อ่อ เช่นนี้เองสินะ ถึงเรียกตัวเองว่ามือดี กล้ามากครับ เรื่องอื่นเยอะแยะไม่เล่น เลือกจะเล่นกฏแห่งกรรม เรื่องพระพุทธเจ้า และผมก็คิดว่าภารกิจนี้ที่ทำไว้ ตั้งแต่บัดนั้นจนถึงบัดนี้ มันบรรลุผลจนที่ประจักษ์แล้ว คงเหลือแต่ภารกิจอื่นๆ ได้มาอีกข้อความแล้วครับ ยังไม่มีใครตาสว่างอย่างที่คุณอ้าง คุณบรรลุผลซะแล้ว หมายความว่าไงครับ บอกแล้วว่าผมเคารพความคิดคุณ ผมคงยังไม่ขอให้คุณจบครับ ไอ้เรื่องตาสว่างเนี่ย เต็มที่เลยครับ คุณบอก คุณตอบอะไร ไม่โต้แย้งเลยครับ อย่างมากก็แค่ถามไปเรื่อยๆครับ ก็แหม เรื่องยากนะครับ 2000กว่าปีมาแล้ว ไม่ใช่มือดีใครจะกล้ายกประเด็นนี้ครับ
ไม่บอก เพราะตัวเองไม่เคยนับถืออะไรมากกว่า แดงก็ทิ้งมาแล้ว ปชต.จ่านิวก็ทิ้งมาแล้ว สถาบันก็จาบจ้วงมาแล้ว แค่เอาศาสนาบังหน้าก็ไม่แปลกใจแล้ว
ก่อนคุณrid. จะมา ก็พูดหน่อยว่า ทุกศาสตร์ ทุกทฤษฎี ทุกวิชาการ ทุกตวามเชื่อ มีบิดเบือนปลอมปนทั้งนั้นแหละครับ
สงสัยครับ และสงสัยร้อยอย่างพันสิ่งมากกว่านี้เยอะครับ แต่คงหาเวลาไปแสวงหาความจริงทั้งหมดที่อยากจะรู้ ได้ไม่หมดหรอก คงได้แต่ทะย้อย ค้นหาสิ่งที่อยากรู้จริงๆมากๆ ตามลำดับกันไป สิ่งที่อยากรู้จริงๆ ถามไว้ คุณก็ไม่ยอมตอบ สมมุติอยากตอบแทนแผ่นดิน ที่ให้เรามีกันมาจนถึงทุกวันนี้ เราซื้อปุ๋ยเพิ่มสารอาหารให้หน้าดิน มันเป็นการตอบแทนแผ่นดินได้เปล่า
คณิตศาสตร์ ถูกบิดเบือน ปลอมปน เอาอะไรลงไปบ้างครับ อยากรู้จริงๆ ที่คุณว่ามา ผมก็เริ่มสงสัยแล้ว การบวก ลบ คูณ หาร ที่เรียนมา อาจถูกบิดเบือน ปลอมปนอ่ะ
ผมก็สงสัยหลายอย่าง แต่ก็ไม่ได้คำตอบซะที อย่างทำไมบางคนเลือกที่หนีมากกว่าขอโทษ ทำไมบางคนต้องโกหกว่ามีเพื่อนทั้งที่ไม่มี ทำไมบางคนเอาผลงานคนอื่นมาใช้ทั้งที่ไม่เคยช่วยเขาที่ติดคุกเลย ทำไมบางคนถึงต้องอ้างนู้นอ้างนี้ด่าคนอื่น ทำไมบางคนชอบดูถูกคนอื่นแต่ทนคนอื่นดูถูกไม่ได้ ทำไมบางคนขี้อิจฉาอยากให้คนทะเลาะกัน ทำไมบางคนต้องอ้างว่าตัวเองเก่งเลิศเล่อทั้งที่ไม่ได้เป็น ทำไมบางคนถูกถามในกระทู้ไม่ได้ ต้องไล่ไปตั้งกระทู้ถามใหม่ โอย เยอะ เต็มไปหมด
ตาดีๆครับ การบิดเบือนล้วนมีเป้าหมาย หวังผลอย่างไดอย่างหนึ่ง เค้าไม่บิดเบิอนบวกลบคูณหารหลอกครับ พวกโกงตัวเลขบัญชี เค้าก็บวกลบคูณหารนี่แหละ ผมว่าแทนที่คุณจะค้นคว้าทฤษฎี ผมว่าคุณน่าจะดูหนังเยอะๆนะ
มันเป็นเรื่อง การเชื่อกรรมเหมือนกัน ที่พระพุทธเจ้าสอน กับที่ผู้วิเคราะห์ยกมาวิเคราะห์ คือเรื่องของการเชื่อกรรมโดยเฉพาะเรื่องกรรมในอดีตชาติ ผมยกตัวอย่างที่พระพุทธเจ้าสอนเรื่องชาตินี้เกิดมามีอำนาจหรือไม่มีอำนาจเพราะอะไร พระองค์ตรัสว่า สตรีหรือบุรุษผู้มีใจริษยา คนอื่นได้ลาภได้รับความเคารพนับถือกราบไหว้บูชาก็ไม่สบายใจทนไม่ได้ ด้วยกรรมนั้นซึ่งถือปฏิบัติพรั่งพร้อมถึงที่แล้ว ตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก หรือมิฉะนั้นหากมาสู่ความเป็นมนุษย์ จะเกิด ณ ที่ใด ๆ ในภายหลัง ก็จะเป็นคนมีศักดาน้อย เรื่องร่ำรวยทรัพย์สินเงินทอง ตรัสว่า สตรีหรือบุรุษผู้ไม่บำเพ็ญทาน ไม่ให้ปันข้าว น้ำ ผ้านุ่งห่ม เป็นต้น ด้วยกรรมนั้นซึ่งถือปฏิบัติพรั่งพร้อมถึงที่แล้ว ตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก หรือมิฉะนั้นหากมาสู่ความเป็นมนุษย์ จะเกิด ณ ที่ใด ๆ ในภายหลัง ก็จะเป็นคนมีโภคะน้อย ทั้งสองเรื่องนี้ พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ ถ้าเราสังเกตุ จะเห็นว่า กรรมมันจะส่งผลอยู่สองระยะคือ ตอนตาย กับตอนเกิด คือตายไปตกนรก หรือถ้าตายไปแล้วมาเกิดเป็นมนุษย์อีก ผลกรรมก็จะตามมาตอนเกิดเป็นมนุษย์นั่นแหละ ตอนมีชีวิตอยู่พระพุทธเจ้าไม่ได้พูดถึงเรื่องผลของกรรมที่ทำแต่จะพูดว่าให้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเอาไว้ เพราะฉะนั้นขณะที่เรามีชีวิตอยู่แล้วเกิดไปทำผิดติดคุกติดตาราง ผมจึงมองว่าไม่น่าจะใช่ผลกรรมตามหลักศาสนา แต่มันเป็นผลจาการละเมิดกติกาสังคมที่มนุษย์กำหนดกันขึ้นมาเองไม่เกี่ยวกับผลกรรมตามหลักศาสนาซึ่งอันนี้ต้องได้รับอยู่แล้วแน่นอน (เป็นความเห็นส่วนตัวของผมเองนะครับ) ทีนี้มาดูความเชื่อเรื่องกรรมตามหลักศาสนาพุทธ กับความเชื่อเรื่องกรรมที่ผู้วิเคราะห์วิเคราะห์เอาไว้ มันเป็นความเชื่อเหมือนกันครับ คือความเชื่อเรื่องกรรมเก่า แต่ที่มันแตกต่างกันก็คือ ระดับความเชื่อ ที่ผู้วิเคราะห์ยกมานั้นเป็นความเชื่อแบบสุดโต่ง ซึ่งพระพุทธเจ้าบอกว่าเป็นความเชื่อแบบมิจฉาทิฐิ ความเชื่อแบบนี้เป็นลัทธิพราหมณ์ มีมาตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้า เรียกว่าพวกถือลัทธิกรรมเก่า ที่เชื่อว่าสุขทุกข์ทั้งปวงเป็นเพราะกรรมเก่า ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย ก็เมื่อบุคคลมายึดเอากรรมที่ทำไว้ในปางก่อนเป็นสาระ ฉันทะก็ดี ความพยายามก็ดีว่า "สิ่งนี้ควรทำ สิ่งนี้ไม่ควรทำ" ก็ย่อมไม่มี เมื่อไม่กำหนดถือเอาสิ่งที่ควรทำและสิ่งที่ไม่ควรทำโดยจริงจังมั่นคงดั่งนี้ สมณพราหมณ์พวกนี้ก็เท่าอยู่อย่างหลงสติ ไร้เครื่องรักษา จะมีสมณวาทะที่ชอบธรรมเฉพาะตนไม่ได้นี้แล เป็นนิคหะอันชอบธรรมอย่างแรกของเราต่อสมณพราหมณ์ผู้มีวาทะมีทิฐิอย่างนี้ (อย่าถามผมนะครับว่าคำโน้นคำนี้แปลว่าอะไร เพราะบางคำผมอ่านแล้วก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าแปลว่าอะไร) แต่โดยความหมายรวม ๆ ก็คือ ถ้าเชื่อเรื่องกรรมเก่าแบบสุดโต่งแบบที่ผู้วิเคราะห์ยกมาว่างอมืองอเท้า ก็เหมือนกับพวกหลงสติไม่รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ นั่นแหละ
น๊านว่าแล้วไง มันต้องมีคนมามั่ว ไอดี Surawong เอาอะไรมาแปะให้อ่านครับเนี้ย ศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้าสอนเรื่องชาตินี้ชาติหน้านรกสวรรค์ที่ไหน ไปหาความรู้มาใหม่ให้ดีกว่านี้หน่อย อ่านแล้วเพลีย
ไม่บอกตัวเองคิดยังไง ไม่บอกตัวเองเชื่ออะไร แต่สนุกที่จะหลอกล่อคนที่เชื่อไม่เหมือนตัวเองมาเถียงด้วย ตั้งอยู่ในจุดที่แพ้ยากเพราะเหมือนกับ บุกอยากเดียวไม่ต้องรับ เพราะไม่บอกว่าตัวเองเชื่อยังไง! #ไอ้เวร
ถ้านายเวรจะโต้แย้งว่า นรก สวรรค์ ที่กล่าวถึงในพระไตรปิฎก มั่ว หวังว่านายเวรคงจะมีหลักฐานหนักแน่นมากกว่าขี้ปากตัวเองนะครับ
คุณมือดีครับ ที่ผมเอามาแปะ ผมบอกแล้วไงว่าพระพุทธเจ้าตรัสเป็นคำสอน สอนที่ไหน ยุคนั้นคงเป็นที่ประเทศอินเดียละมั้ง แต่ที่ผมนำมาแปะนี่ เขารวบรวมคำสอนเหล่านี้ไว้ในพระไตรปิฎกครับ อ่านแล้วเพลียได้ครับ แต่ขอให้เพลียในส่วนที่เป็นความเห็นสอดแทรกของผม อย่าไปเพลียกับคำสอนของพระพุทธเจ้านะครับ ในส่วนที่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า อ่านแล้วต้องพยายามทำความเข้าใจให้ดี เพราะคำสอนเหล่านี้ ปัจจุบันมีเจ้าสำนักหลายแห่งนำไปอ้าง นำไปตีความ ขยายความกันมากมาย ถ้าเราอ่านแล้วไม่คิด ก็อาจเชื่อไปตามที่เขาตีความขยายความกัน จะด้วยความหลงผิด หรือเพื่อหาประโยชน์ให้ตนเองก็แล้วแต่ แต่มันก็สร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในสังคมเป็นวงกว้างได้ ศาสนาพุทธถูกบิดเบือนให้กลายเป็นยึดถือตัวบุคคคือเจ้าสำนักต่าง ๆ กันมากมาย ทั้ง ๆ ที่พระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ก่อนที่ท่านจะปรินิพานว่า ให้ยึดคำสอนของท่าน คุณมือดีตั้งกระทู้นี้มา ถือว่าได้บุญนะครับ จะมีเจตนาอย่างไรผมไม่รู้ แต่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่ธรรม การให้ธรรม ชนะการให้ทั้งปวงครับ
ว่าด้วยเรื่องกรรม เอาแค่ กรรม อย่างเดียวก็สนทนากันไม่จบไม่สิ้นมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ... มาต่อกันเรื่อง เวรกรรม หรือผลของกรรม ก็มีตัวอย่างมากมายในอดีตให้ศึกษา คาดว่ามนุษย์เรายังต้องศึกษา เรื่องกรรม. และเวรกรรมไปอีก สองพันสี่ร้อยกว่าปีจน ไม่มีมนุษย์คนในในโลกนี้ สงสัยในกฏแห่งกรรมกันอีกแล้ว ... ... กรรมบังเกิดขึ้นทันที ที่จิตคิดอย่างตั้งใจ พูดหรือเขียนอย่างตั้งใจ กระทำกริยาด้วยความตั้งใจ (มีเจตนาใน มโนกรรม วจีกรรม กายกรรม) แต่เวรกรรม จะส่งผลอย่างไร ส่งผลเมื่อไหร่ ส่งผลกับใคร ... ผมคิดว่ามีหลายปัจจัยที่เรายังรู้ไม่หมด. วิทยาศาสตร์ปัจจุบันก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ ... // ตามหลักวิทยาศาสตร์ ถ้าปัจจัยหรือเงื่อนไขเหมือเดิม ผลลัพท์ก็จะเหมือนเดิม แต่มนุษย์เรา ไม่ว่าจะจัดการให้เหมือนกันทุกอย่าง แต่ก็ยังมีความแตกต่างกัน มีผลกรรมที่แตกต่างกัน เสมอ// คำสอนของพระพุทธเจ้าตรัสว่าไว้... สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง อาศัย กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้เลว และปราณีตได้. (จูฬกัมมวิภังคสูตร พระไตรปิฎก เล่มที่สิบสี่)
อ่านตรงนี้แล้ว ผมนึกถึงหมอชื่ออะไรนะ ที่ว่าฟันธงเลย เพราะออกรายการแล้วบอกว่า ไอสไตน์ก็ยังเขียนทฤษฎีผิดตั้งหลายข้อ แนวคิดเริ่มคล้ายๆกันเลย
อ่านซะข่าวดีของประเทศนี้อาจจะเกี่ยวกับเวรกรรมอะไรที่มึงว่าก็ได้ http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9590000057303
พ่อมือดีหายหัวไปไหนเสียแล้ว เพื่อนของนายจ้างมือดี ติดคุกไปอีกสองคนแล้วนะ ท่านชูชีพกับท่ายวิทยาไง 5555555 เรื่องเวรเรื่องกรรมมันไม่มีอยู่จริงเนอะมือดีเนอะ
อ่อ ที่หายไปเพราะจะรอคุridมาตอบอะหรอ ที่คุณ rid ไม่มาตอบนี่ผมต้องนับถือคุณ rid มากๆเลยครับ คุณมือดีอย่าได้หลงว่าตัวเองมือดีจนเค้าไม่ตอบละครับ เพราะที่จริงแสดงให้เห็นว่าคุณ rid เข้าใจหลักศาสนาดีมากๆ อาจจะดีกว่าคุณมือดีด้วยซ้ำ เพราะ เคยมีคนเตือนผมว่า ธรรมที่พระพุทธเจ้าแสดงนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะเอามาพูดลอยโดยไม่เกิดประโยชน์ สมัยพระพุทธเจ้า ผู้ต้องการฟังต้องอาราธนา อันแล้วแต่พระพุทธองค์จะทรงโปรด สมัยนี้ต้องอาราธนาถึง 3ครั้ง นั่นคือ เราๆท่านๆไม่มีคุณสมบัติ ไม่มีสติปัญญา เปรียบเท่ากับทำ ธรรมให้มัวหมองครับ ยิ่งห้องนี้ไม่ใช่ห้องศาสนา ที่ผมพูดก็จะขีดวงแค่ว่า บุคคลมีความคิดต่อศาสนาพุทธเช่นไร แปลว่าเป็นความคิดส่วนตนครับ คราวก่อน ผมฝากไว้2ประเด็น คุณมือดียังอึ้งอยู่หรือเปล่าครับ เพื่อตอบคำขอของคุณมือดี ที่ขอจากคุณ rid ผมฝากอีก2ประเด็นให้อึ้งหนักดังนี้ครับ -พระพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติธรรม -พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนธรรมครับ อึ้งละซี้
เอาปชต.มาบังหน้า พอโดนถามง่ายๆยังตอบไม่เป็นเรื่อง กล้าเอาศาสนามาบังหน้า ถึงต้องถามกันหน่อย ไม่ได้ต่อต้าน เอาชนะอะไรกันหร็อกครับ อยากรู้ว่า มือดี แค่ไหน
เจตนาผมต้องการ นำบทความมาให้อ่าน คือการหลอกด่า ว่าคนบางจำพวก ถ่วงความเจริญ เพราะเชื่อเวรกรรมแบบผิดๆ เจตนาด่าเสร็จมันก็น่าจะจบและปิดกระทู้ไปแล้ว แต่มีสมาชิกหลายคนมาต่อยอดเสนอความคิดเพิ่มอีกออกไป ทำไงได้ ridkun_user, ถ้ารอคำตอบความรู้ จากผมอยู่ ที่ผมหายไป ผมคิดว่าคงไม่นำมาแสดง หรือแย้งต่อไป เพราะมันจะไม่คุยกันไม่ได้แล้ว ในหลักการทางวิทยาศาสตร์ มันจะต้องคุยกัน ในหลักความเชื่อ ผมเลยคิดว่า่ เชื่อใครเชื่อมันดีกว่า แค่ผมรู้ว่า คนเชื่อเวรกรรมเป็นตัวถ่วงความเจริญตามบทความก็พอใจแล้ว http://www.wiruch.com/articles for article/article thai.htm ปล.. ถ้าคุณ hey guys มีตรงไหนประเด็นใดอยากรู้อะไรเพิ่มเติม ตั้งกระทู้เรียกชื่อถามมาได้นะครับ.... อยากรู้ผมจะมือดีแค่ไหน คุณสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวคุณเองครับ ....บ้างทีคุณจะรู้ได้ว่า นรกมีจริงมันเป็นยังไง
ก็พิสูจน์แล้วมีดีแต่พูด มือไม่กะดิก ตูดไม่ขยับไปช่วยใคร หลอกด่าคนจำพวกที่ว่า ก็สมาชิกที่นี้ไม่ใช่เหรอครับ เรียกได้ว่าเกือบจะทั้งหมด หรือร้อยละ 99.99 เหลืองพันธุ์ทางเชื่อเรื่องเวรกรรม มีแต่พวกร่างแยกคุณเท่านั้นแหละที่ชอบดูถูกคนที่นี้ว่าเหลืองพันธุ์ทาง ถ้าไม่จริงก็แสดงซิว่า 99.99 มาจากไหน แล้วก็เหมือนเดิมพอกดดันมากๆ ไปไม่เป็นเริ่มงอแงแล้วว่าถูกรังแก นิสัยใจดำไม่เปลี่ยน
เจ๋งเลยครับ เอากระทู้นี้แหละครับ ตั้งกระทู้ใหม่ทำไม เรื่องตามกระทู้นี้ยังไม่จบเลย เวรกรรมเป็นเครื่องถ่วงความเจริญนี่แหละครับ แค่คนๆนึงวิเคราะห์มา ฟังแล้วเหมือนคนวิเคราะห็แอบอ้างเป็นเนื้อความพุทธศาสนา จริงไม่จริง ว่าไป แต่ไม่แฟร์กับพุทธศาสนาครับ ใจเย็นๆครับ อ่อ ธรรมที่พระพุทธเจ้าแสดง ผมสนใจเรื่องนรก สวรรค์น้อยที่สุด แอ๊ ขอให้มือดีจริงเฮอะ จะนับถือเลยเอ้า คนที่เข้าใจพุทธดี ผมถือว่าสูงสุดกว่า หลักประชาธิปไตยอีกเอ้า แบบนี้ไม่นับถือไม่ได้ครับ
ตุณ มือดีครับ ผมเข้าใจเอาเองว่าคุณเป็นเสื้อแดง ผมจึงสนใจเป็นพิเศษ อยากรับฟังจากมุมมองของฝ่ายเสื้อแดง ถ้าเห็นว่า ผมไม่คู่ควร จะไม่มาสอนก็ได้ครับ กลัวแต่อดไม่ไหว อะซิ
เอางิ ถ้าคุณยอมบอกว่า เรื่องเวรกรรมผิดๆถูกๆ แท้ๆเทียมๆ ที่คุณอ้างมา ไม่เกี่ยวกับพุทธศาสนา ก็จะถือว่าเข้าใจกัน ถ้าเช่นนั้นจะปิดกระทู้ไม่ว่ากัน หลักวิทย์ หลักประชาธิปไตย เห็นต่างกัน นั่นสมควร แต่หลักทางพุทธศาสนา อะไรที่ใครๆไม่รู้ต้องรับฟังกัน
ใครที่ยังไม่เข้าใจเรื่อง "กรรม" โปรดเข้าใจตามนี้ 1.โดดตึกตาย = กายกรรม 2.ขยันจนตาย = อุตสาหกรรม 3.สะดุดพู่กันตาย = ศิลปกรรม 4.ถูกกฎหมายลงโทษตาย = นิติกรรม 5.ไปทอดผ้าป่ารถคว่ำตาย = กุศลกรรม 6.โดนตบตาย = หัตถกรรม 7.อุบัติเหตุตายทั้งบ่าว-สาว = คู่กรรม 8.โดนวางยาตาย = เภสัชกรรม 9.คิดว่าเมียป่วยคงใกล้จะตาย = มโนกรรม 10.เมียไล่ออกจากบ้าน = สิ้นเวร สิ้นกรรม
งั้นผมจะย้อนพูดเรื่องเวรกรรมกันก่อนนะ ค่อยไล่มาทีละสเตบ อย่างคนที่ออกมาชุมนุม ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม กปปส แล้วมีการบาดเจ็บล้มตาย บ้างก็ตาย จากน้ำมือตัวเอง บ้างก็ตาย จากฝ่ายเดียวกันทำ บ้างคนก็ พิกลพิการทุพลภาพ ขาแขนขาด ทำงานไม่ได้กลายเป็นภาระให้คนรอบข้างและสังคม ….ถ้าพากันเชื่อเรื่องเวรกรรมกันนะ ผมเลยอยากถามว่า คนเหล่านี้ ที่ตาย ที่บาดเจ็บ ไปสร้างเวรกรรมไว้ใช่ไหม ถึงต้องรับผลกรรมที่เคยก่อไว้ ไปชุมนุมกันก็เยอะ แต่ทำไมมาโดนเฉพาะคนเหล่า คนอื่นไม่โดน ไม่โดนกันหมด พูดไปมันก็แปลกหรือว่า คนที่บาดเจ็บล้มตายห่าของ กปปส. เคยก่อกรรมไว้
เปรียบเทียบได้ห่วยมาก น่าจะเปรียบเทียบ ว่าเผาศาลากลาง โดยไม่สนเหตุผล ถึงได้โดนจับเข้าคุก จะสิบปีไม่มีใครช่วย
นานมากแล้ว ตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก เด็กมากๆประมาณเริ่มรู้จักคิด ผมก็คิดทำนองนี้ คล้ายๆกับคุณมือดี หรือว่านั่นคือผมเป็น มือดี ตั้งแต่เด็ก ผมยังไม่พอใจความคิดนั้น ผมถามตอบตัวเองมาตลอดชีวิตนับจากนั้น จนถีงเดี๋ยวนี้ ผมเริ่มได้คำตอบที่ชัดเจนระดับที่พอใจมากขึ้น ยกเลิกความคิดเก่า ค้นลึกลงไปในความรู้ใหม่ เหมือนเปลี่ยนพาหนะใหม่ บนเส้นทางใหม่ คุณมือดีเคยขึ้นรถผิดไหม มันพาไปผิดเส้นทาง เราจะโทษคนขับหรือ เปลี่ยนรถใหม่ ดูว่าใช่คันที่พาเราไปถูกทาง เร็วที่สุดเป็นดี ถ้าหากว่าคำตอบของคุณมือดี เป็นสเตบแรก คุณควรหยุดอย่าไปต่อ เหมือนคุณขึ้นรถผิดคัน จะมาชวนผมขึ้นไปด้วย ไม่ไปครับ ผมเตยขึ้นมาแล้วตั้งแต่เด็ก ไม่ต้องแกล้งหลอก แกล้งด่าใครหร็อกครับ ง่ายไปหน่อยมั้ง ถ้ามือดีจริงๆ เอาของจริงเลยครับ ถึงระดับนั้น ผมจะนับถือคุณ ดีกว่าหลอกด่าใคร มั้ยละครับ
อย่าไปคิดมากและโศกเศร้าเสียใจเลยครับ สำหรับใครที่ตายไปในการชุมนุมกลุ่ม กปปส. เค้ามีเวรกรรมที่เคยทำไว้ในชาติก่อน ชาตินี้เลยต้องมาชดใช้ ตายและบาดเจ็บไวเท่าไร น่าจะเป็นเรื่องดีเท่ากับว่าได้ชดใช้กรรมเร็ว ถ้าตายและบาดเจ็บล่าช้า เจ้ากรรมนายเวรอาจจะคิดดอกเบี้ยล่าช้าเพิ่มค่าปรับมาอีก .... คนที่มาก่อเหตุ เค้ามาตามเวรที่พากันได้สร้างกรรมไว้ อย่าไปคิดโทษโกธรเขาเลย เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร .... A A ไม่ทราบว่า คนที่เชื่อเรื่องเวรกรรม ตัวอย่างเเละวิธีการคิดแบบนี้มันถูกปะครับ
ตัวอย่างที่ดีน่าจะประมาณเสื้อแดงติกคุก คิดว่าพวกเราไม่น่าเชื่อคนเลวเลย ไม่น่าเผาเลย ตัวเองถึงได้ติดคุก พวกผีเปตรที่ไม่เคยสนใจเราเลยก็เอาผลงานเราชื่อเราไปใช้ด่าคนอื่น ใส่ร้ายคนอื่น ให้ได้บาปกรรมหนักขึ้น
ไม่ได้ผลครับ แค่นี้คิดว่าหลอกด่าคนได้ ผมว่า คุณไม่ใช่ ...มือดี... ที่ผมบอกแบบนี้ เท่ากับให้เกียรตฺิสูงสุดเท่าที่เป็นไปได้ครับ กระทู้นี้ เกิดจากความโมหะ ที่พยายามพาดโยงถึงพุทธศาสนา ผมก็พยายามพูดคุยแบบให้เกียรติกัน เพราะให้ความเคารพต่อพุทธศาสนาครับ รู้สึกว่าคุณมือดีเข้าจะใจยากนะครับ โมหะ จะยิ่งถลำลึก นั่นเนื่องจาก อวิชา
เอาเถอะครับ ที่ผมพยายามค้นหาความเป็น มือดี เอาว่า ผมเองที่เข้าใจคุณยาก เอางั้น เอาตามที่คุณพอใจครับ อย่างนั้นกระทู้คงจะยาวครับ อยู่กันไปนานๆ อย่าท้อ อย่าถอยนะครับ เอ้ามีอะไรจะหลอกด่าอีกว่ามา
ครับ ถ้างั้นคนที่โดนปล้น โดนฆ่า โดนข่มขืน มันก็เป็นกรรมของเค้า ก็อาจใช่ สุดท้ายก็คงต้องสรุปแบบนั้น แต่คนทำก็ต้องมีกรรมติดไปเหมือนกัน(ระงับได้ด้วยการไม่จองเวร) อีกอย่างถ้าทำในชาตินี้มันก็มีกฎหมายคุมอยู่อีก ในยุคที่ไม่มีกฎหมายก็ยังมีกฎของเผ่าอะไรพวกนั้น นี่คือสิ่งที่คนต่างจากสัตว์ หรือมือดียอมรับได้ ถ้ามีใครซักคนมาเฉาะกระบาลมือดี แล้วบอกว่านี่คือกรรมของแก คนที่โดนฆ่าโดยทำร้ายแล้วไม่ทำร้ายตอบ ปล่อยให้กฎหมายจัดการก็คือการไม่จองเวรแล้ว
สเตบแรก จงแสดงว่าคุณเป็นมือดี สเตบสอง จงแสดงว่าเสื้อแดงศรัทธาพุทธศาสนาหรือไม่ ศรัทธาแบบไหนค่อยว่าในสเตบต่อไป คุณมือดีอาจจะไม่ตอบสนองความเห็นผม อยากที่ติดหลุมนรกที่ขุดขี้นเอง ขุดต่อไปครับ ผมให้ความเดารพความคิดคุณมือดีครับ งั้นก็เป็นประเด็นที่สมากชิกท่านอื่นๆ จะได้ทำความเข้าใร เป็นสเตบแรกครับ
โผล่อีก! แชท"ผู้ช่วยนักบิน"โวยคนอ่านไม่รู้จักแยกแยะ ถามกลับแล้วเครื่องบินตกมั้ย? มีคนรัก ก็มีคนเกลียด ไม่มีใครห้ามได้ เพราะนี่เข้าข่ายกฏแห่งกรรม ก่อกรรมเบียดเบียน ทำร้ายผู้อื่น ก็ย่อมได้รับผลกรรมถูกเกลียดชังเป็นเบื้องต้น และย่อมมีบ้างที่จะมีโต้ตอบเอาคืน คุณปู พยายามแล้ว ที่จะลอยคัวอยู่เหนือความขัดแย้ง แต่บรรดา ลูกน้องประเภทขี้ข้าเอาใจนาย โหนนายแบบเลอะหลง ไม่ลืมหูลืมตา สถานะเจ้านายจะเสื่อม เพราะขี้ข้า เช่นนี้เอง ถ้าเจ้านายหูเบา หลงคำอวยขี้ข้าเหล่านั้น ตัวเจ้านายย่อมหนีไม่พ้นกฏแห่งกรรม ย่อมพินาศไปด้วยเหตุนี้แล
ที่คุณมือดียกตัวอย่างผู้บาดเจ็บล้มตายจากการชุมนุม แล้วสรุปว่าคนเหล่านี้เคยทำกรรมไว้นั้น มันเป็นความเชื่อแบบสุดโต่ง ไม่ได้เป็นไปตามหลักศาสนาพุทธ ผมยกตัวอย่างที่ท่านพระพรมหมคุณาภรณ์ ท่านอธิบายเรื่อง กฎแห่งกรรม บางตอนมาให้ดู ซึ่งท่านพูดถึงกฎแห่งกรรมว่า พระพุทธศาสนาสอนหลักความจริงว่า สิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ หรือสิ่งของ เป็นรูปธรรม หรือนามธรรม เป็นวัติถุ หรือเป็นเรื่องจิตใจ ไม่ว่าชีวิตหรือโลกที่แวดล้อมอยู่ก็ตาม ทั้งหมดล้วนเป็นไปตามธรรมดาแห่งเหตุปัจจัย เป็นเรื่องของปัจจัยสัมพันธ์ ธรรมดาที่ว่านี้มองด้วยสายตาของมนุษย์เรียกว่า กฎธรรมชาติ เรียกในภาษาบาลีว่า นิยาม แปลว่ากำหนดอันแน่นอน ทำนองหรือแนวทางที่แน่นอน หรือความเป็นไปอันมีระเบียบแน่นอน เพราะปรากฎให้เห็นว่า "เมื่อมีปัจจัยอย่างนั้นอย่างนั้น ๆ แล้ว ก็จะมีความเป็นไปอย่างนั้น ๆ แน่นอน" เพราะฉะนั้น การบาดเจ็บล้มตายจากการชุมนุม มันเป็นไปตามธรรมดาแห่งเหตุปัจจัย เป็นเรื่องปัจจัยสัมพันธ์ ส่วนเหตุปัจจัย จะเป็นอะไรอย่างไร ก็ต้องไปหาดูเอาครับว่ามีอะไรบ้าง อะไรสัมพันธ์กับอะไร ซึ่งมันก็ไม่ต่างกับการบาดเจ็บล้มตายจากภัยธรรมชาติ เช่น ซือนามิ แผ่นดินไหว หรืออุบัติเหตุใหญ่ ๆ เล็ก ๆ หรือแม้กระทั่งการลอบฆ่ากันตาย การก่อวินาศกรรม ตามหลักศาสนาพุทธบอกว่า ล้วนเป็นไปตามธรรมดาแห่งเหตุปัจจัย ครับ ทีนี้ถ้าศาสนาพุทธบอกว่าล้วนเป็นไปตามธรรมดาแห่งเหตุปัจจัย แล้วกรรมไม่ว่าจะเป็นกรรมเก่า หรือกรรมใหม่ มันไปอยู่ตรงไหนล่ะ มันก็อยู่ในเหตุปัจจัยนั่นแหละ ต้องไปหาดูเอา (ถ้าหาได้นะครับว่าอันนี้เกิดจากกรรมเก่า อันนี้เกิดจากกรรมใหม่) ความเชื่อเรื่องกรรมนี่ พระพุทธเจ้าตรัสถามพวกนิครนถ์ ที่ยึดถือกรรมเก่าแบบสุดโต่ง ที่เชื่อว่า ความสุขความทุกข์หรือความไม่สุขไม่ทุกข์ ล้วนเป็นผลมาจากกรรมเก่าทั้งนั้น ซึ่งพระพุทธเจ้าถามพวกนิครนถ์ว่า เมื่อท่านเชื่ออย่างนี้ แล้วท่านรู้หรือไม่ว่าชาติก่อนท่านมีตัวมีตนอยู่หรือไม่ พวกนิครนถ์ตอบว่า ไม่รู้ พระพุทธเจ้าถามอีกว่า แล้วท่านรู้หรือไม่ว่าชาติก่อนท่านทำบาปกรรมไว้หรือไม่ พวกนิครนถ์ตอบว่าไม่รู้ พระพุทธเจ้าถามอีกว่า แล้วท่านรู้หรือไม่ว่าชาติก่อนท่านทำบาปอย่างนี้ อย่างนี้ไว้หรือไม่ พวกนิครนถ์ตอบว่าไม่รู้ พระพุทธเจ้าจึงบอกว่า ที่พูดมานี่ ท่านไม่รู้เรื่องชาติก่อนเลย เพราะฉะนั้นท่านจึงไม่ควรพยากรณ์ว่า สุขก็ดีทุกข์ก็ดี ไม่สุขไม่ทุกข์ก็ดี ล้วนเกิดจากกรรมแต่ปางก่อน อีกตอนหนึ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในเรื่องกรรมคือ ดูกรสิวกะ เวทนาบางอย่างเกิดขึ้น มีดีเป็นสมุฎฐานก็มี ฯลฯ เกิดจากความแปรปรวนของอุตุ ก็มี...เกิดจากการบริหารตนไม่สม่ำเสมอก็มี...เกิดจากการถูกทำร้ายก็มี...เกิดจากผลกรรมก็มี ฯลฯ สมณพราหมณ์เหล่าใด มีวาทะ มีความเห็นอย่างนี้ว่า "บุคคลได้เสวยเวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสุขก็ดี ทุกข์ก็ดี ไม่สุขไม่ทุกข์ก็ดี เวทนานั้นเป็นเพราะกรรมที่ทำไว้ปางก่อน ฯลฯ เรากล่าวว่า เป็นความผิดของสมณพราหมณ์เหล่านั้นเอง" ท่านพระพรมหมคุณาภณ์ อธิบายว่า เราควรคิด เรื่องผลของกรรมอย่างไร กระบวนการให้ผลของกรรมนี้ เป็นเรื่องละเอียดซับซ้อนยิ่ง พ้นวิสัยแห่งความคิด ไม่อาจคิดให้เห็นแจ่มแจ้ง บาลีจัดเป็น อจินไตย คือ สิ่งที่ไม่พึงคิดอย่างหนึ่ง ท่านว่าขืนครุ่นคิดก็มีส่วนที่จะอัดอั้นเป็นบ้า ที่ท่านว่าอย่างนี้ มิใช่หมายความว่าพระพุทธเจ้าทรงห้ามไม่ให้เราคิด เพียงแต่ทรงแสดงความจริงไปตามธรรมดาว่า เรื่องนี้คิดเอาไม่ได้หรือไม่อาจจะเข้าใจได้สำเร็จด้วยการคิดหาเหตุผล แต่เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ด้วยการรู้ และเมื่อคิดไปจะเกิดเป็นบ้าขึ้น ก็มิใช่เพราะพระพุทธเจ้าหรือใครลงโทษหรือทำให้บ้า แต่ผู้คิดเป็นบ้าไปตามธรรมดาของเขาเอง เพราะคิดอัดอั้นตันวุ่น