***นักการเมือง ***ข้าราชการ ***รัฐธรรมนูญ ***คนไทยเอง ผมว่าผู้มีอำนาจในการปฏิรูป น่าจะถกกันให้แน่ชัด จะได้ไม่เสียของ เพราะเท่าที่ตามๆดู เหมือนตาบอดคลำช้าง ผมกลัวว่าจะเสียเวลาเปล่า หมดยุคคสช.ปัญหาก็กลับมาใหม่ หรือว่าสมาชิกท่านใดเห็นไม่เหมือนผม?
คนไทยต้องหันมามองปัญหา อย่างจริงจัง จริงจริง ไม่ใช่แยกกันคิดแบบทุกวันนี้ พวกเสื้อแดง ต้องหันมามองปัญหาคอรับชั่น และ ทุนนิยมสามานย์ พวกเสื้อฟ้า ต้องหันมามอง ปัญหาความเลื่อมล้ำและโอกาสในสังคม ต่างฝ่ายต่างแกล้งมองไม่เห็นอีกด้านของตัวเอง ได้แต่ฝันครับ เพราะ คนก็ยังเป็นคนอยู่วันยังค่ำ ไม่ว่าจะใส่เสื้อสีอะไร สรุปคือ แก้ปัญหาไม่ได้หรอกครับ ถ้าไม่พยายามช่วยกันทุกฝ่าย ผมยังคิดว่า สังคมไทย ไม่ไปใหนไกลแน่ ภายใน 5-10 ต่อจากนี้ ก็ยังน่าจะวนเวียน อยู่ที่เดิม..... ขอให้ผมเข้าใจผิดเถอะ.....สาธุ
อ่านเจอเลยขอแซมเอาใว้เฉยๆ http://thaiinfonet.com/wp-content/uploads/2015/08/11888088_390396311160610_5509087387768105273_n.jpg
ผมชอบตรงนี้มากเลยครับ นี่คือสิ่งที่เป็นจริง และคงดำรงอยู่ต่อไปถ้าเรายังไม่รู้-ไม่แก้ ที่ต้นตอของปัญหา "พวกเสื้อแดง ต้องหันมามองปัญหาคอรับชั่น และ ทุนนิยมสามานย์ พวกเสื้อฟ้า ต้องหันมามอง ปัญหาความเลื่อมล้ำและโอกาสในสังคม"
"ประเด็นหลักของเสื้อแดง" ตอนนี้จริงๆคือ "ต่อต้านรัฐประหาร" ชัดเจนที่สุด "ประเด็นหลักของนกหวีด" คือการต้านโกง/นักการเมือง/นักเลือกตั้ง ประเด็นหลักมักจะหลุดหายไปเมื่อฝ่ายที่พวกเขาพอใจได้อำนาจ พร้อมที่จะมีข้อยกเว้นให้กับ "ประเด็นหลัก" ที่แต่ละฝ่ายชูมาตลอดอยู่เสมอ อันนี้น่าจะเป็นปัญหาอีกชั้นหนึ่งที่ซ้อนอยู่ในประเด็นที่ยกขึ้นมาด้วย
ก็เพราะเราไม่ยอมรับว่า ปัญหาคือปัญหาครับ เราเลยยังวนเวียนอยู่อย่างนี้ ทุกๆครั้งที่มีการเสนอแก้ไขปัญหาอะไรสักอย่างขึ้นมา ก็ต้องมีคนคัดค้านอยู่ร่ำไป ซึ่งส่วนมากแล้วเพราะกระทบกับตัวเอง
ถามเล่นเล่น ต่ออีกสักหน่อยว่า หากมีการปฎิวัติซ้อน แล้ว ให้ทักษิณเป็นนายก พวกเสื้อแดง ยังจะต่อต้านรัฐประหารหรือไม่????? หาก ฝาก ปชป ชนะเลือกตั้ง ยังจะต้องมีคำถามว่า ปฎิรูปก่อนเลือกตั้ง ให้ได้ยินอีกหรือไม่???? แค่ถามเล่นเล่น เผื่อจะได้ความเห็นดีดี จากเพื่อนสมาชิกครับ
จริงๆแล้วทั้ง 2 ฝ่ายก็เป็นเรื่องความเชื่อและศรัทธาครับ ทั้ง 2 ฝ่ายก็จะมีเหตุผลของตัวเองรองรับเหมือนกัน เพียงแต่ของผมอยู่ฝ่ายหลังครับ
จะอยู่ฝ่ายใหน ไม่สำคัญเท่า กับ อยู่กับความจริงครับ แม้อาจเจ็บปวดบ้าง แต่ ระยะยาวแล้ว เจ็บน้อยกว่า ผมเชื่ออย่างนั้นนะครับ
***สำหรับเสื้อแดง อิ....อิ...ขอเดานะครับ ไม่ต้าน ***สำหรับผู้เลือกปชป. แล้วชนะ (เอาความคิดผมคนเดียวนะครับ) ต้องปฏิรูปเพราะมันจะทำให้ประเทศเราดีขึ้น ถ้ายังเฉย ต่อไปของดออกเสียง
อยู่ที่ว่าตั้งเป้าไว้แค่ไหนครับ ตัวผมเองมองว่า ปัญหาที่สะสมมีมานาน ย่อมต้องใช้เวลานานในการแก้ไข ตอนนี้ที่เห็นคือ เป้าหมายของประเทศเดินไปทางเดียวกัน(ไม่ใช่ยุคนักการเมือง) นักธุรกิจก็ชอบในการวางแผนการลงทุน การคอร์รัปชั่น ลดลง(ไม่ใช่จะไม่มี) เพราะกลัวความเด็ดขาด สุดท้าย ประชาชนต้องการอะไรจากผู้บริหารประเทศ ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ประเทศชาติเจริญก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศ หรือเพียงแค่ระบอบการปกครอง
ผมเห็นด้วยครับ ว่า ปัญหา ถูกสะสมและหมักหมม มานาน ต้องใช้เวลา แต่ ใช้เวลาน อีกนานเท่าไหร่ ก็ควรมีคำตอบนะครับ หากนานเกินไป ก็จะกลายเป็น ของเสียได้ อย่างที่คุณ KOKAI เป็นห่วง ก่อนนอน คืนนี้ ผมขอฝาก ข้อคิดจาก ท่าน Lord Acton "Power tends to corrupt and absolute power corrupts absolutely." "ที่ใดมีอำนาจ ที่นั่นย่อมมีการฉ้อฉล ที่ใดมีอำนาจเหลือล้น ที่นั่นย่อมมีการฉ้อฉลสุดประมาณ"
คนอื่นผมไม่ทราบ ของผมขอแค่การปฏิรูประบบยุติธรรมได้แค่เรื่องเดียว ก็พอใจ ****ทำให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่าง รวดเร็ว เด็ดขาดและยุติธรรม**** ผมขอแค่นี้แหละครับ
อำนาจเป็นสิ่งที่น่ากลัว สามารถเปลี่ยนคนให้กลายเป็นปีศาจร้ายได้เป็นความจริง ปัจจุบันนี้ยังมีคนอีกกลุ่มใหญ่ต่อต้านอยู่ ก็เปรียบเสมือนการตรวจสอบอีกทางหนึ่งครับ
ประชาชนโง่ๆ มีมาเป็นชาติแล้วครับ นักการเมืองเลวๆก็มีมาตั้งแต่สมัยเปลี่ยนแปลงการปกครอง หากไม่นับรวม ผกค และ ขจก อาจถือได้ว่าเราก็อยู่มาได้ไม่แตกแยกดันรุนแรงแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันทั้งเขตเมืองและชนบท จนกระทั่งมีไอ้แม้วนี่แหละครับมันถึงเกิดเรื่อง ต้นตอปัญหาของประเทศจึงมาจากมันคนเดียว
ร้อนหนาว ดำขาว ดีชั่ว สูงต่ำ โง่ฉลาด เป็นธรรมดาและสมดุลของโลก แต่คนชั่วที่ฉลาดใช้ความโง่มาเป็นพลังครับ ชึ่งก็คือไอ้แม้วนั่นแหละอย่างที่คุณโยธกาว่าไว้ จริงๆทางแก้ที่เราก็คงยอมไม่ได้คือให้มันโกงจนชิบหายกันทั้งหมด ถึงเวลานั้นคนโง่คงฉลาดขึ้น แต่ก็นั่นแหละใครจะบ้าเสี่ยงขนาดนั้น
ให้เครดิตตะแกมากไปไหมครับ ผมมองอีกมุมว่าคน คนนี้เป็นแค่ไม้ขีดจุดชนวน ให้ปัญหามันปะทุ อิ...อิ....แต่ก็นั่นแหละ ไม้ขีดก้านนี้โคตะระใหญ่จังเลย
อาจจริงอย่างที่บอกครับ กรืออาจเป็นแค่มันคนเดียวอย่างปมคิด ตอนนี้เราสรุปไม่ได้ เอางี้มั๊ยครับ ช่วยเดินไปยิงหัวมันทิ้ง มันตายแล้วปัญหายังไม่จบแสดงว่าผมคิดผิด
เคยไปจีนแล้วรู้สึกว่าประเทศไทยโครตดีเลย เคยไปอเมริกาแล้วรู้สึกว่าประเทศนี้ที่สุดของความสบาย ทั้งสามประเทศ ผมเทียบในแง่ระบบ กฎ การเอาใจใส่ประชาชน ความสะอาด ความสะดวกในชีวิตประจำวัน เอาแค่การเดินทาง อเมริกาเดินทางไปไหนมาไหนสะดวกมากๆ ผังเมืองดีมากๆ รถสาธรณะเข้าถึงสุดๆ ทำให้พอมานึกๆดู ไทยเราก็กลางๆ พัฒนาการก็ไปตามขั้นตอน สรุปที่อยากสื่อคือ อยากเปลี่ยนอะไรอย่าใจร้อน เพราะถ้าใจร้อนตาอยู่มันคว้าพุงไปกิน
สาเหตุเกิดจาก 1. ผู้นำไร้วิสัยทัศน์ 2. ระบบราชการอันล้มเหลว 3. วัฒนธรรมองค์กรสุดห่วย แม้จะมีโอกาสแก้ไขปัญหาได้อย่างสะดวกโยธิน ก็ไม่ทำ แต่กลับแก้ปัญหาได้ไม่ตรงจุด อย่างเรื่องจบตำรวจแล้ว ต้องผ่อนปืนก่อนผ่อนเมียเนี้ยย วันนี้ก็ยังต้องผ่อนอยู่ ดีกว่าเดิมนิด ตรงที่ถูกสตางค์กว่าหน่อย แต่ก็ยังต้องผ่อนเป็นปีอยู่ดี จริงๆปัญหายังอยู่เหมือนเดิมนะครับ แค่ถูกบรรเทาลงชั่วคราว เวลาทหารจัดซื้ออาวุธปืน ทหารจะใช้คำว่า " พัฒนากองทัพ " เวลาตำรวจจัดหาอาวุธปืนให้ตำรวจ ตำรวจใช้คำว่า " พัฒนาสวัสดิการ " ( คำว่า"จัดหา"ในที่นี้ หมายความว่า กระทำการให้มี หรือให้เกิดขึ้น แต่คนออกเงิน คือตัวตำรวจเอง ) มันเป็นเรื่องเดียวกันครับ แต่ใช้คำต่างกัน มันแสดงถึง ทัศนคติที่ต่างกันขององค์กร สำหรับ สตช. เมื่อนี้เป็นแค่เรื่อง สวัสดิการ จะทำให้ดีขึ้น หรือจะให้มีเท่าเดิมก็ได้ ทั้งๆความสำคัญต่อภารกิจแทบจะไม่ต่างกัน ทหารไม่มีปืนก็ไปรบไม่ได้ ตำรวจไม่มีปืน ก็จับผู้ร้ายไม่ได้เหมือนกัน เมื่อทัศนคติแบบเดิมๆ ยังคงอยู่ ปัญหาจึงวนเวียน ซํ้าซาก ไม่เคยถูกแก้ไข และเรื่องจะเป็นเช่นนี้ไปนานแสนนาน
ขอเลือกตอบข้อนี้ครับ เหตุผลเพราะว่า สิ่งต่างๆที่ผ่านมาจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าสังคมไทยเข้มแข็ง ถ้าคนไทยมีความรู้ มีความรอบรู้ มีศีลธรรมและคุณธรรมเพียงพอ เราคงไม่ปล่อยให้เขาโกงเลือกตั้ง เราคงไม่ยอมให้เขาซื้อคะแนน เราที่เป็นข้าราชการคงไม่เห็นแก่อามิส และโกงชาติโกงแผ่นดินร่วมกับทรราชย์ คนอย่างทักษิณก็จะมีอำนาจไม่ได้ ในประเทศนี้ ผมว่าที่ผ่านมาเป็นภาพสะท้อนที่เจ็บปวดของคนไทย ที่เราจำต้องแบกรับและช่วยกันแก้ไข ผู้หญิงที่ไม่มีสติปัญญาความสามารถอะไร กลับขึ้นมาเป็นใหญ่ได้เพราะเงิน เป็นภาพสะท้อนประเทศไทยทั้งประเทศที่ เราทุกคนต้องแบกรับว่า ประเทศไทยนี้ "เงิน" ซื้อได้ทุกอย่าง แนวทางปฎิรูปของคสชทั้ง 11 ด้าน ไม่มีปฎิรูปพลเมืองเข้าไปด้วย เพียงแต่พูดในวงกว้างๆ อยู่ในหมวดสังคมบ้าง การปกครองบ้าง การศึกษาบ้าง ถามว่าน่าห่วงมั้ย ก็น่าห่วงเหมือนเดิม และผมว่ามันก็คงจะล่ม ล้มลุกไปอีกอย่างน้อย 3 ชั่วคน ยกเว้น ยกเรื่องปฎิรูปพลเมืองขึ้นมาเป็นใหญ่ก่อน ต้องปรับเรื่อง ค่านิยม คุณธรรม ปลูกฝังความรักในชาติ ความหวงแหนในเกียรติและศักดิ์ศรี และเอาศรีธนญชัยเป็นตัวอย่างที่เลวทรามของสังคมไทยเสียที ไม่ใช่ตลบแตลงปลิ้นปล้อนแล้วยังได้รับการยอมรับแบบนี้ ถ้าปฎิรูปพลเมืองได้ ทุกอย่างก็เดินหน้า เพราะทุกคนรู้หน้าที่ รู้สิทธิ รู้ขอบเขตของตัว ของชาติ ไม่ใช่อ้างชาติเอาดีเข้าตัว ทำเพื่อตัวแต่อ้างสังคม...แล้วคนยังโง่งมไปกราบไหว้แยกไม่ออกอีก แบบนี้ก็วนเวียนไม่จบ ถ้าปฎิรูปพลเมืองได้ ก็แค่ 10-20 ปี ถ้าไม่ก็รอไปจนกว่าจะมีคนทำเรื่องนี้ แล้วประเทศไทยถึงจะเจริญสักที อย่าลืม "กรุงเทพฯ ไม่ใช่ประเทศไทย แล้วโซเชี่ยวเนตเวิร์กก็ไม่ใช่โลกทั้งโลก" ขอบคุณครับ *เพิ่มลิ้ง ปฎิรูป 11 ด้านครับ http://www.isranews.org/thaireform-data-mass-comm/item/33573-isranews_33573.html
มีบางคนถามว่า “เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไรกัน” มองโลกจากความเป็นจริง ทุกสิ่งมันเกิดจากตัวเราตัวท่าน ถ้าไม่เริ่มแก้ที่ตัวเราก่อน มันก็ต้องอยู่กันไปแบบนี้แหละ ขนาดมาถึงจุดนี้ยังไม่เลิกทะเลาะกัน แล้วยังไงดี ฆ่ากันให้ตาย ใครชนะขึ้นมาเป็นใหญ่ดีไหม ไม่มีระบอบอะไรที่สมบูรณ์ ตราบใดที่คนที่อยู่ในระบอบนั้นๆยังมีทิฐิและอคติอยู่ในใจ ปฎิรุปตัวเองก่อนปฎิรูปประเทศดีกว่าไหม เริ่มจาก สำนึกดี สังคมก็จะดีตาม แล้วไม่ต้องมาถามกันอีกว่า “เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไรกัน”
ยกตัวอย่างนะ คนรอบๆตัวผม ชอบบ่นว่าของแพง แต่พอไปจ่ายตลาด เลือกไปซื้อของแพง ด้วยเหตุผล มันจ่ายเงินลงตัว ไม่มีเหรียญเล็กเหรียญน้อย หนักกระเป๋าน่ารำคาญ กลายเป็นว่าร้านที่ขายถูกกว่านิดหน่อย แต่ทอนเศษสตาค์ ขายไม่ดีซะอย่างงั้น เป็นช่องให้พ่อค้า แม่ค้า สบโอกาสขึ้นราคาอาหารทีละ 5 บาท 10 บาท เพราะ แม้ขึ้นตามต้นทุนทีละ 2-3 บาท ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะ ขายดีขึ้น หรือได้กำไรมากกว่าคนอื่น เรื่องนี้สะท้อน ค่านิยม วัฒธนธรรม แนวคิด อุปนิสัย บางอย่างของคนไทยได้ดี
พอมีข่าวระเบิดที่ราชประสงค์ รู้อย่างนึงเลยคือ คนไทยขี้ลืม... ระเบิดหน้าศาลอาญา อันนี้จับได้ว่าเป็นเสื้อแดง ระเบิดสองลูกหน้าสยามพารากอน จับใครไม่ได้ คือ พวกมันวางระเบิดมาหลายครั้งแล้ว ช่วยๆกันเจ็บแล้วจำหน่อย
เหรอ ค่ะ ตัวเราแน่ คนอื่นแย่ ( I’m O.K. You’re not O.K.) การพูดหรือการแสดงออกมาครั้งใดผู้พูดหรือผู้แสดงออกจะอยู่ในตำแหน่งที่เหนือกว่า ดีกว่า แต่คู่สนทนาขาดทุนหรือมีความรู้สึกไม่สบายใจทันที เป็นจุดยืนที่ไม่ค่อยไว้เนื้อเชื่อใจใคร มีสภาวะจิตแบบ เด็กที่ชอบสงสัย มีความเชื่อมั่นในตนเองมากเกินไป ไม่ค่อยเป็นมิตร หยิ่งยะโส อหังการ กร่าง ไม่เปิดเผยจริงใจ ประเมินค่าตนเองสูง ชอบให้ความใส่ใจทางลบ มีความขุ่นเคืองใจ รักษาสุขภาพจิตนะค่ะ
ถ้าพูดให้เต็มก็คือ ปัญหาเกิดจาก ประชาชน ส่วนใหญ่ ขาด คุณภาพ(ชีวิตที่ดี) ต่างหาก บางคนก็จะมีชุดความคิดประมาณว่า จนเพราะขี้เกียจ จนเพราะกินเหล้าเล่นหวย คนที่ขยันเขาก็รวยกันได้ แล้วถามว่า พวกเก็บหนี้รายวัน เจ้ามือหวยใต้ดิน เจ้าของบริษัทเหล้าเบียร์ คนพวกนี้ขยันกว่าพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ชาวไร่ชาวนาตรงไหน บางคนอาจจะคิดว่า อ้าวก็แล้วพวกแก ไปติดบ่วงพวกนี้เองทำไม ไม่ยืมเงินก็ไม่เป็นหนี้ ไม่แทงหวยก็ไม่เสียตังค์ ไม่กินเหล้ามันก็ไม่ตาย แต่ถ้าถามกลับกันคนเรามีใครอยากเป็นหนี้ โดยที่ต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงแบบไม่จำเป็นบ้าง บางทีการแทงหวยงวดนึงก็ทำให้ชีวิตเค้ามีความหวังไปอีกเฮือกหนึ่งรึเปล่า ความสุขของคนชั้นกลางบางคน ดูหนังดื่มเบียร์ ติ๊บสาวเชียร์เบียร์ ท่องเที่ยววันสุดสัปดาห์ ความสุขของคนรวยบางคน ขับรถสปอต จิบไวน์กรึ๊บละหมื่น เที่ยวต่างประเทศ ความสุขของคนรายได้น้อย จับวงสนทนา จิบเหล้า40 หลังทำงานหนัก ดูทีวีละครหลังข่าว แต่บางคนกลับมองว่า ก็เพราะพวกมรืงเป็นงี้ไงชีวิตถึงจน ตอนเด็กเสือกไม่ขยันเรียน โตมาทำงานก็เสือกกินเหล้าอีก แต่ทำไมคนระดับอื่นกินเหล้าแล้วไม่ผิด มีเฉพาะคนจนเท่านั้นที่กินเหล้าแล้วผิด ก็ถามกลับว่ารายได้มันลงไปจุนเจือถึงคนระดับล่างบ้างหรือไม่ ถ้าคนจนเลือกได้ว่าระวังกู้แบงค์กับกู้ดอกรายวัน คนจนจะเลือกอะไรครับ
เค้าพูดถึงคนมีฐานะที่ทำมาหากินสุจริต เลยยกเอาไปเปรียบกับพวกโจรเลย วิธีคิดแบบนี้เอง ถึงได้จินตนานิยายห่วย ๆ มาดราม่า
คนไทยครับ ถ้าไม่เห็นแก่ได้ ประเทศก็ไม่เป็นแบบนี้ อ้างเรื่องจน ต้องการยกระดับตัวเอง ด้วยการให้ นักการเมือง มันโยนเศษเงินให้ ก็ไปเลือก ไม่สนว่าประเทศจะเป็นอย่างไร ขอให้ได้เงินมาก็พอ ความคิดของคนไทย กับคนต่างประเทศที่พัฒนาแล้ว มันต่างกัน ใช่ว่าในประเทศที่พัฒนาแล้วจะไม่มีคนจนนะครับ แต่ถึงเขาไม่มี เขาก็ไม่คิดจะเอาของใคร ขนาดรัฐบาลมีเงินช่วยเหลือ กรณีตกงาน เขายังไม่ไปเอาเลย เขาพยายามหางานทำ ทำอะไรก็ได้ อย่างน้อยเขาไม่ต้องพึ่งพารัฐ ศักดิ์ศรีเขามี แต่ของคนไทย หวังจะเอาจากรัฐอย่างเดียว จนแต่เสือกขี้เกียจ กินเหล้า อยากอวดร่ำอวดรวย แค่ได้เดินตามนักการเมือง มันก็คิดว่า มันยกระดับความจนมันแล้ว ข้อเสียคนไทย คืออายความจน กลัวคนอื่นว่าจน มันถึงยอมเป็นขี้ข้านักการเมือง ไอ้ที่มาอ้างว่าจนแล้วต้องอยากได้นั่นได้นี่ เหมือนคนรวย มันถึงได้หวังจะเอาอย่างเดียวจากนโยบายพรรคการเมือง ไม่สนว่าสิ่งที่ได้มา จะทำร้ายประเทศขนาดไหน แค่นี้ก็บอกได้เลยว่า นี่แหละคือ ปัญหาของประเทศไทย
มาแบบเดียวกับไสเลนเปตรเลย อ้างชนชั้นอีกแล้ว ทำไหมชอบอ้างเรื่องกินเหล้า ผมอยู่มาจะชาตินึงแล้ว เงินเดือนก็ไม่ได้มากมายอะไร เท่าลูกจ้างวันละ 300 ไม่เคยกินเลยไม่ว่าไวน์หรือเหล้า ชีวิตไม่เห็นว่าจะแย่ลง แถมมีเงินเก็บอีก
จากที่ผมสังเกตุดู ปัญหาหลักๆที่ทำให้คนจน ไม่สามารถหลุดพ้นจากวงจรความจน(จนดักดาน) ***โดนเอารัดเอาเปรียบ ***ขาดความรู้(แต่ก็ไม่ขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติม) ***ขี้เกียจ ***หลงอบายมุข เล่นการพนัน กินเหล้าเมายา เที่ยวเตร่ สามข้อหลังนี่รวมกันแล้วมากกว่าข้อแรกหลายเท่า คุณลองสังเกตุคนรวยๆรอบๆตัวคุณ ว่าเขาขยันไหมหรือรวยโดยปาฏิหารย์ ถ้าระดับประเทศ ตามประวัติบางคนเป็นจับกัง เป็นลูกจ้าง เป็นคนจนระดับล่างมาก่อนเกือบทั้งหมด แล้วเขาถีบตัวเองพ้นความจนได้อย่างไร ลองหาศึกษาดูนะครับ "คนจน ทำตัวรวย ยิ่งจน" "คนรวย ทำตัวจน ยิ่งรวย" (คนอื่นกล่าว ผมลอกเขามา) 8 บทเรียนพลิกชีวิต วอร์เรน บัฟเฟตต์ จากยาจกสู่มหาเศรษฐี http://men.sanook.com/3793/ เปิดบ้าน วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีผู้ใช้ชีวิตแบบพอเพียง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งมหาเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของโลก สำหรับ วอร์เรน บัฟเฟตต์ซีอีโอของ บริษัท เบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ ที่ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส์ว่าเป็นบุคคลที่รวยเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยมีมูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้นสูงถึง 44,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 1.3 ล้านล้านบาท แต่หลายคนอาจจะไม่เชื่อว่า มหาเศรษฐีผู้นี้จะดำรงชีวิตอยู่อย่างสมถะเรียบง่ายภายในบ้านที่มีราคาเพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น! http://men.kapook.com/view47116.html
แถวบ้านผม มีผู้ชายคนหนึ่งเป็นลูกชายของคนจีน จึงได้รับมรดกจากพ่อแม่ มากที่สุด ได้ทั้งที่ดิน ห้องแถวในตลาด ปัจจุบันเดินเป็นขอทานอยู่ในตลาดที่ตัวอำเภอ เหตุเพราะขายทรัพย์สินเล่นการพนันจนหมดตัว
นี่คือประเทศในฝันของผม - ประชาชนทุกคนมีจิตสำนึก ซื้อเสียงไม่ได้ เพราะรู้ว่านักการเมืองที่ใช้เงินซื้อเสียง หรือใช้เงินหาเสียงมากๆ ย่อมต้องการมากอบโกย - ประชาชนทุกคนเลือกตั้ง นักการเมืองที่มีวิสัยทัศน์ ความรู้ความสามารถ และ นักการเมืองคนไหนที่มีสีเทาไม่ได้รับเลือกตั้งในสมัยต่อไป - ประชาชนมีสำนึกต่อท้องถิ่น สามารถเลือกตั้งและจัดการดูแลท้องถิ่นของตนเอง เพราะท้องถิ่นคือผลกระทบโดยตรงต่อพวกเขา และท้องถิ่นเข้มแข็งประเทศก็เข้มแข็งด้วย - ประชาชนสามารถใช้อำนาจในการเลือกตั้ง กระแสสังคม กดดันผู้มีอำนาจให้ใช้อำนาจเพื่อข้อเท็จจริง และสร้างความยุติธรรมได้
คงมีเฉพาะในฝันจริงๆครับ แค่ข้อหนึ่ง ข้อเดียว ในช่วงชีวิตผม ไม่รู้จะได้เห็นหรือปล่าว - ประชาชนทุกคนมีจิตสำนึก ซื้อเสียงไม่ได้ เพราะรู้ว่านักการเมืองที่ใช้เงินซื้อเสียง หรือใช้เงินหาเสียงมากๆ ย่อมต้องการมากอบโกย