ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน พิรุธจัดซื้อจัดจ้าง ทต.ปราสาททอง 3 โครงการ 11.8 ล้าน หจก.รับเหมาที่ตั้งบ้านเมียนายกฯ โยง ส.ส.คนดัง ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้านได้รับเรื่องร้องเรียนจากแวดวงรับเหมาและได้ตรวจพบข้อพิรุธในการประกวดราคาจ้างก่อสร้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ของเทศบาลตำบลปราสาททอง จำนวน 3 โครงการ วงเงินงบประมาณรวม 11,866,000 บาท มีพฤติการณ์ส่อว่าเป็นการกีดกันการซื้อซอง เอื้อ หจก.รับเหมารายหนึ่งซึ่งใช้ที่ตั้งเลขที่เดียวกันกับบ้านภรรยานายกเทศมนตรี และใช้ห้องเลขาฯ นายกเทศมนตรีเป็นที่ทำงาน หุ้นส่วนโยง เลขาฯ ส.ส. คนดัง เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2557 เทศบาลตำบลปราสาททอง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ประกาศเชิญชวน ประกวดราคาจ้างก่อสร้างและสอบราคาจ้างโครงการก่อสร้าง จำนวน 3 โครงการ ใช้งบนอกงบประมาณ ประกอบด้วย 1. ประกวดราคาจ้างก่อสร้างลานกีฬามีพื้นที่คอนกรีตเสริมเหล็ก หมู่ที่ 11 ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (เลขที่โครงการ : 57105095873) งบประมาณโครงการ 2,500,000 บาท 2. ประกวดราคาจ้างก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์ (ตอกเสาเข็ม) โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลปราสาททอง อ.บางปะอิน ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (เลขที่โครงการ : 57105095728) งบประมาณโครงการ 7,743,000 บาท 3.สอบราคาจ้างโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กข้างอาคารเอนกประสงค์ หมู่ที่ 2 ต.บ้านเลน จำนวน 2 ช่วง (เลขที่โครงการ : 57105094813) งบประมาณโครงการ 1,623,000.00 บาท จากการตรวจสอบพบพิรุธหลายประการที่ส่อว่าจะมีการทุจริตในทั้งสามโครงการ คือ 1. ตั้งแต่ประกาศเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2557และกำหนดปิดวันที่ 22 ตุลาคม 2557 พบข้อมูลผู้ซื้อซองรายหนึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดที่จดทะเบียนโดยใช้ที่ตั้งเดียวกับบ้านของภรรยานายกเทศมนตรี ที่หมู่บ้านบ้านศรีทอง ตำบลเชียงรากน้อย ซึ่งนายกเทศมนตรีเคยเป็นเจ้าบ้านตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2539 ถึง 20 พฤษภาคม 2552 ก่อนย้ายออกมาอยู่พื้นที่ ทต.ปราสาททอง เพื่อมีสิทธิลงสมัครเลือกตั้งนายกเทศมนตรี 2. หนึ่งในสองหุ้นส่วนของห้างห้วนส่วนจำกัดแห่งนั้นที่เป็น "หุ้นส่วนจำกัดความรับผิด" มีความเกี่ยวข้องในฐานะเป็น "คนสนิทระดับพิเศษ" ของ ส.จ. (ส.อบจ.) ที่เป็นลูกชายและมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์นายกเทศมนตรี ทั้ง ส.จ. และกรรมการคนดังกล่าวอยู่ประจำที่ห้องเลขานุการนายกเทศมนตรี ชั้น 3 อาคารสำนักงานเทศบาล ใช้ห้องเลขาฯ เป็นเหมือนที่ทำงานและที่ทำการบริษัททุกวัน ทั้งนี้ ห้องดังกล่าวอยู่เพียงสองคน ไม่มีเลขาฯ มีเพียงป้าย ขณะหุ้นส่วนอีกรายเป็น "หุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิด" ที่มีสถานะเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ชื่อย่อ "บ" เป็นเลขานุการของ ส.ส.คนดัง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ข้อมูลจากสำนักข่าวอิสรา (http://bit.ly/1yhz6nd) พบว่า "บ" เป็นหุ้นส่วนในบริษัทอีกแห่งของ ส.ส.คนดังกล่าว อีกทั้ง นายกเทศมนตรีก่อนลงสมัครเลือกตั้งเป็นนายกเทศมตรีเคยเป็นเลขาฯ ของ ส.ส. คนเดียวกัน และมีหุ้นในบริษัทนั้นของ ส.ส. ด้วย ระหว่าง พ.ศ.2555 - 2556 ห้างหุ้นส่วนดังกล่าวรับงานของเทศบาลทั้งงานเล็กงานใหญ่รวมกว่า 22 โครงการ วงเงินรวม 39,910,770 บาท 3. ตั้งแต่เปิดซื้อซองเป็นต้นมา มีการส่งคนมาเฝ้าที่หน้าสำนักงานเทศบาล บริเวณบอร์ดติดประกาศจัดซื้อจัดจ้าง 2-3 คน ทุกวัน จนหมดเวลาทำการ หากมีคนเข้าไปติดต่อซื้อซองประกวดราคา จะนำขึ้นไปคุยที่ "ชั้น 3" เนื่องจาก "เป็นงาน" แต่ละงานจึงมักให้มีการแข่งขันแบบควบคุมได้ โดยจะมีผู้เข้าประกวดราคาแค่ไม่กี่ราย 4. เว็บไซต์ของเทศบาล http://www.prasattong.go.th ที่จะต้องลงประกาศจัดซื้อจัดจ้าง ไม่สามารถเข้าใช้งานได้ เนื่องจากหมดสัญญาเมื่อ 15 กันยายน 2557 เว็บไซต์ขึ้นข้อความแจ้งว่า "เว็บไซต์ของท่านหมดสัญญาแล้ว โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่ดูแลเว็บไซต์ของท่าน" ซึ่งเป็นเรื่องที่ทราบและสามารถเตรียมการต่ออายุได้ล่วงหน้า แต่ปล่อยล่วงเลยร่วมเดือนโดยไม่แก้ไข ส่อว่าเป็นการจงใจไม่ให้ผู้รับเหมาท้องถิ่นทราบประกาศ นอกจากนี้ยังพบด้วยว่าไม่ได้มีการลงประกาศเชิญชวนทั้งสามโครงการในเว็บไซต์จังหวัด (http://ayutthaya.go.th/Informationayu/newsprice.php) ตามข้อกำหนดที่ต้องลงประกาศ 3 ที่ คือเว็บไซต์ อปท. จังหวัดและระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ 5. การลงข้อมูลประกาศเชิญชวนในเว็บไซต์ระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ทั้ง 3 โครงการ ระบุพื้นที่โครงการเป็นจังหวัดสุรินทร์ เป็นผลให้ผู้รับเหมาท้องถิ่นที่ติดตามการประกาศประกวดราคาของหน่วยงานราชการในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาจะค้นข้อมูลไม่พบ เมื่อตรวจสอบเพิ่มเติมพบอีกว่ารายการประกาศเชิญชวนที่มีปรากฎ 7 รายการ ตามข้อมูลแสดงผลย้อนหลัง 3 เดือน ระบุพื้นที่โครงการเป็นจังหวัดสุรินทร์ทั้งหมด ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดจากการเข้าใจคลาดเคลื่อนระหว่าง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ กับ ทต.ปราสาททอง เนื่องจากเจ้าหน้าที่กองคลังของเทศบาลเองเป็นคนบันทึกข้อมูล เว็บไซต์ระบุชัดเจนว่า "ประกาศขึ้นเว็บไซต์วันที่ 14 ตุลาคม 2557 โดย นาง วันดี พรรณโชคดี ผู้อำนวยการกองคลัง" พฤติการณ์จึงส่อว่าเป็นการกีดกันประกวดราคาและมีเจตนาไม่สุจริต จากการตรวจสอบทุจริตจัดซื้อจัดจ้างในหลายพื้นที่ที่ผ่านมา พบว่าผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมักตั้งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนโดยให้บุคคลอื่นถือแทน ในลักษณะเป็นนอมินี แล้วเข้ารับงานจัดซื้อจัดจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งนั้น และมักพบว่ามีพฤติกรรมกีดกันยื่นซอง ฮั้วประมูล สมยอมราคา หรืออย่างอื่นที่เข้าข่ายความผิดในการจัดซื้อจัดจ้างและการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ มักพบการร่ำรวยผิดปกติของผู้บริหารท้องถิ่นควบคู่ด้วย นอกจากนี้พบว่าในหลายกรณีมีนักการเมืองระดับชาติเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ในลักษณะเป็นหุ้นส่วนหรือหุ้นส่วนใหญ่ โดยใช้ชื่อคนอื่นถือแทน และมักวิ่งหาเงินนอกงบประมาณมาให้ อนึ่ง หากหน่วยงานซึ่งมีหน้าที่ตามกฎหมายยังคงใช้รูปแบบเดิม ๆ สั่งการให้จังหวัด อำเภอ ตรวจสอบไปตามลำดับ ก็อย่าหวังว่าจะสามารถขจัดคอร์รัปชันในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้หมดไปได้ นอกจากจะนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษไม่ได้แล้ว ศักดิ์และสิทธิ์ของหน่วยงานตรวจสอบก็หมดไปด้วย คนโกงไม่ยำเกรงด้วยมองว่าไร้น้ำยา ยุบๆแม่มไปเห๊อะ... มีไว้รับเหมา แล้วชาวบ้านเค้าจะเปิดบริษัทฯค้าขายกันทำเหียกอะไร... แฟร๊ดแฟ๊...
มันก็เหมือนพวกกุ๊ย เตะหมา ด่าแม่ชาวบ้านตามข้างถนนทั่วไปนั่นแหละขอรับ... ชาวบ้านแบบไทยๆก็ไม่อยากไปยุ่งให้เจ็บตัว เจ็บใจ เสียเวลาทำมาหากิน... แม่มถึงยิ่งเหียกกันใหญ่มาจนทุกวันนี้...
เพราะว่าไม่มีตัวเลือกครับ แทบทุกจังหวัดพวกนี้มักมาจากพวกนักการเมืองหรือข้าราชการเก่าที่มีเครดิตมานาน ข้าราชการหน้าใหม่ถ้าไม่มีทุนหาเสียงก็ไม่อยากเล่นสายนี้เพราะกลัวถูกเก็บ อำนาจก็สู้ไม่ได้ ผลประโยชน์มันเยอะ อบต. อปจ. เป็นหน่วยงานที่แทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย มี10โครงการ ทำซะแค่ 3 แถมนักการเมืองพวกนี้แอบมีบ.ก่อสร้างและพัสดุทุกคน เวลามีจัดซื้อจัดจ้างก็บ.ตัวเองแหละ อีกอย่างหน้าที่มันก็ทำงานซ้ำซ้อนกับผู้ว่าจังหวัด, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน ผมเลยว่ายุบไปเถอะ เพื่อนผมทำงานอยู่อำเภอ บอกเซ็งมากเพราะพวกนี้งานไม่ค่อยทำ รายงานไม่ค่อยส่ง แต่แม่มทวงเงินถ่ี่ยิบ แถมไม่ได้เอาไปใช้ในโครงการด้วย