Published on May 29, 2016 หมายเหตุประเพทไทยสัปดาห์นี้ พบกับ สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ พูดคุยในโอกาสครบรอบ 50 ปี การจากไปของ ‘จิตร ภูมิศักดิ์’ นักประวัติศาสตร์และนักเขียนคนสำคัญของไทย ว่าทุกวันนี้ ‘จิตร ภูมิศักดิ์’ ถูกจดจำในหลากหลายภาพลักษณ์ เริ่มตั้งแต่ผู้แต่งบทกวี “เปิบข้าว” ในแบบเรียนภาษาไทย ผู้แต่งเพลง “แสงดาวแห่งศรัทธา” ไปจนถึงนักวิชาการประวัติศาสตร์ผู้มี งานเขียนสำคัญ อาทิ โฉมหน้าศักดินาไทย, สังคมไทยลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนสมัยศรีอยุธยา, ความเป็นมาของคำสยาม ไทย, ลาว และขอม และลักษณะทางสังคมของชื่อชนชาติ ฯลฯ นอกจากนี้เขายังทำให้สถานที่ซึ่งเขาจบชีวิต คือบ้านหนองกุง อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดอีกด้วย เรื่องน่าสนใจอีกประการหนึ่งคือบทเพลง “แสงดาวแห่งศรัทธา” ของจิตร ภูมิศักดิ์ ถูกนำไปขับร้องในกิจกรรมทางสังคมและการชุมนุมทางการเมืองของทุกกลุ่ม โดยเพลงนี้แต่งในช่วงที่เขาเป็นนักโทษการเมือง แต่ก็ไม่เคยท้อแท้ ไม่สูญเสียความหวังในเรื่องชัยชนะของประชาชน โดยสุธาชัย เสนอว่าเพลงนี้มีความสำคัญในแง่ ช่วยปลุกเร้าการต่อสู้ในยามท้อแท้สิ้นหวัง จึงกลายเป็นเพลงที่มีความสำคัญสำหรับนักต่อสู้ทางการเมืองทุกสีทุกฝ่าย โดยที่ผู้แต่งเองก็ไม่สามารถผูกขาดการตีความหมายของเพลงไว้ได้ http://prachatai.com/journal/2016/05/66037
กดไลค์ให้กับสารคดี กับแกล้งไว้เยอะกลัวน้อยใจหนีไปเปลี่ยนล็อคอินอีก แต่ก็นั้นละนะยังเอาแต่โพส ตัวไม่ขยับเหมือนเดิม
เพราะพรรคคอมิวนิสต์แห่งประเทศไทยและซากเดนที่เห็นเดินเตร่อยู่แถวนปช.และเผาไทยไม่เคยเปลี่ยนสันดานชอบโหนครับ จิตร ภูมิศักดิ์ ก็เฉกเช่นเดียวกับนักศึกษาปัญญาชนไทยที่หนีเข้าป่าไปร่วมกับพคท.จับอาวุธต่อสู้กับทางการ นโยบายและการบริหารจัดการพคท.ในยุคนั้นอยู่ในมือของคนจีนและคนญวนหรือคนสัญชาติไทยที่มีเชื้อชาติดังกล่าว นักศึกษาปัญญาชนไม่ได้รับการยอมรับนับถือจากคนที่กำกับพคท.ในขณะนั้น เมื่อจิตร ภูมิศักดิ์ ถูกยิงตายเมื่อปีพ.ศ.2509 พคท.มิได้สนใจใยดีกับการตายของจิตรเลย ตราบจนถึงยุคที่นิสิตนักศึกษาจำนวนมากเริ่มตื่นตัวทางการเมืองก่อนการณ์ 14 ตุลาคม 2516 พคท.จึงฉวยโอกาสกลับลำมาโหนการตายของจิตรเพื่อชักชวน(หลอกต้ม?)นิสิตนักศึกษามาเข้าพวกตน 5 พฤษภาคม 2509 จิตร ภูมิศักดิ์ ถูกฆ่าตาย และตายอย่างเดียวดายและไม่มีใครสนใจใยดี พคท.มาฉวยโอกาสโหนการตายของจิตรในภายหลัง มีดราม่าเล่านิยายโกหกว่าลมหายใจสุดท้ายของจิตรด้วยว่า จิตรพูดว่า "การปฏิวัติประชาชนจงเจริญ"แล้วจึงสิ้นใจ ไอ้สันดานชอบโหนคนตายของพคท.เป็นมรดกมาถึงนปช.และเผาไทยจนทุกวันนี้
คือผมมองว่าระบอบไหนมันก็ดีหมดน่ะครับถ้าคนใช้ดี อุดมการณ์ดีๆมันมีอยู่จริงตราบที่มันยังเป็นอุดมการณ์อยู่ แต่ความจริงพอเอาภาพของพวกคอมฯเก่าๆตอนนี้ไปทาบ ทำให้สงสัยว่าอุดมการณ์ตอนนั้นตั้งใจทำเพื่อส่วนรวมแค่ไหนหรือเพียงคิดล้มล้างแล้วไปแทนที่ อีกอย่างทำไมจีนเลือกที่จะช่วยทางการไทยแทนที่จะเป็นพรรคคอมมิวนิสต์ ที่ตัวเองควรจะส่งเสริม
ถ้าใครได้อ่านนวนิยายเรื่อง"ไผ่แดง"ของ รมว.คึกฤทธิ์ กับเรื่อง"โลกใบเล็กของดอน คามิลโล" ของจิโอวานนี ก็จะยิ่งรู้ว่าคอมมิวนิสต์แบบครึ่งๆกลางๆ เนี่ย โคตรบรมโง่เลย
เท่าที่ผมทราบ เหตุผลที่จีนตัดหางปล่อยวัดพคท.เพราะNational Interest ครับ เขมรแดงซึ่งเป็นลูกกระเป๋งของจีนยึดกัมพูชาสำเร็จในปี1975 พอถึงปี1978 เฮง สัมริน ซึ่งเป็นลูกกระเป๋งเวียตนาม/รัสเซียกลับไล่เขมรแดงกระเจิงไป เขมรแดงมายึดพื้นที่ที่ติดกับชายแดนไทยเป็นฐานที่มั่น จีนเสียหน้าและต้องการหนุนเขมรแดงให้กลับมาครองกัมพูชาให้ได้จึงสนันสนุนเขมรแดงแบบทุ่มสุดตัว แต่การส่งกำลังบำรุงทำได้โดยผ่านทางไทยเท่านั้น ทางอื่นทั้งบกและทะเลถูกเวียตนามปิดกั้นหมดแล้ว การเจรจาระหว่างจีนกับไทยเรื่องโลจิสติคให้เขมรแดงจึงเกิดขึ้น เงื่อนไขฝ่ายไทยคือจีนต้องหยุดการสนับสนุนพคท.และยุติการออกอากาศวิทยุเสียงประชาชนไทยที่สถานีส่งอยู่ประเทศจีน จีนตกลง และนี่คือเหตุแห่งการล่มสลายของพคท.และเป็นที่มาของนโยบาย66/2523ครับ