ผมว่าคนๆนี้อันตรายมาก เนื่อจากมีฉากบังหน้า เป็นถึงอาจารย์ วิชาที่ถ่ายทอด ความคิดที่ครอบงำ ให้นักเรียน นักศึกษา ที่ไปไกลสุดกู่ ไม่รู้จะโคลนนิ่ง ได้อีกเท่าไหร่ เหมือนเชื้อไวรัส ที่สามารถแพร่เชื้อได้ในอากาศ
คิดว่าน่าจะได้ไฟเขียวจากนายจ้างแดนไกลแล้วนะครับ ตัวแกเองก็ถูกไล่ออกจากมธ.แล้ว ไอ้ความรู้กะเลวกะราดที่มีอยู่จะพอเลี้ยงตัวได้ยังไง ก็ดีเหมือนกัน ได้เป็นทาสน้ำเงินไอ้แม้วเต็มตัว
อ้าวแหม สุดท้ายหลักฐานเด็ดของไอ้ไม่เต็มบาทก็มาจากมโนนี่เองเหรอ เดี๋ยวก็โดน ร่านฯ Bounty Hunter แบบท่านธงรบกระทืบใส้แตกเอาสิครับ
เดี๋ยว UN เดี๋ยว สิทธิมนุษยชน ก็มาช่วย ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ดู ไอ้ตั้ง อาชีวะ จากเด็กบ้านนอก ตอนนี้กลาย เป็นเด็กเมืองนอก
แถมอยู่เมืองนอกแบบสุขสบาย แต่ไม่กล้ากลับไทย ไปเมืองนอกไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ต้องมีทุน เปิดหน้าชกกันแบบนี้ ไม่มีผลอะไรกับผมหรอก เพราะเกลียดสมศักดิ์เจียมมาตั้งนานแล้ว ว่าแต่คนอื่นล่ะ ว่าไง.......... แต่ต้องขอบคุณแกนิดนึง ที่ทำให้ผมรู้จัก ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด
อย่างที่หลวงพี่ว่าไว้ เราปล่อยไว้นานเกินไป เล่นกับพวกนี้ ต้องตาต่อตา ฟันต่อฟัน ไม่มีคำว่า มนุษยธรรม หรือสงสาร ฝ่ายเราไม่มีคนกล้าที่จะจัดการขั้นเด็จขาด เลยลามปามมาจนทุกวันนี้
เพราะมนุษยธรรมใช้กับพวกที่เลวเข้ากระดูกไม่ได้ แต่ไอ้พวกเลวเข้ากระดูก ก็ชอบอ้างมนุษยธรรมเพื่อปกป้องสันดรานตัวเองกันจัง
ไอ้หงอกไม่เต็มบาทใช้กลยุทธคอมมี่โบราณ "มึงมาข้ามุด" แต่การมุดของมันประกอบไปด้วยการอัพ'เตตัส ลงเฟซทุกวัน มันคงคิดว่ามันฉลาดชิบหายที่หนีไปด้วยแซะเจ้าไปก็ได้ด้วย แต่เผอิญว่าเพื่อนร่วมอุดมการของมันประกอบด้วยความโง่เป็นปัจจัยสำคัญ เพราะถ้าฉลาดคงไม่อัพ'เตตัสทั้ง ๆ ที่หนีคดีแบบนี้ ก็ได้แต่หวังว่าไอ้แม้วตอนมันกลับมามีอำนาจคงจะช่วยพวกมันได้ เลี้ยงมันตลอดชีวิตที่เหลือสั้น ๆ ของมันไปตลอดนะคับ
ผมถามนิดนึงครับ ทำไมเราไม่เปลี่ยน ม.112 ให้สถาบันสามารถสู้ทางกฏหมาย แล้วกำหนดบทลงโทษหมิ่นประมาทสถาบันให้สูงๆเช่น ปรับเงินแบบให้ชดใช้ชั่วชีวิตกันไปเลย ล้มละลายไม่ได้ผุดได้เกิด คนเป็นหนี้ก็เหมือนติดคุกทั้งเป็นแล้วมั้งครับ ตามเก็บแบบหมวกกันน๊อคกันไปเลย
มันมี 2 ด้านครับ อีกด้านหนึ่ง อาจโดนใช้เป็นเครื่องมือ ในการให้รา้ย กล่าวหากันได้ เพราะกฎหมาย อาญาแบบนี้ ตำรวจ มักรับเรื่อง การแจ้งความร้องทุกข์ ไว้ก่อน จะทำให้เกิด ความวุ่นวาย มากกว่าครับ เพราะฝ่ายโจมตีก็มีอยู่แล้ว นักกฎหมาย บางพวก พยายามหาช่องว่าง ทางกฎหมาย มาเล่นงานฝ่ายตรงข้ามเสมอ มีแม้แต่ บิดเบือน เพื่อพยามยาม ลบล้างบางมาตรา เช่น เป็นแบบสมมุตินะครับ อย่างเช่นอ้าง ผู้บริสุทธิ ในคดีลักทรัพย์ ซึ่งเคยเป็นจำเลย เพราะถูกกล่าวหา และถูกดำเนินคดี พวกนี้จะอุ้ม จำเลยคนนั้น มาเพื่อ ลบล้าง หรือ ยกเลิก กฏหมายอาญา เช่นลักทรัพย์ ถามว่าเกี่ยวเนื่อง เกี่ยวพัน กัน มั้ย ก็คงไม่เกี่ยวครับ แต่พวกนี้ฉลาด หาเหตุจนได้หละครับ เมื่อเทียบกับกฎหมาย ดังกล่าว ก็มีตัวอย่าง เยอะแยะครับ สำหรับพวกล้มเจ้า
ส่วนข้ออ้างเรื่อง ตัวบทกฎหมาย ก็เหมือนกับ รถยนต์ นั่นหละครับ รถชน อุบัติเหตุ ต่างๆ มีคนเจ็บ ตาย พวกล้มเจ้า จะมองว่า สาเหตุ มาจาก ตัวรถ ซึ่งเป็น เครื่องจักร แต่ไม่ได้มอง ถึง กระบวนการ วิธี การ เช่นขับขี่ปลอดภัย ไม่ดื่มสุรา แล้วมาขับรถ พวกนี้ จะมอง ตัวกฎหมาย ว่าเป็นอุปสรรค แต่ลืมมอง กระบวนการ และ การบังคับใช้ ส่วนจุดประสงค์ด้านอื่น ก็หาข้อมูล ตามอินเตอร์เน็ต ก็มีเยอะเหมือนกัน เป็นวิธีเก่าครับ สมัยคอมมิวนิสต์ ที่พวกนี้เอามาใช้ แต่ที่มันร้ายแรง เพราะมีนายทุน และเทคโนโลยี ล้ำสมั้ย เข้าถึงข่าวที่พวกนี้เอามาปล่อยได้ง่าย และกว้างขวาง
เป็นความผิดพลาดของธรรมศาสตร์โดยเเท้ มีคนเเจ้งให้ไล่ออกหลายครั้งเพราะมีพฤติกรรมมันส่อไปทางด้านนั้น เเละผมไม่เคยได้ยินทาง ม.ธ. ออกมาเเถลงการณ์หรือทำโทษอะไรเลย
อาจารย์ของมหาวิทยาลัยชื่อดังในโคราช ที่โพสต์พาดพิงฟุตบอลทีมชาติไทยเสียหาย ทางต้นสังกัดยังออกแถลงการณ์แสดงความรับผิดชอบ ว่ากล่าวตักเตือนอาจารย์ แต่ที่นี่..........เสรีภาพทางวิชาการจนเละเทะ
ถ้าลูกจ้างทำอะไรที่กระทบต่อภาพลักษณ์องค์กร แม้จะอยู่นอกเวลาทำงานแม้จะไม่ผิดกฏขององค์กร นายจ้างไม่อยู่เฉยหรอกครับ
พวกที่กระทำผิดเรื่องนี้ เพราะขาดสำนึกผิดชอบชั่วดี หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า สันดานเลว ผมถามจริง ๆ นะ คุณคิดว่าแก้กฏหมายให้สถาบันมาต่อสู้ทางกฏหมายเอง จะทำให้พวกนั้น รู้ผิดชอบชั่วดีเพิ่มขึ้นหรือ
ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับประชาชนอยู่ดี แม้พระมหากษัตริย์จะลงพระปรมาภิไทย แต่หากประชาชนไม่เอาด้วย กษัตริย์จะทำอะไรได้ เมื่อประชาชนไม่ต่อต้าน ถึงกษัตริย์จะไม่เซ็น คณะรัฐประหารก็เป็นรัฐถาธิปัตย์ควบคุมทุกอย่างได้อยู่ดี เซ็นรับรองหรือไม่มันก็แค่พิธีกรรม ที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไรซักเท่าไหร่ มีไว้ก็แค่ทำให้ขลังขึ้นตามธรรมเนียมไทยเท่านั้น พวกนี้ก็แค่ไม่พอใจ ที่กษัตริย์ไม่แสดงท่าทีต่อต้านรัฐประหาร ตามที่พวกมันคาดหวังเท่านั้นล่ะ แถมยังมโน ว่าประชาชนคนไทยคนอื่นๆ ที่คิดไม่เหมือนกับมัน เป็นหมาน้อยโง่ๆ ทำตามในหลวงอย่างเดียว (แต่ก็ไม่แน่นะ ถ้าคนไทยเชื่อฟังในหลวงมากๆ ประเทศอาจเจริญกว่าปัจจุบันนี้หลายๆเท่าเลยก็ได้)
"นี่ไม่ใช่ผมเสนอเองด้วยซ้ำ แต่คือ "ทฤษฎีบวรศักดิ์" ที่รู้จักดีในวงการกฎหมายมหาชน (แน่นอน บวรศักดิ์โง่เกินกว่าจะคิดถึง นัยยะ นี้ และที่สำคัญ ในเมื่อเขาเสนอภายใต้ภาวะที่มี ม 112 คุมอยู่ จึงไม่มีใครในประเทศไทยสามารถพูดนัยยะนี้อย่างตรง ๆ ออกมาได้)" ผมว่าเขารู้อยู่แก่ใจนะ เพราะถ้าเขาคิดจะโต้เรื่อง แนวคิด ทฤษฎี "บวรศักดิ์" อย่างที่เขาเรียก มันทำได้อยู่แล้วเพราะมันเป็นเรื่องวิชาการ และมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ ม 112 เลย ปัญหาของเขาก็คือ ไม่ได้คิดจะโต้อะไรที่เป็นวิชาการอย่างจริงจัง (อาจเพราะไม่มีความรู้จริง หรือมีความรู้ไม่ถึงคนที่จะโต้ด้วย) แต่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องการยกเลิก ม 112 เลยโยงทุกเรื่องมาเกี่ยวข้องกับ ม 112 หมด ทฤษฎี "บวรศักดิ์" มีรายละเอียดเป็นอย่างไร ผมไม่รู้ ผมรู้แต่ว่า สถาบันกษัตริย์ กับ ประชาชน เชื่อมโยงเป็นเนื้อเดียวกันมานานแล้ว ถ้าประชาชนไม่เอา สถาบัน ฯ ก็ไม่เอา ถ้าประชาชน เอา สถาบัน ฯ ก็เอา สถาบัน ฯ ไม่เคยทำอะไรโดย พลการ ไม่เคยเลือก สี เพราะฉะนั้นการลงพระปรมาภิธัยในเรื่องใด ๆ พระองค์ท่านจะคำนึงถึงความต้องการความรู้สึกของประชาชนเสมอ และทรงแก้ปัญหาวิกฤตของประเทศมาหลายครั้งแล้ว ไปศึกษาดูให้ดี แต่มันอาจเข้าใจยากสำหรับ คนไร้ ศรัทธา ไร้ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมอย่าง สมศักดิ์และกลุ่มของเขา การโยงทุกเรื่องไปหา ม 112 ทั้งหมด มันทำให้บรรดาสาวก ผู้ชาญฉลาด ของเขาติดคุกติดตารางมามากมายหลายคนแล้ว เพราะไปละเมิด ม 112 แต่ตัวเขายังรอด ยังไม่เคยถูกดำเนินคดี ม 112 เพราะเขารู้อยู่แก่ใจว่า เขาจะพูดในขอบเขตแค่ไหนเพียงใด แต่สาวกผู้ชาญฉลาดของเขาไม่รู้ และมักจะเกิดอาการ คลั่ง ทุกครั้งที่เขาพูดเหมือนว่า ม 112 มันคือปัญหาอันยิ่งใหญ่ในชีวิตของเขา ผมสงสัยว่า ที่เขาโพสต์เรื่องนี้ อาจมีเจตนาให้สาวกผู้ชาญฉลาดของเขาที่อยู่ในประเทศไทย (ไม่มีปัญญาหนีไปต่างประเทศ) นำไปขยายผล เพื่อจะได้ติดคุกติดตารางกันอีกรอบหรือเปล่า
ถึงประชาชนกับราชาจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เจ้าก็ถูกโค่นได้อยู่ดีในช่องทางอื่นๆ ดูอย่างเกาหลีก็ได้ที่ เจ้าถูกโค้นลงเพราะการรุกรานของกองกำลังต่างชาติ เจ้าไม่ได้โดนโค่นเพราะความต้องการของประชาชน และปัจจุบันเกาหลีใต้มีการเตรียมการเพื่อฟื้นฟูเชื้อสายราชวงษ์โชซอนในอดีตกลับมาอีกครั้ง แต่จะมาเป็นประมุขของประเทศหรือจะเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ของประเทศก็คงต้องติดตามกันต่อไป
ประเด็นแรก สถาบันไม่ใช่บุคคล ม. 112 สถาบันมิได้ปกป้องตัวเอง แต่รัฐเป็นผู้ปกป้องสถาบันในฐานะประมุขแห่งรัฐ ดังนั้นการฟ้องก็ต้องเป็นคดีอาญา และคดีอาญาโจทก์คือรัฐอยู่แล้ว ส่วนประเด็นการเพิ่มโทษก็ไม่เห็นด้วยครับความจริงน่าจะลดโทษเสียมากกว่า
เบื้องสูงไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับรัฏฐาธิปัตย์ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดๆ ก็ตาม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน http://newake.blogspot.com/2014/08/blog-post.html
ขอแย้งค่ะ ไม่ทุกตารางนิ้วหรอกค่ะ สมัยอิฉัน - โต๊ะบางตัวคนอื่นนั่งไม่ได้ เพราะเขาซื้อมาเอง - ห้องน้ำตึกรัฐศาสตร์ ห้ามคนนอกคณะเข้า แต่พวกเราไม่เคยหวั่น เพราะมันสะอาดนี่ - ถึงเราออกจะบวมๆไปนิด แต่ไม่เคยทำร้ายประเทศนะ - รูปปั้นปรีดี แย่งพื้นที่สนามเทนนิสพวกเรา ดีนะตอนสร้างไม่อยู่แล้ว ไม่งั้น ประท้วงตามสิทธิ และเสรีภาพ ตามที่พอมี พอกิน
โพสต์หมิ่นเต็มๆ จะได้ใช้เป็นข้ออ้างในการขอลี้ภัยการเมือง ว่าอยู่ในประเทศตัวเองไม่ได้ อันตราย ถูกไล่ล่า
บทความของจารย์บวรศักดิ์ http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9550000012219 แต่คงไม่ใช่อันที่สมเจียมอ้าง
สมเจียมบอกว่า การที่พระมหากษัตย์ลงพระปรมาภิไธยแต่งตั้งคณะรัฐประหารและให้อำนาจการปกครองแก่ระบอบรัฐประหาร เป็นการใช้อำนาจของพระองค์ล้วนๆ อ้างอีกว่าตามทฤษฎีบวรศักดิ์เอง - คือจะอ้างว่า มีหัวหน้า รปห ลงนามรับสนองก็ไม่ได้ เพราะตาม "ทฤษฎี" ของบวรศักดิ์ อำนาจอธิปไตยไม่ได้อยู่กับคณะรัฐประหาร เขาเขียนเองว่า "ส่วนคณะรัฐประหารไม่ใช่เจ้าของอำนาจอธิปไตย" ดังนั้น คณะรัฐประหารไม่มีอำนาจทางกฎหมายใดๆ ตามที่บวรศักดิ์แสดงความเห็นไว้ ประเทศที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขก็แตกต่างกัน หลายประเทศเป็นระบบรัฐสภา คือ พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่ได้ทรงบริหารราชการแผ่นดิน แต่ทรงทำตามคำแนะนำของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จึงไม่ต้องทรงรับผิดชอบทางการเมือง จึงมีคำพูดที่ว่า “พระมหากษัตริย์ทรงปกเกล้าฯ (the King reigns) แต่ไม่ได้ทรงปกครอง (but not rules)” ประเทศเหล่านี้ก็มีอังกฤษ เบลเยี่ยม สเปน นอร์เวย์ ญี่ปุ่น และไทย เป็นต้น ตามความเข้าใจผม เมื่อ คณะรัฐประหาร คสช. โค่นล้มรัฐบาลแล้วเปลี่ยนเป็นองค์การปกครองใหม่ คือได้ รัฏฐาธิปัตย์ เป็นองค์การปกครองใหม่ คือ เป็นรัฐบาล ณ เวลานั้น (รัฏฐาธิปัตย์ คือผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน ส่วนจะเป็นใครก็สุดแท้แต่ว่าเป็นผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดินหรือบ้านเมือง อ้างจาก http://easylaw4u.blogspot.com/2011/07/blog-post_3982.html?m=1)) เพื่อยังคงความเป็นรัฐที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และตามประเพณีการปกครองแบบเดิม (คณะรัฐประหารไม่ได้เปลี่ยนรูปแบบการปกครอง. แต่เปลี่ยนรัฐบาลผู้ปกครอง) ดังนั้นคณะรัฐประหารหรือรัฐบาล ขณะนั้น ก็เสนอทูลเกล้า เพื่อทรงลงพระปรมาภิไท ให้คณะรัฐประหารเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการ สรุป ทรงทำตามคำแนะนำของรัฐบาล ณ ขณะนั้น จึงไม่ต้องทรงรับผิดชอบทางการเมือง ผมเข้าใจถูกมั๊ยครับ
ถ้าความเห็นไม่เหมาะสมหรือหมิ่นเหม่ แจ้งลบได้เลยนะครับ แค่อยากแสดงแย้งสมเจียมว่ามันก็ไม่ได้แตกต่างจากการที่รัฐบาลเลือกตั้งให้พระองค์ทรงลงพระปรมาภิไท. โลจิคเดียวกัน
ถ้าใช้ตรรกะนี้ เทียบกับคณะราษฎรที่เปลี่ยนแปลงการปกครอง ร.7 ก็ลงพระปรมาภิไธยให้พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พ.ศ. 2475 และพระราชกำหนดนิรโทษกรรมในคราวเปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดิน พ.ศ. 2475 ด้วยนี่
สมศักดิ์นี่ ดูเหมือนจะแกล้ง โง่ เพื่อหลอกสาวกในแก๊งให้หาเรื่องติดคุกไปวัน ๆ หนึ่งเท่านั้น ถ้าแยกคำว่า วิจารณ์ กับคำว่า ด่า ไม่ออก นี่ ต้องพาสาวกไปเรียน อนุบาลกันใหม่เลยนะ เพราะมันไม่จำเป็นต้องมีใครมาขีดเส้นให้หรอกว่า อย่างนี้เรียกว่า วิจารณ์ อย่างนี้เรียกว่า ด่า เด็กมันยังรู้เลย ว่า ด่า เป็นยังไง เรื่องที่มันเป็นปัญหาของแก๊งสมศักดิ์ คือ วิพากษ์วิจารณ์แล้วมันไปเข้าข่าย หมิ่นประมาทมากกว่า มันไม่ใช่เรื่องการ ด่า เพราะฉะนั้น อย่าแกล้ง โง่ ให้สาวก อยากลองดี ไปด่าเข้า เดี๋ยวจะติดคุกแล้วมาร้องโอดโอยครวญครางกันอีก การวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นแล้วโดนข้อหาหมิ่นประมาท คนเดินดินกินข้าวแกงเขาโดนกันเยอะแยะไป อย่างพวกวิจารณ์ดารา วิจารณ์นักการเมือง วิจารณ์ข้าราชการ วิจารณ์ใครต่อใครร้อยแปด เขาโดนฟ้องหมิ่นประมาท แต่ไม่เห็นเขามาเรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมายหมิ่นประมาทเหมือน แก๊ง สมศักดิ์เลย เขาถูกฟ้องหมิ่นประมาท เขาก็ไปขึ้นศาล เพราะศาลจะเป็นผู้ ขีดเส้น เอง ว่า นี่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ หรือ เป็นการหมิ่นประมาท แล้ว แก๊งสมศักดิ์เป็นใครหรือถึงจะโดนข้อหาหมิ่นประมาทไม่ได้ เรื่อง ทฤษฎีบวรศักดิ์ ก็เหมือนกัน อยากจะโต้กับเขา ก็ออกมาให้เต็ม ๆ เลย อย่าอ้างว่าติด ม 112 เพราะมันไม่เกี่ยวกัน แต่ผมมองว่า เขาอ้าง ม 112 เพราะคน ๆ นี้มีชีวิตหมกมุ่นอยู่กับเรื่องนี้เท่านั้น ส่วนเรื่อง ทฤษฎีบวรศักดิ์นั้น กึ๋น เขาก็คงมีอยู่เท่าที่เขาโพสต์มานั่นแหละ คงไม่มีอะไรมากกว่านั้นแล้ว คือบอกว่า ทฤษฎีบวรศักดิ์ ว่าอย่างนี้เพราะฉะนั้น เขาจึงสรุปว่า มันต้องเป็นอย่างนี้ ดูแล้วเป็นการโยนประเด็นให้สาวกหาเรื่องติดคุกมากกว่าจะไปโต้กับบวรศักดิ์
สมศักดิ์ เจียมฯ - ไม่เจียมกะลาหัวหงอกเสียเลย ผมว่าแก แยกไม่ได้ ระหว่าง สถาบันพระมหากษัตริย์ กับ องค์พระมหากษัตริย์ แกนึกว่า เป็นบุคคลสาธารณะ เหมือนนักการเมือง อีกด้วย
พวกร่านจะชอบพูดว่า ราชา กษัตริย์ ไม่นับเป็นสถาบัน สถาบันต้องไม่ใช่แค่คนๆเดียว เช่น สถาบันชาติ สถาบันประชาชน
ถึงเป็นบุคคลสาธารณะ ใช่ว่าเราจะละลาบละล้วงเรื่องของเขาได้ทุกอย่าง ไปใส่ร้ายเสียๆ หายๆ ก็มีกฎหมายคุ้มครองทุกคน
พูดถึงสมศักดิ์แล้วผมขอบอกตรงๆนะ ผมโคดภูมิใจที่ได้ด่าอีกระหรี่กับไอ้หมาขี้เรื้อนที่เป็นพ่อแม่ของสมสัตว์ตัวนี้โชว์ผ่านการปะทะคารมตัวเป็นๆในเฟสจริงๆ สุดท้ายพวกหมาล้มเจ้า ก็ต้องพังทะลายพับพาบ ด้วยบทความเรื่องปัญหาความเหลื่อมล้ำที่ผมเคยเอามาเขียนลงในบอร์ดเก่า ทุกวันนี้ใครลองไปถามลูกศิษย์ของลูกลูกอีกระหรี่-ลูกไอ้สุนัขขี้เรื้อน แบบสมสัตว์ด้วยคำถามว่า สถาบันเกี่ยวข้องกับปัญหาความเหลื่อมล้ำในประเทศนี้ตรงไหน พวกบันดาสานุสิดของลูกอีกระหรี่-ลูกไอ้สุนัขขี้เรื้อน จะใบ้แดรก อ้ำอึ้ง ข้างๆคูๆ เพราะปัญหาของประเทศนี้ ทุกปัญหา เกิดจากนักการเมืองทั้งสิ้น ไม่เกี่ยวกับสถาบันฯเลย
เค้ายึดอำนาจรบ. ไม่ได้เปลี่ยนแปลงระบอบปชต.ไปเป็นระบอบอื่นนะ สมหงอกมันสับสนอะไรรึเปล่า ต่อให้เป็นอังกฤษถ้ามีการรปห.แบบนี้กษัตริย์ก็ต้องลงพระปรมาภิไธยให้อยู่ดี อันนี้มันเรื่องการเมือง แต่พระมหากษัตริย์นั้นทรงอยู่เหนือการเมืองอยู่แล้ว ก็ทรงสละอำนาจให้ปชช.นานแล้ว นักการเมืองทะเลลาะกัน ตีกัน หรือนักการเมืองจะโดนยึดอำนาจ มันเกี่ยวอะไรกับพรมหากษัตริย์ล่ะ