เขาเรียกเป็นกลเกมส์ครับ จับนั่นโยงนี่ แล้วเอามาโจมตี ทู่ซี้กล่าวหา ลอยๆ สมัยก่อนใช้โดย ลัทธิคอมมิวนีสต์ แต่ปัจจุบัน ข่าวสาร ประชาชน สามารถรับรู้ทันแล้ว ถ้าใช้ต้องใช้ในสังคมปิด หรือยุคที่ความก้าวหน้าทางการสื่อสาร ยังไม่พัฒนาเท่าที่ควร อาจโจมตีโดยใช้เสียงตามสาย แจกใบปลิว ตามหมู่บ้าน
ทุกครั้งที่ผมอ่านความเห็นของ คนกลาง ผมแปลกใจในคำพูดที่คนกลางเคยบอกนะว่า บางครั้งเคยคุยกับคนรู้จักถูกมองว่าเป็นประชาธิปัตย์ กปปส. เพราะอ่านจากความเห็นในที่นี้ ไม่เคยมีครั้งไหนที่ชื่นชม หรือ สนับสนุนเลยนะ นอกจากว่าเป็นคน 2บุคลิก
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยัน การที่ออกมาให้ความเห็นเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ ไม่มีประโยชน์ส่วนตัว หรือ ผลประโยชน์พรรค และยืนยัน จะเดินหน้าให้ความเห็นต่อไป หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บอกว่า การที่เขาแสดงออกมาความเห็น เป็นไปโดยสุจริต อยู่บนหลักการทำเพื่อประเทศชาติ เหมือนกับนายกรัฐมนตรีและกลัวในสิ่งเดียวกัน เพราะเขาเชื่อว่า บ้านเมืองจะเกิดความวุ่นวายและเดินหน้าต่อไม่ได้ จากการอนุญาตให้ สว.สรรหา 250 คน เลือกนายกฯ และเมื่อมีเจตนาเดียวกัน ก็ควรเอาเวลาไปช่วยกันขบคิด เพื่อหาทางออกอย่างไร คุณอภิสิทธิ์ ยืนยันด้วยว่า ประชาชนควรได้รู้ด้วย ว่า หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติแล้วประชาชนจะมีทางเลือกอย่างไร จึงจำเป็นต้องให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลให้มากที่สุด ไม่ใช่ต้องไปใช้สิทธิบนความไม่รู้ ความคาดการณ์ หรือความกลัว จึงเรียกร้องให้มีการเปิดเผยทุกอย่างให้ได้มากที่สุดเพื่อประโยชน์ของคนทั้งประเทศ ส่วนที่รัฐสภาวันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ได้พิจารณาตรวจสอบคำอธิบายสาระสำคัญเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะส่งหนังสือสรุปสาระสำคัญ ร่างรัฐธรรมนูญ 2 เล่ม ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง จัดพิมพ์เพื่อเผยแพร่ ก่อนการลงประชามติ ในวันที่ 7 สิงหาคม ซึ่งคำอธิบายสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ จะแบ่งออกเป็น 2 เล่ม เล่มแรกมี 35 หน้า เป็นการอธิบายสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญทั้งหมดเพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจเนื้อหา ส่วนเล่มที่ 2 มี 14 หน้า เป็นการสรุปย่อสาระสำคัญ 10 ประเด็น เช่น เรื่องสิทธิเสรีภาพ วิธีการเลือกตั้ง การได้มาของส.ว. เล่มนี้จะมีภาพประกอบคำอธิบายซึ่ง ประธาน กรธ.เชื่อว่า หากได้อ่านรายละเอียดของร่างรัฐธรรมนูญสรุปย่อทั้ง 2 เล่มนี้ จะเกิดความเข้าใจ ************************************************* เพื่อความสมบูรณ์ของข้อมูล เอาตอนอภิสิทธิ์แถลงวันแรกไปด้วยละกัน
ถ้าประชามติผ่านขึ้นมา ก้เป็นได้สองทาง มาร์คอาจสมหวังหรืออาจไปสอนหนังสือ ขึ้นกับท่าทีภายหลังผ่านประชามติ ถ้าไม่ผ่าน คสช ร่างเอง เจอฉบับมาร์คได้ลาออกไปสอนหนังสือ การมาประกาศจุดยืนช่วงนี้ เวลานี้ ไม่เกิดประโยชน์ หรือผลดีต่อคะแนนนิยมของทั้งตัวเองและพรรคเลย แล้วตกลงพรรคมีไว้ตอบสนองประชาชน กลุ่มใหนกันแน่ หรือตอบสนองแค่สมาชิกของพรรค
แต่แรก แต่ไหน คนที่ปฏิเสธไม่รับร่างตั้งแต่ร่างยังไม่เสร็จ น่าจะทำให้งงมากกว่ามั้ง ยังเขียนไม่เสร็จเลยก็ไม่รับซะแล้ว ตกลงไม่รับเพราะไม่ชอบร่างหรือไม่ชอบคนร่างครับ