ตำแหน่งเป็นกรรมการ สสส. ยกมือผ่านงบให้ NGO ที่ตัวเองนั่งเป็นกรรมการ ทั้งๆที่โครงการมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับวัตถุประสงค์ สสส. !!! ผมว่า NGO เมืองไทยมันหากินง่ายกันดีจัง(ไร) http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/681624 แล้วไอ้NGO สสส. มันก็โม่ว่าช่วยทำให้คนไทยสุขภาพดี ลดจำนวนผู้เสพเหล้า-บุหรี่ แต่รายได้ สสส. ที่มาจาก2%ของภาษีสุรายาสูบ เพิ่มขึ้นทุกปี คือถ้าทำงานได้ผลจริงรายได้ต้องลดครับ ไม่ใช้เพิ่ม http://thaipublica.org/2015/05/thaihealth-2015/ #NGOthaiคือตัวถ่วงความเจริญของชาติ
วัตถุประสงค์ตามกฎหมาย กองทุนสสส. มีที่มาของเงินกองทุนร้อยละ 2 จากกฎหมายว่าด้วยสุราและยาสูบ ในปี 2555 มีรายได้จากส่วนแบ่งของภาษีสุรา ยาสูบ ประมาณ 4,680 ล้านบาท โดยกำหนดวัตถุประสงค์การใช้เงินกองทุนไว้ 6 ข้อ ได้แก่ 1.ส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพในประชากรตามนโยบายสุขภาพแห่งชาติ 2.สร้างความตระหนักเรื่องพฤติการณ์การเสี่ยงจากการบริโภคสุรา ยาสูบหรือสารหรือสิ่งอื่นที่ทำลายสุขภาพและสร้างความเชื่อในการสร้างเสริมสุขภาพ 3.สนับสนุนการรณรงค์ให้ลดการบริโภคสุรา ยาสูบ หรือสารหรือสิ่งอื่นที่ทำลายสุขภาพ 4.ศึกษาวิจัยหรือสนับสนุนให้มีการศึกษาวิจัย ฝึกอบรมให้มีการประชุมเกี่ยวกับการสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ 5.พัฒนาความสามารถของชุมนุมในการเสริมสร้างสุขภาพโดยชุมชนหรือองค์กรเอกชน องค์กรสาธารณะประโยชน์ ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ และ 6.สนับสนุนการรณรงค์สร้างเสริมสุขภาพผ่านกิจกรรมในลักษณะเป็นสื่อเพื่อให้ประชาชนสร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรง ปรับปรุงอาคารให้แก่มูลนิธิผู้บริโภค3ล้านนี่มันตรงวัตถุประสงค์มั๊ย สสส. ที่สนับสนุนสถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทยจำนวนกว่า 100 ล้านบาท http://www.hfocus.org/content/2015/10/11109 นี่แค่ตัวอย่างจากเป็นพันโครงการ ประเทศไทยทุจริตกันยันNGOที่อ้างตัวว่าเป็นคนดี!
http://www.komchadluek.net/detail/20151027/215843.html ที่เขาโดนเพราะโครงการผิดวัตถุประสงค์ที่ระบุในกฎหมาย แต่ดันมั่วไปพูดว่ารัฐบาลเข้าข้างบริษัทเหล้า ทั้งๆที่ไม่เกี่ยวเลย เพราะต่อให้มี สสส. ยอดขายเหล้ามันก็เพิ่มทุกปี
มันทะแม่งๆตรงงบบางเรื่องเช่นสวดมนต์ข้ามปี สสส.จ่าย เฮ้ย! แล้วจะมีกรมศาสนาไปทำไม เหมือนที่รมว.ยุติธรรมพูด ทำผิดมานานจนคิดว่ามันถูก
ผมเข้าใจว่า สวดมนต์ข้ามปีเป็นกิจกรรมที่เพิ่งมีไม่นานเมื่อไม่เกิน 15 ปีมานี่เอง ซึ่งเป็นกิจกรรมทางเลือกใหม่ของคนที่ไม่ชอบดื่ม ไม่ชอบแสงสี ฯลฯ หรือก็ไม่ก็เรื่อง เอาศาสนามาเป็นที่พึ่ง เป็นหลักใจ-หลักชัยให้กับชีวิต จึงมีกิจกรรมนี้ แล้ว สสส. ก็เห็นความสำคัญ เลยให้งบสนับสนุนด้วย อ้าว .... แล้วกรมการศาสนากับสำนักงานพุทธศาสนาฯ ล่ะ ??
ถ้าเขาจะแถ ก็คงแถไปเรื่องสุขภาพจิต แต่ยังไงก็ตามแต่ หลักๆที่ชาวบ้านเขาคาใจคือ นั่งเป็นกรรมการ สสส. แล้วไปอนุมัติงบให้องค์กรเอกชนที่ตัวเองนั่นเป็นกรรมการ(รับเงินเดือน2ที่!) ไม่ผิดกฎหมาย แต่องค์กรที่ควรเป็นแบบอย่าง ดันทำตัวเหมือนนักการเมืองที่ตัวเองด่า .... สุดท้ายก็ต้องออกกฎหยุมหยิมมาคุมอีก เฮ้อ
ตอบแบบมโนสุดๆ เลยนะ งบและบอร์ด สสส. คือท่อน้ำเลี้ยงทางความคิดของระบอบทักษิณ ผมไม่อยากเถึยงกับใครทั้งนั้น บอกแล้วไงว่ามโน
ความมันส์เริ่มต้นแล้วครับทุกท่าน ฝ่ายแดงกับฝ่ายน้ำเงินใครจะอยู่ใครจะไปไม่กี่วันรู้กัน ยกแรกฝ่ายแดงเล่นดราม่าเรื่องการยุบ สสส. แต่ฝ่ายน้ำเงินได้ออกมาปฏิเสธแล้ว บอกว่าตรวจสอบการทุจริตธรรมดา ประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ หรือ ศอตช. ระบุว่า "รัฐบาลไม่มีเจตนาที่จะยุบองค์กรในตระกูล ส." และกล่าวย้ำกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ต้องร้องขอความเป็นธรรม ตามแนวปฏิบัติจากกรณีคำสั่งหัวหน้า คสช. ******************************************************************* ยกต่อมา ฝ่ายน้ำเงินสวนกลับ ตามไปเก็บภาษีย้อนหลังมูลนิธิต่างๆ ที่ได้รับเงินจาก สสส. ขณะนี้กรมสรรพากรส่งหนังสือไปตามองค์กรต่างๆที่เคยได้รับเงินสนับสนุน จาก สสส. อาจจะถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง 5 ปี ถ้าตีความว่าเงินที่ สสส.สนับสนุนต้องเสียภาษีจริงอาจสูงถึง 800 ล้านบาท ******************************************************************* ส่วนฝ่ายแดงที่โดนปลดไปก่อนหน้านี้ก็ดาหน้าออกมาแก้ข้อกล่าวหากันแล้ว นายวิเชียร พงศธร อดีตกรรมการ สสส. แถลงข่าวตอบโต้ข้อกล่าวหาว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน อนุมัติงบประมาณให้องค์กรหรือมูลนิธิที่ตัวเองเป็นกรรมการ
อันนี้นักข่าวเค้าเข้าไปสืบมาว่าใครเป็นบอร์ด สสส. แล้วผันงบเข้ามูลนิธิตัวเองบ้าง เกาะติดกรณีเปิดงบประมาณ สสส. อนุมัติเงินอุดหนุนมูลนิธิบอร์ดควบตำแหน่ง
www.facebook.com/NationChannelTV/posts/10153931235942450 ลองอ่านป้ายดิครับ www.facebook.com/NationChannelTV/photos/pcb.10153931235942450/10153931235232450/
สรุป ทำเพื่อปากท้องตัวเองสินะ หากินสะดวกกว่า สส. อีก ขอใช้งบ แต่ตรวจสอบไม่ได้แถมไม่ต้องจ่ายภาษีรายได้ http://www.posttoday.com/analysis/report/409835
ผมว่านี่แหละจุดเริ่มของการปฏิรูป ไม่มีใคร หรือหน่วยงานอะไรจะมาดราม่าหนีการตรวจสอบได้อีกต่อไป ไม่ว่ามันจะมารูปแบบไหน ก็ต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนครับ
ประยุทธ เจอคนวางยา แน่นอนครับ ใน สสส มีแต่คนดีๆ ดันไปสั่งปลด เขาผิดพลาดก็แค่เรื่องงบประมาณแค่นั้น แต่ไม่มีทุจริต ใครไปว่า สสส ก็ขอโทษกันด้วยละกัน
สรุปว่าก็ไม่ได้ให้กลับตำแหน่ง แต่คือให้ที่เหลือทำงานได้(องค์ประชุม) ผมก็ไม่เคยพูดว่าพวกเขาโกงนะ เพียงแต่พูดว่าผลประโยชน์ทับซ้อน เช่นเป็นกรรมการในมูลนิธิที่ตัวเองอนุมัติงบ หรืองบ สสส. หลายตัวก็ไม่เกี่ยวกับสุขภาพ(ผิดวัตถุประสงค์การตั้งองค์กรตามกฎหมาย) และ ผมก็ไม่ค่อยชอบ NGO พวกนี้เท่าไหร่ ทำอะไรก็เอาแต่พวกพ้องตัวเอง ดูอย่างล่าสุด ไทยพีบีเอส ผอ. ก็เอา NGO ไปเป็นอีกแล้ว ทั้งๆที่ไม่มีประสบการณ์บริหารสถานีโทรทัศน์เลย! http://www.dailynews.co.th/politics/373186
สรุปนายกฯ ขอโทษบอร์ด สสส. คนไหนกันแน่ คนที่โดนปลด หรือคนที่ยังเหลืออยู่แล้วประชุมไม่ได้ วานบอก ??? แล้วบอร์ดที่นายกฯ บอกว่าจะตั้งใหม่นั้น เป็นคนเดิมที่โดนปลด หรือว่าคนใหม่ที่สรรหาใหม่ วานบอก ??? อย่าบิดเบือนคำพูดคนอื่นซิ ไปฟังประโยคที่นายกฯ ให้สัมภาษณ์เต็มๆ ดูซิ เริ่มตั้งแต่นาทีที่ 0.35 ในคลิป หลังจากที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถูกวิพากษ์วิจารณ์ กรณีการออกคำสั่งโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 สั่งพักการทำงาน หรือปลดบอร์ด สสส. 7 คน เมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา // วันนี้ พลเอกประยุทธ์ ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ บนเวทีระหว่างให้โอวาท แก่คณะผู้บริหาร และผู้แทนองค์กรในสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ที่อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แห่งใหม่ ถนนรัชดาภิเษก ว่า กราบขอโทษ พร้อมยืนยันว่าไม่เคยบอกว่าทุจริต และวันจันทร์หน้าจะออกคำสั่ง ให้กรรมการที่เหลืออยู่สามารถประชุมเพื่อแต่งตั้งกรรมการและผู้บริหารใหม่ได้ พร้อมบอกว่าอยากให้เข้าใจ กลัวว่าจะไม่ช่วยขับเคลื่อนประชาสังคม http://www.now26.tv/view/66615
การอนุมัติงบประมาณที่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และมีผลประโยชน์ทับซ้อน เป็นเหตุผลหลักที่ศอตช. มองว่าเป็นปัญหาในการบริหารกองทุนสสส. จนนำไปสู่การปลดบอร์ดสสส. 7 คน ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน หนึ่งในหน่วยงานที่ตรวจสอบเรื่องนี้ ได้ชี้แจงรายละเอียดกับ ไทยรัฐทีวี ถึงที่มาที่ไปและข้อสงสัยที่ตรวจพบ ติดตามได้จากรายงาน *************************************** หลังจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ถูกตั้งข้อสงสัยว่ามีหลายโครงการจัดสรรงบประมาณที่ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ และอาจเกิดความไม่โปร่งใส ไปจนถึงเรียกร้องให้ยุบกองทุนดังกล่าว วันนี้เราจะมาดูที่มาของการจัดตั้งองค์กรรวมถึงโครงสร้างการบริหาร ติดตามจากรายงาน
ขอโทษทีครับ ผมอ่านแค่หัวข้อ วันนี้ฟังสื่อช่อง3 เขาบอกให้คนอื่นทำงาน ส่วนคนที่โดนปลด ก็เจอปลดเหมือนเดิม
ตอนนี้ให้บอร์ดที่เหลือเดินหน้าต่อไปได้แล้ว คนที่โดนปลดไปแล้วก็ไปแก้ข้อกล่าวหาก่อนแล้วค่อยกลับมานะ นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้า คสช.ออกคำสั่งตามมาตรา 44 ให้กรรมการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ บอร์ดสสส. ที่เหลืออยู่ สามารถทำงานต่อไปได้ หลังจากลงนามปลดบอร์ดผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 7 คนไปก่อนหน้านี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เปิดเผยล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาว่า ได้ลงนามในคำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับใหม่ ที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว พุทธศักราช 2557 แล้ว โดยกำหนดให้บอร์ด สสส.ที่เหลืออยู่สามารถทำงานต่อไปได้ โดยตั้งรองประธานบอร์ดขึ้นมา 1 คนเพื่อขับเคลื่อนงาน ก่อนหน้านี้ พลเอกประยุทธ์ ได้ออกคำสั่งหัวหน้า คสช.ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของ สสส.จำนวน 7 คนหยุดการทำหน้าที่ ทำให้บอร์ดที่เหลืออยู่มีแต่ข้าราชการประจำซึ่งเป็นผู้แทนหน่วยงานต่างๆ และถูกตั้งคำถามจากหลายฝ่ายว่าบอร์ดที่เหลือสามารถจัดประชุมเพื่อดำเนินงาน สสส.ต่อได้หรือไม่ ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การมีคำสั่งออกมาใหม่ ไม่ได้หมายความว่าคำสั่งเดิมมีความบกพร่อง เพราะเป็นเพียงการให้กรรมการพ้นไปโดยไม่มีการตั้งกรรมการสอบ เพราะไม่มีเรื่องทุจริต และให้รีบสรรหากรรมการใหม่ แต่เมื่อกรรมการที่มีอยู่ทำงานไม่ได้ รัฐบาลก็ได้แก้ไขให้ ส่วนจะให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมเข้าไปรับการสรรหาใหม่หรือไม่นั้น นายวิษณุ บอกว่า ต้องแก้เรื่องตำแหน่งที่ทับซ้อนหรือเข้าข้อยกเว้นก่อน ส่วนจะสรรหาเมื่อใดนั้นอยู่ที่สสส.
ราษฎรอาวุโสก็เอากับเขาด้วย ฟาดงบไป500ล้าน http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9590000007274
กลับมาประชุมได้แล้ว ข่าว 7 สี - สสส.ประชุมบอร์ดนัดแรกหลังนายกรัฐมนตรีคืนอำนาจให้ โดยที่ประชุมได้ตั้งคณะกรรมการ7 คน เพื่อสรรหาบอร์ด สสส.ที่ถูกปลดออกไป และมีมติให้ทันแพทย์สุปรีดาอดุลยานนท์เป็นผู้จัดการสสส.คนใหม่ หลังนายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตามมาตรา 44 สั่งปลดคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพหรือ บอร์ด สสส.7 คน และคืนอำนาจให้ บอร์ดที่เหลือได้ทำหน้าที่ต่อเมื่อวันที่18 มกราคมที่ผ่านมา วันนี้ สสส.ได้จัดประชุมบอร์ดนัดแรก มีนายชำนาญ พิเชษฐพันธ์ เป็นรองประธานกรรมการคนที่2 ตามคำสั่ง คสช. และมีพลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน บอร์ด สสส. หลังประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา 7 คน เพื่อทำหน้าที่สรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ แทนคนเก่าที่ถูกปลดไปอีก 7 คน พร้อมมีมติให้ทันตแพทย์สุปรีดาอดุลยานนท์เป็นผู้จัดการสสส.คนใหม่แทนทันตแพทย์กฤษฎาเรืองอารีย์รัชต์ที่ลาออกไป ขณะที่ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพประชาชนกว่า 200 คน ได้ยื่นหนังสือต่อพลเรือเอกณรงค์เรียกร้องให้การตั้งคณะกรรมการสรรหาบอร์ดสสส.อีก7 คน มีความโปร่งใส พร้อมกับผูกริบบิ้นขาว แสดงสัญลักษณ์ในการปกป้องระบบสุขภาพของไทยรวมถึงยังได้ทำกิจกรรมแกว่งแขนออกกำลังกายและล้มลงนอนกับพื้น สะท้อนถึงความเดือดร้อนของภาคีเครือข่ายที่เป็นอยู่ในขณะนี้ด้วย
จากกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นในสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะประเด็นการใช้งบผิดวัตถุประสงค์ รวมถึงเงินค้างท่อ กว่า 500 โครงการที่ถูกสั่งชะลอไม่มีกำหนด ล่าสุดวันนี้ ดร.ทพ.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส. คนใหม่ แถลงเปิดใจกับภารกิจใหม่ และแนวทางการทำงานในอนาคต ไปติดตามประเด็นนี้กับ ขวัญเรียม แก้วสุวรรณ ผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวี รายงานจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
หลังปรับปรุงการทำงานแล้ว ผู้แทนองค์การอนามัยโลก ภูมิภาคเอเชียใต้-ตะวันออก ยกย่องระบบส่งเสริมสุขภาพไทย เป็นต้นแบบของอาเซียน เพราะการประสานความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง ระหว่างผู้กำหนดนโยบายกองทุนประกันสุขภาพ และ สสส. พลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้นำการสร้างเสริมสุขภาพ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับความสนใจจาก 7 ประเทศในภูมิภาค ได้แก่ เมียนมา ,อินโดนีเซีย ,กัมพูชา ,ภูฏาน ,มัลดีฟส์ ,ศรีลังกา และติมอร์-เลสเต รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพแห่งชาติ หรือ สสส. ซึ่งมีประสบการณ์การทำงานสร้างเสริมสุขภาวะของคนไทย มากว่า 15 ปี และมีผลงานทางด้านการส่งเสริมสุขภาพที่ดีอย่างต่อเนื่อง สามารถเป็นต้นแบบให้นานาชาติ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน ยึดเป็นแบบอย่างการทำงานด้านการส่งเสริมสุขภาพ และโรคติดติดไม่เรื้อรังให้กับประชากรได้ ด้านนางสุวจี กู๊ด ผู้ประสานงานด้านการสร้างเสริมสุขภาพและปัจจัยกำหนดสุขภาพทางสังคม องค์การอนามัยโลก ภูมิภาคเอเชียใต้-ตะวันออก บอกว่า หน้าที่ขององค์กรส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่แค่สร้างความรู้ความเข้าใจ และความตระหนัก แต่ต้องเพิ่มทักษะการทำงานให้กับบุคลากรในองค์กรสร้างเสริมสุขภาพด้วย และ ยอมรับว่า ระบบสุขภาวะของไทย ถือว่าเข้มแข็งที่สุดในภูมิภาค เนื่องจากมีการทำงานร่วมกัน ระหว่างภาครัฐกับองค์กรหลักประกันสุขภาพ และหน่วยงานส่งเสริมสุขภาพอย่างต่อเนื่อง
