พอดีออกจากห้องปรัญญา คำสอนมา เลยอยากแวะมาทักทายสนทนากับห้องการเมืองบ้าง เออ คนที่สนใจการเมืองเค้าจะมีมุมมองต่อเรื่องนี้ยังไงน๊า ท่านใดเชื่อเรื่องเวรกรรมขอสิบสายแรกครับ
เวรกรรม หมายถึงอะไร โดยทั่วไป หมายถึงทำไม่ดีต่อผู้อื่น แล้วผลร้ายย้อนกลับมาหาผู้กระทำเอง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ถ้าเช่นนั้นผมเชื่อครับ แม้แต่ทางศาสนาก็รับรองไว้ และที่สำคัญ ปรากฏการณ์เช่นนี้ก็สามารถเห็นได้ทั้งในอดีตถึงปัจจุบัน ดังเช่นบุคคลที่ทนงตัวว่า ไม่มีใครสามารถทำอะไรได้ ทุกวันนี้ยังระเห็ดหนีกรรม ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครไปทำอะไร
ผลของการกระทำมีให้เห็นเสมอครับ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน อาจช้าหรือเร็ว เพียงแต่ปัจจุบันอาจมีปัจจัยอื่นๆมาเกี่ยวข้องมากมาย
เวรกรรม ทำสิ่งใดได้สิ่งนั้น เห็นตัวอย่างบ่อยๆอย่างสมาชิกบางคนในบอร์ดนี้ที่กล่าวหาคนอื่นว่าต่ำกว่า แย่กว่า ดูถูกยัดเหยียดสมาชิกท่านอื่นเป็นฝ่ายนู้นฝ่ายนี้ไว้มาก แต่สุดท้ายตัวเองก็ถูกจับได้ว่าเป็นพวกใจดำ ไม่มีอะไรดีกว่าคนอื่นๆ ที่อ้างชาวบ้านบังหน้าเพื่อด่าคนอื่น ผลกรรมทำให้อับอายรับไม่ได้ ก็เลยหนีเปลี่ยนล็อคอินไปเรื่อยๆ ไม่เคยได้หยุด และก็คงเป็นไปเรื่อยๆ ตราบที่ยังก่อกรรมอยู่
ข่าวปนคน คนปนข่าว “การหาเสียงของฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์ ล้วนแต่พูดโจมตี นายจตุพร พรหมพันธุ์ และผมว่าเป็นคนเผาบ้านเผาเมือง ซึ่งผมอยากจะขออำนาจพระสยามเทวาธิราช และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในประเทศนี้เป็นพยานว่า หากผม และแกนนำเสื้อแดง รู้เห็น สั่งการ วางแผน เตรียมการ หรืออยู่เบื้องหลังการเผาบ้านเผาเมือง จงขอให้พวกผมพินาศล่มจมในวันนี้พรุ่งนี้ แต่หากเรื่องการเผาบ้านเผาเมืองไม่เกี่ยวกับตน แต่เป็นการใส่ร้ายป้ายสีของฝั่งตรงข้าม ก็ขอให้พวกนั้นล่มจมเช่นกัน ให้เริ่มเห็นผลตั้งแต่การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งนี้ไปเลย” คำสาบานของณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2556 ...............เห็นกล้าสาบานแต่ไม่รู้ว่าจะเชื่อเรื่องเวรกรรมรึปล่าวนะ..พอดีผมไม่หนิดหนมกะเค้า ใครหนิดหนมรบกวนฝากถามให้หน่อย...............................
เขาว่ากรรมดีคือน้ำสะอาด กรรมชั่วคือยาพิษ ทำกรรมอะไรไว้ต้องรับผลกรรมนั้น ไม่มียกเว้นและไม่มีใครแก้กรรมได้ แต่บรรเทาได้ด้วยการหมั่นสร้างกรรมดี หรือการเพิ่มจำนวนน้ำสะอาดเข้าไว้ ถึงคราวที่กรรมชั่วหรือยาพิษสำแดงผล กรรมดีหรือน้ำสะอาดที่มีมากกว่าจะช่วยเจือจางพิษร้ายลงได้ แต่สำหรับคนที่กำลังระหกระเหินหนีกรรมอยู่ในปัจจุบัน ถ้ายังไม่เลิกใส่ร้ายป้ายสีแผ่นดินที่บรรพบุรุษของตัวหนีความอดอยากยากแค้นมาของพึ่งใบบุญ เป็นแผ่นดินที่ตนสร้างความมั่งคั่งแต่ก็ยังเนรคุณทั้งกับแผ่นดินและสถาบันที่เป็นที่เคารพเทิดทูนของคนทั้งชาติ คนๆนั้นได้เปลี่ยนตัวเองเป็นยาพิษไปแล้ว เป็นคนชั่วคนเลว เป็นโมฆบุรุษที่จะนำพาความเสื่อมไปสู่ทุกแห่งคน คนไทยที่กระหายอยากดื่มยาพิษก็เชิญตามสบาย แต่ตอนที่พิษร้ายออกฤทธิ์ ก็อย่าได้ไปโทษดินโทษฟ้าให้คนเขาหัวเราะเยาะเอา
เชื่อว่าทำสิ่งใดก็จะได้รับสิ่งนั้น ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ไม่ช้าก็เร็ว ยุคนี้เป็นยุคไอที ผลกรรมจึงมักจะมาเร็ว สำหรับบางคนที่ตายเสียก่อนที่จะได้รับผลกรรมที่ตัวเองได้กระทำ ก็เห็นหลาย ๆ คนนะ ที่ลูกหลานมักจะอยู่ไม่ค่อยเป็นสุข
คิดว่าเชื่อนะครับ เค้าเป็นรุ่นพี่โรงเรียนผม2ปี เค้า BM94 ผมBM96 เพื่อนรุ่นเดียวกับเค้าที่สนิทกับผมเคยถามว่าเมื่อไหร่จะหยุดเค้าตอบว่า หมอดูพม่า เคยทำนายว่าถ้าเค้ายังสู้ต่อจะมี2ทางคือตายกับได้เป็นนายกรัฐมนตรี
เชื่อครับ แต่พอดีไม่ใช่พระพุทธเจ้า เลยไม่รู้ว่ากฎแห่งกรรมจะทำงานเมื่อไหร่ ดังนั้นก็เลยอยากให้กฎหมายจัดการในชาตินี้เลยดีกว่าครับสำหรับพวกชอบทำเลวน่ะ
"สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้เลวและประณีตได้"
เรียกได้ว่าเกือบจะทั้งหมด หรือร้อยละ 99.99 เหลืองพันธุ์ทางเชื่อเรื่องเวรกรรม คงมีท่านสุภาพสตรีที่ยังไม่ทราบความเห็น ผมก็ขอน้อมรับในไมตรีจิตที่ชี้แนะนำมา อิอิ คือมีคนบอกว่า เอ๊ะ ไม่ใช่สิ มีคนเค้าวิเคราะห์ไว้อย่างน่าสนใจและน่าฟัง จนผมต้องอึ้ง ทึ่ง มันใช่เลย นิสัยแบบนี้ล่ะ มีในคนพวกนี้เลยล่ะ ว่า 30 ลักษณะอุปนิสัยของคนไทย ที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ หนึ่งในอุปนิสัยนั้นที่จะยกมาพูดถึงก่อน ก็คือคนที่เชื่อเรื่องเวรกรรม ส่วนคนที่วิเคราะห์ ท่านไม่ใช่ขี้ๆนะให้วิธีมโนนึกทึกทักเอามันส์ ท่านเป็นถึงรศ.ดร. มีเอกสารผลงานทางวิชาการมากมาย นำเสนอออกสู่สังคม http://www.wiruch.com/ อย่างว่าครับนักวิชาการก็ใช้ศัพท์ทางวิชาการ ที่ฟังกันแล้วเข้าใจได้ยากไม่ค่อยจะเข้ารูหู สามารถทะลุเข้าสู่สมองกันได้ .....ผมจะบอกสั้นๆให้เข้าใจแบบศัพท์บ้านๆ คงพอจะเข้าใจและเก็จกัน คือคนที่เชื่อเชื่อเรื่องเวรกรรม "เป็นตัวถ่วงความเจริญของส่วนรวมและของคนอื่น" คือคนที่เชื่อเชื่อเรื่องเวรกรรม "เป็นตัวถ่วงความเจริญของประเทศๆๆๆๆ" 555++ วิเคราะห์ลักษณะอุปนิสัยของคนไทยที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ วิรัช วิรัชนิภาวรรณ อุปสรรคของการพัฒนาประเทศเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น จากผู้นำรัฐบาล ข้าราชการและประชาชน บทความนี้มุ่งเน้นพิจารณาศึกษาอุปสรรคที่เกิดจากประชาชนเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลักษณะอุปนิสัยบางประการของประชาชนคนไทยที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ 30 ประการ ดังต่อไปนี้ 1. เชื่อเรื่องเวรกรรม คนไทยมีความเชื่อมูลฐานในเรื่องเวรกรรม กฎแห่งกรรม หรือสวรรค์นรก โดยเชื่อว่าคนที่มีฐานะและความเป็นอยู่แตกต่างกัน เป็นเรื่องของโชคชะตาฟ้าลิขิต เช่น คนมีฐานะร่ำรวยมีอำนาจวาสนาเพราะเมื่อชาติก่อนหรือแม้กระทั่งชาตินี้ คนนั้นหรือบิดามารดาของคนนั้นได้สร้างบุญกุศลไว้มาก จึงเกิดมารวยและสบาย ตรงกันข้ามคนที่มีฐานะยากจน เพราะเมื่อชาติก่อนได้สร้างบาปกรรมไว้มาก และทำบุญน้อยจึงเกิดมาลำบากหรือเกิดมาใช้เวรใช้กรรมในชาตินี้ ซึ่งเห็นได้จากถ้อยคำที่ว่า ถ้าคนรวยตายเรียกว่า “สิ้นบุญ” แต่ถ้าคนจนตายเรียกว่า “สิ้นเวรสิ้นกรรม” หรือ "หมดเวรหมดกรรม" เป็นต้น และถ้าหากคนใดไม่เชื่อเรื่องเวรกรรมก็จะถูกห้ามหรือเตือนในทำนองที่ว่า "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่" นอกจากนี้แล้ว ถ้าสิ่งใดหาคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้ ก็จะกล่าวอ้างว่าเป็นเรื่องของสวรรค์นรกบันดาล เช่น ส่วนหนึ่งเห็นได้จากคำว่า "สวรรค์มีตา" การที่คนไทยเชื่อและยอมรับสภาพความแตกต่างของคนในเรื่องฐานะและอำนาจนั้น มีส่วนสำคัญทำให้คนไทยที่มีฐานะยากจนและไม่มีอำนาจขาดความกระตือรือร้นในการพึ่งตนเองหรือพัฒนาฐานะของตนเอง เพราะเชื่อว่าทำอย่างไรก็ไม่มีทางร่ำรวย มีฐานะ มีหน้ามีตาหรือมีชื่อเสียงขึ้นมาได้ สอดคล้องกับคำกล่าวที่ว่า “แข่งเรือแข่งแพแข่งได้ แต่แข่งบุญวาสนาแข่งไม่ได้” และเมื่อใดก็ตามที่พบอุปสรรค ความยากลำบาก หรือทำสิ่งใดไม่สำเร็จตามใจปรารถนาก็จะเกิดความท้อแท้ใจได้ง่ายพร้อมกับอ้างว่าเป็นเรื่องของเวรกรรม ซึ่งอาจเรียกสั้น ๆ ว่า “ดวง” ซ้ำร้ายยังตีความ "สันโดษ" คลาดเคลื่อนอีกด้วย โดยเข้าใจว่าหมายถึง "พอใจในสิ่งที่มี" ทำให้ไม่ดิ้นรนต่อสู้ ไม่กระตือรืนร้น ปล่อยชีวิตไปตามสบาย ทั้ง ๆ ตนเองที่มีความรู้ความสามารถหรือมีศักยภาพที่จะทำงานอื่นได้อีกมาก แต่ไม่ยอมทำ คำว่าสันโดษนั้นน่าจะหมายถึง "ให้พอใจในสิ่งที่มีถ้าสิ่งนั้นเปลี่ยนแปลงแก้ไขไม่ได้" เช่น คนบางคนเกิดมาพิการ สันโดษสอนให้คน ๆ นั้นพึงพอใจและยอมรับในสิ่งที่มีและเปลี่ยนแปลงแก้ไขไม่ได้นั้น ในเวลาเดียวกัน ก็ควรพยายามหาสิ่งอื่นมาชดเชยหรือทดแทน เช่น มุมานะทำงานให้เป็นผู้ชำนาญในด้านอื่นที่ไม่ต้องใช้คุณสมบัติที่ขาดไปนั้น ยิ่งไปกว่านั้น ในบางกรณีคนไทยยังมีอุปนิสัยที่ชอบพูดตอกย้ำต่อไปไม่จบสิ้น เข้าลักษณะ "ถล่มตัวเองให้สะใจ" หรือ "จำในสิ่งที่ควรลืม และลืมในสิ่งที่ควรจำ" ทั้งนี้ เป็นลักษณะของการไม่มุมานะ ไม่พยายามปรับปรุงแก้ไข หรือแม้กระทั่งไม่คิดให้กำลังใจแก่ตนเองในทำนองที่ว่า “พลาดไปประการหนึ่งเป็นครู” "ล้มแล้วรีบลุก" "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น" "ไม่มีใครสมบูรณ์ที่สุด" (nobody is perfect) หรือ "บางครั้งชนะ บางครั้งแพ้" (sometimes we win, sometimes we lose หรือ we win some, we lose some) ลักษณะอุปนิสัยของคนไทยที่ฝังใจอยู่กับความเชื่อเรื่องเวรกรรมนี้ ทำให้คนไทยปล่อยตัวปล่อยใจไปตามเวรตามกรรม โดยปล่อยตัวตามสบาย ไม่มีชีวิตจิตใจ ไม่มุมานะดิ้นรนต่อสู้ ไม่ทะเยอทะยาน และไม่เข้ามาร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคม ดังนั้น จึงเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศในแง่ที่ทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะความรู้ความสามารถของคนไทยไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่และคุ้มค่า http://www.wiruch.com/articles for article/article thai.htm
ประกาศชัยชนะแล้วปิดกระทู้ได้ ว่าแต่ไอ้เนี่ยเชื่อเยอะกว่าเค้าเลยน่ะ! www.thairath.co.th/content/402743
เป็น ดร. แล้วยังไงครับ เป็นผู้วิเศษ??? เร็วๆนี้ ดร.ฆ่ากันตาย ยิงตัวตาย ไม่เห็นวิเศษตรงไหน ก็แค่ทำมาหากินใช่มั๊ย?
คนขี้อิจฉามันก็ขี้อิจฉาวันยังค่ำ คนใจดำยังไงมันก็ใจดำ เหลืองพันธุ์ทาง ขำดี อิจฉาละซิ คราวนี้อิจฉาสมาชิกในบอร์ด เขาคุยกันได้คุยกันดี แต่ตัวเองไม่
เป็นคำถามที่ดีมีเนื้อหาและน่าสนใจให้การตอบ ปฏิเสธไม่ได้เลยครับการเชื่อแบบไทยๆแบบนี้ เป็นอุปสรรคและเป็นตัวถ่วงความเจริญ ไม่ว่าทักษิณหรือใครก็เข้าข่ายอยู่ในเศลเดียวกัน ยิ่งแบบนักเรียนนอกดีกรีอ๊อกซ์ฟอร์ด ยิ่งไปกันใหญ่ ไม่ตะลึงยังไงไหว ความเชื่อแบบไทยๆ มันชนะไกลจนไปถึง "อ๊อกซ์ฟอร์ด"เมืองนอกโน้นเนะ
ตลกดีนะ งั้นถามซัก 2 ข้อ ซึ่งก็รู้ในใจว่าคงไม่ได้คำตอบ(อีกแล้ว) - บอกเหลืองพันธุ์ทาง เชื่อว่าบาปกรรมมีจริง งั้นก็แปลว่าเสื้อแดงและมือดี จากพระนครไม่เชื่อใช่ไหมครับ ซึ่งบาปกรรมเป็นหนึ่งในคำสอนของศาสนาพุทธ งั้นก็แปลว่าเป็นพวกไร้ศาสนาซินะครับ - ด่าทักกี้ว่าถ่วงความเจริญ งั้นก็แปลว่าสมาชิกสภากาแฟที่ยกย่องทักกี้ก็ถ่วงความเจริญด้วยซินะ
บอกตรงๆนะ ว่าร่างมือถือสาก ปากถือศีล นี้ไม่ได้ดูดีเลย ยิ่งทำแกล้งตัวดี บริสุทธิ์ ยิ่งใจดำหนักเข้าไปอีก
อ่าน คหไอดีนี้แล้ว รู้สึกว่าจะสับสนอะไรไปบ้างอย่าง ระบบความคิด ตรรกะ เรียกได้ว่าใกล้จะลัดวงจรในอีกไ่ม่ช้านานอย่างไม่ต้องสงสัย บอกเหลืองพันธุ์ทาง เชื่อว่าบาปกรรมมีจริง งั้นก็แปลว่าเสื้อแดงและมือดี จากพระนครไม่เชื่อใช่ไหมครับ ผมรู้เหลืองพันธุ์ทาง เชื่อว่าบาปกรรมมีจริงอย่างแน่ชัด ก็จากการสอบถามกระทู้นี้ ส่วนเสื้อแดงจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ยังไม่ได้ไปสอบถาม ส่วนตัวผมไม่เชื่อเรื่องอะไรแบบนี้ ซึ่งบาปกรรมเป็นหนึ่งในคำสอนของศาสนาพุทธ งั้นก็แปลว่าเป็นพวกไร้ศาสนาซินะครับ อ่านความคิดนี้ยิ่งแล้วไปใหญ่ ถ้าผมไม่ไขให้เข้าใจจนคุณกระจ่าง มันคงเป็นรอยด่างผลอยที่ไม่ให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องกับคุณ ไม่รู้นะครับ.. บาปกรรมเป็นหนึ่งในคำสอนของศาสนาพุทธ เป็นหนึ่งในคำสอนแล้วไงล่ะ?? แปลว่าผมเป็นพวกไร้ศาสนา สรุปแบบนี้ถูกแล้วหรือ คนหลายพันหมื่นล้านทั่วโลก เค้าจะรู้ไหม บาปเป็นยังไง กรรมเป็นแบบไหน ศาสนาพุทธสอนอะไร บัด ณ เดี๋ยวนี้ เค้ารู้กันหรือเปล่า Alamosว่าเขากลายเป็นคนไร้ศาสนาแล้วล่ะ เอ๊ะ ถ้าพวกเค้าถามคุณมา ไร้ศาสนาแล้วล่ะต่อ?? ไอดีAlamosจะตอบเค้าไปว่าไงดีเนี้ย
ผมไม่ใช่ผู้รู้แต่ผมเชื่อว่ากรรมแก้ไม่ได้ บุญกับกรรมมันคนละเรื่อง ไม่งั้นฆ่าคนตายแล้วไปแก้กรรมก็ไม่ต้องติดคุกแล้วสิ ความเชื่อของผมแก่นแท้ของพุทธศาสนาเป็นวิทยาศาสตร์ คำสอนสามารถพิสูจน์ได้นอกนั้นที่มโนกันไปเอง เป็นการอวดอุตริเข้าข่ายหลอกลวงเอาศาสนา มาบังหน้าหารับประทานกันทั้งนั้น
ทุกท่านเห็นกันหรือยังครับ คนสมองลัดวงจรเป็นยังไง ดูได้จาก ไอดี ข้างบนสิครับ ....ไปไม่เป็นเลย..... 555++
ในเมื่อคนส่วนหนึ่งเชื่อเรื่องเวรกรรมแบบลัทธิกรรมเก่า ถึงว่า ทำไมลัทธิที่เป็นกาฝากพุทธศาสนาไทย ถึงขายได้
ผมว่า โดยเนื้อหาและข้อมูลที่เขานำมาวิเคราะห์ แล้วสรุปว่า ลักษณะนิสัยการเชื่อเรื่องเวรกรรมเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ โดยพยายามชี้ให้เห็นว่า การเชื่อเรื่องเวรกรรม ทำให้คนงอมืองอเท้าไม่ยอมพัฒนาตนเองเพราะเชื่อว่าชีวิตที่เป็นอยู่ในปัจจุบันคือผลจากกรรมในอดีตชาติที่ถูกกำหนดมาแล้ว เพราะฉะนั้นชาตินี้ก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามกรรมก็แล้วกัน วิเคราะห์แบบนี้มันง่ายเกินไปหรือไม่ เหมือนกับคนวิเคราะห์มีความเชื่ออยู่แล้วว่า คนที่มีความเชื่อเรื่องเวรกรรม คือพวกงอมืองอเท้า จึงพยายามหาถ้อยคำสำนวนที่คนวิเคราะห์คิดว่ามันสอดคล้องกันมาอธิบายเปรียบเทียบ เช่น การที่คนไทยเชื่อและยอมรับสภาพความแตกต่างของคนในเรื่องฐานะและอำนาจนั้นมีส่วนสำคัญที่ทำให้คนไทยมีฐานะยากจนและไม่มีอำนาจ ขาดความกระตือรือร้นในการพึ่งตนเอง เพราะเชื่อว่าทำอย่างไรก็ไม่มีทางร่ำรวยมีฐานะมีหน้ามีตาหรือมีชื่อเสียงขึ้นมาได้ สอดคล้องกับคำที่กล่าวว่า "แข่งเรื่องแข่งพายแข่งได้ แต่แข่งบุญวาสนาแข่งไม่ได้" ที่บอกว่าคนไทยเชื่อและยอมสภาพความแตกต่างของคนในเรื่องฐานะและอำนาจ นั้น อะไรเป็นตัวบ่งบอกครับ หรือว่าพูดเอาเอง เพราะผมมองตรงข้ามเลย ผมมองว่าคนไทยไม่ได้ยอมรับเรื่องฐานะและอำนาจเลย ผมดูจากอะไรครับ ผมดูจากสภาพความเป็นจริงที่มันเป็นอยู่นั่นแหละ ว่าคนไทยไม่เคยยอมรับว่าตนเองจน ไม่มีเงินซื้อรถก็ไปกู้มาซื้อ ไม่มีเงินปลูกบ้านก็กู้มาปลูก ลูกไม่มี iPhone ก็ดิ้นรนหาเงินมาซื้อให้กลัวน้อยหน้าเพื่อน ใช้บัตรเครดิตกันถ้วนหน้า หนี้ครัวเรือนพุ่งกระฉูด แบบนี้เขายอมรับในฐานะไหมครับ อำนาจ ดูได้ตั้งแต่ อบต ถึง สส เลยครับ ว่า ถ้าเขายอมรับเรื่องอำนาจ เขาจะดิ้นรนเข้าไปเป็นกันเพื่ออะไร หลายคนต้องไปกู้เงินมาเป็นค่าใช้จ่ายจนเป็นหนี้สินอีรุงตุงนัง ส่วนสำนวนไทยที่ยกมาว่ามันสอดคล้องนั้น มันสอดคล้องหรือพยายามยัดเยียดให้กันแน่ เพราะถ้าเขาเชื่อเรื่องบุญวาสนาเขาก็จะไม่แข่งเรื่องบุญวาสนา แต่เขาแข่งในเรื่องความแข็งแกร่งความรู้ความสามารถได้ แล้วมันจะไปสอดคล้องกับเรื่องที่บอกว่าคนไทยเชื่อและยอมรับสภาพความแตกต่างของคนในเรื่องฐานะและอำนาจ ได้อย่างไรถ้าไม่ได้ยัดเยียดให้เขา ส่วนคำว่าสันโดษ ที่ว่าคนไทยตีความผิดนั้น แล้วคนวิเคราะห์ตีความถูกแล้วหรือ คำนี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่สำนวนไทย ก่อนจะมาตีความควรไปศึกษาความหมายให้ถ่องแท้เสียก่อน ไม่งั้นคนวิเคราะห์เองก็จะไม่แตกต่างกับคนไทยที่ว่าเขาตีความผิดนั่นแหละ ความเชื่อเรื่องเวรกรรม คนวิเคราะห์ก็มองด้านเดียว คือด้านอดีตชาติ ทั้งที่คำว่าเวรกรรมมันมีความหมายทั้งอดีตชาติ ปัจจุบันชาติ ไปจนถึงชาติในอนาคตโน่น แล้วแยกแยะได้อย่างไรว่าใครเชื่ออดีตชาติใครเชื่อปัจจุบันชาติ หรือใครเชื่ออนาคตชาติ ถึงบอกว่าถ้าเชื่อเรื่องเวรกรรมแล้วพัฒนาไม่ได้ แต่ที่ผมสงสัยก็คือ สมมุติว่ามีคนบอกว่า เขาเชื่อเรื่องเวรกรรมในอดีตชาติ เขาเชื่อว่าชาติที่แล้วเขาอาจจะเคยโกงคนอื่นมาก่อน พอเกิดมาชาตินี้เขาจึงต้องมานั่งจนบักโกรกอย่างที่เห็นนี่แหละ แบบนี้ คนที่วิเคราะห์สรุปเลยหรือไม่ว่า เขาพัฒนาไม่ได้ เพราะเขาเชื่อเรื่องเวรกรรม ถ้าบอกว่ายังสรุปไม่ได้ การวิเคราะห์ข้างบนก็น่าจะมีอะไรให้มากกว่านี้นะ
สงสัยว่าใช่บทความเดียวกันหรือเปล่า 13. "วิเคราะห์อุปนิสัยของคนไทย 30 ประการที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาชนบท" http://www.wiruch.com/ เป็นบทความที่เก่ามากครับ ปี 2530 ซึ่งข้อมูลเปลี่ยนไปมากแล้วในปัจจุบัน โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา ......................................................... http://www.wangchan.go.th/bk/bk24.pdf อันนี้น่าจะเป็นที่ จขกท.นำมาอ้าง
เชื่อเรื่องเวรกรรม ครับ แต่ไม่เชื่อเรื่องการแก้กรรม ทำกรรมใดไว้ ก็รับกรรมนั้นไป แก้ไม่ได้ ทำกรรมดี ก็รับผลดีไป ทำกรรมชั่ว ก็รับผลร้ายไป บางคนอาจคิดว่า การทำกรรมดี จะช่วยลดผลของการทำกรรมชั่วได้ แต่ผมไม่คิดแบบนั้น ... เรื่องผลของกรรม ไม่ว่าจะดีหรือร้าย เราไมาอาจคาดเดาได้ว่าจะส่งผล ช้า เร็ว อย่างไร ... อาจอธิบายได้ว่า ยังมีกรรมชั่วเก่า ต้องชดใช้ หรือยังมีกรรมดี ส่งผลให้รับผลดีๆ อยู่ มีอาจารย์หลายคนบอกให้ลองนั่งสมาธิ วิปัสนา ดูกรรมเก่าว่ามีมากน้อยอย่างไร... แต่ก็มีอาจารย์อีกหลายคน บอกว่าอย่าไปสนใจเลย ให้ดูที่ปัจจุบันเถิด กรรมเก่าแก้ไม่ได้ รู้ไปก็ไร้ประโยชน์ มีสมาธิกับปัจจุบัน ไม่ต้องกังวลทั้งอดีตและอนาคต
เชื่อเรื่องเวรกรรม ครับ แต่ไม่เชื่อเรื่องการแก้กรรม ทำกรรมใดไว้ ก็รับกรรมนั้นไป แก้ไม่ได้ ทำกรรมดี ก็รับผลดีไป ทำกรรมชั่ว ก็รับผลร้ายไป บางคนอาจคิดว่า การทำกรรมดี จะช่วยลดผลของการทำกรรมชั่วได้ แต่ผมไม่คิดแบบนั้น ใครทำกรรมอะไรไว้ ไม่ต้องไปแก้กรรมทำดีด้านใดๆ เพราะมันไม่ได้ไป ลดผลให้น้อยลง หรือทดแทนชดเชยหักล้างแทนกันได้ คงมีสองทางให้เลือก .... 1 ทำกรรมให้หนักเข้าไว้ยังไงก็แก้ไม่ได้ 2 หรือไม่ก็หยุดทำกรรมซะ ... เรื่องผลของกรรม ไม่ว่าจะดีหรือร้าย เราไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะส่งผล ช้า เร็ว อย่างไร ...อาจอธิบายได้ว่า ยังมีกรรมชั่วเก่า ต้องชดใช้ หรือยังมีกรรมดี ส่งผลให้รับผลดีๆ อยู่ เราเชื่อเรื่องเวรกรรม ใครทำกรรมไว้เรารู้แน่นอน ต้องรับผลแห่งกรรมนั้น (แต่อย่าถามเรา รู้ได้อย่างไรต้องรับผลแห่งกรรม เพราะเราก็ไม่รู้ ฮา) (ผลที่จะส่งตามมา ก็อย่าถามเรา ทำไมมาเร็ว ทำไมมันมาช้า กรรมบ้างทีก็ลีลา ช้าจนคนทำกรรมตายห่า ยังไม่ส่งผล เพราะเราก็ไม่รู้ ฮา) คงต้องนำมุกเดิมๆงัดออกมา.... ที่มาช้า แบบว่ากรรม มันจะตามทันในภพหน้า ชาติหน้าโน้นนะ ชาตินี้ที่เห็นแก่ตายห่ากันไปก่อน แบบว่า แบบว่า ยังไม่ได้ตาม หรือไม่ก็ ตามไม่ทัน แต่ชาติหน้าหรือไม่ ก็ชาติหน้าๆๆๆ กรรมตามทันแน่นอน หงส์เฒ่าเสาร์อธรรม ฟันธง! ฮา
กรรมมีจริงนะครับ อย่างพวกอยู่บ้านอ้างผลงานชาวบ้านตีกินดีกว่า แต่ไม่เคยช่วย นอนสบายตากแอร์อยู่บ้าย ทิ้งเพื่อนติดคุก ทิ้งเพื่อนไปประท้วงเพียงลำพัง ชาตินี้จึงต้องรับกรรมโดนด่าใจดำตลอดไป ผมเองก็มีกรรมชอบแกล้งแหกหน้าพวกใจดำดีแต่พูด ปัจจุบันก็เลยไม่มีพวกใจดำพูดด้วยหรืิอตอบคำถามได้ซักที
ไหนๆก็แสดงเป็นผู้มีคุณธรรมและความรู้สูงส่งแล้ว งั้นก็ตอบหน่อยซิ เราควรเรียกคนที่อ้างเป็นเพื่อนหรือเป็นพวกเดียวกัน แต่ไม่เคยช่วย พอมีเหตุก็ทิ้งเพื่อนติดคุกไม่เคยแม้แต่จะพูด ซ้ำยังเอาผลงานเขามาตีกิน เพียงเพื่อด่าและยุให้คนทะเลาะกันว่าอะไรดี และคนที่โกหกดูถูกคนอื่น แล้วพอจนมุม งอแงให้คนที่ตัวเองดูถูกมาช่วย เป็นคนยังไง
ความเชื่อที่งมงาย ย่อมนำพาไปสู่ความเสื่อมทั้งนั้น เฉกเช่นเดียวกับคนไทยบางส่วนที่เชื่อเรื่องกรรมแบบผิด ๆ เช่นพวกที่ไปแก้กรรม พวกที่ขโมยเงินไปทำบุญหวังสวรรค์นั่นปะไร เอาเข้าจริง สิ่งที่อาจารย์พูดมาว่าคนไทยเชื่อ (ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเชื่อแบบนั้นจริงหรือเปล่า อาจารย์เอาข้อมูลจากไหนมาอ้างอิง) นั้น มันเป็นความเชื่อเรื่องเวรกรรมแบบผิด ๆ ทั้งสิ้น เช่น เกิดมาจนเป็นกรรม แล้วก็ต้องจนไปทั้งชาติ อันนี้พระพุทธเจ้าก็ไม่ได้สอนเลย ความเชื่อเรื่องเวรกรรม ถ้าจะถ่วงความเจริญ ก็ควรจะวงเล็บไว้ด้วยว่า แบบผิด ๆ เช่นปล่อยให้ทุกอย่างเป็นเรื่องของกรรม โทษเวรกรรมทุกอย่าง ถ้าเชื่อเรื่องกรรมตามที่พระพุทธเจ้าสอน ไม่เป็นแบบที่อาจารย์บรรยายมาแน่นอน
ไอดีที่ใช้ชื่อAlamos ช่วยอธิบายขยายความให้ผมเข้าใจมากกว่านี้หน่อย สิ่งที่คุณพูดมาทั้งหมด มันเข้าประเด็นและเกี่ยวข้องในกระทู้ตรงไหน ยอมรับว่าอ่านหลายรอบแล้ว แต่ยังนึกไม่ออกเกี่ยวข้องกระทู้ตรงไหน
ผมไม่ใช่ผู้รู้แต่ความเชื่อของผมกรรมคือการกระทำมีสองอย่าง กรรมที่เรากระทำต่อสิ่งอื่นกับกรรมที่ชีวิตสิ่งอื่นกระทำต่อเรา กรรมที่ใหญ่สุดคือกรรมที่เรากระทำต่อพ่อแม่ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมเลว กรรมที่หนักสุดคือกรรมที่เนรคุณต่อแผ่นดินบ้านเกิดที่สร้างชีวิตเรามาไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม