ก่อนอื่น ขออนุญาตตั้งกระทู้ใหม่ ว่าด้วยเรื่องทำมะกายล้วนๆ ครับ สืบเนื่องจากกระทู้ ด่วน!! ม็อบจิ้งเหลือง เริ่มบุกแล้ว หลายหน้าแล้ว และหัวกระทู้ไม่ค่อยตรงกับทำมะกาย อาจทำให้สมาชิกบางท่านไม่ได้รับข่าวสารเกี่ยวกับทำมะกาย จากที่ผมสังเกตใน FB ถ้ามีเรื่องไหนที่เกี่ยวกับแทมมี่ จะมีบรรดาเหล่าสาวกมาโพสบิดเบือนกันอย่างล้นหลาม ขอเชิญพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ในนี้มาถกกันในนี้ครับ
ในวันที่ 29 มีนาคม 59 DSI ออกหมายเรียก"ธัมมชโย" ในข้อหา"ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร" กรณีรับเชคจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นมูลค่า 800 ล้านบาท โดยพระธัมมชโยจะต้องมาสอบปากคำด้วยตัวเองที่ดีเอสไอวันที่ 8 เม.ย.นี้
ท่าน Ricebeanoil ให้ความเห็นว่า พฤติการณ์ของคดีเริ่มต้นขึ้นเมื่อ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯ และ พวกร่วมกันจัดทำรายงานประจำปี 2552-2555 ตกแต่งบัญชีว่าการดำเนินงานมีผลกำไร สามารถจ่ายเงินปันผลได้ถึง 10% แต่ภายหลังดีเอสไอสอบสวนกลับพบว่ามีผลประกอบการขาดทุนมาตลอด ทำให้ประชาชนหลงเชื่อนำเงินมาฝากจำนวนมาก ตัวละครที่ทำให้เจ้าหน้าที่พบพิรุธในคดีนี้คือ นายสถาพร วัฒนาศิรินุกุล เจ้าของหุ้น บริษัท เอส.ดับบลิว.โฮลดิ้งกรุ๊ป ประเทศไทย จำกัด อดีตพระลูกวัดพระธรรมกาย ที่สึกออกมาในปี 2554 เพื่อดูแลธุรกิจมูลค่า 1,110 ล้านบาท ซึ่งมีการตรวจสอบพบว่า หุ้นจำนวนนี้ เคยปรากฎชื่อ นายศุภชัย เป็นผู้ถือครอง ก่อนจะโอนต่อไปให้นายสถาพร ถือครองแทน หลังจากจดทะเบียนบริษัทนี้ขึ้นมา เงินจำนวนมหาศาลก็ได้เคลื่อนย้ายเข้าออกจนผิดปกติ กลางปี 2556 นายศุภชัย ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานสหกรณ์ฯ ต่อมาไม่นาน กรมส่งเสริมสหกรณ์ มีคำสั่งให้นายศุภชัยออกจากตำแหน่ง โดยระบุว่าระหว่างวันที่ 10 เมษายน-8 ตุลาคม 2556 นายศุภชัย สั่งการให้เบิกจ่ายเงินสดของสหกรณ์หลายครั้ง เข้าบัญชีตัวเอง และบุคคลที่ 3 โดยทุจริต ในชั้นสอบสวนนายศุภชัย ให้การปฏิเสธ 1 พฤษภาคม 2557 สหกรณ์ฯ ยื่นฟ้องนายศุภชัย กับพวกรวม 18 คน และขอให้ศาลมีคำสั่งชั่วคราวก่อนพิพากษาโดยการยึดและอายัดทรัพย์สินที่ ยักยอก รวมราคาประเมินกว่า 3,900 ล้านบาท 24 มิถุนายน 2557สหกรณ์ฯ ยื่นแผนต่อศาลล้มละลายกลาง เพื่อขอฟื้นฟูกิจการ โดยมีจำนวนหนี้ 21,934 ล้านบาท เจ้าหนี้ 56,601 ราย 12 กุมภาพันธ์ 2558 ปปง. แถลงยึดทรัพย์จากนายศุภชัย และพวก ทั้งสิ้น 1,221.6 ล้านบาท 2 เมษายน 2558 นายศุภชัย ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ หลังศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว แม้จะยื่นอุทธรณ์ถึง 2 ครั้ง 24 เมษายน 2558 ดีเอสไอ สรุปสำนวนฟ้องนายศุภชัย อีก 2 ข้อหา คือยักยอกทรัพย์และลักทรัพย์ รวม 8 กรรม 29 ตุลาคม 2558 ดีเอสไอเผย ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2552 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554 กลุ่มวัดพระธรรมกาย ได้รับเช็คจากสหกรณ์ รวม 21 ครั้ง เป็นเงินมากกว่า 1,200 ล้านบาท โดยไม่มีมูลหนี้กับทางสหกรณ์ 8 มีนาคม 2559 นายศุภชัย รับสารภาพว่าได้ยักยอกทรัพย์กว่า 27.4 ล้านบาทจริง ศาลพิพากษาจำคุก 16 ปี โดยไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ 3 มีนาคม 2559ปปง.มีมติให้อายัดทรัพย์สินฯ ผู้ต้องหาในคดีสหกรณ์คลองจั่น เพิ่มเติม รวมมูลค่าประมาณ 83.54 ล้านบาท วัดพระธรรมกายออกแถลงการณ์โต้ทุกข้อกล่าวหา กรณีดีเอสไอออกหมายเรียกฐานฟอกเงิน และรับของโจร จากกรณีรับเช็ค 2 พันล้านจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ยืนยัน “พระธัมมชโย” บริสุทธิ์ แต่ไม่การันตีเดินทางไปพบเจ้าหน้าดีเอสไอด้วยตัวเองหรือไม่ พระสนิทวงศ์ วุฑฺฒิวํโส (อ่านว่า วุด-ทิ-วัง-โส) ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย แถลงเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา กรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ออกหมายเรียก พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระไชยบูลย์ ธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในฐานะผู้ต้องหากระทำความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร โดยให้ไปพบพนักงานสอบสวน ในวันที่ 8 เมษายนนี้ ที่สำนักคดีการเงินการธนาคาร ดีเอสไอ พระสนิทวงศ์ กล่าวว่า ขอยืนยันในความบริสุทธิ์ของพระธัมมชโย ที่ถูกกล่าวหาจาก นายธรรมนูญ อัตโชติ สมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น เพราะ พระธัมมชโย รับบริจาคเหมือนพระสงฆ์ทั่วไป ไม่ทราบถึงที่มาของเงิน โดยปัจจัยที่ได้มา ก็ได้นำไปสร้างศาสนสถานเรียบร้อยแล้ว รวมถึงก่อนหน้านี้กลุ่มลูกศิษย์ได้ร่วมกันลงขันระดมเงินเป็น “กองทุนเยียวยาช่วยเหลือ” มอบให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นไปแล้วกว่า 600 ล้านบาท โดยได้มีการตกลงกับศาลว่า ถ้าข้อกล่าวหายุติลง ทางสหกรณ์ฯต้องคืนเงินให้กับทางลูกศิษย์ ซึ่งทางสหกรณ์ฯ ได้ทำหนังสือขอบคุณ และมีความเข้าใจอันดีต่อกัน จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดทางดีเอสไอ จึงมีหมายเรียกออกมาเช่นนี้ ทั้งนี้ พระสนิทวงศ์ บอกอีกว่า กองทุนเยียวยาที่ให้ความช่วยเหลือสหกรณ์ฯ ไม่ใช่การคืนเงิน แต่เป็นการช่วยเหลือให้สหกรณ์ฯนำเงินไปช่วยสมาชิกที่ได้รับความเดือดร้อน ส่วนกรณีที่พระธัมมชโยโอนเงินหลักร้อยล้านบาทกลับไปยังบัญชีบุคคลอื่นแทน โดยมีการเปิดเผยรายชื่อกลุ่มพระที่มีชื่อเป็นผู้รับโอนเงินจากสหกรณ์เครดิต ยูเนี่ยนฯ เช่น พระวิรัช 100 ล้านบาท // พระมนตรี 100 ล้านบาท // พระครูปลัดวิจารณ์ฯ 119 ล้านบาทนั้น พระสนิทวงศ์ กล่าวว่า ประเด็นนี้ยังไม่ขอเปิดเผย ส่วนที่ดีเอสไอนัดให้พระธัมมชโย เข้าให้ปากคำในวันที่ 8 เมษายนนี้ เบื้องต้นยังไม่ยืนยันว่าเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายจะเดินทางไปด้วยตนเองหรือ ไม่ ดีเอสไอเผยเหตุออกหมายเรียกพระธัมมชโย เนื่องจากมีผู้มาร้องกรณีรับเช็คไม่มีมูลหนี้ เมื่อประมาณ 2-3 สัปดาห์ที่แล้ว โดยเจาะจงกล่าวหาพระธัมมชโย ทางดีเอสไอจึงทำการตรวจสอบหลักฐาน จนกระทั่งออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหารับของโจร และร่วมสมคบกันฟอกเงิน หลังจากที่พันตำรวจโทปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เปิดเผยว่าวานนี้ ได้ออกหมายเรียกพระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา กระทำความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงินและรับของโจร ในวันที่ 8 เมษายนนี้ เวลา 9นาฬิกา คดีนี้เนื่องจากนายธรรมนูญ อัตโชติ กลุ่มสมาชิกรายย่อยสหกรณ์ออมทรัพย์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น จำกัด ได้ยื่นเรื่องต่อดีเอสไอ เมื่อประมาณ 2-3 สัปดาห์ที่แล้ว โดยกล่าวหา พระธัมมชโย ในฐานความผิดสมคบกันฟอกเงิน และรับของโจร กรณีรับเช็คไม่มีมูลหนี้ ทางดีเอสไอจึงได้รับเรื่องไว้ แล้วรวบรวมหลักฐาน จนสามารถออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาตามขั้นตอนของกฎหมาย พันตำรวจโทปกรณ์ กล่าวอีกว่า คดีนี้ในชั้นสอบพยานพระธัมมชโยให้พระรูปอื่นมาให้ปากคำแทน แต่เมื่อมีผู้มาแจ้งข้อกล่าวหา ระบุให้ดำเนินคดีกับพระธัมมชโย ดีเอสไอจึงต้องออกหมายเรียก ซึ่งในชั้นนี้จะต้องรอดูว่าพระธัมมชโยจะมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก ในวันที่ 8 เมษายนหรือไม่ โดยการออกหมายเรียกครั้งนี้ได้รายงานให้พันตำรวจเอกไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอได้รับทราบแล้ว ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อสอบถาม ไปยัง ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร ดีเอสไอ ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ โดยก่อนหน้านี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ได้ทำการอายัดทรัพย์ เป็นหุ้น บริษัท เอส.ดับบลิว.โฮลดิ้งกรุ๊ป ประเทศไทย จำกัด มูลค่า 1,110 ล้านบาท หลังสอบพบว่า หุ้นจำนวนนี้นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เคยเป็นผู้ถือครอง ก่อนจะทำการโอนให้นายสถาพร พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าจะไม่มีการปลดพลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ออกจากตำแหน่ง กรณีที่ให้สัมภาษณ์ถึงการครอบครองรถเบนซ์โบราณของสมเด็จช่วง วัดปากน้ำ จนทำให้กลุ่มสนับสนุนออกมาเคลื่อนไหว จะนำรายชื่อ 4 หมื่นรายชื่อเสนอให้ถอดถอนหรือย้าย ถามกลับว่าใครมีอำนาจแต่งตั้ง ชี้ปัญหาอยู่ที่ทนาย หลังจากที่พระเมธีธรรมาจารย์ หรือเจ้าคุณประสาร เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่า ได้รับนิมนต์พิเศษจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในเรื่องการยุติการเคลื่อนไหวใดๆ เพื่อให้เกิดความสบายใจและความสงบเรียบร้อยของทุกฝ่าย ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าหากทุกคนทุกฝ่ายยุติการเคลื่อนไหวใดๆ กระบวนการการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการของรัฐบาลก็จะเดินหน้าไปได้อย่างไม่มีปัญหา ซึ่งต่อมา นายเมธาพันธ์ โพธิธีรโรจน์ เลขาธิการสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา หรือ สนพ. เปิดเผยว่าพระผู้ใหญ่แจ้งมายังศูนย์พิทักษ์ฯ และภาคีเครือข่ายให้ออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง โดยเห็นตรงกันว่า จะนำรายชื่อที่มีการรวบรวมเพื่อยื่นถอดถอนผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งขณะนี้รวบรวมได้แล้วกว่า 60,000 รายชื่อ แบ่งเป็นสองส่วนเพื่อนำไปยื่นต่อนายกรัฐมนตรี โดยขอให้พิจารณาถอดถอน หรือย้าย พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคาดว่าจะสามารถยื่นรายชื่อได้ประมาณต้นเดือน เมษายนนี้ ล่าสุดเมื่อวานนี้ พลเอกประยุทธ์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณี สนพ. เตรียมยื่น 4 หมื่นรายชื่อให้นายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอปลดพลเอกไพบูลย์ จากกรณีให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับคดีรถโบราณที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ สมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เป็นผู้ครอบครอง ว่าจะปลดเรื่องอะไร ใครมีอำนาจที่จะตั้งที่จะปลด พลเอกไพบูลย์ เคารพพระมาตลอด ปัญหาอยู่ที่ทนาย ที่พูดทุกอย่างวุ่นวายไปหมด พลเอกประยุทธ์ ยังได้กล่าวถึงการทำงานของสื่อในประเด็นนี้อีกว่า ให้แยกแยะบ้าง ไม่ใช่ใครบอกอะไรก็ตามเขาไปหมด เป็นปากเป็นเสียงเขาไปหมด แยกบ้างว่าอะไรดีหรือไม่ดี แยกให้ตนบ้าง สื่อควรที่จะเป็นอย่างนั้น แยกไม่ออกหรือว่าใครดี ใครไม่ดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ออกหมายเรียกเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย รับทราบข้อกล่าวหาฟอกเงินและรับของโจร จากการรับเงินบริจากที่ยักยอกมาจากสหกรณ์คลองจั่น ในวันที่ 8 เมษายนนี้ พันตำรวจโท ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ลงลายมือชื่อออกหมายเรียก พระเทพมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในฐานะผู้ต้องหา มารับทราบข้อกล่าวหา ในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน รวมถึงข้อหารับของโจร ในวันที่ 8 เมษายนนี้ โดยในหนังสือระบุถึงพฤติกรรมของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ยักยอกเงินจากสหกรณ์ฯคลองจั่น ได้สั่งจ่ายเช็คหลายสิบฉบับ ให้กับพระธัมมชโยกว่า 680 ล้านบาท โดยพระธัมมชโย ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสหกรณ์แต่อย่างใด แต่หลังจากได้รับเงินแล้ว ไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดได้ว่านำเงินไปใช้อะไรบ้าง สำหรับนายศุภชัย ถูกดำเนินคดีข้อหายักยอกเงินสหกรณ์กว่า 13,000 ล้านบาท โดยอาศัยอำนาจหน้าที่ สั่งจ่ายเช็ค 878 ฉบับ ให้กับกลุ่มบุคคล กลุ่มพระสงฆ์ และนิติบุคคล เป็นเหตุให้สหกรณ์ขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินจ่ายให้กับสมาชิกหลายหมื่นราย ได้รับความเดือดร้อน และเข้าร้องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อปี 2556 ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังประชาสัมพันธ์วัดพระธรรมกาย เพื่อสอบถามว่าได้รับหมายเรียกจากดีเอสไอแล้วหรือไม่ แต่ฝ่ายประชาสัมพันธ์บอกเพียงว่ายังไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรได้ในตอนนี้
และในวันที่ 4 เมษายน 2559 "ธัมมชโย" เตรียมขอเลื่อนเข้ารับทราบข้อหา เหตุติดงานวันเกิด.. ทนายวัดธรรมกายเผย "ธัมมชโย" เตรียมขอเลื่อนนัดเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับดีเอสไอ อ้างไม่สะดวกเดือนเม.ย.เพราะต้องเตรียมงานบุญวันเกิด "เดือนเมษายนนี้ เป็นเดือนเกิดของพระ จึงต้องมีการจัดเตรียมงานบุญวันเกิดในวันที่ 22 เม.ย.นี้ ดังนั้น อาจไม่สะดวกที่จะเข้าพบพนักงานสอบสวนในเดือนนี้ ต้องขอหารือเพื่อกำหนดนัดใหม่ หลังจากนี้จะทำหนังสือแจ้งขอเลื่อนอย่างเป็นทางการไปยังพนักงานสอบสวนดีเอสไอเพื่อแจ้งเหตุผลการขอเลื่อนประกอบการพิจารณากำหนดวันนัดต่อไป"ทนายวัดพระธรรมกาย.กล่าว
ระทึก !! "ดีเอสไอ" ส่งปปช.ฟัน "มหาเถรสมาคม" ผิด ม.157 ปมปล่อยผ่าน "ธัมมชโย" ปาราชิก ?? เดือนเมษายนนี้ เป็นเดือนเกิดของพระ จึงต้องมีการจัดเตรียมงานบุญวันเกิดวันที่ 22 เมษายน ดังนั้น อาจไม่สะดวกที่จะเข้าพบพนักงานสอบสวนเดือนนี้ ต้องขอหารือเพื่อกำหนดนัดใหม่ หลังจากนี้จะทำหนังสือแจ้งขอเลื่อนอย่างเป็นทางการไปยังพนักงานสอบสวนดีเอสไอ แจ้งเหตุผลการขอเลื่อนประกอบการพิจารณากำหนดวันนัดต่อไป ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งว่าจะเข้าพบพนักงานสอบสวนตามนัดหรือแจ้งขอเลื่อนการรับทราบข้อหา หากได้รับหนังสืออย่างเป็นทางการจะพิจารณาเหตุผลและความจำเป็นก่อนทำความเห็นว่าจะให้เลื่อนนัดหรือไม่ ขณะนี้ไม่สามารถให้คำตอบได้ --------------------------------- ที่เป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอีก นอกเหนือจากการดำเนินคดีกับพระธัมมชโยซึ่งเป็นคดีฉ้อโกงเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น อีกหนึ่งเรื่องร้อนของพระธัมมชโยนั่นคือ ข้อครหาว่าได้อาบัตปาราชิกไปแล้วหรือไม่ จากกรณียักยอกทรัพย์ เมื่อปี 2542 ซึ่งต่อมาอัยกายมีการถอนฟ้องกระทันหันและมหาเถรสมาคมก็มีมติไม่ดำเนินการใดๆต้อพระธัมมชโย จึงเกิดคำถามขึ้นมาว่าการที่หน่วยงานของรัฐดำเนินการช่วยเหลือพระธัมมชโยนั้นถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 157 หรือไม่ ล่าสุด ดีเอสไอสรุปกรณีพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชให้ดำเนินการอาบัติปาราชิกกับเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ฐานยักยอกทรัพย์ เมื่อปี 2542 ส่ง ป.ป.ช.พิจารณาดำเนินการเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานละเลย ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
พระลิขิต 6 ฉบับ ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2542 ให้ดำเนินการตามพระธรรมวินัยกับพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย กรณีเป็นภิกษุยักยอกทรัพย์กว่า 950 ล้านบาทของวัดมาเป็นของตน ถูกยื่นให้ดีเอสไอตรวจสอบการทำหน้าที่ของผู้ปกครองคณะสงฆ์และกรมการศาสนา หรือสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในปัจจุบัน ล่าสุดดีเอสไอสรุปส่ง ป.ป.ช.พิจารณาดำเนินการตามคำร้อง เอาผิดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ฐานเป็นเจ้าพนักงานละเลยไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่ดำเนินการตามพระลิขิต แต่ว่า ในการประชุม วันที่ 10 กุมภาภาพันธ์กับการประชุมมหาเถรสมาคม ในประเด็นปัญหาเกี่ยวกับสมณะความเป็นสงฆ์ของพระธัมมชโย ซึ่ง เกี่ยวกับองค์ประกอบความผิดเรื่องการยักยอกทรัพย์วัดธรรมกายเมื่อปี 2542 ควรดำเนินการให้เป็นไปตามพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช ถูกปฏิเสธจากที่ประชุมมหาเถรสมาคมอย่างสิ้นเชิง
กรรมการมหาเถรสมาคมชุดปัจจุบัน ประกอบด้วย ฝ่ายมหานิกาย ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรรมการมหาเถรสมาคมโดยสมณศักดื์ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (วีระ ภทฺทจารี) วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม) วัดพิชยญาติการามวรวิหาร สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคมโดยแต่งตั้ง พระพรหมวชิรญาณ (ประสิทธิ์ เขมงฺกโร) วัดยานนาวา พระวิสุทธิวงศาจารย์ (วิเชียร อโนมคุโณ) วัดปากน้ำ พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) วัดสามพระยา พระพรหมโมลี (สุชาติ ธมฺมรตโน) วัดปากน้ำ พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย กรรมการมหาเถรสมาคมโดยสมณศักดื์ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร) วัดสัมพันธวงศาราม วรวิหาร สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมฺพโร) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหารเริ่มวาระ สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร สมเด็จพระธีรญาณมุนี (สมชาย วรชาโย) วัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคมโดยแต่งตั้ง พระพรหมเมธาจารย์ (คณิศร์ เขมวํโส) วัดบุรณศิริมาตยาราม พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร พระพรหมมุนี (สุชิน อคฺคชิโน) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร พระพรหมวิสุทธาจารย์ (มนตรี คณิสฺสโร) วัดเครือวัลย์วรวิหาร เริ่มวาร พระธรรมธัชมุนี (อมร ญาโณทโย) วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร พระธรรมบัณฑิต (อภิพล อภิพโล) วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก ทั้งนี้คงต้องจับตากันว่าหลังจากที่ดีเอสไอส่งเรื่องไปให้ปปช.เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งในที่นี้หมายถึงกรรการมหาเถรสมาคม จะทำให้เกิดสถานการณ์อะไรต่อไป
ท่านไม่ผิดครับ เพียงแต่กระทู้นั้น รวมหลายเรื่องที่เกี่ยวกับโล้นห่มเหลือง ผมกลัวว่าผู้อ่านจะสับสนว่าเป็นเรื่องของคนไหน คือมีหลายคนปนเปกันไป ผมเลนแยกกระทู้นี้เป็นของทำมะกายครับ
ตามปกติ บุคคลใดก็ตามเมื่อถูกกล่าวหา แต่ศาลยังไม่ได้ตัดสินถึงที่สุด เรามักจะถือว่าบุคคลผู้นั้น ยังบริสุทธิ์อยู่ แต่เรื่องธัมมี่เนี๊ยะ พฤติกรรมมันเด่นชัดเหลือเกิน ต่อให้ยังไม่มีการตัดสินใดๆ แต่ในใจผมถือว่าบุคคลนี้...ไม่ใช่พระ
การใช้ทีมประชาสัมพันธ์ ทีมนักกฏหมาย ทีมทนายความ และการใช้เล่ห์เหลี่ยมแง่มุมทางกฏหมายส้างความสับสนและเตะถ่วงคดีให้ล่าช้า ดูแล้วเสมือนว่าเป็นคนมีกลยุทธิ์รู้จักใช้กฏหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ตน แต่ผลข้างเคียงคือสังคมมองว่าไม่ใส เจ้าเล่ห์เพทุบายซึ่งไม่จำเป็นที่สุจริตชนต้องใช้กระบวนการเหล่านี้ ยิ่งเป็นพระสงฆ์ยิ่งทำให้สังคมเคลือบแคลงใจมากขึ้น ถ้าสังคมตัดสินไปแล้วว่าท่านผิดไม่ว่ากรณีรถหรูของสมเด็จช่วงหรือกรณีฟอกเงิน-รับของโจรของวัดพระธรรมกายก็อย่าไปโทษโน่นโทษนี่เลย ท่านมองตัวเองเถอะ
สรุปดีเอสไอ. ยอมเลื่อน "ดังนั้น ผมจึงได้หารือกับ พ.ต.ท. สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาในรายละเอียด โดยเห็นว่ามีเหตุสมควรให้เลื่อน และให้มารับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง ในวันที่ 25 เมษายน 2559 เวลา 09.00 น. ที่สำนักคดีการเงินการธนาคาร และมอบหมายให้หัวหน้าพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ไปยังพระเทพญาณมหามุนีให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวัน เวลาดังกล่าวต่อไป"พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าว http://www.thaipost.net/?q=ดีเอสไอนัดธัมมชโย25เมย-เข้ารับทราบข้อหาฟอกเงิน ..............................................................................................
ต้องเตรียมงานวันเกิดจึงเลื่อนให้ ครั้งหน้าวันที่ 25 เมษายน ก็ขอเลื่อนอีกครั้ง เนื่องจากเหน็ดเหนื่อยจากการจัดงานวันเกิด จนมีอาการไข้ ปวดหัว-ตัวร้อน มีใบรับรองแพทย์แนบมาด้วย
ดีเอสไอ อนุมัติให้ พระธัมมชโย เลื่อนรับทราบข้อกล่าวหาฟอกเงินและรับของโจร เป็น 25 เม.ย.นี้ วันนี้ (7 เม.ย. 59) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ร่วมหารือคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เห็นสมควรให้พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เลื่อนรับทราบข้อกล่าวหาฟอกเงินและรับของโจร กรณีรับเงินที่ได้จากการยักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เป็นวันที่ 25 เม.ย. 2559 เวลา 09.00 น. พร้อมให้ออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 2 หลังนายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความของพระธัมมชโย ได้มีหนังสือ แจ้งว่าช่วงเดือนเม.ย. พระเทพญาณมหามุนี ติดศาสนกิจ และมีพิธีกรรมทางศาสนาอีกหลายอย่าง อาทิ โครงการบรรพชา สามเณรภาคฤดูร้อน รวมทั้งงานประเพณีสงกรานต์ งานวันคุ้มครองโลก และกิจกรรมตักบาตรทั่วประเทศ จึงไม่สามารถรับทราบข้อหาตามหมายเรียกครั้งแรกวันที่ 8 เมษายน เวลา 09.00 น.ได้ ขณะที่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า เป็นสิทธิของผู้ที่ถูกออกหมายเรียกที่จะขอเลื่อนเข้าพนักงานสอบสวนแต่หากถูกออกหมายเรียกครบ 3 ครั้งก็จะถูกออกหมายจับตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้พระสนิทวงศ์ วุฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ออกมาแถลงยืนยันความบริสุทธิ์ของพระธัมมชโยและปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยชี้แจ้งว่า พระธัมมชโย รับบริจาคโดยไม่ทราบที่มาของเงินและทางลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ได้ระดมเงิน "กองทุนเยียวยาช่วยเหลือ" ให้สหกรณ์ไปแล้วกว่า 600 ล้านบาท
รอบนี้ไม่ให้เลื่อนแล้ว น่าจะเข้าพบได้แล้ว ยิ่งยืดเยื้อยิ่งน่าสงสัย แต่ช่วงหลังมาผมแปลกใจนะ อ่านข่าว ไทยโพสต์ แนวหน้า รู้สึก สาวกธรรมกายมาโพสต์เชียร์ข่าวธรรมกายบ่อยมากๆ คล้ายๆเป็นกลุ่มขาประจำด้วย เลยนึกถึงข่าวที่มีเพื่อนสมาชิกมาลงว่า ธรรมกายรับสมัครนักรบหน้าจอ สงสัยจะจริง
ถ้าคิดว่าไม่ผิด จะขอเลื่อนทำไม DSI ไม่ฟังเหตุผล ธัมมชโย ไม่ยอมให้เลื่อนนัด ถึงจะอ้างโครงการระดับจักรวาลก็ตาม ล่าสุด วันนี้ (22 เม.ย.) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า ตนได้รับรายงานจากคณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอซึ่งทราบว่านายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความของพระธัมมชโย ได้เดินทางมาที่กระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 20 เม.ย. เพื่อประสานขอเลื่อนวันนัดหมายการรับทราบข้อกล่าวหาจากกำหนดเดิม คือ วันที่ 25 เม.ย.ไปเป็นปลายเดือน พ.ค.นี้ เนื่องจากพระธัมมชโยติดศาสนกิจมากมาย พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวต่อว่า หลังได้รับการประสานขอเลื่อนนัดจากทนายความของพระธัมมชโย ทางคณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอจึงได้ประชุมร่วมกับอัยการ พร้อมเห็นสมควรว่าไม่ให้พระธัมมชโยเลื่อนนัดออกไปอีก โดยให้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 25 เม.ย.นี้เช่นเดิม เนื่องจากได้อนุญาตให้เลื่อนนัดก่อนหน้านี้แล้ว 1 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ยังไม่ถึงกำหนดวันนัดหมายและเหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้นจึงบอกอะไรไม่ได้มาก แต่หาก พระธัมมชโยไม่เดินทางมารับข้อกล่าวหาตามที่พนักงานสอบสวนได้นัดหมายไว้ก็จะ ประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาดำเนินการในขั้นต่อไป
'ธรรมกาย' แจงอาพาธ แพทย์ให้งดกิจ 15 วัน เนื่องจากการปฏิบัติศาสนกิจตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา พระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) มีอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุนรุนแรงเฉียบพลัน มีปัญหาในการทรงตัว และมีอาการปวดหลัง ปวดขาซ้ายเนื่องจากกล้ามเนื้ออักเสบรุนแรง ประกอบกับมีอาการเจ็บป่วยเรื้อรังและรุนแรงจากโรคเบาหวาน ภูมิแพ้ เส้นเลือดอุดตันที่โคนขาซ้าย มีแผลติดเชื้อที่เท้าเรื้อรัง คณะแพทย์ผู้รักษาจึงมีความเห็นว่าสมควรพักและงดภารกิจ เป็นเวลา 15 วัน โห เป็นหลายโรคขนาดนี้ แล้วอาการรุนแรงด้วย จะรอดหรือเปล่าเนี่ย ชิตังเม โป้ง โลง
จะคอยชมว่ากฎหมายจะจัดการคนไม่ใช่คนได้มั๊ย??? ซึ่งผมว่าไม่ได้ เราปล่อยให้ลงรากลึกแล้ว ขนาดบ่อนเตาปูนที่ใช้แค่สลัมเป็นเกราะยังตั้งนาน คงต้องรอให้ผุไปเอง
กปปส. ลุมพินี ด่วน ! DSI ขอศาลอนุมัติออกหมายจับ #พระธัมมชโย แล้ว https://tmblr.co/ZOckml25XgEDh #ธรรมกาย
ทั้งนี้เวลา 18.00 น. ทีมโฆษกดีเอสไอออกแถลงการณ์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่าตามที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาเป็นครั้งที่ 2 เพื่อให้พระธัมมชโยมาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 25 เม.ย. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความพระธัมมชโยได้มายื่นหนังสือขอเลื่อนการเข้าพบพนักงานสอบสวน ซึ่งภายหลังพนักงานสอบสวนได้รับหนังสือการขอเลื่อนแล้ว ต่อมาในเวลา 13.00 น. ได้ประชุมร่วมกับพนักงานอัยการหารือการขอเลื่อนและพิจารณาเห็นร่วมกันว่าการที่พระธัมมชโยมีหนังสือเลื่อนพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษถึง 2 ครั้ง โดยอ้างเหตุประกอบศาสนกิจและอ้างอาการป่วย โดยใช้ใบรับรองแพทย์จากคลินิกเอกชน แต่กลับปรากฎว่ามีการเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนาต่าง ๆ ได้เป็นปกติ จึงไม่มีเหตุอันสมควรที่จะขอเลื่อนการมาพบพนักงานสอบสวน จึงเห็นว่าพฤติการณ์ดังกล่าวเป็นไปในลักษณะหลีกเลี่ยงที่จะไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และเนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นความผิดที่ถูกกล่าวหาที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 3 ปี อีกทั้งทางคดีมีหลักฐานพอสมควรว่าผู้ถูกกล่าวหาน่าจะได้กระทำความผิดดังกล่าว จึงมีเหตุตามกฎหมายที่จะเสนอให้มีการออกหมายจับ ดังนั้นพนักงานสอบสวนมีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อขออนุมัติออกหมายจับพระธัมมชโยมาดำเนินคดีต่อไป http://www.komchadluek.net/detail/20160425/226506.html ........................................................................ ใช้ใบรับรองแพทย์จากคลีนิค ??????? ครั้งแรกอ้างติดวันเกิดและติดงาน ครั้งนี้อ้างป่วย ก็สมควรโดนแล้วครับ ยิ่งยืดเยื้อยิ่งเสื่อมศรัทธามากเรื่อยๆ และข้อสงสัยที่ว่าผิดจริงก็ยิ่งชัดเจนมากเช่นกัน
ผมว่าป่วย แต่ปฎิบัติศาสนกิจได้ เพราะอยู่ที่วัด ไม่น่าจะมีปัญหา แต่จะให้เดินทางไกลมาถึง DSI มีไทมุงเพียบ ก็ไม่เหมาะกับสุขภาพคนป่วย แบบนี้ทำไม DSI ไม่เข้าไปพบถึงวัดละ จะได้ลดข้อครหา ของทางศิษย์ธรรมกายได้
รอยตุ๊ รอยข่าว วัดพระธรรมกายแถลง "พระธัมมชโย" อาพาธรุนแรง ขอเลื่อนนัด // เป็นโรคตอแหลลงตับกันทั้งวัด ถ้าชิตังเม ไม่จริง เขาเหล่านี้มีความผิดมั้ยยย???
คงไม่มีแบบไมค์จ่อปาก ขอเซลฟี้หรอกนะ มารถฉุกเฉินอาสาฯมูลนิธิฯ อ๋อ! อาจเข้าใจผิดได้ เอา รถ ambulance ก้อได้ ขั้นอาพาธรันแรงนี้ น่าเข้า ICU นะ
Suvinai Pornavalai หมากที่เดินพลาดร้ายแรงของธัมมชโย/ ในที่สุดDSIก็ออกหมายจับธัมมชโยแล้วในข้อหาฟอกเงิน-รับของโจร นี่เป็นข้อหาที่ร้ายแรงทั้งทางโลกและทางธรรม ทางโลก หมายความว่าธัมมชโยถูกทางการกล่าวหาว่าเป็นอาชญากร แสดงว่าทางการต้องหลักฐานแน่นหนาที่สามารถมัดตัวธัมมชโยได้จึงกล้าออกหมายจับเช่นนี้ ในทางธรรม หมายความว่าธัมมชโชยปาราชิกแล้ว ตายขาดจากความเป็นพระในพุทธศาสนามานานแล้ว นี่เป็นเรื่องที่ธัมมชโชยต้องออกมาเผชิญหน้า สู้หน้าความจริงโดยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และต่อสู้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองที่นั่น ในสังคมที่นิติรัฐเป็นใหญ่ ไม่ว่าใครก็ต้องทำแบบนี้ทั้งสิ้น เพราะทุกคนต้องอยู่ใต้กฏหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น ถ้าไม่ยอมก็ต้องหนีคดีไปต่างประเทศเท่านั้น การที่ธัมมชโยทำแบบนี้ คงคิดใช้แผนกำแพงมนุษย์คุ้มครองตัวเงภายในวัดธรรมกาย เพราะธัมมชโยคงมั่นใจลึกๆว่า ตราบใดที่ตัวเองมุดหัวอยู่ภายในวัดจนสิ้นลม ตราบนั้นตัวเองคงรอดเงื้อมมือกฏหมายไปได้จนวันตาย แต่ธัมมชโยคงลืมไปกระมังว่า ตัวเองไม่มีวันหลุดรอดจากกฏแห่งกรรมที่ตัวเองได้ทำกรรมอะไรลงไปแล้ว การใช้วิธีหลบหนีเงื้อมมือกฏหมายโดยอยู่แต่ภายในอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ของธรรมกายจนกว่าจะอยู่ในเงื้อมมือของมัจจุราชนั้น มันไม่เพียงไม่สามารถชำระมลทินที่ตัวเองถูกกล่าวหาได้เลยแม้แต่น้อย มีนยังไม่สง่างามเลยสำหรับคนที่เคยอ้างตัวว่าเป็นหัวหน้าพุทธะอย่างธัมมชโย เพราะพุทธะคือผู้กล้า ผู้สว่าง ผู้สะอาด ผู้สงบ และผู้สง่างามในทุกขณะจิต ผู้ที่เป็นพุทธะจริงๆย่อมไม่กลัวการเผขิญหน้ากับอธรรมทั้งปวง สาวกวัดธรรมกายที่เป็นสาธุชน ใจกว้าง ไม่มืดบอดงมงาย ย่อมยินดีที่จะให้หลวงพ่อธัมมชโชยของพวกตนออกไปเผชิญหน้ากับ "อธรรม" อย่างไม่หวาดหวั่น มิใช่หรือ ไม่มีห้วงยามใดที่จะพิสูจน์ความเป็นของแท้ ของจริงของ "วิชาธรรมกายของวัดธรรมกาย" เท่ากับช่วงเวลานี้อีกแล้วว่า ธัมมชโชยผู้เป็นคุรุแห่งวิชาธรรมกายของพวกสาวก จะสามารถสำแดงผลพวงแห่งการบำเพ็ญวิชาธรรมกายเกือบห้าสิบปีของตนออกมาได้แค่ไหน แต่น่าผิดหวังอย่างยิ่งที่ธัมมชโยกลับเลือกที่จะหนีเหมือนเช่นเคยด้วยข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น
ความเมตตาของศาล !!! ความเจ็บป่วย ของ จำเลย หรือ ผู้ต้องหา อยู่ที่ดุลพินิจของศาลท่าน ในการผัดผ่อน ทุเลา ข้อกล่าวหา ให้ปากคำ ช่องว่างเหล่านี้ ส่วนใหญ่นักการเมืองจะใช้เป็นประโยชน์ ผ่อนผัน แล้วหลบหนีไป
Nation TV - เว็บไซต์สถานีข่าวอันดับ 1 ของเมืองไทย "ด่วน!"ดีเอสไอ-อัยการ"ขอศาลอนุมัติหมายจับ"ธัมมชโย"" อ่านต่อที่: http://www.nationtv.tv/main/content/crime/378499348/ อ้าว ออกหมายจับแล้ว จะหายป่วยหรือเปล่า
มาตรา 166 ถ้าโจทก์ไม่มาตามกำหนดนัด ให้ศาลยกฟ้องเสียแต่ ถ้าศาลเห็นว่ามีเหตุสมควรจึ่งมาไม่ได้ จะสั่งเลื่อนคดีไปก็ได้ คดีที่ศาลได้ยกฟ้องดั่งกล่าวแล้ว ถ้าโจทก็มาร้องภายในสิบห้าวัน นับแต่วันศาลยกฟ้องนั้น โดยแสดงให้ศาลเห็นได้ว่ามีเหตุสมควรจึ่ง มาไม่ได้ก็ให้ศาลยกคดีนั้นขึ้นไต่สวนมูลฟ้องใหม่ ในคดีที่ศาลยกฟ้องดั่งกล่าวแล้ว จะฟ้องจำเลยในเรื่องเดียวกันนั้น อีกไม่ได้ แต่ถ้าศาลยกฟ้องเช่นนี้ในคดีซึ่งราษฎรเท่านั้นเป็นโจทก์ ไม่ตัดอำนาจพนักงานอัยการฟ้องคดีนั้นอีก เว้นแต่จะเป็นคดีความผิด ต่อส่วนตัว
คับไม่เก่งกฎหมายจริงๆ แต่ฝ่ายลูกศิษย์ธรรมกายเขาว่ามาแบบนี้ หลังจากที่ทาง DSI แถลงการณ์ว่าจะขอศาลอนุมัติหมายจับผ่านทางเอกสาร ผมก็มีโอกาสได้คุยกับเพื่อนที่เป็นทนายเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อนผมบอกว่าการที่ DSI ยื่นเอกสารเพื่อขอให้ศาลอนุมัติหมายจับเจ้าอาวาสวัดธรรมกาย...มันดูแปลกๆ อยู่ 2 ประเด็น ประเด็นแรก!!! คือ...ทำไม DSI ถึงเลือกแถลงการณ์ผ่านเอกสารแทนที่จะแถลงการณ์ออกสื่อแบบที่เคยทำผ่านมา ทั้งๆ ที่คดีนี้เป็นคดี Talk of The Town ที่มีผู้คนให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งมันผิดวิสัยของคดีดังๆ ที่สังคมจับตามอง ประเด็นที่สอง!!! เพื่อนผมตั้งข้อสังเกตุว่า...ทำไม DSI เหมือนพยายามจะรวบรัดขั้นตอนมากเกินไป ยิ่งผู้ต้องหาไม่มีวี่แววหลบหนี ตามหลักแล้วถ้าขอเลื่อนด้วยเหตุจากสุขภาพ (ในกรณีที่ป่วยจริง) หรือมีเหตุจำเป็นจริงๆ ก็น่าจะได้สิทธิตามนั้น ถ้าทาง DSI ไม่เชื่อในใบรับรองแพทย์ที่ทนายของวัดธรรมกายยื่นมา ตามกระบวนการเขาจะต้องส่งทีมแพทย์มาตรวจสอบว่าป่วยจริงหรือไม่ ถ้าเห็นว่าเจ้าอาวาสวัดธรรมกายป่วยไม่จริงตามที่ใบรับรองแพทย์ระบุ ถึงเวลานั้นจะขอให้ศาลอนุมัติหมายจับก็ยังไม่สาย เพราะถึงอย่างไรเจ้าอาวาสวัดธรรมกายท่านคงจะไม่หลบหนีไปไหน แต่ในครั้งนี้ DSI กลับข้ามขั้นตอนกระบวนการตรวจสอบในจุดนี้ โดยตัดสินใจกันเองไม่ได้ถามความเห็นจากแพทย์ (เพราะไม่ได้ส่งทีมแพทย์ของส่วนกลางเข้ามาตรวจสอบ) ซึ่งในจุดๆ นี้ ทาง DSI ดูไม่ค่อยจะให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่ถูกกล่าวหานั่นก็คือเจ้าอาวาสวัดธรรมกายเท่าไหร่นัก
เป็นลูกศิษย์ธรรมกายย่อมให้น้ำหนักความเห็นไปทางนั้นอยู่แล้วครับ ประเด็นแรก เล็กน้อยไปนะครับ ประเด็นที่.2 จริงหรือครับที่ว่า ถ้าไม่เชื่อการรับรองของแพทย์ต้องส่งแพทย์มาตรวจ?
