ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าวันที่ 20 กรกฎาคม นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งเดินทางกลับจากประเทศจีนในช่วงดึกของวันที่ 19 ก.ค. จะเข้ารายงานผลการติดตามความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์จำนวน 109 คนที่ถูกส่งกลับไปประเทศจีน ต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม รวมทั้งจะมีการรายงานให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทราบ ภายหลังนายกฯ กลับจากการลงพื้นที่ใน จ.ระยอง ในวันเดียวกัน นอกจากนี้ นายอนุสิษฐจะแถลงข่าวถึงผลการติดตามความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ในช่วงบ่ายด้วย ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “เหตุปัจจัยนานาชาติกดดันไทย” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 16-17 ก.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 1,250 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับกรณีที่นานาชาติ เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และองค์กรระหว่างประเทศ ออกมาวิจารณ์และกดดันเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเด็นต่างๆ เช่น การค้ามนุษย์ การจับกุม 14 นักศึกษา และชาวอุยกูร์ผู้หลบหนีเข้าเมือง พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 37.92 ระบุว่า เป็นความพยายามของประเทศสหรัฐอเมริกาในการแทรกแซงกิจการภายในของไทย รองลงมา ร้อยละ 22.00 ระบุว่าเป็นเกมการเมืองระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา โดยพยายามถล่มไทยเพื่อกระทบชิ่งไปถึงจีน, ร้อยละ 16.24 ระบุว่าเป็นความพยายามขยายอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก, ร้อยละ 14.24 ระบุว่าเป็นความพยายามสร้างภาพของประเทศตะวันตก, ร้อยละ 13.60 ระบุว่าเป็นการกระทำอย่างบริสุทธิ์ใจตามบทบาทหน้าที่ของประเทศประชาธิปไตยตะวันตก, ร้อยละ 10.96 ระบุว่าไทยละเมิดสิทธิมนุษยชนจริงตามที่ถูกกล่าวหา http://www.thaipost.net/?q=สมชเตรียมแจง-บินไปแดนมังกร-เยี่ยม‘109อุยกูร์’ ...................................................................................... อาจจะเย็นๆหรือค่ำๆคงมีแถลงการณ์ แล้วจะอัพเดทข่าวต่อไปครับ
เลขาฯสมช.ยันจีนดูแลชาวอุยกูร์ที่ส่งกลับ109คนเป็นอย่างดี เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2558 นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงชาติ (สมช.) แถลงผลติดตามการส่งกลับผู้หลบหนีชาวอุยกูร์ไปยังจีน ในระหว่างวันที่ 15 - 19 ก.ค.58 ว่า ในการเดินทางครั้งนี้ ได้เข้าหารือกับนายเมิ่ง เจียนจู้ เลขาธิการคณะกรรมาธิการการเมืองและกฎหมายของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงของประเทศ โดยได้มีการหารือถึงนโยบายการดูแลกลุ่มชนเผ่าในจีน 56 ชนเผ่า ซึ่งทางจีนได้ยืนยันเจตนารมณ์ที่จะดูแลประชาชนจีนที่หลบหนีออกมา รวมทั้งการมุ่งปราบปรามขบวนค้ามนุษย์ที่ได้หลอกล่อชักจูงให้ออกนอกประเทศ ถือเป็นเรื่องไม่ชอบด้วยกฎหมายตามหลักสากล พร้อมกันนั้น จีนยืนยันรับประกันอย่างเต็มที่จะให้การดูแลชาวอุยกูร์เป็นอย่างดีเช่นเดียวกับชนเผ่าอื่นในจีน และยึดมั่นในการต่อต้านขบวนการก่อการร้ายระหว่างประเทศ เนื่องจากเห็นว่า ถ้าหากขบวนการก่อการร้ายสามารถชักจูงใจคนในประเทศให้ใช้ความรุนแรง และเติบโตขึ้น ก็จะสามารถกลับมาสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในประเทศได้ “ผมมั่นใจในการลงพื้นที่ซินเจียงครั้งนี้ที่ได้เผชิญกับความจริงเข้าถึงเชิงลึกพอสมควร ส่วนเรื่องความปลอดภัยของชาวอุยกูร์ที่ส่งกลับจีน ทางการจีนรับรองว่า จะให้ความปลอดภัยกับประชาชนกลุ่มนี้ตามหลักสากล และหลักสิทธิมนุษยชนที่จะไม่ให้ตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์อีก” นายอนุสิษฐ กล่าว นายอนุสิษฐ กล่าวด้วยว่า จากนั้น คณะของสมช.เดินทางต่อไปยังศูนย์พักฟื้นที่เมืองอุรุมชี ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณทลซินเจียง ในการลงพื้นที่ได้ทราบว่า มีการพัฒนาพื้นที่และลงทุนทางเศรษฐกิจมหาศาลให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีงานทำและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี โดยเมืองดังกล่าวมีมัสยิด จำนวน 20,000 แห่ง เฉลี่ยแล้ว 440 คนต่อมัสยิด 1 แห่ง และยังมีมหาวิทยาลัยจำนวน 26 แห่งให้การศึกษากับคนในพื้นที่อีกด้วย นายอนุสิษฐ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ทางคณะของ สมช.ยังได้เดินทางลงพื้นที่ไปดูชีวิตความเป็นอยู่ชาวอุยกูร์ที่ไทยได้ส่งกลับไปจีน 109 คน ที่ศูนย์ให้การศึกษาเพื่อกลับสู่สังคม ซึ่งได้แบ่งเป็นผู้ชาย และผู้หญิง ในกลุ่มดังกล่าวได้จำแนกพฤติกรรมของแต่ละคนตามระดับความรุนแรง ได้แก่ สีส้ม น้ำเงิน และเขียว โดยผู้ที่พักพิงอยู่ในศูนย์ดังกล่าวเป็นขั้นตอนสืบสวนสอบสวน และขั้นตอนของการปรับทัศนคติกลับคืนสู่สังคมต่อไป ทั้งนี้ กลุ่มที่ถูกจัดให้มีระดับความรุนแรงสูงสุดจัดให้เป็นกลุ่มสีส้มมี 13 คนที่เชื่อว่าได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์หรือขบวนการก่อการร้าย หลังจากขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน หากพบว่ากระทำจริงก็จะถูกส่งตัวไปดำเนินการตามกฎหมาย ถ้าไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวก็จะถูกส่งกลับสู่ภูมิลำเนา กรณีคนไหนที่ขายทรัพย์สินจนสิ้นเนื้อประดาตัว ก็จะจัดสรรที่ทำกินและที่อยู่อาศัยให้ในเมืองอัคซู เขตปกครองตนเอง ชนชาติอุยกูร์ซินเจียง http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=763999 ............................................................................
แสดงว่าไม่เชื่อมั่นในรัฐบาลจีน เลยต้องไปดูเพื่อยืนยัน ถ้ามองอีกด้าน ก้ได้เวลาผลาญเงิน ทั้งๆที่พวกนี้ไม่ใช่คนไทย เราต้องทำขนาดนั้นเหรอ
ถึงจะเป็นนักโทษก่อการร้าย แต่อเมริกาก็ดูแลอย่างดี มีหูฟังไว้สำหรับฟังเพลง หน้ากากคลุมหน้า ป้องกันแดดทำร้ายผิวหนัง แว่นกันแดดป้องกันสายตา จีนคงจะโหดร้ายกว่านี้แน่นอน
เพราะเราถูกกดดันจากนานาชาติครับ ในความเป็นจริงหมดภาระหน้าที่เราแล้ว ไม่งั้นเราก็ถูกกล่าวหาว่าใจจืดใจดำ ส่งคนไปถูกทำร้ายอีก
ข่าว 7 สี - รายงานสดทางโทรศัพท์ : นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เดินทางกลับจากประเทศจีนเมื่อวานนี้ และได้เปิดแถลงข่าวเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ถึงผลการตรวจสอบความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งไปจากประเทศไทย
ในไทยน่าจะไม่มีอะไรต่อแล้ว ลองไปดูต่างประเทศครับ อียูไร้ข้อสรุปหารือปัญหาผู้อพยพ World News ที่ประชุมรัฐมนตรีมหาดไทย สหภาพยุโรป หรืออียู ล้มเหลวในการหาข้อตกลงเกี่ยวกับการกระจายผู้ลี้ภัยร่วม 40,000 คน ในกรีซ และอิตาลี ไปยังประเทศต่างๆ ภายในกลุ่ม ในช่วง 2 ปีข้างหน้า โดยที่ประชุมตัดสินใจที่จะเลื่อนการหาตกลงในเรื่องนี้ไปจนถึงสิ้นปี 2558 ซึ่งก่อนหน้านี้ บรรดาผู้นำอียูได้ออกมาเรียกร้องถึงการทำข้อตกลงเรื่องการจัดหาที่พำนักให้กับบรรดาผู้ลี้ภัยดังกล่าวภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ แต่เจอเสียงคัดค้านจากสเปน ออสเตรีย และโปแลนด์ ที่ต่างระบุว่า ประเทศตัวเองรับผู้อพยพมากพออยู่แล้ว http://www.now26.tv/view/50665/อียูไร้ข้อสรุปหารือปัญหาผู้อพยพ.html ............................................................................................... ปัญหาผู้อพยพเป็นภาระของทุกประเทศที่ไม่มีใครอยากแบกรับ ไม่ว่าประเทศนั้นๆจะเจริญหรือร่ำรวยแค่ไหน
แปลกดี จีนเขาขอตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย unhcr ออกมาด่าไทย แต่อเมริกาส่งโดรนไปฆ่าแกนนำอัลกออิดะโดยไม่ต้องมีกระบวนการยุติธรรม unhcr เฉยๆ http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000082913 ผมว่าเราทำไรก็ทำเหอะครับ ฝรั่งมันก็ทำ โจรใต้ก็เด็ดหัวมันเหอะ ฝรั่งมันทำให้ดูแล้ว
ล่าสุด พ่อ un ออกมาด่าไทย UN กดดันไทยอย่าอ่อนข้อจีน ส่งตัวชาวอุยกูร์ที่เหลือไปยังตุรกี โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 กรกฎาคม 2558 02:31 น. (แก้ไขล่าสุด 22 กรกฎาคม 2558 14:05 น.) ภาพชาวอุยกูร์ที่ถูกเนรเทศจากไทยกำลังถูกนำตัวลงจากเครื่องบินโดยตำรวจแดนมังกร ณ ท่าอากาศยานแห่งหนึ่งของจีนเมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา วอยซ์ออฟอเมริกา - สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เดินหน้ากดดันไทยให้ปล่อยชนเชื้อสายอุยกูร์มากกว่า 50 คนเดินทางไปยังตุรกี แม้ถูกกดดันจากปักกิ่งให้ส่งมอบพวกเขากลับไปยังจีน วอยซ์ออฟอเมริกา สื่อของสหรัฐฯ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ของไทยตกอยู่ภายใต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงต่อกรณีบังคับกลุ่มชาวอุยกูร์กลับไปยังจีนเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา แต่ในสัปดาห์นี้ นายอนุสิทธิ์ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พยายามบรรเทาความกังวลต่อการปฏิบัติของจีนต่อชาวอุยกูร์เหล่านั้นด้วยการเดินทางไปยังศูนย์ควบคุมตัวในมณฑลซินเจียง เพื่อเยี่ยมพวกเขา นายอนุสิทธิ์บอกกับผู้สื่อข่าวไทยว่า ชาวอุยกูร์ 109 อยู่อาศัยในสภาพแวดล้อมที่ดีในศูนย์พักฟื้นที่สะอาดและเป็นระเบียบ และมี 13 คนที่ถูกสอบสวนตามคำกล่าวหาเกี่ยวข้องกับก่อการร้าย อย่างไรก็ตาม ทางวอยซ์ออฟอเมริการะบุว่า แม้ทางเลขาธิการ สมช.รายนี้จะนำเสนอรูปถ่ายบางส่วนของศูนย์ แต่ก็บอกว่าตนเองถูกห้ามถ่ายรูปกับชาวอุยกูร์ ขณะที่จีน ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนและองค์กรระหว่างประเทศเข้าไปยังศูนย์แห่งนี้ รายงานของวอยซ์ออฟอเมริการะบุว่ารัฐบาลไทยมีการเจรจากับทั้งจีนและตุรกีมานานกว่าปี นับตั้งแต่พบตัวชาวอุยกูร์กว่า 350 คนซ่อนตัวอยู่ในไทยและนำไปควบคุมตัวตามศูนย์กักกันต่างๆ ต่อมาชาวอุยกูร์ราว 180 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก ถูกส่งไปยังตุรกี หลังได้รับเอกสารคนเข้าเมืองอย่างถูกกฎหมาย ทั้งนี้ ตุรกีมักจัดหาเอกสารดังกล่าวแก่ชาวอุยกูร์เป็นปกติ เพราะว่าความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมดั้งเดิมและอ้างว่าชนกลุ่มน้อยเหล่านี้ต้องเผชิญกับการประหัตประหารในจีน อย่างไรก็ตามยังมีชาวอุยกุร์อีกมากกว่า 50 คนที่ถูกควบคุมตัวในศูนย์กักกันคนเข้าเมืองของไทย ในเรื่องนี้วอยซ์ออฟอเมริกาอ้างคำกล่าวของวิเวียน ตัน โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติประจำประเทศไทย ที่เรียกร้องรัฐบาลไทยยินยอมให้คนกลุ่มนี้เดินทางอย่างอิสระ “โดยพื้นฐานแล้ว UNHCR อยากวิงวอนรัฐบาลไทยระงับบังคับเนรเทศผู้คนอีกในอนาคต เราเรียกร้องรัฐบาลยอมให้คนที่ยังอยู่ในไทย ได้รับการเนรเทศโดยสมัครใจยังไปดินแดนที่รัฐบาลนั้นมีความเต็มใจต้อนรับพวกเขา” นายตันกล่าว นายเบนจามิน ซาวัคกี นักสิทธิมนุษยชนและทนายความ ตำหนิไทยผ่านวอยซ์ออฟอเมริกาว่า ไทยไม่ยอมให้องค์กรนานาชาติเข้าดำเนินการคัดครองผู้อพยพอย่างเหมาะสม ก่อนส่งตัวคนเหล่านั้นกลับไปจีน "ตามกฎหมายจารีตประเพณีระหว่างประเทศโดยไม่คำนึงถึงกรณีที่ไทยไม่ได้ลงนามเป็นภาคีในอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย ระบุว่าจนกว่ากระบวนการคัดครองจะแล้วเสร็จ ให้เชื่อว่าความหวาดกลัวต่อการถูกประหัตประหารของคนเหล่านั้นมีความสมเหตุผลสมผล และไม่อาจส่งตัวพวกเขากลับไปจนกว่าได้ข้อสรุปแล้ว" วอยซ์ออฟอเมริการายงานต่อว่า ชาวอุยกูร์ในไทยกล่าวอ้างมาตลอดว่าพวกเขาไม่ได้มาจากจีนและยืนยันว่ามาจากตุรกี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทูตเติร์กได้เข้าพบพวกเขาและมอบเอกสารการเดินทางอย่างถูกกฎหมาย แต่ก็โดนยับยั้งโดยเจ้าหน้าที่ไทยที่ยอมส่งตัวพวกเขาแก่ปักกิ่งภายใต้แรงกดดันจากจีน ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากนานาชาติต่อแนวทางจัดการกับประเด็นนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของไทยเรียกร้องให้มีการประชุมเร่งด่วนของเจ้าหน้าที่ต่างๆจากสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงจากสหประชาชาติและองค์กรสิทธิมนุษยชนต่างๆ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ บอกว่ากระบวนการอ้างสิทธิลี้ภัยควรเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน พร้อมระบุว่าชาวอุยกุร์กว่า 50 คนที่ยังอยู่ในไทย ควรถูกส่งตัวไปยังตุรกี วอยซ์ออฟอเมริกาอ้างรายงานข่าวระบุว่า จีนยังคงกดดันทางการไทยให้ส่งชาวอุยกูร์กลับไปยังจีน โดยปักกิ่งกล่าวหาชาวอุยกูร์ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรก่อการร้าย อย่างเช่นรัฐอิสลาม (ไอเอส) และพวกแบ่งแยกดินแดน อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นถึงจุดหมายปลายทางท้ายที่สุดของคนเหล่านั้น เพียงแต่บอกว่าชาวอุยกูร์จะอยู่ในไทยต่อไปสักพัก ที่มา http://www.manager.co.th/around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000082675