นี่มันคนเสื้อแดงหรือหมาขี้เรื้อนแดงกันวะ ??? ปากกล้าเวลาอยู่ในฝูง พอเจอของจริงก็หนีหางจุกตูดหลายรายแล้วตั้งแต่หัวหน้าฝูงยันลูกฝูง *********************************************** วันนี้ (11 ก.ย. 58) ศาลออกหมายจับนพวรรณเหตุไม่มาฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมิ่นเบื้องสูงปี 51 *********************************************** ศาลออกหมายจับมือโพสต์หมิ่นเบื้องสูง พฤติกรรมหลบหนี ศาลอาญา 11 ก.ย.-ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำคุกนพวรรณ ตั้งอุดมสุขคดีหมิ่นเบื้องสูง หลังนายประกันยอมรับติดต่อไม่ได้ ถือมีพฤติกรรมหลบหนี พร้อมนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา 20 ต.ค.นี้ ที่ห้องพิจารณา 807 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้(11 ก.ย.) ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่พนักงานอัยการคดีอาญา เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.นพวรรณ ตั้งอุดมสุข เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิด เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 กรณีเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2551 จำเลยได้โพสต์ข้อความลักษณะหมิ่นสถาบันเบื้องสูง เผยแพร่ในเว็บไซต์ประชาไท อันเป็นการกระทำผิดกฎหมาย จำเลยให้การปฏิเสธมาโดยตลอด โดยศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องเนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์ยังมีข้อสงสัยต่อมาอัยการโจทก์โจทก์ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย ศาลอุทธรณ์ พิเคราะห์แล้วเห็นว่าพยานโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเบิกความว่า ไอพีแอดเดรสของผู้ที่โพสต์ข้อความบนเว็บไซต์ประชาไทตรงกับวันเวลาในไอพีแอดเดรส คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กของจำเลย ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เนตจริงจึงเป็นความผิด พิพากษากลับให้จำคุกน.ส.นพวรรณ 5 ปี ต่อมาบิดาของน.ส.นพวรรณ ได้ยื่นโฉนดที่ดินย่านมหาชัย ขอปล่อยชั่วคราวระหว่าฎีกา โดยงศาลอนุญาต พร้อมตีราคาประกัน 1 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลามีเพียงทนายความและบิดาของน.ส.นพวรรณ ซึ่งเป็นนายประกันมาศาล พร้อมแถลงต่อศาลว่าไม่สามารถติดต่อน.ส.นพวรรณ ได้ และไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยทราบนัดแล้วแต่ไม่มา ถือว่ามีพฤติกรรมจงใจหลบหนี จึงให้ออกหมายจับ ปรับนายประกัน 1 ล้านบาท พร้อมนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาอีกครั้งในวันที่ 20 ตุลาคมนี้เวลา 09.00น. –สำนักข่าวไทย http://www.tnamcot.com/content/281132 **************************************
ถ้าจับตัวกลับมาได้ ไม่ทราบว่าศาลจะคืนค่าปรับประกันให้ไหมครับ ถ้าไม่คืนเงินประกันให้นี่จะไปเบิกที่ใครอ่ะ น่าฉงฉาน
อ่านเจอก็ยังไม่เข้าใจ ในกรณีที่ศาลสั่งปรับนายประกันตามสัญญาประกัน นายประกันจำต้องนำเงินค่าปรับมาชำระต่อศาลภายในระยะ เวลาที่ศาลกำหนด มิฉะนั้นศาลจะสั่งยึดหลักประกันขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระค่าปรับต่อไป และถ้าได้เงินไม่พอ ชำระค่าปรับศาลอาจยึดทรัพย์สินอื่น ๆ ของนายประกันมาขายทอดตลาดเพื่อชำระค่าปรับ จนครบ นายประกันที่ศาลสั่ง ปรับตามสัญญาประกัน มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลได้ภายในกำหนด 1 เดือน หรืออาจ นำตัวจำเลยมาส่งศาลและขอลด ค่าปรับต่อศาล
อันนี้ก็หนีศาลอีกรายแล้ว ศาลออกหมายจับ"ปริญญา"อดีต กกต.เบี้ยวฟังคำพิพากษาคดีไทยรักไทยจ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้ง วันนี้(20เม.ย.59)ศาลอาญาออกหมายจับนายปริญญา นาคฉัตรีย์ อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้นำตัวมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ยื่นฟ้องพล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีตประธาน กกต.พร้อมด้วย นายปริญญา และนายวีระชัย แนวบุญเนียร อดีต กกต. ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วก่อนหน้านี้ ฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จากกรณีไม่เร่งรัดสอบสวนข้อเท็จจริงให้ครบถ้วน หลังมีการร้องเรียนกล่าวหาพรรคไทยรักไทยว่าจ้างพรรคพัฒนาชาติไทยและพรรคแผ่นดินไทย รวมทั้งพรรคการเมืองขนาดเล็กจัดผู้สมัครลงรับเลือกตั้งแข่งขัน เพื่อหลีกเลี่ยงการได้เสียงไม่ถึง 20% เมื่อปี 2549 นายปริญญา ซึ่งเป็นจำเลยที่ 2 ในคดีดังกล่าวไม่ได้เดินทางมาที่ศาลอาญาในวันนี้ ประกอบกับทนายความได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาออกไปก่อน โดยให้เหตุผลว่านายปริญญาป่วยด้วยโรคลำไส้อักเสบและท้องเสีย โดยมีใบรับรองแพทย์มายืนยันต่อศาล แต่ศาลเห็นว่าแพทย์ไม่ได้ให้ความเห็นว่านายปริญญามีอาการเจ็บป่วยจนไม่สามารถมาศาลได้ ดังนั้น พฤติกรรมของนายปริญญา จึงมีเจตนาประวิงคดีและหลบหนี ศาลจึงออกหมายจับพร้อมปรับนายประกัน และนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาอีกครั้งในวันที่ 3 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น. ส่วนก่อนหน้านี้ที่ทนายโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอ ถอนฟ้องนายปริญญา จำเลยที่ 2 เนื่องจากไม่ประสงค์จะดำเนินคดีอีก ขณะที่นายปริญญา ก็ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาลงโทษสถานเบา และรอการลงโทษ รวมทั้งยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมนั้น ศาลได้ส่งทั้ง 3 คำร้อง ให้ศาลฎีกาพิจารณาก่อนหน้านี้แล้ว อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีตประธาน กกต.เดินทางมายังศาลอาญา เพื่อฟังคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีดังกล่าว หลังจากในขั้นตอนศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุกจำเลยคนละ 4 ปี แต่ลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือคนละ 2 ปี และตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี
อุดรธานี-วันนี้ (25 พ.ค.2559) เวลา 09.00 น.ศาลจังหวัดอุดรธานี นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีที่อัยการ และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ร่วมกันเป็นโจทย์ ฟ้องนายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักษ์อุดร นำพวกมารื้อเวทีและทำร้ายร่างกายผู้ร่วมชุมนุมเวทีที่หนองประจักษ์ จ.อุดรธานี ล่าสุดนายขวัญชัย ยังไม่เดินทางมาศาล มีเพียงภรรยาและบุตรชายเดินทางมาพร้อมกับทนาย คดีดังกล่าวเป็นคดีที่อัยการและกลุ่ม พธม. ร่วมกันเป็นโจทย์ ฟ้องนาขวัญชัย กับพวก ในข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่น กรณีที่นายขวัญชัย ได้นำมวลชนไปรื้อเวทีและทำร้ายกลุ่มพธม. ที่เปิดปราศรัยที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ จ.อุดรธานี เมื่อปี 2551 ทั้งนี้ ศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้จำคุกนายขวัญชัยเป็นเวลา 4 ปี ไม่รอลงอาญา ขณะที่จำเลยให้การรับสารภาพศาลจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือ 2 ปี 8 เดือน ปรับ 350,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ตั้งแต่วันเกิดเหตุ ซึ่งภายหลังอ่านคำพิพากษาแล้วเสร็จนายขวัญชัย ได้ใช้หลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินราคาประเมิน 300,000 บาทประกันตัว และต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ล่าสุด ศาลฎีกา ออกหมายจับ นายขวัญชัย ไพรพนา หลังไม่ยอมมาฟังคำพิพากษา โดยศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาอีกอีกครั้งในวันที่ 28 มิ.ย. 59 หากไม่มา จะทำการริบเงินประกัน 5 แสน http://www.nationtv.tv/main/content/politics/378502914/
ออกหมายจับท่านแกนนำได้อย่างไร ท่านเป็นคนดี ไม่เคยทำผิดอะไรเลย เมียท่านก็เป็นคนดี ตอนที่เผาเมือง เมียท่านก็พยายามเก็บเพชรจำนวนมากไว้รอคืนเจ้าของ คดีก็นานแล้ว ยังไม่เลิกแล้วต่อกันอีก ศาลตั้งธงเอาไว้แล้ว ศาลได้รับคำสั่งจากมือที่มองไม่เห็น ท่านก็ป่วย เดินไม่ได้ จะให้มาศาลได้อย่างไร ทำไมศาลไม่ทำเรื่องขอเข้าพบท่านล่ะ
ก๊วนพรรคเพื่อนายใหญ่นี่นิสัยหน้าตัวเมียจริงๆ หนีคุกหนีศาลกันตลอด ออกสื่อนี่แมร่งกล้าเก่งทุกตัว สุดท้ายเปิดตรูด หนีคุกกันแทบทั้งพรรค เอ้าาาาาาพี่น้องเสื้อแดงงงงงควายแดงงงงงงง มาชาบูพวกหน้าตัวเมียหนีคุกหนีศาลหนีตารางเร็ว เลวขนาดนี้ยังจะเลือกมาบริหารประเทศ ไม่ใช่ควายแดงคงทำไม่ได้
เห็นหรือเปล่าว่าสุขภาพไม่ค่อยดี ยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะโชว์ภาพอาการป่วย ถ้ายังไม่เชื่ออีก ก็จะถ่ายเป็นคลิปออกมาให้ดู ตาม step เลียนแบบเจ้าสำนักเลยครับ เมียอ้าง'ขวัญชัย ไพรพนา'จำศีล พูดกล่อมกลับมาฟังคำพิพากษา 25 พ.ค. 59 นางอาภรณ์ สาราคำ ภรรยา นายขวัญชัย สาราคำ หรือ ขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักษ์อุดร กล่าวถึงกรณีนายขวัญชัย ไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษาฎีกา คดีพยายามฆ่าและทำร้ายร่างกาย กลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อปี 2551 ว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา สามียืนยันกับตนว่าจะเดินทางมาฟังคำพิพากษาแน่นอน แต่ขอไปงานของนายนิสิต สินธุไพร ที่อิมพีเรียลก่อน และขอไปจำศีลสักพัก แล้วจะเดินทางกลับมาฟังคำพิพากษา แต่ทว่าหลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อสามีได้อีกเลย นางอาภรณ์ บอกด้วยว่า นายขวัญชัย เคยบอกกับตนว่า หากต้องติดคุก 2 ปี 8 เดือน คิดว่าตัวเองรับได้และคาดว่าน่าติดจริงแค่ 1 ปีเศษๆ เท่านั้น "หลังถูกลอบยิงเขาก็มีอาการซึมเศร้า จากคนเคยคุยสนุกสนานก็ไม่ค่อยคุยเหมือนเดิม สุขภาพก็ยังไม่ค่อยดี ยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หากคุณขวัญชัยได้ดูข่าวนี้ ก็อยากให้กลับมาฟังคำพิพากษามตามที่เคยพูดและตกลงกันไว้" นางอาภรณ์ กล่าว
ขอดูหลักฐานที่ว่า ลูกชายกระทิงแดง หนีศาลหน่อย ถ้ายังข้องใจเรื่องคดี ไปอ่านที่กระทู้นี้ คดีทายาทกระทิงแดงซิ่งชนตำรวจดับ 4 ปียังไม่ได้ส่งฟ้อง ส่วนเรื่อง ราชภักดิ์ เห็นลูกพี่ควายแดงเอาไฟฉายไปส่องดู ไม่ลองถามดูล่ะ
แล้วพ่องฟักแม้ว เจอเขาปฎิวัติแล้วจะเอาผิดให้ได้ หลายคนก็ตายในคุกโดยไม่ทราบสาเหตุ แล้วพ่องไม่หนี จะให้อยู่ตายในคุกเหรอ เจออาฆาตจากชนชั้นนำ ทหาร แบบนั้น กร๊ากๆๆๆ แขวนคอตายบ้าง เลือดเป็นพิษบ้าง ไปสิจ๊ะ
ถ้าจะพูดถึงคดีทายาทกระทิงแดง เพื่อนเอ็งโดนตบไปแล้วที่ กระทู้นี้ คดีทายาทกระทิงแดงซิ่งชนตำรวจดับ 4 ปียังไม่ได้ส่งฟ้อง ไปอ่านดูก่อน แล้วค่อยมาตอบ
ทั้งตราช่าง ทั้งลายพราง พอลงจากตำแหน่งก็ล้วนเข้ามานั่งใน รัฐสภา ในกระบวนการปฎิวัติ เขารวมกันมานานแล้วเพื่อจะตีฝั่งปชต ให้ล่มจม มันน่าเกลียดตั้งแต่ ปฎิวัติปี 49 แล้วจ๊ะ ไปถามพล.อ.พันลภ ดูสิ ว่าระดับใหนไปประชุมกันในเซพเฮ้า กร๊ากๆๆ555
ก็หนีไปแล้ว แล้วมาพบตำรวจไหม ถ้ามาพบตำรวจ แล้วเขาห้ามออกนอกประเทศ จะหนีได้ไหม มองการไกลหน่อย อย่ามองแค่ตาคุ่มตัวเอง 55
วิญญูชนย่อมรู้ได้ว่าสิ่งที่เสื้อแดงทำผิดหรือถูก กรณีขวัญชัย กรณีนี้ ดูจากคลิป รอดยาก มันไล่ฟันคนอื่นเห็นชัด ต่อให้ไม่เกี่ยวกับสีเสื้อก็รอดยาก ให้กลับกันถ้า พันธมิตร หรือ กปปส ทำกับเสื้อแดง ผมก็เห็นว่าต้องคุกครับ
ก็เพราะแบบนี้ไง ผมถึงยอมรับว่าใครก็ได้ที่จะมาเป็นรัฐบาล แต่ต้องไม่ใช่คนเสื้อแดง มันไม่เคารพกฎหมาย แต่จะใช้กฎหมายมาสร้างความถูกต้องในการทำระยำของตัวเอง
ศาลออกหมายจับ “ขวัญชัย ไพรพนา” ฐานไม่มาฟังคำพิพากษาคดีทำร้ายพธม.เมื่อปี51 พร้อมนัดใหม่อีกครั้ง28มิ.ย.59 วันนี้(25 พ.ค.59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าศาลจังหวัดอุดรธานี นัดอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาในคดีที่อัยการและกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยฟ้อง นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักษ์อุดรกับพวกกรณีนำมวลชนไปรื้อเวทีและรุมทำร้ายกลุ่มพันธมิตรฯที่เปิดปราศรัยที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ จังหวัดอุดรธานี เมื่อปี 2551 โดยวันนี้นายขวัญชัย จำเลยไม่ได้เดินทางมาศาล มีเพียงนางอาภรณ์ สาราคำ ภรรยาและลูกชายรวมทั้งกลุ่มคนเสื้อแดงที่มารอให้กำลังใจ ขณะที่ภรรยาของนายขวัญชัย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าไม่แน่ใจว่านายขวัญชัยจะมาศาลหรือไม่เพราะพบกันครั้งล่าสุดตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมาและขณะนี้ไม่สามารถติดต่อนายขวัญชัยได้เพราะไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปด้วย ทั้งนี้ หลังศาลขึ้นนั่งบัลลังค์ได้เรียกหาตัวจำเลยหลายครั้งพร้อมกับสอบถามญาติว่าทำไมไม่มาศาล โดยญาติชี้แจงว่าไม่สามารถติดต่อกับจำเลยได้ ศาลจึงได้เลื่อนอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาออกไปเป็นวันที่ 28 มิ.ย.2559 เวลา 09.00 น.พร้อมกับได้ออกหมายจับจำเลย โดยสั่งให้นายประกันติดตามตัวจำเลยมาฟังคำพิพากษาในนัดต่อไป สำหรับคดีนี้เมื่อ 28 ธ.ค. 2554 ศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้จำคุกนายขวัญชัย 2 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ปรับเป็นเงิน 350,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ตั้งแต่วันเกิดเหตุ ต่อมาศาลอุทธรณ์ได้อ่านคำพิพากษายืน ซึ่งหลังฟังคำพิพากษานางอาภรณ์ ภรรยานายขวัญชัยได้ใช้หลักทรัพย์ราคา 500,000 บาท ประกันตัวและให้ทนายความยื่นฎีกา แต่เมื่อศาลฎีกานัดอ่านคำพิพากษาจำเลยไม่มาศาล 9.00 น. วันนี้ 25 พฤษภาคม 59 ศาล จ.อุดรธานี นัดอ่านคำพิพากษาฎีกา คดีที่อัยการ และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ร่วมกันเป็นโจทย์ ฟ้องนายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักษ์อุดร กับพวกในข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่น กรณีที่นายขวัญชัย ได้นำมวลชนไปรื้อเวที และรุมทำร้ายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่เปิดปราศรัยที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ จ.อุดรธานี เกิดเหตุตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม เมื่อปี 2551 คดีนี้ศาลอุทธรณ์ ได้พิพากษาจำคุก 2 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นมาแล้ว นายขวัญชัย เคยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงเรื่องนี้ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า หากตนต้องติดคุกอีกครั้ง หลังจากที่เคยติดคุกมาแล้วถึง 9 เดือน หลังวันที่ 23 พฤษภาคม 2553 คงจะทำเรื่องขอพักโทษ เพราะว่าเคยติดคุกมาแล้ว รวมทั้งยังมีอาการบาดเจ็บจากการถูกลอบยิง และขณะนี้มีอายุ 63 ปี ที่เข้าเกณฑ์ที่จะขอพักโทษได้ แต่หากไม่ได้รับการพักโทษ ก็พร้อมที่จะเข้าไปรับโทษในเรือนจำ และขอยืนยันอีกครั้งว่า ตนจะไปฟังคำพิพากษาด้วยตัวเอง ไม่หลบหนีอย่างแน่นอน นอกจากนี้นายขวัญชัย บอกอีกว่า นอกจากวันที่ 26 พฤษภาคม ศาลชั้นต้นจะอ่านคำพิพากษาคดีที่ตนถูกลอบยิงด้วยปืนอาร์ก้า เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2557 ซึ่งไม่ทราบว่าผลคดีจะออกมาเป็นอย่างไร หากไม่ถูกติดคุกก่อน จะเดินทางไปรับฟังคำพิพากษาด้วยตัวเอง แต่หากต้องติดคุก ก็คงติดตามข่าวอยู่ข้างในเรือนจำเท่านั้น ศาลฏีกา ออกหมายจับแกนนำคนเสื้อแดง ขวัญชัย ไพรพนา หลังไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษา คดีรื้อเวทีและทำร้ายร่างกายผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ศาลฏีกาที่จังหวัดอุดรธานี ออกหมายจับ แกนนำคนเสื้อแดง ขวัญชัย ไพรพนา หลังจากไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษา ในคดีที่คนไปรื้อเวทีและทำร้ายร่างกายผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตร ที่หนองประจักษ์ จังหวัดอุดรธานี เมื่อปี 2551 โดยศาลฏีกา ได้เลื่อนอ่านไปเป็นวันที่ 28 มิถุนายน 2559 โดยคดนี้ ศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้จำคุกนายขวัญชัยเป็นเวลา 4 ปี ไม่รอลงอาญา ขณะที่จำเลยให้การรับสารภาพศาลจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือ 2 ปี 8 เดือน ปรับ 350,000 บาท ซึ่งภายหลังอ่านคำพิพากษาแล้วเสร็จจำเลย ได้ใช้หลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินราคาประเมิน 300,000 บาทประกันตัว // และต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ด้านภรรยาของนายขวัญชัย ระบุว่า เจอกับนายขวัญชัยครั้งสุดท้ายคือวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา และขณะนี้ไม่สามารถติดต่อนายขวัญชัยได้ เพราะเจ้าตัวไม่ได้พกพาโทรศัพท์ โดยภาพสุดท้ายที่นาย ขวัญชัย ปรากฏตัวผ่านสื่อมวลชน คืองานจับมือจับมือปรองดองระหว่างอดีตแกนนำเหลือง-แดงเมื่อวันที่ 28 เมษายนผ่านมา
มันเป็นข้ออ้างของพวกโจรละครับ คงไม่มีโจรที่ไหนบอกว่ากฏหมายมันเป็นธรรมสำหรับโจร นอกจากโจรนั้นได้รับนิรโทษกรรม
จริงๆก็ดีน่ะ เลือกที่จะเนรเทศตัวเองแลกกับติดคุกไม่กี่ปี ประเทศเบาขึ้นเยอะ ไว้คอยดูดีกว่าเมื่อประชาติปตัยมาถึง จะกลับบ้านแบบเท่ย์ๆได้มั๊ย
555 บิดเบือนอีกแระ นักโทษหนีคดีหนีคุกทักษิณกลับมาสู้คดีตอนสมัครเป็นนายก กลับมาไหว้หมาที่สนามบินปลกปลก วิ่งถุงขนมกะกดดันศาลไม่สำเร็จ เห็นถ้าไม่ดี เพราะหลักฐานมัดตัว แพ้คดีแน่ๆ เลยหนีไปดูโอลิมปิคเลย อีกอย่างปฏิวัติมานี่มีพวกนักโทษหนีคดีหนีคุกทักษิณคนไหนตายในคุกโดยไม่ทราบสาเหตุ เห็นแต่ใครแฉแก๊งค์ควายแดงโดนฆ่าตัดตอน เอาระเบิดปาข่มขู่ ปล้น เผาเมืองกรุง แก๊งค์ควายแดงโกหกจนเป็นสันดาน เชื้อชั่วไม่ทิ้งแถวจริงจริง
นี่คือวาระสุดท้ายของแกนนำแดง "ก็หนีตามลูกพี่ใหญ่ครับ" ส่วนที่ยอมติดคุกคือ "คนจน" ที่ถูกพวกนี้หลอกครับ
ยกฟ้อง 6 ผู้ต้องหายิง 'ขวัญชัย' หลักฐานน้ำหนักไม่เพียงพอ! | เดลินิวส์ เนื่องจากหลักฐานรถยนต์ของกลางไม่สามารถยืนยันได้ ว่า เป็นรถคันเดียวกับคันที่ใช้ก่อเหตุ ทำให้ไม่มีน้ำหนักเพียงพอ ควายแดง ด่าว่าศาลเอียงอีกแล้ว http://www.dailynews.co.th/regional/400247
พวกชั่วมันหนีผมก็ว่าดีนะ ยึดเงินประกันเข้าหลวง แถมได้เนรเทศไล่มันออกนอกแผ่นดินด้วย เห็นด้วยกับเพื่อนสมาชิกแผ่นดินเบาขึ้นเยอะ
รอบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยก่อนนะครับ ในคลิปเวลาที่ 2.40 เลย วันนี้ (28 มิ.ย.) ศาลจังหวัดอุดรธานี นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ครั้งที่ 2 คดีนายเจริญ หมู่ขจรพันธุ์ อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กลุ่มเสื้อเหลือง) กับพวก 7 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายขวัญชัย สารคำ หรือ ไพรพนา อดีตประธานชมรมคนรักอุดร กลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวหาว่า “ร่วมกันพยายามฆ่า,ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้รับอันตรายสาหัส ร่วมกันทำร้ายร่างกายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันทำลายทรัพย์สิน” โดยเหตุเกิดที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม เขตเทศบาลนครอุดรธานี วันที่ 24 ก.ค.2551 ทั้งนี้ ศาลชั้นต้น และ ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษา จำคุกนายขวัญชัย 2 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ปรับเงินเพื่อเยียวยา 350,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ตั้งแต่วันเกิดเหตุ และศาลฎีกา ลดโทษเหลือ 2 ปี ไม่รอลงอาญา และปรับ 350,000 บาท สำหรับการอ่านคำพิพากษา ศาลฎีกานัดแรก เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา นายขวัญชัยไม่มาฟังคำพิพากษา ทำให้ศาลนัดอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย การฟังคำพิพากษาวันนี้ นางอาภรณ์ สาราคำ ภรรยา // นายกรวีย์ สาราคำ บุตรชายนายขวัญชัย และนายปิ่น ทักษิณ ทนายความมาฟังการอ่านคำพิพากษา โดยมีสมาชิกชมรมคนรักอุดร 10 คน ร่วมฟังด้วย ภรรยานายขวัญชัย กล่าวว่า ยังไม่ได้ติดต่อสามี แต่ทราบว่าอยู่ในที่ปลอดภัย และจะมารับโทษเมื่อประเทศมีประชาธิปไตย สำหรับคดีที่นายขวัญชัย ถูกลอบยัง และศาลชั้นต้นยกฟ้อง // ภรรยานายขวัญชัย บอกว่า จะยื่นอุทธรณ์และฎีกาคดีให้ถึงที่สุด ในฐานะเป็นโจทก์ร่วมฟ้องคดีนี้
ม่ายรุว่า ป๋าหนก ไปว่าไว้ที่ไหน ตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แต่ว่า...โดน...อ่ะครับ... ๐๐๐ ๐๐๐ ๐๐๐ ๐๐๐ ๐๐๐ ๐๐๐
พวกนี้จะไปใหน นอกจากไปมุดรูรวมกันอยู่ที่ลาว พอมีข่าวตำรวจบ้านไปก็มีข่าวว่าคนที่นั้นหายไป1คนเขาเป็นดีเจอะไรประมาณนี้
หนีเพราะกลัวติดเชื้อในกระแสเลือดนี่เอง ในคลิปเวลาที่ 2.04 เลย ขวัญชัย สาราคำ หรือ ขวัญชัย ไพรพนา เข้ามอบตัวกับผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 อุดรธานี เพื่อรับโทษคดีทำร้ายกลุ่มคนเสื้อเหลืองที่มีโทษจำคุก 2 ปี ซึ่งคดีถึงฎีกาแล้ว ช่วงบ่ายวันนี้ (6 ก.ค.) 59 นายขวัญชัย สาราคำ หรือ ขวัญชัย ไพรพนา เข้ามอบตัวกับ พล.ต.อำนวย จุลโนนยาง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 อุดรธานี ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด สภาพร่างกายอิดโรย โดย พล.ต.อำนวย ได้นำตัวส่งมอบศาลจังหวัดอุดรธานี และควบคุมตัวไปเรือนจำกลางอุดรธานี หลังศาลฎีกามีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายขวัญชัย ชี้แจงกับ พล.ต.อำนวย ว่า ช่วงที่หลบหนีไปครั้งแรก เพราะกลัวว่าศาลจะเพิ่มโทษจากเดิมที่ศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน แต่ขอไม่บอกว่าหลบหนีไปอยู่ที่ใด เพราะกลัวว่าคนที่พาไปจะเดือดร้อน และให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ช่วงที่หลบไปเพราะต้องการอยู่ในที่ที่สงบ ทำสมาธิ ตั้งจิตใจให้สงบ ทบทวนเหตุการณ์การที่ต่อสู้ทางการเมืองตั้งแต่ปี 2549 และเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ก็ต้องยอมรับความจริงกลับมารับโทษ แต่ก็เป็นห่วงสมาชิกชมรมคนรักอุดร และครอบครัวที่ต้องการให้มอบตัว พล.ต.อำนวย ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้พยายามติดต่อหาข้อมูลกับทางครอบครัวนายขวัญชัยฯ และฝากบอกว่าขอให้นายขวัญชัยฯ กลับมาเข้าสู่ระบบ จนกระทั่งเมื่อวานนี้ บุตรชายนายขวัญชัย โทรมาติดต่อ เพื่อมอบตัวและเข้ามาอธิบายว่าหนีความจริงไม่ได้ ถ้าจะหนีต้องหนีตลอดชีวิต จึงรายงานแม่ทัพภาค 2 ปรึกษาผู้พิพากษาหัวหน้าศาล และผู้บังคับการตำรวจภูธรอุดรธานี เพื่อประสานการมอบตัว สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ก.ค.2551 ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม เขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยกลุ่มคนเสื้อเหลืองฟ้องร้องว่าถูกกลุ่มนายขวัญชัย ทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่า