ด่วน! ศาลฎีกาตัดสินประหารชีวิต-จำคุกตลอดชีวิตแกนนำเสื้อแดงอุบลฯ คดีเผาศาลากลาง ศาลจังหวัดอุบลราชธานี ออกนั่งบัลลังก์แบบองค์คณะ อ่านคำพิพากษาศาลฏีกาตัดสินคดีสมาชิกเสื้อแดงร่วมเผาศาลากลางจังหวัด โดยตัดสินประหารชีวิตแกนนำเสื้อแดง จำคุกตลอดชีวิต 1 คน จำคุก 33 ปี 4 เดือน 6 คน เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ศาลจังหวัดอุบลราชธานี นายพิเชษฐ์ ทาบุตดา แกนนำกลุ่มชักธงรบ เสื้อแดงจังหวัดอุบลราชธานี จำเลยที่ 1 พร้อมด้วยจำเลยที่ 2.นางอรอนงค์ บรรพชาติ จำเลยที่ 3.นางสุมาลี ศรีจินดา จำเลยที่ 4.นายประสิทธิ์ บุญสุข จำเลยที่ 5.นางสาวปัทมา มูลมิล จำเลยที่ 6.นายลิขิต สุทธิพันธ์ จำเลยที่ 9.นายธีรวิฒน์ สัจสุวรรณ จำเลยที่11. นายชัชวาล ศรีจันดา จำเลยที่ 12.นายสนอง เกตุสุวรรณ์ จำเลยที่16.จ่าสิบเอกสมจิตร สุทธิพันธ์ จำเลยที่ 17.นายสมศักดิ์ ประสานทรัพย์ จำเลยที่18.นายไชยยา ดีแสง และจำเลยที่ 19.นายพิสิทธิ์ บุตรอำคา รวม 13 คน เดินทางมารับฟังฎีกา หนังสือที่ อ.1496/58 เลขแดงที่ 2321/54 ตามการส่งฟ้องของอัยการจังหวัดอุบลราชธานี กรณีตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย ความผิดต่อเจ้าพนักงาน ความผิดเกี่ยวกับความสงบสุขของประชาชน ความผิดเกี่ยวกับการก่อให้เกิดภยันตราย ซึ่งเป็นจำเลยในการก่อเหตุวางเพลิงเผาศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี มูลค่าความเสียหาย 92, 261,155.90 บาท เมื่อ 19 พ.ค.53 ที่ผ่านมา นางตุลยา พันธุ์ขะวงศ์ ด่านพัฒนามงคล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดอุบลราชธานี เป็นผู้นั่งบัลลังก์ที่ 13 พิจารณาคดี โดยศาลได้อ่านคำตัดสินคดีดังนี้ นายพิเชษฐ์ ทาบุตดา แกนนำกลุ่มชักธงรบ เสื้อแดงจังหวัดอุบลราชธานี จำเลยที่ 1 ศาลตัดสินประหารชีวิตแต่ลดโทษให้เหลือจำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 2.นางอรอนงค์ บรรพชาติ ศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิตลดโทษ 1 ใน 3 คงเหลือจำคุก 33 ปี 4 เดือน จำเลยที่ 3.นางสุมาลี ศรีจินดา ศาลตัดสินจำคุก 2 ปี จำเลยที่ 4.นายประดิษฐ์ บุญสุข ศาลตัดสินจำคุก 2 ปี จำเลยที่ 5.นางสาวปัทมา มูลมิล ศาลตัดสินจำคุก 33 ปี 4 เดือน จำเลยที่ 6.นายลิขิต สุทธิพันธ์ ศาลตัดสินจำคุก 33 ปี 4 เดือน จำเลยที่ 9.นายธีรวัฒน์ สัจสุวรรณ ศาลตัดสินจำคุก 33 ปี 4 เดือน จำเลยที่11. นายชัชวาล ศรีจันดา ศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 12.นายสนอง เกตุสุวรรณ์ ศาลตัดสินจำคุก 33 ปี 4 เดือน จำเลยที่16.จ่าสิบเอกสมจิตร สุทธิพันธ์ ศาลตัดสินจำคุก 1 ปี จำเลยที่ 17.นายสมศักดิ์ ประสานทรัพย์ ศาลตัดสินจำคุก 33 ปี 4 เดือน จำเลยที่18.นายไชยยา ดีแสง ศาลตัดสินจำคุก 2 ปีและจำเลยที่ 19.นายพิสิทธิ์ บุตรอำคา ศาลตัดสินจำคุก 2 ปี หลังศาลอ่านคำพิพากษา เจ้าหน้าที่เรือนจำได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดลงจากบัลลังก์ นำตัวกลับเข้าไปควบคุมไว้ที่เรือนจำกลางอุบลราชธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำพิพากษาให้จำคุกจำเลยตลอดชีวิตของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์และศาลฏีกา มี 4 ราย คือ น.ส.ปัทมา มูลมิล นายธีรวัฒน์ สัจสุวรรณ นายสนอง เกตุสุวรรณ นายสมศักดิ์ ประสานทรัพย์ ลดโทษ เหลือ 33 ปี 4 เดือน สำหรับศาลฏีกาได้มีคำตัดสินเพิ่มโทษนายพิเชษฐ์ ทาบุตดา ศาลตัดสินประหารชีวิตแต่ลดโทษให้เหลือจำคุกตลอดชีวิต (จากเดิมให้จำคุกเป็นเวลา 1 ปี )นางอรอนงค์ บรรพชาติ ศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิตลดโทษ 1 ใน 3 คงเหลือจำคุก 33 ปี 4 เดือน (จากเดิมจำคุก 8 เดือน) นายลิขิต สุทธิพันธ์ ศาลตัดสินจำคุก 33 ปี 4 เดือน(จากเดิมยกฟ้อง) นายชัชวาล ศรีจันดา ศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิต (จากเดิมยกฟ้อง) ขอบคุณที่มา http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1450165454 สถานีต่อไป ขอพระราชทานอภัยโทษ ผู้โดยสารที่ต้องการออกจากคุกสามารถเปลี่ยนเส้นทางได้ที่สถานีนี้ค่ะ
แปลกน่ะ! ที่นี่ถึงฎีกาแล้ว แต่บางที่เพิ่งจะเสร็จชั้นต้น โดยเฉพาะบุคคลที่เป็นแรงจูงใจทั้งหลาย ยังสุขสบายดีทุกคน แถมยังแหกปากชั่วๆอยู่ได้ทุกวัน
สู้เพื่อเทพเจ้า ทำตามคำสั่งเทพเจ้าที่โฟนอินปลุกระดม **ตัวเองติดคุก **เทพเจ้า อยู่ต่างประเทศ บินไปโน่นนี่ด้วยเครื่องเจ๊ตส่วนตัว อยากรู้ว่าเทพเจ้าจะ ส่งเงินช่วยเหลือครอบครัวคนเหล่านี้บ้างป่าว
ผมสงสัยจริงๆ การที่ทำให้ทรัพย์สินวัตถุสิ่งของ ของทางราชการเสียหาย จากการเผา ทำไมโทษถึงรุนแรงมากมายขนาดนี้ครับ
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218 บัญญัติว่า ผู้ใดวางเพลิงเผาทรัพย์ดังต่อไปนี้ (1) โรงเรือน เรือ หรือแพที่คนอยู่อาศัย (2) โรงเรือน เรือ หรือแพอันเป็นที่เก็บหรือที่ทำสินค้า (3) โรงมหรสพหรือสถานที่ประชุม (4) โรงเรือนอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เป็นสาธารณสถาน หรือเป็นที่สำหรับประกอบพิธีกรรมตามศาสนา (5) สถานีรถไฟ ท่าอากาศยานหรือที่จอดรถหรือเรือสาธารณะ (6) เรือกลไฟ หรือเรือยนต์ อันมีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป อากาศยาน หรือรถไฟที่ใช้ในการขนส่งสาธารณะ ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี ไม่ชอบอ่านหนังสือก็แบบนี้แหละ
ลองให้ใครเผาบ้านให้วอดทั้งหลังดูครัช รู้สึกยังไงก็มาโพสต์บอกครัช อยากลงโทษคนเผายังไงก็บอกด้วยครัช อย่ามาตอบตอนบ้านตัวเองยังไม่ลองโดนเผาจริงๆนะ มันไม่ได้ความรู้สึกอ่ะ
ไงละครับ ไม่ต้องมาตีหน้าเซ่อ ปัญญาอ่อนเลย บอกหน่อยซิว่าพวกทักกี้กับแกนนำจะช่วยพวกนี้ยังไง แล้วคุณเองเคยคิดจะช่วยพวกเขาหรือเปล่า จะตอบหรือจะหนี
แล้วคุณละครับ มีความเป็นมนุษย์หรือเปล่า โกหกใส่ร้ายคนอื่น ถามว่าจะช่วยพวกที่ติดคุกยังไงก็เฉย เป็นพวกเดียวกันหรือเปล่าหรือแค่ยืมชื่อเขามาด่าชาวบ้าน อย่ามาทำตัวสูงส่งเลย อยากจะอ้วก
ดีเจต้อย พิเชษฐ์ ทาบุตดา หลังจากเหตุการณ์เผาเมืองท่าทีแกเหมือนลดลง ไม่ว่าดอดไปขอขมาสมณฟ้าไทย ในปี 2555 รู้สึกว่าท่าทีดุดันแกลดไปเยอะ แม้แต่ช่วงชุมนุม กปปส แดงอุบล ก็ไม่เคลื่อนไหวออกนอกพื้นที่ หลัง คสช ยึดอำนาจสั่งให้แกหยุดเคลื่อนไหวแกก็หยุด ท่าทีไม่เหมือนแกนนำแดงปทุมอย่างโกตี๋ที่ต้องหนี ออกไปอยู่นอกประเทศ
ผมคิดว่ามันแสดงให้เห็นถึงความอ่อนด้อยในสติปัญญาของแกนนำเสื้อแดง ทั้งในเรื่องความรู้ การประเมินสถานการณ์ ตลอดจนกลยุทธ์ในการต่อสู้ช่วงปี 52-53 นำคนสนับสนุนต่อสู้จนตายไปหลายสิบคน ถูกขังคุกอีกหลายสิบ ถ้าชนะก็ยังถือว่าคุ้มค่า แต่นี่แพ้มาตลอด ,เป็นญี่ปุ่นแม่ทัพฮาราคีรีไปแล้ว ของไทยอย่างน้อยต้องลาออกพร้อมกราบขอขมาเสื้อแดงทั้งหลาย(เจตนาพาคนไปตายของจริง) แต่นี่ยังลอยหน้าลอยตาหน้าด้านเป็นแกนนำอยู่(คงต้องหาเงิน) แต่ที่ไม่เข้าใจคือเสื้อแดงส่วนใหญ่ยังให้การสนับสนุน เลยไม่รู่ว่าใครโง่กว่าใคร
"ณัฐวุฒิ" พร้อมแกนนำนปช. เดินทางเยี่ยมมือ ผู้ต้องหามือเผาศาลากลางอุบล -เผยมาครั้งนี้เพื่อให้กำลังใจกัน รับปากจะไม่ทอดทิ้ง ย้ำ ใครโดนโทษหนัก พร้อมลุยยื่นพระราชทานอภัยโทษแทน หลังจากเข็นนิรโทษไม่สำเร็จ วันนี้ ( 18 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. ที่เรือนจำกลางอุบลราชธานี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พร้อมด้วยน.พ.เหวง โตจิราการ นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)เดินทางมาเยี่ยมผู้ต้องหาเผาศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีที่ถูกศาลฎีกาพิพากษาตัดสินให้ นายพิเชษฐ์ ทาบุดดา หรือดีเจต้อย แกนนำกลุ่มชักธงรบ จำคุกตลอดชีวิต พร้อมพวกประกอบด้วย นางอรอนงค์ บรรพชาติ จำเลยที่ 2 จำคุกตลอดชีวิต ลดเหลือ 33 ปี 4 เดือน นางสาวปัทมา มูลนิล จำเลยที่ 5 จำคุกตลอดชีวิต ลดเหลือ 33 ปี 4 เดือน นายลิขิต สุทธิพันธ์ จำเลยที่ 7 จำคุกตลอดชีวิต ลดเหลือ 33 ปี 4 เดือน นายธีรวัฒน์ สัจสุวรรณ จำคุกตลอดชีวิต ลดเหลือ 33 ปี 4 เดือน นายชัชวาลย์ ศรีจันดา จำคุกตลอดชีวิต นายสนอง เกตุสุวรรณ จำเลยที่ 12 จำคุกตลอดชีวิต เหลือ 33 ปี 4 เดือน นายสมศักดิ์ ประสานทรัพย์ จำคุกตลอดชีวิต ลดเหลือ 33 ปี 4 เดือน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีโทษหนักมากที่สุด โดยมีทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูความเรียบร้อย โดยการเยี่ยมเยียนครั้งนี้ มีเพียงแกนนำ นปช.และญาติผู้ต้องหาที่เดินทางมาเยี่ยม ไม่มีกลุ่มคนเสื้อแดงมาแต่อย่างใด ภายหลังจากเข้าเยี่ยมผู้ต้องหา นายณัฐวุฒิ กล่าวว่าเมื่อศาลฎีกาพิพากษาก็ถือเป็นที่ยุติในกระบวนการยุติธรรม จึงเดินทางมาเยี่ยมพี่น้องเหล่านี้ เป็นการมาให้กำลังใจกัน ซึ่งจากการพูดคุยทุกคนมีกำลังใจดีและรับปากว่าจะดูแลไม่ทอดทิ้งกัน ซึ่งกลุ่มที่มีโทษหนักก็เตรียมทำเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งก็หวังว่าพี่น้องเราจะไม่ได้อยู่ในเรือนจำยาวนานตามที่ปรากฏ มีเรื่องเสียดายมากมายในการพยายามขอนิรโทษกรรมให้กับประชาชนที่ไม่ใช่การนิรโทษกรรมให้กับแกนนำ แต่ก็ไม่สำเร็จ แม้เวลานี้ก็ยังพยายามอยู่ อย่างไรก็ตาม แม้โทษหนักกว่านี้ก็มีการขอนิรโทษกรรม และขอพระราชทานอภัยโทษต่างกรรมต่างวาระกันหลายครั้งมาแล้ว ต.ต.ล (เต้นตอแหล) อีกแล้ว เรื่องนิรโทษกรรม ก็พวกมรึง ลักหลับ เหมาเข่งเองนี่หว่า แล้วมาบอกว่า พยายาม ถ้าเต้นบอกว่า เผาเลยครับ ผมรับผิดชอบเอง เต้นก็ควรเข้าไปติดคุกแทนคนเสื้อแดงครับ
เหมือนกับว่า ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ ยังไม่น่ามีประโยชน์นะครับ เต้นทำไมไม่เอาเงินใส่ซอง ให้ญาติเข้าบ้าง น่าจะมีเงินสด เก็บไว้ หลายร้อยล้าน
ถ้าเต้นจะรับผิดชอบ เต้นต้องมอบตัวและบอกกับศาลว่า ผมเป็นคนยุแหย่ปลุกระดมเองครับ ผมและแกนนำทั้งหมดขอรับผิดชอบเหตุการณ์ทั้งหมด
ไม่เห็นความสลดความสงสารเห็นใจในแววตา และสีหน้า เห็นแต่ประมาณทำไมกรูต้องมายืนกอดอย่างนี้ว่ะ อยากกลับบ้าน กินไวน์ ประมาณนี้ ยิ่งเหวงกะนกแสกนี่ 555 กรูมาเที่ยวชัดๆ