สื่อฯ กับความหงุดหงิดของท่านนายก ประยุทธ

กระทู้ใน 'สภากาแฟ' โดย Anduril, 5 Jun 2015

  1. Anduril

    Anduril อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    4 Jun 2015
    คะแนนถูกใจ:
    5,268
    หลังจากการพูดกับเรื่องข้อเสนอที่อยากให้ท่านนายก อยู่ต่อเพื่อการปฎิรูปฯให้เสร็จก่อนแล้วจึงมีการเลือกตั้ง ก็กลายเป็นประเด็นขึ้นมาจริงๆ และวันนี้ ท่านนายกก็หงุดหงิดมากขึ้นกับคำถามของสื่อ ลองมาอ่านคำพูดของท่าน ที่พูดออกมากันครับ

    กรณีข้อเสนอให้อยู่ปฎิรูปก่อน
    “ในเมื่อเขาพูดมา ผมจะไปตัดรอนเลยก็ไม่ใช่ ใช่ไหมเล่า ในเมื่อเขาพูดมา ผมก็ต้องขอบคุณ ถ้าทำได้ก็เป็นเรื่องของประชาชนที่จะต้องทำ ผมพูดอย่างนี้ ความหมายไม่ใช่ผมไปตอบรับ หรือยินดี หรือผมอะไรต่างๆ ถ้าไม่ต้องทำต่อ จบแค่นี้ ผมก็สบายขึ้น ก็เป็นเรื่องของรัฐบาลหน้า เขาไปทำกันมา ผมก็มีแค่นั้น ถ้าจะให้ผมทำ จะอยู่ได้อย่างไร ทำอย่างไรให้ต่างชาติยอมรับ นั่นล่ะปัญหาของผม แต่ถ้าจะมาบอกว่าผมอยากอยู่ มันไม่ใช่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
    แล้วสื่อก็ยังถามย้ำอีกว่า
    เมื่อถามว่า คิดว่าสถานการณ์ในวันนี้นายกฯควรอยู่ต่อหรือไม่
    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมไม่ได้คิดอย่างนั้น แต่คิดว่าจะทำหน้าที่ในช่วงเวลาที่เหลือให้ดีที่สุด และจะแก้ปัญหาทุกอย่างให้เร็วที่สุด แต่คงแก้ไม่ได้ทั้งหมด ซึ่งการคาดหวังของประชาชนคาดหวังในตัวผมมาก ทุกอย่างต้องแก้ให้เสร็จ บางอย่างเห็นหรือไม่ว่าอีรุงตุงนังไปหมด ต้องรื้อทั้งระบบ ต้องใช้เวลา แต่ไม่ได้หมายความว่า ผมจะผูกขาดแต่ผมก็เป็นคนทำและเริ่มแล้ว ทั้งเขียนแผน ทำกฎหมายไว้ให้แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมาทำต่อ ซึ่งเป็นเรื่องของประชาชนและประเทศไทย”
    เมื่อถามว่า นายกฯพูดเสมอว่าทหารคิดอะไรต้องคิดให้จบ การส่งแค่รัฐธรรมนูญไปให้รัฐบาลใหม่นั้นถือว่าจบหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คิดให้จบ แล้วทำให้จบ ตอนนี้ตนเป็นทหารหรือเปล่า วันนี้ไม่ได้เป็นทหารเต็มรูปแบบ แบบเก่า ทหารเต็มรูปแบบเขามีไว้ไปรบ มีไว้ไปทำงานและกฎของทหารมีการใช้งบประมาณ มีเบี้ยเลี้ยงชัดเจน แต่วันนี้เป็นรัฐบาลมันคนละแบบ ฉะนั้นวันนี้ถือว่าคิดจบแล้ว แต่ยังทำไม่จบ เพราะกรอบอำนาจตามรัฐธรรมนูญมีแค่นี้ มันคนละเรื่อง อย่าเอามาปนกัน
    เมื่อถามว่า ถ้าทำประชามติได้และประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าควรจะอยู่ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็อยู่ที่รัฐธรรมนูญ เขียนไว้หรือเปล่า การทำประชามติให้อยู่ต่อมีหรือไม่

    เมื่อถามย้ำว่า ถ้ามีการเสนอให้อยู่ต่อ 2 ปี ไม่ขัดข้องใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อย่ามาถ้ากับตน แต่ถ้าเป็นเสียงประชาชน ตนจะขัดข้องได้อย่างไร ก็คนไทยหรือเปล่า ตนเข้ามา ตนทำเพื่อคนไทยหรือไม่ ตนทำเพื่อคนอื่นเหรอ ถ้าเขาอยากให้ตนทำก็ต้องไปสร้างความเข้าใจให้ได้ ทั้งคนในประเทศ นักการเมืองอะไรต่างๆว่า ตนไม่ต้องการอำนาจ อยู่ที่ว่าทุกคนจะให้ประเทศไทยมีอนาคตอย่างไร ทุกคนมีส่วนร่วมกันตรงไหน อาจจะไม่ใช่ตนก็ได้ การทำประชามติจะเอาใครมาก็ได้ไม่ใช่ตน

    เมื่อถามว่า ตราบใดที่ยังไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นายกฯก็สามารถอยู่ไปได้เรื่อยๆ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอย่างมีอารมณ์ ว่า เรื่อยๆ อย่างไร รัฐธรรมนูญเขาเขียนว่าอย่างไร ไม่ใช่เรื่อยๆ พูดให้รู้เรื่อง อย่าใช้คำว่าเรื่อยๆ ชาติหน้าหรือไง พูดให้มันถูก รัฐธรรมนูญเขียนว่าอย่างไร ถ้ามันไม่ได้ก็ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ มีเวลา 60 วัน 90 วัน 120 วัน อ่านซะบ้าง

    เมื่อถามว่า อาจมีบางส่วนที่อยากให้อยู่ต่อ แต่บางส่วนไม่เห็นด้วย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวโดยมีอารมณ์ต่อเนื่องว่า อ้าว ก็รู้อยู่แล้ว ก็มันอย่างนั้นอยู่แล้ว แล้วจะมาถามทำไม

    จะเห็นได้ว่า ท่านนายก เริ่มมีอารมณ์ที่เดือดขึ้นมา เพิ่มเป็นการถามย้ำ จี้ ตลอดเวลาในเรื่องเดิมๆ
    สุดท้ายท่านเลยบอกว่า

    “ตีกันไปตีกันมา ก้าวข้ามให้พ้น เรื่องที่มีปัญหาเสียบ้าง สื่อต้องช่วยผม ไอ้สิ่งที่ดีๆกำลังเกิดไม่สนใจ การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไม่สนใจเลย สนใจแต่การเมือง และคนที่รบกันอยู่เดิม ประชาชนแตกเป็นฝั่งเป็นฝ่ายก็จะให้เป็นอย่างนี้กันอยู่ต่อไป มันใช่ไหมเล่า นั่นล่ะ ผมหงุดหงิดตรงนี้ ก้าวข้ามให้พ้นซะบ้าง เลิกพูดถึงเขาซะบ้างได้ไหม ให้กระบวนการยุติธรรมเขาทำได้ไหม พอเขาทำก็เร่งเขา พอเขาไม่ทำก็ว่าเขาไม่ทำ ทั้งๆที่เขาอาจจะทำอยู่ก่อนก็ได้ ทำไมจะต้องเป็นอย่างนั้น แล้วความน่าเชื่อถือมันหมดไปหรือไม่ เขาจะเชื่อศาลไหม กฎหมายเขียน เขาจะทำตามกฎหมายไหม กระแสเป็นอยู่อย่างนี้ ไปทางนู้นทาง ทางนี้ทาง พอทางนั้นพูดกลับมาเร่งทางนี้ พอทางนี้พูดกลับไปเร่งทางนู้น แล้วจะเริ่มปรองดองกันได้อย่างไร ในเมื่อสังคมไม่ปรองดองอย่างนี้ คนทำความผิดไม่ผิด มันใช่ไหมล่ะ ต้องแยกแยะ อย่ามุ่งหวังแต่การขายข่าวอย่างเดียว ต้องขอร้อง วันนี้สื่อติดกับดักไม่เลิกเสียที เขียนอยู่นั่น เรื่องความขัดแย้ง และคนเดิมกลุ่มเดิมที่ถูกดำเนินคดีอยู่ก็อย่าไปรื้อกันออกมา ให้เขาทำไป อย่าไปมาโยงกัน ชอบเอานิยายคนละเรื่องมาต่อกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
    http://www.komchadluek.net/detail/20150605/207505.html
    .................................................................................................................
    จริงๆแล้ว ความขัดแย้งในสังคมไทยที่เริ่มขยายตัวมากขึ้นมานานจนบานปลาย ต้องบอกว่า ส่วนใหญ่แล้วมาจากสื่อมวลชนเป็นหลัก ที่นำไปขยาย แตกประเด็นให้เป็นข่าวโดยไม่มีการตรวจสอบก่อนนำไปเผยแพร่ เพียงเพื่อหวังยอดขายเท่านั้นและตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายที่ต้องการสร้างสถานการณ์ให้ร้ายประเทศไทย จนทำให้ตกอยู่ในวังวนความขัดแย้งที่ไม่จบสิ้นเสียที น่าจะเป็นสิ่งแรกที่ควรปฎิรูปเลยครับ
     
    conservative likes this.
  2. AlbertEinsteins

    AlbertEinsteins อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    13 Dec 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,479
    ความขัดแย้งมันขายได้. สื่อก็จะมีเงิน
    สื่อคิดอะไรไม่ไกล มองอะไรไม่กว้างและแหลมคม
    เพราะดูจากเด็กที่เข้าเรียนสื่อสารมวลชนก็พอจะเดาได้
     
    อู๋ คาลบี้ และ foyfon ถูกใจ.
  3. กีรเต้

    กีรเต้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    11,917
    Location:
    เชียงใหม่
  4. หงส์เฒ่าเสาร์ธรรม

    หงส์เฒ่าเสาร์ธรรม อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    24 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,645
    เชื่อว่า สื่อเลว จะเจ๊ง หรือไม่ก็โดน กสทช สั่งปิดให้หมดๆไป
    สื่อดีๆ จะเจริญรุ่งเรือง ไปพร้อมๆกับประชาชนที่มีคุณภาพมากขึ้น สามารถแยกแยะ และเลือกรับสื่อที่มีคุณภาพได้
     
    แสงธูป likes this.

Share This Page