกเราสามรอบ ทรงใช้เวลาในตอนกลางคืนอยู่กับพวกเรา ตอนนั้นได้แต่นึกว่า จะมีใครไหมที่สามารถทำอย่างพระองค์ได้ พระราชินีทรงทำให้ผู้ลี้ภัยแน่ใจว่า จะอยู่อย่างปลอดภัย โดยได้รับยา อาหาร เสื้อผ้า และที่หลบภัย ดนัย บอกถึงความตั้งใจว่า ได้รวบรวมกลุ่มนักปั่นจักรยานชาวกัมพูชาจำนวนประมาณ 50 คน เพื่อร่วมกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ โดยใช้เส้นทางกรุงพนมเปญ-ตราด-กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 11-21 สิงหาคม 2558 โดยจะเริ่มปั่นจักรยานจากกรุงพนมเปญไปยัง จ.ตราด ในระหว่างวันที่ 11-15 สิงหาคม 2558 และจะร่วมงาน Bike For Mom ของ จ.ตราด ในวันที่ 16 สิงหาคม 2558 จากนั้นจะปั่นจักรยานต่อจาก จ.ตราด ไปยังกรุงเทพฯ ในวันที่ 17-21 สิงหาคม 2558 เพื่อไปร่วมลงนามถวายพระพรสมเด็จพระบรมราชินีนาถที่โรงพยาบาลศิริราช http://www.komchadluek.net/detail/20150811/211383.html ........................................................................................ จะมีใครที่ไหนอีกบนโลกใบนี้ ที่มีเมตตากับประชาชนทุกหมู่เหล่าตลอดระยะเวลาหลายสิบปีแม้กระทั่งจนถึงวันนี้