แล้วรู้ได้ไงล่ะครับว่าเค้าไม่มีความสุข หรือต้องเคลิบเคลิ้มฝันถึงสวรรค์ ใช้ชีวิตอยู่ในจินตนาการ แต่ก็เอาเถอะ ขอให้มีความสุขมากๆ Happy New World
ศีล 5 ศีล8 นั่งสมาธิ สวดมนต์ ไหว้พระ ไม่หาเรื่องว่าร้ายใคร ไม่เบียดเบียนใคร มีความสุขดี ดีกว่าไม่ทำอะไรสักอย่าง แล้วมานั่งว่าคนอื่น
ไม่ได้ว่าใครเล้ย ก็แค่เอาจุดหลักของธรรมกาย ที่คนอื่นเค้าคิดว่าบิดเบือนเป็นปัญหาขึ้นมาเท่านั้นเอง ขายบุญน่ะครับ มีเศรษฐีเงินผ่อนด้วยนา ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรน่ะถ้าไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน บางคนซื้อกระเป๋าแพงกว่านี้ก็มี ถึงจุดนี้ก็ต้องพิสูจน์กันว่ารู้เห็นกับการโกงอย่างมโหฬารหรือไม่ เป็นคนรู้จัก นำเงินที่ไม่ใช่ของส่วนตัวมาให้แบบเจาะจงตัวบุคคล จำนวนมากหลายครั้ง คิดไม่ได้หรือครับว่าผิดปกติ อย่าบอกน่ะครับว่าคืนแล้ว มันคนล่ะเรื่องกัน
อย่ามือถือสาก ปากถือศีล เป็นใช้ได้ครับ มีปัญหาสังคม แล้วไม่เตือนไม่ว่ากัน ไม่เอาผิด เท่ากับว่านิ่งดูดาย
ศีลห้าเหรอ กล้าเนอะ ไปสอนแก๊งค์สมีไชยบูลย์ดีกว่า โกหกนั้นตกนรก แถมขาเน่า ว่าแต่สวดมนต์กลางสายฝนปกป้องสมีหรือยังคร๊าบบบ สมีบอกได้บุญนะ
ตลกครับ งั้นข่าววางยามาจากไหน ก็แปลว่าต้องมีคนบอก ใครละครับบอก ไม่ต้องห่วงผมมีหลายคำถามมากมายกับเรื่องนี้
สกรณ์เครดิตยูเนี่ยนใครเป็นคนตั้ง ตั้งแล้วเงินไปใหนใครได้ผลประโยชน์ ความจริงแล้วเงินทุกบาททุกสตางค์ยังอยู่ครบดีหรือเปล่า เงินสกกรณ์เป็นหมื้่นล้านทำไมจัดการไม่ได้ลูกค้าก็แค่ฝากถอนขอรับดอกเบี้ยตามปกติเหมือนทุกปีที่ผ่านมาปีนี้ทำไมมีปัญหาจนถึงขั้นฟ้องร้องกัน หวังว่าคงไม่ได้เอาเงินไปสร้างเวิร์ดพีซหมดแล้วนะ
DSIลุย!ออกหมายเรียก"เครือข่ายธรรมกาย"เพิ่ม3คดี "สัมพันธ์ เสริมชีพ"ทนายวัดโดนด้วย http://deeps.tnews.co.th/contents/194285/ "ดีเอสไอ.-อัยการ" มีมติให้ออกหมายเรียก "เครือข่ายธรรมกาย" คดีฟอกเงิน เข้ารับทราบข้อกล่าวหา เพิ่มเติมอีก 3 คดี โดยมี "สัมพันธ์ เสริมชีพ" ทนายความ วัดธรรมกาย ติดร่างแหด้วย วันนี้ (1 ก.ค.) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีฟอกเงินที่สืบเนื่องจากคดียักยอก ฉ้อโกงสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอได้ประชุมร่วมกับพนักงานอัยการ สำนักการสอบสวน โดยที่ประชุมมีความเห็นให้ออกหมายเรียก ผู้เกี่ยวข้อง กับ คดีฟอกเงินอีก 3 คดีเข้ารับทราบข้อกล่าวหาสัปดาห์หน้า ซึ่งในชั้นนี้การสอบสวนยังไม่สิ้นสุด ผู้ถูกออกหมายเรียกสามารถนำพยานหลักฐานเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงแก้ข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนได้ โดยพนักงานสอบสวนจะนำหลักฐานไปประกอบการพิจารณาทำความเห็นในคดีอีกครั้งว่า จะสั่งฟ้องหรือไม่ ทั้งนี้ คาดว่าหลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้วจะสามารถสรุปสำนวนแล้วเสร็จภายในเดือนก.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม หากผู้ถูกออกหมายเรียกไม่เข้ารับทราบข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนจะพิจารณาออกหมายเรียกซ้ำ หากยังไม่เข้าพบพนักงานสอบสวนอีกจึงจะขอศาลอนุมัติหมายจับเพื่อนำตัวมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป สำหรับคดีฟอกเงิน 3 คดี ที่มีความเห็นให้เรียกผู้เกี่ยวข้องเข้ารับทราบข้อกล่าวหาประกอบด้วย 1.กรณีที่มีการนำเงิน จาก สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นไปตั้งบริษัท เอส ดับบลิว โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เรียกแจ้งข้อหา 3 คน ประกอบด้วย นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์คลองจั่นฯ น.ส.ศรันยา มานหมัด อดีตรองผู้จัดการฝ่ายการเงิน สหกรณ์คลองจั่นฯ และ นายสถาพร วัฒนาศิรินุกุล เจ้าของบริษัท เอส ดับบลิว โฮลดิ้งส์ฯ อดีตพระวัดธรรมกาย 2.กรณีที่พบว่านายศุภชัย นำเงินจากสหกรณ์ไปให้นายสถาพรซื้อที่ดิน โดยถือครองในชื่อบริษัท เอส ดับบลิว โฮลดิ้งฯ ต่อมาพบมีการขายที่ดินดังกล่าว แต่เงินทั้งหมดกลับไปที่นายศุภชัย มูลค่าประมาณ 250 ล้านบาท 3.กรณีนายศุภชัย นำเงินจากสหกรณ์ไปซื้อหุ้นของบริษัท เอ็ม โฮม เอส พี วี 2 จำกัด มีผู้เกี่ยวข้อง 8-9 คน โดยเฉพาะกลุ่มกรรมการบริหาร ในจำนวนนี้รวมถึงนายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความของวัดพระธรรมกายที่มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นแทนนายศุภชัยด้วย แล้วก้อทนายฯ ต่อไป คือ ??????
หนูเตอร์ ลุงตู่ก็พยายามเดินหน้าทำความดีแล้วนะ สาธุสิ รออะไรอยู่ "ประยุทธ์" แย้มใช้ "ม.44" ฝ่าโล่มนุษย์ล่า "ธัมมชโย" - เล็งขึ้นชื่อประจานพวกหนีคดีไปนอกแล้วด่าไทย “ที่บอกว่าจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก็ต่อเมื่อประเทศชาติมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เอ๊ะทำได้เหรอ ไม่น่าทำได้นะ วันนี้ผิดก็ต้องลงโทษวันนี้ กระบวนการยุติธรรมมีอยู่แล้ว เพียงแค่นำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ให้ท่านต่อสู้คดี เราอาจจะต้องใช้มาตรา 44 ในการควบคุมตัวเข้าจับกุม เพราะกฎหมายปกติไม่ค่อยเอื้อ แต่เข้าไปจับกุมดำเนินคดีก็ใช้วิธีการอันละมุนละม่อม ไม่เคยต้องไปทำร้าย ไปทุบตีอะไรต่างๆ ไปทรมาน ไม่เคยทำซักอย่าง เพียงนำพามา และสอบสวนให้สู้คดีเท่านั้น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว อ่านข่าวเต็มได้จากลิ้งค์นะครับ
อ้าว ลอยตัวอยู่เหนือปัญหาซะแล้ว ภารัชวี ภูมิภากร ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 2 ภาพ 18 นาที · ตัวลอยลอยตัว???..มหาเถรเตะโด่ง"ธัมมชโย"ไปให้เจ้าคณะ จน"พุทธะอิสระ"ต้องออกมาแฉเรื่องนี้อีกครั้ง!!! และแล้วมหาเถรก็ลอยตัว ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๙ วันพฤหัสบดีที่ ๓๐ มิ.ย. ๕๙ เวลา ๑๔.๐๐ น. ที่ผ่านมา มีการประชุมมหาเถรสมาคม โดยสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม ได้นำเรื่องของธัมมชโยเข้าสู่ที่ประชุมมหาเถรให้พิจารณาหารือ ที่ประชุมมหาเถรมีความเห็นว่ากรณีคดีของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โดยมีธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ฟอกเงิน รับของโจรนั้น ทางมหาเถรสมาคมมีความเห็นว่า “เป็นเรื่องส่วนบุคคล” ไม่ใช่เรื่องของวัดนะจ๊ะ ดังนั้นจึงให้ปฏิบัติตามมติมส.ที่ ๖๕/๒๕๔๔ ให้คดีความต่างๆ ของภิกษุสงฆ์ อยู่ภายในอำนาจหน้าที่ของเจ้าคณะปกครองตามลำดับชั้น นับตั้งแต่เจ้าคณะหน เจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล และเจ้าอาวาส และให้ทุกคดียุติแค่เจ้าคณะหน เพราะเช่นนี้แหละ พุทธะอิสระจึงไปยื่นหนังสือให้เจ้าคณะภาค เจ้าคณะหนปลดเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีออกจากตำแหน่งเหตุเพราะไม่ทำหน้าที่อย่างซื่อตรง ถือว่าชอบด้วยพระธรรมวินัย ชอบด้วยกฎหมายและมติมหาเถรสมาคมปี ๔๔ แล้ว (ครั้งที่ ๔/๒๕๔๔ มติที่ ๖๕/๒๕๔๔ เมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๔ เรื่อง การปฎิบัติตามอำนาจหน้าที่) แต่ที่ไม่ยื่นเรื่องให้ปลดเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ต่อเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล ก็เพราะว่าสมณศักดิ์ของเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล ยังต่ำกว่าเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย จึงคงไม่สามารถทำการลงโทษว่ากล่าวตักเตือนแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาที่มียศสูงกว่าตนได้ แต่สำหรับเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี มีสมณศักดิ์ที่พระเทพรัตนสุธี แต่ละเว้นไม่ทำหน้าที่ผู้ปกครองที่ดี จึงสมควรจะถูกปลดออกจากตำแหน่งเพราะละเมิดมติมหาเถรสมาคมปี ๔๔ และกฎหมายปกครองคณะสงฆ์อย่างชัดเจน ส่วนเรื่องที่พุทธะอิสระไปยื่นเรื่องให้เจ้าคณะภาค ๑ วัดชนะสงครามและเจ้าคณะใหญ่หนกลาง วัดพิชยญาติการามให้สอบอธิกรณ์ ข้อกล่าวหาธัมมชโยเป็นปาราชิก ๒ สิกขาบท คือ ยักยอกทรัพย์เกิน ๕ มาสก ในกรณีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ต้องอาบัติปาราชิกสิกขาบทที่ ๓ และอวดอุตริมนุสธรรมกรณีสตีฟ จ๊อบ ในปาราชิกสิกขาบทที่ ๔ รวมทั้งมีพฤติกรรมจาบจ้วงย่ำยีพระธรรมวินัย บิดเบือนคำสอน บัญญัติในสิ่งที่พระพุทธเจ้ามิได้บัญญัติ กล่าวตู่พระพุทธเจ้า ความผิดเหล่านี้ พุทธะอิสระได้นำหลักฐานและสำนวนคำร้องทุกข์กล่าวโทษไปยื่นให้เจ้าคณะภาค ๑ เจ้าคณะใหญ่หนกลางไว้พิจารณาสอบสวนแล้ว มาดูกันว่าเจ้าคณะปกครองทั้งหลายจะทำตามมติมหาเถรสมาคมเมื่อปี ๔๔ หรือไม่ พวกเราพุทธบริษัทผู้พระธรรมวินัยและความถูกต้องจะคอยดูว่า เจ้าคณะปกครองจะเลือกคนหรือเลือกพระธรรมวินัย พุทธะอิสระ ----------------------------------------------------- ผลการประชุมมหาเถรสมาคม คดีพระธัมมชโย มติมหาเถรสมาคม ให้สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลางแก้ไขปัญหาในคดีพระธัมมชโย สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ในฐานะ พระปกครองของพระธัมมชโย ไม่ตอบคำถามสื่อมวลชน ภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคม หรือ มส.ซึ่งมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธาน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เสนอขอความเห็นเกี่ยวกับการแก้ปัญหาวัดพระธรรมกาย ในที่ประชุม มส.ได้มีมติให้สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม และเจ้าคณะใหญ่หนกลาง เป็นผู้ดำเนินการ ในฐานะพระปกครอง ต้องสอบสวน พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ซึ่งนายสมบัติ พิมพ์สอน รองโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า ที่ประชุมมส.เห็นชอบให้เจ้าคณะปกครองทุกระดับ คือ เจ้าคณะใหญ่หนกลางเจ้าคณะภาค และเจ้าคณะจังหวัด แก้ไขปัญหากรณีของพระธัมมชโย ให้เกิดข้อยุติ ในเขตปกครอง
จรัญ จา วิถาทานัง นายกฯ เตรียมใช้ ม.44 จับธัมมชโย ติงศิษย์อย่าอ้างรอประชาธิปไตย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวในรายการคืนความสุขฯ เตรียมใช้ ม.44 จับกุมพระธัมมชโย ยันอย่ามาอ้างรอประชาธิปไตย เพื่อไม่ยอมมอบตัว วันที่ 2 กรกฎาคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาววาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร ได้มีการทวีตข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัว @WassanaNanuam ระบุว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้กล่าวถึงกรณีวัดพระธรรมกายในรายการรายการคืนความสุขให้คนในชาติช่วงค่ำวานนี้ (1 กรกฎาคม) ในตอนหนึ่งระบุว่าอาจมีการเตรียมใช้ ม.44 ในการเข้าจับกุมตัวพระธัมมชโย ในการฝ่าฝูงชนนับหมื่นคนเพื่อเข้าไปซึ่งจากปกติใช้ไม่ได้ พร้อมยังมีการกล่าวตำหนิเหล่าบรรดาลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ว่าอย่ามาใช้เหตุผลรอรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ใช้อ้างในการไม่ยอมมอบตัวเลย ภาพและข้อมูลจาก ทวิตเตอร์ @WassanaNanuam@kapook.com
หึๆเอาจริงเหรอ? อยากเห็นแบบ กำลังส่วนหนึ่งผลักดันกับมวลชนรอบนอก แต่ข้างในใช้ฮอโรยตัวไปฉก ชโย ขึ้นเครื่องไป つづく
สมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น ทยอยเข้ารับเงินคืนจากสหกรณ์ โดยเบื้องต้นจะได้คืนเฉพาะเงินฝากเท่านั้น เมื่อวานนี้เป็นวันแรก ที่คณะกรรมการบริหารสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น เปิดให้สมาชิก ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ เข้ามารับเงินคืนตามแผนฟื้นฟูกิจการ ครั้งที่ 1 หลังจากเกิดปัญหาสภาพคล่อง ไม่มีเงินให้สมาชิกเบิกถอนได้ ตั้งแต่ปี 2556 จนนำไปสู่การตรวจสอบการทุจริต ของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานคณะกรรมการบริหารสหกรณ์เครดิตยูเนียน คลองจั่น บรรยากาศ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยสหกรณ์ฯ เปิดให้สมาชิกสามารถเดินทางมาถอนเงินคืนได้ทุกวัน ยกเว้นวันอาทิตย์และวันจันทร์ นอกจากนี้ยังมีการประชุมหารือ ระหว่างคณะกรรมการบริหารสหกรณ์เครดิตยูเนียนฯ กับเจ้าหนี้ ท่ามกลางการสังเกตการณ์ของตัวแทนกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเจ้าหน้าที่แก้ไขปัญหาสหกรณ์เครดิตยูเนียนฯ ผลการหารือ ได้ข้อสรุปเบื้องต้น สหกรณ์ฯ จะจ่ายเงินคืนให้สมาชิกที่เป็นเจ้าหนี้ทั้ง 12 กลุ่ม ในรายที่มียอดเงินไม่เกิน 10,000 บาท จำนวน 13,000 กว่ารายจากทั้งหมด 18,000 ราย ส่วนเจ้าหนี้ที่มียอดสูงกว่านั้น จะได้รับเงินคืนในอัตรา ร้อยละ 3.76 ของมูลค่าหนี้ ที่มีอยู่กับสหกรณ์ รวมเป็นยอดที่สหกรณ์ต้องชำระคืนครั้งนี้ประมาณ 600 ล้านบาท ส่วนเจ้าหนี้ 153 ราย ที่ยื่นฟ้องร้องสหกรณ์ไว้ ที่ต้องการทั้ง เงินหุ้นและเงินฝาก จะยังไม่ได้รับเงินคืน ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ก็พอใจ ที่สหกรณ์มีการคืนเฉพาะเงินฝากให้ก่อน นายประกิต พิลังกาสา ประธานคณะกรรมการบริหารสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น ชุดที่ 31 เปิดเผยว่า การทยอยคืนเงินเจ้าหนี้ รอบที่ 2 จะเปิดในรายเดือนธันวาคมปีนี้ ควบคู่กับการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีก 1 ชุด เพื่อหาทางออก อย่างไรก็ตาม การจะจ่ายเงินหุ้นคืน คงต้องรออีกระยะ นายกรัฐมนตรี แย้ม อาจใช้ ม.44 นำคนทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ต้องไม่ให้เกิดความรุนแรง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โฮชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ในระหว่างจัดรายการรายการคืนความสุขให้คนในชาติ โดยระบุว่า มีการขยายความขัดแย้งในประเทศ เพื่อให้สังคม และนานาชาติ เข้าใจว่ารัฐบาลดำเนินการ 2 มาตรฐาน โดยยืนยันว่า ตั้งแต่เข้ามาบริหารประเทศ ไม่เคยทำให้ใครต้องบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต แต่มีหลายคนดึงดันขัดขืนไม่ยอมให้จับกุม ใช้ประชาชนเป็นโล่กำบัง ซึ่งอาจจะต้องใช้กฎหมายพิเศษ แต่ต้องทำในสถานการณ์ที่ไม่ทำให้เกิดความรุนแรง พร้อมวอนผู้ที่ใจร้อน ต้องการให้ใช้กฎหมายเข้าไปดำเนินการอย่างเด็ดขาด ให้เข้าใจ เพราะไม่สามารถฝ่าฝูงชนเข้าไปจับกุมได้ เพื่อนำมาสอบสวนให้สู้คดี ซึ่งก็มีบางคน ไม่ยอมประกัน โดยอ้างว่าจะไม่ออกจนกว่าจะมีประชาธิปไตย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ นายกรัฐมนตรี ยังพูดถึงการจัดทำประชามติด้วยว่า หากมีเจตนาดี ก็ไม่ควรกังวลเรื่องข้อกฎหมาย ที่มีโทษสูง พร้อมตำหนินักการเมืองที่ไปบิดเบือน รณรงค์ไม่ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ หรือบิดเบือน เนื้อหาของรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประชาชนเข้าใจผิด ทีมข่าวการเมือง
เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน เรื่องมันมีอยู่ว่า อ.วีระ ธีรภัทร์ เปิดสาย ให้ ผู้นับถือ ธรรมกาย โทรเข้ามาในรายการ (ฟังนาทีที่ 21 จนถึง นาทีที่ 32 อ. วีระ พูดถึง วัดธรรมกาย ต้นรายการ ) จากนั้นข้ามไป ฟังสายแรก โทรมาเปิดประเด็นวัดธรรมกาย นาทีที่ 38 ถึงนาทีที่ 42 ไฮไลท์อยู่ที่ นาทีที่ 51-55 ผู้นับถือธรรมกายโทรเข้ามา อ.วีระ :"ไอ้ที่กลมๆ นั่นน่ะมันอะไร" คนโทรเข้า: "มันคือพระพุทธรูป" อ.วีระ : "ไม่น่าจะใช่" เริ่มนาทีที่ (1ชั่วโมง 7 นาที) 1:07 อ. วีระ : "ไอ้ที่กลมๆ นั่นน่ะมันอะไร" คุณเอ : "มันคือบาตรครับ ส่วนจานคืออังสะจีวร" อ. วีระ : "ไม่น่าจะใช่" 1:12 อ. วีระ :"ไอ้ที่กลมๆ นั่นน่ะมันอะไร" คนโทรเข้า : ดวงแก้ว ครับ แต่ตอนนั้นเทคโนโลยีการก่อสร้างยังทำไม่ได้ จึงเป็นแบบนั้นครับ อ.วีระ : อืม สรุปคนนับถือโทรเข้ามา อ.วีระ ถาม ตอบไม่เหมือนกันสักคนนึง ร้อนจนถึง พระรูปนึง ใช้ชื่อ พระประภัทร ซึ่งนับถือธรรมกาย โทรเข้ามา (สำหรับคนไม่มีเวลาฟัง เน้นๆที่ ตรงนี้ตอนเดียวพอ) เริ่มต้นที่ (หนึ่งชั่วโมง สี่สิบเอ็ดนาที) 1:41 ไปฟังกันเต็มๆเลย ไฮไลท์ดังนี้ "อ่า หลวงพี่ ไม่ต้องสาธยายสรรพคุณของวัดพี่ หลวงพี่มีประเด็นอะไร ก็เข้าประเด็นเลย" "มีระบุไว้ในพระไตรปิฎกไหม หลวงพี่......... อ้าวแล้วถ้ามันไม่มีระบุไว้ในพระไตรปิฎก แล้วไปเอามาจากไหน" "มันคนละเรื่องหลวงพี่ ตกลงวิชาธรรมกาย นี่พระพุทธเจ้าสอนไหม ? " "ไหน เขียน พระไตรปิฎก วรรคไหน บทไหน หลวงพี่ " "นิมนต์วางสายครับหลวงพี่" http://mcot-web.mcot.net/fm965/site/streaming/id/5773938f938163df768b46a7#.V3Z4qhKbG1x 28-06-59 | 96.5 FM ออกอากาศเมื่อ 28 มิ.ย. 2559 เนื้อหาสรุป : รายการคุยได้ คุยดี โดย วีระ ธีรภัทธ
ธรรมกายมีAdในยูทูปแล้วนะครับ ชื่อช่อง "พิทักษ์หลวงพ่อด้วยชีวิต" ใครชอบเล่น youtube อย่าลืมกดเข้าไปฟังบ้างนะครับ จะได้เห็นเหรียญอีกด้านครับ
ดูด้านนี้ก่อน นะ??? เปาบุ้นจุ้น #กฎหมายทำอะไรไม่ได้ต้องใช้กฎทหาร !!บิ๊กต๊อก'แย้ม! อาจใช้อำนาจม.44 จัดการปมปัญหา 'พระธัมมชโย' 4 ก.ค.59 ที่กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) บอกว่าอาจจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษจัดการปัญหาพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนาสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ออกมาหนุนแนวคิดดังกล่าวเสนอให้ใช้มาตรา 44 นั้น ว่า "ผมตีความว่าเป็นแนวคิดที่ว่าอาจไปถึงจุดนั้นได้ถ้าปัญหายังไม่จบ หากยังไม่จัดการให้เรียบร้อยด้วยกฎหมายปกติแล้วก็ต้องนำไปสู่การใช้กฎหมายพิเศษ ซึ่งขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังทำอยู่ และนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ฝ่ายปกครองของสงฆ์ ขณะเดียวกันมีพนักงานสอบสวนด้วยแต่หากทำไม่ได้จริงๆก็เหมือนกฎหมายอื่นๆที่มีอยู่แล้ว แก้ปัญหาไม่ทันการณ์ ซึ่งผมเห็นแนวทางการทำงานแล้วว่าถ้าแก้ปัญหานี้ไม่ได้ก็ต้องไปบอกนายกฯก็เป็นการรับรู้ว่าท่านเปิดโอกาสให้เราแล้วซึ่งผมก็คงรับทราบตามนี้. ทั้งนี้ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวต่อว่าตนเห็นเราไม่ควรจะนำมาตรา 44 ไปใช้เพราะเป็นการทำผิดกฎหมายที่ไม่ใหญ่อะไรมากแต่พวกเราก็เข้าใจว่าเริ่มมีการใช้วิธีการอื่นๆมาใช้ขัดขวางการปฏิบัติตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ในการทำงาน ดังนั้น จึงอาจมีความจำเป็นต้องไปถึงตรงนั้นก็ได้ "ผมยืนยันว่าถ้าออกมาตรา 44 มาใช้ ต้องจัดการเรื่องนี้ได้ ไม่อย่างนั้นจะออกมาทำไมซึ่งต้องคิดให้รอบคอบว่าจะใช้หรือไม่ใช้. อย่างไรก็ตาม อยากจะให้ใช้กฎหมายปกติ แต่วันนี้ยังไม่จบ ต้องไปถามผู้ปฏิบัติ คือ พนักงานสอบสวน และสำนวนเรื่องนี้อยู่ที่อัยการ ดังนั้นต้องไปถามสองหน่วยนี้ว่ามีความพร้อมหรือยัง แต่ตามที่นายกฯ พูด คงต้องพึ่งอำนาจพิเศษของ คสช.แล้วมั้ง ซึ่งก็จะต้องไปชี้แจงให้ท่านทราบ" รมว.ยุติธรรม กล่าว
เรื่องวัดธรรมกาย เรื่องธัมมชโย ไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ เป็นปัญหาระดับชาติ สร้างความเสียหายทั้งทางโลกและทางธรรม ถ้าจัดการไม่สำเร็จ ***ด้านคำสอนและจุดมุ่งหมายของศาสนาก็เพี้ยน ***ด้านระบบยุติธรรมและเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องก็เพี้ยน ***แม้แต่สามัญสำนึกของประชาชนกลุ่มใหญ่ กลุ่มหนึ่งก็เพี้ยน
กำไม่คายนี้ อีกไม่นาน ก้อสลาย ที่ต่างประเทศนี้ รายได้ขึ้นกับสารขัณฑ์แลนด์มั้ย เชื่อว่าเมื่อเปลี่ยนมือแล้วไม่สามารถรักษาสภาพเดิม ไม่สามารถจัดมหกรรมพิธีการใหญ่ๆได้อีก คงมีแต่ลานจอดรถที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นที่กล่าวขานไปอีกนาน
รวมข่าว บทความ ภาพตัดต่อเพื่อความบันเทิง ชิซังเต โป้ง คุก เราจะยอมติดคุกเพื่อหลวงพ่อง ถถถ กีดขวางทางสาธารณะ ครอบครองยุทธภัณฑ์ทหาร ช่วยเหลือผู้กระทำความผิด เรื่องโดย อนันต์ วิจิตรประชา | ภาพโดย Nation TV 5 กรกฎาคม 2559 12:58 น. เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 5 ก.ค. พล.ต.ต.ถาวร ขาวสะอาด ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พร้อม พ.ต.อ.เขมภัทร โพธิพิทักษ์ ผกก.สภ.คลองหลวง ได้แถลงผลการดำเนินคดีกับศิษย์ธรรมกายที่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ กรณีเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อจับกุมพระธัมมชโยภายในวัดพระธรรมกาย โดยมีผู้สือข่าวติดตามความคืบหน้าของสถานการของทางวัดที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ด้าน พล.ต.ต.ถาวร กล่าวว่า ผลการดำเนินคดีกับชุมนุมขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ดีเอสไอ กรณีเข้าตรวจค้นวัดธรรมกายนั้น สืบเนื่องจากวันที่ 16 ม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้นำหมายค้นของศาลเข้าทำการตรวจค้นวัดธรรมกาย เพื่อจับกุมพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมชโย เจ้าอาวาสวัดธรรมกาย ในข้อหา สมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร แต่ปรากฏว่ามวลชนจำนวนหนึ่ง เกาะกลุ่มชุมนุมกันอยู่ที่บริเวณประตูทางเข้าวัดทั้งประตู 7 ประตู 5 และถนนเลียบคลองแอน 2-3 อีกทั้ง ยังมีการนำรถยนต์ รถแบ็คโฮ รถบรรทุก และรถกอล์ฟ มาจอดขวางเส้นทาง และประตูทางเข้าวัด ส่อให้เห็นถึงเจตนาที่จะขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ จัดการตามหมายค้นให้บรรลุวัตถุประสงค์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ สภ.คลองหลวง ดำเนินคดีกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกราย ซึ่งมีทั้งหมด จำนวน 9 คดี แบ่งเป็น 3 หมวดความผิด คือ 1.หมวดความผิดเกี่ยวกับการกีดขวางทางสาธารณะ จำนวน 7 คดี ยึดรถ 6 คัน เปรียบเทียบปรับไปแล้ว 6 คดี อีก1 คดีอยู่ระหว่างการสอบสวน 2.หมวดความผิดเกี่ยวกับการครอบครองยุทธภัณฑ์ทหาร หรือลวดหนามหีบเพลง จำนวน 1 คดี ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์จากกรมอุตสาหกรรมทหาร ว่าเป็นยุทธภัณฑ์ทางทหาร หรือไม่ จะได้ดำเนินการกฎหมายต่อไป3.หมวดความผิดเกี่ยวกับการชุมนุมสาธารณะ ขัดขวางเจ้าพนักงาน และช่วยเหลือผู้กระทำความผิด จำนวน 1 คดี ยึดรถที่ใช้ขัดขวางเจ้าพนักงาน จำนวน 6 คัน ขณะนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 1 คน ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นๆ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับ โดยเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ได้ออกหมายเรียกให้ ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายก อบต.คลองสาม มารับทราบข้อกล่าวหา ในความผิดฐาน เป็นผู้จัดให้มีการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต กรณีเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2559 เวลาประมาณ 10.30 น. ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา ได้นำชาวบ้าน อบต.คลองสาม มารวมตัวกันทำกิจกรรมชุมนุมแสดงความคิดเห็นปกป้องหลวงพ่อธัมชโย บริเวณถนนสาธารณะหน้าประตู 1 วัดธรรมกาย ถนนเลียบคลองสาม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จึงขอเตือนพี่น้องประชาชน และศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย หากเจ้าหน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษมีการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายอีกครั้ง ขออย่าได้ชุมนุมขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นการนำรถมาจอดกีดขวาง หรือการกระทำใดๆ อันเป็นการขัดขวางการปฏิบัติการตามหน้าที่ ทั้งทางตรงและทางอ้อม มิฉะนั้นอาจตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญา และทาง สภ.คลองหลวง ก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป Tag : #กีดขวาง#สาธารณะ#ครอบครอง#ภัณฑ์#ช่วยเหลือ อ่านต่อที่: http://www.nationtv.tv/main/content/social/378507964/ ต่อมา ก้อสาวกฯ พร้อมอุปกรณ์ ที่เห็นก้อ 2คันใหญ่ หน้าประตู (คงไม่ได้ทำกิน อย่าโวยวายนะ) เพื่อหลวงเจ้ เราทนได้ ส่วนเป็นคัยบ้าง ก้อตามรูปถ่าย คัยถ่ายอวดรูปสวยท่าเท่ๆ ก้ออยู่แถวหน้า
ลูกศิษย์ทำเพื่อหลวงพ่อขนากนั้นแล้วทำไมหลวงพ่อไม่ไปมอบตัวเพื่อลูกศิษย์จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนกันบ้างล่ะครับ หลวงพ่อไม่สงสารลูกศิษย์ลูกหาบ้างเลยเหรอครับ
ผมอยากเห็นแบบ ยิงแก็สน้ำตาสลายฝูงควาย ยิงแม่มซักเจ็ดวันเจ็ดคืน เป็นการฉลองให้ตะกวดขาเน่าด้านใน อยากรู้ว่าจะเหลือควายซักกี่ตัว
เปาบุ้นจุ้น หมายเรียก'นายกอบต.คลองสาม' เกณฑ์ชาวบ้านชุมนุมป้อง'ธัมมี่' 5 ก.ค. 59 เมื่อเวลา 10.10 น. ที่ศูนย์ปฎิบัติการ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พล.ต.ท.ถาวร ขาวสอาด ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.เขมพัฒน์ โพธิพิทักษ์ ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.วิเชียร เหมือนสุวรรณ์ พนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ร่วมแถลงข่าวผลการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย พล.ต.ท.ถาวร กล่าวเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้เข้าทำการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อจับกุมพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร ปรากฏว่ามวลชนจำนวนหนึ่ง เกาะกลุ่มชุมนุมกันที่บริเวณประตูทางเข้าวัดทั้งประตู 7 , ประตู 5 และ ถนนเสียบคลองแอน 2-3 อีกทั้งยังมีการนำรถยนต์ รถแบคโฮ รถบรรทุก และรถกอล์ฟ มาจอดขวางเส้นทางและประตูทางเข้าวัด ส่อให้เห็นถึงเจตนาที่จะขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ จัดการตามหมายค้นให้บรรลุวัตถุประสงค์ กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้ สภ.คลองหลวง ดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกราย ซึ่งได้มีการแยกเป็น 9 คดี แบ่งเป็น 3 หมวดความผิด คือ 1.หมวดความผิดเกี่ยวกับการกีดขวางทางสาธารณะ จำนวน 7 คดี ยึดรถได้ 6 คัน เปรียบเทียบปรับไปแล้ว 6 คดี อีก 1 คดีอยู่ระหว่างการสอบสวน 2.หมวดความผิดเกี่ยวกับการครอบครองยุทธภัณฆ์ทหาร หรือลวดหนามหีบเพลง จำนวน 1 คดี ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์จากกรมอุตสาหกรรมทหาร ว่าเป็นยุทธภัณฑ์ทางทหารหรือไม่ จะได้ดำเนินการตามกฏหมายต่อไป และ 3.หมวดความผิดเกี่ยวกับการชุมนุมสาธารณะ ขัดขวางเจ้าพนักงานและช่วยเหลือผู้กระทำความผิด จำนวน 1 คดี ยึดรถที่ใช้ขัดขวางเจ้าพนักงาน จำนวน 6 คัน ขณะนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 1 คน ส่วนผู้ต้องหาคนอื่น ๆ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับ พล.ต.ท.ถาวร กล่าวต่อว่า และเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 59 สภ.คลองหวง ได้ออกหมายเรียกให้ ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายกอบต.คลองสาม มารับทราบข้อกล่าวหา ในความผิดฐานเป็นผู้จัดให้มีการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต กรณีเมื่อวันที่ 29 พ.ค. 59 เวลาประมาณ 10.30 น. ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา ได้นำชาวบ้าน อบต.คลองสาม มารวมตัวกันทำกิจกรรมชุมนุมแสดงความคิดเห็นปกป้องพระธัมมชโย บริเวณถนนสาธารณะหน้าประตู 1 วัดธรรมกาย ถนนเลียบคลองสาม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน "จึงขอเตือนพี่น้องประชาชน และศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย หากเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษมีการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายอีกครั้ง ขออย่าได้ชุมนุมขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นการนำรถมาจอดกีดขวาง หรือการกระทำใดๆ อันเป็นการขัดขวางการปฏิบัติการตามหน้าที่ ทั้งทางตรงและทางอ้อม มิฉะนั้นอาจตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญา และทาง สภ.คลองหลวง ก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป" พล.ต.ท.ถาวร กล่าว ข้อมูลข่าว....แนวหน้า ถ้าได้รับ ควรตรวจชื่อว่าถูกต้องมั้ยยยย ใช่หน้าเราหรือป่าววว ถ้ามีรูปที่ถ่าย ควรเอามาเทียบว่า ไม่ใช่ภาพตัดต่อนะ
สร้างความศรัทธาด้วยสถานที่และพิธีกรรมอันยิ่งใหญ่อลังการเต็มไปด้วยแสงสีเสียงอันตระการตา และมายาภาพแห่งอิทธิปาฏิหาริย์เป็นเครื่องมือมอมเมาให้ประชาชนหลงเชื่อยอมตัวเป็นสาวกอย่างงมงาย ทั้งนี้ แม้แต่องค์กรสงฆ์สูงสุดและพระเถระผู้ใหญ่แทบทั้งประเทศถูกตั้งข้อสังเกตว่า ล้วนอยู่ภายใต้อิทธิพลของสำนักจานบินโดยมีเรื่องผลประโยชน์และอำนาจเป็นตัวยึดโยง การที่สำนักจานบินมอมเมาและแผ่ขยายอิทธิพลจนมีสาวกทั่วประเทศจำนวนมากหากใช้มวลชนไปในทางที่ผิดหรือชั่วร้ายและยิ่งหากปล่อยให้สร้างอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งด้านเงินทุนและมวลชนที่พร้อมจะยอมตายตามคำสั่งของผู้นำลัทธิก็ยิ่งเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ. ล่าสุด พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรมส่งสัญญาณว่าอาจจำเป็นต้องใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว ซึ่งเป็นอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกฯและหัวหน้าคสช. เพื่อนำตัวธัมมชโยมาดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่นักสังเกตการณ์ทางการเมืองเสนอว่านอกจากจับตัวธัมมชโยแล้วควรใช้มาตรา 44 ให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยการตรวจสอบปมการฟอกเงินและเบาะแสที่ไม่ชอบมาพากลทั้งหมดของสำนักจานบินในทุกมิติเพื่อตัดไฟแต่ต้นลมก่อนที่จะเป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติในอนาคต ทีมข่าวการเมือง แนวหน้า PRIME TIME กับ เทพชัย เจาะลึก! ดีเอสไอ พลิกเกม เชือดธัมมชโย http://www.nationtv.tv/main/program/PRIMETIME/378508033/ รัฐบาลจะเอายังไงกับพระธัมมชโย เป็นคำถามที่เราได้ยินมาตลอดนับตั้งแต่ ดีเอสไอได้พยายามบุกเข้าไปในวัดพระธรรมกายเมื่อหนึ่งเดือนที่แล้วเพื่อจับตัวพระธัมมชโยในข้อหารับของโจรและฟอกเงิน แต่ก็ต้องถอยออกมาเพราะแรงต่อต้านจากมวลชนของวัดแห่งนี้ prime time ได้รับการยืนยันวันนี้ว่า ดีเอสไอจะเดินหน้าสร้างแรงกดดันต่อวัดพระธรรมกายต่อไป เมื่อยังไม่สามารถเข้าถึงเป้าหมายหลัก คือพระธัมมชโยได้ ก็จะพุ่งเป้าไปที่คนรอบข้าง และการใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อจัดการกับพระธัมมชโยก็ยังมีความเป็นไปได้เสมอ การใช้มาตร 44 อาจจะเป็นทางเลือกสุดท้ายของรัฐบาล แต่เฉพาะหน้าในขณะนี้ ดีเอสไอเลือกที่จะสร้างแรงกดดันต่อพระธัมมชโยต่อไปด้วยวิธีการทางกฎหมาย Primetime ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของดีเอสไอว่า ดีเอสไอจะออกหมายเรียกพระ 5 รูปของวัดพระธรรมกายเพื่อสอบปากคำภายในสัปดาห์หน้า ดีเอสไอเชื่อว่าพระทั้งห้ารูปเป็นคนที่ใกล้ชิดและได้รับความไว้วางใจจากพระธัมมชโยมากที่สุด และที่ผ่านมามีบทบาทสำคัญในการควบคุมเครือข่ายศิษยานุศิษย์และมวลชนของวัด การออกหมายเรียกเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของดีเอสไอที่จะสร้างแรงกดดันต่อพระธัมมชโยที่ปฏิเสธจะมอบตัวด้วยข้ออ้างว่ายังอยู่ในอาการอาพาธ พระทั้งห้ารูปที่จะถูกหมายเรียกคือ 1.พระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ กรรมการบริหารของวัดซึ่งเป็นผู้ควบคุมฝ่ายปฏิบัติการทั้งหมด 2.พระครูใบฎีกาอำนวยศักดิ์ มุนิสโก และ 3.พระถวัลย์ศักดิ์ ซึ่งดูแลด้านการเงิน 4.พระทัตตชีโว ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นเบอร์สองของวัดรองจากพระธัมมชโย และเป็นผู้รับผิดชอบการวางยุทธวิธีรับมือกับสถานการณ์ขณะนี้ทั้งหมด 5.พระสุธรรม สุธัมโม เจ้าอาวาสวัดธรรมกายที่นครดซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเชี่ยวชาญด้านกฏหมาย เจ้าหน้าที่ดีเอสไอเปิดเผยว่าต้องการสอบปากคำพระทั้งห้ารูปในประเด็นที่เกี่ยวกับข้อกล่าวหารับของโจรและฟอกเงินที่มีต่อพระธัมมชโย และเป็นการสร้างแรงกดดันต่อพระธัมมชโยและคนรอบข้าง ตามขั้นตอนของกฎหมายถ้าหากพระทั้ง 5 รูปไม่ไปรายงานตัว กระทรวงยุติธรรมก็จะออกหมายจับเป็นขั้นตอนต่อไป รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมพล.อ.ไพบูลย์คุ้มฉายา ได้ยืนยันกับ primetime ก่อนหน้านี้ว่าได้สั่งเป็นนโยบายให้ดีเอสไอหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงและยึดขั้นตอนของกฎหมายเป็นหลัก วันที่ 13 กรกฏาคมนี้ อัยการจะตัดสินว่าจะสั่งฟ้องพระธัมมชโยหรือไม่ ซึ่งถ้าสั่งฟ้องก็จะทำให้ดีเอสต้องใช้อำนาจในการเอาตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี. เมื่อถึงเวลานั้น มีความเป็นไปได้ที่ดีเอสอาจจำเป็นต้องใช้กำลังในการบังคับใช้กฎหมาย และการใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวเพื่อดำเนินการกับพระธัมมชโยก็มีความเป็นไปได้อย่างสูง แม้แต่พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ส่งสัญญาณชัดเจนในเรื่องนี้รายการ คืนความสุขให้คนในชาติ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สียงประยุทธ์ "...มันเหมือนไม่เคารพกฎหมายก็บอกว่าอะไรนะจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก็ต่อเมื่อประเทศชาติมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเอ๊ะเขาทำได้เหรอไม่น่าทำได้นะวันนี้ผิดก็ต้องลงโทษวันนี้นะกระบวนการยุติธรรมเขาก็มีอยู่แล้วเราก็เพียงแค่นำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ท่านต่อสู้คดีเราอาจจะต้องใช้มาตรา 44 ในการควบคุมตัวเข้าจับกุม" อำนาจตามนมาตรา 44 ให้อำนาจในการตรวจค้นตัวบุคคลที่อยู่อาศัยหรือยานพาหนะของบุคคลใดก็ตามที่ต้องสงสัยว่าเป็นผู้กระทำความผิดโดยไม่ต้องขอหมายค้นจากศาลและเจ้าหน้าที่ทหารมีอำนาจยึดหรืออายัดทรัพย์ที่พบจากการเข้าตรวจค้นได้. ความพยายามที่จะจับกุมตัวพระธัมมชโยยืดเยื้อมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว หลังจากดีเอสไอออกหมายจับพระธัมมชโย เจ้าหน้าที่ดีเอสไอถูกสกัดกั้นจากลูกศิษย์และมวลชนของวัดพระธรรมกายจนเกิดสถานการณ์เผชิญหน้าก่อนดีเอสไอจะตัดสินใจยุติการปฏิบัติการ ในการแถลงข่าวที่สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง จ.ปทุมธานี วันนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร จังหวัด ปทุมธานี พล.ต.ต.ถาวร ขาวสะอาด บอกว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีต่อผู้ที่ขัดขวางการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอในระหว่างการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายเพื่อจับพระธัมมชโย คดีนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ตั้งแต่การชุมนุมบริเวณประตูทางเข้าวัด นำรถยนต์-แบ็คโฮ-บรรทุก และรถกอล์ฟ มาจอดขวางเส้นทาง จึงต้องดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 9 คดี ตำรวจคลองหลวงยังได้ออกหมายเรียกให้นายก อบต.คลองสาม ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา มารับทราบข้อกล่าวหาความผิดฐาน เป็นผู้จัดให้มีการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งสองคนถูกกล่าวหาว่าได้ปลุกระดมให้มวลชนของวัดพระธรรมกายมาร่วมชุมนุมขัดขวางการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ขณะที่ ความเคลื่อนไหวของวัดธรรมกาย กับเกม ที่"พระธัมมชโย" จะเล่นรับมือต่ออำนาจรัฐนั้น อดีตศิษย์เอกธรรมกายรายหนึ่ง บอกกับ"ไพร์มไทม์" ว่า การต่อสู้ของวัดพระธรรมกาย มีกลิ่นไอของความเป็นการเมืองสูงมาก โดยเฉพาะประโยคที่ว่า "จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก็ต่อเมื่อบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย" แน่นอนว่า เจ้าของวาทะประโยคนี้ คือยุทธศาสตร์ของการเมืองจากฝ่ายพรรคเพื่อไทย ที่อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ใช้เป็นเครื่องมือมาตอลด อดีตศิษย์เอกธรรมกายรายนี้ ตั้งข้อสังเกตุด้วยว่า หากพระธัมมชโย ไม่มั่นใจเครือข่ายของพวกเขา ที่มีทั้งวัดและสานุศิษย์ ในและนอกประเทศ จำนวนหลายแสนคน พระธัมมชโย คงไม่เล่นเกมยื้อมาได้จนถึงขณะนี้และนี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ศึกระหว่างอำนาจรัฐกับพระธัมมชโย กลายเป็นมหากาพย์ ที่ยืดเยื้อต่อไป แหม่ๆ!! พึ่งฉายมาถึงกลางเรื่อง อย่าพึ่งเอาตอนจบมาเล่าซิ เสียมู้ดหมด???
เหรียญมันปลอม ไม่ว่าดูด้านไหนมันก็ปลอมละครับ ไม่มีคุณค่าเลย ใช้ความปลอมหลอกล่อเอาศรัทธาของชาวพุทธแล้วบอกว่าเป็นของจริง
ลูก Art องอาจ จุดแสงสว่างที่กลางกาย เบื้องหน้าเทือกเขาแอลป์ บนยอดเขาพิลาตุส ที่ระดับความสูงกว่า 2,000 เมตรครับ ลูก Art อยุไส?
นโรตม์ อยู่อย่างจงรัก ภักดีด้วยชีพ โดนแล้ว..ตร.ออกหมายเรียกนายกฯอบต.คลอง3 จัดม๊อบหนุนธัมชโย ตำรวจปทุมธานี ออกหมายเรียก “วิระศักดิ์ ฮาดดา”นายกฯอบต.คลอง3 ฐานจัดชุมนุมในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หนุนธัมมชโย พร้อมเตือน หากครั้งหน้าดีเอสไอเข้าค้นวัดธรรมกายอีก ใครขวางโดยจัดการตามกม.แน่ 5 มิ.ย. 59 เมื่อเวลา 10.10 น. ที่ศูนย์ปฎิบัติการ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พล.ต.ท.ถาวร ขาวสอาด ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.เขมพัฒน์ โพธิพิทักษ์ ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.วิเชียร เหมือนสุวรรณ์ พนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ร่วมแถลงข่าวผลการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย พล.ต.ท.ถาวร กล่าวเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้เข้าทำการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อจับกุมพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร ปรากฏว่ามวลชนจำนวนหนึ่ง เกาะกลุ่มชุมนุมกันที่บริเวณประตูทางเข้าวัดทั้งประตู 7 , ประตู 5 และ ถนนเสียบคลองแอน 2-3 อีกทั้งยังมีการนำรถยนต์ รถแบคโฮ รถบรรทุก และรถกอล์ฟ มาจอดขวางเส้นทางและประตูทางเข้าวัด ส่อให้เห็นถึงเจตนาที่จะขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ จัดการตามหมายค้นให้บรรลุวัตถุประสงค์ กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้ สภ.คลองหลวง ดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกราย ซึ่งได้มีการแยกเป็น 9 คดี แบ่งเป็น 3 หมวดความผิด คือ 1.หมวดความผิดเกี่ยวกับการกีดขวางทางสาธารณะ จำนวน 7 คดี ยึดรถได้ 6 คัน เปรียบเทียบปรับไปแล้ว 6 คดี อีก 1 คดีอยู่ระหว่างการสอบสวน 2.หมวดความผิดเกี่ยวกับการครอบครองยุทธภัณฆ์ทหาร หรือลวดหนามหีบเพลง จำนวน 1 คดี ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์จากกรมอุตสาหกรรมทหาร ว่าเป็นยุทธภัณฑ์ทางทหารหรือไม่ จะได้ดำเนินการตามกฏหมายต่อไป 3.หมวดความผิดเกี่ยวกับการชุมนุมสาธารณะ ขัดขวางเจ้าพนักงานและช่วยเหลือผู้กระทำความผิด จำนวน 1 คดี ยึดรถที่ใช้ขัดขวางเจ้าพนักงาน จำนวน 6 คัน ขณะนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 1 คน ส่วนผู้ต้องหาคนอื่น ๆ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับ พล.ต.ท.ถาวร กล่าวต่อว่า และเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 59 สภ.คลองหวง ได้ออกหมายเรียกให้ ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายกอบต.คลองสาม มารับทราบข้อกล่าวหา ในความผิดฐานเป็นผู้จัดให้มีการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต กรณีเมื่อวันที่ 29 พ.ค. 59 เวลาประมาณ 10.30 น. ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา ได้นำชาวบ้าน อบต.คลองสาม มารวมตัวกันทำกิจกรรมชุมนุมแสดงความคิดเห็นปกป้องพระธัมมชโย บริเวณถนนสาธารณะหน้าประตู 1 วัดธรรมกาย ถนนเลียบคลองสาม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน “จึงขอเตือนพี่น้องประชาชน และศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย หากเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษมีการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายอีกครั้ง ขออย่าได้ชุมนุมขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นการนำรถมาจอดกีดขวาง หรือการกระทำใดๆ อันเป็นการขัดขวางการปฏิบัติการตามหน้าที่ ทั้งทางตรงและทางอ้อม มิฉะนั้นอาจตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญา และทาง สภ.คลองหลวง ก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป” พล.ต.ท.ถาวร กล่าว
สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัลประเภทนักการเมืองมี ดร.ประกอบ จิรกิติ, ดร.ลีลาวดี วัชโรบล ซึ่งทั้งสองท่านล้วนเป็นศิษย์ของวัดพระธรรมกาย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ส่วน ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา เป็นอดีตหัวหน้าสำนักงานมูลนิธิธรรมกาย ด้านนักธุรกิจทั้ง นายอนันต์ อัศวโภคิน, นายบุญชัย เบญจรงคกุล และนายสุวิทย์ วิมุตตานนท์ ต่างก็เป็นศิษย์ผู้มีชื่อเสียงวัดพระธรรมกายทั้งสิ้น ส่วนนางนวรัตน์ ฤดีพิพัฒนพงศ์ ก็เป็นหนึ่งในคณะผู้ก่อตั้งสมาคมศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยธรรมกาย แคลิฟอร์เนีย http://thaipublica.org/2014/02/world-buddhist-outstanding-leader-award/ ด้านสื่อมวลชนและศิลปินเองก็เช่นกัน ที่ผู้ได้รับรางวัลหลายท่านเป็นศิษย์ของวัดพระธรรมกาย เช่น นางวิรงรอง รัตนฉายา, นางศศินา วิมุตตานนท์, นายองอาจ ธรรมนิทา, นางสาววรรณนรี ไตรเนตร และนายลือพงษ์ ลีลพนัง ซึ่งเป็นนายกสมาคมศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยธรรมกาย แคลิฟอร์เนีย ก็รวมอยู่ในนั้น ตอนแรกคิดว่าจริงพูดเหมือนฮีโร่ แต่ไปเจอข้อมูลมาเหมือนจะคนละเรื่องเลย
เพื่อชาติ เพื่อพ่อหลวง วัดพร่องงง !! วัดพระธรรมกาย ไม่ให้สื่อมวลชน เข้าศูนย์ปฎิบัติธรรมเขาใหญ่ หลังตำรวจ นำหมายค้นเข้าตรวจค้นพื้นที่บุกรุก เพื่อตรวจยึด https://t.co/gPfVgEGxog ที่ส่วนบุคคลเหรอ???
เบื่อไอ้พวกสร้างภาพ บ้าบอ เอาเงินของสาวกที่ถูกหลอกมาบำเรอตัวเอง ผมเกลียดตั้งเเต่เห็นหน้ามันครั้งเเรกเเล้ว พระดงพระเดชห่าอะไรวะ ทำให้คนอื่นเดือดร้อน
ที่สำคัญ ขอร้องอย่าพึ่งจบ อย่าพึ่งปิดเกมส์ครับ แฉไปเรื่อยๆ ข้อนี้ร้ายแรงนะครับ เพราะสาขาธรรมกาย มีอยู่ทั่วโลก อิทธิพลมหาศาล ข้อแก้เรื่องรักษาพระพุทธศาสนาผมว่า รัฐบาลน่าจะบีบให้ธรรมกาย แยกลัทธิออกต่างหากจากพุทธศาสนา เถรวาทไปเลย ใจจริง(ความเห็นเฉพาะตัว) ถ้าแลกได้กับคดีความ แลกกับการแยกตัวออกไปตั้งลัทธิใหม่ ผมว่าชาวพุทธ น่าจะหายใจคล่องขึ้น และเป็นผลดีกับพระพุทธศาสนา มากกว่า ทั้งภายในประเทศ สาขาต่างๆ นอกประเทศ ถ้าเราดู ขนลุกเลยนะครับ ทั้งทรัพย์สิน สังหาริมทรัพย์ อสังหาริมทรัพย์ ทั้งที่ดิน ที่ทาง ผมว่าไม่ต่ำกว่าแสนไร่ ทั่วทุกมุมของประเทศ จับธัมมชโยสึกก็ไร้ประโยชน์ครับ ในแง่คำสอน ไปไกลมากแล้ว ทั้งสาขาทั่วโลก และสานุศิษย์
สนับสนุนให้ นายก และ คสช ใช้ มาตรา 44 ในการจัดการกรณีธรรมกาย โดยจัดตั้งให้ เป็นลัทธิ ลัทธิหนึ่งแทน ทำเป็นกฤษฎีกา ก็ได้ และประกาศให้ทั่วกัน ตามสื่อ ทั้งเอกชน และราชการ พวกท่านจะได้สร้างบุญกุศล มหาศาล ด้วยการปกป้องพระพุทธศาสนา พระธรรมวินัย พระธรรมคำสอนของพระบรมศาสดา โอกาศนี้ หาไม่ได้อีกแล้ว เป็นที่ชัดแจ้ง และมีหลักฐาน ทั้งข้อความ ภาพ เสียง คลิปวีดีโอ ซึ่งหาได้ทั่วไป ขนาดนี้ พวกท่านไม่จัดการ อะไรเลย วิธีการทั่วไป แค่ย้ายไปหัวเมือง จะต้มยำ ทำแกง อะไร ก็แสนจะง่าย กาลภายหน้า เมื่อแยกเป็นลัทธิแล้ว การเดินสาย บริจาค สำนักพุทธ หรืออะไร จะสนับสนุน ก็จะทำได้ลำบาก สงสารลูกหลานเถอะครับ
ปัญหา คือ ทรัพย์สิน ที่ธรณีสงฆ์ ที่ถือครองตอนเป็นเถรวาท เอาไปได้ไหม หรือ ต้องคืน ให้กับ สงฆ์เถรวาทไทย??
ถ้าทำได้ คงมีแต่ชื่อ ลัทธิ กับ สาวก และ สานุศิษย์ เท่านั้นที่เอาไปได้ ส่วนทรัพย์สิน คงตกเป็นของแผ่นดิน ของสงฆ์พุทธเถรวาท ต่อไป
"ศรีวราห์" เตรียมยึดศูนย์ฯ ธรรมกายเขาใหญ่ http://www.now26.tv/view/81979 ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ตำรวจ ปทส. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เตรียมเข้าตรวจยึดที่ดินศูนย์ปฏิบัติธรรม เวิลด์พีซวัลเล่ย์ เขาใหญ่ ของวัดพระธรรมกาย หลังพบว่าพื้นที่กว่า 400 ไร่ บุกรุกพื้นที่เขตนิคมสร้างตนเอง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เตรียมเดินทางมายังสถานีตำรวจภูธรหมูสี จ.นครราชสีมา เพื่อมาติดตามปฏิบัติการตรวจยึดพื้นที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมเวิลด์พีซ วัลเล่ย์ เขาใหญ่ โดยแผนปฏิบัติการวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ส่วนเพื่อเขาตรวจสอบ ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส. สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย เพื่อเตรียมเข้าตรวจยึดพื้นที่บางส่วนของศูนย์ปฎิบัติธรรม เวิล์พีช วัลเลย์ เขาใหญ่ และวัดถ้ำเขาวง ในอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา หลังตรวจสอบพบว่ามีพื้นที่บางส่วน เนื้อที่มากกว่า 100 ไร่ ไม่มีเอกสารครอบครองสิทธิ์ และก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งการสร้างอาคารปิดกั้นทางเดินน้ำตามธรรมชาติ และสร้างอาคารปิดกั้นทางสาธารณะ โดยปฏิบัติการวันนี้ พลตำรวจเอก ศรีวราห์ รังสิพรามหณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาควบคุมปฎิบัติการครั้งนี้ด้วยตัวเอง แผนการปฏิบัติการ / เจ้าหน้าที่จะแบ่งกำลังออกเป็น 2 ส่วน / ส่วนแรก จะเข้าตรวจสอบพื้นที่เวิลพีช วัลเล่ เขาใหญ่ และอีกส่วน จะเข้าตรวจสอบวัดถ้ำเขาวง ที่พบพื้นที่บางส่วนบุกรุกเขตอุทยานแห่งชาติป่าเขาเสียดอ่า ศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ บ้านหนองจอก ม.6 ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และกินอาณาบริเวณกว้างใหญ่อยู่ในเขตนิคมสร้างตนเองลำตะคอง จ.นครราชสีมา มีพื้นที่ทั้งหมดจำนวน 480 ไร่ แบ่งออกเป็น 20 แปลง แยกเป็นโฉนดที่ดิน 3 แปลง น.ส.3 อีก จำนวน 10 แปลง ส่วนที่เหลืออีก 7 แปลง รวม 100 ไร่ เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบประเภทที่ดิน หากไม่พบ จะยึดทันที
ถ้าเป็นที่ดินแถวหมูสีจะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนนะครับ การครองครองที่ดินแถวนั้นมีกรณีละเมิดกฏหมายมากเหลือเกิน อาจเป็นช่องทางให้ลัทธินี้อ้างได้ว่าเลือกปฏิบัติ