กล้องเปลี่ยนจากฟิลม์เป็นดิจิตอล ร้านอัดรูปตายเรียบ ต่อมามีมือถือถ่ายรูป กล้องคอมแพคตาย... รถไฟฟ้ามาแน่ ที่จะตายคือศูนย์บริการ(เพราะรถไฟฟ้าต้องการการบำรุงรักษาน้อยมาก) ตายสองคือตระกูลปอ.(ปตท) ฯลฯ อดเป็นห่วงไม่ได้จริงๆ #ฮาร์ดดิสที่ไทยเป็นฐานใหญ่ที่สุดในโลกก็กำลังตาย โดยโดนSSDมาเบียด นี่ก็รอวันตายอีกหนึ่ง
เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปตามการคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา ฆ่าสิ่งเดิมๆ จนสิ่งเดิมๆ กลายเป็นตำนาน วิดีโอเทป เทปคาสเซตต์ ฟิล์มถ่ายรูป ฯลฯ ตายหมด ถ่ายหนังก็ไม่ใช้ฟิล์มแล้ว
มีโอกาสเป็นไปได้สูง เราอาจต้องปรับตัวรุนแรงจะเอาแบบร่ำรวยเราต้องเปลี่ยนตัวเองให้เหนือสิงคโปร์ใช้ฐานการผลิตรอบบ้าน แต่เราเป็นตัวแทนขายทุกอย่าง ตัวเองก็ไม่แน่ใจว่าจะปรับตัวหนักขนาดนั้นได้หรือเปล่า ปตท.ไม่น่ากลัว ต่อให้ขายเติมรถไม่ได้ก็ยังขายน้ำมันผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ กว่าคนไทยจะเปลี่ยนจากรถใช้น้ำมันเป็นอย่างอื่นน่าจะเกิน 5 ปี มีเวลาปรับตัวองค์กร
ที่แรกนึกเป็นห่วง ปตท. แต่พออ่านข่าวนี้ก็ได้คิดว่าพนักงานปตท.เก่งๆเยอะมาก ผมว่าเขาเตรียมตัวมานานแล้ว แค่ตั้งปลั๊กก็กลายเป็นสถานีเติมพลังงานแถมเป็นจุดพักรถอีก
น้ำมันราคาตกยาว ผมจึงต้องขายปตท. ทิ้ง กำลังรอข่าวประมาณว่า " รัฐไทยไฟเขียว อนุญาติติดตั้งแท่นชาร์ตไฟเทสล่าห์ในปั๊มน้ำมัน ปตท. นำทีม เชื่อเปลี่ยนแบตได้ภายใน 2 นาที" แล้วผมจะซื้อพี่ปอ กลับคืนสู่อ้อมอก
อีก 30 ปีข้างหน้า ถ้าตอนนั้นผมยังมีชีวิตอยู่ (เกือบ 70) เทคโนโลยีจะก้าวไปขนาดไหนก็ไม่รู้ จนรู้สึกกลัวว่าจะก้าวตามเทคโนโลยีไม่ทัน เหมือนคนแก่ๆสมัยนี้ที่จับคอมพิวเตอร์ไม่ได้เสียเป็นส่วนใหญ่
สมัยนี้โลกมันเปลี่ยนไวมาก เทคโนก้าวล้ำมาก จากกระปู๋ปลอมธรรมดา ยังเปลี่ยนมาให้ใส่ถ่านเพื่อสั่นได้เลย สงสัยผมคงต้องปรับตัวบ้างแล้วหล่ะ....ปลูกมะพร้าวน้ำหอมไฮโดรโปรนิค ส่งขายโลกดีมั้ย
ไทย เป็นประเทศเกษตรกรรม ผมยังอยากเห็นทิศทางของประเทศมุ่งไปสู่ภาคเกษตรแบบที่ใช้เทคโนโลยื่ขั้นสูงมาช่วยในการผลิต หรือนำเทคโนโลยี่ทางด้านเครื่องจักรกลการผลิต มาใช้เพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพ สร้างเป็นอุตสาหกรรมส่งออกขายประเทศเพื่อนบ้าน