จริงครับ อูถิ่นจอ กะ ซูจี เป็นได้แค่หุ่นเชิดเมกา มันไม่ได้ประชาธิปไตยอะไรหรอก ซูจีมีแต่ภาพ(สร้าง) แต่ภาวะผู้นำไม่มี ปกครองประเทศได้ไม่เกิน ๕ -๑๐ ปี รับรอง ประเทศแตกเป็น ๓ เสี่ยงแน่นอน อันเนื่องมาจากสนธิสัญญาปางหลวงที่ทุกชนเผ่า ในพม่าทำไว้กับอังกฤษก่อนได้รับเอกราช ทางหนึ่งกะเหรี่ยงเขาก็อยากได้เอกราช อีกทางก็มอญอิสระก็อยากปกครองตนเอง ที่สำคัญไทใหญ่ที่มีกองกำลังเป็นแสนนี่ ถึงขั้นอยากเป็นประเทศของเขาเอง ซึ่งคนอย่างเจ้ายอดศึกคนไม่มีเส้นสายอย่างอเมริกา หรือยูเอ็นสนับสนุน แต่ใครจะรู้บ้างคนๆนี้ มีภาวะความเป็นผู้นำสูงส่งกว่าอองซาน หลายเท่าตัวนัก ที่สำคัญ คนๆนี้ รักและเคารพในหลวงของเราเป็นที่สุด เชื่อว่าคนๆนี้ จะนำพาชนเผ่าไทใหญ่ให้เจริญรุ่งเรืองเช่นในอดีตได้ และผมเชื่อว่าประเทศนี้จะเป็น มิตรประเทศที่ดีต่อไทยแน่นอน I้เจ๋งถ้าไม่รู้จริง อย่าเสือกอวดฉลาด จริงไหมหนูอ้อย
ถ้าถามว่าทำไมอองซานถึงได้รับความนิยมจากประชาชนจำนวนมากมายมหาศาล ส่วนหนึ่งก็มาจากการครองอำนาจอันยาว นานของทหารนี่แหละครับ เป็นธรรมดาที่ใครก็ต้องรู้สึกอึดอัดเมื่อเศรษฐกิจแย่ ขาดอิสรภาพทางการพูดและความคิด สนธิสัญญาปางหลวงเองก็เปรียบเสมือนระเบิดเวลาของพม่า แน่นอนว่าทันทีที่ถิ่นจอเหยียบเข้าทำงานภายใต้การคุมบังเหียน ของซูจี บรรดารัฐต่าง ๆ ในพม่า ต่างก็ต้องพุ่งตรงมาที่อองซานและถิ่นจอ ในเรื่องการขอแยกตนเป็นอิสระ ซึ่งจุดนี้เอง อาจทำให้การบริหารบ้านเมืองเป็นไปอย่างตะกุกตะกัก ก็อยู่ที่ว่าอองซานและถิ่นจอจะสามารถแก้ไขปัญหาปากท้องของชาว พม่าได้มากน้อยแค่ไหน แต่ก็อีกนั่นแหละบรรดาผู้นำรัฐอิสระต่าง ๆ ในพม่าจะยอมกันหรือเปล่า เมื่อไม่ยอม ซูจีเองก็ต้องโดน บีบจากทุกทิศทุกทาง ทำให้ซูจีเองก็ต้องใช้กำลังด้านการทหาร แต่ถ้าถามใจทหารว่าเขาจะฟังคำสั่งผู้นำที่เป็นพลเรือนอย่าง เต็มกำลังไหม ก็น่าจะไม่ เพราะพม่าอยู่ใต้การบังคับบัญชาของผู้นำที่เป็นทหารมายาวนานหลายสิบปี ซึ่งเหตุนี้เองทหาร ส่วนกลางก็อาจจะเกียร์ว่าง ดริฟท์ถอยห่างจากซูจีไปเรื่อย ๆ ส่วนผู้นำรัฐชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในพม่าก็บีบรัฐบาลพลเรือนเข้ามา เรื่อย ๆ จนซูจีอาจจะคุมสถานการณ์ไว้ไม่อยู่ แล้วหลังจากนั้น ก็จะมีพระเอกขี่ม้าขาว เข้ามาคืนความสุขให้ชาวพม่า อีกครั้งหนึ่ง แล้วก็ทำการปราบปรามกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ แบบอาจจะถอนรากถอนโคน
พอมีอเมริกาเข้ามาเกี่ยว ก็จะน่าไปถึงลามไปถึงตะวันออกกลาง เที่ยวเรื่อง IS ที่ซีเรีย ข้ามตรุกี แล้วบินเลยไปเรื่องไคเมียร์ที่ยูเครนจากนั้นวกเข้าเยอรมันเรื่องผู้อพยพ สุดท้ายแพรวาก็น่าจะอังกฤษโดยสวัสดิภาพครับ
อธิบดีคุมประพฤติ ยอมรับ "แพรวา" ผิดเงื่อนไขคุมประพฤติไม่ทำงานบริการสังคม เมื่อชี้แจงกลับแจ้งผู้ตรวจการแผ่นดินว่าถูกเจ้าหน้าที่ข่มขู่ โดยศาลเตรียมนัดให้ทั้ง 2 ฝ่าย เข้ารับฟังการไต่สวน 21 มิถุนายนนี้ จากกระแสข่าวที่ว่า นางสาวแพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ขณะเกิดเหตุเป็นเยาวชนขับรถยนต์ฮอนด้าซีวิคเฉี่ยวชนรถตู้โดยสารสายธรรม ศาสตร์ ศูนย์รังสิต-หมอชิต บนทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ เป็นเหตุให้คนขับรถตู้และผู้โดยสารเสียชีวิตรวม 9 รายเมื่อปี 2553 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี แต่ให้รอลงอาญา 4 ปี และเพิ่มเวลาบำเพ็ญประโยชน์เป็นปีละ 48 ชั่วโมง รวม 4 ปี พร้อมทั้งห้ามขับรถจนอายุ 25 ปีนั้น พันตำรวจเอกณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ ยอมรับว่า จากการตรวจสอบพบว่านางสาวแพรวายังไม่เคยไปทำงานบริการสังคมตามเงื่อนไข ของกรมคุมประพฤติ แต่อย่างใด ทั้งที่ตามกฎหมายอาญามาตรา56 ระบุว่า หลังศาลมีคำสั่งให้คุมประพฤติ ทั้งนางสาวแพรวาและกรมคุมประพฤติต้องตกลงกันว่า จะให้ผู้ถูกคุมประพฤติไปทำงานบริการสังคมที่ใด แต่จากการตรวจสอบพบว่า นางสาวแพรวา ไม่ปฎิบัติตามเงื่อนไข แต่นำเอกสารมายื่นแสดงว่าไปทำงานบริการสังคม ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎโดยอ้างว่า กลัวอันตราย ซึ่งตามขั้นตอนจะต้องแจ้งกรมคุมประพฤติก่อน เมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งให้รับทราบถึงขั้นตอนที่ถูกต้อง ทางครอบครัวนางสาวแพรวา ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักผู้ตรวจการแผ่นดินว่า ถูกเจ้าหน้าที่กรมคุมประพฤติข่มขู่ อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยว่าได้รายให้ศาลรับทราบแล้ว กรณีที่นางสาวแพรวาไม่ดำเนินการตามเงื่อนไข ซึ่งศาลจะต้องมีคำสั่งไต่สวนและมีคำวินิจฉัย ซึ่งศาลได้นัดให้ทั้ง2 ฝ่ายเข้ารับฟังในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ ซึ่งกรณีของ นางสาวแพรวา ถือว่าที่ผ่านมา ศาลได้เมตตาสูงสุดเพราะผู้ต้องหาเป็นเยาวชน ให้โอกาสแก้ไขความผิด ได้เรียนหนังสือและกลับมาทำงานรับใช้สังคม แต่ปรากฎว่าก็ไม่ปฎิบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น การปล่อยปละละเลยจะทำให้ดูเหมือนกฎหมายเลือกปฎิบัติ คนจนต้องก้มหน้ารับกรรมทำตามเงื่อนไข แต่ถ้าเป็นคนรวยแล้วทำอะไรก็ได้ ทั้งๆที่หากทำตามเงื่อนไข อยากบริการสังคมที่โรงพยาบาลเอกชนก็ได้ โดยแจ้งมาที่กรมคุมประพฤติรับทราบ
ที่ขุดแพรวานี่กะกลบข่าวเบนซ์ซิ่งป่าวไอ้ไข่กลวง เหมือนที่รื้อโน่นนี่นั้นมากลบข่าวของเจ้านายควายและครอบครัวของเอ็งน่ะ ถ้าเจตนาบริสุทธิ์ที่จะขุด อันนั้นผมไม่ว่า แต่เอ็งไม่เคยมีเจตนาบริสุทธิ์อยู่แล้ว สันดานมันคงเปลี่ยนไม่ได้จริงๆ สินะ
เชื่อดิ เดี๋ยวกลวงก็จะวกกลับพร้อมสรุปสุดท้ายว่า เป็นเพราะรัฐบาลเผด็จการ โค่นล้มแม่งปูกะพ่องแม้ว บิดาแห่งประชาทืบตาย ทำให้เกิดปัญหาของแพรวา 5555 กรูเห็นคนรวยๆเค้าก็ใข้อำนาจใช้อภิสิทธิ์กันทั้งนั้น ลูกชายพ่องมรึงที่แอบลอกข้อสอบนะก็ใช่ ลูกสาวพ่องมึงที่ได้เห็นข้อสอบก่อนเข้าหมาลัยก็ใช่ ใช้สิทธิ์นายกให้เมียไปประมูลซื้อที่แข่งกะชาวบ้านก็ใช่ ก็เห็นหลุดรอดมาเกือบทุกคดี อย่าหน้าด้านไปเที่ยวด่าคนอื่นเขาเลย ด่าพ่องมึงก่อนเถอะ ไอ้ตั้วเฮียอะ
มันยากตรงไหนกะอีแค่บำเพ็ญประโยชน์ 48 ชั่วโมงบางคนทำทั้งชีวิตเขายังไม่บ่นเลย พูดตรง ๆ เขาไม่ได้ต้องการให้คนอย่างคุณเธอว์มาช่วยงานเขาหรอกนะ เพราะคนที่เขาทำหน้าที่ตรงนี้อยู่แล้ว ไม่มีเมิงน่ะเขาไม่ตายหรอก แต่เขาจะให้เมิงรู้ไงว่า เวลาขับรถนะอย่าประมาท ทุกเสี้ยววินาทีคือทรัพย์สิน คือชีวิตทั้งนั้น เขาให้เมิงไปดูแววตา ไปสัมผัสกับสภาพความเจ็บปวด ความทุกข์ทรมานที่พวกเขาได้รับ ไปจับมือ ไปพูดคุย เชื่อเหอะคุณอาจจะเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยก็ได้ แต่การเฉยเมยอย่างนี้น่าจะเปลี่ยนจากบำเพ็ญประโยชน์สังคมเป็นติดคุกไปเลย เพิกเฉยคำสั่งศาล บางคนขับสิบล้อชนคนตาย แต่ไม่มีตังค์ญาติพี่น้องผู้ตายเอาเรื่องก็ต้องเอาเข้าคุกไปตามระเบียบ ส่วนพ่อกับแม่ก็อย่าให้ท้ายลูกนักเลย เกิดเหตุการณ์แล้วให้ลูกไปรับผิดชอบ ของอย่างนี้มันผิดพลาดกันได้เพราะมันคืออุบัติเหตุ แต่ไม่ใช่ ว่าเกิดเรื่องแล้วไม่รับผิดชอบอะไรเลย การทำอย่างนี้มันคงไม่เสียศักดิ์ศรีอะไรมากมายหรอก
บอกตามตรง มันอาจฟังดูดี หากคนที่พูดมีความจริงจังมากกว่านี้ คนกลางชอบเสียดสีสมาชิกคนอื่นในเชิงไร้คุณธรรมหรือไม่เห็นค่าของคนจน เอาเข้าจริงที่ฟังมาตลอด คนกลางเองซะมากกว่าที่ดูถูก เห็นคนอื่นไม่มีค่า ไม่มีความรู้อะไรจริงจังเกี่ยวกับวิถีชีวิตคนอื่นเลย ไม่ว่ารวยหรือจน มีแต่ประเภทคนเล่าว่าเขาเล่าลือ ไม่ก็แต่งเองซะเลย (เว้นแต่แกล้งโง่หรือพูดเพ้อเจ้อเอาความคะนองเข้าว่า)
โหนเด็ก โหนคนตาย มาด่าคนที่ตัวเองเกลียด แบบไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกันเลย ไม่รู้สึกขยะแขยงตัวเองเหรอครับ
เออเนอะ คดีแพรวา ก็ลากมาเข้าบอร์ดการเมืองได้ ต่อไป ช่างกลตีกัน แม้ค้าเอาทุเรียนตบหน้าดารา เด็กเอากันในโรงเรียน คงเอามาโยงกะการเมือง ใส่ส่เขียว สีฟ้า สีเหลืองเข้าไป ง่ายดี เอาๆ จะได้รู้เช่นเห็นชาติกันไป เป็นเสื้อแดง เอ๊ญ เสื้อด่าง เอ๊ย เสื้อกลาง เอ๊ย คนกลาง มันต้องแบบนี้สิวะ
วัฒนธรรม สังคม เศรษฐกิจ ศาสนา มีเรื่องไหนบ้างที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง เหมือนที่นายกพูดแหละครับ คนยิ่งใหญ่ยิ่งมีอำนาจ ยิ่งต้องทำตัวให้เล็กลง แต่ความรับผิดชอบต้องมากขึ้น การบำเพ็ญประโยชน์ สงวนไว้เป็นหน้าที่เฉพาะประชาชนทั่วไปหรือดาราที่ทำผิดบนท้องถนนอย่างเดียวหรือ คุณไม่มีใบขับขี่ คุณทำผิดกฎหมายตั้งแต่สตาร์ทกุญแจเหยียบคันเร่งออกจากบ้านแล้วรึเปล่า ไม่มีใครหรอกที่เลี้ยงดูลูกมาจนโต ส่งเสียเล่าเรียนมา ใครก็หวังว่าให้ลูกป้อนข้าวยามเจ็บป่วยกันทั้งนั้น มีใครคนไหนบ้างที่เลี้ยงลูกมาทั้งชีวิตแล้วทนได้กับการเห็นสายน้ำเกลือของลูกตัวเอง แทนที่วันนี้น้องคนนี้จะได้พ้นมนทินเรียนอย่างมีความสุข มีอนาคต มีชีวิตที่ดี แต่ก็ต้องกลับมาเหมือน อยู่ขุมนรกอีกครั้งหนึ่ง เพียงเพราะความเฉยเมย ความไม่ดูแลเอาใจใส่ของผู้เป็นพ่อ เป็นแม่รึเปล่า
เผยคำสั่งฟ้องทายาทกระทิงแดงขับรถชนคนตาย ข้อหาขับรถเร็วเกินกว่ากำหนด หมดอายุความไปแล้ว เผยคำสั่งฟ้องคดีทายาทกระทิงแดงขับรถชนตำรวจตาย ในข้อหาขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ได้สิ้นสุดเมื่อวันที่ 3 ก.ย.56 เนื่องจากมีอายุความ 1 ปี จึงเหลือ 2 ข้อหา คือขับรถประมาทฯ และข้อหาไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือฯ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนาวิชาการเรื่อง "ปัญหาการทุจริตในภาครัฐ" ในวันนี้ ถึงคดีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา อายุ 31 ปี ทายาทธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อดัง ที่ขับรถเฟอร์รารี่พุ่งชนดาบตำรวจ สายตรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต บริเวณ ถ.สุขุมวิท 47 กลางดึก 3 ก.ย.55 โดยกล่าวว่า คดีนี้ฝ่ายผู้ต้องหาได้ยื่นร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาด้วยและยังมีประเด็นที่ยังไม่ชัดเจนอยู่บ้าง ดังนั้นก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เมื่อประเด็นไหนที่ยังไม่ชัดเจน อัยการก็ต้องทำให้ชัดเจน โดยคดีขณะนี้กำลังดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมอยู่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีของนายวรยุทธนั้น ก่อนหน้านี้ อัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ ผู้รับผิดชอบสำนวน ได้มีคำสั่งฟ้องนายวรยุทธ 3 ข้อหา ฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและทำให้ทรัพย์สินเสียหาย , ข้อหาไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ถูกชน และข้อหาขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ตามสำนวนการสอบสวน แต่ขณะนี้ ข้อหาขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ได้สิ้นสุด เมื่อวันที่ 3 ก.ย.56 เนื่องจากมีอายุความ 1 ปี จึงเหลือ 2 ข้อหา ที่รอพิจารณาคือขับรถประมาทฯ และข้อหาไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือฯ http://www.nationtv.tv/main/content/crime/378494607/ "รอง ผอ.รพ.พระมงกุฎ" การันตี "แพรวา" มาช่วยงานจริง 21 มี.ค. 59 - รอง ผอ.รพ.พระมงกุฎ การันตี แพรวา มาช่วยงานจริง งง!กรมควบคุมประพฤติ ส่ง จนท.มาดูแต่กลับพูดอีกอย่าง เผยไม่ทราบมีญาติเป็นอดีตนายทหารผู้ใหญ่ ยันรพ. เป็นชื่อพระนาม ไม่กล้าทำให้เสื่อมเสีย เผยมีหลักฐานภาพถ่ายตัดเล็บคนไข้ พร้อมเช็คภาพวงจรปิดย้อนหลัง เผยทำหนังสือแจง ผบ.ทบ. ผบ.ทบ.พ.อ.พีรพล ปกป้อง รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กล่างถึง กรณีที่พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ ออกมาเปิดเผยว่า น.ส.แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตเยาวชนที่ขับรถฮอนด้าซีวิค เฉี่ยวชนรถตู้โดยสารสายธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต-หมอชิต บนทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ เป็นเหตุให้คนขับรถตู้และผู้โดยสารเสียชีวิตรวม 9 ราย เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2553 และศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษา โดยยืนโทษจำคุก 2 ปี แต่แก้โทษให้เพิ่มเวลารอลงอาญาจาก 3 ปี เป็น 4 ปี เพิ่มเวลาบำเพ็ญประโยชน์เป็นปีละ 48 ชั่วโมง รวม 4 ปี และห้ามขับรถจนอายุ 25 ปี เมื่อปี 2557 ไม่เคยไปทำงานบริการสังคมตามเงื่อนไขของกรมคุมประพฤติ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ว่า ในฐานะตนเป็นประธานคณะกรรมการ กำกับการดูแลการขอเข้ามาปฏิบัติบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ของ น.ส.แพรวา เข้าใจว่า ทางกรมควบคุมประพฤติ ไม่ได้ระบุว่า น.ส.แพรวา ไม่ได้มาช่วย เพียงแต่เขาอาจจะไม่รับรอง พ.อ.พีรพล กล่าวว่า น.ส.แพรวา ได้ขอเข้ามาปฏิบัติสาธารณประโยชน์ 138 ชม. ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค.- 12 กพ. เราก็เห็นว่าเป็นไปตามคำสั่งศาล และถือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ทางราชการด้วยกัน คิดว่าจะทำให้ จึงมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแล โดยมี ตนเป็นประธาน และมีเงื่อนไขอีกว่าขอให้ดูแลคนป่วยที่เป็นเหยื่อจากการจราจร รวมถึงทหารที่ได้รับอุบัติเหตุจากรถยนต์ และเป็นอัมพาต มาให้เขาดูแล และในระหว่างที่ น.ส.แพรวา ปฏิบัติหน้าที่มีการจดเวลาเข้าออกการทำงาน มีรายงาน มีผู้ควบคุมการปฏิบัติงาน นอกเหนือจากนั้นในวันที่ 27 ม.ค. มีเจ้าหน้าที่จากพนักงานควบคุมประพฤติจาก จ.นนทบุรี เข้ามาดูแลการปฏิบัติงานของ น.ส.แพรวา และมาพูดคุยกับตน และตนก็รายงานตามวาจาให้ทราบและพาไปพบ น.ส.แพรวา ที่กำลังปฏิบัติงาน และไม่มีการทักท้วงว่าอีกฝ่ายทำผิดหรืออะไร ซึ่งเราก็บอกไปว่า เราจัดให้ น.ส.แพรวา บำเพ็ญประโยชน์ให้แบบนี้ เขาก็รับทราบและก็กลับไป และหลังจากที่ น.ส.แพรวา ปฏิบัติงานครบ ทางโรงพยาบาลก็ออกใบรับรองว่าเขาได้ปฏิบัติงานครบแล้วตามนี้จริง "น.ส.แพรวา ได้ปฏิบัติงานทั้งเดือน ตั้งแต่ 11 ม.ค.-12 ก.พ. วันเสาร์-อาทิตย์ก็มาตามที่เขาสะดวก โดยปฏิบัติงานตั้งแต่ 09.00 น.-15.00 น. ยืนยันว่าปฏิบัติงานตามนั้นจริง อย่างไรก็ตามหลังที่ อธิบดีกรมควบคุมพิเศษ ได้ออกมาเปิดเผยว่า น.ส.แพรวา ไม่ได้มาปฏิบัติงานจริงนั้น เบื้องต้นยังไม่ได้มีการพูดคุยกับ อธิบดีกรมควบคุมพิเศษ หาก อธิบดีพูดว่า เราไม่ถูกต้อง ในฐานะที่ รพ.พระมงกุฎ ไม่ได้อยู่ในเขต จ.นนทบุรี เราก็ยอมรับ เพราะเราไม่ทราบ เพราะเป็นรายละเอียดของข้อกฎหมาย แต่เราได้เอื้อประโยชน์ให้ทางราชการไป โดยให้ น.ส.แพรวาเข้ามาปฏิบัติงาน และถ้าหากใช้ไม่ได้ ก็ให้อธิบดี บอกให้ น.ส.แพรวา ไปหาโรงพยาบาลใน จ.นนทบุรี ก็จบ อย่างไรก็ตาม เรายืนยันว่าข้อเท็จจริงเป็นแบบนั้น และไม่อยากให้เป็นเรื่องระหว่างหน่วยงานราชการ" พ.อ.พีรพล กล่าว เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า ทางโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มีการเอื้อประโยชน์และช่วยเหลือให้ น.ส.แพรวา เพราะมีญาติเป็นอดีตนายทหารระดับสูงของกองทัพบก พ.อ.พีรพล กล่าว่า ตนไม่ทราบว่า น.ส.แพรวา มีญาติเคยเป็นอดีตนายทหารที่ไหน เพราะในตอนนั้น ตนเป็นรอง ผอ.รพ.พระมงกุฎเกล้า ก็ต้องเป็นประธานในการจัดการบำเพ็ญประโยชน์ของ น.ส.แพรวา ทั้งนี้ โรงบาลพระมงกุฎ มีผู้ที่เข้ามาบำเพ็ญจิตกุศลจำนวนมาก และเรามีเหยื่อจากการประสบอุบัติเหตุมากพอสมควร "สถาบันเราก็ค่อนข้างใหญ่ ชื่อโรงพยาบาลก็เป็นพระนามพระมงกุฎเกล้า เราไม่เอาชื่อพระนามมาทำให้โรงพยาบาลเสื่อมเสีย ด้วยการรับรอง น.ส.แพรวา โดยที่เขาไม่ได้ปฏิบัติงานจริงๆ เรายืนยันว่า น.ส.แพรวา มาปฏิบัติงานจริงๆ แต่เราแปลกใจเพราะมี คุณฉันท์ชนก เจียมเจริญ พนักงานควบคุมประพฤติ จ.นนทบุรี เข้ามาดูการปฏิบัติงานของคุณฯ แพรวา เมื่อวันที่ 27 ม.ค. และไม่ได้ทักท้วงอะไร ว่าโรงพยาบาลไม่สามารถดำเนินการได้ รพ.แปลกใจมาก ที่อธิบดีควบคุมกรมประพฤติมาพูดแบบนั้น ถ้าบอกว่า เราทำไม่ได้เนื่องจาก รพ.ไม่ได้อยู่ในเขตนนทบุรี ก็จบ เพราะเราไม่รู้กฎหมาย" พ.อ.พีรพล กล่าว พ.อ.พีรพล กล่าวยืนยันอีกว่า เรามีผู้ป่วยที่ได้รับการดูแลจาก น.ส.แพรวา สามารถยืนยันได้ ซึ่งคนไข้ก็ไม่ทราบว่า คนที่ดูแลเขาเป็น น.ส.แพรวา แต่เราเอารูปของ น.ส.แพรวา มาให้ คนไข้ดู และคนไข้บอกเป็นคนนี้ที่ดูแลเขา เพราฉะนั้นเขาทำจริง แต่เรามีการจัดสถานที่ไว้ให้ปฏิบัติงาน เพราะห่วงว่า ถ้ามีคนรู้ว่า น.ส.แพรวา มาคงไม่ได้ปฏิบัติงาน อย่างไรก็ตามขณะนี้กำลังให้เจ้าหน้าที่ค้นภาพวงจรปิดว่ามีหรือไม่ เพราะส่วนใหญ่จะมี "ไม่ได้พูดปกป้อง น.ส.แพรวา ซึ่งทาง รพ.ก็งานเยอะมากแล้ว พอมาเจอปัญหานี้ ก็รู้สึกแย่ แต่ศาลจะสั่งอย่างไรก็ได้ ให้เขาไปทำที่ไหนเพิ่มเติมอีกเราไม่ว่า แต่เขามาทำที่ รพ.จริง และได้มอบหมายให้ น.ส.แพรวา ดูแลคนไข้ข้างเตียง ช่วยคนไข้เคลื่อนไหว และมีรูป ในขณะที่ น.ส.แพรวา กำลังตัดเล็บให้คนไข้ ช่วยคนไข้ไปทำกายภาพบำบัด เป็นเพื่อนพูดคุย ทางโรงพยาบาลก็แปลกใจ ว่าเราทำตามขั้นตอน มีเจ้าหน้าที่กรมควบคุมประพฤติมาดู แต่ทำไมเป็นเช่นนี้ ยืนยันว่าการดำเนินการดังกล่าวของโรงพยาบาลสามารถตรวจสอบได้ เพราะเราเป็นสถาบันใหญ่ การที่เราไปทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง ไม่ได้แน่นอน" พ.อ.พีรพล กล่าว พ.อ.พีรพล กล่าวว่า ล่าสุด ได้ทำหนังสือรายงานเรื่องดังกล่าวไปยัง พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก เพื่อชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตลอดจนถึงผู้บังคับบัญชาระดับชั้น พร้อมทั้งระบุว่า หากต้องการเข้ามาตรวจสอบการปฏิบัติงาน ยินดีให้ตรวจสอบ เพราะมีตัวตนทั้งหมด ทั้งคนไข้ และเจ้าหน้าที่ที่ดูแล http://www.nationtv.tv/main/content/crime/378494627/
อธิบดีกรมคุมประพฤติตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีที่เจ้าหน้าที่ปล่อยให้เยาวชนหญิงเลื่อนการทำงานบริการสังคม ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุกรมคุมประฤติมีหน้าที่ควบคุมความประพฤติของเยาวชนหญิงตามคำสั่งศาล
มันจะเป็นเรื่องใหญ่รึเปล่า ชนชั้นลากหญ้าเริ่มตระหนักถึงความไม่ยุติธรรม ความเหลื่อมล้ำ จับอาวุธอย่าง AK ขึ้นสู้
There are over 550 million firearms in worldwide circulation. That's one firearm for every twelve people on the planet. The only question is: How do we arm the other 11? ทั้งโลกนี้มีอาวุธปืน 550 ล้านกระบอกกระจายอยู๋ในประชาชนทั่วโลก ซึ่งหมายถึง...