จากข่าวนี้ครับ Who's fighting people-smuggling? U.S. releases rankings http://edition.cnn.com/2015/07/27/world/us-trafficking-tip-report-2015/ โรฮิงญาส่งไปมาเลเซีย ปลายทางก็อยู่ที่มัน หลุมศพก็เจอที่มาเลเซียด้วย แต่มันได้ยกระดับซะงั้น นี่คือถ้าไม่จับจากฝั่งเราได้ ฝั่งนู้นป่านนี้ยังนอนตีพุงกันอยู่เลยมั้ง สรุปคือเราต้องเอาอย่างมาเลยเซียเลยฮะ ต่อให้เจอหลุมเป็นร้อยศพ ก็ไม่ไปต้องไปขุดให้มันเหนื่อย อ้างผิดหลักศาสนา ไม่ขุดต่อ ไม่ขุด ก็ต้องเจอศพ ฉลาดมากฮะ ใครถาม ก็ปฎิเสธเสียงแข็งไปเลยไม่มี
สรุปอเมริกาก็ยังเล่นการทูตสองหน้าเช่นเดิมครับ ด้านการเมือง บี้ไทยเต็มที่ ข้อหาคิดแข็งเมืองไปฝักใฝ่กรุงจีนและกรุงรุสเซีย อะไรบี้ได้ บี้ให้หมด จนกว่าจะกลับมาสวามิภักดิ์กรุงวอชิงตัน แต่ด้านทหาร ก็ยังคงดู๋ดี๋กันอยู่ เผื่อวันหน้า เมื่อเลือกตั้งแล้ว พวกโปรมะกันกลับมา ก็จะได้ต่อสัมพันธ์กันติด ซึ่งการจะทำให้เป็นอย่างนั้นได้ ฝ่ายการเมืองก็ต้องบี้สุดฤทธิ์ ล้ม คสช ผู้แปรพักตร์ให้จงได้ การจัดอันดับเทียร์ๆเฮียๆ ไรเนี่ย มันจะเขย่า คสช ได้ "ถ้า" ไม่มีประเด็นการเมืองระหว่างมาเลเซีย หรือคิวบา เข้ามา เพราะเรื่องนี้มันทำให้การจัดอันดับนี้เสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ไปในทันที กลายเป็นเรื่องเดียวคือ "ผลประโยชน์"
มันก็แค่เครื่องมือไว้เล่นการเมืองระหว่างประเทศ ผมว่าทีมเศรษฐกิจน่าจะปรับโครงสร้างจริงจัง ยกระดับไปอีกขั้นแบบที่เกาหลีหรือจีนเขาทำได้ เลิกแนวคิดพึ่งพา GSP แบบเดิมๆ หันมาสู่การผลิตสินค้าที่คนเขาต้องเลือกใช้เลือกซื้อโดยไม่หวังพึ่งสิทธิพิเศษใดๆ เศรษฐกิจมันถึงวนลูปเสื่อมถอยโงหัวไม้ขึ้น เป็นเบี้ยล่างตลอดเวลา
การประชุม TPP เริ่มแล้วนะครับ จัดที่ฮาวาย สหรัฐเป็นผู้นำการประชุม ถ้าสำเร็จก็จะเป็นผลงานประวัติศาสตร์ของโอบามา วันอังคาร ที่ 21 กรกฎาคม 2558 จริงหรือที่สหรัฐฯ แก้คะแนนรายงาน TIP ได้...เพื่อแลกกับ TPP? Posted by สุทธิชัย หยุ่น , ผู้อ่าน : 667 , 15:52:00 น. รายงานประจำปีของสหรัฐฯว่าด้วยการค้ามนุษย์ของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกที่เรียกว่า Trafficking in Persons (TIP) Report ควรจะประกาศกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาแต่ถูกเลื่อนออกไป จึงวันนี้เลยกลางเดือนกรกฎาคมแล้ว, วอชิงตันยัง “ปล่อยของ” ออกมา ทำให้เกิดการวิเคราะห์กันไปต่าง ๆ นานา โดยเฉพาะเมื่อมีรายงานข่าวของรอยเตอร์ว่าเจ้าหน้าที่มะกันที่รับผิดชอบรายงานนี้ได้รับคำสั่งจากเบื้องบนให้ยกระดับของมาเลเซียในเรื่องนี้จากระดับ (Tier) 3 กลับมาที่ระดับ 2 ไม่ใช่เพราะมาเลเซียแก้ปัญหาเรื่องค้ามนุษย์ของตนเองได้ดีขึ้น หากแต่เป็นเพราะประธานาธิบดีบารัก โอบามาต้องการให้รัฐบาลมาเลเซียสนับสนุนการเจรจากับสหรัฐฯในการเข้าเป็นสมาชิกของ Trans Pacific Partnership (TPP) ประเทศไทยอยู่ใน Tier 3 เหมือนมาเลเซีย และในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมารัฐบาลไทยก็พยายามจะทำหลายสิ่งหลายอย่างโดยเฉพาะกรณีชาวโรฮิงญาให้เห็นว่ามีการจับคนที่ร่วมกระทำผิดรวมไปถึงตำรวจและทหารที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง แต่เพราะรายงานประจำปี TIP “ปิดเล่ม” ในเดือนมีนาคม จึงไม่แน่ใจว่าสิ่งที่รัฐบาลไทยทำตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนมิถุนายนที่ผ่านไปจะได้รับการพิจารณาว่าเป็นความพยายามแก้ไขปัญหาเพื่อให้รายงานนี้เปลี่ยนสถานภาพของไทยจาก Tier 3 กลับมาที่ Tier 2 หรือไม่ หรือหากยังอยู่ที่ Tier 3 จะมีความผ่อนผันโดยที่ประธานาธิบดีโอบามาไม่ให้อำนาจตามกฎหมายที่จะ “ลงโทษ” ไทยด้วยการคว่ำบาตรหรือจำกัดการค้าขายกับสหรัฐฯหรือไม่อย่างไร แต่ข่าวที่ว่าโอบามาจะ “อุ้ม” มาเลเซียเป็นกรณีพิเศษเพราะต้องการ “ยื่นหมูยื่นแมว” กับผลประโยชน์ทางด้านการค้านั้นทำให้เห็นว่าเรื่อง TIP Report มิได้มีมาตรฐานที่น่าเชื่อถือได้ตามหลักการอันควรจะเป็นจริง ๆ หากแต่ทุกอย่างที่สหรัฐฯทำนั้นมีเรื่องผลประโยชน์การเมือง, เศรษฐกิจและความมั่นคงแอบแฝงอยู่หรือไม่ หลังจากรอยเตอร์รายงานเรื่องนี้ ผมก็รอว่ากระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯจะออกมาปฏิเสธข่าวนี้อย่างไร เพราะหากเป็นจริง ย่อมจะเกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของอเมริกาในฐานะ “พี่เบิ้ม” ที่ชี้นิ้วกำหนดกติกาให้ใครต่อใครต้องทำตาม แต่ตนเองกลับสามารถบิดเบือนเงื่อนไขต่าง ๆ เป็นกรณีพิเศษเพื่อแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์ทางด้านอื่น ๆ ได้ ต่อมาอีกไม่กี่วัน หนังสือพิมพ์ New York Times ก็ยืนยันข่าวรอยเตอร์ไปในทำนองเดียวกัน นักการทูตวงในบอกว่าเหตุผล “ทางการ” ที่รายงาน TIP ใหม่ปีนี้ที่จะยกระดับของมาเลเซียจาก Tier 3 กลับไปเป็น Tier 2 ก็เพราะรัฐสภามาเลเซียได้ออกกฎหมายต่อต้านการค้ามนุษย์และได้ช่วยเรื่องโรฮิงญาในช่วงเดือนเมษายน, ปีนี้ แต่รัฐบาลไทยได้รับการบอกกล่าวจากทางการสหรัฐฯว่ารายงานนี้ “ปิดเล่ม” ในเดือนมีนาคมแล้ว อะไร ๆ ที่รัฐบาลไทยทำหลังจากเดือนมีนาคมจึงไม่อาจจะนับเป็นผลงานในรายงานประจำปีเล่มนี้ได้ ถ้าเป็นจริง นี่คือการใช้ “สองมาตรฐาน” ของสหรัฐฯต่อมาเลเซียและไทยหรือไม่? และมาตรฐานที่ไม่เหมือนกันเช่นนี้เป็นเพราะประเทศหนึ่งยอมแลกผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจมากกว่าอีกประเทศหนึ่งใช่หรือไม่? หากเป็นเช่นนี้จริง ก็ต้องมีคำถามต่ออีกว่ากติกาและเงื่อนไขที่ทางการสหรัฐฯเขียนขึ้นมาเพื่อจัดลำดับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกในทุก ๆ เรื่องอันเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน, การค้ามนุษย์, ค้ายาเสพติด, และ “ประชาธิปไตย” นั้นไม่จำเป็นต้องใช้เหมือนกันกับทุกประเทศ และสหรัฐฯสามารถจะเลือกปฏิบัติต่อบางประเทศได้ แล้วแต่ว่าใครจะยอมแลกผลประโยชน์ด้านอื่น ๆ กับวอชิงตันมากน้อยเพียงใดกระนั้นหรือ? แน่นอนว่าประเทศไทยเราจะต้องเดินหน้าแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์, สิทธิมนุษยชน, ประชาธิปไตยต่อไปอย่างจริงจัง ไม่ใช่เพื่อเอาใจสหรัฐฯ, ไม่ใช่เพื่อให้ได้ “คะแนน” ในการจัดลำดับของอเมริกา, แต่เพื่อให้คนไทยได้มีชีวิตในทุก ๆ ด้านตามมาตรฐานสากลที่มนุษยโลกพึงจะได้รับ อีกไม่นานเกินรอ เมื่อรายงาน TIP Report เปิดตัวออกมาจากวอชิงตัน เราก็จะได้รู้ว่ามาตรฐานมะกันนั้นมีหลายชุดหลายชั้นอย่างที่ถูกกล่าวหาจริงหรือไม่!
อ่านแล้วน้ำตาจะไหล ซาบซึ้งใจในความกรุณา เมตตาปรานีที่อเมริกามีต่อประเทศไทยอย่างมาก สถานทูตUSแถลงยังหนุนไทย-โอบาม่าพิจารณา90วัน ข่าวต่างประเทศ วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ.2558 7:53น. สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ ประจำประเทศไทย แถลง ยังคงสนับสนุนเจ้าหน้าไทย ในการเดินหน้าปราบปรามการค้ามนุษย์อุปทูตเผย ประธานาธิบดี โอบาม่า จะพิจารณาในวัน90วัน ว่าจะมีมาตรการอย่างไรต่อไทยหรือไม่ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ ออกคำแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ทางการของสถานทูตบนหน้าหลักของเว็บไซต์ว่า รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี 2558 ที่ประเทศไทยยังคงอยู่ในบัญชีกลุ่มที่ 3 ครอบคลุมความพยายามต่อต้านการค้ามนุษย์ของรัฐบาลประเทศต่างๆ ระหว่างวันที่ 1 เม.ย.57 ถึง 31 มี.ค.58 แม้ไทยได้ดำเนินมาตรการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ และการประสานงานระหว่างหน่วยงานการปราบปรามการค้ามนุษย์ แต่ในช่วงเวลาของการทำรายงาน ไทยไม่ได้ดำเนินการที่จำเป็นอย่างเพียงพอ ที่จะบรรลุผลความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ที่ยากลำบากนี้ การจัดระดับประเทศในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ พิจารณาจากการประเมินบันทึกการดำเนินการปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยไม่ได้คำนึงถึงบริบททางการเมืองของประเทศนั้นๆ แต่สหรัฐ ยังคงสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่รัฐของไทย ดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้นในการปราบปรามการค้ามนุษย์ ตลอดช่วงการทำรายงานฉบับปี2559 และตลอดไป ซึ่งรัฐบาลสหรัฐมุ่งมั่นดำเนินงานร่วมกับรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทยเพื่อรับมือปัญหาสำคัญนี้ อันเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามต่อต้านการค้ามนุษย์ทั่วโลกของสหรัฐฯส่วน นายแพทริค เมอร์ฟี่ย์ อุปทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้ตอบผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า สหรัฐจะคว่ำบาตรไทยหรือไม่นั้นประธานาธิบดี บารัค โอบาม่า ผู้นำสหรัฐ จะพิจารณาภายใน 90 วันหลังจากที่รายงานดังกล่าวออกมา ว่าจะตัดสินใจใช้มาตราการต่อไทยหรือไม่ อย่างไร
ถึงมันจะพยายามที่จะทำตัวเป็น "ตำรวจโลก" แต่มันก็เป็นได้เพียงแค่ "จอมเสือกโลก" เท่านั้น สันดานของอเมริกัน ไม่เคยเปลี่ยนและไม่มีวันที่จะมาเป็นมหามิตรของไทยได้