พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า...... "ผมไปศึกษาดูงานมาทั่วโลก และได้เข้าบ่อนหลายแห่ง ผมเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้....." อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/crime/328968 ---------------------------------------------------------------------------------------- เพจเฟซบุ๊ค v for thailand เผยภาพ ‘คำรณวิทย์’ ขณะไปดูงาน ขยะที่ญี่ปุ่น ก่อนถูกจับกุมในข้อหาครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ขณะเดินทางกลับประเทศไทย ที่สนามบินนานาชาตินาริตะ http://news.mthai.com/hot-news/politics-news/450638.html --------------------------------------------------------------------------------------------- แต่ผมกลับชอบนโยบาย ให้"ไปดูงาน"แบบนี้ กันดีกว่า สำหรับประเทศไทย ควรรวมพวกข้าราชการการเมืองด้วย --------------------------------------------------------------------------------------------- การจัดระเบียบทางสังคมอีกทางหนึ่งก็คือการให้ข้าราชการและภรรยาไปดูงานในคุก รวมทั้งดูสภาพความเป็นอยู่ในคุกของอดีตข้าราชการที่ถูกตัดสินจำคุกในข้อหาคอร์รัปชัน ดังการดูงานในคุกของข้าราชการและภรรยากว่า 70 คนในมณฑลหูเป่ย ถือเป็นการศึกษานอกสถานที่เพื่อเตือนสติไม่ให้คอร์รัปชัน http://thaipublica.org/2015/06/xi-jinping-5/
http://www.thairath.co.th/content/506966 ส่องชีวิตหลังกำแพงคุก เปิดเรื่องเล่าข้างกรงของหนุ่มผู้หลงผิด โดย ไทยรัฐออนไลน์ 25 มิ.ย. 2558 05:31
นโยบายคสช. ไม่ต้องการให้ไปดูงานต่างประเทศ เพื่อทำตามนโบาย เอาคุกไทยนี่แหละครับดีสุด เพราะบางที่นักโทษเยอะ จนเวลานอนต้องนอนตะแคงไปทางเดียวกัน ดูแล้วเผื่อคิดได้บ้าง อ้อข่าวที่ผมยกมายังมีต่อครับ ----------------------------------------------------------------------- หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลีรายงานว่าคณะกรรมการกลางฝ่ายวินัยของพรรคฯ ได้กำหนดเป็นนโยบายที่จะต้องให้ข้าราชการทั่วประเทศเดินทางไปดูคุกเพื่อกระตุ้นข้าราชการให้ตระหนักว่าการคอร์รัปชันนั้นจะส่งผลเช่นไร ปรากฎว่าผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจีนต่างให้ความเห็นชื่นชมกับแผนการนี้ ทั้งยังเสนอให้ขยายแผนการนี้ออกไป http://thaipublica.org/2015/06/xi-jinping-5/
ต้องรีบใช้เงินให้หมด บางปีขอมามากเกินแล้วเหลือคืนหลวงตอนปลายปีงบประมาณ ปีหน้าหน่วยงานนั้นจะโดนเพ่งเล็งตัดงบออกโทษฐานประมาณการเกิน เรื่องนี้คนในวงการงานเงินของราชการรู้ดีจะมีวิธีซอยเงินแล้วให้ผู้มีอำนาจอนุมัติเป็นจ็อบๆให้เงินหมด เขาสอนกันต่อๆมาว่าการคืนงบถือเป็นความโง่ อย่าไปพาซื่อทำเป็นคนดีว่าช่วยหลวงประหยัด
ถ้าตรากตรำทำงานจริงก็สมควรอะขอรับ แต่มีข้าราชการสักกี่คนในประเทศนี้ ที่ทำงานด้วยความเสียสละ มาตั้งแต่เช้า กลับเกือบค่ำ เห็นความเดือดร้อนของประชาชนเป็นเรื่องใหญ่ เห็นมีแต่เช้าชาม-เย็นชาม ต้องหยอดน้ำมัน ถึงจะได้งานที่รวดเร็ว
เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่เราน่าจะปรับปรุงเสียที ช่วยประหยัดงบให้มีเงินเหลือคืนคลัง กลับเป็นสิ่งที่ไม่ดี ผลาญงบให้หมดถึงเป็นเรื่องดี ปีหน้าจะได้ไม่โดนตัดงบ ผมว่ามันเรื่องบ้าสิ้นดี
ลุงตู่ครับ เรื่องห้ามข้าราชการเดินทางไปดูงาน(เที่ยว)เมืองนอกนี่น่ะ บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญเลยได้มั้ยครับ
ทุกๆปี ไทยจะส่งแรงงานไทยไปแข่งขันฝีมือแรงงานกับชาติต่างๆ มีอยู่ปีหนึ่ง การแข่งขันจัดที่ประเทศสวิทเซอร์แลนด์ ประเทศยอดนิยม ผมถามท่านรองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงานท่านหนึ่งที่สนิทกันว่าท่านจะร่วมเดินทางไปกับคณะผู้เข้าแข่งขันหรือไม่ ทราบไหมครับว่าท่านตอบผมว่ากระไร ท่านบอกว่าไม่ไปหรอก อายเค้า ส่งแรงงานไทยไปแข่งขัน7คน ตอนนี้มีเจ้าหน้าที่ติดตามไปอำนวยการ35คนแล้ว
จริงๆการดูงานเป็นเรื่องดี แต่ปัญหาของราชการเรา การดูงานมันกลายเป็นเรื่องบังหน้า เพื่อหนีราชการไปเที่ยวซะนี้ ปล. โดยเฉพาะพวกอบต.นี้ตัวดี
ถ้าไปดูงานจริงๆจังๆ เพื่อเอามาปรับปรุงให้เหมาะสมกับประเทศเรา ผมไม่เสียดายเงินภาษีที่ต้องจ่ายเลย เพราะมันประหยัดกว่า ใช้เวลาน้อยกว่า ที่เราจะลองผิดลองถูกอยู่เอง แต่นี่ไปดูจนนับครั้งไม่ถ้วน แต่แทบไม่มีอะไรที่พัฒนากว่าเดิมเกิดขึ้น แล้วก็ยังหาข้ออ้างไปอยู่นั่นแหละ.......เวร
บางคนเกือบเกษียรอายุอยู่แล้ว หรือพวกนักการเมืองที่ใกล้จะหมดสมัยแล้ว ไอ้พวกนี้แหละที่"ไปดูงาน"เพื่อผลาญงบชัดๆ หน้าด้านที่สุด
คำรณวิทย์ ไปญี่ปุ่นดูงานทำไม ข้อมูลจากผู้ว่าฯ ปทุมธานี ------------------------------- ผมมุ่งมั่นทำหน้าที่ดููแลปัญหาของปทุมธานี ซึ่งเรื่องใหญ่ที่สุดคือขยะมูลฝอย ซึ่งมีปริมาณ วันละ มากกว่า 1,800 ตัน โดยทำตาม Roadmap ด้านขยะมูลฝอยของรัฐบาลเอาขยะตกค้างกว่า 200,000 ตันออก ส่งเสริมการแยกขยะ และข้อสุดท้ายคือ “ส่งเสริมภาคเอกชนให้เข้ามาลงทุนบริหารจัดการขยะแบบผสมผสาน โดยนำมาแปลงเป็นพลังงาน” ... ปทุมธานี เป็น 1 ใน 6 ที่รัฐบาลประกาศว่าเป็นจังหวัดที่มีวิกฤตขยะ แต่ไม่มีงบประมาณให้ ผมขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาโดยไม่มีเงินงบประมาณแต่ก็ทำเต็มที่ เพราะเห็นว่าเรื่องนี้คือความเป็นความตายของจังหวัดที่ผมรับผิดชอบ ปรากฏว่ามีนักลงทุนสนใจเข้ามาสร้างโรงงานในปทุมธานีนับสิบบริษัท แต่พอเริ่มมีข่าว ก็มี NGO เข้ามาเป็นแกนนำ เพื่อล้มโครงการ สายข่าวรายงานมาว่ามีนายทุนบ่อขยะเถื่อน ร่วมกับนักการเมืองท้องถิ่นที่ต้องการเสียงตรงจุดที่เอกชนสนใจให้การสนับสนุนด้านการเงิน ในบรรดาบริษัทที่สนใจเข้ามาลงทุนมีอยู่บริษัทหนึ่งสนใจที่ดินที่ ต.เชียงรากใหญ่ ซึ่งเคยเป็นของนักการเมืองใหญ่ท่านหนึ่ง ตรงนี้ที่ “คุณคำรณวิทย์” เป็นคนกลางเสนอขายที่ดินให้สร้างโรงงาน เขาต้องการลดการต่อต้าน ก็เลยออกเงินผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ไปเห็นกับตา ว่าโรงงานที่นำขยะมาทำพลังงานไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หรือตามที่นักปลุกระดมสร้างภาพให้คิด เขากำลังจะนำชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกับที่ดอนแปลงนี้ไปอีกทริปหนึ่ง เท่าที่ผมทราบมาครั้งนี้ เขาเลือกไปดูงาน 3 โรงงาน ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ และกลางกรุงโตเกียว เขาเชิญผม แต่ผมไม่ไป เพราะผมเป็นผู้บริหารสูงสุด ถ้าผมไปอาจถูกมองว่าไปเกี่ยวกับเอกชน ตอนแรกก็จะไม่ให้ท่านรองและปลัดจังหวัดไป แต่ลูกน้องเขาอยากเห็น เขาขออนุญาตไป ผมเห็นว่าการดูงานที่ตั้งใจจัดให้ดูในพื้นที่ใกล้แม่น้ำเช่นเมืองปทุมเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อน Roadmap การแก้ไขปัญหาขยะของรัฐบาล จึงให้ไป แต่เนื่องจากรัฐบาลสั่งห้ามไปดูงาน จึงใช้วิธีลาพักผ่อนประจำปี (อย่างที่มักเรียกกันว่าลาพักร้อน) ไปต่างประเทศ ก่อนไปมีกลุ่มต่อต้านมาขู่ว่าไปจะไปร้อง ป.ป.ช.ว่ารับเงินเกิน 3,000 บาท ทั้ง 2 ท่านกลัวเป็นปัญหา จึงจ่ายเงินเอง มีหลักฐานการถอนเงินธนาคารมาจ่ายค่าเครื่องบิน และมีใบเสร็จรับเงินค่าตั๋วออกในวันเดียวกัน คุณคำรณวิทย์ไปด้วย ผมสันนิษฐานว่าเขาต้องการใช้ภาวะผู้นำโน้มน้าวพูดให้คนปทุมกลุ่มต่างๆ เข้าใจ ไม่ต่อต้าน และช่วยทำความเข้าใจกลุ่มที่ยังไม่ทราบเรื่องระบบกำจัดขยะระบบปิด เพราะเขาต้องการให้โรงงานสร้างได้ (น่าจะเกี่ยวกับการขายที่ดิน) สรุป เรื่องนี้ไม่มีความซับซ้อน วาระซ่อนเร้น ปลัดจังหวัด กับรองผู้ว่าฯ ที่ไปก็ไม่ใช่ตัวแทนของผู้ว่าฯ ตามที่มั่วโพสต์มั่วแชร์กัน และบริษัทนี้ก็ไม่ใช่ผู้รับเหมากับทางราชการ เขาเป็นบริษัทลงทุนด้านพลังงานในตลาดหลักทรัพย์ครับ ผมก็ไม่ใช่ผู้อนุญาตให้สร้างโรงงาน (เป็นอำนาจของอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมอบต่อมาให้อุตสาหกรรมจังหวัด) คนที่ไปไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการอนุญาตอนุมัติ อะไร เพียงภาคเอกชนที่อยากให้สร้างสำเร็จเขาจะหาแนวร่วมเพื่อลดการต่อต้าน ผมว่าเรื่องนี้คนด่ากันมาก เกิดจากอคติกับคำรณวิทย์ เลยลามปามมั่วซั่ว แบบไม่สนใจว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร กราบสวัสดีครับ พงศธร สัจจชลพันธ์ (ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี) คำชี้แจงจากผู้ว่าฯปทุมฯ
ข้อมูลจากผู้ว่าคนนี้ พอเป็นเหตุเป็นผล ของการไปดูงาน พอสมควรอะครับ อิ...อิ....แต่ไม่ช่วยคำรณวิทย์ด้านคดี
แต่ก็แปลกผู้ที่ไปไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับการสร้างการกำจัดขยะระบบปิด ให้ไปเพื่อหาแนวร่วม ผู้ที่ไปส่วนมากเป็น อบต อบจ มันจะไม่มีข้อผูกมัด ผูกพันธ์อะไรเชียวละหรือเงินไม่ใช่น้อยๆนะนั่น แล้วให้แจ๊สไปด้วยเพื่อเอามาพูดโน้มน้าว คนรุนแรงแบบนี้จะโน้มน้าวด้วยอาวุธแบบไหน...!!!
มองโลกในแง่ดี อบต. อบจ. เขาต้องมีอิทธิพลต่อความคิดของชาวบ้านพอควร อะครับ ไม่ว่าเขาจะยังอยู่ในตำแหน่ง หรือไม่มีตำแหน่งใดๆ
เรื่อง"ดูงาน"ของข้าราชการไทย ไม่ใช่เรื่องลึกลับซับซ้อนอะไร ข้าราชการที่อยู่ในตำแหน่งอาวุโสหน่อยรู้ดีทุกคน ข้าราชการไทยในตำแหน่งที่มีสิทธิ์ไป"ดูงาน"จะรู้ล่วงหน้าเพราะมีรายการตายตัวทุกปีว่าปีนี้ ตำแหน่งนี้จะได้ไป"ดูงาน"ประเทศไหนบ้าง ประเทศที่ไปจะเป็นประเทศยอดนิยมของนักท่องเที่ยว บริษัทนำเที่ยวที่จัดก็เป็นบริษัทเดิมๆที่ผูกขาดรับใช้กันมานานปี และช่วงเวลาที่ไปก็จะบังเอิญไปพ้องกับฤดูกาลสุดฮิตของประเทศนั้นเสียด้วย เช่นถ้าไปดูงานรัฐสภาเนเธอร์แลนด์ เจ้าดอกทิวลิปเจ้ากรรมก็จะแข่งกันบานในช่วงนั้นให้บรรดาเมียๆได้ลงไปถ่ายรูปกัน ช่วงเวลา"ดูงาน"จริงๆมักจะถูกตัดลงให้เหลือสั้นที่สุดเพื่อให้"ผู้ติดตาม"มีเวลาช็อปปิ้งมากพอ การ"ดูงาน" อีกมุมหนึ่งคือรางวัลมอบให้ข้าราชการโดยไม่คำนึงถึงความคุ้มค่าของเงินภาษีแม้แต่น้อย ข้าราชการที่จะเกษียณในเดือนตุลาคม ช่วงกลางปียังไป"ดูงาน"อยู่เลย กลับมาก็เตรียมเลี้ยงส่งอำลาพอดี หากเป็นข้าราชการที่โดยตำแหน่งเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจที่มีผลประโยชน์มากด้วยแล้ว การไป"ดูงาน"แต่ละครั้งจะเลิศหรูอลังการมหัศจรรย์พันลึก ได้อิ่มหมีพีมันและได้ช็อปปิ้งแหลกราญเหมือนเสกเงินได้จากอากาศอะไรอย่างนั้น พอกลับมาเมืองไทยก็จะมีประโยคแสดงวิสัยทัศน์แต่อย่าถามรายละเอียดนะครับ ข้างในกลวงทั้งนั้น บางคนกลับมาก็ได้ย้ายตำแหน่ง ที่"ดูงาน"มาก็สูญเปล่า ต้องเตรียมตัวเพื่อเดินทางไป"ดูงาน"ในตำแหน่งหน้าที่อื่นต่อไป ต้องขออภัยข้าราชการที่ตั้งใจไปศึกษาสิ่งที่ได้่เดินทางไปรู้ไปเห็น แต่ที่ผมพบเห็นมามีแต่ที่กล่าวไว้ข้างต้นทั้งนั้น