ตัวตายดีกว่าข้าวตาย! เฮือกสุดท้าย ชาวนาชัยนาทฝืนสูบน้ำ แม้ทหารขอความร่วมมือ(คลิป) วันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 15:47:00 น. (17ก.ค.58) นายเอกศิษฐ์ ศักดีธนาภรณ์ ผอ.เขื่อนเจ้าพระยา เปิดเผยว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จุดวัดน้ำ เหนือเขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ระดับน้ำลดลงเล็กน้อย(1ซ.ม.) ไปอยู่ที่ 13.12 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ยังอยู่ต่ำกว่าจุดวิกฤต 14.00 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง อยู่อีก 88 ซ.ม. ต่อเนื่องมาเป็นสัปดาห์ที่ 4 ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาได้ปรับเพิ่มอัตราการระบายน้ำจาก 85 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 90 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้าท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้นมาอย่ที่ 6.15 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทั้งนี้เพื่อช่วยผลักดันน้ำเค็มที่รุกเข้ามาถึงพื้นที่ สถานีวัดน้ำสำแล จ.ปทุมธานี และบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์ขาดน้ำดิบผลิตน้ำประปาในจังหวัดลพบุรี ปทุมธานี และกรุงเทพมหานคร นายเอกศิษฐ์ กล่าวว่า จากที่เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ มีแผนปรัลดการระบายน้ำจาก 25 ล้าน ลบ.ม./วัน ลงเหลือ 18 ล้าน ลบ.ม./วัน ทำให้ปัจจุบันเขื่อนเจ้าพระยาเหลือน้ำที่จัดสรรเพื่อการเกษตรได้อีกประมาณ 15วัน หรือถึงต้นเดือนสิงหาคม ซึ่งหลังจากนี้ เขื่อนเจ้าพระยาจะปรับลดน้ำเพื่อการเกษตรลง เพื่อไม่ให้กระทบกับน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคของประชาชน ขณะที่คลอง1 ขวา ถนนชัยนาท-สุพรรณบุรี พื้นที่ ต.เที่ยงแท้ อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ชาวนาได้นำเครื่องสูบน้ำกว่า10 เครื่องมาช่วยกันสูบน้ำเข้านา เพื่อนำไปเลี้ยงต้นข้าว แม้เมื่อคืนที่ผ่านมา จะมีเจ้าหน้าที่ทหาร เข้าชี้แจงขอความร่วมมือ กับชาวนาขอให้งดสูบน้ำแล้วก็ตาม โดยนายสมพร(นามสมมติ) ชาวนา ต.เที่ยงแท้ ให้เหตุผลว่าข้าวกำลังตั้งท้อง ถ้าขาดน้ำช่วงนี้ก็จะลีบ และเสียหายทั้งหมด โดยพื้นที่คลอง1ขวา มีนาข้าวทั้งสิ้นกว่า1,700ไร่ ซึ่งนายสมพรกล่าวว่า ตนกู้เงินมาทำนาตอนนี้กว่า100,000 บาท ถ้าจะให้หยุดสูบน้ำตอนนี้ ตนเองยอมตายเสียดีกว่าให้ข้าวตายเพราะถ้าข้าวตายครอบครัวก็จะเดือดร้อน เพราะจะมีสภาพเหมือนตายทั้งเป็นอีกหลายชีวิตถ้าไม่มีเงินใช้หนี้ เงินจะซื้อข้าวกินก็ไม่รู้จะหาที่ใหน ด้านนายพิรุณ ศรีสะอาด อายุ 54 ปี เจ้าของกระชังปลาใน ต.บ้านกล้วย เปิดเผยว่าหลังจากที่แม่น้ำเจ้าพระยาลดระดับลงอย่างต่เนื่องมาตลอด1เดือน ทำให้ปลาทับทิมที่เลี้ยงไว้จำนวน4กระชังเริ่มได้ผลกระทบ โดยในแต่ละวันจะมีปลาที่ลอยหงายท้องตายจำนวนกว่า 30 ตัว เนื่องจากคุณภาพน้ำเริ่มเปลี่ยน จากระดับน้ำที่ลดลง ทำให้น้ำเริ่มขุ่นออกซิเจนในน้ำน้อยลง ปลาที่ลงไว้ 2 เดือนเศษซึ่งยังโตไม่เต็ม ที่เริ่มมีอาการน๊อคน้ำหงายท้องตายทุกวันซึ่งหลังจากนี้เมื่อปลาได้อายุและจับขาย ตนเองคงต้องหยุดเลี้ยงไปก่อน รอให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นสถานการณ์แล้งคลี่คลายไปก่อน แม้รอบนี้อาจจะต้องเสี่ยงกับการขาดทุนก็ตาม
อ้าว ไหนว่าชาวนารวยแล้ว เพราะจำนำข้าวได้ตันละ 15,000 บาท ทำไมต้องกู้ด้วยล่ะ วันนี้(6 ก.พ.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้โพสผ่านเฟซบุ๊ค กรณีการแก้ไขปัญหาโครงการรับจำนำข้าว ยืนยันว่าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล เป็นนโยบายเพื่อยกระดับรายได้ และสร้างความมั่นคงมั่งคั่งที่ยั่งยืน ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับรากหญ้า และนำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย 555
ไม่เป็นไรนี่ครับอยากรู้เหมือนกันว่าน้ำแค่นี้จะพอเลี้ยงข้าวไหม ผมเองเข้าใจครับว่าปลูกข้าวเป็นอาชีพหลัก ของชาวนา แต่ทางการก็เตือนและขอร้องแล้วว่าอย่าปลูก แต่ก็ดื้อที่จะปลูก พอน้ำไม่พอก็โทษทางการ ไว้รอวันที่ไม่มีน้ำดื่มน้ำใช้แล้วกันครับ
พฤติกรรมโค้นต้นมะม่วงเพื่อเก็บผล น้ำเป็นทรัพยากรของทุกคน ถ้าขาดก็ต้องเอาไว้อุปโภคก่อน คนจำพวกนี้ จะเลือกประชานิยม ทั้งๆที่รู้ว่าจะพาไปลงเหว ผมคิดว่าความยากจนก็มีส่วนมาก เพราะท้องอิ่มสำคัญสุดอยู่แล้ว เกษตรกรรมเป็นธุรกิจที่รวยยากแถมรัฐบาลต้องเอาภาษีไปอุดหนุนตลอด ไทยน่าจะเลิกสนับสนุนเกษตร(ค่อยๆเลิกก็ได้ ไม่จำเป็นต้องหักดิบ) แล้วให้แรงงานภาคเกษตรไหลไปสู่ภาคอุตสาหกรรมแทน ไม่มีชาติพัฒนาแล้วที่ไหน ที่เป็นประเทศเกษตรกรรม ปล ผมคิดเล่นๆว่า ทุกวันนี้เราเอาเงินไปอุดหนุนชาวนา ซึ่งเท่ากับว่า ต้นทุนจริงสูงกว่าราคาขาย แปลว่า เราเอาเงินภาษีคนไทยไปอุดหนุนให้ต่างชาติได้กินข้าวไทยถูกๆ
เรื่องชาวนาเร่งสูบน้ำเข้านา เหตุผลคือข้าวตั้งท้องเกือบได้เก็บเกี่ยวแล้ว และเป็นเพียงบางพื้นที่ ผมออกจะเห็นใจนะแม้จะเสี่ยงกับการขาดน้ำหากฝนไม่เป็นไปตามคาด ที่สำคัญแค่บางพื้นที่ ปัญหาคือเราจะอยู่กันอย่างเข้าใจกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันได้อย่างไร ในสถานการณ์นี้ หากผ่านไปได้ ผมเชื่อว่าสังคมเราจะได้มากกว่าเสีย ก้าวข้ามปัญหาเดิม ๆ ได้อย่างสง่างาม หากรู้จักเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยกัน เรียนรู้ที่จะเดินสู่ชัยชนะของประเทศด้วยกัน
คนทำการเกษตรแล้วไม่จนมีจริง แต่เป็นพวกคนที่มีหัวคิดด้านบริหารธุรกิจพอสมควร เป็นพวกที่ค่อนข้างฉลาดในการรับมือวิกฤติต่างๆพอสมควร ซึ่งไม่ใช่ประเภทที่ว่า รู้ว่าปลุกข้าวแล้วไปไม่รอด ก็ยังจะดึงดันปลุกข้าวอยู่ แน่นอน
นายก มักพูดเสมอว่า สื่อฯ ต้องช่วยผมนะ เสนอความเป็นจริง นำความเป็นจริงไปสื่อให้ประชาชนได้เข้าใจว่า รัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่ รัฐบาลนี้กำลังแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนอย่างเร่งด่วน ต้องเข้าใจด้วย แต่ผลก็คือ สื่อไม่สนใจเลย มุ่งจะขายประเด็นข่าวเพียงอย่างเดียว 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ มีแต่ข่าวภัยแล้ง น้ำจะขาดแคลน น้ำเหลือใช้เพียง ..... วัน ปชช. เกษตร แตกตื่น กลัว แย่งกันกักตุนน้ำไว้ใช้ในนา สวน ตัวเอง โชคดีที่มีมรสุมเข้าช่วงนี้ ไม่งั้นมีข่าวทะเลาะกันแย่งน้ำแน่ๆ
