วันนี้(11 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เครือข่ายพรรคเพื่อไทย ใช้โอกาสช่วงสงกรานต์ นำขันน้ำสีแดง ที่มีข้อความ และลายเซ็นของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งในพื้นที่ภาคเหนือ-อีสาน จนฝ่ายทหารออกตรวจยึด-ดำเนินคดีแล้วหลายท้องที่ เพราะมองว่า เป็นการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง ล่าสุดมีรายงานว่า เครือข่ายพรรคประชาธิปัตย์ ก็มีการนำสิ่งของและขันน้ำ ซึ่งสกรีนภาพนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกแจกจ่ายให้กับฐานเสียงในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร ช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ด้วยเช่นกัน โดยจะเริ่มแจกจ่ายให้ผู้สูงอายุเขต อ.พรานกระต่าย และ อ.เมืองกำแพงเพชร ในวันนี้(11 เม.ย.) ต่อมาเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบข้อเท็จจริงที่อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรค ปชป. 2 ราย ๆแรกพบมีการเตรียมชุดยาสามัญประจำบ้าน ที่มีการนำสติกเกอร์ภาพของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกอบตัวอักษรว่า "ด้วยรักและห่วงใย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์" จำนวน 1,271 กล่อง จึงขอนำมาเก็บไว้ เพื่อดำเนินการต่อไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ยังได้เดินทางไปพบกับอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรค ปชป.อีกราย แต่ไม่พบสิ่งของที่จะแจกจ่ายแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม จากการขยายผลตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่า กล่องยาสามัญประจำบ้านดังกล่าว ถูกนำออกแจกจ่ายผ่านเครือข่ายผู้นำกลุ่มองค์กรบางส่วนแล้ว เจ้าหน้าที่จึงติดตามไปนำกลับมาเก็บไว้ เพื่อรอดำเนินการต่อไปทั้งหมด http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000037148 กลัวแพ้เลือกตั้ง เลยหาเสียงก่อน ยังไงก็แพ้ เพื่อไทย
ดร. ทักษิณ ไม่ได้เกี่ยวกับ เพื่อไทย แจกขันแดง ซึ่งไม่เกี่ยวเลย มีหลักฐานไหมว่า ขันแดงเกี่ยวกับเพื่อไทย
นายชลน่านเปิดเผยว่า ทางพรรคดำเนินการจัดส่งขันแดงมาให้ และยอมรับว่าลำบากใจที่จะแจกจ่ายเนื่องจากทราบดีว่าจะเป็นกระแสโยงการเมือง และกังวลจนถึงขั้นคิดว่าจะต้องหาผ้าขนหนูมาห่อหุ้มขันก่อนแจก แต่ก็ถูกฝ่ายทหารตรวจยึดไปก่อน http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000036293
ไอ้แม้ว ไม่ได้เกี่ยวกับ เพื่อไทย ??? แล้วที่ออกมาเป่ากระหม่อมพวกกาสรสีชาดที่หน้าจอสไกป์ในงานพรรคเพื่อไทย นี่มันหมาตัวไหนมิทราบ วานบอก ??? ************************************************ อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร สไกป์สายตรงถึงสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยส่งสัญญาณให้เร่งลงพื้นที่พบประชาชน เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อน อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ส่งสไกป์เข้ามาในงานวัดรดน้ำสงกรานต์ของพรรคเพื่อไทย ที่มีอดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รวมถึง แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีต ส.ส.ของพรรคหลายคนเข้าร่วม อดีตนายกฯ ทักษิณ ระบุว่า อยากให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคน ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชน เพราะตอนนี้กำลังเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้ว และปัญหาเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ บอกด้วยว่า นักการเมืองต้องรักประชาชน เพราะประชาชนคือประชาธิปไตย หากนักการเมืองไม่รักประชาชน ประชาธิปไตยก็จะกลายเป็นประชาธิปตาย คุณทักษิณ บอกด้วยว่า ที่ผ่านมา ถึงแม้จะไม่ได้อยู่เมืองไทย แต่ก็ได้ติดตามข่าวสารมาตลอดว่า และรู้ว่าอดีต ส.ส.คนไหนทำหรือไม่ทำงานให้กับพรรค / แม้หลายคนจะถูกทหารเชิญไปปรับทัศนคติ แต่ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง และไม่ควรอยู่กับความอิจฉา และความโกรธแค้น แต่ควรสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อนฝูง พรรค องค์กร หรือ ประเทศชาติ เพราะส่วนตัวอยากเห็นคนไทยมีความสุข เพื่อไทยจัดงานรดน้ำสงกรานต์ สืบสานประเพณีไทย “ทักษิณ” สไกป์ อวยพรลูกพรรค ให้คิดถึงประชาชนเป็นหลัก การเมืองจะดีได้เพราะนักการเมืองทำเพื่อประชาชน ขณะที่ยิ่งลักษณ์ อยากได้บรรยากาศสงกรานต์ที่มีแต่รอยยิ้ม วันนี้พรรคเพื่อไทย จัดงาน “รดน้ำสงกรานต์ สืบสานประเพณีไทย” รดน้ำดำหัวและอวยพร นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ / นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี / นายโภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา / นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ พลตำรวจโทวิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ โดยก่อนการรดน้ำนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้อวรพรให้กับสมาชิกพรรผ่านสไกป์ อยากเห็นคนไทยมีความสุข อย่าคิดว่าจะอยู่ได้เป็น 100 ปี ยังงัยทุกคนก็ต้องตาย อยู่ด้วยกันสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน หากอยู่ด้วยกันด้วยความอิจฉาริษยา โกรธแค้น ชีวิตยิ่งสั้น ซึ่งวิธีสร้างความรักที่ดีที่สุดคือสร้างความรัก พี่น้อง พ่อแม่ คนในครอบครัว พรรค คนไทยในประเทศ ขอบคุณทุกคนในพรรคที่ร่วมกันต่อสู้ ต่อสู้เพื่อให้มีความคิดสร้างสรรค์ ถ้านักการเมืองไม่รักประชาชน ประชาธิปไตย ก็เป็น ประชาธิปตาย การเมืองจะดีได้เพราะนักการเมืองทำเพื่อประชาชน ทุกคนต้องออกเยี่ยมประขาชน เพราะตอนนี้ประชาชนกำลังเดือดร้อนเหตุเศรษฐกิจย่ำแย่ ขณะที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์หลังเสร็จสิ้นการรดน้ำดำหัว ว่า อยากได้บรรยากาศสงกรานต์ที่มีแต่รอยยิ้มและมีความเห็นต่างกันได้ เพราะเราเป็นคนไทยด้วยกัน เราจะรักและจะประคองบรรยากาศสงกรานต์นี้ให้เป็นเหมือนกับทุกปี ทั้งนี้ขออวยพรให้ช่วงสงกรานต์เป็นโอกาสให้ทุกคนได้ร่วมสืบสานประเพณีไทย และขอให้มีแต่ความสุข สุขภาพแข็งแรง และสิ่งสำคัญคืออยากเห็นบรรยากาศที่มีรอยยิ้ม รวมถึงมีความสุขแม้ว่าช่วงนี้อากาศจะร้อนก็ตาม
แจกยา ผมว่าดีนะ คนส่วนใหญ่ มักจะเก็บไว้เป็นที่ เป็นทาง ใน บ้าน ในรถ หรือ บางคน แช่ตู้เย็นไว้ เป็นไข้ จะได้หามาทาน ได้ การจะนำมา แสดงเป็นสัญลักษณ์ นั้นยากครับ ไม่มีใคร ถือ กระปุกยาก แกว่งไป แกว่งมา วิ่งโร่ สาดน้ำ ในเทศกาลสงกรานต์ แต่ขันแดงสามารถ ทำได้ สวมหัว หรือห้อยหูไว้ ขึ้นกระบะบรรทุกโอ่งน้ำ สาดน้ำรอบเมือง
ขันจากโรงงาน ราคา 2 บาท ชาวบ้านเขาจะดูถูกเอา จำนำข้าว เจ้งหลายแสนล้านบาท แต่เอาขันราคา 2 บาท มาปลอบใจ
แจกยา ดูดีมีสกุล บางพรรคแจกขันแดง เหมือนจะเป็นโลโก้ว่าเอาไว้ขอทาน ดูสถุนเหมือนเจ้าของ คนอื่นเค้าแจกมือตบ ไอ้โง่มันแจกตีนตบ ไม่ได้มีสมองคิดเล้ย 5555
การแจกยากับแจกขัน แตกต่างกันยังไง มันอาจจะยากเกินกว่า จขกท.จะเข้าใจก็ได้นะครับ แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับทั้ง 2 กรณี
ผมก็ว่าน่าแปลก(หรือไม่แปลก) พวกเกิดใหม่ หัวใจเกรียน อายุในโปรไฟล์นี้ประมาณ 16 - 18 ทั้งนั้นเลย จะว่าวัยต่อต้าน หัวรุนแรง หรือมักง่ายใส่ส่งๆไปให้ผ่านตอนกรอกe-mail เพราะเสพติด การเปลี่ยนล็อคอินกับการตั้งกระทู้ใหม่
อีกเรื่องที่ผิด ก็ผิิดที่เครื่องหมายกาชาดบนกล่องนี่แหละ ถ้าจะใช้เครื่องหมายกากบาทตัวใหญ่ๆ ที่สื่อเรื่องการพยาบาล รักษาโรค จะใช้สีเขียวครับ
หลังจากพรรคประชาธิปัตย์ถูกยึดกล่องยาสามัญประจำบ้าน วันนี้มีคำชี้แจงจาก คสช.ว่า ต้องปฏิบัติอย่างเท่าเทียม เช่นเดียวกับกรณีขันของพรรคเพื่อไทย พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษก คสช. บอกว่า การปฏิบัติงานของ คสช. เป็นไปตามนโยบาย ว่า สิ่งของอะไรก็ตามที่เป็นเชิงสัญลักษณ์ และนำไปสู่การสร้างความสับสน แบ่งสีแบ่งฝ่าย ไม่ว่าการกระทำของใคร ต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายเดียวกัน แม้จะเป็นความปรารถนาดี แต่ช่วงเวลานี้เช่นนี้ น่าจะยังไม่เหมาะสม ขณะที่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บอกว่า การแจกกล่องยาสามัญประจำบ้านพรรคทำมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่ให้ทำ ก็ได้แจ้งกับสมาชิกให้ระงับรวมถึงโครงการอื่นๆ เช่นการแจกแว่นตา ปฏิทิน ซึ่งแต่เหล่านี้ไม่มีสัญลักษณ์การต่อสู้ที่จะทำให้เกิดปัญหาด้านความมั่นคง จึงพร้อมให้ความร่วมมือ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ทหาร ยึดกล่องยาสามัญประจำบ้านที่ติดสติ๊กเกอร์ภาพนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกับข้อความด้วยรักและห่วงใย รวมถึงผ้าเช็ดหน้าผืนเล็ก ที่บ้านพักของนายแพทย์ปรีชา มุสิกุล อดีต รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงวิทยาศาสตร์ และอดีตส.ส.จังหวัดกำแพงเพชรหลายสมัย เมื่อวันจันทร์ที่ 11เ ม.ย.ที่ผ่านมา ทีมโฆษก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ บอกว่า นโยบายในการปฏิบัติงานของคสช.คือ สิ่งของวัตถุหรืออะไรก็ตามที่เป็นเชิงสัญลักษณ์ และนำไปสู่การสร้างความสับสน แบ่งสีแบ่งฝ่าย ไม่ว่าการกระทำของใคร จะปฏิบัติภายใต้กรอบกฎหมายเดียวกัน และมีธรรมาภิบาล โดยไม่เลือกปฏิบัติ คสช.ให้ความมั่นใจว่า การปฏิบัติเพื่อรักษาความสงบสุข จำเป็นต้องยืนหยัดภายใต้ความถูกต้อง และ ความเป็นธรรม ภายใต้กฎหมายเดียวกัน แม้จะมีกลุ่มบุคคลปรารถนาดีต่อประชาชน นำสิ่งของไปมอบให้อาจจะกระทบความรู้สึกว่า ทำไมจะมอบสิ่งของที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ แต่คสช.ก็ขอเรียนว่า ห้วงเวลานี้ น่าจะยังไม่เหมาะสม จึงขอความร่วมมือและทำความเข้าใจด้วย "อภิสิทธิ์"ร่วมมือคสช. กำชับ"ลูกพรรค"ระวังแจกสิ่งของ ขณะที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บอกว่า เป็นของที่แจกจ่ายมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ไม่ให้ทำ ก็ได้บอกกับสมาชิกพรรคไปแล้วว่า ไม่ให้ทำ รวมถึงเรื่องอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น แว่นตา ปฏิทิน หรือของใช้อื่นๆ แม้ว่าจะไม่มีสัญลักษณ์การต่อสู้ใดๆ ที่จะทำให้เกิดปัญหาด้านความมั่นคง แต่ก็พร้อมให้ความร่วมมือ "อภิสิทธิ์"เดินหน้าค้านร่างรธน. ส่วนกรณีนายกรัฐมนตรีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาแสดงความไม่พอใจที่พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศจุดยืนไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ และขอให้คนที่เคยบอกว่า จะไม่ลงเลือกตั้ง ทำตามคำพูด ห่างร่าง รัฐธรรมนูญ ไม่ผ่านการทำประชามติ นายอภิสิทธิ์บอกว่า ไม่แน่ใจว่านายก หมายถึงใคร ในประเด็นอะไร เพราะพรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่ได้พูดถึงการลงเลือกตั้ง และอยากให้นายกฯ ใจเย็น ๆ ตรวจสอบคำถามของสื่อก่อนว่าเกี่ยวข้องกับใคร ส่วนคำถามพ่วงประชามติ ที่ให้ ส.ว.ร่วมเลือกนายกฯ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วย และออกมาพูดถึงนายกฯ ก็เพราะนายกฯ เคยไม่เห็นด้วยกับการให้ ส.ว.เลือกนายกฯ ดังนั้นน่า จะเข้าใจเหตุผลของการคัดค้าน เพราะเป็นการแสดงความเห็นโดยสุจริตที่ห่วงใยประเทศบ้านเมือง บนหลักการ และอุดมการณ์ที่ทำงานมาตลอดชีวิต นายอภิสิทธิ์ ยังยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะไม่จับมือกับพรรคการเมืองคู่แข่ง แม้ส่วนตัวจะไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ และการแสดงจุดยืนของพรรคนั้น ไม่ใช่การชี้นำประชาชน แต่ตามหลักการประชามติ ประชาชนต้องรับรู้ข้อมูลทั้ง 2 ด้าน และเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายแสดงความเห็นได้ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย ไม่เช่นนั้นกระบวนการประชามติจะไม่มีความหมาย และยินดี หากจะถูก คสช.เรียกตัวไปปรับทัศนคติหรือเข้าอบรมก็ตาม
บางทีฟังนักการเมืองพูดมันก็ดูน่ารำคาญจริงๆ ถ้าไม่หวังเรื่องการเมืองมากเกินไปแล้วอยากช่วยประชาชนจริงๆก็แค่แจกแบบเงียบๆไม่ต้องมีชื่อพรรคประชาธิปัตย์แล้วก็ไม่ต้องมีภาพหน้าใครก็จบแล้ว
มองได้สองทาง คสช.ยึด ป้องกันเรื่องสองมาตราฐาน หรือไม่ก็เริ่มหมั่นไส้นิดๆแล้ว ชอบทำตัวค้านตะบี้ตะบัน เลยมีสิ่งที่ออกมาเตือนนิดๆสะกิดว่าต่อแต่นี้ไปไม่มีทำมองข้ามบ้างให้อีกแล้ว