ไอ้สารเขียวไม่พอใจตำแหน่ง ล่อกันเอง ฟังสดข่าวเมื่อวาน 4ทุ่ม-4ทุ่มครึีง ใครมีเทปย้อนหลังไปหามาได้ ไม่โม้ ศุภฤกษ์ ธงไชยฤทธิ์ (ปู๊ด คอมแบท) นักข่าวสายทหาร ซี้บิ้กตู่ด้วยนะจ๊ะ
หาเทปมาให้ฟังด้วยซิ อยากฟัง แต่ที่แน่ๆตำรวจเค้าจะออกหมายจับแล้วนะ ทีแรกควายแดงดีใจกันยกใหญ่ เมื่อทาง กทม.ออกมาแจ้งว่าไม่มีกล้องวงจรปิดแถวนั้น แต่หารู้ไม่ว่ายังมีกล้องวงจรปิดอีกตัวที่จับเหตุการณ์ไว้ได้ตลอด
มาอีกแล้ว... พวกเอ็งผิด แต่อั๊วไม่มีหลักฐาน เอ็งไปหาหลักฐานมายืนยันความบริสุทธิ์เอง อั๊วเป็นคนกล่าวหาไม่ต้องหาหลักฐาน เข้าใจมั๊ย
แล้ว ไอ้นี่จับได้ยัง ถ้าไม่ใช่พวกกันเองทำ วางบึ้มตู้โทรศัพท์ข้างกองทัพบก ตร.ชุดเก็บกู้ข้อมือขาด! โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 30 กันยายน 2550 23:08 น. มือมืดแอบวางระเบิดในตู้โทรศัพท์สาธารณะข้างกำแพงกองทัพบก ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด 2 นาย เข้าไปตรวจสอบโดนระเบิดใส่เจ็บ อาการสาหัสข้อมือขาดไป 1 นาย เมื่อเวลา 19.30 น.วันนี้ (30 ก.ย.) ร.ต.ท.พิษณุ แจ่มเมือง พนักงานสอบสวน (สบ.1) สน.นางเลิ้ง รับแจ้งมีวัตถุต้องสงสัยที่โทรศัพท์สาธารณะ หัวมุมกำแพงกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ติดกับโรงเรียนแผนที่ทหาร ถนนราชดำเนินนอก แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร จึงประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานเก็บกู้ และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.ตปพ.บช.น.รุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบว่า ภายในตู้โทรศัพท์สาธารณะดังกล่าว มีกล่องกระดาษวางอยู่ 1 ใบ และแกลลอนน้ำมันพลาสติกใสขนาด 5 ลิตร อีก 1 ใบ ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ภายในแกลลอนมียางรถจักรยานยนต์หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และมีกระดาษร่องรอยถูกเผาไหม้อยู่ด้านบนกล่องกระดาษ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด 2 นาย จึงใช้คัตเตอร์กรีดแกลลอนน้ำมันดังกล่าวเพื่อตรวจสอบ และยกกล่องกระดาษดังกล่าวขึ้นตรวจสอบ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังยกกล่องกระดาษขึ้นตรวจสอบนั้น ก็ได้เกิดระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 ได้รับบาดเจ็บ จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลหัวเฉียว รายแรกคือ ส.ต.ท.พิทยาธร สุนทรชื่น มีอาการหูอื้อ ส่วนอีกรายคือ ด.ต.จีรเดช อัตตพงษ์ มีบาดแผลที่บริเวณหน้าอก และข้อมือขวาขาด อาการสาหัส เจ้าหน้าที่ต้องย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 18.00 น.เศษ เจ้าหน้าที่ทหารที่รักษาการณ์อยู่บริเวณด้านหน้ากองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พบเห็นชายคนหนึ่งเข้าไปใช้ตู้โทรศัพท์สาธารณะดังกล่าว หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที ชายคนดังกล่าวได้เดินออกจากตู้โทรศัพท์ไป เจ้าหน้าที่ทหารก็พบกล่องกระดาษ และแกลลอนน้ำมันวางอยู่ในตู้โทรศัพท์ โดยมีควันและประกายไฟพวยพุ่งออกมาจึงรีบเข้ามาทำการดับ จากนั้นก็ภายในแกลลอนมีวัตถุต้องสงสัยจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ ก่อนจะเกิดเหตุระเบิดขึ้นดังกล่าว ต่อมา พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.น.พล.ท.ประยุทธ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ ผบก.น.1 พล.ต.ดาวพงษ์ รัตนสุวรรณ ผบ.พล.ร.1 รุดมาตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมกันไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปใกล้ที่เกิดเหตุดังกล่าว ส่วนความคืบหน้าทีมข่าวอาชญากรรมผู้จัดการออนไลน์ จะรายงานให้ทราบต่อไป
เอาข่าวมาแปะ. แล้วกล่าวหาว่าพวกเดียวกันเองทำ อืม..... มิน่าขึ้นศาลแล้วแพ้คดี. มิน่าปูโดนถอดุอน โง่แต่ขยันโง่แบบนี้นี่เอง หลักฐานไม่มีมีแต่มโน
งั้นผมกล่าวหาพร้อมหลักฐานมั่งนะ ชายชุดดำปี 53 ยิงทหาร เพราะจับได้แล้ว http://www.thaipost.net/news/120914/96087 ตำรวจ-ทหารแถลงจับกุมแก๊ง "ชายชุดดำ" ที่ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มทหารเมื่อปี 2553 จนเป็นเหตุให้ "ร่มเกล้า" เสียชีวิต ผู้ต้องหาสารภาพหมดเปลือก ตั้งแต่นัดวางแผน รับอาวุธ ขึ้นรถตู้เข้าเขตขอคืนพื้นที่ก่อนจะปฏิบัติการชั่ว อ้างไม่ได้เจาะจงฆ่าทหารนายใดเป็นพิเศษ แค่รับคำสั่งให้ไปยิงภายในซอยเท่านั้น "สมยศ" ยันเชื่อมโยงขบวนการเสื้อแดง แต่ "แกนนำ นปช." ดาหน้าออกมาปฏิเสธ "เหวง" สุดแถ! บอก "จับแพะ" เมื่อวันที่ 11 กันยายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ดูแลงานด้านความมั่นคง พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ รอง ผบช.ภ.1, พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารนำโดย พล.ต.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 1, พ.อ.วิจารณ์ จดแตง ผู้อำนวยการกฎหมาย กอ.รมน. หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานกฎหมายส่วนรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุม 1.นายกิตติศักดิ์ หรืออ้วน สุ่มศรี อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 2 ซอยรามอินทรา 36 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. หมายจับศาลอาญา ที่ 1600/2557 ลงวันที่ 10 ก.ย.2557 2.นายปรีชา หรือไก่เตี้ย อยู่เย็น อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 9 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ หมายจับศาลอาญา ที่ 1603/2557 ลงวันที่ 10 ก.ย.2557 3.นายรณฤทธิ์ หรือนะ สุริชา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 3 ซอย ต.กลางใหญ่ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี หมายจับศาลอาญา ที่ 1604/2557 ลงวันที่ 10 ก.ย.2557 4.นายชำนาญ หรือเล็ก ภาคีฉาย อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/126 หมู่ 6 แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ หมายจับศาลอาญา ที่ 1605/2557 ลงวันที่ 10 ก.ย.2557 และ 5.นางปุณิกา หรืออร ชูศรี อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 702/155 ซอยพหลโยธิน 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ หมายจับศาลอาญา ที่ 1606/2557 ลงวันที่ 10 ก.ย.2557 ทั้งนี้ ทั้งหมดเป็นขบวนการชายชุดดำที่ใช้อาวุธสงครามยิงใส่เจ้าหน้าที่ทหารจากเหตุการณ์ความรุนแรงช่วงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อเดือนเมษายน 2553 เป็นเหตุให้ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม อดีตรองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.21 รอ.) เสียชีวิต จากนั้นได้นำผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนกองปราบปรามเพื่อดำเนินคดี พล.ต.อ.สมยศแถลงว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 เวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารได้มีการปฏิบัติการขอคืนพื้นที่จากกลุ่มผู้ชุมนุม โดยเฉพาะบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนตะนาว และบริเวณข้างเคียง โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร เป็นกำลังหลักในการปฏิบัติ ขณะนั้นได้มีกลุ่มคนร้ายแต่งกายเป็นชายชุดดำ ใช้อาวุธสงครามยิงและขว้างระเบิดใส่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารและประชาชนจนเป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ทหารและประชาชนได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตายจำนวนหลายราย รวมทั้ง พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ซึ่งขณะนั้นเป็นรองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.21 รอ.) ได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุในคืนวันดังกล่าวด้วย ตามล่าชุดดำอีก 2 คน พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า สำหรับคดีนี้มีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ 7 คน จับกุมได้แล้ว 5 คน อยู่ระหว่างการหลบหนี 2 คน คือ 1.นายธนเดช เอกอภิวัชร์ หรือ ไก่รถตู้ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 328/22 หมู่ 2 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ หมายจับศาลอาญา ที่ 1601/2557 ลง 10 ก.ย.2557 2.นายวัฒนะโชค หรือโบ้ จีนปุ้ย อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 17 ซอย ต.พุทธบาท อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ หมายจับศาลอาญา ที่ 1602/2557 ลงวันที่ 10 ก.ย.2557 เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาว่า ร่วมกันมีและใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ที่นายทะเบียน ไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ พกพาอาวุธปืนและวัตถุระเบิดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่มีเหตุอันสมควร ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ถนนตะนาวศรีและสี่แยกคอกวัว พล.ต.อ.สมยศกล่าวต่อว่า สำหรับเส้นทางการดำเนินการของกลุ่มคนร้ายมีทั้งหมด 8 คน รวมนายธรรมรัตน์ (ดำ) สุ่มสี ที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ โดยทั้งหมดได้วางแผนและรับมอบอาวุธกันที่คอนโดฯ บ้านริมน้ำ ถนนรามอินทรา 34 จากนั้นทั้งหมดได้อาศัยรถตู้สีขาว เพื่อเดินทางไปที่เกิดเหตุ จากนั้นทั้งหมดได้ขับรถขึ้นทางด่วนรามอินทรามาลงยมราช และจอดรถที่ซอยวัดมหรรพาราม ถ.ตะนาว เมื่อลงจากรถก็เดินไปตามถนนตะนาวมุ่งหน้าไปที่แยกคอกวัว ก่อนถึงแยกคอกวัวได้ผ่านจุดคัดกรอง เจอการ์ดซึ่งมีตำรวจร่วมด้วย แต่ตำรวจจุดนั้นไม่มีอาวุธ ตรงจุดนี้พบว่ากลุ่มคนร้าย 3 คนมีอาวุธไปด้วย การ์ดเข้ามาตรวจถ่ายรูป จากนั้นได้ปล่อยเข้าไปด้วยรหัสผ่าน "พิราบขาว" จากนั้นคนร้ายไปตรงธนาคารออมสิน แล้วเริ่มใช้อาวุธระดมยิงใส่ชุดทหารที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม หลังจากยิงเสร็จได้ถอนย้อนกลับมาที่จุดรถตู้จอด ระหว่างทางนายธรรมรัตน์ซึ่งถืออาวุธปืนเอ็ม 79 มาด้วย ถูกตำรวจล็อกไว้ ยึดปืนเอาไว้ได้ ส่วนคนร้ายที่เหลือถูกกลุ่มผู้ชุมนุมกดดันเจ้าหน้าที่แล้วแย่งตัวไปได้ จากนั้นคนร้ายทั้งหมดได้มารวมตัวกันอีกครั้งที่รถตู้จอดไว้ ขับรถอ้อมไปถนนตะนาว เข้าถนนดินสอ สวนกันเจ้าหน้าที่ทหารที่ใช้รถฮัมวี บริเวณนั้นคนค่อนข้างเยอะ ก็เบียดกัน คนร้ายได้ลดกระจกลงมา หนึ่งในผู้ต้องหาตะโกนด่าทหาร "ไปทำเหี้ยอะไรที่นี่ ทำไมไม่ไปปฏิบัติการที่ภาคใต้" "คำพูดนี้ทำให้ทหารสามารถจำหน้าได้ 1 คนที่อยู่ในรถ หลังจากนั้นกลุ่มคนร้ายก็แยกย้ายหลบหนีกันไปหลายปี ตำรวจทหารก็เฝ้าสืบสวนสอบสวนต่อเรื่องจนมีหลักฐานแน่ชัดขออนุมัติหมายศาลออกหมายจับจนจับกุมได้" พล.ต.อ.สมยศกล่าว เกลียดรัฐบาลจึงก่อเหตุ รอง ผบ.ตร.ดูแลงานด้านความมั่นคงกล่าวว่าสำหรับแรงจูงใจในการก่อเหตุของผู้ต้องหาที่สามารถตัดสินใจก่อเหตุ เชื่อว่ามาจากอุดมการณ์ทางการเมืองและความเกลียดชังรัฐบาลในขณะนั้น รวมถึงค่าจ้างที่ได้รับ จึงทำให้ผู้ต้องหาตัดสินใจกระทำการดังกล่าว คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินการขออนุญาตทางดีเอสไอให้คณะทำงานเข้าร่วมการสอบสวนครั้งนี้ด้วย เพื่อนำคดีดังกล่าวเป็นคดีหลักต่อไป "ผู้ต้องหากลุ่มนี้มีความเชื่อมโยงกับ น.ส.กริชสุดา คุณะแสน หรือเปิ้ล นักกิจกรรมเสื้อแดง ที่ถูกศาลอนุมัติออกหมายจับไปก่อนหน้านี้ ซึ่งกรณีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดหาอาวุธสงครามให้กับผู้ต้องหาคดีใช้อาวุธสงครามยิงใส่สถานที่ต่างๆ ก่อนหน้านี้ โดยพบหลักฐานเป็นสลิปการโอนเงินจำนวนมากให้กับผู้ต้องหาเหล่านี้ในบ้านของ น.ส.กริชสุดา" รอง ผบ.ตร.ระบุ นายปรีชา หรือไก่เตี้ย หนึ่งในผู้ต้องหา ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ได้ถูกชักชวนจากนายธนเดช หรือไก่ รถตู้ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี ให้มาก่อเหตุใช้อาวุธสงครามก่อเหตุในพื้นที่การชุมนุม โดยนายธนเดชไม่ได้กำหนดเป้าหมายว่าให้ยิงใคร เพียงแต่บอกว่าให้ไปยิงในซอย โดยวางแผนกันที่บ้านริมน้ำย่านรามอินทรา ทั้งนี้ พวกตนไม่เคยฝึกฝนการใช้อาวุธมาก่อน เพิ่งไปเรียนรู้ในรถตู้ขณะเดินทางไปก่อเหตุ ขณะที่นายกิตติศักดิ์ หรืออ้วน สุ่มศรี ผู้ต้องหาอีกคน ยอมรับเช่นกันว่า ได้กระทำการดังกล่าวจริงโดยไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ต่างคนต่างมา มารู้จักกันเพราะมาร่วมทำงานนี้ โดยได้เจอกันที่สถานีวิทยุชุมชน เอฟเอ็ม 91.75 ส่วนอาวุธก็ไม่เคยฝึกใช้มาก่อน วันเกิดเหตุก็ไปรับอาวุธที่บ้านริมน้ำ จากนั้นนายธนเดช หรือไก่ รถตู้ ก็ได้สอนการใช้อาวุธว่าทำแบบไหน แล้วก็ตามๆ กันไป โดยไม่ได้เจาะจงว่าให้ยิงใครเป็นการเฉพาะ บอกให้ยิงในซอยนั้นก็ยิง ไม่ได้บอกให้ยิงทหารคนไหนเป็นพิเศษ สำหรับวันเกิดเหตุในวันเกิดเหตุนั้น นายกิตติศักดิ์ใช้อาวุธปืนเอ็ม 79 และระเบิดเอ็มเค-2, นายธรรมรัตน์ ใช้อาวุธเอ็ม 79, นายธนเดชใช้อาวุธปืนเอ็ม 203, นายวัฒนะโชคใช้อาวุธปืนเอเค 47, นายปรีชาใช้อาวุธปืนเอเค 47, นายรณฤทธิ เฝ้ารถไม่มีอาวุธ, นายชำนาญใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ส่วนนางปุณิกาใช้ระเบิดเพลิง เอ็ม 100 พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้สัมภาษณ์ว่า ทางดีเอสไอได้รับคดีฆ่า พล.อ.ร่มเกล้าไว้เป็นคดีพิเศษก่อนหน้านี้แล้ว แต่ในขณะนั้นไม่ทราบว่าชายชุดดำเป็นใคร จึงยังไม่สามารถระบุตัวคนร้ายได้ แต่เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องหาได้ และยอมรับสารภาพเป็นผู้ก่อเหตุจริง ซึ่งคดีนี้มีความเกี่ยวข้องกับดีเอสไอ จึงได้เตรียมติดต่อประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดำเนินคดีอาวุธปืน เนื่องจากคดีมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆ่า พล.อ.ร่มเกล้า ที่บริเวณสี่แยกคอกวัว เพื่อที่จะได้ดำเนินการอายัดตัวผู้ต้องหาต่อไป DSI พร้อมร่วมมือสอบ พล.ต.อ.ชัชวาลย์กล่าวต่อว่า ดีเอสไอจะอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อยื่นเรื่องต่อศาลอาญาขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหามาดำเนินคดีฆ่า พล.อ.ร่มเกล้า อย่างไรก็ตาม ทางดีเอสไอจะส่งพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบในคดีดังกล่าวเข้าไปทำงานร่วมกับตำรวจเพื่อสอบปากคำผู้ต้องหาด้วย หรืออีกแนวทางหนึ่งคือ ประสานให้ทางตำรวจโอนคดีเรื่องอาวุธปืนมายังดีเอสไอ เนื่องจากอาวุธปืนที่คนร้ายใช้นั้นเกี่ยวข้องกับการตายของ พล.อ.ร่มเกล้า ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าการจับกุมขบวนการชายชุดดำที่ใช้อาวุธสงครามยิงใส่ทหารเมื่อเดือนเม.ย.2553 ครั้งนี้ ทั้งหมดมีหมายจับลงวันที่ 10 ก.ย.2557 แต่เว็บไซต์ไทยอีนิวส์โพสต์ข้อความวันที่ 9 ก.ย.2557 ระบุ นายกิตติศักดิ์ สุ่มศรี (อ้วน) ถูกอุ้มหายไปจากสำนักงานพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรอาชีวศึกษา บางเขน ที่เขาทำงานอยู่ โดยไม่มีหมายจับ การ์ดคนเสื้อแดง ที่คอยดูแลความปลอดภัยให้พี่น้องเรา วันนี้ เขาต้องการความช่วยเหลือจากพี่น้องครับ นอกจากนี้ "ฮิวแมนไรต์วอตช์" หรือองค์การด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 9 ก.ย.เช่นกัน เรียกร้องให้ไทยยุติการจับกุมผู้ต้องสงสัยตามอำเภอใจ และหยุดนำผู้ต้องหาไปคุมขังในสถานที่ลับ โดยระบุว่า มีความกังวลใจกรณีที่นายกิตติศักดิ์ สุ่มศรี นักเคลื่อนไหวสนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดง วัย 47 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ทหารจับกุมตัวไปบริเวณภายนอกศูนย์ฝึกครู เขตรามอินทรา กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา "การหายตัวไปของนายกิตติศักดิ์ ชี้ให้เห็นถึงพฤติการณ์ที่ขาดความยับยั้งชั่งใจของทหาร ที่ไม่เคารพสิทธิขั้นพื้นฐานภายใต้กฎอัยการศึก" นายแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการฮิวแมนไรต์วอตช์ประจำภูมิภาคเอเชียกล่าว วันเดียวกัน นางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ภรรยาของ พล.อ.ร่มเกล้า ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ "Nicha Hiranburana Thuvatham" ตอนหนึ่งว่า "ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจและรอคอยติดตามคดีของพี่ร่มเกล้ากับดิฉันมาตลอด ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ซึ่งมีใจบริสุทธิ์ต่อบ้านเมืองในการทำงานค้นหาความจริงเพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมืองต่อไปค่ะ" ไอ้เหวงมีแถตอนท้าย
ใครคือ ศุภฤกษ์ ธงไชยฤทธิ์ ??? แร้วทำไม นายคนนี้บ่องอะไรมา ต้องเชื่อด้วยหรา ?? เกิดนายคนนี้บ่องทักษิณแท้ที่จิง เป็นหมาขี้เรื้อน ไม่ใช่เป็นคน ก็ต้องเชื่อด้วยงั้นหรา ????
ใครจะพูดอะไรตอนนี้ก็ไม่สน รอดูหมายจับอยู่ครับ http://www.krobkruakao.com/ข่าวอาชญากรรม/114656/สตช-เตรียมออกหมายจับมือวางบึ้มพารากอน.html สตช.เตรียมออกหมายจับมือวางบึ้มพารากอน โฆษก สตช.เผยภาพกล้องวงจรปิดชายต้องสงสัย 2 คน วางระเบิดหน้าห้างฯพารากอน เตรียมออกหมายจับวันนี้ พลตำรวจโท ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยวามคืบหน้าเหตุระเบิดบริเวณทางเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สยาม กับ ห้างสรรพสินค้าพารากอน เมื่อช่วงหัวค่ำ วันที่ 1 ก..พ.ที่ผ่านมาว่า ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบรายละเอียดจากกล้องวงจรปิดที่ได้จากพื้นที่รอบที่เกิดเหตุแล้ว เบื้องต้นสามารถจับภาพผู้ต้องสงสัยได้ 2 คน เป็นชาย สูงประมาณ 160-170 เซ็นติเมตร สวมหมวกปกปิดมิดชิด ใส่เสื้อสีขาว กางเกงขายาว และสวมรองเท้าหุ้มส้น นำถุงพลาสติก 2 ถุง ที่คาดว่าจะบรรจุระเบิดไปป์บอร์มที่ใช้ในการก่อเหตุเข้ามาใกล้จุดเกิดเหตุ ตรงช่วงจุดให้บริการประชาชนของสำนักงานเขตปทุมวัน หลังจากนั้นชายต้องสงสัยทั้ง 2 คน ได้แยกกันนำถุงพลาสติกไปวางทิ้งไว้กันคนละจุดที่มีระยะทางไม่ห่างกันมากนัก ซึ่งตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่พบร่องรอยจากเหตุระเบิดทั้ง 2 จุด ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมด ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์ได้ไว้ไม่นานก่อนช่วงเกิดเหตุ ทั้งนี้ พลตำรวจโท ประวุฒิ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนสอบสวนเร่งนำหลักฐานที่ตรวจพบได้ไปเสนอต่อศาล เพื่อขออนุมัติหมายจับบุคคลต้องสงสัยทั้ง 2 คน อย่างเร่งด่วน เพื่อให้สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ที่ก่อเหตุโดยเร็ว เบื้องต้น คาดจะสามารถนำหลักฐานทั้งหมดส่งต่อศาลได้ภายในวันนี้ วันที่ 03 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 09:49:01 น.
ควายแดงแถวหน้าตกอับสุดๆ ถึงกับยอมหน้าด้านไปขุดข่าวเก่าปี ๕๕ มาย้อมแมวหาแดรกหลอกควาย http://www.thairath.co.th/content/287677
รอดูว่าพวกไหน... “จักรทิพย์” ฟันธงจับมือบึ้มพารากอน ตะลุยดงแดง – ย้อนรอยคดีระเบิดมีนบุรี http://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9580000013278
ครับ จากประวัติที่ผ่านมา นักล้างป่าช้ามักเอาข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือข้อมูลที่มีความจริงไม่รอบด้านแต่เลือกเอาด้านที่ตนได้ประโยชน์มาเผยแพร่ในนี้ประจำ. ดังนั้นจึงไม่มีใครวางใจ นักล้างป่าช้าหรอก ไปหาเทปมาซะ
ข่าวเสื้อแดง เด็กเลี้ยงแกะ จริง หรือ ไม่จริง ไม่มีคนเชื่อ สังเกตุจาก เผาเลยพี่น้อง หลอกคนให้ติดคุก ส่วนตัวเอง ได้เป็น รมต. แบบที่เห็นจะๆ มันก็ถังแก๊ส นะ แล้วจะเข้าใจเป็นถังดับเพลิง ตรงใหน โกหก หน้า ด้านๆ มีราคา มั้ย หลอกคนอื่นไม่ได้ ได้แต่หลอกตัวเอง
เลขา ทบ.เรียกคุยนักข่าวสายทหาร ‘ประยุทธ์’ รู้สึกไม่ดีถูกตั้งคำถามรุกไล่ Tue, 2014-05-27 17:20 27 พ.ค.2557 ข่าวสดออนไลน์รายงานว่า บ่ายวันนี้เลขานุการกองทัพบกเชิญตัวสองผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐและบางกอกโพสต์เข้าพบ เพื่อขอความร่วมมือในการตั้งคำถามกับหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พล.ต.พลภัทร วรรณภักตร์ เลขานุการกองทัพบก เชิญตัวศุภฤกษ์ ธงไชยฤทธิ์ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และวาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหารหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ เข้าพบที่ห้องทำงานเพื่อแจ้งข้อความจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้รับทราบพร้อมขอความร่วมมือกรณีการตั้งคำถามกับพล.อ.ประยุทธ์ โดยเฉพาะหลังการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ รู้สึกไม่ดีต่อการที่ต้องถูกตั้งคำถามในลักษณะรุกไล่จนทำให้กระทบความเชื่อมั่นในตัวผู้นำประเทศ “พล.อ.ประยุทธ์ได้ฝากมาบอกว่าวันนี้ ท่านไม่ได้เป็นแค่ ผบ.ทบ.เท่านั้นแต่เป็นถึงผู้นำในการบริหารประเทศ ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและบริหาร ดังนั้นการจะตอบคำถามอะไรออกไปสู่สาธารณะจำเป็นต้องใคร่ครวญอย่างดี และขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาในการตอบคำถามเหล่านั้นโดยเฉพาะการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ซึ่งการถามในลักษณะจี้ถามเช่นนั้นไม่เหมาะสม ฉะนั้นจึงขอความร่วมมืออย่าถามในลักษณะการรุกไล่อีก” เลขานุการ ทบ.กล่าว ข่าวสดออนไลน์รายงานด้วยว่า ทางกองทัพบกขอความร่วมมือ ผู้สื่อข่าวสายทหารหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ตั้งระบบป้องกันไม่ให้บุคคลเข้ามาแสดงความคิดเห็น เนื่องจากทำให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่ง น.ส.วาสนา ชี้แจงว่าไม่อาจปิดการแสดงความคิดเห็นได้เนื่องจากมีเพื่อนเป็นจำนวนมาก ส่วนผู้ติดตามที่เข้ามาแสดงความเห็นนั้นได้ปิดไปแล้ว ทั้งนี้บุคคลที่เป็นเพื่อนมีทั้งสองสี และมักเข้ามาแสดงความคิดเห็นและทะเลาะกันเอง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้ออกประกาศในขอร้องไปในเฟสบุ๊กแล้ว
ศุภฤกษ์ ธงไชยฤทธิ์ (ปู๊ด คอมแบท) นักข่าวสายทหาร ก็จ้อไปเรื่อยในรายการ จริงก็บอกเห็นไหม เท็จก็บอกพูดแย่เล่น ในรายการก็ไม่รู้นายปู๊ดจะพูดไป หัวเราะไป อะไรกันนักหนา มุกตลกก็แข็งๆแบบทหาร แต่เอ๋...ช่อง101นี้ มันช่องเชือดควาย ไม่ใช่เหรอ นักจัดรายการทุกช่วงเวลาของคลื่นนี้ เคาะกะโหลกควายทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นช่วง ซ่อมรถ ดูดวง ปรึกษาหมอ ไม่ต้องพูดถึงช่วงการเมือง นายจั๊ด อย่างนี้ สว สมชาย แสวงกาญจน์อย่างนี้ เสาร์อาทิตย์ก็ ก็ท่านขุนน้อยแห่งไทยโพสต์ นักฆ่าควายตัวพ่อ...