คณะทำงานกระทรวงยุติธรรม ที่มี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เป็นประธาน มีความเห็นให้ "ถอดยศทักษิณ" พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 11 ส.ค. - พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เรียกประชุมตัวแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมข้อมูลพิจารณาการดำเนินการถอดยศพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ภายหลังการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง พลเอกไพบูลย์ เปิดเผยว่าที่ประชุมได้หารือในประเด็นข้อกฏหมายที่มีการถกเถียงกัน ว่า การดำเนินการถอดยศข้าราชการตำรวจ จะต้องเป็นตำรวจที่กระทำผิดในขณะที่รับราชการอยู่หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการกฤษฎีกา เคยให้ความเห็นกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปแล้ว ว่าสามารถดำเนินการถอดยศได้ และที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็เคยถอดยศข้าราชการตำรวจที่กระทำผิด ทั้งที่อยู่ในราชการและตำรวจนอกราชการ โดยพบว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เคยถอดยศตำรวจมาแล้วทั้งหมด 636 นายคณะทำงานชุดนี้ จึงเห็นว่า กรณีของพันตำรวจโททักษิณ ก็ควรจะใช้มาตรฐานเดียวกันได้เช่นกัน ส่วนอีกประเด็นที่คณะทำงานมีการหารือกัน คือ การถอดยศ จำเป็นต้องมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือไม่ ที่ประชุมจึงยึดตามมติของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ที่เคยมีความเห็นในเรื่องนี้มาแล้วว่า การถอดยศตำรวจ ไม่มีความจำเป็นต้องมีประกาศแต่อย่างใด ที่ประชุมจึงมีความเห็นตรงกัน โดยมีมติให้ถอดยศ พันตำรวจโททักษิณ โดยจะทำความเห็นของคณะทำงานชุดนี้นำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ต่อไป ส่วนเรื่องการดำเนินการถอดยศพันตำรวจโททักษิณ จากนี้คงเป็นอำนาจหน้าที่ของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่จะรับไปดำเนินการ เพราะถือเป็นเรื่องภายในของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และส่วนตัวในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม คงไม่สามารถไปสั่งการอย่างใดได้ และยืนยันว่าการพิจารณาดังกล่าวเป็นไปตามข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริง ขอบคุณที่มา http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1439290601 ------------------------------------------------------------------------------ พูดตรงๆเรื่องนี้ไม่เห็นต้องลุ้นเลย เพราะกฤษฎีกาก็เคยยืนยันมาแล้ว หรือต้องให้เข้าที่ประชุมกฤษฎีกาชุดใหญ่แบบตอนเลือกประธานสว.อีก? แม้วก็ไม่ใช่คนแรกที่เคยถูกดำเนินการถอดถอน ทำไมเรื่องคนอื่นจบได้ แต่เรื่องแม้วไม่ยอมจบ ------------------------------------------------------------------------ ในโอกาสนี้ขอย้อนเทป ไปดูตัวอย่างการดริฟคร่อมรางของว่าที่ผบ.ตร.ในสมัยว่าที่รัฐบาลของว่าที่นายกพานทองแท้ ชินวัตรกันนะครับ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผช.ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก สตช. โฆษก สตช. เผย ประเด็นเงื่อนไข 2 ข้อ ยังไม่ชัดเจน !? ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผช.ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก สตช. เปิดเผยกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ว่า จากระเบียบการถอดยศกรณีคุณทักษิณนั้น ยังไม่ชัดเจนในเงื่อนไข เนื่องจากหลักเกณฑ์ในข้อที่ 2. ต้องคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก แต่บางคดีถึงที่สุดไปแล้วก็ยังไม่ได้ถอดยศ กรณีของคุณทักษิณยังไม่ถึงที่สุด หมายความว่า คุณทักษิณยังไม่ได้ถูกจำคุก เพียงแต่ต้องคำพิพากษา ส่วนกรณีคุณชลอนั้น มีการจำคุกแล้วเมื่อปี 2537 สำหรับเงื่อนไขข้อที่ 6 ต้องหา ในคดีอาญาแล้วหลบหนีไป หมายถึง ต้องถูกหมายจับก่อนแล้วจึงหลบหนี แต่ตอนที่มีการออกหมายจับคุณทักษิณนั้น ตัวของเขาไม่ได้อยู่ที่เมืองไทย แต่อยู่ต่างประเทศและไม่ได้กลับเข้ามาในประเทศไทย กรณีนี้ถือว่าหลบหนีหรือไม่ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ทั้ง 2 ข้อนี้ ประเด็นยังไม่ชัดเจน และผู้มีอำนาจเกี่ยวข้องกำลังพิจารณาอยู่ว่าเข้าเงื่อนไขหรือไม่ ยังต้องชี้แจงเพิ่มเติม ผบ.ตร. ยังเซ็นลงนามไม่ได้ เพราะมติยังไม่เสร็จเรียบร้อย ต้องให้คณะกรรมการไปพิจารณาให้ชัดเจนเสร็จสิ้นกระบวนการก่อน ถึงจะเสนอไปให้ ผบ.ตร. พิจารณาได้เพราะว่าจะต้องนำความกราบบังคมทูล ฉะนั้น จะต้องพิจารณาให้ชัดเจนจนหมดประเด็นข้อสงสัย ซึ่งในการเสนอและนำความกราบบังคมทูล ถ้าไม่รอบคอบก็จะเสียหายอย่างมาก นอกจากนี้ สาเหตุของการถอดยศในครั้งนี้ พล.ต.ท.ประวุฒิ ระบุว่า ทางคณะกรรมการฯ ไม่ได้อ้างเหตุผลถอดยศในเรื่องที่คุณทักษิณได้ให้สัมภาษณ์สื่อที่เกาหลีใต้ และคิดว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เนื่องจากกระบวนการถอดยศเป็นเรื่องของทางกฎหมาย ข้อกฎหมายระบุไว้ว่าอย่างไรก็ต้องทำตามนั้น หลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขใดๆ ที่นำมาพิจารณาการถอดยศก็ทำตามกฎหมาย “ตอนที่ออกหมายจับคุณทักษิณอยู่เมืองนอก แต่พอออกหมายจับแล้วเขาก็ไม่ได้เข้ามาเมืองไทย ถามว่าการที่ไม่เข้ามาถือว่าหลบหนีหรือเปล่า กลับกันหากออกหมายจับแล้วและเล็ดลอดหนีออกไป แปลว่าหนีแน่นอน ส่วนที่ศาลตัดสินว่าต้องคำพิพากษาจำคุกนั้น คุณทักษิณไม่ได้ถูกจำคุก ทั้งหมดนี้มันเข้าเงื่อนไขหรือไม่ ก็ต้องกลับไปพิจารณากันให้ชัดเจน” โฆษก สตช. กล่าว ขอบคุณที่มา http://www.thairath.co.th/content/503227 ----------------------------------------------------------------------- ตรรกกะวิบัติของแท้เรียนไอ้คุณพิชัย มาช่วยจับตักกะวิบัติหน่อยครับ ประเด็นที่1 จะถอดยศได้ไง ในเมื่อบางคดีสิ้นสุดแล้วก็ไม่มีการถอด อ้าวแล้ว สตช.ของพวกxึง ไม่ดำเนินการถอดให้หมดล่ะครับ สรุปใครผิด ศาลผิด? ถ้ายกตามนี้ (2) ต้องคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก หรือโทษที่หนักกว่าจำคุก เว้นแต่ความผิดลหุโทษ หรือความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท ขนาดผมที่ความรู้กฏหมายงูๆปลาๆ ไม่ใช่ผู้พิพากษายังตีความได้ว่าศาลลงโทษจำคุก จะหนีไปหรือติดคุกแล้วก็เข้าเกณฑ์หมด ไม่งั้นต้องระบุว่าถูกจำคุกจากคำพิพากษาของศาลอะไรก็ว่าไปแล้ว ------------------------------------------------------------------------------------------- ประเด็นที่2 จะถอดยศได้ไง ในเมื่อว่าที่อดีตตำรวจทักษิณ ไม่ได้หนีคดี แต่ตอนศาลตัดสิน มันเอ๊ยท่านไม่ได้อยู่เมืองไทย แล้วจนบัดนี้ มันเอ๊ยท่านก็ยังไม่ได้กลับมาเมืองไทย ภาษาบ้านผมเค้าเรียกหนีคดีนะ --------------------------------------------------------------------- จะเห็นว่าเรื่องนี้ตำรวจช่วยกันเป็นเครือข่ายมาก ตั้งแต่อดีตผบ.ตร.เกือบ10คน รวมไปถึงนายตำรวจระดับสูงอีกเยอะแยะ ผมว่าอิทธิพลของแม้วในสตช.ที่ยังคงอยู่และจะมีอยู่ต่อไปนี่น่ากลัวมาก คิดดูถ้ามีจูดี้2,3,4,5,6 แจ๊ด2,3,4,5,6 วรพงษ์2,3,4,5,6 คงบรรลัยกันหมดพอดี --------------------------------------------------------------------- แถม Quote of the day
บทพิสูจน์ของสมเยสที่ว่า จะทำกฎหมายให้ศักดิ์สิทธิ์ทั่วถึงกับคนที่ทำผิดมั้ย ? "ในยุคสมัยของผม ใหญ่แค่ไหนก็จับ" จะเป็นแค่คำขู่หรือไม่ ? จะว่าไป พี่ผู้ประกาศข่าวคนนั้นก็เหมือนจะรู้อะไรนะ ถึงเรียกแกแบบนั้น
กรณีนี้นึกถึงครั้งที่ลุงตู่เคยให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าผบ.ตร.ส่งเรื่องมาให้เมื่อไหร่ก็จะเซ็นต์และดำเนินการต่อทันที แต่รอมานานมากๆ ก็ไม่ขยับซักที จนกระแสตีกลับว่า ลุงตู่สมยอมและไม่เด็ดขาด และยุให้ลุงตู่ใช้ ม.44 จัดการเรื่องถอดยศ ตอนนี้ลุงตู่เลยจัดเต็ม ให้ท่านไพบูลย์จัดประชุม สรุปว่า ถอดยศได้ เคลียร์ปัญหา(ข้ออ้าง)ที่คาใจทุกๆเรื่อง กระแสเลยไปอยู่ที่ ผบ.ตร. บางที ถ้าผบ.ตร.ยังไม่กล้าตัดสินใจ ลุงตู่อาจใชั ม.44 จริงๆก็ได้ แต่ไม่ใช่ถอดยศ แต่เป็นปลด ผบ.ตร.
ช่วงนี้ ......สำนักตะกวดต้องการผ้าซิ่นเป็นจำนวนมาก ใครมีเหลือใช้เก่า ๆ ขาด ๆ ก็ได้ ...ช่วยนำมาบริจาคให้ด้วย
ไม่น่าจะใช่เผือกครับ มีดเลยละ ให้เลือกเอา 1 เชือดแม้ว 2 เชือดตัวเอง ไม่น่าจะเหลือหนทางไปคุมบ่อนหลังหมดอายุ
โฆษก ตร. ชี้ "พ.ต.ท.ทักษิณ" เป็นคดีแรกที่อดีตตร.ถูกถอดยศ เผย636ตร.ถูกถอดขณะรับราชการ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีการดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าในขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการรายงานจากพล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ที่ปรึกษา สบ.10 ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยสำนักงานกำลังพล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รายงานผลการประชุมให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. รับทราบ เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว ส่วนกรณีที่มีตำรวจถูกถอดยศไปแล้วในอดีตถึง 636 นายนั้น พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า เป็นการกระทำความผิดในคดีอาญาขณะดำรงตำแหน่งข้าราชการตำรวจอยู่ ซึ่งกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะเป็นคดีแรกที่เป็นการถอดยศในลักษณะที่ออกจากการรับราชการตำรวจแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาเท่าที่ทราบยังไม่เคยมีกรณีในลักษณะนี้ แต่ต้องขอไปตรวจสอบอีกครั้ง ขณะเดียวกันที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาตอบโต้ว่า ต้องการให้ดำเนินการถอดยศโดยเร็วนั้น ตนยังไม่ขอแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว มาแว้ว อย่างไว มันอ่านที่กฤษฎีกาส่งมายังหว่า
สำนักตะกวxx ถามไปที่กฤษฎีกาแล้วถึง 2-3 ครั้ง ล่าสุดในที่ประชุมร่วม ก.ยุติธรรม-สตx. กฤษฎีกาก็ยังยืนยันว่าทำได้ มีอำนาจทำ และต้องทำ ก็ยังจะแถด้วยการตั้ง กรรมกวย (ชุดที่เท่าไหร่ไม่รู้แล้ว) ยื้อ+ตะแบงไม่เลิกอยู่นั่นแหละ เรื่องแค่นี้ยังไม่กล้าทำ แล้วคนไทยจะกล้าฝากเรื่องใหญ่อย่างเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ....ให้พวกนี้ดูแลได้อีกหรือ
ผมสงสัยมานานแระ มันมีตรงไหนที่พูดเรื่อง ในราชการ นอกราชการมั่งว๊ะเนี่ย http://www.bangkokbiznews.com/mobile/view/news/649267 http://law.longdo.com/law/324/
ผมว่าเรื่องถอดยศนี่อีกนาน อันนี้มีหมากเด็ดของลุงตู่ทีเดียว แค่ทิ่มเบี้ย ขึ้นไปหยางหน้าขุน ถึงกับกดตาเดิน ได้ทั้งกระดาน แล้วจะบีบเข้าตาอับทำไมละครับ ในเมื่อแค่นี้ ก็ซี้ดกันทั้งกระดานแล้ว ค่อยๆเล็มกิน ตบเด็กทีละตัว แล้วไล่ให้มันจนกันเลยทีเดียว ตานี้ผมว่าแค่ลองกระแสเล่นๆ นะฮ่ะ - เรื่องเงียบๆ ลุงแกกลับเป็นคนเขี่ยขึ้นมาเอง แกลำ้ลึก งานเสี่ยงๆ มาแยอะ ขนาดว่าปฏิวัติแบบจับนกในกรงได้ .... ไม่ธรรมดาแน่ ทักษิณ โดนปลดแน่ แต่ยังไม่ใช่เร็วนี้อ่ะครับ ในเมื่อหมากนี้มันใช้ได้ ใช้ดี ถ้าใช้จนจบ มันออกจะน่าเสียดายไปหน่อย
น่าคิดนะ เบื้องหลังจับ "เสี่ยแม้ว" แปลงร่าง จาก พ.ต.ท. เป็น "นายทักษิณ" วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 10:35:58 น. นายทักษิณ ยิ่งลักษณ์ เจอถอดถอน ทักษิณ โดนถอดยศ2 พี่น้อง อดีตนายกฯ ไม่มีใครน้อยหน้ากัน ก่อนฤกษ์พานาที บิ๊กต๊อก พล.อ. ไพบูลย์ คุ้มฉายา นั่งหัวโต๊ะคุมถกชี้ชะตา บิ๊กอ๊อด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ยิ้มร่า ขอบใจเพื่อน ที่รับงานดับเบิลเช็ก เอาไปกลั่นกรอง ช่วยดูอีกที ทั้งนี้ทั้งนั้น เพราะมันเป็นเหมือน วัคซีนคุ้มกันชั้นดี ผบ.ตร.ไม่ต้องเปลืองตัวอะไรมาก เส้นทางการเมืองวันข้างหน้าจะได้ราบรื่น คอยรับลูก อ้างไฟต์บังคับต้องปฏิบัติตาม ชิล...ชิลกว่า วงใหญ่เช็กบิล-ถอดยศ ถก 2 ชั่วโมงกว่า พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ประธาน กก.พิจารณาเกี่ยวกับการถอดยศ จับคู่ดวลเดือดกับตัวแทนกฤษฎีกา ขณะที่ บิ๊กต๊อก นั่งจับประเด็น คำซักถาม ชี้แจง กระทั่งฝ่ายตำรวจยืนยัน จัดหนัก ถอดยศเป็นว่าเล่น กว่า 600 รายแล้ว แต่ไม่ประกาศให้ใครรู้เท่านั้น ประธานหัวโต๊ะ จึงสรุปเปรี้ยง ปมทักษิณ เข้าองค์ประกอบครบเซต 7 ข้อ ที่ประชุมเห็นพ้อง ไม่มีใครแย้ง จับเสี่ยแม้วแปลงร่าง จาก พ.ต.ท. เป็นนายทักษิณ ชินวัตร จบข่าว
เห็นด้วยเป็นอย่างมากไม่ได้ลงโทษตอนนี้แต่ย้อนหลังแน่นอน ไอ้ที่สะสมไว้ก่อนหน้านี้ก็จะโดนไปด้วย คิดหรือว่าที่รับเงินผ่านตลท.จะไม่โดน
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติส่งความเห็นการพิจารณาถอดยศ “ทักษิณ” ให้นายกรัฐมนตรีแล้ว มือกฎหมายรัฐบาลบอกไม่ต้องเข้าคณะรัฐมนตรี พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยระหว่างการแถลงข่าวในวันนี้ว่า ได้มีความเห็นและลงนามในหนังสือถอดยศ พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว พร้อมส่งเรื่องต่อไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาตั้งแต่วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมาเพียงแต่เรื่องนี้ไม่อยากให้เป็นข่าว เพราะถือเป็นงานราชการทั่วไป ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติบอกด้วยว่า การตัดสินใจลงนามถอดยศ เนื่องจากคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารทางราชการ ได้มีหนังสือตอบกลับมาอย่างเป็นทางการว่า การพิจารณาถอดยศของ พันตำรวจโททักษิณ ไม่จำเป็นต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนรอและได้สอบถามไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกา ตอนนี้ถือว่าหมดหน้าที่ของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้ว ขั้นตอนต่อไปอยู่ที่นายกรัฐมนตรีที่จะดำเนินการต่อไป ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงขั้นตอนการดำเนินการถอดยศ พันตำรวจโททักษิณ หลังจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติส่งเรื่องมายังคณะรัฐมนตรีแล้วว่า เรื่องนี้ไม่ต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบ แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะส่งเรื่องไปที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จากนั้นสำนักงานเลขาคณะรัฐมนตรีจะเป็นผู้ตรวจสอบเอกสารความถูกต้องและขั้นตอนต่างๆ เพื่อเสนอให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนาม แล้วจึงนำความขึ้นกราบบังคมทูลฯ ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ และต้องประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเพื่อเผยแพร่ให้สาธารณะรับทราบ เนื่องจากเป็นพระบรมราชโองการ
ทำตอนแรกยังมีประชาชนปกป้องตอนลงจากตำแหน่ง อยู่ในราชการยังมีตำรวจคุ้มกัน แต่ทำตอนนี้.....ฝั่งหนึ่งก็คิดว่าทำอย่างเสียไม่ได้ อีกฝ่ายก็ไม่เห็นค่าเพราะไร้ยศไร้ตำแหน่งให้คุณให้โทษซะแล้ว