เรื่องปัญหา"ผู้อพยพชาวโรฮิงญา" ใครต้องรับผิดชอบไม่รู้ แต่รู้สึกว่าบางฝ่ายกำลังสร้างประเด็นให้ดูเหมือนว่า รัฐบาลท่านนายกประยุทธ์ ปล่อยให้มีการค้ามนุษย์ รัฐบาลท่านนายกประยุทธ์ ไม่มีมนุษยธรรม ไม่ช่วยเหลือดูแลผู้อพยพ ผมเข้าใจในความรู้สึก สงสารในชะตากรรมของ "ผู้อพยพชาวโรฮิงญา" แต่ขอให้ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องอย่ารับภาระ รับเอา"ผู้อพยพชาวโรฮิงญา" มาเลี้ยงดูในค่ายอพยพเหมือนที่"จอม" มันกำลังสร้างกระแสเลยครับ
มาตั้งทำไมที่ประเทศไทย Unhcr เรื่องเก่ายังไม่ได้สะสางเลย เอาเรื่องเน่าๆมายัดเยียด ส่งกลับ ผลักดันให้ออกไป หรือให้พ่อเมกาเมรึงรับเลี้ยงไป
อยากรู้จริงๆ ถ้าเราทำการสอบถามแบบออกอากาศถ่ายทอดสด ถามว่าผู้อพยพรายบุคคลว่าต้องการไปอยู่ที่ไหนบ้าง ในบรรดาประเทศที่ร่ำรวยมีกำลังสามารถช่วยเหลือและดูแลเขาได้ แล้วก็จัดเรือและเครื่องบินพาไปส่งถึงประเทศนั้นแบบเคาะประตูบ้าน หากประเทศนั้นๆ ปฏิเสธไม่รับ ไม่ให้ผู้อพยพเข้าประเทศ ไทยหรือประเทศนั้น ใครจะโดน จอม และพวกมีมนุษยธรรมด่ากันนะ
เรื่องของเรื่อง คือ "ผู้อพยพชาวโรฮิงญา" เค้าหลบหนีความทารุณจากรัฐบาลพม่ากันเองนะครับ แต่เพราะไทยเป็นศูนย์กลาง"ค้ามนุษย์"ที่โหดร้ายทารุณ ดังนั้นจึงต้องประโคมข่าวให้ใหญ่โต
ถ้าจะให้ไทยตั้งค่ายก็กำหนดเวลาไว้เลยว่าแค่ 2 ปี ทำเป็นสนธิสัญญาแล้วให้ประเทศที่พล่ามสิทธิมนุษยชนทั้งหลายลงนามเป็นสัตยบรรณจะรับคนไปทั้งหมดภายใน 2 ปี โดยโอนค่าใช้จ่ายทุกบาททุกสตางค์ให้ไทย จากนั้นไอ้พวกที่เห่าเก่ง ๆ อย่าง เมกา เศษฝรั่ง ออสเตรเลียยยยย และนิวซีแลนด์ มาจับสลากว่าจะได้ผู้อพยพกลุ่มไหนไป โดยไทยจะจัดกลุ่มผู้อพยพแบบคละกันไปไม่แยกเพศ อายุ ทักษะฝีมือ เป็นกลุ่ม A B C D E ไม่ใช่ให้ไอ้พวกเศษฝรั่งมานั่งคัดเอา คนมีความรู้ มีทักษะ อยู่ในวัยทำงานไป แล้วทิ้งคนป่วย คนชรา หรือพวกไม่มีทักษะฝีมือไว้เป็นภาระให้ไทยเหมือนอย่างเดิม ๆ ข้อเสนอน่าสนใจ เอาผู้อพยพมา แล้วเอาขยะเรื้อนไปแทน พม่าอาจสนใจเอาไปทำปุ๋ยคอก ..... แต่ต้องย้ำพม่าไว้หน่อยว่าตอนทำปุ๋ยให้ใส่ยาฆ่าเชื้อเยอะหน่อย เพราะเชื้อเรื้อนเดรัจฉาน มันแรงอาจเป็นพิษกับการเกษตรได้
ผมหมายถึงบุคลากรต่างชาติที่หนีมาจากภัยสงครามครับ เช่น ที่เป็นเเพทย์ พวกคนเก่งๆโดน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เลือกไปหมด ส่วนที่เหลือ (ไม่มีคุณภาพ) อยู่ประเทศอะไร?
จำสมัยสงครามเวียตนามได้ เมกามันเลือกแต่ผู้ที่มีความรู้ ฐานะดี ไปหมด เหลือแต่กากให้ไทยเลี้ยงดู โดยที่ช่วงปีหลังสหประชาชาติ ก็ไม่สนับเงิน
ที่ตลกยิ่งกว่านั้นก็คือ ไอ้ประเทศที่พล่ามสิทธิมนุษยชนอย่าง เมกา เศษฝรั่ง ออสเตรเลียยยยย และนิวซีแลนด์ มันไม่ประณามพม่าที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการสังหาร ขับไล่ชาวโรฮิงญา เพราะไอ้พวกเศษฝรั่งนรกเหล่านี้ ล้วนจ้องทรัพยากรธรรมชาติของพม่าจนน้ำลายไหลไปตาม ๆ กัน แต่กลับมาเล่นงานไทยหาว่าเป็นแหล่งค้ามนุษย์แทน
บางทีก็เอาสิทธิมนุษยชนมาเล่นการเมืองนะ คนที่ซวยก็มีหลายฝ่าย คนที่มาต่อว่าเรื่องสิทธิมนุษยชน จริงใจกับปัญหาพวกนี้มากแค่ไหน ธงรบ, ทองกรอบ ฯลฯ แล้วแต่คนเรียก แกว่า ...
ไอ้ผู้ประสานงานชาวโรฮิยานี่ใครแต่งตั้งมันครับ แล้วมันมาซ่าอะไรในประเทศเรา มันควรจะไปจัดการในเขตของพม่าโน่น ไม่ใช่มาอาศัยบ้านเราหาแดรกแล้วยังเผือกประนามคนไทยในบ้านของเรา ขี้ขลาดไม่กล้ากลับบ้านแต่มาปากกล้าในพื้นที่ที่มันมาขออาศัย เอาคนของเมรึงออกไปให้หมด ถ้ายังไม่สำนึกบุญคุณแผ่นดินที่ให้ที่เมรึงยืน
ข่าวถึงแม้จะเก่าแต่ก็แสดงให้เห็นถึงธาตุแท้ของไอ้พวก"นักสิทธิมนุษยชน"ได้ดี ไม่มีประเทศที่สามต้องการได้ แต่พอไทยกักกันก็เรียกร้องให้ปล่อยตัว ปล่อยไปไหนล่ะครับ? โฆษกกต.เผยAFPยังไม่มีปท.ที่3รับโรฮิงยา 5 มิ.ย. 56 07.46 น. | เปิดอ่าน 99 | ความคิดเห็น 0 โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของไทย เผย ยังไม่สามารถหาประเทศที่ 3 เต็มใจรับผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงยา 2,000 คน จากพม่า ซึ่งถูกควบคุมตัวในไทยมาหลายเดือน นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของไทย เผย ยังไม่สามารถหาประเทศที่ 3 เต็มใจรับผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงยา 2,000 คน จากพม่า ซึ่งถูกควบคุมตัวในไทยมาหลายเดือน นายมนัสวี ศรีโสดาพล โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของไทย ให้สัมภาษณ์กับ สำนักข่าวเอเอฟพี ว่า ยังไม่มีประเทศที่ 3 ที่พร้อมจะรับผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงยาเข้าไปอาศัยในประเทศ เนื่องจากประเทศเหล่านั้นเกรงว่า หากรับคนกลุ่มหนึ่งแล้วก็จะมีอีกหลายหมื่น หรือหลายแสนคนตามมา โดยผู้ลี้ภัยหลายคนถูกควบคุมตัวในศูนย์กักกันผู้อพยพที่แออัดในไทยมาหลายเดือน ทำให้กลุ่มสิทธิออกมาเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ลี้ภัยเหล่านี้ และแสดงความกังวลเรื่องชายชาวโรฮิงยา ถูกแยกจากภรรยาและลูก ซึ่งถูกควบคุมตัวไว้ที่สถานพักพิงของชุมชนอีกแห่ง โดยไม่ได้รับอนุญาตให้ออกนอกศูนย์กักกัน นอกจากจะต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล นายมนัสวี กล่าวว่า รัฐบาลตระหนักถึงสภาพความเป็นอยู่ที่แออัดในศูนย์กักกัน และหน่วยงานของรัฐก็กำลังหารือกันเพื่อหาทางปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ในศูนย์ดังกล่าว ทั้งนี้ ไทยเคยระบุว่าจะอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยพำนักอยู่ในไทยเป็นเวลา 6 เดือน ระหว่างที่ทางการประสานกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ในการหาประเทศที่สามที่เต็มใจรับผู้ลี้ภัยเหล่านี้เข้าไปอาศัยในประเทศ แต่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของไทย กล่าวว่า ผู้ลี้ภัยอาจจะต้องอยู่ในไทยนานขึ้น พร้อมระบุว่า กรอบเวลาที่ประกาศไปก่อนหน้านี้เป็นเพียงการประเมินการณ์ UNร้องไทยเร่งสอบจนท.ไทยค้าชาวโรฮิงญา 7 ธ.ค. 56 07.33 น. | เปิดอ่าน 661 | ความคิดเห็น 1 ยูเอ็น เรียกร้องไทยเร่งสอบ เจ้าหน้าที่ไทย ขนชาวโรฮิงยาให้แก๊งค้ามนุษย์กลางทะเล นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com ยูเอ็น เรียกร้องไทยเร่งสอบ เจ้าหน้าที่ไทย ขนชาวโรฮิงยาให้แก๊งค้ามนุษย์กลางทะเล สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า โฆษกหน่วยงานด้านผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ เรียกร้องไทยสอบสวนโดยเร่งด่วน ถึงข้อกล่าวหาตามที่สำนักข่าวรอยเตอร์ส เผยเมื่อวันก่อนว่า เจ้าหน้าที่กองตรวจคนเข้าเมืองของไทย ได้ย้ายผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงยาส่งให้แก๊งค้ามนุษย์ที่รออยู่กลางทะเล ด้านกลุ่มตรวจสอบสิทธิมนุษยชน ฮิวแมน ไรท์ส วอทช์ เตือนว่า ถ้าไม่สอบสวน หรือจับผู้ก่อเหตุ ไทยอาจถูกลดสู่ระดับต่ำสุด หรือเทียร์ 3 ในรายงานเรื่องค้ามนุษย์ของสหรัฐที่จะแถลงช่วงเดือน มิ.ย. ปี 2557
อย่าไว้ใจUNHCRนะครับ สูตรสำเร็จของมันมีอยู่ว่า ใช้สังคมโลกและคำว่ามนุษยธรรมกดดันประเทศเป้าหมายให้เปิดศูนย์อพยพ จัดงบประมาณให้ใช้จ่ายการจัดตั้งศูนย์ฯ ค่าอาหารและการรักษาพยาบาลผู้อพยพโดยกำหนดช่วงเวลา คัดเลือกผู้อพยพจำนวนน้อยที่มีการวางตัวไว้แล้วไปประเทศที่สาม ทิ้งผู้อพยพส่วนใหญ่ไว้กับประเทศเจ้าของศูนย์ฯ หยุดงบฯช่วยเหลือดำเนินการศูนย์ฯ ใช้สังคมโลกกดดันประเทศเจ้าของศูนย์ต่อไปทั้งที่ตัดงบฯหมดหรือเกือบหมดแล้ว คนไทยส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าศูนย์อพยพหลายศูนย์ที่ไทยถูกบีบให้เปิดสมัยเวียดนาม ลาว เขมรถูกคอมมิวนิสท์ยึดครองสร้างภาระให้ไทยมากเพียงใด เวียดนามในศุนย์สีคิ้วถูกUNHCRลอยแพจนก่อเหตุวุ่นวายเผาศูนย์ฯมาแล้ว
จุ๊ ๆ ๆ อย่าทักดิ เพราะ UN เมกา ออสเตรเลียยยยย นิวซีเลียยยย อุตส่าห์ทำเงียบไว้ ไม่เอ่ยถึงพม่าสักคำ ... เพราะกำลังจ้องแบ่งเค้กทรัพยากรธรรมชาติของพม่ากันน้ำลายหก อยู่ โดยเฉพาะออสเตรเลียยยย นี่ตัวจัญไรในภูมิภาคแถบนี้เป็นอันดับต้น ๆ เลย โดนมาเลเซียโดดถีบหน้าไปหลายรอบแล้วโทษฐานที่เสือกยุ่งกับเรื่องภายในประเทศอื่นซ้ำซาก
เพื่อมนุษยธรรมน่าจะช่วยมากกว่านั่นครับ คือเอาเรือของเราช่วยลากเรือพวกนี้ไปส่งยังประเทศที่คุณธรรมสูงๆเหล่านั้นด้วย
ขนาดมาเลเซียยังไม่เอา http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000055057 ถ้ามาแล้วสบาย รอมาอีกเป็นแสน
ผมล่ะกลัวจริงๆเลยครับ กับปัญหาที่เราไม่ได้สร้าง เกาะของเราแต่ให้ผู้อื่นอยู่อาศัยโดยที่เราต้องเลี้ยงดู แล้วถ้าเกิดไม่มีที่ไป ประเทศที่สามไม่รับจะทำยังไง? เล็งใช้เกาะร้างระนองผุดศูนย์อพยพ รองรับโรฮีนจา-อุยกูร์ http://www.naewna.com/local/157974
อือมมม...ลุงตู่...ถามและตอบกลับนักข่าว ได้เข้าเป้า ตรงแสกหน้าดี... ***************************** ทหารปฏิรูปประเทศไทย บิ๊กตู่ ถามอะไร ?? นักข่าวเรื่องโรฮิงยา อึ้งทั้งแถบ นักข่าวถามบิ๊กตู่ นายกฯ และหัวหน้า คสช. เรื่องการหาสถานที่พักพิงชาวโรฮิงญาที่เข้ามาในไทย บิ๊กตู่ สวนกลับว่า "แถวบ้านมีที่มั้ยล่ะ คนไทยยังไม่มีที่จะอยู่เลย " แล้ว UN ให้เงินอุดหนุน/ช่วยเหลือด้วยรึเปล่า งบประมาณ เอาที่ไหน งบประมาณก็เอาภาษีของคนไทยไปดูแลเค้า แล้ว UN ให้ทั้งหมดไหมล่ะ ?? ----------------------------> เออ..จริง อันนี้ตอบเก๋มาก เพราะ UN นั้นจะช่วยเหลือผู้ลี้ภัยเฉพาะที่รวยๆ เช่น ขบวนการล้มเจ้า ที่มีความสามารถจ่ายหนักๆ ให้กับ UNHCR ชาวโรฮิงยา จนๆ UN เขาไม่แยแสในสายตาหรอก ขนาดผู้ยพยพชาวลิเบีย และแอฟริกา ไปยังยุโรป UN สายชาติตะวันตกยังจะออกมติ ให้ใช้อาวุธยิงถล่มเรือผู้ลี้ภัยได้ทันที ให้เรือจมลงไป อ้างว่าจะได้ไม่มีพาหนะขนกันมาอีก ดีที่รัสเซีย ที่เป็น UN สายตะวันออก คัดค้านไว้เพราะมันเกินกว่าเหตุ และเป็นการฆ่าคนที่ไร้มนุษยธรรม มติ UN ที่แปลกประหลาดนี้จึงตกไป..ที่เราเห็นภาพเปลือกนอก UN และชาติตะวันตก ผ่านสื่อยิวไซออนิสต์ใหญ่ๆ เช่น CNN , AFP , BBC ฯลฯ ที่ผ่านมานั้น ความจริงคือตรงกันข้ามนั้นทุกเรื่อง @ เสธ น้ำเงิน2 *****************************
ถ้ามันรู้ว่าเข้ามาอาจตาย หรือต้องจ่ายแพงกว่าที่อื่น ก็ให้มันเลือกเอา ควรจะไปที่ไหน เห็นว่าขุดศพเจอเยอะ เออ ทีี่ผ่านมาใครทำไว้ เข้าใจคิดจังนะ แล้วพวกค้ามนุษย์นะ เปลี่ยนวิธีคิดเฮอะ ลองดูประเทศใหญ่ๆรวยๆซะมั่ง เค้าทำกันยังไง
จากข่าว พวกสิทธิมนุษยชน สหประชาชาติ อยากยกปัญหาผู้อพยพโรฯ มาเป็นเรื่องเร่งด่วน เพราะหากคอยให้ถึงวาระคงอีกนาน เลยร่วมกันเรียกร้องให้อเมริกาเป็นเจ้าภาพ แต่มันก็พูดกลางๆว่ามันสมควรจะเป็นเจ้าภาพการประชุมจริงๆ (แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ นะ)
สงสารชนชาตินี้นะครับ แต่เราให้อยู่ด้วยไม่ได้ เพราะประชากรเราเองใช่ว่าจะอยู่ดีกินดีกันทั้งหมด ประเทศต้นเรื่องอย่างอังกฤษควรต้องรับผิดชอบ
พม่าเค้าออกมาบอกแล้วว่า ปัญหาไม่ได้เกิดจากเค้า เข้าใจตรงกันแล้วนะ ถถถถถถถถถถถถถถ ************************************** ข่าว 7 สี - รัฐบาลพม่าปฎิเสธเข้าร่วม ประชุมแก้ปัญหาโรฮีนจาในประเทศไทย ชี้ไทยต้องการเบี่ยงเบนประเด็นปัญหาการค้ามนุษย์ของตนเอง รายงานข่าวต่างประเทศ ที่อ้างคำกล่าวของโฆษกประธานาธิบดี เต็งเส่ง ของเมียนมา ระบุว่า ทางการเมียนมาจะไม่ส่งตัวแทนเข้าร่วมการประชุมวิกฤตผู้อพยพระดับภูมิภาค ในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ ที่ประเทศไทย เพราะเห็นว่าไทยต้องการใช้เวทีนี้ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของนานาชาติ จากปัญหาการค้ามนุษย์ ที่ถูกต่างชาติกดดัน พร้อมชี้ว่าปัญหาผู้อพยพไม่ใช่ปัญหาของเมียนมา แต่เป็นเพราะความอ่อนแอของการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทย นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องให้ประเทศในตะวันออกเฉียงใต้ เปิดพรมแดนและท่าเรือ เพื่อช่วยผู้อพยพชาวโรฮีนจา และเคารพข้อห้ามระหว่างประเทศ ว่าด้วยการขับไล่ผู้อพยพ ส่วนกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องให้ประเทศในภูมิภาคนี้ ช่วยชีวิตผู้อพยพที่ถูกปล่อยทิ้งกลางทะเล โดย องค์กรสิทธิมนุษยชนหรือฮิวแมนไรท์วอทช์เรียกสถานการณ์ในขณะนี้ว่าเกม "ปิงปองมนุษย์" นายแพทย์นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เรียกร้องให้รัฐบาลตั้งที่พักชั่วคราวโดยหาสถานที่เหมาะสมเพื่อเป็นที่พักพิงของกลุ่มคนเหล่านี้พร้อมประสานองค์กรต่างๆทั้งในและต่างประเทศระดมความคิดหาแนวทางช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรมทั้งนี้ยังระบุว่ารัฐบาลต้องเร่งสอบสวนเอาผิดขบวนการค้ามนุษย์ หลังพบว่ามีข้าราชการ นักการเมืองท้องถิ่น และผู้มีอิทธิพล เข้าไปเกี่ยวข้อง ล่าสุด หลังทราบข่าวทางการเมียนมา ประกาศไม่เข้าร่วมการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาชาวโรฮีนจาที่ไทยเป็นเจ้าภาพ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีระบุเป็นสิทธิของเมียนมา แต่องค์กรระหว่างประเทศที่กดดันไทยให้รับผิดชอบแก้ปัญหาเรื่องนี้ ต้องไปคุยกับเมียนมา ซึ่งเป็นประเทศต้นทางของปัญหาที่เกิดขึ้น
ใครพูดถึงอเมริกานะ... http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000055650 เผยสหรัฐฯต่อสายตรงขอไทยตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวโรฮีนจา รอยเตอร์ - กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเผยในวันศุกร์(15พ.ค.) นายจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงต่อสายถึงรัฐมนตรีต่างประเทศของไทย เพื่อหาถึงความเป็นไปได้ในการตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวแก่ชาวมุสลิมโรฮีนจาที่ลอยลำอยู่กลางทะเล ขณะที่อเมริกาแสวงหาหนทางแก้ไขวิกฤต ซึ่งเกี่ยวข้องผู้อพยพที่ตกค้างหลายพันคน "ท่านรัฐมนตรีต่างประเทศได้โทรศัพท์ถึงรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยในคืนวันพฤหัสบดี เพื่อหารือถึงสถานการณ์ผู้อพยพในทะเลอันดามัน และพูดคุยถึงความเป็นไปได้ที่ไทยจะจัดหาที่พักพิงชั่วคราวแก่พวกเขา" เจฟฟ์ รัทเค โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯกล่าวระหว่างแถลงสรุป ชาวมุสลิมโรฮีนจาหลายพันคนที่หลบหนีมาจากพม่าและบังกลาเทศ ติดค้างอยู่บนเรือหลายลำกลางทะเล เนื่องจากรัฐบาลชาติต่างๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่ยอมให้พวกเขาขึ้นฝั่ง และรัฐบาลไทยดำเนินการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์อย่างเข้มข้น โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเผยว่าตลอดทั้งสัปดาห์ มีผู้อพยพขึ้นฝั่งมาเลเซียและอินโดนีเซียเกือบ 3,000 คน และกำลังได้รับความช่วยเหลือ พร้อมระบุเหล่าเอกอัครราชทูตอเมริกาในภูมิภาคกำลังประสานงานอย่างคร่ำเคร่งกับรัฐบาลอาเซียนเพื่อตอบสนองด้านมนุษยธรรมให้รวดเร็วยิ่งขึ้น "เราร้องเรียกรัฐบาลชาติต่างๆในภูมิภาคร่วมมือกันโดยเร็ว สิ่งแรกและเป็นสิ่งสำคัญที่สุดคือการปกป้องชีวิตผู้อพยพที่อยู่กลางทะเล ซึ่งต้องการความช่วยเหลือในทันที" รัทเคกล่าว "และเราเรียกร้องรัฐบาลชาติต่างๆในภูมิภาค ระงับการผลักดันเรือลำใหม่ๆที่กำลังเดินทางมาถึง"
อเมริกาก็ให้งบมาสิ เรื่องอะไรให้เรารับผิดชอบคนเดียว ถ้าเราต้องไปดูแลคนพวกนี้โดยที่ประชาชนของเรายังลำบากกันอยู่แบบนี้ มันต้องเจียดงบประมาณที่มีน้อยอยู่มาเนี่ย ไม่ไหวหรอก
(ภาพ: REUTERS)http://www.thairath.co.th/content/498636 กลุ่มชาติสหภาพยุโรป (อียู) สมาชิก 28 ประเทศ มีกำหนดการประชุมสุดยอดผู้นำระหว่างวันที่ 25-26 มิ.ย. ว่าด้วยการแก้ปัญหาเรื่องผู้อพยพจากแอฟริกาและตะวันออกกลาง หลั่งไหลข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเข้าสู่ยุโรปกลายเป็นปัญหาใหญ่เรื้อรัง โดยมุ่งให้แต่ละประเทศสมาชิกช่วยกันแบ่งเบาภาระรับผิดชอบดูแลผู้อพยพ แต่หลายประเทศสมาชิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอังกฤษ ไอร์แลนด์ และเดนมาร์ก ปฏิเสธยอมรับดูแลรับผิดชอบผู้ลี้ภัยอย่างสิ้นเชิง ส่งผลให้การประชุมครั้งนี้อาจเกิดความขัดแย้งรุนแรง คณะกรรมการยุโรปแถลงระบุรัฐบาลอังกฤษและไอร์แลนด์ อ้างขอใช้ “สิทธิทางเลือก” ภายใต้ข้อตกลงอียู ซึ่งหมายความว่าอังกฤษและไอร์แลนด์จะตัดสินใจเองว่าจะยอมดำเนินการตามนโยบายของสหภาพยุโรปหรือไม่ ส่วนรัฐบาลเดนมาร์กยืนยันชัดเจนขอไม่เข้าร่วมดำเนินการใดๆ ทั้งหมด โฆษกกระทรวงมหาดไทยอังกฤษแถลงระบุรัฐบาลอังกฤษห่วงกังวลถึงปัญหาเรื่องอาชญากรรม และการค้ามนุษย์ โดยจะให้ความสำคัญต่อการบังคับใช้กฎหมายและเพิ่มความร่วมมือกับประเทศต้นทางของผู้อพยพ ตลอดจนให้ส่งกลับผู้อพยพสู่ประเทศต้นทาง ทั้งนี้ หากทั้ง 3 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปยึดแนวทางดังกล่าวก็จะเหลือเพียง 25 ประเทศ ที่พร้อมยอมรับการตัดสินใจตามนโยบายของสหภาพยุโรป ด้านรัฐบาลฮังการี หนึ่งในประเทศที่ต้องแบกรับผู้อพยพมากที่สุดชาติหนึ่งของยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ลี้ภัยสงครามจากโคโซโว ทั้งยังมีผู้อพยพจากซีเรีย อิรักและอัฟกานิสถานด้วย ระบุการปล่อยให้แต่ละประเทศต้องรับผู้อพยพกันเองถือว่าไม่ยุติธรรม ขณะที่ปัญหาเรื่องต่อต้านพลเมืองผู้อพยพในแต่ละประเทศทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) เรียกร้องถึงสหภาพยุโรปให้ยอมรับผู้ลี้ภัยจากซีเรียเฉลี่ยปีละ 20,000 คน แต่สหภาพยุโรปยังดำเนินการดังกล่าวไม่ได้ ขณะเดียวกัน ทั้งอิตาลี กรีซ และไซปรัส สมาชิกสหภาพยุโรปต่างต้องรับผิดชอบแบกรับผู้อพยพลี้ภัยจำนวนมากหลั่งไหลข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จากแอฟริกาและตะวันออกกลางอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปี ได้พยายามเรียกร้องถึงสหภาพยุโรปให้ช่วยแบ่งเบาภาระ ทั้งนี้ ข้อมูลสหภาพยุโรประบุเฉพาะปีที่แล้วมีผู้อพยพเข้ายุโรปมากกว่า 185,000 คน เพิ่มจากปี 2556 มากเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์.
ดูช่องเนชั่น นักข่าวเนชั่น ดราม่า เห็นโรฮิงญาแล้วน้ำตาไหลเลย อีกรายการในเนชั่น เชิญใครไม่รู้มาออกรายการ ก็บอกว่าให้รับโรฮิงญาไว้ ถือเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ถามว่าปัญหาที่จะเกิดในอนาคต พวกท่านรับผิดชอบไหวมั้ย พวกโลกสวย ดีแต่สร้างปัญหา แต่ไม่มีปัญญาแก้ปัญหา
พวกนี้พูดเพื่อให้ตัวเองดูดี คนที่ออกไปพูดตรงๆว่าอย่ารับเลยก็โดนหาว่าเป็นพวกใจดำซะงั้น เมื่อวานแถวบ้านมีมุสลิมเดินขบวนให้รับโรฮิยา...
เห็นด้วยอย่างยิ่งกับบล๊อกเกอร์ท่านนี้ "...ผมเขียนเรื่องนี้...เพราะ กรณี เรื่อง แคมป์อพยพ ที่อเมริกาฝากมาให้นายกไทยคิด ดูเหมือนมันมีนัยยะแห่งการวิเคราะห์ที่มุ่งตรงไปยังเรื่องของ "เกมการเมือง" ของเขามาเป็นอันดับแรก แต่สิ่งที่ไทยคิดกลับเป็นเรื่อง "ความมั่นคง" มากกว่าเรื่องไหน โรฮิงญา กับประเทศไทย ในสถานการณ์โลกวันนี้ แตกต่างจากกรณีการอพยพลี้ภัยในอดีตที่ผ่านมา แม้นจะมีลักษณะใกล้เคียงคือ เป็นการอพยพเพื่อหนีภัยคล้ายกัน แต่กรณีเหตุที่มาแตกต่างกันมากนัก สงครามที่เกิดในประเทศต่าง ๆ ส่วนใหญ่เป็นสงครามเพื่อแย่งชิงอำนาจ ..ผลของสงครามจากการรบราฆ่าฟันก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน ตั้งแต่ร้ายแรงสุดคือ เสียชีวิตจากภัยสงครามนั้นหรืออย่างเบาก็คือ บ้านเมืองชอกช้ำหมดสภาพจะอยู่จะทำมาหากิน! การทิ้งถิ่นส่วนใหญ่คือการทิ้งไป เพื่อเป้าหมายจะกลับมาในวันหนึ่งข้างหน้า ดังนั้น ...ผู้อพยพหนีสงครามที่แตกกระสานซ่านเซ็นหนีภัยในยังประเทศอื่น เมื่อครบกำหนดจบเกมอำนาจ ประชาชนก็กลับบ้าน เพราะทุกฝ่ายเลิกรบ..และทุกคนก็รู้ว่า ประชาชนเหล่านั้นคือพลเมืองของเขาเอง โรฮิงญา กลับต่างกับกรณีดังกล่าวอย่างน่าเศร้า เพราะกลายเป็น คนที่ชาติทั้งหลายไม่เอา...และไม่อยากหาเหามาใส่หัว! เพราะเมื่อเป้าของการอพยพคือการ "ไปอยู่" กับ กรณี "ขออยู่(ชั่วคราว)" ต่างกัน จึงเป็นเรื่องสำคัญทีแต่ละประเทศต้องคิดหนัก เพราะถ้า 1 หมื่นอยู่ได้...อีก 1 แสน ก็อาจจะมา และถ้า 1 แสนมีที่พึ่งพา อีกหลายแสนก็มีสิทธิที่จะมาอีกมิใช่หรือ!??" http://www.oknation.net/blog/alive/2015/05/16/entry-1
ประเทศที่ต้องโดนกดดันให้ความเสมอภาคกับโรฮิงญา คือพม่า แต่กลับไม่มีประเทศไหน กล้าไปยุ่งกับพม่า เราได้แต่เทิดทูนความจอมปลอม ของซูจี ว่ามีจิตวิญญาณประชาธิปไตย แต่จริงๆ แล้ว ซูจี กลับเป็นคนไร้มนุษยธรรม ต้นสายปลายเหตุ ทำไมโรฮิงญาถึงได้หนีออกจากประเทศพม่า ถิ่นกำเนิดของพวกเขา ถ้า UNHCR และ HRW มันคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนจริง ทำไมไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือพวกโรฮิงญาที่พม่า แต่กลับโยนภาระหน้าที่นี้ให้กับประเทศไทย ที่เป็นทางผ่านของโรฮิงญา