อ่านทีแรกงง ตรงประโยค "ดูแทบจะไม่ไยไพด้วยซ้ำ" ไปดูความหมายอีกที น่าจะต้องเขียนว่า "ดูแทบจะไม่ไยดีด้วยซ้ำ" เอาล่ะ ก็ต้องถือว่า เนติวิทย์ เป็นคนมีความสามารถระดับหนึ่ง ผมเป็นผู้ใหญ่ที่อาจไม่เก่งเท่าเขาเลยด้วย แต่ผมว่ามีจุดติ เขาอยู่บ้าง คือบางที เขาสำคัญตัวเองเกินไปหน่อย ซึ่งผมว่าวัยรุ่นยุคนี้หลายคนจะเป็น คือ เมื่อเราได้รับโอกาส อะไรก็ตามจะเป็นเรื่องเล็กน้อย หรือ เรื่องใหญ่ หากจะปฏิเสธ ก็ควรตอบกลับไปแบบสุภาพ บอกเหตุผล ที่พอเข้าใจได้ก็พอ แต่การอาศัยจังหวะสวนกลับ แล้วก็แสดงท่าที ที่ผมต้องใช้คำว่า "โอหัง" คือการสำคัญตัวเองผิด ไม่ใช่ผู้ใหญ่ที่ให้โอกาสแก่เขา จะสามารถรับต่อ ทุกความรู้สึกที่เขาจะแสดงออกได้ การจำกัด คำพูดคำจา บางครั้งก็จำเป็น มีวัยรุ่นอยู่มาก ที่ถ้าได้รับคำชื่นชม มักจะทำตัว "ปีนเกลียว" ชื่อเสียง เป็นของไม่จีรัง แต่ภาพพจน์ สิยั่งยืนกว่า วันนี้ น้องอาจยืนหยัด ด้วยท่าทีแข็งกร้าวได้ เพราะยังมีคนชื่นชม เนื่องด้วยแนวคิดทางการเมืองตรงกัน แต่ถ้าวันใด ความนิยมจืดจาง คนจะจำเราได้ในแง่ไหน เคยคิดบ้างไหม คนเก่งบางครั้งทำงานร่วมกับคนอื่นไม่ได้ มีเหตุผลอยู่ 2-3 อย่างที่ตรงกับตัวน้องเน คือ 1. ขาดความเกรงใจ 2. ยกตนข่มท่าน 3. ถือตนเป็นศูนย์กลาง ข้อ 3. นี่จริง ๆ บางครั้งผมก็เป็น แต่จะพยายามควบคุมตนเอง ไม่ให้เป็นเช่นนั้น เพราะการอยู่กับคนอื่น การสำคัญตัวเองผิด ทำให้ผมทุกข์มามากแล้ว ผมไม่หวังให้น้อง ปรับตัว เพราะน้องคนมีอีโก้ สูงเกินไป แค่บอกให้รับรู้ ว่าคนอื่นรู้สึกกับเขาอย่างไรก็พอ
จดหมายลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2556 ต้องถือว่าไอ้ตี๋น้อยนี่ที่อายุแค่นี้เขียนหนังสือได้ไม่เลวเลยทีเดียว หวังว่าคงไม่ได้เอาอย่างไอ้โอ๊คนะ
ผมว่าน่าสงสารมากกว่า ผู้ปกครองน่าจะส่งไปหาหมอทางจิตตรวจสอบดู บางทีสารเคมีในสมองมีปัญหา จากที่เคยๆอ่านมา ไม่ได้แช่งนะ ผมกลัวว่าจะมีอารมณ์รุนแรงจนควบคุมไม่ได้ในอนาคตจนอาจเกิดโศกนาฏกรรม/ฆาตกรรม หรือมีอารมณ์ซึมเศร้าในอนาคตจนต้องฆ่าตัวตาย
ปาหี่ทั้งนั้นครับ ไอ้พวกกรรมสิทธิ์มันก็ไม่ได้คิดจะให้รางวัลอะไรไอ้เด็กเปรตนี่ตั้งแต่แรกแล้ว ไอ้เด็กเปรตนี่ก็รู้กันกับไอ้พวกกรรมสิทธิ์หัว Door นี่ เลยแต่งดราม่าสร้างราคาโหนเด็กให้เป็นแนวหน้าสู้กับทหารเท่านั้นเอง
เออนะ...... ชาวสิงห์ดำต้องระวังตัวไว้ด้วย ยังดีที่คณะฯอยู่ใกล้สภากาชาด เอาไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคกลัวน้ำก่อนให้เข้าชั้นเรียนก็น่าจะดี