วิกฤตการณ์ราคาน้ำมัน 28 มกราคม 2016 โดย blogger [อ่าน 30 คน , ยังไม่มีความเห็น , ID] โดย วีรพงษ์ รามางกูร ทั่วโลกต่างก็ติดตามความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ หลังจากราคาลดต่ำลงกว่า 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล การดิ่งลงของราคาน้ำมันดิบเป็นไปอย่างรวดเร็วตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2558 เป็นต้นมา คาดกันว่าราคาคงจะลดลงไปอีก บางสำนักก็ทำนายว่าจะลงไปถึง 20 เหรียญ ข่าวดังกล่าวสร้างความตระหนกตกใจและทำให้เกิดความผันผวนทั่วกันไปหมด กลายเป็นวิกฤตการณ์น้ำมันขาลง กลับกันกับวิกฤตการณ์น้ำมันขาขึ้นเมื่อ 30 ปีก่อน ที่จะเห็นชัดโดยตรงก็คือ ราคาสินค้าเกษตร เช่น ยางพาราและธัญพืช เช่น ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง อ้อย และน้ำตาล การปรับตัวสำหรับพืชล้มลุกอาจจะทำได้ง่ายกว่า แต่พืชยืนต้น เช่น ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ปัญหาคงจะหนักและเกิดขึ้นเร็ว ถ้าการตกต่ำของราคายืดเยื้อต่อไปเป็นเวลานาน นโยบายสินค้าเกษตรควรจะเป็นอย่างไร การใช้วิธีชดเชยราคาโดยไม่มีการจำกัดปริมาณการผลิต โดยใช้ภาษีอากรของคนทั้งประเทศ ควรทำเป็นครั้งคราวเมื่อจำเป็น แต่จะทำเป็นการถาวรคงเป็นไปไม่ได้ การพัฒนาอุตสาหกรรมใช้ยางภายในประเทศ โดยหน่วยงานของรัฐก็จะยิ่งสร้างปัญหาในการสูญเสียงบประมาณมากยิ่งขึ้น เพราะเท่ากับเอาภาษีอากรของคนไทยไปช่วยอุดหนุนผู้ใช้สินค้ายางพาราในต่างประเทศ http://chaoprayanews.com/blog/article/2016/01/28/วิกฤตการณ์ราคาน้ำมัน/ ------------------------------------------------------------------------------------ ข้อสงสัยของผมก็คือ ***การพัฒนาเพื่อใช้ยางภายในประเทศ ยิ่งสร้างปัญหาสูญเสียงบประมาณ ความคิดผมก็คือ เรื่องนี้เราควรทำมาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่งมโข่งส่งออกเป็นวัตถุดิบมาตลอด และควรทำกับสินค้าเกษตรทุกตัวด้วย ***เพราะเท่ากับเอาภาษีอากรของคนไทยไปช่วยอุดหนุนผู้ใช้สินค้ายางพาราในต่างประเทศ ผมงงว่า การพัฒนาเพื่อพึ่งตนเอง มันไปอุดหนุนต่างประเทศอย่างไร ใครที่รู้ลึก รู้จริง ช่วยอธิบายความหมายของ ดร.โกร่ง ให้เข้าใจทีเหอะ
555 ขำความคิดที่ออกจากปากโกร่งมากเลย "ถ้าการตกต่ำของราคายืดเยื้อต่อไปเป็นเวลานาน นโยบายสินค้าเกษตรควรจะเป็นอย่างไร การใช้วิธีชดเชยราคาโดยไม่มีการจำกัดปริมาณการผลิต โดยใช้ภาษีอากรของคนทั้งประเทศ ควรทำเป็นครั้งคราวเมื่อจำเป็น แต่จะทำเป็นการถาวรคงเป็นไปไม่ได้"
คนทำข่าวพิมพ์เกินหรือเปล่า เอาภาษีอากรของคนไทยไปช่วยอุดหนุนผู้ใช้สินค้ายางพาราในประเทศ แต่คนพิมพ์ข่าวเพลินไปหน่อย เติมคำว่า ต่าง ลงไป เลยกลายเป็น ในต่างประเทศไปเลย แต่จะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศ ก็ตาม ผมก็ยังมองไม่ออกเหมือนกันว่า ผู้ใช้สินค้ายางพารา ได้รับการอุดหนุนจากภาษีอากรของคนไทยแบบไหน เพราะคำว่าผู้ใช้สินค้านี่มันหมายถึงผู้บริโภคแล้วนะ แกจะหมายถึงผู้ผลิตที่นำยางพาราไปใช้ผลิตสินค้าหรือเปล่าที่ได้รับการอุดหนุน แต่เท่าที่ฟังนโยบายของรัฐบาลในเรื่องนี้ ก็ไม่เห็นว่าเอาภาษีไปช่วยผู้ผลิต มีแต่หาแหล่งเงินกู้ให้ ที่เขาช่วยจริง ๆ ก็เห็นมีแต่เกษตรกรเท่านั้น
เรื่องยาง ถ้าพูดตรงๆ ผลิตภัณฑ์ ต่างๆ รีไซต์เคิล ได้ ถ้าพูดหัวชนกำแพงว่า ต้องมีคนซื้อ และตลาดรองรับ ตลอดกาล คงเป็นไปไม่ได้ ธรรมชาติ ในการ อุปโภค บริโภค จะถ่วงกัน เป็น สมดุล อยู่ เมื่อมีมาก จนล้นเหลือ ความต้องการก็ลดลง ราคา ย่อมตก
โกร่ง มาอีกแล้ว ผมไม่เข้าใจจริงๆ ใคร การันตี หรือ ให้ราคา ตอนฟองสบู่ โกรง นี่ ทำตาปริบๆ พอฟอง สบู่มันแตก ผมเห็นแต่งอมือ หรือ เป็นสาเหตุเองไม่รู้
ผมก็เลยสงสัยว่าถ้ารัฐส่งเสริมให้มีการวิจัยพัฒนา นำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ มันผิดตรงไหน เมื่อมีการใช้มากๆ ต้นทุนต่อหน่วยก็จะถูกลง เราจะได้ลดการนำเข้าอีกด้วย --------------------------------------------------------------------------------------------- 3 สถาบันวิจัยดังชี้ช่องระบายยาง ทุ่ม9.8พันล้านเพิ่มดีมานด์ในประเทศ3.3หมื่นตัน 3 สถาบันวิจัยเสนอโมเดลใช้ยางในประเทศทำถนน-บล็อกปูพื้น-ใช้ในการจราจร พื้นที่นำร่องระบายยางได้ 33,300 ตัน ใช้งบประมาณกว่า 9,800 ล้านบาท สวก.แนะบรรจุเป็นกฎหมายรัฐ กระตุ้นอุปสงค์ยางในประเทศระยะยาว ดร.พีรเดช ทองอำไพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สวก.ได้รับมอบหมายจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหน่วยงานหลักในการรวบรวมผลวิจัยจากสถาบันวิจัยต่าง ๆ ได้แก่ สถาบันวิจัยยาง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และ สวก. เพื่อเสนอแนวทางเบื้องต้นในการกระตุ้นการใช้ยางในประเทศเพิ่มขึ้นโดยข้อเสนอแนะการนำร่องให้ดำเนินการเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์จากยางพารา 4 รายการ โดย สวก.รวบรวม ได้แก่ 1.ยางบล็อกปูพื้น 2.ยางพาราผสมยางมะตอยราดถนน (Asphaltic Concrete) 3.ยางที่ใช้ในการจราจร แบ่งเป็นกรวยยาง และเนินสะดุดชะลอความเร็ว 4.ยางปูพื้นคอกปศุสัตว์ ซึ่งจะทำให้เกิดการใช้ยางประมาณ 33,330 ตัน ใช้งบประมาณกว่า 9,800 ล้านบาท ซึ่งรวมค่ายางแท่ง STR20 ที่ใช้ในการผลิต 60 บาท/กก.แล้ว http://dsfutures.co.th/business_news.php?news_id=56085
เศรษฐกิจโลกปี 2559 โดย ดร.วีรพงษ์ รามางกูร http://www.matichon.co.th/news/54421 ประโยคสุดท้าย อินโดนีเซียควรศึกษากรณีต้มยำกุ้งของไทยให้ดี กูรูผู้รู้จริง
แก่แล้วแก่เลยจริง ๆ การพัฒนาอุตสาหกรรมยาง ไม่ใช่แค่แก้ปัญหาระยะสั่นแบบแทรกแซงสินค้าเกษตร หรือโครงการรับจำนำควาย ๆ 15000 แต่มันเป็นการเพิ่ม ดีมานต์ ในตลาด แล้วยังเพิ่มโอกาสทางการตลาด ในผลิตภัณฑ์ยางในอนาคต ดู ที่นอนยางพารา หมอนยางพาราดิ เดี๋ยวนี้นิยมกันมากขึ้น
ผมเข้าไปอ่านในกระทู้ของพันทิพ เรื่องโดนร้านขายที่นอนยางพาราหลอก ผมว่าถ้ารัฐปล่อยปละละเลยเรื่องนี้ ความเชื่อถือ การตัดสินใจซื้อ จะมีปัญหาในอนาคต และส่งผลต่อราคาจนได้ เรื่องแบบนี้รัฐต้องทำงานเชิงรุกบ้าง อย่าปล่อยให้คนเลวเป็นตัวถ่วง ต้องจัดการให้เด็ดขาด กระทู้ที่เข้าไปอ่าน ลองอ่านดูนะครับ http://2g.pantip.com/cafe/home/topic/R7498817/R7498817.html ภาพที่มีสมาชิกโพสต์มา ว่าโดนหลอกยังไง