(ประยุทธ...) วันนี้เงินในประเทศที่หายไปเป็นจำนวนมากคือเงินในธุรกิจสีเทา พอรัฐบาลเข้ามาจัดระเบียบ การจ้างงานก็ลดลง การจับจ่ายใช้สอยก็ลดลง ....... (ทีมการเมือง.....) ต้องเปิดข้อมูลมุมใหม่ว่าด้วยธุรกิจสีเทามาเคลียร์เสียงโห่ฟอร์มการบริหารของรัฐบาลทหาร สะท้อนอาการ “จนแต้ม” เศรษฐกิจนับวันจะหนัก แก้ไม่ได้ง่ายๆ โดย ทีมข่าวการเมือง 24 มี.ค. 2558 05:01 ผมจำได้ว่านับแต่วันแรกๆหลังรัฐประหาร อาจจะยังไม่ทันตั้งรบ.ด้วยซ้ำ ผมก็เห็น ทีมการเมืองยกประเด็นเศรษฐกิจเป็นหลักมาตลอด แล้วทุกวันที่อ่านก็เจอทีมการเมืองตอกๆๆๆย้ำๆๆๆๆ อยู่แทบทุกวัน ก็พูดอยู่อย่างนั้นไม่ได้แสดงตัวเลข สถานะการเงิน การคลังการค้าใดๆ แต่จะเผลอหลุด อ้างเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชาวบ้านเดือดร้อนค่าครองชีพ จะทำ รบ.ไปไม่รอดบ่อยๆ ทั้งที่ก่อนรัฐประหาร ไม่เอามาพูด วันนี้ ประยุทธพูดเรื่องการจับจ่ายของชาวบ้าน ทีมการเมืองทำเป็นเฉไฉ ไปฟอร์มการบริหารไปนั่น ............. อั้นแน้ๆ ไม่พูดหน่อยรึ สีเทาหายไปอะ ทำเอาการจับจ่ายใช้สอย ลดลงยังไง มันเกี่ยวกับน้ำเลี้ยงครองชีพแค่ไหน รือไม่จริงไม่จริ๊งๆๆๆ
งง เลยนะ ถามผมนะ ว่าเงินหมุนเวียน ในประเทศ ตอนนี้ มาจากธุรกิจสีเทา จริงหรือเปล่า ผมว่า มันก็มาจาก เงินในระบบปกติ ที่ควบคุม โดยธนาคาร แห่งประเทศไทย อะล่ะ เพียงแต่ว่า คนขี้โกง เอามันไปเข้ากระเป๋า ตัวเอง แทนที่จะจ่ายออกมา กับการใช้งบพัฒนาประเทศ คือ พูดง่าย ๆ ถ้าคนขี้โกง ไม่เอาไปใช้ ราชการ ต้องเอามันไปใช้ ในการพัฒนาประเทศ อยู่ดี ผมไม่เห็นว่า มันจะต่างกัน ตรงไหน ใครจะเอาไปใช้ ต่างกันที่ ใครสมควร ได้ใช้ มากกว่า แต่ที่เศรษฐกิจ ฝืด ผมต้องยกความดี (หรือความเลว) ให้ ทฤษฎี สองสูง อะ ทำไมอะเหรอ ครับ คุณเล่น ให้ปัจจัยสี่ อย่าง อาหาร ที่อยู่อาศัย ยา (อาจเว้น ไว้คือ เครื่องนุ่งห่ม) แพงมาก แล้วผมถามว่า มนุษย์หน้าไหน มันจะมีเงินไปซื้อ ของอย่างอื่นกันครับ แล้วมันเกิดอะไรมากกว่านั้น รู้ไหม คนจะเก็บออมเงิน มากขึ้น เพราะกลัวว่า ค่าครองชีพจะสูงกว่า ณ วันนี้ แล้วคนมันต้องกินนะครับ เงินที่หาได้วันนี้ ถ้าไม่เก็บตอนนี้ อนาคตจะอดตาย วันไหน ไม่มีใครรู้ นี่ไง เหตุผล ที่ทำให้เศรษฐกิจฝืดเคือง คนไม่กล้าใช้ ต้องออม แล้วธุรกิจบางอย่าง ไม่ตายก็ร่อแร่ แล้ว คนในธุรกิจนั้น ๆ อย่าว่า แต่เอาเงินมาจับจ่ายเลย จะกินยังไม่มีด้วยซ้ำ ชัดยัง ทฤษฎี สองสูง แบบทำเหมือน ไม่รู้ว่า ผลมันจะออกแนวนี้ ได้ด้วย ไม่ใช่ เสี่ยนิน แกจะไม่รู้ หรือ คาดการณ์ไม่ได้นะครับ ที่พูดออกไปน่ะ แต่พูดไปแล้ว (แล้ว ผู้หญิงปัญญาน้อย อย่างน้องปูนา ก็ทำไปแล้ว) ตัวเองได้ประโยชน์ เต็ม ๆ กิจการของเสี่ยนิน คือ ธุรกิจอาหาร ใครได้ประโยชน์ครับ ถ้าไม่ใช่ เสี่ยนิน เฮ่อออ ปัญญาผมมีแค่นี้ ก็คิดออกแค่นี้ แต่จริง ๆ แล้ว เงื่อนไข ที่ ทฤษฎี สองสูง ยังไม่เวิร์ค มันมีอีกเยอะ ซึ่ง ทฤษฎี แบบนี้ ถ้าจะให้มันเวิร์ค ผมบอกได้แค่ว่า ผู้คนต้องมีความรับผิดชอบ มากกว่านี้ ไม่ใช่ เหมือนประเทศไทย ที่พอประกาศว่า จะขึ้นค่าแรงปุ๊บ (ยังไม่ขึ้นจริงนะ) อาหาร แล้วก็ ของในซุปเปอร์ ขึ้นไปรอดักแล้ว นี่ไง แต่ละคน คิดเอาตัวรอด กันก่อน ไม่สนใจหรอก คนอื่นจะเป็นไง ใช่ไหม แล้วรัฐบาลเคยนึกจะแก้ปัญหา แบบนี้ บ้างไหม ไม่เลย ตอนนั้น ท่องอย่างเดียว " ของแพง คิดไปเอง "
เมื่อวานผมบอกว่าทีมการเมืองเฉไฉไม่พูดถีงธุรกิจสีเทา วันนี้ทีมการเมืองก็เลยเอาซะหน่อย แต่ก็ยาวเกินคาด ..................................................................... ล้างสีเทาที่ทาบคลุมระบบสังคมไทยมานาน เบื้องต้นเลยโฟกัสไปที่มาตรการทางด้านภาษี แนวโน้มตามรูปการณ์แบบที่นายสมชัย ฤชุพันธ์ ประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้เชิญนายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เข้าร่วมชี้แจงต่อที่ประชุม เกี่ยวกับแนวทางการปฏิรูปโครงสร้างภาษีหลายด้าน โดยที่อธิบดีกรมสรรพากรก็แสดงท่าทีเห็นด้วยกับข้อเสนอในการกำหนดร่างรัฐธรรมนูญให้ทุกคนยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี และเห็นด้วยกับแนวทางการแยกฐานจัดเก็บภาษีในระดับชาติ และระดับท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จัดเก็บภาษีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไล่เบี้ยกันละเอียดยิบ เก็บทุกเม็ด ไม่ให้เล็ดลอดได้ มันยังสำคัญที่การไล่บี้ปมเลี่ยงภาษี จากเมื่อก่อนกรณีถ้ามีการเลี่ยงภาษีแล้วถูกจับได้ก็จะเป็นคดีทางแพ่ง สุดท้ายก็ให้ไกล่เกลี่ยระหว่างกรมสรรพากรกับเจ้าของธุรกิจ พบกันครึ่งทาง ยอมจ่ายในจำนวนที่รับได้ทั้งสองฝ่ายแล้วจบกันไป แต่กฎหมายตามมาตรการใหม่ที่กำลังจะออกมา นอกจากโดนปรับตามกฎหมายทางแพ่งแล้ว โทษฐานเลี่ยงภาษี ยังพ่วงคดีอาญา อัตราโทษถึงขั้นโดนจำคุก พวกธุรกิจที่อยู่ในข่ายขนลุกเลยก็แล้วกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องพึงระวังว่า เงินจาก “ธุรกิจสีเทา” มันอันตราย ยุคอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ที่ว่าห้าวเป้ง อาจหาญไปล้วงเอาเงินใต้ดินขึ้นบนดิน ท้ายที่สุดก็โดนเจ้ามือหวยใต้ดินลงขันขบวนการโค่นล้มรัฐบาลจนคว่ำไม่เป็นท่า ถ้าเข้าตาจนขึ้นมา รัฐบาลทหารก็ใช่จะปลอดภัย. ทีมข่าวการเมือง ปมร้อน "ธุรกิจสีเทา" โดย ทีมข่าวการเมือง 25 มี.ค. 2558 05:01 สุดท้ายก็ชักใบเฉไฉจนได้ แบบว่าอ่าน พารากราฟสุดท้ายก็พอ
ธุรกิจสีเทา เม็ดเงินไม่เข้ารัฐครับ แต่เม็ดเงินพวกนี้ มันหมุนเวียนให้ท้องถิ่น มันหมุนเวียนให้ธุระกิจบนดินอื่นๆที่เกียวข้อง หลายอย่างผูกโยงเป็นสิ่งที่สร้างแรงดึงดูดใจให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย
