จากบทความ /ข้อเสนอแนะของท่าน 'ทนายหัวใส'... ๐๐๐ ๐๐๐ ๐๐๐ http://chaoprayanews.com/blog/socialtalk/2016/06/21/ทนายหัวใส-แนะลุงตู่จัดต/ ๐๐๐ ๐๐๐ ๐๐๐ เหอๆๆ…ผมว่าไม่เลวน่ะครับ... เพราะเจตนา ของคนนุ่งขาวห่มขาวที่เข้าไปในนั้น ล้วนป้องกัน ไม่ให้มีการจับหรือคุมตัว สมีโย ผู้ต้องหาหนีหมายจับ มันชัดเจนอยู่แล้ว......มีที่ไหน นั่งสมาธิกลางแดด กลางฝน กลางถนน ขวางทาง เข้า-ออก... ที่ต้องเกณฑ์หรือชวนกันไปเป็นล้านๆ เพื่อจะเป็นข้ออ้างว่า ที่นั่งไม่พอ จะได้นั่งกันกลางถนน กันเจ้าหน้าที่เข้าไปได้ แทนการใช้เครื่องไม้ เครื่องมือ ซึ่ง 'มันผิด กม. ชัดเกินไป'... แต่เชื่อว่ายังไงๆ ก็ต้อง "คุกๆๆ" กันอยู่แล้ว... หรือเพื่อนๆ ว่าไง, มีวิธีการอื่นใดหรือไม่ ลองๆ ช่วยกันออก คคห.ครับ...
ถ้าบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย. ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้... ***** ***** ***** ***** ***** ***** และ แบบนี้... ***** ***** ***** ***** ***** *****
+++++ +++++ +++++ ศูนย์ปราบโกงกับการปฏิบัติธรรมที่วัดธรรมกาย ต้องดูที่เจตนา Posted by popladda กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา หมายความว่าการจะถือว่าผู้ใดมีเจตนากระทำการใดนั้น จะดูแต่เฉพาะชื่อที่เขาตั้งหรือ คำที่เขาบอกนั้นไม่ได้ เช่น เขาตั้งชื่อว่าเป็นศูนย์ปราบโกงก็ดีหรือเขาบอกว่ามานั่งสมาธิปฏิบัติธรรมก็ดี เราก็ต้องดูพฤติกรรมของเขาว่าคนตั้งศูนย์ปราบโกงเป็นใคร และปรกติพวกเขามีพฤติกรรมอย่างไร คสช.มีประกาศห้ามชุมนุมทางการเมือง ถ้าหากใครอยากชุมนุมทางการเมืองหรือจะหาเหตุก่อกวนใดใดก็ตาม เพียงแค่ใช้เล่ห์เหลี่ยมตื้นๆ บอกว่าจะตั้งศูนย์ปราบโกง ก็ได้อย่างนั้นหรือ ถ้าปล่อยให้เล่นกันง่ายๆอย่างนั้นมันก็หมูเกินไปล่ะครับ ต้องดูที่กรรมหรือการกระทำของพวกเขาด้วยครับ เรื่องที่วัดธรรมกายก็เช่นกัน คนที่เคยเข้าไปปฏิบัติธรรมในวัดธรรมกายนั้น ปรกติก็ไม่เป็นความผิดอะไร แต่ในกรณีที่ เจ้าพนักงานตำรวจหรือดีเอสไอ เขาจะเข้าไปปฏิบัติการตามหมายค้นหมายจับของศาล วิญญูชนพึงแยกแยะได้ว่า กาลเทศะในการนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมควรเป็นอย่างไร ท่านที่เข้าไปทำอะไรอยู่ที่นั่น ท่านก็คงรู้ตัวดีว่าท่านทำเพื่ออะไร มีพฤติกรรมบางอย่างเช่น การเอาหน้ากากปิดหน้านั่งพนมมือบนรถขวางทางเจ้าหน้าที่ ที่จะเข้าไปปฏิบัติการตามหมายค้นหมายจับของศาลถ้าทำให้เจ้าหน้าที่เขาติดขัดเข้าไปจับกุมผู้ต้องหาไม่ได้ พฤติกรรมอย่างนั้นมันไม่ใช่การมานั่งสมาธิปฏิบัติธรรม แต่เป็นการขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ และเป็นการช่วยเหลือผู้ต้องหามิให้ถูกจับกุม การที่มีผู้ปลุกระดมให้คนมาปฏิบัติธรรมแผ่เมตตากันให้มากๆ เพื่อจะช่วยหลวงพ่อ ผมว่าถ้าท่านเชื่อว่าการปฏิบัติธรรมแผ่เมตตาภาวนาส่งกระแสจิตอย่างไรก็แล้วแต่ จะช่วยหลวงพ่อได้ ท่านทำอยู่กับบ้านเถอะครับ ถ้าช่วยได้จริงทำอยู่กับบ้านมันก็ช่วยได้ ถ้าออกมาปฏิบัติธรรมที่วัดในลักษณะที่มีเจตนาขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ และช่วยเหลือผู้ต้องหามิให้ถูกจับกุม ท่านก็จะมีความผิด อาจต้องติดคุกก่อนหลวงพ่อเสียอีก เพราะหลวงพ่อถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดแต่ถ้าท่านต่อสู้คดีแล้วท้ายที่สุดเกิดศาลยกฟ้อง ท่านก็ไม่ผิด แต่คนที่ไปช่วยไม่ให้ท่านถูกจับกุมในขณะที่ท่านเป็นผู้ต้องหา ยังจะต้องมีความผิดอยู่ ผมเป็นห่วงเพราะเคยเห็นตัวอย่างที่คนไปเผาศาลากลาง ตอนนั้นก็มีการปลุกระดมยุยงกันให้ไปเผา เผาเสร็จแล้วคนเผาก็ถูกจับติดคุก คนที่ปลุกระดมยุยงให้เขาไปเผาก็เอาตัวรอดไป ช่วยอะไรไม่ได้ ตัวอย่างมีมาแล้วคิดให้ดีก่อนนะครับ อย่าฟังแต่เสียงเจ้าสัว ฟังเสียงนกเสียงกาอย่างผมบ้าง ผมเป็นทนายความเคยเห็นเหตุการณ์ตอนศาลอ่านคำพิพากษามาแล้วหลายคดี เวลาศาลพิพากษาให้จำคุก เห็นจำเลยร้องไห้กันโฮๆน่าสงสารครับ เลยต้องมาเขียนเตือนกันไว้บ้าง เดี๋ยวจะหาว่าหล่อไม่เตือน http://www.oknation.net/blog/lamjuan/2016/06/19/entry-1 +++++ +++++ +++++ แค่เตือนเฉยๆ หรือ เตือนอย่างเดียว น่าจะเหมือนกับการ สีซอ อ่ะครับ... มันคงไปช่วยปลด แอก หรือ ตะพายที่สนไว้ ไม่ได้หรอก … หรือเพื่อนๆ ว่าไง?