นึกถึงเมือ 15 ปีก่อน พี่ชูวงยังไม่รวย เคยชวนไปทำงานด้วย หลังจากพี่เขารู้ว่าจบที่เดียวกับพี่เขาคือ ม.ช. ตอนนั้นพี่เขาเป็น PM ที่ ฤทธา นะค่ะ ถ้าจำไม่ผิด ดูข่าวอีกทีเสียใจ กับครอบครัว พี่เขา ค่ะ
cr:ย้อนเส้นทาง..."มรณะ"...เสี่ยหมื่นล้าน #ข่าวช่อง8 NewsThaich8 จากเม้นที่100 ผมว่าคลิบนี้ให้รายละเอียดช่วงประสพณ์อุบัติเหตุมาก
ญาติชูวงษ์"ร้องสถาบันนิติวิทย์ฯ ช่วยสอบสาเหตุการตายเพียงประเด็นเดียว ยังไม่ร้องขอตรวจดีเอ็นเอสาวที่รับโอนหุ้น นายเอนก คำชุ่ม ทนายความพร้อมด้วยนางวันเพ็ญ ธนวรรมสิริ พี่สาวนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง และนายกันต์ แซ่ตั๊ง ลูกชายนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง เดินทางเข้าพบพญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อขอให้ตรวจสอบเรื่องศพของนายชูวงษ์ที่ญาติยังมีข้อสงสัยสาเหตุการเสียชีวิตของสถาบันนิติเวชวิทยาว่าสอดคล้องกันหรือไม่ เนื่องจากผลตรวจพบว่าศพมีบาดแผลที่ศรีษะด้านหลัง แต่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่ามีบาดแผลด้านหลังซ้าย –ขวา จึงเชื่อว่าหากมีการตรวจสอบข้อมูลตามหลักนิติวิทยาศาสตร์จะช่วยคลายข้อสงสัยและอธิบายถึงความสัมพันธ์ระหว่างแรงกระแทกกับบาดแผลที่ปรากฎได้ ด้านพญ.คุณหญิงพรทิพย์ ได้ชี้แจงให้ญาติทราบถึงหน้าที่ของนิติวิทยาศาสตร์ในการตรวจพิสูจน์หลักฐานและบทบาทของญาติในการเข้าถึงข้อมูลและพยานหลักฐาน ซึ่งกรณีดังกล่าวต้องประมวลหลักฐาน 3 ส่วนสำคัญคือ ศพ รถยนต์คันเกิดเหตุ และสภาพแวดล้อมในที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ทำได้เพียงการให้ข้อแนะนำ หากจะให้เข้าไปดำเนินการทางคดี ซึ่งต้องอาศัยหลักการเข้าถึงที่เกิดเหตุญาติต้องร้องไปยังกระทรวงยุติธรรม หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก่อน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นแนะนำให้ญาติเข้าขอข้อมูลแพทย์ที่ผ่าพิสูจน์ศพ จะได้ช่วยยืนยันบาดแผลว่ามีในส่วนใดบ้าง เพราะหากเป็นบาดแผลด้านหลังตามที่ปรากฎเป็นข่าว อาจไม่เข้าหลักของอุบัติเหตุจราจรกรณีที่เป็นการชนจากด้านหน้า ดังนั้นการขอข้อมูลจากแพทย์ที่เป็นผู้ผ่าศพจะทำให้เห็นข้อเท็จจริง พร้อมกันนี้ยังมีกระบวนการตรวจสอบรถยนต์ และสถานที่เกิดเหตุที่สามารถใช้วิศวกรที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญมาช่วยพิสูจน์ได้ โดยทั้งหมดเป็นจะเป็นสำคัญนำมาใช้วิเคราะห์ได้ โดยญาติควรกลับไปรวบรวมข้อมูลตามคำแนะนำให้ครบก่อนจึงจะดำเนินการต่อไปได้ กรณีดังกล่าวถือเป็นคดีอุบัติเหตุจราจรหลักนิติวิทยาศาสตร์ ทราบว่าขณะนี้ญาตินายชูวงษ์อยู่ระหว่างรอการส่งหุ้นจำลองจากต่างประเทศที่มีราคาสูงถึง 10 ล้านบาทมาใช้ในการจำลองเหตุการณ์ “สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ยังไม่มีความเห็นในเรื่องดังกล่าว แต่ยืนยันได้เพียงว่าคดีดังนี้ตรวจสอบได้ไม่ยาก แค่นำจิ๊กซอร์มาประมวลผลร่วมกันเท่านั้น ขอแค่ให้ญาติได้ข้อมูลทั้งหมดที่แนะนำกองรวมกันก็สามารถวิเคราะห์ได้ ทั้งนี้ต่างประเทศให้ความสำคัญกับคดีอุบัติเหตุจราจร จึงต้องมีการตรวจวิเคราะห์ทุกคดีว่าเกิดจากสภาพถนนหรือความบกพร่องของรถยนต์ เพราะเป็นคดีที่สามารถป้องกันได้ โดยเฉพาะอุบัติเหตุกับรถรับส่งนักเรียน” ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า ด้านนายเอนก กล่าวว่า ญาติจะดำเนินการตามคำแนะนำของหมอพรทิพย์ด้วยการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดให้ได้มากที่สุด โดยจะเข้าขอข้อมูลและภาพถ่ายจากแพทย์ที่ผ่าศพโดยตรง ทั้งนี้ เชื่อว่าหลักนิติวิทยาศาตร์จะช่วยตอบข้อสงสัยที่มีอยู่ได้ ส่วนกรณีที่ยื่นเรื่องให้สน.อุดมสุขโอนสำนวนคดีการเสียชีวิตมาให้กองบังคับการปราบปรามสอบสวนคดีนั้น เพราะญาติเชื่อว่ากรณีการโอนหุ้นและกรณีรถชนเชื่อมโยงกัน ไม่ได้ต้องการให้โอนคดีเพราะไม่เชื่อมั่นในสน.อุดมสุขแต่ต้องการให้มีการสอบสวนที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ส่วนเรื่องการฟ้องร้องเรียกเงินจากการโอนหุ้นคือนั้น ญาติจะรอให้ตำรวจสรุปสำนวนทั้งหมดก่อน แต่เบื้องต้นยืนยันว่าครอบครัวผู้เสียชีวิตได้รับความเสียหายไปแล้วตั้งแต่ต้น หลังจากนี้จะรอเพียงการสรุปสำนวนเพื่อให้ทราบผู้เกี่ยวข้องและความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ขณะที่นางวันเพ็ญ กล่าวว่า ในวันนี้( 17 ส.ค.) ได้เข้าพบเพื่อหารือเรื่องการตรวจสอบศพเท่านั้น ไม่มีการหารือถึงการขอตรวจดีเอ็นเอหญิงสาวที่รับโอนหุ้นจากนายชูวงษ์ ผบ.ตร.สั่งโอนคดี"ชูวงษ์"มาสตช. ตั้ง"ประวุฒิ"คุมสำนวน วันนี้ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธ์ุม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าดีการเสียชีวิตและพิรุธการโอนหุ้นของ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้าน ว่า เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา ทางญาติของนายชูวงษ์ มายื่นหนังสือร้องเรียนถึงตน โดยยื่นผ่าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยต้องการให้โอนสำนวนคดีการเสียชีวิตนายชูวงษ์ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)ทั้งหมด ให้แก่พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.)เป็นผู้ดำเนินการ เพื่อให้ข้อมูลในการสอบสวน หรือวิธีการในการสอบสวน ตลอดจนขั้นตอนต่างๆ ซึ่งจะทำให้ทิศทางการสอบสวนเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และสอดคล้องกัน รวมทั้งข้อมูลอื่นๆ ที่ทางครอบครัวหรือญาติของนายชูวงษ์ เห็นว่าการโอนหุ้นที่ไม่ชอบมาพากล น่าจะเป็นแรงบันดาลใจ หรือแรงจูงใจให้เกิดอุบัติเหตุ หรือให้เกิดการฆาตกรรม โดยในส่วนที่ญาติของนายชูวงษ์ ร้องขอมาตรงนี้ ตนก็จะสั่งการให้โอนสำนวนคดีการเสียชีวิต หรือคดีของนายชูวงษ์ทั้งหมดที่อยู่ในความรับผิดชอบของ บช.น. มาไว้ที่กองปราบปราม และให้ พล.ต.ท.ประวุฒิ เป็นผู้รับผิดชอบการสืบสวนสอบสวนคดีนี้เอง พล.ต.อ.สมยศ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะมอบหมายให้ พล.ต.ท.ประวุฒิ ตั้งคณะพนักงานสอบสวนพิเศษของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง โดยจะเลือกหรือคัดเอาพนักงานสอบสวนที่มีความรู้ความชำนาญ มีความสามารถมาสอบสวนคดีนี้เป็นกรณีพิเศษ โดยสรุปง่ายๆว่า พล.ต.ท.ประวุฒิ จะเป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้ทั้งหมด ไม่ว่าเป็นเรื่องการเสียชีวิต และ เรื่องการโอนหุ้น จึงถือว่าเป็นการโอนคดีมาให้อยู่ในความดูแลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เบื้องต้นโอนไปไว้ที่กองปราบปรามก่อน "ที่ผมต้องทำแบบนี้เพื่อให้คดีมีความบริสุทธิ์ยุติธรรมสร้างความสบายใจแก่ญาติและสังคม ไม่มีการใส่ร้ายป้ายสี และคดีนี้มีผู้บังคับบัญชา ระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติควบคุมดูแล เพราะผมได้ยินว่า มีความพยายามของบุคคลบางคน ที่ใช้อำนาจบารมีส่วนตัว และการเงินเข้ามาแทรกแซง หรือทำให้คดีนี้ถูกบิดเบือน ซึ่งเรื่องนี้ผมระแคะระคายมา และรู้สึกไม่ดีกับเรื่องที่ผ่านมา จากนี้ผมอาขขะสั่งให้ หรือมีคำสั่งให้พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้านนิติวิทยาศาสตร์ เข้ามีดูเรื่องนี้อย่างจริงจัง เป็นเรื่องเป็นราว อย่างเป็นทางการด้วย"พล.ต.อ.สมยศ กล่าว พล.ต.อ. สมยศ กล่าวย้ำด้วยว่า คดีนี้จะดำเนินการด้วยความยุติธรรม ไม่มีการกลั่นแกล้ง หรือใส่ร้ายป้ายสี ผิดถูกว่าไปตามพยานหลักฐาน หากใครที่ไม่เป็นผู้กระทำผิดก็ไม่ต้องเป็นกังวล ขณะเดียวกันเชื่อว่า พล.ต.ท. ประวุฒิ เป็นผู้ที่มีความสามารถ จะเป็นผู้ควบคุมคดีนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะมีความรู้ความเชี่ยวชาญ ผ่านงานด้านการสืบสวนสอบสวนมามากมาย ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า เวลา 136.00 น. วันนี้(17 ส.ค)จะเดินทางไปร่วมกับพนีกงานสอบสวน บก.ป. เพื่อทำการสอบปากคำ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล พริตตี้สาวที่ได้รับการโอนหุ้นจากนายชูวงษ์ ที่จะเดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมพร้อมทนายความ หลังจากที่พนักงานสอบสวน บก.ป.ได้เชิญตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง ส่วนกรณีที่ ผบ.ตร. จะมีคำสั่งให้โอนคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ มายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ให้ตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาโดยให้ตนเป็นผู้ดูแลนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือจาก ผบ.ตร.แต่อย่างใด คาดว่าจะ ใช้เวลาอีกประมาณ1-2วัน ถึงจะดำเนินการได้ พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวอีกว่า ในส่วนของคดีการโอนหุ้นขระนี้ เจ้าหน้าที่พบพิรุธอยู่หลายจุด ซึ่งคาดว่าจะนำมาเป็นหลักฐานในคดีได้ โดยเฉพาะเรื่อง ลายเซ็น อย่างไรก็ตามเรื่องที่ครอบครัวของนายชูวงษ์ระบุว่าประเด็นเรื่องหุ้นอาจเป็นสาเหตุ หรือแรงจูงใจที่นำไปสู่การเสียชีวิตของ นายชูวงษ์ นั้น ตอนนี้หลักฐานยังไม่ชัดเจน หรือเชื่อมโยงไปถึงจุดนั้น จึงยังบอกไม่ได้ว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่
ขอขอบคุณคุณ architeer ที่ช่วยสนับสนุนข้อมูลล่าสุด แทนคุณอาวุโสโอเคเจ้าของกระทู้ด้วยครับ คำตอบข่าว..ตอน..ปริศนาลาโลก... "ชูวงศ์ แซ่ ตั๋ง ตั๊ง" #ข่าวช่อง8 NewsThaich8 ผมเสนอข้อมูลเรื่องหุ้นในกรณีที่โยงต่อพริตตี้ ที่ผมคิดว่ากระชับและชัดเจนมาก ในคลิปเวลา7.55เป็นต้นไป เป็นความเห็นทางกฎหมาย ที่น่าสนใจ
เรื่อง DNA ของเด็กในท้องที่อ้างว่ามีกับคุณชูวงศ์ ฝ่ายพริตตี้ท่าทีก็แปลกๆ ผมว่าชักไปกันใหญ่ ไม่เป็นผลดีกับคดีเลย
ปมโอนหุ้น 300 ล้านเป็นเหตุคดีฆาตกรรมอำพราง ชูวงศ์ ใช่หรือไม่ T News Online youtube ผมขอฝากคำให้สัมภาษณ์ของคนขับรถที่ประสพอุบัติเหตุและเป็นเพื่อนรัก ตั้งแต่นาทีที่17.20 และโปรดฟัง โดยเฉพาะช่วงท้ายนะครับ
http://news.sanook.com/1833722/ อันนี้ลงเพื่อข้อมูลประกอบ มี2หน้า ที่ลงในนี้มีหน้าเดียว เขียนก่อนตาย หลังบวชจากโครงการที่อินเดีย
ข้อมูลจากปากบรรยิน ทั้งยกตัวว่าเป็นเพื่อนรัก ทั้งอ้างว่าช่วยคุณชูวงศ์ในการแก้ปัญหาธุรกิจ ฯลฯ สารพัดจะอ้าง จากประสบการณ์ คนพูดลักษณะนี้คือคนถือไพ่ตาย พยายามบลัฟฝ่ายตรงข้าม ซึ่งสอดคล้องกับฝ่าย พริตตี้
เห็นข่าวทีวีเมื่อเช้าว่า " จะมีหมายจับในสัปดาห์นี้ " ไม่นึกว่าจะเป็นบ่ายๆวันจันทร์ ช่วยดันข่าวนี้หน่อย .. หวังว่าหลักฐานคงแน่นหนาไม่หละหลวมนะ
ออกหมายจับแล้ว! “พ.ต.ท.บรรยิน” พริตตี้สาว โบรกเกอร์ และมารดา ร่วมกันโกงหุ้น “เสี่ยชูวงษ์” มูลค่าเกือบ 400 ล้าน หลังกองปราบฯ ตามแกะพบพิรุธหลายประเด็น เรื่องเอกสารการโอนหุ้นมีความผิดชัดเจน สำเนาบัตร ปชช.ลายเซ็นถูกลบ ด้าน “ประวุฒิ” เผย 4 คนนี้มีส่วนรู้เห็นในการโอนหุ้น รวมทั้งคลิปเสียงตรวจสอบญาติยันไม่ใช่เสียงชูวงษ์ คาดว่าจ่อออกหมายจับเพิ่มอีก ส่วนสาเหตุการตายยังไม่สรุป รออุปกรณ์ตรวจพิสูจน์จำลองเหตุการณ์อีกครั้ง จากกรณีนายชูวงษ์ หรือเสี่ยจืด แซ่ตั๊ง อายุ 50 ปี นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้าน และประธานกลุ่มวิทยาตลาดทุนกิจการเพื่อสังคม (วตท.) รุ่นที่ 20 เสียชีวิต ขณะที่ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ และอดีต รมช.พาณิชย์ ขับรถยนต์เลกซัส สีดำ ทะเบียน ภฉ 1889 กรุงเทพมหานคร ไปส่งนายชูวงษ์กลับบ้านพัก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ญาติติดใจการตายเข้าร้องเรียนกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.เพื่อขอรื้อคดีขึ้นมาสอบสวนใหม่ และในที่สุดทางกองปราบปรามฯ ได้ทำคดีจนพบพิรุธมีการโอนหุ้นของเสี่ยจืด มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ให้ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล พริตตี้สาว และ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล โบรกเกอร์สาวคนสนิทก่อนเสียชีวิต นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่าเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ในการทำธุรกรรมโอนหุ้นนั้น ไม่ใช่เบอร์ของนายชูวงษ์ แต่เป็นเบอร์ที่จดในนามบริษัทของคนใกล้ชิด พ.ต.ท.บรรยิน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ส่วนความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 24 ส.ค.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. ได้เรียกประชุมคณะทำงานคลี่คลายกรณีดังกล่าว ประกอบด้วย พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข พ.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง พ.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ เกิดเอี่ยม พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ กก.1 บก.ป. เพื่อตรวจสอบความพร้อมในพยานหลักฐานต่างๆ เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ พล.ต.ต.อัคราเดช จะมอบหมายให้ พ.ต.อ.ประเสริฐ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ จะเดินทางไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ ต่อมา ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 4 ราย ประกอบด้วย พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อายุ 52 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.560/2558 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน หรือรับของโจร นางศรีธรา พรหมา อายุ 52 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.561/2558 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับของโจร น.ส.อุรชา หรือป้อนข้าว วชิรกุลฑล อายุ 26 ปี ตามหมายจับอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.562/2558 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และ น.ส.กัญฐณา หรือน้ำตาล ศิวาธนพล อายุ 26 ปี ตามหมายจับอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.563/2558 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน หรือรับของโจร พล.ต.ต.อัคราเดช กล่าวว่า หลังจากทางพนักงานสอบสวน บก.ป. ได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จนมีความแน่นหนามากเพียงพอแล้ว ในวันเดียวกันนี้ จึงมอบหมายให้ พ.ต.อ.ประเสริฐ และพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ไปขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีทั้งหมด 4 ราย โดยศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาไว้แล้ว อย่างไรก็ดี ทางพนักงานสอบสวนมีความมั่นใจในพยานหลักฐานต่างๆ ว่าจะสามารถเอาผิดกับผู้ต้องหาทั้งหมดได้ นอกจากนี้ในส่วนของกรณีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจนเป็นเหตุให้นายชูวงษ์เสียชีวิตนั้น หากทางพนักงานสอบสวนพบมีความเคลือบแคลงสงสัยว่าเป็นเหตุฆาตกรรม ทาง บก.ป.ก็พร้อมจะรับคดีมาดำเนินการต่อไป ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร.และโฆษก สตช.กล่าวว่า การออกหมายจับในครั้งนี้ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานที่ชัดเจนว่าทั้ง 4 บุคคลมีส่วนร่วมรู้เห็นในการโอนหุ้นครั้งนี้ หลังจากนำเอกสารการโอนหุ้นดังกล่าวไปตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์จนพบว่า เอกสารนั้นมีความผิดไปจากวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของนายชูวงษ์ เนื่องจากในแบบฟอร์มการโอนหุ้นเดิมเป็นการโอนเพื่อค้ำประกันเงินสำหรับซื้อหุ้นตัวอื่น ซึ่งแบบฟอร์มดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมเป็นการโอนหุ้นให้บุคคลอื่น อีกทั้งบัตรประชาชนของนายชูวงษ์ ที่มีการเซ็นรับรองสำเนาว่าใช้สำหรับจำนำหุ้นเท่านั้นได้ถูกลบข้อความดังกล่าวออกไป ประกอบกับเจ้าหน้าที่ไม่พบหลักฐานที่ระบุว่านายชูวงษ์รู้เห็นถึงการโอนหุ้นในครั้งนี้ รวมถึงคลิปเสียงที่ได้นำมาตรวจสอบนั้น ทางญาติก็ยืนยันว่าไม่ใช่เสียงของนายชูวงษ์อย่างแน่นอน รวมถึงเบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้านั้นก็ไม่ใช่เบอร์ของนายชูวงษ์ โดยหลังจากนี้ อาจจะต้องออกหมายจับนอกเหนือจาก 4 บุคคลนี้อีก ซึ่งก็เป็นเรื่องของสำนวนคดีที่จะต้องพิจารณาต่อไป ที่มา http://www.banmuang.co.th/news/crime/24757
เมื่อมีการปลอมแปลง ตกแต่ง เอกสารโอน คลิปเสียงลูกค้า กลต. ตลาดหลักทรัพย์จะมีการดำเนินการอะไรกับ โบรกเกอร์ผู้ดูแลพอร์ตกับ บ. หลักทรัพย์ บ้างหรือไม่
ดูการสอบสวนคดีของตำรวจคืบหน้าไปเรื่อยๆ แบบนี้ โชคดีที่ครอบครัวคุณชูวงษ์ ติดใจในการตาย และไม่ยอมให้เรื่องเงียบไปเฉยๆ ไม่งั้นคุณชูวงษ์คงตายฟรี เสียทรัพย์ และที่สำคัญ คนร้ายกลุ่มนี้ คงได้ไปกระทำกับครอบครัวอื่นอีกแน่ๆ เพราะได้เงินมาแบบง่ายๆ ด้วยการฆ่าผู้อื่น
ในที่สุด คดีการโอนหุ้น เดินทางจุดเริ่มต้นของการเป็นคดีที่สมบูรณ์ แต่ก็ไม่ได้เกินความคาดหมายของใครๆ ยกเว้นของ pritty ngo กับแม่นาง 3คนเท่านั้น (เชื่อใครไม่เชื่อ ไปเชื่อคนพาล ขนาดคุณชูวงษ์มีให้มันไถ่ได้เป็นร้อยล้าน มันยังทำกับเขาได้ พวกนางมีดีอะไร ที่จะทำให้มันไม่ทิ้งกลางทาง) ใครเขาก็รู้ตั้งแต่เริ่มต้นว่า มันไม่มีความเป็นไปได้เลย ที่นางคิดว่านางจะได้ส้มหล่นอะไรง่ายๆกับเงินฟรีๆ 300 ล้าน เพราะเรื่องที่แต่ง มันไม่มีตรรกะหรือเหตุและผลใดๆรองรับเลย (ตามรายละเอียดเม้นข้อมูลพร้อมความเห็นของทนายและนักกฎหมาย บวกกับพยานต่างๆที่ผมเคยให้ไว้ด้านบน) สำหรับคดีการลักทรัพย์นี้ ถือได้ว่าได้จบขบวนการสอบสวนสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ คงเข้าสู่ขั้นอัยการ ผมคาดคะเนว่าทางเดินในคดีแรกต่อจากนี้ สำหรับผู้ต้องหาแล้ว คงเป็นทางเดินที่น่าตื่นเต้น...และสยอง... เพราะจุดสำคัญของคดีนี้จะเชื่อมโยงกับอีกคดีหรือไม่ และถ้าเมื่อไร กองปราบสามารถเชื่อมโย้งได้ นิติวิทยาศาสตร์คงเป็น หนังผี สำหรับใครบางคน พูดเยอะๆครับ เรื่องวันที่โอนหุ้น เรื่องปากกา เรื่องความเป็นเพี่อน เพราะนับวันคนเริ่มเชื่อน้อยลง ทีนี้เราจะได้รู้ว่า การที่ไปเที่ยวบอกใครต่อใครว่า เป็นเพื่อนรักที่สนิทที่สุด เวลาเจอเพื่อนคนอี่นๆของคุณชูวงษ์ ที่เขาไม่ได้แสดงออกว่าสนิทที่สุด แต่เขาเจ็บและเสียใจกับการสูญเสีย เขาสู้เพื่อเรียกร้องความจริงให้กับคนตาย จนมีวันนี้ได้ วันที่ความจริงจะหลอกหลอนให้ความมั่นใจที่เคยมีสำหรับใครบางคน กลายเปลี่ยนเป็นความกลัวและฝันร้ายแทน ถ้ามันไม่กลัวในฝีมือเขาแล้ว คงไม่ดิ้นรนไปยื่นคัดคาน ไม่ให้มายุ่งเกี่ยวกับคดีนี้หรอก ผมจะให้อุทาหรณ์ไว้ว่า หลุดจากขบวนการสืบสวนสอบสวนแล้ว ความรู้ทางกฎหมายน่ะ สู้ทนายมืออาชีพเขาไม่ได้หรอก ยิ่งถ้าคดีขึ้นชั้นศาลด้วยแล้วเมื่อไร ผู้กำกับหรือสารวัตรก็เด็กน้อยดีๆเท่านั้นเอง คนเราริ จะกินบนเรือน ขี้รดหลังคา มันต้องได้รับผลกรรมที่มันทำไว้ เพราะขนาดหมา มันยังรู้บุญคุณคนให้ข้าว มันยังไม่กัดเจ้านายมันเลย จำคนนี้ได้ไหม...รุ่นพี่ เคยรับตำแหน่งใหญ่โต ในอดีดคล้ายกันมากเสียด้วย...แถมคดีก็เกี่ยวกับเงินๆ แต่ไม่ได้ฆ่าใคร ราศียังเปลี่ยนไปขนาดนี้...งว้าว ภาพและเนื้อหาข่าวจาก http://www.thairath.co.th/content/520502
อันนี้ต้องดูต่อครับ ว่าจะมีหมายจับชุดที่ 2 ไหม เพราะยังมีตัวแสดง อีก3 คน (ตามที่ทางตำรวจเคยว่าไว้ว่า อาจจะมีหมายจับ 7 คน ) นางที่เป็นผู้ดูแลบัญชี หรือหัวหน้า ของ Pritty ngo นางนั้นจะโดนอะไรมัย หัวหน้าที่พิสูจณ์ลายเซ็นต์และเสียง จะมีส่วนสมรู้ร่วมคิดด้วยไหม และอีกบุคคลตำแหน่งใหญ่ที่ บ.หลักทรัพย์ อยู่ในขบวนการด้วยไหม ส่วนกลต ...เงียบครับ ดิ้นทำไม..กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ไม่ง่าย และไม่ใครอยากหาเหาเพราะ..แถวนั้นเก้าอี้มันมีมูลค่า ยังเสียดายว่า อีก 2 ปีบริษัทของคุณชูวงษ์ก็น่าจะได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ มูลค่าจากหุ้นอีกเท่าไรถ้าไอ้โง่นี้ไม่ฆ่าเขาก่อน มันอาจจะได้...
เขาติดใจตั้งแต่แรกๆแล้วละครับ เพราะสภาพศพ สิ่งที่ติดตามเสื้อผ้าศพ และอาการของคนเผชิญกับสถานการณ์จะตายมันบ่งบอก เพียงแต่แรงจูงใจในคดีเวลานั้นมันไม่มี..... ถ้าเราไม่ช่วยกันจัดระเบียบสังคมเรา คนที่นอนหลับไม่สนิทก็คือคนในครอบครัวเรานั้นเองครับ อย่าปล่อยคนชั่วลอยนวล
สุดท้ายก็ได้ประกันตัวออกมา ด้วยวงเงิน 5ล้านบาท ดูจากการให้สัมภาษณ์นี่ยังปากดีอยู่นะครับ ยังขู่จะฟ้อง คนนั้นนี้อยู่เลย
ตลก...ท่านอาวุโสมีปากกาไหมครับ พอดีผมไม่ได้พกปากกามา ว่าจะเซ็นเช็คสักพันบาทให้ Pritty ngo ค่าตัวหน่อย แล้วถ้าวันหลังท่านอาวุโส จะทำพินัยกรรม ก็อย่าเอาปากกาทนาย หรือคนขับรถเซ็นพินัยกรรมนะครับ ต้องใช้ของตัวเอง เพราะเดียวคนขับรถมันเอาไปลบเปลียนแปลงได้ พูดทำไม มันเหมือนมัดตัวเองให้คนอื่น เขารู้วิธีการ 555
ตลกไงครับ ... คุณชูวงษ์เขาไม่พกปากกาครับ เพื่อนสนิทจริงหรือเปล่านิ เขาใช้ปากกายี้ห้อใกล้มือครับ มีเขากับผมรู้กันสองคนเท่านั้น555
สำหรับคนถังแตก 5 ล้านก็ไม่ใช่น้อย..แต่ทำไมสูงจัง หรือศาลท่านคำนวนผิด ถ้าผมเป็นผู้ต้องหา ผมตกใจเลยนะนี้ อย่างนี้แค่เริ่มกูลก็ปาดเหงื่อละ
ในมุมมองของผม ผู้ต้องหาโกยเงินมาได้เยอะแล้ว หากจะหนีแล้วทิ้งเงิน 5ล้านเพื่อแลกกับอิสระภาพก็น่าจะคุ้มสำหรับเขานะครับ
ที่ขายหุ้นออกไปเห็นว่าได้ 30 ล้าน อันนี้คนที่น่าจะโดนเต็มๆคือแม่ของนางพริตตี้ แต่คนที่เอาเงินไปจริงนะคงเป็นผู้บงการ ผู้เสียหายคงฟ้องทางคดีที่จะเอาเงินคืนได้มากน้อยก็ว่าไป แต่ส่วนที่เหลือ200กว่าล้านนั้น อายัดทันครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ อายัดเอาไว้ได้ทันก็โล่งอกไปได้เรื่องหนึ่ง ที่เหลือก็เป็นเรื่องอิทธพลและเส้นสายของผู้ต้องหา ซึ่งขณะที่เข้าให้ปากคำก็ยังใช้ไลน์ติดต่ออยู่กับกลุ่มเพื่อนอยู่ตลอดเวลา
ศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว 'พ.ต.ท.บรรยิน' ผู้ต้องหาคดีโกงหุ้นเสี่ยชูวงษ์ หลังทนายความยื่นเงินสด 5 ล้านบาท ขอประกันตัว มีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกประเทศ และยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน... ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง วันนี้ (25 ส.ค.58) พนักงานสอบสวนกองปราบได้นำตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อายุ 52 ปี อดีต รมช.พาณิชย์ และ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 560/2558 ลงวันที่ 24 ส.ค. 2558 คดีโกงหุ้นนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ที่เสียชีวิตเมื่อเดือนปลายเดือน มิ.ย. มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค. – 5 ก.ย. นี้ เนื่องจากยังต้องสอบปากคำพยาน รอผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานในคดี และอื่นๆ ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวน ขอคัดค้านการประกัน เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และเกรงจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้ ต่อมานายบัญชา ชัยจำ ทนายความ ของ พ.ต.ท.บรรยิน ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด จำนวน 5 ล้านบาท ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิเคราะห์แล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ พ.ต.ท.บรรยิน มีประกันตัวไป โดยตีราคาประกัน 5 ล้านบาท โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามผู้ต้องหาเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานในคดี และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล ด้านนายบัญชา ชัยจำ ทนายความ กล่าวว่า จากนี้ พ.ต.ท.บรรยิน ต้องเดินทางมารายงานตัวเมื่อครบกำหนดฝากขังครั้งแรก โดยคดีนี้สามารถฝากขังได้ 7 ผัด รวม 84 วัน ส่วนพนักงานสอบสวนกองปราบจะสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งคดีเมื่อใดนั้นก็อยู่ที่การรวบรวมพยานหลักฐาน สำหรับ พ.ต.ท.บรรยิน ขณะนี้ถือว่าอยู่ในความควบคุมของศาลแล้ว. http://www.thairath.co.th/content/520755 ผมกำลังลุ้นนะว่าถ้ามีการอนุญาติให้ประกัน 2 สาวกับ 1 นาง เงินประกัน2สาวกัน1 นาง จะเป็นคนละเท่าไร.......
Nation TV - เว็บไซต์สถานีข่าวอันดับ 1 ของเมืองไทย "ล่าสุดได้รับการยืนยันจาก พล.ต.ต.อัคราเดช ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พิจารณาตามคำร้องของญาตินายชูวงษ์ เห็นสมควรให้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะเข้าไปยุ่ง หรือทำลายวัตถุพยาน ส่งผลต่อรูปคดี จึงทำให้ พ.ต.ท.บรรยิน จะไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน และจะถูกควบคุมตัวในห้องขัง บก.ป.ในวันนี้(25 ส.ค.) " อ่านต่อที่: http://www.nationtv.tv/main/content/crime/378468999/ ปากดีนัก ...
เท่าที่ติดตามคดีต่างๆของเมืองไทย คดีมักถูกเป่าโดยสองขั้นตอน คือตะกวด แล้วก็อัยกิน นี่รอดมาด่านแล้วยังต้องลุ้นด่านต่อไปอีกอย่างใจจดใจจ่อ แล้วยังต้องศาลอีกหากผ่านไปได้ บางทียาวนานจนหงุดหงิด ไม่ก็ลืมไปเลย
โจรทั้งหมดในประเทศนี้ ไม่ได้อยู่พรรคเพื่อไทย แต่โจรตัวใหญ่ๆที่ก่อคดีโหดๆแล้วจับได้ช่วงนี้ ทำไมมาจากพรรคเพื่อไทยทั้งนั้น เปลี่ยนชื่อเป็น "พรรคเพื่อโจร" ดีไหม?
ล่าสุด วันที่ 26 สิงหาคม 2558 รายงานข่าวระบุว่า น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล โบรกเกอร์สาว และ น.ส.ศรีธรา พรหมา ผู้เป็นแม่ พร้อมทนาย ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจกองปราบปราม เพื่อรับทราบข้อหาคดีโอนหุ้น นายชูวงศ์ แซ่ตั๊ง แล้ว โดยในเบื้องต้นให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และยืนยันว่าได้รับโอนหุ้นมาด้วยความเสน่หา ไม่มีการปลอมแปลงเอกสารแต่อย่างใด ทั้งนี้ตามหมายจับ น.ส.อุรชา ถูกดำเนินคดีในข้อหา "ร่วมกันลักทรัพย์ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอมโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน" ส่วน น.ส.ศรีธรา พรหมา แม่ของ น.ส.อุรชา ในข้อหา "ร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับของโจร" ที่มา http://hilight.kapook.com/view/125476
http://www.dailynews.co.th/article/340661 อันนี้เป็นสรุบเรื่องราวของคดีทั้งหมดแบบย่อก่อนจะมาเป็นวันนี้ วันที่ออกหมายจับ
ภาพนี้ขอลงไว้ เพราะแม่นางเปิดให้เห็นหน้าบ้างแล้ว อ่านเนื้อหาการเข้ามอบตัวได้ครับ http://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9580000096729 อย่าพึ่งถอดใจนะ....หมายจับแรก 3 คดีเอง
ใครจะมีความเห็นยังไงไม่รู้ แต่คดีนี้ขอเดาว่าจะได้เห็นอดีตรัฐมนตรีฯ ต้องมาเข่าอ่อน เยี่ยวราด เพราะเจอโทษประหารชีวิตให้ตายตกไปตามกันแน่นวน อิอิอิ...
น้าเชพูดมา..ทำให้ผมเข้าใจในหลักคำสอนที่ว่า กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นตามสนอง... อาการเข่าอ่อน ขี้เยี่ยวราดนี้ มันสามารถเป็นอาการของการกลัวหรือเจ็บปวดสุดขีดจากการถูกทำร้ายได้ด้วยเช่นกัน ถ้าสมมุติ น้าเชนเดินทางไปกับเพื่อนที่เขาอ้างว่าสนิทที่สุดกับน้าเชน ขับมอเตอร์ไซร์กันไปเที่ยว แล้วเขาพาน้าเชขับมุดไปตามทางเปลี่ยว ไปถึงจุดหนึ่งของกลางทาง นั้นเขาก็ขับชนเข้ากับข้างทาง หล่นลงมาทั้งคู่ น้าเชคงคิดว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้นใดนั้นก็มีนักเลงหัวไม้ แอบเข้ามาล๊อคคอ น้าเชคงตกใจกลัว สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเพื่อนน้าเชไม่ได้ตื่นตระหนกกับเหตุการณ์เลย แถมยังนิ่งเฉยเหมือนเตรียมการมา น้าเชเริ่มรู้ตัวว่าภัยมาถึงตัวแล้ว เพื่อนกำลังจะฆ่าเรา แล้วไอ้นักเลงหัวไม้ก็ใช้ของแข็งห่อด้วยผ้าขนหนูตีเข้าที่ขมับข้างซ้าย (ตามคนถนัดขวา)ของน้าเช เมื่อล้มลงมันก็เตะเข้าที่ชายโครง จนซี่โครงหัก แล้วก็หักคอจากด้านหลังโดยคุกเข่าใช้เท้าหนึ่งเหยียบกลางหลัง น้าเชคิดว่า น้าเชมีโอกาสตื้นตระหนกกลัวจนขี้เยี่ยวราดได้ไหม หลังจากนั้นเพื่อนน้าเช ก็ทำเป็นสลบนอนกองติดกับน้าเชน ซึ่งเขาก็คงต้องทนนอน ดมขี้ดมเยียวของน้าเชนอยู่พักนึง จน(ตามแผน) มีคนเขามาปลุก แล้วกล่าวอ้างว่ามอเตอร์ไซร์ตกหลุมชนเข้ากับเสาข้างทาง แล้วน้าเชกับเขากระเด็นตกรถทั้งคู่ แต่น้าเชกระเด็นตกมาคอหักตาย นี้เป็นอุบัติเหตุ ถ้าวันข้างหน้า สวรรค์มีตา เพื่อนเลวคนนี้ของน้าเชน เกิดมาเข่าอ่อน ขี้เยี่ยวราด เพราะจะต้องตกตายไปตามกัน เพราะมีคนเขาจับแผนได้(ใครจะเป็นนางเอกคนนี้หนอ)ตามหลักฐานพยานรอบตัวน้าเช เพราะอาชญากรย่อมทิ้งร่องรอยหลักฐานไว้ในที่เกิดเหตุเสมอ อย่างนี้ไม่เรียกเวรกรรมมีจริงแล้วจะให้เรียกอะไร.... ผมสมุมตินิยายเรื่องนี้ขึ้นมาทั้งหมด เพราะไปหมกมุนกับการไปตอบกระทู้นี้ของคุณเผด็จการ กระทู้มอเตอร์ไซค์ขึ้นสะพาน หมวกไม่รัด เจอหลุมหัวฟาดราวตาย และสร้างโครงเรื่องนิยายนี้ จากหลายคดีใน หมวดหัวข้อการไขปัญหาอาชญากรรมด้วยนิติวิทยาศาสตร์ โดยขอใช้น้าเชเป็นพระเอกแสดงนำ หากน้าเชไม่ชอบบทนี้ ผมต้องกราบขออภัยด้วยนะครับ)
ศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว น.ส.ศรีธรา และ น.ส.อุรชา โดยตีราคาหลักทรัพย์ประกันตัวคนละ 3 ล้านบาท มีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ผมขอเก็บเพื่อเป็นบันทึกในกระทู้นี้ ภาพและเนื้อหาข่าวการให้ประกันตัว ตามนี้ครับ http://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9580000096879
วันนี้ข่าวไทยรัฐ โปรยข่าวการ รับมอบโอนคดีการชีวิตของคุณชูวงษ์ มาให้กองปราบ และมีประเด็นที่เริ่มน่าสนใจดังนี้ cr : ภาพและข่าวจาก www.thairath.co.th/content/521077 " ในส่วนการคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ หลังจากมีการโอนคดีมาให้กองบังคับการปราบปรามเป็นผู้รับผิดชอบ โดย พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. เป็นผู้รับมอบให้ทำคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์นั้น เบื้องต้นมีรายงานว่าทีมสืบสวนได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน พยานแวดล้อมต่างๆในคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ กระทั่งพบความผิดปกติและพิรุธในสาเหตุการเสียชีวิตอยู่ 3 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย ประการแรก คำให้การของ พ.ต.ท.บรรยิน ขัดกับข้อเท็จจริงในเรื่องของเวลาการเกิดเหตุ เพราะจุดเกิดเหตุน่าจะใช้เวลาเดินทางมาจากสนามกอล์ฟเลกวู้ดไม่เกิน 30 นาที แต่หากนับเวลาตามคำให้การของ พ.ต.ท.บรรยินที่ทั้งคู่ออกจากสนามกอล์ฟมาจนถึงจุดเกิดเหตุนั้นได้ใช้เวลาถึง 1.30 ชั่วโมง ประการที่สอง กองพิสูจน์หลักฐานพบว่ารถยนต์ที่ พ.ต.ท.บรรยิน ใช้ขับในคืนเกิดเหตุ ทางกองพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า ก่อนถึงจุดเกิดเหตุ 900 เมตร รถคันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วจุดสุดท้ายเพียง 38 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น ไม่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตได้ ขัดกับคำให้การของ พ.ต.ท.บรรยินว่าขับมาความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประการสุดท้ายผลการตรวจสอบสภาพรถพบว่าเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะที่การตรวจสภาพศพของสถาบันนิติเวชพบว่าร่องรอยของบาดแผลและสาเหตุของการเสียชีวิตแม้ว่าอาจจะเกิดจากอุบัติเหตุรถยนต์ได้ แต่อาจจะเกิดจากสาเหตุอื่นด้วยก็เป็นได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ทีมสืบสวนได้ตั้งข้อสังเกตว่า บริเวณท้ายทอยด้านหลังมีร่องรอยฟกซ้ำ ประกอบกับมีแรงดันและเลือดที่บริเวณดวงตา ซึ่งอยู่ระหว่างวิเคราะห์การตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียดอีกครั้ง " ภาพให้อารมณ์หน้าซีดท้องมวลมาก
“บรรยิน” บุกร้อง ผบ.ตร.ไม่ให้กองปราบฯ ทำคดี ชี้ไม่ได้รับความเป็นธรรม เอาแล้ว.....คดีแรกเผาหลอก..คดีสองเผาจริง. http://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9580000097249 ภาพจากastv
น้าเช จำนิยายที่ผมแต่งให้น้าเชเป็นพระเอกดีๆนะครับ เพราะผมแต่งนิยายตามหลักฐาน และสิ่งที่บ่งบอกเหตุการณ์ ที่ติดตามเสื้อผ้าและอาการของผู้ตายก่อนตาย จากเม้นข้างบน เพื่อนน้าเชเริ่มเครียดแล้ว... อย่าปล่อยคนชั่วลอยนวล ในสังคมที่สงบสุขของเรา
พริตตี้สาวอุ้มท้องมอบตัวสู้คดีโอนหุ้น “ชูวงษ์” ทนายเตรียม 5 ล้านประกันตัว ภาพและข่าวจากhttp://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID= รวม 4 ผู้ต้องหา เงินประกันรวม 5 +3+3+5 =16 ล้าน เงินประกันมากอยู่ หาเงินกันมาได้เก่งจัง
