อย่างนี้DSIจะโดนปัดระเบิดใส่มั้ยครับ

กระทู้ใน 'สภากาแฟ' โดย นิติรั่ว, 30 Jan 2016

  1. นิติรั่ว

    นิติรั่ว อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    24 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,875
    ดีเอสไอชี้มูล ธัมมชโยผิด คดีที่ดิน-เงินวัด อ้างต้องปาราชิก

    Font Size [​IMG] [​IMG]
    วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 11:03 น.
    จำนวนคนอ่านล่าสุด 10369 คน
    คำร้องของพุทธะอิสระเล่นงานธัมมชโยได้ผล ดีเอสไอแจ้ง ผลสอบสวนคดีที่ดิน-เงินวัด พระธัมมชโยส่งเรื่องให้สำนักพุทธฯจัดการ ชี้มีความผิดสำเร็จคดีเบียดบังทรัพย์สินของวัดไปใส่ชื่อตัวเอง ระบุเข้าข่ายละเมิดมาตรา 147 และ 157 แม้จะคืนให้วัดภายหลังก็แค่บรรเทาความผิด นอกจากนี้ ยังชี้ด้วยว่าพระลิขิตที่สมเด็จ พระสังฆราชวินิจฉัยให้ธัมมชโยต้องอาบัติปาราชิกก็ชอบด้วยกฎหมาย แต่มหาเถรสมาคมมิได้ดำเนินการให้ครบถ้วน พร้อมให้ดำเนินคดีกับเจ้าคณะผู้ปกครองชั้นต้นด้วย

    เมื่อวันที่ 29 ม.ค. รายงานข่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษแจ้งว่า จากกรณีพระสุวิทย์ ธีรธัมโมหรือพุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย อ.กำ แพงแสน จ.นครปฐม ร้องขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบพฤติการณ์ที่น่าจะเข้าข่ายกระทำผิดอาญาของพระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธัมมชโย) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และเจ้าคณะผู้ปกครองคณะสงฆ์ที่เกี่ยวข้อง ในฐานะเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญาและกฎหมายคณะสงฆ์ และขอให้รับเป็นคดีพิเศษ โดยดีเอสไอ ได้สืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ศาล สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มหาเถรสมาคม กองบังคับการปราบปราม ผู้ตรวจการแผ่นดิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรากฏข้อเท็จจริงทาง การสืบสวนสรุปได้

    กรณีพระธัมมชโยถูกกองปราบ ปรามแจ้งข้อกล่าวหาและสั่งฟ้องต่อศาลอาญา ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 และ 157 โดยจำเลยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอสู้คดีในชั้นศาล ซึ่งเมื่อผ่านการต่อสู้ในชั้นศาลเป็นระยะเวลาเกือบ 7 ปี พนักงานอัยการได้ยื่นคำร้องขอถอนคดีต่อศาลอาญา ให้เหตุผลสรุปได้ว่า จำเลยกับพวกได้มอบทรัพย์สินทั้งหมด ที่มีทั้งที่ดิน และเงินอีก 959,300,000 บาท คืนให้แก่วัดพระธรรมกายแล้ว การกระทำดังกล่าวจึงเป็นไปตามพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช โดยครบถ้วนทุกประการ

    อย่างไรก็ตาม การกระทำของพระธัมมชโยถือเป็นการกระทำผิดที่ครบองค์ประกอบความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต และโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 และ 157 ทุกประการแล้ว แม้จำเลยจะนำทรัพย์ที่ได้ยักยอกมาคืนให้แก่วัดพระธรรมกายในภายหลัง ก็เป็นเพียงการพยายามบรรเทาผลร้ายแห่งความผิดที่ได้กระทำลงไป ที่สำคัญที่ดินที่มีข้อพิพาทในแทบทุกรายการเกิดจากการใช้ตัวแทนไปติดต่อขอ ซื้อที่ดินจากเจ้าของที่ดินโดยตรงแทบทั้งสิ้น ไม่ได้เกิดจากการที่เจ้าของที่ดินยินยอมยกที่ดินให้กับทางวัด หรือบริจาคเงินให้กับวัดเพื่อให้ไปซื้อที่ดิน ให้พระธัมมชโยเป็นการส่วนตัว

    เมื่อ ซื้อแล้วพระธัมมชโยได้อนุมัติให้เบิกจ่ายเงินในบัญชีของวัดพระธรรมกายไปซื้อ ที่ดินดังกล่าว และกลับใส่ชื่อของตัวเอง แทนที่จะเป็นชื่อของวัดเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ การที่จำเลยไม่ยอมมอบที่ดินคืนให้แก่วัดทันทีตามลิขิตของพระสังฆราช ที่ว่า "ส่วนที่มิใช่เป็นการลงโทษ แต่เป็นการทำที่ถูกต้อง คือต้องมอบสมบัติทั้งหมดที่เกิดขึ้นในขณะเป็นพระให้แก่วัดทันทีไม่คิดให้โทษ เพราะคิด ในแง่ยกประโยชน์ให้ว่าในชั้นต้นอาจมิใช่มีเจตนา ถือเอาสมบัติของวัดเป็นของตนจริงๆ แต่เมื่อถึงอย่างไรก็ไม่ยอมมอบคืนสมบัติที่เกิดขึ้นในขณะเป็นพระให้แก่วัด ก็แสดงชัดแจ้งว่าต้องอาบัติปาราชิก ต้องพ้นจากความเป็นสมณะโดยอัตโนมัติ ต้องถูกจัดการอย่าง เด็ดขาด"

    แต่พระธัมมชโยไม่ยอมคืนที่ดินให้วัด แต่กลับต่อสู้คดีทางศาล ซึ่งใช้เวลายาวนานกว่า 7 ปี เมื่อจำเลยรู้ว่าไม่มีทางที่จะทำให้ชนะคดีจึงยอมมอบทรัพย์สินที่มีข้อพิพาท คืนให้กับทางวัด การกระทำเช่นนี้ของพระธัมชโยกับพวกเป็นการกระทำที่มีเจตนาในการกระทำ ความผิด ไม่อาจทำให้การกระทำความผิดที่สำเร็จไปแล้วกลับกลายมาเป็นไม่มีความผิดไปได้

    ใน ส่วนกรณีอาบัติปาราชิกนั้น เมื่อวันที่ 5 เม.ย.2542 กรมการศาสนาได้นำพระดำริสมเด็จพระสังฆราชที่มีพระดำริเพิ่มเติม กรณีเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายต้องอาบัติปาราชิก เข้าสู่ที่ประชุมมหาเถรสมาคมพิจารณา และที่ประชุมมีมติมอบเอกสารให้เจ้าคณะภาค 1 พิจารณา โดยตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 มาตรา 8 บัญญัติว่า สมเด็จพระสังฆราชดำรงตำแหน่งสกลมหาสังฆปริณายก ทรงบัญชา การคณะสงฆ์ และทรงตราพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช โดยไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมาย พระธรรมวินัย และกฎมหาเถรสมาคม เมื่อสมเด็จพระสังฆราชมีพระวินิจฉัยในกรณีพระธัมมชโยแล้ว มหาเถรสมาคมย่อมต้องสนองพระลิขิตที่สมเด็จพระสังฆราชประทาน มาทั้งหมด ตามที่มหาเถรสมาคมมีมติที่ 193/2542 ให้สนองพระดำริโดยตลอดให้ชอบด้วยกฎหมาย พระธรรมวินัย และกฎหมายเถรสมาคม

    แต่กลับปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีการ ติดตามผลเพียงเรื่องเดียว คือ ติดตามรับมอบและคืนที่ดินของวัดพระธรรมกายเท่านั้น ในส่วนประเด็นวินิจฉัยของสมเด็จพระสังฆราชว่าพระธัมมชโยต้องปาราชิกนั้นยัง ไม่ได้มีการดำเนินการ ทั้งที่ผลการดำเนินการคดีทางโลกเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจากพยานหลักฐานทั้งในชั้นพนักงานสอบสวน และพนักงานอัยการ ต่างมีพยานระบุยืนยันเจตนาการกระทำผิดของพระธัมมชโยอย่างชัดเจน จึงชี้ชัดได้ว่าพระธัมมชโยได้กระทำผิดโดยเจตนาแล้ว แต่ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในฐานะเลขาธิการมหาเถรสมาคมยังไม่สนองงานตามพระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราชให้ ครบถ้วนทุกประเด็น โดยเฉพาะเรื่องการดำเนินการในเรื่องการลงนิคหกรรมแก่พระธัมมชโย ที่ต้องอาบัติปาราชิก จึงถือเป็นหน้าที่ตามระเบียบและกฎหมายที่มหาเถรสมาคม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยต้องนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของมหาเถรสมาคมโดยเร็วต่อไป หากปล่อยปละละเลยไม่ถือปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่อาจมีส่วนในการถูกพิจารณาความ ผิดทางอาญาฐานเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

    โดยดีเอสไอเห็น ว่ายังมีประเด็นที่สำนัก งานพระพุทธศาสนาแห่งชาติต้องพิจารณาใน 2 กรณี คือ 1.การดำเนินการให้พระธัมมชโยต้องอาบัติปาราชิกตามลิขิตสมเด็จพระสังฆราช ที่มีมติมหาเถรสมาคมรับรองให้ถือเป็นคำสั่งที่ชอบและต้องปฏิบัติตามให้ครบ ถ้วน และ 2.ให้พิจารณาดำเนินการกับเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ชั้นต้น ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการตามข้อ 1
    http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1454126674
     
    conservative, kokkai, Anduril และอีก 2 คน ถูกใจ
  2. suraphan07

    suraphan07 อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    15 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,284
    Location:
    BKK.
    Screen Shot 2016-01-29 at 12.44.27.png

    ม่ายรู้ จะมีผู้ที่เช่าบูชา "ค้อนอภิมหามงคล จำลองเครื่องยศชาวสวรรค์"
    รวมตัวกันเอาค้อนพวกนี้ ไปใช้งานกับ DSI ด้วยอ๊ะป่าวดิ...;)
     
    kokkai, Anduril และ ปู่ยง ถูกใจ
  3. redfrog53

    redfrog53 อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,466
  4. kokkai

    kokkai อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    6 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,076
    ปล่อยเวลาล่วงเลยมาจนถึงบัดนี้ แถมยังได้เพิ่มสมณศักดิ์อีกด้วย
    ความผิดของมส.น่าถือว่าได้กระทำสำเร็จแล้ว ในแง่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่
    สมควรฟ้องได้เลย ยังต้องรออะไรอีก....งง
     
    Last edited: 30 Jan 2016
    จูกัดขงเบ้ง และ Anduril ถูกใจ.
  5. redfrog53

    redfrog53 อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,466
    tnews_1424424148_4899.jpg
    มติ มส. "พระธัมมชโย" ไม่ต้องปาราชิก ชี้ไม่ขัดพระลิขิตฯ

    มส. นี้พระผู้ใหญ่ทั้งน้าน น่ามีอะไรก้ออะรัยบ้างนะ ละอายใจ ก้อสึก แล้วอยู่บำเพ็ญตน แค่ศิล 5 ให้ได้ก่อน ก้อพอ!!!
     
    Anduril และ kokkai ถูกใจ.
  6. กีรเต้

    กีรเต้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    11,917
    Location:
    เชียงใหม่
    นั่นสิ
     
    kokkai likes this.
  7. นิติรั่ว

    นิติรั่ว อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    24 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,875
    157เต็มๆๆครับ
     
    suraphan07 และ kokkai ถูกใจ.
  8. kokkai

    kokkai อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    6 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,076
    พอจะรู้ไหมครับ
    เรื่องนี้(ถ้าผิดตามม157ตามที่คุณบอก)
    ใครมีอำนาจฟ้องครับ
     
  9. Solid Snake

    Solid Snake อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    26 Dec 2014
    คะแนนถูกใจ:
    2,225
    น่าจะ ปปช เพราะถือเป็นเจ้าพนักงาน
     
  10. นิติรั่ว

    นิติรั่ว อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    24 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,875
    กรณีมาตรา157นั้นประชาชนทั่วไปที่มิใช่ผู็เสียหายโดยตรงจะฟ้องร้องมิได้ต้องยื่นเรื่องต่อ อัยการ หรือ ถ้าเป็ข้าราชการที่ไม่เกินc8เดิมให้ยื่นเรื่อต่อ ปปท.ถ้าเกินc.8ขึ้นไปยื่นต่อ ปปช.แต่โดยความเห็นส่วนตัวผมคิดว่าน่าจะยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นกินของรัฐสภาได้ในทุกกรณีที่กล่าวมาแล้วครับ
     
    Anduril, temp, suraphan07 และอีก 1 คน ถูกใจ.
  11. kokkai

    kokkai อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    6 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,076
    กลัวแต่ว่า คนมีอำนาจฟ้องไม่อยากเอามือซุกหีบ ทำเฉยเสียเท่านั้นเอง :cool:
     
    suraphan07 และ ปู่ยง ถูกใจ.
  12. นิติรั่ว

    นิติรั่ว อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    24 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,875
    นั่นคือปัญหามาตรานี้ครับ
     
    kokkai likes this.
  13. hey guys

    hey guys อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,066
    ไม่มีไม่เป็นไรม้าง ประธานตู่ จ่านิว ยังไม่ขึ้นรถไฟไปดูเร้ยยยย
     
  14. Solid Snake

    Solid Snake อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    26 Dec 2014
    คะแนนถูกใจ:
    2,225
    คงต้องฟ้องต่อกันเป็นทอด ๆ ล่ะครับ เบ็ดเสร็จ อาจมีคนติดคุกเพื่อโล้นตัวเดียวนับสิบคน :D:D:D
     
    redfrog53, ปู่ยง และ kokkai ถูกใจ
  15. นิติรั่ว

    นิติรั่ว อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    24 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,875
    กรณีโดนถึงมหาเถระครับสะเทือนทั้งองค์กรณ์สงฆ์ กรณีนี้รัฐบาลเลือกตั้งไม่กล้าทำแน่นอน
     
    ปู่ยง, suraphan07 และ kokkai ถูกใจ
  16. kokkai

    kokkai อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    6 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,076
    การอุ้มโกงแบบคืนเงินแล้วจบ

    ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ยุคปฏิกูลทางกฎหมายครั้งสำคัญแล้ว นั่นก็คือเป็นยุคแห่งความเสื่อมทางกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายที่กำลังลุกลามยิ่งกว่าปลวกที่กินขื่อแปบ้านเมืองจนพินาศวายวอดไปทั้งหมด

    นั่นก็คือการขยายผลของความคิดและการปฏิบัติในเรื่องคืนเงินแล้วจบ ทั้งกรณีที่เกิดขึ้นในวงการสงฆ์ และวงการอื่นๆ

    โดยเฉพาะวงการสงฆ์นั้น มีการทำมาหากินกันเป็นล่ำเป็นสัน รู้เห็นเป็นใจให้คนห่มเหลืองที่เป็นปาราชิก เป็นอลัชชี เป็นเดียรถีย์ ประพฤติตนลวงโลก โกงวัด โกงชาติ โกงศาสนา โกงประชาชน ทำกันอย่างครึกโครมทั้งแผ่นดิน พอถูกจับได้ก็อุ้มโกงกันเป็นระบบ เป็นขบวน แล้วก็จะจบเรื่องแบบคืนเงินแล้วจบ

    ทรยศต่อพระธรรมวินัย ทรยศต่อกฎหมาย ชนิดไม่อายฟ้า ไม่เกรงดิน ไม่กลัวบาป ไม่กลัวนรกกันอีกต่อไปแล้ว


    ดังกรณีธัมมชโยที่เป็นปาราชิกตามพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งมหาเถรสมาคมเมื่อครั้งที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ยังทรงพระชนม์อยู่ เคยมีมติรับรองพระลิขิตเหล่านั้นและมีมติว่าพร้อมสนองพระบัญชา แต่ต่อมาก็บิดเบี้ยวไม่ทำตาม อันเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายซึ่งเป็นความผิดทางอาญาด้วย

    ต่อมาก็อาศัยอำนาจทางการเมืองถอนฟ้องคดีฉ้อโกงวัด จากนั้นก็อาศัยอำนาจอันวิปริตขอรับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ให้แก่ผู้ต้องปาราชิกอีก ซึ่งเป็นการล่วงละเมิดที่ร้ายแรงและเป็นการทำผิดกฎหมายที่ร้ายแรง
    http://www.naewna.com/politic/columnist/22698
     
    conservative, Anduril, กีรเต้ และอีก 1 คน ถูกใจ.
  17. HOT BOY

    HOT BOY สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    31 Jan 2015
    คะแนนถูกใจ:
    53
    ท่านธัมมชโยก็ได้นำเงินไปบริจาคคืนวัดแล้ว ที่ดำเนินการที่ผ่านมาใส่ชื่อตัวเอง
    เกิดจากความตั้งใจดี เพราะท่านธัมมชโย ต้องการให้ทรัพย์สินทั้งหมดเป็นสมบัติของชาติ
    เป็นสมบัติศาสนา ผมก็ยอมรับว่าใส่ชื่อตัวเองมันผิด ไม่ถูก
    แต่ท่านก็ได้ดำเนินการนำทรัพย์สินเหล่านั้นไปคืนในรูปแบบการบริจาคคืนให้วัดแล้ว
    .... เรื่องนี้มันจบไปแล้วแบบขาวสะอาดบริสุทธุ์ ผมไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด
    จึงมีการจุดประเด็นเพื่อเชื่อมโยงกับปัญหาหลักที่เกิดขึ้นอีก
    วอนผู้ไม่หวังดีต่อชาติบ้านเมืองให้หยุดโจมตีเถอะครับ[​IMG]
     
  18. มิติใหม่

    มิติใหม่ อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,837
    ถ้าคืนแล้วจบ พวกคุณมึงไปตามบี้เรื่องอุทยานราชภักดิ์ทำไม
     
    JSN, ชายน้ำ, suraphan07 และอีก 2 คน ถูกใจ
  19. redfrog53

    redfrog53 อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,466
    คงต้องจับสึก กลุ่มนี้ก่อน?
    12661818_183158882044549_8139870436433857648_n.jpg
     
    Anduril likes this.
  20. redfrog53

    redfrog53 อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,466
    นี้ก้อสึกเถิด อย่าถ่วงศาสนาให้ต่ำกว่านี้เลย
    12642737_183161015377669_1512540014147173134_n.jpg

    อีก 2ปี น่าจัดเข้าขบวนการจัดการได้อยู่ จุดไหนสางได้กวาดทิ้งเลย ขออย่ากวาดซุกใต้พรมเกลี่ยกระจายก้อพอ อย่างน้อยๆ ก้อบ่งบอกว่าเลิกสนับสนุนศิลจอมปลอม อเวศิล ศิล5 รักษาไม่ได้ อย่าอยู่หลอกคนว่าอยู่ในศิล 227 เลย

    12654377_183186042041833_6367719364169664642_n.jpg


    12645042_1038841186187095_831182664648184639_n.jpg


    ล้วนไม่ใช่ทั้งนั้น ผิดรูปผิดแบบหมดแล้ว ปรับเถิด!! อย่าให้เลวร้ายกว่านี้
     
    ปู่ยง likes this.
  21. redfrog53

    redfrog53 อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,466
    12615354_1068977683154340_1185598004358953985_o.jpg

    ถ้าทำได้ถูกต้องตามสิ่งที่ควรเป็น ชื่อเสียงท่านจะปรากฏไปนาน เท่านานที่มีการเอ่ยขานถึง "ตำนานธรรมกาย"
     
    ปู่ยง, JSN, suraphan07 และอีก 2 คน ถูกใจ
  22. อู๋ คาลบี้

    อู๋ คาลบี้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    15 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,204


    ความผิดสำเร็จไปแล้ว ... จะพ้นความผิดได้ยังไง
     
    มิติใหม่, JSN และ suraphan07 ถูกใจ
  23. JSN

    JSN อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,746
    นั่นคือหนึ่งประเด็น ในทางกฎหมายเองถือว่า ความผิดสำเร็จแล้ว ทำมี่ยังอยู่ภายในกฎหมายบ้านเมือง และสิ่งที่ทำคือ ยักยอกทรัพย์ ดังนั้น ตามพระธรรมวินัย ทำมี่ปาราชิกและพระสังฆราชได้มีพระลิขิตแล้ว
    เรื่องที่สอง การเทศน์มุสาว่า แม่ชีปัดระเบิด
    เรื่องที่สาม การวิจารณ์พระพุทธเจ้า ยกตนเหนือพระพุทธเจ้า
    เรื่องที่สี่ หลอกให้ทำบุญเพื่อขึ้นสวรรค์ชั้นสูงๆ ทั้งๆที่ศาสนาพุทธสอนให้ไปถึงนิพพาน

    สมควรมั้ย ใครกันแน่ที่ต้องหยุด
    เมื่อไหร่จะหวังดีต่อชาติบ้านเมือง
     
    Last edited: 5 Feb 2016
  24. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482

    ***************************************************



    3 ก.พ. l ข่าว 09.00 น.วานนี้เจ้าหน้าที่ได้พิจารณาประเด็นความผิดของกลุ่มผู้รับเช็คจากอดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งดีเอสไอและอัยการ ได้เห็นชอบดำเนินคดี กับกลุ่มวัดธรรมกายและเครือข่ายในข้อหารับของโจรและฟอกเงิน
     
    ชายน้ำ likes this.
  25. JSN

    JSN อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,746
    ทะเบียน ขม.99 คงจะขมจริงๆแล้วหล่ะ
     
  26. เผด็จการที่รัก

    เผด็จการที่รัก อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,076
    ปล้นเงิน7-11พอโดนจับได้โจรเลยคืนเงิน คดีจบมั๊ย?
     
    emujack, อู๋ คาลบี้, JSN และอีก 1 คน ถูกใจ.
  27. ปู่ยง

    ปู่ยง อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,820
    ถ้าในประเทศล้านา ถือว่าจบครับ หรือถ้าโจรถูกทำร้าย ต้องจ่ายค่าทำขวัญให้โจรแถมด้วย
     
    emujack และ JSN ถูกใจ.
  28. Arch_Freeman

    Arch_Freeman สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    1 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    244
    บอกตามตรงว่า ถ้านายกเลือกปรับ มรว.ปรีดียาธร ออกได้ ทำไม นายกฯ ยังไม่กล้าปลดนายสุวพันธ์ อะไรเนี่ยออกเสียที ทำงานมาเป็นปี จนเสร็จงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงศพสมเด็จพระสังฆราชไปแล้ว ก็ยังไม่สามารถจัดการกับวัดพระธรรมกายได้

    ผมคิดว่า คะแนนนิยมรัฐบาลชุดนี้จะค่อยๆ ลดลง เพราะการทำงานแบบลูบหน้าปะจมูก วงการพระสงฆ์ฉาวโฉ่วขนาดนี้ ยังไม่ยอมทำอะไร มติชนก็ปล่อยให้มันเขียนแอบด่า แอบปลุกระดม สร้างความเข้าใจผิดไปเรื่อยๆ เลี้ยงไปๆ ไม่จัดการสื่อชั่วอันนี้เสียที

    รอวันฉิบหายได้เลยครับ ผมขอทาย ทั้งเรื่องตำรวจ รถไฟ พระสงฆ์ ไม่ได้แก้อะไรเลย เละลงเรื่อยๆ
     
    ปู่ยง และ JSN ถูกใจ.
  29. temp

    temp อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    9 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    868
    http://www.matichon.co.th/news/26006
    “ผอ.ดีเอสไอ”ชี้ “พศ.”ไม่พิจารณากรณี “พระธัมมชโย” อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
    เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษส่งหนังสือถึง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธ ศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เพื่อให้พิจารณา พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ต้องอาบัติปาราชิกตามพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราช หลังการถือครองที่ดินและทรัพย์สินเข้าข่ายกระทำผิด ว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 และอยู่ในความรับผิดชอบของ มหาเถรสมาคม (มส.) ที่จะต้องวินิจฉัยกรณีดังกล่าวว่าผิดหรือไม่ หากผลออกมาเป็นอย่างไรต้องดูกันอีกที โดยหนังสือจากดีเอสไอ ยังไม่ใช่การชี้มูลความผิด แต่เป็นการแจ้งประสาน พศ. ให้ดำเนินการและหากไม่ดำเนินการ พศ. ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐอาจมีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
    พ.ต.ต.วรณัน กล่าวต่อว่า ดีเอสไอ ส่งหนังสือให้ พศ. ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยทาง พศ. ทำหน้าที่เลขานุการของ มส. ไม่มีอำนาจกำหนดให้พระปาราชิกได้ แต่สามารถเสนอเรื่องเข้าการประชุมของ มส. เพื่อให้พิจารณาในลำดับต่อไป ส่วนการประชุมของ มส. จะมีมติอย่างไรตอบไม่ได้แต่จะต้องมีการแจ้งตอบกลับมายังดีเอสไอ ให้ทราบถึงมติ มส. ออกมาเป็นอย่างไร หากมติ มส. ออกมาแล้ว และมีผู้ไม่เห็นด้วย สามารถใช้สิทธิในการดำเนินการฟ้องร้องคดีเองได้ หรือมาร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการเอาผิดกับ มส. ได้ เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับมติของ มส. พร้อมกับเสนอให้รื้อกระบวนการพิจารณากันใหม่


    http://www.matichon.co.th/news/25987
    “ชยพล” ลั่นมีคำตอบให้ดีเอสไอกรณี ‘ธัมมชโย’ แล้ว พร้อมตอบทุกข้อสงสัยสัปดาห์หน้า
    เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ นายชยพล พงษ์สีดา รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า กรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งหนังสือเรื่องให้ดำเนินการต่อนายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการ พศ.โดยเนื้อหาในหนังสือระบุให้ผู้อำนวยการ พศ.พิจารณาดำเนินการกับพระเทพญาณมหามุนี (พระธัมมชโย) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และเจ้าคณะผู้ปกครองที่เกี่ยวข้อง ที่น่าจะเข้าข่ายกระทำผิดอาญา จากกรณีการถือครองที่ดิน และทรัพย์สิน จนเป็นสาเหตุให้สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระลิขิตให้ต้องอาบัติปาราชิกนั้น พศ.ได้ศึกษาในข้อสงสัยตามที่ดีเอสไอระบุในหนังสือเข้าใจแล้วทุกรายละเอียด และ พศ.มีคำตอบสำหรับทุกข้อสงสัยนั้นแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ อย่างไรก็ตาม ตนขอหารือกับคณะสงฆ์ และทีมงานของ พศ.ให้ละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะเข้าพบดีเอสไอภายในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ อาจจัดแถลงเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นทางการ
     
    Last edited: 5 Feb 2016
  30. HOT BOY

    HOT BOY สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    31 Jan 2015
    คะแนนถูกใจ:
    53
    เงินที่ปล้นมา ก็เอาไปบริจาคแล้ว จะเอาอะไรอีก จบๆกันไปเถอะ
     
  31. JSN

    JSN อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,746
    ก็ความผิดสำเร็จแล้วนี่ ปล้นเขามา ไม่ใช่ให้ด้วยความเต็มใจ ไม่ใช่คืนแล้วจบ บ้านเมืองมีขื่อมีแปนะ
     
  32. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482
    สงสัยจะโดน 157 กันทั้ง พศ. ทั้ง มส. แล้วละมั้ง



    สำนักพุทธ-ผู้แทน มส.หารือดีเอสไอ 2 ประเด็นทั้งกรณีพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชและคดีพระธัมมชโย ขณะที่พระพรหมบัณฑิตกรรมการมส.ชี้แจงหลักธรรมวินัยให้ดีเอสไอเข้าใจ ขณะที่รองผอ.พศ. เตรียมเสนอข้อมูหารือต่อมส. 10 ก.พ.นี้

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ผู้แทนสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้มาหารือร่วมกับ พระพรหมบัณฑิตและพระพรหมโมลี ผู้แทนมหาเถรสมาคม(มส.) นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) นายชยพล พงษ์สีดา รองผอ.พศ. เข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับกรณีพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช และกรณีที่เกี่ยวเนื่องกับ พระเทพญาณมหามุนี เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในข้อกล่าวหายักยอกทรัพย์ ว่า ผิดพระวินัยอาบัติปาราชิกหรือไม่ โดยประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมงที่สำนักงานพศ. อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม

    โดยนายชยพล พงษ์สีดา รองผอ.พศ. บอกหลังประชุมว่า ดีเอสไอสอบถามว่า พศ. และ มส. ว่าเข้าใจตรงกันเกี่ยวกับข้อคำถามหรือไม่ใน 2 เรื่อง คือ 1.การตอบสนองพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชทาง พศ.และ มส.ได้สนองตอบอย่างไรบ้าง โดยพระพรหมบัณฑิต และ พศ. ชี้แจงว่า การตอบสนองพระลิขิตต้องให้เป็นไปตามพระธรรมวินัย กฎ มส. และกฎหมาย

    2. เกี่ยวกับหลักการพิจารณาคณะผู้วินิจฉัย นิคหกรรม เกี่ยวกับกรณีพระธัมมชโยว่า ทางพศ.และมส.มีหลักการพิจารณาอย่างไร ซึ่งพระพรหมบัณฑิตตอบดีเอสไอไปว่า การวินิจฉัยของคณะสงฆ์ได้ยึดหลักการวินิจฉัยตามพระธรรมวินัย และหลักของกฎหมาย โดยเฉพาะกฎนิคหกรรม โดยในเรื่องการยักยอกเงินตามหลักพระธรรมวินัยจะมีหลักองค์ประกอบพิจารณาอยู่แล้วว่า ภิกษุที่จะเข้าข่ายอาบัติปาราชิกจากกรณีนี้จะต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง โดยในพระธรรมวินัยกำหนดชัดเจนอยู่แล้ว แต่ในการหารือยังไม่ได้ชี้ชัดเกี่ยวกับโทษว่าปาราชิกหรือไม่ เพียงแต่ตอบโดยหลักการพิจารณาให้ดีเอสไอเข้าใจเท่านั้น ทั้งนี้ พศ.จะนำข้อหารือนี้เสนอให้ มส. พิจารณา โดยจะจัดทำสรุปรายงานให้ทันเพื่อนำเสนอในการประชุม มส. ในวันที่ 10 ก.พ.นี้



    ยังคงมีความเคลื่อนไหวกดดันให้มหาเถรสมาคมดำเนินการกับพระธัมมชโยแห่งวัดพระธรรมกาย โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติหน้าที่ตามพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราช ซึ่ง มส.เคยมีมติรับรองไว้แล้ว แต่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกรมสอบสวนคดีพิเศษต้องทำหนังสือทวงถาม

    นายไพบูลย์ นิติตะวัน และ นายแพทย์ มโน เลาหวณิช อดีตประธานและกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ ได้เปิดแถลงข่าวที่รัฐสภา เกี่ยวกับการประชุมมหาเถรสมาคม หรือ มส.ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้

    โดย นายไพบูลย์ กล่าวว่า การประชุม มส.ในวันพรุ่งนี้ มส.ต้องดำเนินการตามหนังสือของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ ยธ 0805/56 ลงวันที่ 8 มกราคม 2559 ที่ให้ มส.ดำเนินการตามพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราช ให้พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ต้องอาบัติปาราชิก ซึ่งมหาเถรสมาคมเคยมีมติรับรองไว้แล้ว

    ฉะนั้น ประธานคณะกรรมการมหาเถรสมาคม ซึ่งก็คือ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) และกรรมการมหาเถรสมาคม ผู้มีอำนาจหน้าที่ จะต้องติดตามดำเนินการให้พระธัมมชโยสละสมณเพศ ตามกฏมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 21 (พ.ศ.2538) ข้อที่ 6 และ 7 หากไม่ดำเนินการ หรือมีความพยายามบ่ายเบี่ยงโดยไม่คำนึงถึงหน้าที่ตามกฎหมายที่ต้องปฏิบัติในฐานะหน่วยงานรัฐ และเจ้าพนักงานของรัฐ อาจถูกกล่าวหาว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
     

Share This Page