เริ่มแรกประเทศไทยมีแผนงานพัฒนาประเทศเรียกว่าแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งแต่ละแผนจะมีระยะเวลาดำเนินงาน 4 ปี โดยมีต้นแบบจากแผนพัฒนาประเทศของสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้เริ่มใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแผนแรกเมื่อปี 2504 ปัจจุบันประเทศไทยใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแผนที่ 12 รายละเอียดคร่าวๆ ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแต่ละฉบับเป็นดังนี้ http://mparu3hm.blogspot.hk/2010/10/pa604704-1-10.html ส่วนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ที่จะประกาศใช้ในปี 2560 http://www.youtube.com/watch?v=s5xPo84KmhA http://www.youtube.com/watch?v=siWcXLY32Zo http://www.youtube.com/watch?v=0Xb8lRqSV5c&t=275s http://www.youtube.com/watch?v=Af0i_fcXLG4 ต่อมามีแนวคิดจาก คสช. ที่จะตั้ง "ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี" ขึ้นมา โดยออกเป็นกฏหมายให้แนวทางแก่รัฐบาลในสมัยหลังได้ปฎิบัติตาม ส่วนรายละเอียดอ่านในนี้นะครับ http://plan.vru.ac.th/wp-content/uploads/2016/11/แผนชาติ-20-ปี-1.pdf ********************************************* ต่อมาก็มีเวบเพจไปอ้างคำพูดของเจ๊หน่อย แล้วเอามาฟินกันดังนี้ ********************************************* สงสัยเจ๊หน่อย แกไม่เคยไปดูประเทศข้างๆซะบ้าง ประเทศมาเลเซียเค้าใช้ยุทธศาสตร์ 30 ปี มาตั้งแต่สมัยมหาเธร์เป็นนายกฯ (ปี 1991) ตอนนี้ก้าวนำประเทศไทยไปแล้วจ้า ประเทศไทยเพิ่งเริ่มมียุทธศาสตร์ 20 ปีครั้งแรก แต่มาเลเซียเค้าทำจนจะครบ 30 ปีแล้วแล้วนะจ๊ะ มาเลเซีย ล่าสุดมาเลเซียเริ่มร่างแผนวิสัยทัศน์ 30 ปี ฉบับที่ 2 ที่จะใช้ในอีก 3 ปีข้างหน้าแล้วด้วยซ้ำ บรูไน แม้แต่ประเทศบรูไนที่เป็นประเทศเล็กๆ ก็ยังมีแผนยุทธศาสตร์ 27 ปีเหมือนกันนะ เริ่มแผนมาตั้งแต่ปี 2551 แล้วด้วยซ้ำ http://thailand.prd.go.th/1700/ewt/aseanthai/ewt_news.php?nid=5867&filename=index อินโดนีเซีย ส่วนของอินโดนีเซียก็มีแผน 14 ปี ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี 2011 มาแล้วเหมือนกัน https://thaipublica.org/2013/01/indonesia-mp3ei-2/
เป้าหมาย = กฎเกณฑ์ เป้าหมาย = รัดตัวเอง ฟังแล้วขำปนเศร้า เหมือนกับชีวิตไม่มีคำว่ายืดหยุ่น หรือจะชอบมาเร็วไปเร็วแบบจับปูมาเป็นนายกปั๊บ พังปุ๊บ ไม่ต้องถึง 10ปี ปล.จะว่าไป อาณาจักรไบก้อนนี้เสื้อแดงจริงหรือเปล่า มีความรู้สึกเหมือนมือด้วนเลย เหมือนแค่เอามาแปะเฉยๆ ล่อเป้าให้เสื้อแดงฟิน ติดตามเยอะๆก็ได้ กับให้คนที่เห็นธาตุแท้พวกนี้ด่าก็ดี แต่พออ่านข้อความแต่ละโพสไม่เห็นถึงใจรักหรือภักดีอะไรเลย เหมือนไม่ถูกจ้างมาก็เป็นพวกประชดสังคม
พรรคนี้เค้าก็มียุทธศาสตร์นะครับ "ภายใน3 ปี ต้องเอาไอ้แม๋วกลับมาตายha ในเมืองไทยให้ได้" แต่เดินไปๆ เจอซอยตันตอนตี4 ล้มหัวฟาดพื้น
ตอนนี้ที่อยากเห็นโครงการที่เป็นรูปธรรมของ การรักษาสุขภาพตัวเองของประชาชน และ การช่วยเหลือผู้สูงอายุ มาก
ป้าแกคนไม่เข้าใจคำว่ายุทธศาสตร์ มันไม่ใช่กฎ แต่เป็นวิธีการ ถ้าเป้าหมายเปลี่ยน วิธีการก็จะเปลี่ยน ทรัพยากรที่จะใช้ก็ต้องเปลี่ยนตาม คำว่ายุทธศาสตร์ มันมีความยีดหยุ่นในตัวเอง อิควายตัวเมียเอ้ย
ขอบ่นหน่อยครับ คนตัวเล็กๆอย่างผม อยากจะเพิ่มข้อ7.อีกหนึ่งข้อคือ "การรักษาเอกลักษณ์ของชาติควบคู่ไปกับการพัฒนาทางวัตถุ" เหตุที่เสนอก็เพราะผมกลัวว่ายุทธศาสตร์ทั้งหลายแหล่อาจสัมฤทธิ์ผลโดยแลกมาด้วยการสูญเสียอัตตลักษณ์ไทยซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ผลสัมฤทธิ์ที่ได้ว่าย่อมไม่มีค่าอะไรเลย การที่เราเป็นฐานการผลิตของอุตสาหกรรมหลายแขนงและเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวยอดนิยมของโลกได้ ก็เพราะเอกลักษณ์ของชาติ ซึ่งส่วนสำคัญประการหนึ่งคืออุปนิสัยใจคอของคนไทยเราเอง ผมไปนั่งกินของว่างและกาแฟที่ร้านPaulซึ่งเป็นchainของฝรั่งเศสมาตั้งในเมืองไทยไม่นาน ผมยังพูดชมบริกรของร้านว่าน่าจะไปฝึกอบรมพนักงานของบริษัทในฝรั่งเศสเพราะมันหยาบเหลือกำลัง เสาร์อาทิตย์ผมตระเวนไปตามตลาดเก่าๆของกรุงเทพฯและฝั่งธนฯเพื่อหาอาหารและขนมอร่อยๆกิน ผมกล้ารับรองได้ว่าไม่มีstreet foodที่ไหนในโลกจะอร่อยและราคาถูกเท่าของเรา ไปกับเมีย ใช้เงินไม่ถึงสิบยูโร ได้กินอาหารและขนมเลิศรส แถมยังมีเงินเหลือซื้อกลับมากินที่บ้านได้อีก บางทีเราไปเน้นความทันสมัยจนเกินไป พยายามให้คนของเราพูดอังกฤษได้คล่องๆ ตามด้วยแนวคิดของตะวันตกที่นิยมให้คนรุ่นใหม่ต้องกล้าท้าทาย เรียกร้องสิทธิอย่างไม่มีขอบเขต ใช้เสรีภาพอย่างเต็มที่โดยไม่คำนึงถึงสิทธิคนอื่นฯลฯ ซึ่งไม่ใช่วิธีที่เราเลี้ยงดูลูกหลานกันมาแต่โบราณ ในที่สุดเราก็มีคนไทยพันธุ์ใหม่เดินกันเกลื่อนเมือง คนพวกนี้คิดว่าตัวเองทันโลก ต่อต้านลบหลู่คุณค่าดั้งเดิมของสังคมไทย ขมขื่นและต่อต้านระบบแต่ก็ไม่มีแนวทางและการลงแรงใดๆที่จะพัฒนาสังคมให้ดีขึ้น เราคิดว่าปริญญาบัตรคือปัญญา พ่อแม่จึงดิ้นรนส่งลูกเรียนให้จบสูงๆ จบปริญญาตรีแล้วก็อ้อนพ่อแม่ว่าถ้าไม่จบโทก็หางานดีๆทำไม่ได้ ไม่ได้นึกย้อนดูเลยว่าความจริงอยากได้แค่ปริญญา ไม่ได้อยากได้ปัญญา เมืองไทยจึงมีสถาบันจอมปลอมที่ประสาทปริญญาตั้งแต่ปริญญาตรีจนดุษฎีบัณฑิต ประจักษ์พยานคือดอกเตอร์ที่เดินชนกันเกลื่อนในกระทรวงศึกษาธิการแต่เด็กไทยโง่ลงเรื่อยๆ ยังไม่นับดอกเตอร์กากการเมืองทั้งหลายเช่นดอกเตอร์เสด็จพี่ ดอกเตอร์อึ่งอ่างคางคกแห่งคลองหลวง ดอกเตอร์จ่าเหลิม ฯลฯ ช่วงนี้ผมมีโอกาสได้คุยกับคนไทยรุ่นใหม่วัยสามสิบกว่าๆหลายคนที่จะทำการควบรวมกิจการบริษัท หลายคนชัดเจนว่ามาจากการอบรมเลี้ยงดูแบบไทยแท้ เห็นได้จากการมีสัมมาคารวะแม้จะมีความรู้ความสามารถเป็นที่ประจักษ์แต่ก็ยังให้ความเคารพนับถือผู้ใหญ่ ผมอยากให้เมืองไทยมีคนอย่างนี้มากๆ รับรองว่าเราไม่มีวันแพ้ชาติใดในโลก ก็ได้แค่บ่นแค่หวังครับ ส่วนตัวก็ทำเท่าที่ทำได้แต่มันดู micro เหลือเกิน
ความอดทนต่ำจัง แปลว่าเขาไม่เคยเจอตัดแปะแอนเดอะมือด้วน นานเท่าไหร่ที่ชาวบ้านรอพวกเขาให้ทำสิ่งเหล่านี้ 10 ปี ให้ช่วยเพื่อนเสื้อแดง 10 ปีที่รอว่าเมื่อไหร่จะออกไปช่วยประท้วง 1ปีที่รอว่าเมื่อไหร่จะช่วยจำนำข้าวปู รอชั่วกัปชั่วกัลป์ว่าเมื่อไหร่จะสำนึกผิดขอโทษปูที่ทรยศ รอชั่วกัปชั่วกัลป์ให้มือด้วนรักเสื้อแดงเหมือนปากพูดเพียงซักนิดก็ยังดี รอชั่วกัปชั่วกัลป์ที่จะให้มือด้วนสละเวลา แรงกาย หรือเงินแค่ 1 บาทให้พวกพ้อง