http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/685696 'เจ๊เกียว'ขู่เลิกเดินรถ อ้างรัฐไม่ช่วย โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 04 กุมภาพันธ์ 2559, 17:48 โลว์คอสต์แข่งเดือดกระทบรถร่วม “เจ๊เกียว” ขู่เลิกวิ่งรถ เหตุรัฐไม่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย นางสุจินดา เชิดชัย หรือเจ๊เกียว นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารขนส่ง และเจ้าของกิจการอู่ต่อรถทัวร์ และบริษัทเดินรถ เชิดชัยจำกัด กล่าวหลังเข้ายื่นหนังสือต่อนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม วานนี้(4ก.พ.) เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ผ่อนผันการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเที่ยววิ่ง หรือค่าขา โดยให้มีการจัดเก็บตามจำนวนเที่ยววิ่งที่แท้จริง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้จำนวนเที่ยววิ่งจริงลดลงต่ำกว่าเที่ยววิ่งขั้นต่ำที่บริษัทได้ตกลงไว้กับ บขส. นอกจากนี้ ยังเสนอขอให้ บขส.ยกเว้นค่าปรับกรณีที่บริษัทไม่นำรถเข้ามาจดทะเบียน และเปิดวิ่งให้บริการในเส้นทางที่ขอเดินรถเพิ่ม สำหรับกรณีที่คณะกรรมการขนส่งทางบกกลางมีมติให้รถร่วม บขส. ปรับลดค่าโดยสารลงอีกกิโลเมตรละ 1 สตางค์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.นี้ เป็นต้นไป บริษัทก็พร้อมที่จะลดราคาเพราะเป็นคำสั่งตามกฎหมาย ซึ่งก็จะทำให้รายได้ของบริษัทซึ่งขาดทุนอยู่แล้วมีรายได้ลดลงไปอีก โดยปัจจัยหลักที่เข้ามาส่งผลต่อรายได้ของบริษัทคือ ปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว ประกอบกับผู้ประกอบการรถร่วม ประสบภาวะการแข่งขันจากสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) “เศรษฐกิจก็ไม่ดีสายการบินต้นทุนต่ำแย่งลูกค้าไป ทำให้ผู้โดยสารลดลงทุกเส้นทาง เที่ยววิ่งแต่ละวันก็ลดลงต่ำกว่าเที่ยววิ่งขั้นต่ำที่เราตกลงไว้กับบขส. แต่ บขส.ก็ยังเก็บค่าเที่ยววิ่งเท่าเดิมและยังต้องเสียค่าปรับกรณีที่ไม่นำรถมาวิ่งในเส้นที่เราขออนุญาตไว้ก่อนหน้านี้อีกด้วย ที่ผ่านมาเราขอความช่วยเหลือจาก บขส.มาเป็นปีแล้ว แต่ไม่มีใครช่วยเลย วันนี้จึงมาทวงถามอีกครั้งหากกระทรวง ไม่ช่วยบริษัทเชิดชัย ก็พร้อมที่จะยกเลิกวิ่งรถ หรือลาออกจากการวิ่งรถร่วมกับ บขส. เพราะขาดทุนต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว”นางสุจินดา กล่าว นายนพรัตน์ การุณยะวนิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหารการเดินรถ และรักษาการแทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่าบขส. ได้ดำเนินการออกระเบียบเพื่อผ่อนปรนการจัดเก็บค่าเที่ยววิ่งตามจริงไปตั้งแต่ปีก่อน เพื่อบรรเทาภาระความเดือดร้อนให้กับประชาชน และได้แจ้งเป็นหนังสือทางการให้ทุกบริษัทรับทราบ รวมถึงบริษัทเดินรถเชิดชัยด้วย ส่วนกรณีการขอยกเว้นค่าปรับเมื่อผู้ประกอบการไม่สามารถนำรถมาวิ่งตามเส้นทางที่ได้ขอเดินรถนั้น บขส. ไม่สามารถผ่อนผันหรือยกเว้นค่าปรับได้ เพราะเป็นค่าปรับที่เกิดขึ้นจากกรณีที่ผู้ประกอบการฝ่าฝืนกฎหมาย “หากผู้ประกอบการมายื่นขอไลเซ่นส์เดินรถไว้ กฎหมายกำหนดให้ต้องนำรถมาวิ่ง เพราะหากไม่วิ่งจะกระทบกับผู้โดยสารที่มารอใช้บริการ รวมทั้งยังเป็นการไปสกัดกั้นไม่ให้ผู้ประกอบการเดินรถรายอื่นเข้ามาแข่งขันเดินรถ ทำแบบนี้จึงถือว่าไม่แฟร์ เพราะเหมือนเป็นการกั๊กใบอนุญาตเดินรถไว้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมกฎหมายจึงกำหนดให้มีการปรับเป็นรายวันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีการนำรถมาวิ่ง ส่วนกรณีที่นางสุจินดา จะคืนใบอนุญาตเดินรถ ตามกฎหมายกำหนดผู้ประกอบการเดินรถสามารถบอกเลิกสัญญาเดินรถกับ บขส. ได้ โดยบขส.จะประกาศหาผู้ประกอบการเดินรถรายใหม่เข้ามาเดินรถแทน มั่นใจว่าจะสามารถบริหารจัดการหารถเข้ามาเสริม และให้บริการประชาชนได้ต่อเนื่องอย่างแน่นอน”นายนพรัตน์ กล่าว ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เกียวจัง เอาที่สบายใจ บางอย่างอะลุ้มอล่วยบ่อยๆ ก็ไม่ดี
ในเมื่อบขส.เขาหารายอื่นแทนได้ เจ๊ก็รีบขอบอกเลิกไปเหอะ รวยแล้วก็พักผ่อนใช้เงินซะบ้าง เดี๋ยวตายเสียก่อนยังไม่ทันได้ใช้เงิน ขืนทำต่อ ต้องทนหน้าด้าน ขอโน่นขอนี่ อายคนปล่าวๆ
เอาเปรียบคนอื่นไว้มาก พอถึงคราวตัวเองลำบากไม่มีคนเห็นใจ หวังว่าเจ๊เกียวจะถือเอากรณีนี้เป็นคติสอนใจ หรือคนอย่างเธอจะสายเกินแก้แล้ว?
เขาก็พูดเหมือนกันหมดว่า เจ๊เลิกเล๊ยย อย่าช้า แค่นี้เจ๊ก็น่ารู้ตัวแล้วนะครับ ว่าทำไมรถทัวร์เจ๊ถึงกำลังจะเจ๊ง เพราะภาพลักษณ์ของแบรนด์เชิดชัยของเจ๊ ติดลบในสายลูกค้าซะไม่มีดี แถมจะรีแบรนด์ดิ้งก็ยาก เพราะเจ๊ดันเอาตัวผูกกับแบรนด์ไปแล้ว ตัวเจ๊เองก็ติดลบพอๆกับแบรนด์เชิดชัยนั่นแหละ เจ๊ต้องไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ต้องรีแบรนด์ดิ้งเชิดชัยเสียใหม่ ถอดตัวเองออกจากการบริหาร เหลือแค่ถือหุ้นอย่างเดียว ไม่ออกสื่อไปผูกตัวเองกับแบรนด์ใหม่อีก ที่สำคัญปรับปรุงบริการ อย่าเรียกปรับปรุงเลย ต้องเรียกปฎิวัติดีกว่า และเปิดเซชั่นใหม่ๆในการทำธุรกิจ คนชอบนั่งรถตู้ เจ๊ก็ทำรถตู้แข่งเสีย โลกมันเปลี่ยนไปแล้วเจ๊ ไอ้ที่ทำอยู่มันไม่ช่วยธุรกิจของเจ๊หรอก ถ้าเจ๊ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ก็มีแต่วันรอเจ๊งนะ
หลังจาก นางสุจินดา เชิดชัย หรือ เจ๊เกียว เข้ายื่นหนังสือทวงถามถึงมาตรการความช่วยเหลือผู้ประกอบการรถทัวร์ต่อกระทรวงคมนาคม และไม่เห็นด้วยที่คณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง มีมติลดค่าโดยสารรถ บขส.และรถร่วม บขส. ลงกิโลเมตรละ 1 สตางค์ โดยให้กระทรวงคมนาคมจัดหาหน่วยงานมาวิเคราะห์ต้นทุนอีกครั้ง เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการนั้น นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า หลังจากได้รับข้อร้องเรียน ก็ได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบกไปหาแนวทางทบทวนผลการศึกษาโครงสร้างค่าโดยสาร และเห็นว่าค่าโดยสารจะต้องปรับตามราคาน้ำมันที่ลดลง ซี่งผลการศึกษาเดิม ระบุว่า ค่าโดยสารที่จะปรับลดลงนั้น อยู่ในอัตรากิโลเมตรละ 1-5 สตางค์ แต่ที่ประชุมมีมติให้ปรับลดเพียงกิโลเมตรละ 1 สตางค์ เนื่องจากจะเป็นธรรมกับทั้งผู้โดยสารและผู้ประกอบการมากที่สุด และขณะนี้กระทรวงคมนาคมก็ยังไม่มีนโยบายใดๆ ที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการรถทัวร์เพิ่มเติม เพราะการทำธุรกิจต้องปล่อยให้การแข่งขันเป็นไปตามกลไกตลาด ส่วนกรณีที่เจ๊เกียวจะคืนสัมปทานการเดินรถ หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล เนื่องจากแบกรับภาระขาดทุนไม่ไหวนั้นสามารถทำได้ และหากมีการติดต่อขอคืนสัมปทานการเดินรถ บขส.ก็มีอำนาจที่จะประกาศหาผู้รับสัมปทานรายใหม่ได้ทันที คาดว่าจะมีผู้ประกอบการอีกหลายรายที่สนใจเข้าให้บริการเดินรถในเส้นทางดังกล่าว