เรื่องนี้ผมอ่านเจอในเพจศาสนวิทยาของ อ.ศิลป์ชัย คอมเมนท์บนสุดของแก เป็นการเคลมว่า รัฐบาลเผด็จการทหารฟังเสียงประชาชนนะครับ เบรกมาหลายเรื่องแล้ว ภาษีบ้าน ภาษีที่ดิน ฯลฯ
ขอนอกประเด็นนิดนึง.......เรื่องชื่อคนกับสถานที่ ชื่อคนธรรมดาก็เคยมีนะ ชุมชนมหาชัย ที่โคราช บ้านของอุดมพร พลศักดิ์ ฮีโร่เหรียญทองยกน้ำหนักโอลิมปิก 2004 พอนางได้เหรียญรางวัล ก็มีการเติมชื่อนางในชื่อชุมชนเพื่อเป็นเกียรติ จากมหาชัย เฉยๆ ก็กลายเป็น มหาชัย - อุดมพร
"กูว่าแล้ว" พอจะเข้าใจว่าหนังสือ"ประวัติศาสตร์ที่เจียมสร้าง" ทำไมเนื้อหามันถึงเหมือนแต่งเองได้ขนาดนั้น ตีความประวัติศาสตร์สุดๆไปเลย
หื้อ..... พี่เจียมผม บางทีก็ตัดสินคนอื่น โดย ความคิดตัวเองมากไปหน่อย ผมบอกเหตุผล ให้ก็ได้ ว่า ทำไมถ้ามีใครตั้งชื่อ สิ่งใด ตามพระนาม ของ ราชวงศ์ แล้วผมจะร่วมรู้สึกยินดี ไม่ขัด เพราะมันเป็น ความรู้สึกว่า เป็นเรื่องมงคล ไง ไม่รู้หรือไง ว่าคนไทย โดยธรรมเนียม ชอบสิ่งเป็นมงคล ไม่ว่า จะเป็นชื่อ หรือ วัตถุต่าง ๆ แล้วคนไทย ตั้งแต่อดีตแล้ว ก็ให้ความเคารพ สถาบันฯ เพราะเรา จะมีความรู้สึก อบอุ่น อิ่มเอม และ รู้สึก " มีมงคล " อยู่กับตัว อยู่เสมอ ไม่ใช่ความรู้สึก อยากเป็นทาส แบบที่ พี่เจียมบอกเลย มันเป็นเหตุผล ที่ไกลกัน คนละจักรวาล ก็ว่าได้ ก็แต่ละคน เค้ามีความรู้สึก มองสิ่งเดียวกัน ต่างกัน แล้วพี่จะมาตัดสิน คนอื่น ด้วยมุมมอง พี่ฝ่ายเดียว ได้ยังไง ก็ลอง ลูกนายหน้าเหลี่ยม สะเออะไปทำเลียนแบบ ท่านสิ คนไทย จะได้ว่า ไม่เจียมกะลาหัว มันไม่ใช่เรื่องว่า เท่าเทียม ไม่เท่าเทียม เพราะมัน " ไม่อาจเท่าเทียม " ในความรู้สึก ของคนไทยกลุ่มใหญ่ อยู่แล้ว บางที การมอง สิทธิความเท่าเทียมกัน แล้วคิดจะตั้งเป็น กฏ หรือ มาตรวัด ว่าต้องแบบนี้ พี่เจียม ก็มองข้าม บริบท (องค์ประกอบ แวดล้อม) ทางความคิดของคนอื่น ไปเยอะ แล้วถ้าเอาแต่ความคิดตัวเอง เป็นเกณฑ์ ไฉนเลย กล้าเรียก ว่า เคารพสิทธิ ผู้อื่น
พายัพ มันยังใช้เส้นใหญ่ของมัน เปลี่ยนชื่อวัดหลวง เป็นวัดสิเรียมได้เลย หงอกเจียมไม่งับมาเล่นบ้างล่ะ ถ้าหงอกบอกว่าชื่อเกาะตาชัยเป็นชื่อที่เพราะกว่า เกาะสิริวัณวลี ก็มองเห็นแล้วว่าหงอกเจียม อคติ โทษเจ้า ที่ตัวเองต้องระเหเร่ร่อน หนีคุก แต่ไม่โทษตัวเอง ที่ไม่เคารพกฎหมาย คนแบบไอ้หงอก สมควรไม่ได้อยู่ในประเทศไทยแล้ว ไปตายต่างประเทศเถอะ แม่มึงตาย ก็ไม่ได้กลับมาเผาหรอก
สรุปว่าการเปลี่ยนชื่อ ทางกรมอุทยานแจ้งว่าเป็นข่าวลือ ส่วนตัวเป็นไปไม่ได้ที่พระเจ้าหลานเธอจะสั่งให้เปลี่ยน อย่างมากที่สุดคืออธิบดีกรมทูลขอไปเอง แต่ถ้าว่ากันตามหลักฐานคือ อธิบดีบอกข่าวลือ แต่เจียมมโนไปไกลแล้ว
เอ่อ แล้วที่บรรดาคณะราษฎร ตั้งชื่อสถานที่ ถนน ตรอก ซอก ซอย กันเองเป็นว่าเล่นน่ะ แต่และคนมีคุณงามความดีที่น่าจดจำมากขนาดนั้นเลยหรือ นอกจากขึ้นชื่อว่าเป็นกลุ่มที่ทำการปฎิวัติเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง เป็นถึง อดีตอาจารย์ กลับให้อคติมาบังตา ทำทุกวิธีทางเพื่อโจมตีประชดประชัน ทั้งๆ ที่รู้ว่า ชื่อสถานที่ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับพระราชวงศ์นั้น หน่วยงานนั้นๆ เป็นผู้ที่ทำเรื่องขึ้นทูลเกล้าเพื่อขอพระราชทานพระกรุณาเองทั้งสิ้น ทุกพระองค์ไม่ได้ทรงพระราชทานเองเสียหน่อย ยังยกมาเป็นประเด็นเพื่อโจมตีได้ ปล. สงสัยจริง ไปอยู่เมืองนอกเมืองนาตั้งนานแล้ว เอาเงินที่ไหนใช้หว่า ลำพังเงินเก็บจากเงินเดือนและค่าตอบแทนตำแหน่งทางวิชาการมันก็ไม่น่ามากมายนักนี่
อย่างสะพานวงแหวนอุตสาหกรรม ที่เปลี่ยนชื่อมาเป็นสะพานภูมิพล กรมทางหลวงชนบทขอพระราชทานชื่อสะพานเองนะครับ ในหลวงก็พระราชทานชื่อให้ตามที่ขอ ไม่ได้ตั้งเองโดยลำพัง สร้างเสร็จตั้งแต่ปี 2549 แต่ได้ชื่อสะพานพระราชทานเมื่อปี 2552
สมศักดิ์ เจียม.........ไม่เหมือนเดิมแล้ว เมื่อก่อนอมาตย์เลี้ยง กินเงินเดือนอมาตย์ ยังพูดจาเป็นตัวของตัวเองอย่างอิสระเสรีพอบอกได้ว่าไม่เป็นขี้ข้าใคร เดี๋ยวนี้ ประชาธิปไตยเลี้ยง ไปอาศัยฝ่ายประชาธิปไตยอุปถัมภ์ดูแล กลายว่าเป็นไอ้แก่ขี้ข้าเสื้อแดงเต็มตัว พูดจาอะไรก็ไม่ต่างกับวินมอไซค์ แท็กซี่ ไม่มีสาระแค่เอาอกเอาใจแลกค่าเลี้ยงดูจากเจ้านายเสื้อแดงพอประทังชีวิตคนแก่ๆที่รอวันตาย ไม่หวังจะได้พบพระ อย่าว่าถึงอย่างนั้น เอาว่าจะได้พบแม่ก่อนแม่ตายมันยังไม่หวัง โถ ไอ้แก่ที่น่าสมเพช เป็นถึงด็อกเตอร์ คิดสัมมาชีพไม่เป็น ทำไปได้ไงหนีไปเมืองนอก มึงอยู่ก็แค่ถูกเรียกตัวไปแค่ 7วัน มึงประเมินไม่ออกหรือไง ต่อให้หนักหนายังไงติดคุกอย่างมากก็ 1-2ปี ก็ยังได้พบแม่ จริงๆก็คงไม่ติดคุก มึงคิดไปเองว่ามึงเป็นคนสำคัญของคนเสื้อแดง แล้วไง มึงจะไม่กลับมาดูใจแม่มึง ไม่มางานศพแม่มึงหรือ เพราะมึงมาเค้าก็จับมึงอยู่ดี มึงเชื้อสายจีนหรือเปล่า ดูนี่.... ศาลสูงฮ่องกงประกาศคำพิพากษาจำเลย นาย เฮนรี่ โจว ข่ายเลี่ยง (Chau Hoi-leung) วัย 31 ปี จำคุกตลอดชีวิตในความผิดสังหารพ่อแม่ตัวเอง และโทษจำคุก 9 ปี 4 เดือน ในความผิดอีกกระทงฐานไม่ทำพิธีศพบุพการีตามกฎหมาย คนจีนไม่ทำพิธีศพบุพการี มันอกตัญญูและถึงขั้นผิดกฏหมาย มึงเป็นด็อกเตอร์มีงรู้บ้างหรือเปล่า เอาละพูดกับมึงในฐานะบุคคลธรรมดาๆแค่นี้แหละ เผื่อมึงจะรู้ตัวขึ้นมาได้ว่ามึงไม่ได้ยิ่งใหญ่ถึงขนาดที่จะไปให้ร้ายใครต่อใครได้ คนธรรมดาอย่างกูก็หวังว่ามึงคงได้อ่าน หรือไม่คนรู้จัก ใกล้ชิดมึงได้มาเห็น จะได้เตือนสติกัน มึงอยู่ในท้องแม่มึงมา 9เดือน แม่ก็ทนเพื่อมึง มึงจะอยู่ในคุกซัก1-2ปีเพื่อแม่บ้าง จะเป็นไร
สมัยหนึ่ง อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก ก็เคยมีชื่อว่า สถานกีฬากิตติขจร เป็นชื่อตั้งแต่เปิดมาใหม่ๆ เลย แล้วเปลี่ยนชื่อเรียกตอนไหนก็ไม่รู้สิ ?
สนามศุภชลาศัย หงอกคงจะชอบแบบนี้ล่ะมั้ง ทุบวังที่ใช้เป็นตึกเรียน สร้างสนามกีฬาแห่งชาติแล้วก็ตั้งชื่อเพื่ออวยตัวเอง ไว้เป็นที่ระลึก
พ่อเจียม นี่มันประเทศไทย พ่อจะมายุ่งอะไรเรื่องเกาะตาชัย ยุ่งแต่เรื่องเกาะไหหลำดีไหม หรือจะให้สากลหน่อยไปยุ่งกับเรื่องเกาะสแปรตลีย์ก็ได้ ตั้งแต่พ่อเจียมหายไป แผ่นดินไทยก็สูงขึ้นพอสมควรแล้ว จะให้ดีกว่านี้พ่อเจียมก็ต้องชักชวนสาวกไปอยู่ด้วย
ปล่อยๆมันไปเถอะ อยู่เมืองนอก หมายังไม่มองมัน มันเหงาอ่ะ คิดถึงบ้านล่ะสิไอ้หงอก อยู่ยาวไปเลยนะมรึง ว่าแต่ทำมาหาแดรกเป็นรึป่าวล่ะอยู่โน่น อย่าทำตัวเป็นภาระคนอื่นนะว๊อย อายเขาว่ะ
วังวินด์เซอร์ วังวินด์เซอร์ หรือที่รู้จักในชื่อ วังประทุมวัน, วังกลางทุ่ง หรือ วังใหม่ เป็นวังที่สร้างขึ้นโดยพระประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จะพระราชทานเป็นสถานที่ประทับของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามบรมราชกุมารองค์แรกแห่งสยามประเทศ ตั้งอยู่บริเวณทุ่งประทุมวัน กรุงเทพมหานคร ชาวต่างประเทศ ณ ราชกรีฑาสโมสรพบเห็นพระตำหนักแห่งนี้ จึงเรียกตามพระราชวังที่ลักษณะคล้ายกันว่า "วังวินด์เซอร์" หรือที่มาจากพระราชวังวินด์เซอร์ ณ สหราชอาณาจักร การก่อสร้างเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2424 ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอังกฤษ โดยนำแบบของพระราชวังวินด์เซอร์แห่งสหราชอาณาจักรมาย่อส่วน หากทว่าสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร หาได้เสด็จมาประทับ ณ พระตำหนักแห่งนี้แต่อย่างใด ด้วยเสด็จทิวงคตในปี พ.ศ. 2437 เมื่อมีการสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขึ้นในปี พ.ศ. 2459 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงพระราชทานพระราชวังนี้รวมทั้งพื้นที่โดยรอบเป็นสมบัติของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเคยใช้เป็นศูนย์กลางการศึกษาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในวิทยาเขตประทุมวันก่อนการก่อสร้างอาคารบัญชาการ ในช่วงปี พ.ศ. 2478 นาวาโท หลวงศุภชลาศัย อธิบดีกรมพลศึกษาในขณะนั้นดำริที่จะจัดสร้างกรีฑาสถานแห่งชาติขึ้น จึงได้พิจารณาเช่าที่ดินบริเวณพระตำหนักหอวัง และได้ทำการรื้อถอนพระตำหนักหลังนี้ รวมถึงอาคารหอพักนิสิตโดยรอบ การก่อสร้างกรีฑาสถานแห่งชาติแล้วเสร็จในราวปี พ.ศ. 2481 ซึ่งได้ใช้เป็นที่ทำการสอนของโรงเรียนพลศึกษากลางและกรมพลศึกษา ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/วังวินด์เซอร์
สมัยนั้นที่ว่างตั้งมากมาย กระทั้งอนุสาวรีย์ชัยยังเป็นที่ว่างๆ ตาหลวงศุภนี่กวนตีนหรอฮะ ที่มาทำเก๋าเจ้งทุบวังสร้างสนามซะงั้น จากรูป2501 ที่ว่างๆมีตั้งเยอะ คณะร่านนี่มันกวนตีนจริงๆ
ถ้าเปลี่ยนชื่อแล้วเหมาะสม ก็สนับสนุนให้เปลี่ยนนะครับ สะพานควาย - สะพานยิ่งลักษณ์ เห็นมั้ย ควายหมายไม่เปลี่ยนเลย