15 ธันวาคม 2015 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2558 นายจิรชัย มูลทองโร่ย รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดจากโครงการรับจำนำข้าว ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ถูกกล่าวหาเพียงรายเดียว กล่าวกับสำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้าว่า หลังจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ เคยขยายเวลาให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นำพยานเข้าให้ถ้อยคำหลายครั้ง ครั้งล่าสุดจนถึงวันที่ 28 ธันวาคม 2558 โดยเหลือพยานอีก 4 ปาก ซึ่งได้ยื่นขอขยายเวลาไปอีก 1 เดือน ที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า คงไม่ขยายเวลาให้อีกแล้ว เพราะนับแต่ตนได้รับแต่งตั้งให้รับหน้าที่นี้ ก็มีการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2558 ไปแล้วถึง 32 ครั้ง และมีการขยายเวลาให้แล้วหลายครั้ง ดังนั้น จึงกำชับให้พยานที่เหลือ อาทิ นายโอฬาร ไชยประวัติ อดีตรองนายกฯ, นางเบญจา หลุยเจริญ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง, นายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ฯลฯ เข้ามาให้ถ้อยคำภายในวันที่ 28 ธันวาคม 2558 นี้ หากไม่สามารถมาให้ ก็ให้ถ้อยคำเป็นลายลักษณ์อักษรแทน “คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ถือว่าได้ให้เวลามาพอสมควรแล้ว โดยหลังจากนี้ ผมจะขอใช้เวลาในเดือนมกราคม 2559 ทั้งเดือน ในการสรุปข้อเท็จจริง ก่อนเสนอต่อนายกฯ เพื่อพิจารณาต่อไป” นายจิรชัยกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 หลังจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ส่งเรื่องให้นายกฯ พิจารณา หากได้รับความเห็นชอบ ก็จะลงนามแล้วส่งให้กรมบัญชีกลางไปแต่งตั้ง “คณะกรรมการความรับผิดทางแพ่ง” เพื่อพิจารณาออกคำสั่งทางปกครองเรียกค่าเสียหาย (ค่าสินไหม) ต่อไป สำหรับโครงการรับจำนำข้าว มีการใช้ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ฯ เพื่อดำเนินการเรียกค่าเสียหาย (ค่าสินไหม) ใน 2 กรณี คือ 1. กรณีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริต ที่มีกระทรวงการคลังเป็นผู้เสียหาย มี น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นผู้ถูกกล่าวหาเพียงคนเดียว และ 2. กรณีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่มีกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้เสียหาย มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับพวก รวม 21 ราย เป็นผู้ถูกกล่าวหา โดยกรณีหลังมีการส่งเรื่องไปให้กระทรวงพาณิชย์แต่งตั้งคณะกรรมการความรับผิดทางแพ่งแล้ว ทั้งนี้ อายุความของการเรียกค่าเสียหายกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ คือไม่เกินวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2560 ส่วนกรณีนายบุญทรงกับพวก คือไม่เกินวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2560
ศาลใจร้ายใจดำ จะใช้เวลาช่วงปิดเทอมกับลูก พาลูกไปทัศนศึกษาญี่ปุ่นก็ไม่ให้ไป ศาลไม่อนุญาต"ยิ่งลักษณ์"พา"น้องไปป์"ไปทัศนศึกษาต่างประเทศช่วงปิดเทอม วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 13:36:53 น. แหล่งข่าวใกล้ชิดนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่อนุญาตให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ขอเดินทางออกนอกประเทศ ในกรณีที่จะพา เด็กชายศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ บุตรชาย ไปทัศนศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่น โดยศาลได้แจ้งคำสั่งให้ทราบแล้วหลังจากที่ทนายความได้ยื่นคำร้องขอต่อศาลว่า อดีตนายกรัฐมนตรี มีความประสงค์จะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นในช่วงวันที่ 15-25 ธันวาคม 2558 เพื่อพาบุตรชายไปทัศนศึกษา เนื่องจากเป็นช่วงปิดภาคเรียน ในช่วงฤดูหนาว ซึ่งอดีตนายกรัฐมนตรีเองก็ต้องการใช้เวลากับลูกในช่วงปิดภาคเรียน
***ใช้งานบุญบังหน้า ก็แว๊ปออกไปไม่ได้ ***ใช้จดหมายเชิญจากรัฐสภายุโรป ก็โดนจับผิด ไปไม่ได้ ***เอาไงดีหว่า.......ใช้เด็กบังหน้าแล้วกัน.....ก็ยังไปไม่ได้ ชีวิต....หนอชีวิต....ทำไมมันลำเค็ญขนาดนี้
ทำใจกันไว้บ้างครับ วันนี้ผมนั่งวิเคราะห์หน้าอิป้า มันไม่มีจุดไหนที่บอกว่ามันจะติดคุกครับ น่าจะหนีไปนอกได้ หรือแค่ชดใช้เงิน เผลอๆรอบหน้าได้กลับมาใหม่ ด้วยความเซ็งครับ