ให้แสดงความคิดเห็นที่คล้อยตาม ห้ามขัดแย้ง นี่เรียกว่า เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นนะครัช! เหมือนโดนสหบาทานานาชาติในงานประชุม แต่เราแข็งแกร่งมาก เรายังเดินหน้าคืนความสุขให้คนในชาติต่อไปแม่งไร้เทียมทานยิ่งกว่าพม่ากักตัวอองซานซูจี #ขอสมัครเป็นติ่ง
5555 สมัครเป็นติ่ง ชื่นชม อยากอ้วก ชักแม่น้ำทั้ง5เพื่อไม่ให้เขาด่าได้ว่าตัวเองไม่เคยทำอะไรเลย แถมแช่งให้แม่เขาโดยคดีหนักอีก
ก็อาจใช่ เจ็บ เพราะพวกจังไร นั่นแหละ ไม่มีปัญญาทำอะไร ต้องไปยืมมือฝรั่ง แต่ก็ช่างเถอะ ไม่มีปัญญาอะไรหลอก จินตนาการน้ำแตกได้ ก็เท่านั้น ถรุ้ยส์
วันๆทำอะไรบ้างนอกจากโกหก แล้วก็หนี คนกลาง นุ๊ค พระยาหน้าตาดี ผม มาตบเด็ก ให้ท่านแล้วนะครับ ใครพูดครับ ยังไม่เห็นทำอะไรทั้งในหรือนอกบอร์ด ดีแต่พูดกับใจดำจริงๆไม่ว่าร่างไหน
ผมก็เคยคิดนะครับว่าจะมีผู้รักปชต. หรือเสื้อแดงคนไหนในบอร์ดไปเดินขบวน ช่วยบริจาค เป็นปากเป็นเสียงให้เสื้อแดงติดคุกหรือกล้าไปตากแดดท้าปรับทัศนคติให้ผมหงายหลังไปเลย แต่สุดท้ายก็ฝันลมๆแล้งๆ
ปลัดกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงถึงสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของไทย ต่อที่ประชุมคณะทำงานคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ โดยย้ำว่า 4 ปีครึ่งที่ผ่านมา ไทยได้แก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชนในหลายด้าน มีการบังคับใช้กฎหมายด้วยหลักนิติธรรม ยึดมั่นในหลักประชาธิปไตย เคารพหลักสิทธิมนุษยชน แต่การจำกัดการแสดงออกทางการเมืองในขณะนี้ก็เพื่อความมั่นคงของชาติ ป้องกันความแตกแยก ขณะที่ประเทศสมาชิก 105 ประเทศที่ตั้งคำถามกับไทย มีการแสดงความกังวลเรื่องเสรีภาพการแสดงออก ที่เกี่ยวข้องกับพรบ.การกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ เสนอให้ยกเลิกการนำพลเมืองขึ้นศาลทหาร และทบทวนการบังคับใช้ ม.112 รวมทั้งขอให้กำหนดวันที่ชัดเจนที่จะให้นานาชาติเข้าไปสังเกตการณ์สถานการณ์ในไทย
คตง.ส่ง "ป.ป.ช." ดำเนินคดีอาญา "หมอเลี้ยบ-ประเสริฐ" กรณีส่งคืนท่อก๊าซ.... อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/biz/gov/431146 สงสารจัง คงต้องชี้แจงไแเรื่อยๆ ที่ละเรื่อง ทีละคนสองคน เรียกว่าขยับเป็นโดน คงได้ชี้แจงอีกเยอะ ไม่หมดง่าย ถึงว่า จะยืนเฉยๆไปยืนที่บ้านเฮอะ ออกมาที เดือดร้อนกันที คุณยูเอน ว่างๆงานนัก คอยแหกหูฟังดีๆ มีมาอีกเรื่อยๆ ไม่ได้โม้
ธรรมดาครับ เมื่อมีคนเลวเอาชาติไปเร่ขาย คนรักชาติก็ต้องตามไปชี้แจงแก้ไข ส่วนคนฟังจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจหรือแกล้งไม่เข้าใจ ก็แล้วแต่ว่าแต่ละคนมีวาระซ่อนเร้นอย่างไรหรือไม่ นี่ไม่ได้ตอบให้จขกท.อ่าน เพราะแค่โพสท์กระทู้ก็เลวเกินกว่าจะเป็นคนแล้ว
เอาจริงๆ แล้ว ก็มีทั้งชมและก็เรียกร้องให้ปรับปรุงนะ ใครอยากฟังเต็มๆ ก็ไปฟังได้ที่นี่ แต่ไอ้ประเภทโดนประนามเหมือนข่าวบางสำนักมโนขึ้นมานะ ไม่มีหรอก http://webtv.un.org/meetings-events...ersal-periodic-review/4888484782001#full-text การพิจารณารายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนที่นครเจนีวา สวิสเซอร์แลนด์เมื่อวาน หลายประเทศชื่นชมพัฒนาการของไทยในการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม แต่ก็ยังเป็นห่วงเรื่องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกทางการเมือง ในการประชุมครั้งนี้ มี 102 ประเทศที่แสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์ในประเทศไทย ส่วนใหญ่ชื่นชมเรื่องการให้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า , การออกกฎหมายความเท่าเทียมทางเพศ และการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ แต่ก็มี 28 ประเทศ ที่มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม เช่น ให้หยุดการปิดกั้นเสรีภาพการแสดงออก , ให้ทบทวนประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ ให้ยกเลิกการนำตัวพลเรือนขึ้นศาลทหาร ซึ่งปลัดกระทรวงยุติธรรมและคณะผู้แทนไทย ยืนยันว่า การควบคุมเสรีภาพการแสดงออก เป็นไปเพื่อป้องกันความขัดแย้งแตกแยกในสังคม และประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบหรือเดือดร้อนกับคำสั่ง คสช. โดยฝ่ายไทยจะแถลงต่อที่ประชุมในวันพรุ่งนี้ว่า จะสงวนท่าที หรือ จะรับข้อเสนอแนะใดไปปฏิบัติบ้าง ซึ่งทีมข่าวรายงานว่า ข้อเสนอแนะต่างๆ ไม่มีสภาพบังคับให้เราต้องปฏิบัติตาม อย่างสิงคโปร์ เคยถูกเรียกร้องให้ยกเลิกโทษประหารชีวิต แต่ก็ไม่ได้ปฏิบัติตาม โดยให้เหตุผลว่า จำเป็นต้องมีโทษประหารชีวิตสำหรับคดีร้ายแรง เพื่อยับยั้งการก่ออาชญากรรม ทั้งนี้ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง วิเคราะห์ว่า การตั้งคำถามในเวทีนี้ เป็นเพราะต่างชาติเข้าใจผิดว่า พื้นที่ทางการเมืองของไทยถูกปิดกั้นทั้งหมด ทั้งที่จริงๆ แล้ว ประชาชนที่ไม่มีกลุ่มการเมืองแอบแฝงอยู่เบื้องหลัง แสดงออกทางการเมืองได้โดยเสรี ส่วนกลุ่มที่มาแสดงออกแล้วมีแนวโน้มว่าจะเกิดการเผชิญหน้า ก็ยังจำเป็นต้องควบคุมต่อไป ขณะที่ พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการหารือกับเอกอัครราชทูตสวีเดนประจำประเทศไทยว่า ทางสวีเดนยอมรับว่า ยังไม่เข้าใจถึงสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในไทยมากนัก แต่ก็จะติดตาม เพื่อทำความเข้าใจให้มากขึ้น
ต่างชาติก็มีผลประโยชน์แอบแฝงทั้งนั้นแหละ ไม่ได้จริงใจอะไรหรอก เสื้อแดงได้เคยกล่าวไว้กลับมาลืมซะได้ จำ ๆ ลืม ๆ เป็นกรณี ๆ ไป สมองเพี้ยนก็สมเป็นเสื้อแดงล่ะนะ
"ประจิน" เผยทูตสวีเดนเข้าใจสถานการณ์ในไทย หลังถูกต่างชาติจับตา http://goo.gl/4UToFU #SpringNews พล.อ.อ.ประจิน เผย กองทัพอากาศมีแผนซื้อเครื่องบินรบ’กริพเพน’อีก4ลำ:
“อยากเรียกร้องให้นางคาตินา อดัมส์ โฆษกสหรัฐ ภาคพื้นเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ติดตามข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนแสดงความคิดเห็น และอยากให้เปิดรับข้อมูลจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เดือดร้อนจากการกระทำของกลุ่มนักจัดกิจกรรมการเมืองเหล่านี้ ตลอดจนผู้ที่ถูกพาดพิง หมิ่นประมาทด้วยถ้อยคำ และข้อความเป็นเท็จด้วย ว่าเขารู้สึกเช่นไร เชื่อว่าทุกประเทศย่อมมีกฎหมายคุ้มครองผู้บริสุทธิ์ และลงโทษผู้กระทำผิดไม่แตกต่างกัน” พ.อ.ปิยพงศ์ระบุ http://www.thaipost.net/?q=คสชเมินข้อกังวลต่างชาติ ........................................................................................ เป็นคำด่า ที่สุภาพดีจัง
คณะผู้แทนไทย เตรียมแถลงต่อที่ประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติว่าจะรับข้อเสนอแนะประเด็นใดไปปฏิบัติบ้าง ซึ่งท่าทีของรัฐบาลไทยยืนยันชัดเจนแล้วว่า จะไม่ทบทวนนโยบายใดๆ การแถลงครั้งนี้จะมีขึ้นที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ในเวลา 21.30 น.ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งไทยไม่จำเป็นต้องรับทุกข้อไปปฏิบัติตาม สามารถสงวนท่าทีเพื่อกลับมาหารือกับรัฐบาล แล้วค่อยรายงานให้คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนในเดือนกันยายนได้ อย่างในการประชุมครั้งที่แล้ว เมื่อปี 2554 สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พรรคเพื่อไทย นานาชาติมีข้อเสนอแนะให้ไทย 172 ข้อ ไทยรับไปปฏิบัติ 134 ข้อ เช่น เพิ่มความคุ้มครองแรงงานต่างชาติ การรับรองให้ผู้ถูกดำเนินคดีหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกันคดีอาญาทั่วไป ส่วนที่ไม่รับไปปฏิบัติ 38 ข้อ อาทิ การขอให้แก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ การแก้ไขเรื่องเสรีภาพการแสดงออกให้เท่าเทียมสากล รวมถึงการยกเลิกโทษประหารชีวิต แต่ครั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แนะนำให้รัฐบาล-คสช.รับฟังข้อห่วงใยจากนานาประเทศ คนไทย และนานาประเทศ จะได้คลายความกังวลในเรื่องสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพ ในการแสดงความคิดเห็นเพราะในช่วงนี้เข้าสู่กระบวนการประชามติร่างรัฐธรรมนูญแล้ว อย่างไรก็ตาม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ยืนยันจะไม่ทบทวนนโยบายใดๆเช่นเดียวกับรองหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ของ คสช. ที่ย้ำว่าขณะนี้ประเทศมีปัญหาหลายด้าน ภาครัฐจึงจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหา และ ระมัดระวังไม่ใช้อำนาจเกินขอบเขต อย่างการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ก็เป็นไปเพื่อสร้างความปลอดภัยให้ประชาชน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร ข่าว 7 สี - นายกรัฐมนตรี ยืนยันรัฐบาลไม่ประสงค์ละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในสังคม นายกรัฐมนตรี ชี้แจงประเด็นนี้ระหว่างที่นายสตัฟฟาน แฮร์สเติรม เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรสวีเดน ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ หลังทางสวีเดนห่วงใยเรื่องสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นของประชาชนในการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ โดยนายกรัฐมนตรีบอกจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย เพื่อความสงบเรียบร้อยและความสงบสุขในสังคม รวมถึงวางรากฐานประชาธิปไตยที่ยั่งยืนมีเสถียรภาพ ดังนั้นจึงยึดหลักกฎหมาย และปฏิบัติกับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน เช่นเดียวกับที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ก็ย้ำกับพลเรือเอกเดนนิส แบลร์ ประธานมูลนิธิ Sasakawa Peace สหรัฐอเมริกา ว่ากองทัพไทยสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตย จึงขอให้ช่วยทำความเข้าใจกับสหรัฐถึงสภาพความเป็นจริง และความจำเป็นในการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงเพื่อให้ไทยมีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ขณะที่อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ แสดงความเป็นห่วงประเด็นสิทธิเสรีภาพเช่นกัน โดยแนะรัฐบาล และ คสช.เปิดกว้างให้มีการแสดงความเห็นก่อนการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะนำไปสู่การเลือกตั้งความสงบสุขและประชาธิปไตยในอนาคต ส่วนคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ.วันนี้ชี้แจงสาระสำคัญ ของร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วง เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับสมาชิก สนช.และ สปท.นำไปเผยแพร่กับประชาชน โดยให้ความมั่นใจว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ได้ให้ประชาชนมีสิทธิ มีส่วนร่วมตามระบอบประชาธิปไตยและประเทศชาติได้ประโยชน์อย่างแท้จริง นำไปสู่ความปรองดอง และการปฏิรูปซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ โดยได้พูดถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ถูกนานาชาติโจมตีในขณะนี้ว่า เป็นความต้องการของคนบางกลุ่ม เพื่อบิดเบือนความจริง ให้ประชาชน และ นานาชาติเข้าใจผิด โดยพยายามฝ่าฝืนกฎหมายเพื่อให้ถูกจับกุม นายกรัฐมนตรียังพูดถึงการเตรียมเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญว่า ไม่ได้ห้ามการเผยแพร่เนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญว่าแต่ละมาตรามีความหมายว่าอย่างไร แต่ห้ามไม่ให้มีการชี้นำหรือบิดเบือน เพราะการทำประชามติจะต้องเป็นการตัดสินใจของประชาชนเท่านั้น คณะผู้แทนไทยเตรียมรายงานสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยตามกลไกของ UPR รอบสองต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน-รัสเซียน ในวันที่ 17-19 พฤษภาคมนี้ ซึ่งถือเป็นโอกาสของการสถาปนาความสัมพันธ์อาเซียน-รัสเซีย ครบรอบ 120 ปีด้วย พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีจะมีโอกาสหารือทวิภาคีร่วมกับนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีสหพันธรัฐรัสเซีย เพื่อพูดคุยถึงความร่วมมือด้านความมั่นคง โดยไทยประสงค์ได้รับความมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และต้องการยุทโธปกรณ์ทางทหาร ขณะที่รัสเซียจะรับซื้อพืชผลทางการเกษตรของไทย ขณะที่การนำเสนอรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของไทย รอบที่ 2 ต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติที่เสร็จสิ้นลงไปนั้น นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ย้ำว่าสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย สอดคล้องกับหลักการพื้นฐานและทิศทางนโยบายของไทย พร้อมยืนยันว่าไทยยินดีประกาศสนับสนุน 181 ข้อเสนอแนะ จากทั้งหมด 249 ข้อเสนอแนะ ซึ่งครอบคลุมในประเด็นต่างๆ อาทิ อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ พิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาป้องกันการทรมาน เช่นเดียวกับเฟซบุ๊กของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รายงานผลการประชุมทบทวนสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ที่นครเจนีวา ว่า68 ข้อที่เหลือนั้น ผู้แทนไทยขอเวลาที่จะนำข้อเสนอแนะกลับมาปรึกษาหารือภายในประเทศอีกครั้ง เช่น ขอให้ยกเลิกคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ขัดแย้งกับมาตรฐานสากลด้านสิทธิมนุษยชน, ยุติการควบคุมตัวผู้เห็นต่างในค่ายปรับทัศนคติ, ยุติการตัดสินลงโทษพลเรือนในศาลทหาร, ยกเลิกโทษประหาร, ให้สถานะผู้ลี้ภัยแก่ผู้แสวงหาที่พักพิง เป็นต้น