หลายครั้งหลายหนที่กลุ่มนี้ตั้งใจพูดความจริงครึ่งเดียว ผมเข้าใจนะว่าแนวร่วมมันน้อย แต่ไม่สมควรทำอย่างนี้เพื่อหาแนวร่วมนะครับ พฤติกรรมมันไม่ต่างกับเสื้อแดงเลย ของจริงเป็นเรื่องโจรใต้นะ http://siangtai.com/new/index6.php?name=news&file=readnews&id=19260
เขานัดกันชุมนุมหน้าทำเนียบวันพรุ่งนี้ พอมะรืนกระทรวงการคลังก็จะยื่นฟ้องยิ่งเละพอดี ถัดไปอีก 2 วัน อัยการก็จะส่งฟ้องยิ่งเละอีก ทำไมมันประจวบเหมาะกันแบบนี้หนอ ????
เค้าแค่อยากให้เลือนการเปิดสัมปทานไปก่อน ไว้รอเลือกตั้ง แล้วพรรคเผาไทยชนะ ค่อยให้พรรคเผาไทยเปิดสัมปทาน ตอนนี้แค่คิดว่า ทำอย่างไรจะได้เลือกตั้งเร็วๆ อยากโหวตโน เต็มที่แล้ว
ทำเรื่องแบบนี้ขึ้นมาคงเพียงต้องการให้ ปลดปิยสวัสดิ์ เท่านั้นแหละ เพราะเห็นเขียน วิธีแก้ปัญหาไว้คือ "อันดับแรกปลดปิยสวัสดิ์ก่อนเลยครับ" สงสัยว่าแล้ว คุรุจิต ไม่ปลดหรือ เห็นตามด่าเขาอยู่เหมือนกันไม่ใช่เหรอ หรือว่าเป็นคนละกลุ่มกัน มีทั้งกลุ่มปลดปิยสวัสดิ์ มีทั้งกลุ่ม ปลด คุรุจิต แล้วกลุ่มที่บอกว่า กลัวประเทศชาติเสียอธิปไตย ล่ะ ต้องการปลดใคร ทำไม่ไม่เสนอมาที่เดียวเลย คสช เขาจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาทีละกลุ่ม
เรื่องพลังงานเนี่ย เป็นอะไรที่มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อน เต็มไปด้วยรายละเอียดมากมายและเกี่ยวพันกับผลประโยชน์มหาศาล ชนิดฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะใช้ความพยายามทุกรูปแบบ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของพวกตนไว้ ผมจึงไม่ค่อยลงรายละเอียดมากเพราะแค่อ่านก็ตาลายแล้ว ถ้าต้องมาขบคิดวิเคราะห์ด้วย ... ปวดหัวแน่ ๆ แต่ในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง ก็จำเป็นต้องเลือกสนับสนุน ฝ่ายที่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติมากที่สุด คำถามที่เคยคิดก็คือ "แล้วฝ่ายที่ว่ามันคือฝ่ายไหนล่ะ" หลังจากขบคิดแบบรวบรัดไม่ต้องให้เส้นโลหิตในสมองโป่งพองมาก .... ก็เลยฟันธงบอกกับตัวเองว่า จะเชื่อในแนวทางของฝ่ายที่ได้รับการสนับสนุนจาก มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กับ ชมรมแพทย์ชนบท เพราะ 2 องค์กรนี้ได้พิสูจน์ตัวเองมานานแล้วว่า คิด+วิเคราะห์+เคลื่อนไหว ในแนวทางที่เกิดประโยชน์แก่ผู้บริโภคและประชาชนสูงสุด .... แล้วก็มีผู้มีความรู้ความสามารถ มีปัญญา ที่พอเชื่อได้ว่า สิ่งที่คิดออกมาต้องคัดแล้วคัดอีก เลือกแล้วเลือกอีก ว่าดีสำหรับคนไทย
ผมว่า พวกนี้ดูสุดโต่งไงก็ไม่รู้ มีแต่ ข้อมูลทางวิชาการ แต่ข้อเท็จจริงอยู่ใต้ดิน ยังไม่มีใครรู้จริงซักคน
นพ.กิติภูมิ จุฑาสมิต กล่าวเปิดงาน "การเลือกตั้งที่(รัก)ลัก" http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1423908434 นพ.กิติภูมิ จุฑาสมิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ศิษย์เก่าแพทย์ศิริราช รุ่น ๙๒ เป็นผู้ได้รับรางวัลแพทย์ดีเด่นในชนบท ประจำปี ๒๕๕๒
โดยส่วนตัวผมนับถือ นพ.กิติภูมิ จากหน้าที่การงานนะ ตั้งแต่จบไปทำงานก็อยู่ในภาคอีสานและจังหวัดศรีสะเกษมาตลอด ร่วม 30 ปี แล้ว แต่แนวความคิดทางการเมือง ยิ่งเข้าร่วมกิจกรรมของพวกโลกสวยประเภท รักการกาบัตรยิ่งชีพ โดยไม่ได้ใช้ปัญญาพิจารณาว่าทำไมประเทศไทยถึงต้องเดินมาถึงจุดนี้ ก็อยากบอก หมอยิวว่า กลับไปเอาดีทางรักษาคนไข้ต่อเถอะ แต่ถ้าจะเอาแนวความคิดส่วนตัวของหมอ 1 คน มาตัดสินว่า ชมรมแพทย์ชนบทไม่น่าเชื่อถือ ผมว่าก็เป็นการไม่พินิจวิเคราะห์ที่ดีพอเหมือนกันนะครับ
พูดถึงพลังงาน อ่านไปเจอข่าว อลงกรณ์ พูดถึงว่ากำลังการผลิตไฟฟ้าของไทยเกิน และก็จะเกินเยอะไปอีกใน 6 ปีข้างหน้า อยากรู้ว่าแกไปเอาข้อมูลมาจากไหนครับ ความต้องการการใช้ไฟฟ้ามีแต่จะเพิ่มในขณะที่โรงไฟฟ้าตอนนี้ไม่ได้สร้างเพิ่ม แถมแค่ตอนพม่าซ่อมท่อส่งก๊าซตอนนั้นยังวิตกกันว่าจะไม่พอผลิตไฟฟ้าเลย
ผมมองว่า มันเป็นการมองกลับหัวกลับหางกัน ระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มที่ออกมาต่อต้าน คือทั้งสองข้างมองเรื่องประโยชน์ของชาติและประชาชนเหมือนกัน อาจมีแกนนำบางคนบางกลุ่มเท่านั้นที่มุ่งเน้นกับตัวบุคคล ซึ่งอันนี้ก็เป็นเรื่องของแต่ละคนที่ต้องไปหาปูมหลังเอาว่า คุณมีปัญหาอะไรกันนักหนา แต่ถ้าดูโดยภาพรวม ๆ แล้ว ทั้งสองฝ่ายต่างก็มุ่งเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนเหมือนกัน เพียงแต่มองกลับหัวกลับหางกัน ที่มองกลับหัวกลับหางกันก็คือ รัฐมองว่าปริมาณสำรองของพลังงานที่มีอยู่มันใช้ได้อีกไม่กี่ปี จำเป็นต้องหาเพิ่มเพื่อความมั่นคงด้านพลังงาน ขณะที่กลุ่มต่อต้านก็คัดค้านบอกอย่าเพิ่งหา มาตกลงกันก่อนว่าจะหาแบบไหนที่จะให้ประโยชน์สูงสุดแก่ชาติและประชาชน ตรงนี้ผมเห็นท่านประยุทธพูดสองครั้งแล้วว่า คัดค้านไม่ให้เปิดสัมปทาน ถ้าในอนาคตเกิดปัญหาขึ้นผู้คัดค้านต้องรับผิดชอบนะ รัฐมองว่าประโยชน์ของชาติและประชาชนคือ มีพลังงานใช้โดยไม่ขาดแคลนเป็นเรื่องหลัก ส่วนราคาพลังงานจะถูกจะแพงเป็นเรื่องรอง เพราะถ้ามันขาดแคลนขึ้นมาราคาถูกหรือแพงก็ไม่มีความหมาย แต่กลุ่มต่อต้านมองว่าพลังงานเป็นทรัพยากรของชาติ เพราะฉะนั้นชาติและประชาชนต้องได้ประโยชน์สูงสุดจากทรัพยากรนี้ แล้วประโยชน์สูงสุดจริง ๆ มันคืออะไรล่ะ ตัวเงินจากการขุดทรัพยากรมาขาย หรือการมีทรัพยากรใช้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ขาดแคลน การพูดว่าพลังงานเราจะขาดแคลนในตอนนี้อาจดูเป็นเรื่องตลก เพราะมันเป็นเรื่องในอนาคตอีก 5 ปี 10 ปี บางคนก็บอกว่า ไม่จำเป็น ถ้าเกิดขาดแคลนขึ้นมาเราก็ซื้อจากต่างประเทศได้ เพราะทุกวันเราก็ต้องนำเข้าพลังงานอยู่แล้ว เหตุมันยังไม่เกิดครับ แต่ละคนก็พูดกันไปได้ร้อยแปดแหละ และถ้าถึงเวลาที่มันเกิดขึ้น ไฟฟ้าดับทั้งเมือง ราคาน้ำมันลิตรละ 100 อาจจะหาซื้อไม่ได้ จะมีใครรับผิดชอบอย่างที่ท่านประยุทธถามหรือไม่ หรือลืมหมดแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น ประเด็นที่คัดค้านการเปิดสัมปทานจริง ๆ มันคืออะไร เท่าที่ผมพยายามจับความหลัก ๆ ได้ เห็นบอกว่ามันเป็นการยกทรัพยากรของประเทศให้ต่างชาติไปเลย เหมือนกับเราเสียอธิปไตยของชาติ นี่เป็นการพูดเกินเลยไปหรือเปล่าครับ เอาประเด็นกันชัด ๆ อีกประเด็นหนึ่งก็คือ ถ้าเป็นการใช้สัญญาแบบแบ่งปันผลผลิต อันนี้รับได้ ขุดเจาะไปเลยเพราะประเทศชาติประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด ถ้าเป็นประเด็นเรื่องสัญญานี่ เรื่องอื่นก็ต้องเลิกพูด ได้แล้วนะครับ เช่น ทำไมต้องรีบเจาะสำรวจมันเอื้อประโยชน์ให้เชฟร่อนนี่หว่า ตอนนี้ประเด็นมันก็น่าจะมาอยู่ที่เรื่องของสัญญาเท่านั้นแหละที่มีความเห็นต่างกัน กลุ่มต่อต้านอยากให้ใช้สัญญาแบบแบ่งปันผลิต ขณะที่รัฐอยากใช้การให้สัมปทาน มันก็ต้องไปศึกษาเรื่องสัญญานี้เท่านั้นแหละว่า แบบไหนมันให้ผลประโยชน์กับชาติและประชาชนมากกว่ากัน แต่เท่าที่ผมดูมาตลอดนี่ ในส่วนของผมเองผมมองว่า กลุ่มคัดค้านติดกระดุมเม็ดแรกผิด ตั้งแต่บอกว่าประเทศไทยมีน้ำมันมากมายมหาศาลแล้ว แต่ก็ยังเดินมาเรื่อยจนมาถึงเรื่องสัญญา โดยไม่ยอมฟังการชี้แจงของภาครัฐเลย หลายเรื่องที่เอาข้อมูลผิด ๆ มาเผยแพร่ พอเขาชี้แจง ก็เปลี่ยนไปเรื่องใหม่อีก ไม่จบไม่สิ้น น้ำมัน มันอยู่ลึกลงไปใต้ดิน ไม่มีใครรู้หรอกว่ามันมีมากหรือมีน้อยจนกว่าจะได้เจาะสำรวจ แต่จากสถิติของภาครัฐที่ผ่านมา เขาบอกว่าของเราเจาะลงไป 10 หลุมเจอหลุ่มหนึ่ง แล้วที่เจอนี่ก็ไม่ใช่มากมายบางหลุมก็ไม่คุ้มที่จะดูดขึ้นมาใช้ในเชิงพาณิชย์ เพราะฉะนั้นถ้าจะนำขึ้นมาใช้ได้ก็ต้องเจาะหาไปเรื่อย พูดง่าย ๆ ก็คือถ้า 10 หลุมเจอหลุมหนึ่ง เจาะ 20 หลุมก็เจอ 2 หลุม ค่าลงทุนในการเจาะ หลุมละ 100 ล้านถึง 300 ล้านบาท คิดแค่หลุมละ 100 ล้าน เจาะ 20 หลุม หมดไป 2000 ล้าน ยังไม่รวมค่าพัฒนาหลุมเพื่อนำขึ้นมาใช้เชิงพาณิชย์อีก ซึ่งเขาบอกว่าต้องใช้เงินมากมายมหาศาล ถ้าใช้สัญญาแบบแบ่งปันผลผลิต เราต้องไปร่วมลงทุนกับเขา ถ้าเจาะแล้วไม่เจอ หรือเจอแล้วไม่คุ้ม เงินสูญเปล่าเลยนะครับ ไอ้ที่บริษัทน้ำมันมาลงทุนนี่ เขาบอกว่าเจาะไปแล้วเป็นพัน ๆ หลุม แต่ที่ดูดขึ้นมาใช้ได้นี่ มีจำนวน เป็นร้อยหลุมแค่นั้น ซึ่งถ้าสถิติมันเป็นอย่างนี้ ผมมองไม่เห็นว่าจะดิ้นรนไปใช้สัญญาแบบแบ่งปันผลผลิตเพื่ออะไร
การขุดเจาะน้ำมันแต่ละครัั้ง จะขุดแล้วเจอหรือไม่เจอ มากหรือน้อย ก็ต้องลงทุนกันมหาศาลครับ เป็นการลงทุนกับอะไรก็ไม่รู้ที่อยู่ใต้ดิน มองก็ไม่เห็น การบอกว่าตรงนี้มี ก็แค่ใช้เครื่องมือที่มี ไม่ได้มีโดราเอมอน ที่จะมีของวิเศษพาลงไปดูได้ซักหน่อย ความเสี่ยงมีอยู่ตลอดเวลาครับ ฉะนั้นเรื่องพลังงานนี่เรื่องใหญ่ตั้งแต่ต้นเลย
จากที่ผมฟังมา เรื่องการขุดเจาะน้ำมัน ปตท ทำเองได้ ทำไมต้องใช้ต่างชาติ และอีกอย่าง การใช้ต่างชาติมาลงทุน ถ้าขุดเจาะแล้ว บางที่เจอ บางที่ไม่เจอ เอาค่าใช้จ่ายมาหักกลบลบกันได้ ตรงนี้ที่คนสงสัยกันมากกว่า ถ้าอย่างนั้น ทำไม ปตท ไม่ทำเองไปซะเลย ยังไงก็เป็นสมบัติชาติ ส่วนเรื่องเอาภาพมาตัดต่อให้เกินจริง อันนี้ผมล่ะโคตรเกลียดเลย การจะได้เสียงมวลชน ต้องโกหก เพื่อให้ได้มาซึ่งเป้าหมาย มันจะทำลายตัวเองในไม่ช้า
ระบบ การประมูล แข่งขัน เรื่อง ราคา ปตท สพ เอง ก็เข้าร่วม แต่ กลับ ไม่ได้ แสดงว่า สู้ ต้นทุน Chevron ไม่ได้