เลือกตั้งเมื่อไหร่ ก็เลือกพรรคเดิมอีก ดูแล้วเป็นงั้นแน่นอน แม้เค้าจะยอมลุงตู่ แต่ก็เพื่อยุติความขัดแย้งไม่ให้บานปลายเป็นสงครามกลางเมือง ที่คนอีสานเองก็ไม่ต้องการเช่นกัน ก็แค่นั้น แม้จะพอเข้าใจเลาๆ ว่าทักษิณมันโกงจริง หาใช่กลั่นแกล้ง แต่แนวคิดโกงแล้วแบ่งยังคงได้รับความเชื่อถืออยู่อีกมากที่นี่ แม้พอเข้าใจเลาๆ ว่าจำนำข้าวมีปัญหา แต่หลายคนยังโลกสวยว่าพรรคที่เค้าชอบจะแก้ปัญหาได้ เลิกโกง พูดง่ายคือเอาจำนำข้าวกลับมาก็เลือกว่างั้นเหอะ แต่ที่พวกเค้าเข้าใจไม่หมด คือทำไมคนภาคอื่น ถึงต้องประท้วงไม่พอใจ ขับไล่รัฐบาล คิดว่าแค่เรื่องโกงเท่านั้นหรอ? พวกเค้าส่วนใหญ่ไม่เข้าใจเลย ถึงการใช้อำนาจทางประชาธิปไตยของตัวเอง กระทบคนภาคอื่นอย่างไร ? หลักนิยมในการใช้ประชาธิปไตย ในเลือกนักการเมืองที่นี่ คือเลือกใครก็ตามที่เอาความเจริญมาให้ โดยแทบไม่สนใจว่า ตัวแทนตัวเองทำอะไรไว้บ้าง เอาเปรียบหรือโกงคนอื่นอย่างไร บางคนมองว่าสูบเงินมาจากส่วนกลางมาให้พื้นที่ตัวเองเยอะๆ ยิ่งดี ผิดตรงไหน? ทัศนคติ ส่วนกลางพูดให้แรงๆเลย คือกรุงเทพ เอาเปรียบ เอาเงินพวกเค้าไป มีเกลื่อน เลือกคนของตัวเองเพื่อไปงบมาให้พื้นที่ ไม่ต้องมายุ่ง ไม่ต้องตรวจสอบ จะเอาอะไรก็ได้ง่ายๆ เค้าชอบแบบนี้กัน ส่วนเรื่องการปฎิรูปดูแล้วจะไม่เข้าใจอะไรเลย ว่าปฎิรูปไปทำไม ทำไปเพื่ออะไร?.....กันทักษิณใช่มั๊ย?? ส่วนใหญ่เชื่อตามคำพรรคเพื่อไทยหมด นายกต้องเป็น สส. สว. ต้องมาจากการเลือกตั้งทั้งหมดถึง จะเป็นประชาธิปไตย ไม่มีรูปแบบอื่นอีก ไม่รู้นึกภาพระบบใหม่ไม่ออก หรือเชื่อตามคำของพรรคเพื่อไทยจริงๆ คณะปฎิรูปทั้งหลาย อย่าโลกสวย คิดว่าประชาชนไม่ต่อต้าน แสดงว่าเข้าใจได้ง่ายๆเลย ประชาธิปไตยแม้วๆ เป็นความเชื่ออันสวยงามของคนที่นี่ไปแล้วล่ะ โจทย์ที่สำคัญ คือ ถ้าคนอีสาน คนเหนือ คนรากหญ้าจำนวนมาก ยังคงเป็นแบบนี้ และเชื่อแบบนี้ จะทำยังไง ประเทศไทยจึงจะไปรอด ทำอย่างไร? คนภาคอื่นถึงจะเดือดร้อนน้อยที่สุด ทำอย่างไร? คนดีๆที่มีสักยภาพ จะอยู่เพื่อเป็นกำลังให้ประเทศชาติได้ ทำอย่างไรจึงจะรักษา สิ่งสำคัญของไทย ไว้ให้สืบทอดไปหาลูกหลานได้ ผมคิดว่า เป็นสิ่งสำคัญมากกว่า แค่การเปลี่ยนสัดส่วน สส. ที่มาของ สว. เปลี่ยนวิธีเลือกตั้ง อะไรที่ทำอยู่เนี่ย ไม่พอหรอก ปล. แต่สัดส่วนคนอีสาน ที่มีแนวคิดเป็นผู้เป็นคนก็เยอะขึ้นนะ แต่มันไม่พอ ต่อการเปลี่ยนแปลง (ประมาณก็เมื่อก่อน 70% ขึ้นเลือกเพื่อไทย มาเป็น ห้าสิบเปอร์เซ็นกว่าๆ เกือบหกสิบ มันก็ชนะ กินเรียบอยู่ดีนั่นล่ะ ไอ้ที่บอกในโพลว่ายังไม่ตัดสินใจ น่ะ โม้ เพื่อไทยมาแน่นอน)
เครือข่ายหัวคะแนน อิทธิพล ยังควบคุมอีสานที่มีจำนวน สส สูงสุดอยู่ ทลายลงยากมาก ผมยังเชื่อว่าต้องตีไปที่เมียเก่า ลูก น้องสาว เอาให้ตายหรือให้หยุด อีกกลุ่มก็แก๊งค์คนตุลา กลุ่มนี้ต้องเอาให้ตาย เพราะมันไม่เคยหยุดและไม่คิดจะหยุด
ของจขกท.นั้นเป็นปัญหาด้านความรู้สึกนึกคิด ซึ่งก็เป็นปัญหาใหญ่ที่แก้ยาก แต่ยังมีอีกปัญหาที่ใหญ่เหมือนกัน และลามไปทั่วประเทศแล้ว ปัญหานั้นคือ การซื้อสิทธิ์-ขายเสียง ถ้ายังแก้จุดนี้ไม่ได้ โอกาสได้คนดีเข้าไปบริหารประเทศ คงยากเหมือนกัน
ปัญหาบ้านเรามันหมักหมมมานานมากๆ ในทุกๆเรื่องจนจับประเด็นมาแก้ไขกันไม่ถูกเลย จำเป็นต้องใช้เวลาครับ คิดว่าไม่ใช่แค่คนอิสานหรอกครับ ในทุกๆที่ ที่มีปัญหาความยากจนเรื่องการซื้อเสียง ขายเสียงและนำไปสู่การทุจริต คอร์รัปชั่นยังมีอยู่ทุกที่ หากจะแก้ไขให้ได้ผล(บ้าง) ต้องใช้เวลาอีกหลายปี
คิดเหมือนท่าน จขกท. ครับ แต่ไม่มีปัญญาเสนอหนทางแก้ไขเหมือนกัน ไอ้เหลี่ยมมันกลัวตายคงไม่กล้ากลับมาหรอก แต่มันคงจับขี้ข้ามานั่งเป็นหุ่นแล้วเชิดเล่นไปเรื่อยๆเหมือนเดิม
ไม่มีทางตาสว่างหรอกครับ การศึกษาก็ไม่ช่วยอะไรด้วย มันอยู่ที่จิตสำนึกล้วนๆ เลย เอแบคทำโพลเรื่องนิสัยคนไทยได้ตรงที่สุด ตรงที่คนไทยขาดจริยธรรมซะส่วนใหญ่ โกงไม่เป็นไร แบ่งผลประโยชน์มาบ้าง นี่แหละเรื่องจริงเลย
สิ่งที่ผมกลัว จนต้องมาบ่นในกระทู้นี้ หลังจากไปเซอร์เวย์แนวคิดของตนอีสานมาได้พักใหญ่ คือ พรรคเพื่อไทย จะใช้กลยุทธ ให้คนอีสานโหวตไม่รับร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ด้วยเหตุผลว่าเคยรับไปแล้ว แล้วประเทศชาติไม่ดีขึ้น แย่ลง ไม่ควรยอมรับอีก กลับไปใช้ปี 40 แม้ว่าในสายตาคนที่อื่นๆ จะมองว่าเป็นรัฐธรรมนูญเทพ แค่ไหนก็ตาม ถ้ารัฐประสบความล้มเหลวในการสื่อสารกับประชาชน ภาคอีสานถึงข้อดีของรัฐธรรมนูญใหม่ล่ะก็ แย่แน่ๆ ซึ่งผมก็ว่ายาก เพราะมันคือความเชื่อ ฝังไปแล้ว
ดังนั้นจึงไม่ควรหวังว่าคนจะมีเหตุผลขึ้นตราบใดที่ผีปอบยังมีอยู่ สิ่งที่ควรทำคือระบบตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ กระบวนการยุติธรรมเร็วพอที่จะไม่ให้คนโกงแก่ตายก่อน
ครอบครัวผมที่อีสานก็ไม่เอาพรรคเผาไทยนะครับ ผมเองอยู่มาครึ่งชีวิตก็ไม่เคยเลือกพรรคนี้ ผมคิดว่ายังมีคนไม่เอาพรรคนี้อีกพอสมควรครับ
พออ่านความเห็นของเพื่อนสมาชิก เเล้วนึกถึงเหตุการณ์เผาศาลากลางจังหวัด เเกนนําปลุกระดมคนอิสานว่าฝ่ายที่เเพ้คือ รัฐบาลอภิสิทธิจะต้องจ่ายค่าเสียหายทั้งหมด ปลุกระดมคนอิสานให้เผา ทำลายสถานที่ราชการเเล้วสุดท้ายเเกนนำก็ทิ้งคดีให้คนเหล่านั้นรับผิดชอบกันเอง ผมเนี้ยขำทั้งนํ้าตา T _ T เมื่อทราบคำพิพากษาของศาล
ผมอาจเห็นต่างบางเรื่องนะ ผมเขื่อว่าการศึกษามันช่วยได้ดีทีเดียว เพราะการศึกษาที่ดีที่ถูกต้องมันสามารถกล่อมเกลาจิตสำนึกดีๆได้ ส่วนตัวผมปัญหาพื้นฐานที่ต้องแก้ไขเลยเหมือนที่ท่านกล่าวคือพื้นฐานความเป็นคนไทย คือ ขี้เกียจ ไม่รับผิดชอบและอดทน ทำให้ไม่ไผ่รู้ ไม่ขยัน ชอบหาอะไรง่ายๆ เชื่ออะไรง่ายๆ รักสบาย สามารรถสยบต่อความโลภความชั่วเพียงเพื่อความสบายไม่ลำบาก สิ่งเหล่านี้จะเห็นได้ว่า 1 การศึกษาที่เรามีไม่ได้ตอบสนองต่อการขัดเกลานิสัยเหล่านี้ให้หมดไป คุณภาพของผู้สอนที่ย่ำแย่ลงไปเรื่อยๆ ซึ่งต้องแก้ไขเรื่องเหล่านี้ ไอ้ประเภทเอาเด็กเป็นจุดศูนย์กลาง เอาครูเป็นจุดศูนย์กลาง เอาสังคมเป็นจุดศูนย์กลางอะไรก็แล้วแต่ ถ้ามันแก้ไขไม่ได้ มันก็ไม่ใช่ ต้องเปลี่ยน เน้นเป้าหมายและผลลัพธ์ อย่าเน้นวิธีการ 2 ระบบยุติธรรมทั้งระบบไม่ได้ตอบสนองต่อการขัดเกลาและเกรงกลัวต่อการทำผิด ทั้งล่าช้า อืดอาด คนติดคุกก็ติดไปไม่ปรับปรุงคุณภาพหรืออบรมบ่มนิสัยให้ระลึกผิด สามารถออกมาสู่สังคมแบบที่มีคุณภาพไม่เป็นอันตรายต่อสังคม อีกทั้งสังคมเองก็ไม่ได้สร้างโอกาสพอ กลายเป็นติดตุกแล้วออกมาก็กลับไปติดคุกอีก คดีความล่าช้าเอาคนผิดมาลงโทษไม่ได้ นักการเมืองผิด นักธุรกิจผิดล้มบนฟูกล้วนแล้วแต่ฝังเงินซุกเงินโอนเงิน หนีหายไปเสวยสุขต่างประเทศรอเวลาหมดอายุความ บางทีติดคุกก็เหมือนไม่ติดคุก ไปดูกำนันเป๊าะสิ และไอ้รอลงอาญานี่ผมขอเถอะ ศรีธนนชัย สุดๆ 3 ตำรวจ อัยการและศาล บางทีก็เช้าชามเย็นชาม กฏหมายมีอำนาจมีแต่ไม่ลงมือทำเพื่อป้องกันปราบปราม กลัวอิทธิพล กลัวกลางเมือง กลัวโดนปลดโดนย้าย หรือมีวลีคลาสสิค คนมีเงินไม่ติดคุก เอาไปคิดกันเอง ผมว่าปฏิรูปแค่การศึกษาให้แก้ปัญหาพื้นฐานความเป็นคนไทยได้และปฏิรูประบบยุติธรรมที่ยุติธรรม รวดเร็ว ทำได้จริง กฏหมายเป็นกฏหมาย คนทำผิดโดนลงโทษ แค่นี้ก็พอแล้วครับ ที่เหลือมันปลายเหตุ ต้องทำให้คนมีความเกรงกลัว เอาง่ายๆพวกโรบินฮู๊ดไปญี่ปุ่น อเมริกา เขาเกรงกลัวกฏหมาย ก็อยู่กันเป็นคนดีได้ แม้บางคนลึกๆออกเป็นคนเลว แต่ก็ไม่เห็นซ่าบ้าบิ่น กลัวมีปัญหาโดนจับกลับไทยทั้งนั้น
การเลือก สส ของคนอิสาน น่าจะเกิดจากความผูกพันธ์ตัวบุคคลมากกว่า เพราะในแต่ละวัน ชาวบ้านส่วนใหญ่เขาต้องทำมาหากิน ไม่มาคิดเรื่องการเมือง เรื่องประชาธิปไตย อย่างที่คนบางพวกบางกลุ่มพยายามชี้นำ และแอบอ้างหรอก เขามองว่าเขาพึ่งใครได้เขาก็เลือกคนนั้น ซึ่งมันเป็นปกติของสังคมในระบบอุปถัมภ์ เขาเลือก สส คนนี้ สังกัดพรรคนี้ เมื่อเราไปถามเขาว่าเลือกพรรคไหน เขาก็บอกว่าเลือกพรรคนี้ จะมองว่าเขาไม่รับรู้เรื่องทุจริต หรือเห็นดีเห็นงามกับการทุจริต คงพูดได้ไม่เต็มปาก เพราะคนที่เขาเลือกไม่ได้โดนข้อหาทุจริต เพียงแต่ไปอยู่ในพรรคที่มีคนทุจริตเท่านั้น เขาเลือกเพราะเขามองว่า สส คนนี้พึ่งได้ พึ่งได้อย่างไร ต้องไปฟังที่สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ชี้แจงในสภา ฯ กรณีถูกถอดถอน การพึ่งได้ของเขามันผูกปีพึ่ง ไม่ใช่มาซื้อเสียงตอนเลือกตั้ง เพราะมันล้าสมัยไปแล้ว เสี่ยงต่อการติดคุก และอาจไม่คุ้มถ้าคู่แข่งชนะ สู้วิธีซื้อกันแบบผูกปีซื้อกันเลยดีกว่า ใช้ทั้งเงินทั้งอิทธิพลช่วยชาวบ้านตลอดปี มันผูกใจชาวบ้านได้แน่นอนกว่า เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมบางพรรคต้องจ่ายเงินเดือนให้ สส ในสังกัดเป็นแสน หรือบางพรรคให้เป็นเงินก้อน เขาจ่ายเพื่อให้เอาไปซื้อใจประชาชนนั่นแหละ ไม่ต้องไปทุ่มซื้อตอนเลือกตั้ง ทำให้พรรคที่ยังงมโข่งอยู่กับคำว่า ซื้อเสียงคืนหมาหอน ก็ผูกปีแพ้ไปอย่างช่วยไม่ได้ การซื้อเสียงโดยวิธีนี้ มันทำให้ สส กับ พรรค ผูกพันกันอีรุงตุงนังไปหมด เพราะ สส ก็ต้องพึ่งเงินจากพรรค พรรคก็ต้องพึ่ง สส ในพื้นที่ ส่วนเงินที่จะเอามาจ่ายมันก็ไม่พ้นจากการทุจริตคดโกงมานั่นแหละ และลามปามไปถึงข้าราชการที่อยากได้ใครดีต้องการให้การเมืองสนับสนุน ก็ต้องไปหาเงินมาส่งส่วย ธุรกิจผิดกฎหมายทั้งหลายแหล่อยากเปิดกิจการโดยไม่ถูกรบกวน ก็ต้องส่งส่วย เงินเหล่านี้ไม่ได้เอาไปไหน ก็เอาไปซื้อใจประชาชนครึ่งหนึ่ง เข้ากระเป๋าครึ่งหนึ่ง แก้ไขได้หรือไม่ คงแก้ไขยาก เพราะคนร่างรัฐธรรมนูญยังเถียงกันหน้าดำหน้าแดงว่านายก สว ควรมาจากการเลือกตั้งหรือไม่ ไม่ได้สนใจเลยว่า สมศักดิ์ ชี้แจง สนช ว่าอย่างไร จึงถอดถอนไม่ได้ เขาร่างรัฐธรรมนูญโดยไม่สนใจว่า ทำไมพรรคการเมืองต้องจ่ายเงินเดือนให้ สส แล้วเอาเงินจากไหนมาจ่ายมากมายขนาดนั้น แบบนี้ประชาชนคงไม่ได้ถูกปืนกดอยู่หรอก แต่ถูกอะไรกดอยู่ คงต้องหาคำตอบกันเอาเอง
แก้ได้ครับ ปัญหาคือระบบเคลือข่ายหัวคะแนนระบบพรรคการเมือง ก็แก้ตรงนี้ ปล่อยให้สมัคร สส ได้โดยไม่สังกัดพรรค จะมีคนอีกกลุ่มมาให้เป็นตัวเลือก แถวทำให้การซื้อเสียงยากขึ้นด้วย (คนอีสานชอบคนดีครับ แต่คนดีไม่มีโอกาสมาให้เขาเลือก เมื่อไม่มีคนดีมาให้เลือก(คนดีในแบบของเขานะครับ) ก็เลือกพวกพ้อง) พวกนักการเมืองไม่เอากันซักคน....
คนบางกลุ่มพร้อมที่จะทำอะไรก็ได้สำหรับคนที่ทำให้เขาเชื่อว่าช่วยพวกเขาได้ คนกลุ่มนี้น่าเห็นใจ เพราะในช่วงเวลาที่ผ่านมาเหตุการณ์ต่าง ๆ ก็ชี้ชัดในตัวอยู่แล้ว แต่หลงที่จะหล่อเลี้ยงความเชื่อของตนด้วยความเกลียดชังโดยไม่สนใจว่ามันทำลายแผ่นดินเกิดตน
เห็นด้วยครับ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้เข้าไปร่วมวิ่งมินิมาราธอน กับ สถานศึกษาเก่า หลังวิ่ง จะมีการ เลี้ยงอาหาร ซึ่งขยะจะเยอะ พอสมควร การเข้าแถว รออาหาร ก็ เป็น ระเบียบ ไม่มีการลัด แย่งคิว กัน ขยะ ก็ ทิ้ง ลงถัง ไม่เห็น เศษขยะ ถูกทิ้งบนพื้นถนน เลย โดยไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่ เข้ามาควบคุม แจ้งเตือน จำนวน คนที่เยอะ ไม่ได้ ทำให้ สถานที่สกปรกเลย เพราะ ทุกคนมีจิตสำนึกที่จะดูแล
ทัศนะคติท้องถิ่นส่วนมาก60-70%ผูกโยงกับผู้นำท้องถิ่นิเช่นผู้ใหญ่บ้าน,อบต.ผู้ใหญ่บ้านหรือกรรมการพูดเรื่องการกู้เงินกองทุนหมู่บ้านล้านที่1ล้านที่2,เงินออมทรัพย์,เงินกขกจ.,เงินกู้ซื้อปุ้ย,เงินกู้กองทุนประปา,เงินกองทุนวันแม่ฯลฯชาวบ้านก็ไปไม่เป็นแล้วใครไม่ให้ความร่วมมือจะมีผลกับการพิจารณากู้ครั้งต่อไป ชาวบ้านครึ่งค่อนหมู่บ้านจะคิดเป็นอย่างอื่นได้อย่างไร กรรมการเลือกตั้งที่ส่งชื่อเข้าไปส่วนมากก็เป็นกลุ่มก้อนเดียวกันพูดกันได้บางทีก็โยงไปถึงตำรวจที่คอยจับตากดดันผู้สมัครที่ไม่ใช่ฝ่ายที่ตกลงกันไว้ไม่ให้กระดิก ตราบใดที่ยังไม่สามรถละลายปลดแอกเรื่องอิทธิพลท้องถิ่นได้สังคมชนบทก็วนอยู่ลูปเดิมๆอีกชั่วนาตาปี นอกเสียจากจะมีบางคนบางกลุ่มไม่อิงกับผู้นำสามารถอยู่ได้ด้วยตนเองคนกลุ่มนี้อิทธิพลจะไม่สามารถชี้นำได้แต่ก็มักจะยืนอยู่บนความเสี่ยงจากภัยคุกคามทุกรูปแบบเราจะช่วยเหลือคนกลุ่มนี้อย่างไรให้สามารถยืนอย่างมั่นคงเพราะรัฐบางทีบางครั้งก็ทำตัวเป็นภัยคุกคามเสียเองผมว่ารายละเอียดและตัวแปรมันเยอะถึงขั้นเยอะมากจนเกินที่จะแก้ได้แค่ปีสองปี ผมว่ากฏหมายเรื่องการประกันตัวผู้ต้องหาคือตัวปัญหาอีกปัญหาหนึ่งระหว่างคนที่มีโอกาสกับคนที่ขาดโอกาส ทำให้เกิดข้อเปรียบเทียบทำให้เกิดการลักลั่นของความเท่าเทียมกันระหว่างคนรวยกับคนจน น่าจะยกเลิกกฏหมายเรื่องการประกันตัวเพื่อความศักดิ์สิทธิของกฏหมายไม่ใช่รูปแบบคดีเดียวกันคนมีเงินได้ประกันตัวออกไปนอนบ้านคนจนไม่มีเงินประกันนอนคุก ขโมยของในร้านสะดวกซื้อเอานมไปให้ลูกกินมูลค่าร้อยกว่าบาทโดนจับได้ถูกส่งไปนอนคุกส่วนนักการเมืองโกงเงินแผ่นดินร้อยล้านพันล้านกลับได้ประกันตัวไปนอนห้องแอร์ที่บ้านทำตัวเหมือนไม่มีคดีติดตัว คนหนึ่งทำผิดเพื่อประทังชีวิตกับคนหนึ่งทำโดยสันดาน ถามว่าอย่างนี้คนมีเงินคนมีเส้นสายจะเกรงกลัวกฏหมายหรือไม่
บางทีผมก็ต้องฉีดยาตัวเองว่าเรายังมีหวังที่จะเปลี่ยนทัศนคติของคนไทยบางภาคได้ ถ้าปราศจากความหวังที่กล่าวไว้ข้างบน เราก็ต้องยอมยกประเทศให้ไอ้แก๊งอั้งยี่แซ่คูมันไป ซึ่งผมและคนไทยที่มีจิตวิญญาณเป็นไทยอีกหลายคนก็ยอมไม่ได้เหมือนกัน
ใช่ครับ ในหลายๆพื้นที่ อยู่ในลักษณะ "นักเลงคุม" ประมาณเดียวกับนักเลง ฮุนเซน ไปทำงานต่างประเทศยังต้องกลับมาเลือกตั้งเลย
ผมไม่คิดงั้นครับ ผมคิดว่าในอีสานคนที่เลือกเพื่อไทย กับคนที่ไม่เลือก มีพอ ๆ กันครับ แค่คนที่ไม่เลือกเพื่อไทยมันคะแนนแตกไปพรรคอื่นหลายพรรค มันเลยไม่ชนะเพื่อไทย ไม่เชื่อลองดูคะแนนเลือกตั้งรวม กับคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ได้ครับ ถ้าไอ้แม้วมันคิดว่ามี สส. เยอะ แล้วจะทำอะไรก็ได้เหมือนเดิม มันก็จะโดนล้มแบบเดิม ๆ นั่นแหละครับ ถ้ามันไม่เคยสำนึกว่าทำเรื่องเรื่องเฮีย ๆ แล้วจะโดนไล่ มันก็จะเจอความวิบัติแบบเดิมตลอดไป ต่อให้มันเอาญาติทั้งโครตมาเป็นนายกมันก็คุมสถานการณ์ไม่ได้
เปลี่ยนยากครับ ขนาดคนรู้จัก มีการศึกษา มันบอกกับผมว่า ถ้ามันเป็นไอ้แม้ว มันก็จะโกงเหมือนมัน แล้วจะไปเปลี่ยนอะไร
อันนี้ผมเห็นด้วยนะ ไม่ต้องดูอะไรแค่โครงการรถคันแรกนั่นน่ะ ผู้ที่โดดเข้าหาเกินกว่าครึ่งก็เป็นผู้ที่ต่อต้านและด่า ไอ้เหลี่ยมกับนังโง่ ซะด้วย แต่พอถึงเวลา ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ วิศวกรรม นักบัญชี แทบทุกสาขาอาชีพ ที่เป็นชนชั้นกลางล้วน ๆ ก็โดดขึ้นขบวนล้างผลาญภาษีประเทศเหมือนกันหมด เข้าทำนองถ้ามีคนโปรยเงินมาจากบนยอดตึกลอยตกมาอยู่ตรงหน้า ก็อดไม่ได้ที่จะหยิบใส่กระเป๋าไปเหมือนคนอื่น ๆ ......แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าเงินนั่นน่ะคือ เงินแผ่นดินแท้ ๆ แม้ว่าจะตะขิดตะขวงใจ แต่นี่คือเรื่องจริงครับ
ปัญหาคือ รัฐประหารบ่อยๆ โดนล้มแบบเดิมๆ มากๆ จะมีพวกคลั่ง รักษาประชาธิปไตยด้วยปืนนะสิครับ ไอ้แม้วดูมันจะไม่มีในห้วงคิดเลย ว่าทำยังไงคนจึงจะต่อต้านน้อยลง จะบริหารประเทศยังไงให้สงบให้ได้ มันคิดแต่มันต้องชนะ ไม่ว่าประเทศชาติจะชิบหาย คนไทยต้องตายกี่มากน้อย แค่ไหนก็ตาม