คนหนึ่งอยากพูด แต่หน้าตัวเมีย เลยต้องยืมคำพูดคนอื่นมานำเสนอ อีกตัวหน้าตัวเมีย หนีไปต่างประเทศ แต่สะเออะมาแสดงความคิดเห็น พวกมะอึงงมัวแต่ตำหนิคนอื่น พวกมะอึงทำอะไรบ้างหรือยัง ทัศนะของ "ศ.ธงชัย วินิจจะกูล" ปมโรฮิงยา ผลประโยชน์ชาติ หรือ มนุษยธรรม วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 19:10:00 น. 20 พ.ค.- ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เผยแพร่ข้อความ ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว อ้างอิงถึงทัศนะของ ศ.ธงชัย วินิจจะกูล ศาสตราจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประวัติศาสตร์ไทย มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน แมดิสัน สหรัฐอเมริกา ซึ่งเขียนถึงกรณีของชาวโรฮิงยา โดยระบุว่า การถกเถียงที่แบ่งจุดยืนเป็นสองขั้ว “อารมณ์ vs เหตุผล” หรือ “ศีลธรรม vs ปัญหาที่เป็นจริง” เป็นกับดักที่ทำให้เราหลงทาง ช่วงที่ผ่านมามัวแต่ยุ่งกับงานส่วนตัว แต่ก็ติดตามการถกเถียงเรื่องโรฮิงยามาตลอด และรู้สึกเครียดกับความเป็นไทยและการรักชาติของคนไทยมาก มีเรื่องอยากเขียน แต่ไม่มีเวลา ก็เลยขออ้างอิงทัศนะของ อ.ธงชัย แทนแล้วกัน - การผลักเรือผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงยาออกสู่น่านน้ำสากล ในนามของผลประโยชน์แห่งชาติ แม้ว่าจะมอบน้ำและอาหารให้ด้วยก็ตาม คือ อาชญากรรม - เหตุผลหลักของผู้ที่เห็นด้วยกับการผลักชาวโรฮิงยาออกไป คือ ผลประโยชน์แห่งชาติ พวกเขาเห็นผลประโยชน์แห่งชาติสำคัญกว่ามนุษย์ - ปัญหาโรฮิงยาเริ่มจากประเทศเมียนมา แต่โรฮิงยาไม่ได้เป็นปัญหา “ของ” เมียนมา แต่โดยลำพังอีกต่อไป ประชาคมโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาชิกอาเซียนไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบร่วมกันนี้ได้ - สมาชิกอาเซียนต้องยุติพฤติกรรมเอาตัวรอดและไร้มนุษยธรรม ด้วยการผลักชาวโรฮิงยาออกไปให้พ้นจากน่านน้ำของตน - อาเซียนต้องร่วมกับนานาชาติตั้งศูนย์ชั่วคราวรับผู้ลี้ภัยโรฮิงยา พร้อมๆ กับร่วมมือกันหาทางกดดันและ หรือช่วยเหลือให้รัฐบาลเมียนมาร์แก้ไขปัญหาชาวโรฮิงยาด้วยหลักมนุษยธรรม - นี่คือหลักการที่เราจะต้องร่วมกันยืนยัน ผลประโยชน์ของชาติต้องไม่อยู่เหนือหลักมนุษยธรรม และทำลายความเป็นมนุษย์ของเรา - การถกเถียงที่แบ่งจุดยืนเป็นสองขั้ว “อารมณ์ vs เหตุผล” หรือ “ศีลธรรม vs ปัญหาที่เป็นจริง” เป็นกับดักที่ทำให้เราหลงทาง - การให้ความสำคัญกับมนุษย์ก่อนชาติ ไม่ใช่เรื่องของอารมณ์ การวางชาติไว้เหนือมนุษย์ก็ไม่ได้มีความสมเหตุสมผลมากกว่าเลย แต่นี่คือสองหลักการที่แตกต่างกันต่างหาก - การให้ความสำคัญกับมนุษย์มากกว่าชาติ คือหลักการที่มีจริยธรรม ขณะที่การวางชาติไว้เหนือมนุษย์คือหลักการชาตินิยม ที่มักอ้างว่ามนุษย์เป็นเรื่องของอารมณ์ (รวมทั้งสิทธิมนุษยชนด้วย) - หลักการทั้งสองไม่สามารถแก้ปัญหาได้พอๆ กัน หลักการทั้งสองเป็นมาตรการแก้ปัญหาระยะสั้นพอๆ กัน แต่จะก่อให้เกิดผลและเรื่องน่าปวดหัวที่แตกต่างกันไป http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1432111340
เขาคือผู้หลบหนีเข้าเมืองเพราะความยากจน มันเหมือนคนไทยอยากไปทำงานที่อเมริกาเพราะเงินดีกว่า แต่ฝรั่งให้ไปง่ายๆที่ไหน
เป็นเรื่องการค้าอาวุธอีกอย่าง เฉยเลย เงิบ เพิ่งรุ เส้นทางค้าอาวุธและค้ามนุษย์ : มนุษย์สองหน้า โดยแคน สาริกา ในโซเชียลมีเดียกำลังร้อนแรงด้วยประเด็น "โรฮิงญา" กับหลักมนุษยธรรม ทั้งที่ในความเป็นจริง ปัญหาโรฮิงญามิได้มีแค่มิติมนุษยธรรม หากแต่ยังมีมิติการเมืองระหว่างประเทศ และการก่อการร้าย จริงๆ แล้ว บนเส้นทางค้ามนุษย์ผ่านทะเลอันดามัน จากบังกลาเทศสู่ปลายทางไทย, มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ในทางตรงกันข้าม มันก็เป็นเส้นทางค้าอาวุธด้วย นานนับสิบปีแล้ว อาวุธจากประเทศอินโดจีนเดินทางผ่านไทยไปยังทะเลอันดามัน โดยทางเรือเข้าไปยังบังกลาเทศ กระทั่งไปกระจายเข้าไปอยู่ในมือของ "องค์กรปฏิวัติ" ทางชายแดนฝั่งตะวันตกของพม่า, ในเขตเทือกเขาแห่งจิตตะกอง บังกลาเทศ และในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย อันดามันมิได้เป็นเขตการค้ามนุษย์เท่านั้น หากแต่ยังเป็นเส้นทางลำเลียงอาวุธขององค์กรปฏิวัติหลายกลุ่ม อาวุธเถื่อนจากภูเก็ตจะส่งผ่านเข้าไปสู่แหลมเทคเน็ตของบังกลาเทศโดยทางเรือ และไหลต่อไปสู่ตำบลค็อกซ์บาซาร์ (Cox's Bazar) เมืองจิตตะกอง จากนั้นค่อยกระจายโดยทางบกเข้าไปสู่มือของนักรบหลายชาติพันธุ์ในเขตป่าเขา เส้นทาง "ค้ามนุษย์" กับ "ค้าอาวุธ" เหมือนทางสวนเลน เลนหนึ่งขนมนุษย์มาขาย และอีกเลนหนึ่งก็ขนอาวุธไปเร่ขาย อาวุธที่ผ่านทะเลอันดามันเข้าไปยังบังกลาเทศ อีกส่วนหนึ่งยังมาจากสิงคโปร์ ส่วนใหญ่อาวุธจากแหล่งนี้มักเป็นของใหม่ที่พ่อค้าอาวุธนำเข้ามาจากสหรัฐ, ยุโรป และยุโรปตะวันออก ตลาดอาวุธเหล่านี้คือ "กองกำลังติดอาวุธ" ในภาคอีสานของชมพูทวีป และปัจจัยสำคัญที่ทำให้องค์กรปฏิวัติเกิดขึ้นมากมายคือ ความหลากหลายทางชนชาติ และการปกครองอันอยุติธรรมของรัฐบาลนั้นเป็นดั่งปุ๋ยอันอุดมที่ส่งเสริมให้พืชพันธุ์ปฏิวัติเจริญงอกงาม อย่างเช่นกองกำลังของชาวนากา ที่เรียกว่า "National Socialist Council of Nagaland" (NSCN) ที่เชื่อมโยงอยู่กับกลุ่มนักรบปฏิวัติในแคว้นอัสสัมของอินเดีย ข้ามไปยังฝั่งพม่า ก็มีขบวนปฏิวัติอีกหลายกลุ่ม เป็นต้นว่า กองทัพคะฉิ่น (Kachin Independent Organisation), กองทัพชิน (Chin National Front) และกองทัพอาระกัน (Arakan Liberation Party) ที่น่าสนใจจุดหนึ่งคือ พื้นที่หุบเขาในเขตจิตตะกอง (รอยต่อพม่า บังกลาเทศ และอินเดีย) เป็นฐานที่มั่นของกองทัพโรฮิงญา (Rohingya Solidarity Organisation), แนวร่วมอิสลามอาระกัน (Arakan Rohingya Islamic Front) และพรรคแห่งชาติอาระกัน (National United Party of Arakan) เป็นต้น กองกำลังเหล่านี้ได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มโรฮิงญาโพ้นทะเล และขบวนการต่อสู้เพื่อรัฐอิสลามในอัฟกานิสถาน, ปากีสถาน และตะวันออกกลาง อย่างที่เคยเขียนไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว ชาวมุสลิมโรฮิงญาใฝ่ฝันถึง "รัฐเอกราช" มาตั้งแต่สมัยอังกฤษเป็นเจ้าอาณานิคม จวบจนบัดนี้ พวกเขากลับไม่มีแผ่นดินอยู่ และต้องกลายมาเป็น "มนุษย์เรือ" ในปัจจุบัน สำหรับความร่วมมือระหว่างองค์กรปฏิวัติ มีทั้งความร่วมมือภายในภูมิภาค และความร่วมมือข้ามภูมิภาค ซึ่งเมืองใหญ่ที่กลุ่มองค์กรปฏิวัติใช้เป็นประตูไปมาหาสู่กัน และเป็นศูนย์กลางแห่งการพบปะกันอยู่เสมอคือ เชียงใหม่, กัลกัตตา(อินเดีย) และจิตตะกอง (บังกลาเทศ) ข้อมูลการข่าวของฝ่ายความมั่นคงทั้งสามชาติทราบดี จึงไม่ไว้วางใจในการเคลื่อนไหวของกลุ่มองค์กรปฏิวัติและแนวร่วม โดยเฉพาะพม่าที่หวาดระแวงกลุ่มมุสลิมโรฮิงญาตลอดเวลา โลกนี้ช่างโหดร้าย..ใครเลยจะคิดว่า กระบวนการค้ามนุษย์กับค้าอาวุธ ต่างใช้เส้นทางเดียวกันคือทะเลอันดามัน ค็อกซ์บาซาร์ เป็นจุดที่ขน "มนุษย์" ลงเรือ ก็คือจุดเดียวกับที่ขน "อาวุธ" ขึ้นจากเรือ นี่คือภาพจริงที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายสิบปี http://www.komchadluek.net/detail/20150521/206635.html
อย่าเถียงเรื่อง ผู้อพยพในเมืองไทยเลยครัช ที่ยุโรปแม่มถึงกับจะจมเรือผู้อพยพแล้ว รีบไปช่วยทางโน้นก่อนเถอะ ตายกันเห็นๆ แถวนี้อย่างมากก็ให้ข้าวให้น้ำเติมน้ำมันซ่อมเรือแล้วเดินทางต่อ ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ อียู (EU) เห็นชอบแผนปฏิบัติการส่งนากวิกโยธิน เข้ายับยั้งเรือผู้อพยพ เพื่อแก้ปัญหาผู้อพยพลักลอบเข้ายุโรป แต่ต้องรอมติจากทางสหประชาชาติก่อน วันนี้ (19 พ.ค.) รัฐมนตรีต่างประเทศและกลาโหมของสมาชิกอียู (EU) แสดงความเห็นชอบในการจัดตั้งกองกำลังนาวิกโยธิน เพื่อปฏิบัติการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ หลังจากปีที่ผ่านมามีผู้อพยพลักลอบเข้ายุโรปเป็นจำนวนมาก โดยแผนดังกล่าวได้มีมติเห็นชอบจากสมาชิกอียู ในการประชุมกรุงบรัสเซลส์ ของเบลเยี่ยม เมื่อวานนี้ สำหรับแผนดังกล่าว ทางอียู จะส่งเรือรบและเครื่องบินตรวจการณ์ของประเทศในยุโรป ลงพื้นที่ร่วมกันหาข้อมูลข่าวกรองและบุกจูโจมเรือ เพื่อกวาดล้างขบวนการลักลอบขนผู้อพยพออกนอกประเทศ ซึ่งทางอียู ได้จัดทำแปนปฏิบัติการนี้ขึ้นมา หลังเกิดเหตุผู้อพยพทางเรือล่ม ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้ปีนี้มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 1,800 รายแล้ว ทั้งนี้ ทางอียู ยังไม่สามารถที่จะปฏิบัติการตามแผนดังกล่าวได้ เนื่องจากรอการลงมติของสหประชาชาติที่จะอนุญาต ให้ทำลายเรือของขบวนการค้ามนุษย์ในน่านน้ำลิเบีย http://news.mthai.com/hot-news/world-news/443720.html
เป็นบทความที่ห่วยมากของคนเป็น ศ. เขียนได้แค่นี้คืนตำแหน่งให้มหาลัยไปเถอะ ต้องการบอกแค่ว่าชาติไม่สำคัญซินะ โดยยกมนุษยธรรมมาเปรียบ อย่ามาบอกให้ไทยมีมนุษยธรรมกรณีนี้ ถ้ายังไม่กล้าบอก อเมริกา อิสราเอล UN ที่ส่งทหารเข้าไปฆ่าคนประเทศอื่นจนต้องอพยพหนีภัยส ครามจำนวนมาก เป็นอาจารย์ประวัติศาสตร์ไทยแต่ไม่รู้ว่าไทยรับผู้อพยพหนีภัยสงครามมากี่แสนล้านคนแล้ว ห่วย สุดท้าย โรฮิงญาเป็นผู้หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย เท่านั้น
ต้องถาม ดร พวงทอง และ ศ ธงชัย ว่า ลองย่อส่วน โรฮิงญา ลงมา เอาแค่เป็นคนจรหมอนหมิ่นจากไหนก็ไม่รู้ มาเคาะประตูบ้านคุณ แล้วโอดครวญว่า ลำบากมากถูกเขากดขี่สารพัด ตอนนี้ไม่มีที่อยู่อาศัย ลูกเมียกำลังจะอดตาย พอดีได้ข่าวว่า ดร พวงทอง และ ศ ธงชัย เป็นคนมีมนุษยธรรมมาก เลยพาลูกเมียมาขออาศัยอยู่ด้วย คุณจะให้เขาอยู่บ้านคุณไหม ถ้าคุณไม่ให้เขาอยู่อาศัยด้วย แต่ยังมีจิตใจสงสาร เลยให้ข้าวให้น้ำไปประทังชีวิต แล้วบอกว่า ผมช่วยคุณได้แค่นี้แหละ คุณต้องช่วยตัวคุณเองต่อไป แบบนี้ คุณจะถูกเรียกว่า เป็นอาชญากรรม ไหม คนเราเวลาพูดเรื่องอะไรที่มันรู้สึกว่ายังไกลตัว ไกลครอบครัวของตัวเอง ก็พูดได้สารพัดแหละครับ เพราะฉะนั้นลองย่อส่วนลงมาให้ใกล้ตัวแล้วค่อยบอกสังคมก็ได้ว่าคุณคิดอย่างไร
ไอ้ฝรั่งตาน้ำข้าวประจำUNHCRได้แต่ตั้งเงื่อนไขเรียกร้องให้เราทำนั่นทำนี่สารพัด กดดันให้เรายอมรับพวกหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายขึ้นฝั่ง กดดันให้ตั้งศูนย์อพยพ ถามมันกลับว่ามันสัญญาไหมว่าจะจัดสรรงบประมาณค่าอาหาร ที่อยู่ รักษาพยาบาลตลอดระยะเวลาที่เราให้คนพวกนี้พักอาศัย สัญญาได้ไหมว่าจะหาที่อยู่ใหม่ในประเทศที่สามหรือจัดการให้อพยพกลับถิ่นฐานเดิมให้ครบทุกคน ไอ้ฝรั่งตาน้ำข้าวพวกนี้ไม่มีวันรับปากกับเราหรอกครับ ที่น่าเสียใจคือเรามีปัญญาชนแต่ใจเป็นทาสฝรั่งไปเห็นดีเห็นงามกับไอ้พวกตาน้ำข้าวพวกนี้ด้วย
โอ้... แค่เรื่องให้สัญญาแค่นี้ สบายมาก พวกยูๆรีบรับไอ้คนหลบหนีเข้าเมืองพวกนี้ไปตั้งค่ายผู้อพยพในประเทศไทยเร็วๆเลย แล้วจะให้พวกไอสัญญายังไง กราบตรีนพวกยูยังไง ไอก็ยอม... แต่หลังจากพวกยูตั้งค่ายอพยพเลี้ยงดูคนพวกนี้แล้ว ไอจะทำตามสัญญาหรือเปล่าค่อยว่ากันอีกที ยูจำไม่ได้หรือค่ายผู้อพยพเขมรที่เขามออีด่างเอย ค่ายม้งอพยพลาวเอย ไอก็ไม่เคยทำตามสัญญามาแล้วทั้งนั้น เชื่อไอสิ ไอมีหน้าที่ให้สัญญา แต่ไอไม่มีหน้าที่ทำตามสัญญาว่ะ อิอิอิ.. ลงชือ UNHCR
