23 มี.ค. l ข่าว 12.00 น.วันนี้มีการไต่สวนพยานโจทก์นัดที่ 5 ในคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้าร่วมรับฟังการไต่สวนเช่นเดียวกับทุกครั้ง
สงสัยจะมีคนเข้าไปรอน้องปูลูล่วงหน้าก่อนละมั้ง ศาลนัดพิพากษา "ชูชีพ หาญสวัสดิ์-วิทยา เทียนทอง" คดีฮั้วประมูลปุ๋ยปลอม 1.31 แสนตัน วันที่ 8 มิ.ย.นี้
ดาริน กานต์ ป้าเอ๋อขึ้นศาลฎีกาแผนกนักการเมืองวันนี้...ศาลนัดสืบพยานฝายโจทก์ในคดีจำนำข้าว..!!! อา !! ลืมนะ อิป้าจะมาไหมเหนี้ยยยย วันโกหกฯซะด้วย
NationPhoto น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาที่ศาลฯโดยมีประชาชนมอบดอกไม้ให้กำลังใจก่อนเข้าฟังการไต่สวนพยานโจทก์ ครั้งที่ 7 คดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลย คดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบไม่ระงับยับยั้งคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวแบบจีทูจี จนทำให้รัฐได้รับความเสียหายกว่า 5 แสน ลบ.ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อาคาร A ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ ดูดีๆ จะเห็นหมั่นโถว?
เข้าสู่นัดที่ 6 แล้ว สำหรับการไต่สวนพยานโจทก์ ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งวันนี้ศาลทำการไต่สวนจำนวน 2 ปาก ติดตามรายละเอียดจากคุณรพีพรรณ เรือนศรี ผู้สื่อข่าวไทยรัฐทีวีรายงานสด จากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทีมข่าว TNN24 เกาะติดกรณี “ยิ่งลักษณ์” เดินทางมาศาลฎีกาฯฟังไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์ คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวนัดที่ 6
ผมเชื่อว่า บางคนก็มาด้วยใจนะครับ ...............แต่เป็นใจที่อยากได้ตังค์อะ ว่าแต่ ทำไมดอกไม้ถึงเหมือนกันหมด หรือเหมามาจากเข่งเดียวกัน
“ยิ่งลักษณ์” ฟังไต่สวนคดีจำนำข้าวนัด 7 ยืนยัน “ทักษิณ” ไม่ได้อยู่เบื้องหลังป่วนประเทศ ทีมข่าว TNN24 เกาะติดหลังศาลขยายเวลาไต่สวนพยานคดีจำนำข้าวนัดที่ 7 ไป 13 พ.ค.59
ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์ เป็นครั้งที่ 8 ในคดีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตกเป็นจำเลย ซึ่งพยานฝ่ายโจทก์ที่นำมาไต่สวนวันนี้มี 2 คน คือ นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.ที่ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินของ ธกส. ให้กับชาวนาในโครงการรับจำนำข้าว และ นายจิรชัย มูลทองโร่ย รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดโครงการจำนำข้าว โดยบรรยากาศวันนี้ มีแกนนำพรรคเพื่อไทยเดินทางมาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เกือบ 100 นาย ส่วนอีกประเด็นวันนี้ ที่ต้องจับตาดู คือ คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะแถลงชี้มูลความผิดคดีสำคัญ ซึ่งมีรายงานว่า ป.ป.ช.จะอายัดแคชเชียร์เช็ค จำนวน 90,000 ล้านบาท ที่ได้มาจากโครงการขายข้าวจีทูจี โดยจะแถลงวันนี้เวลา 13.00 น. ศาลไต่สวนพยานคดีจำนวนข้าวนัดที่ 8 เสร็จสิ้น
อายัดเช็ค1.8พันล้าน!!! ปปช.ย้ำบาปรัฐบาลยิ่งลักษณ์ขายข้าว G to G ลวงโลก?? งวดใกล้เป็นลำดับกับการติดตามตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ทั้งในส่วนคดีฟ้องร้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับ คดีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์และพวก !!! ล่าสุด นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามและการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ได้สรุปความคืบหน้าการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีมีเหตุอันควรสงสัย นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ และ นางปราณี ศิริพันธ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กรณีเห็นชอบการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ โดยคณะอนุกรรมการไต่สวน มีคำสั่งให้กรมการค้าต่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ ดำเนินการเก็บ รักษาเงินจำนวน 1,878,219,993.35 บาท ซึ่งเป็นแคชเชียร์เช็คที่นำมาชำระค่าข้าวตามสัญญาซื้อขายข้าวในชื่อของบริษัทฯ ที่เข้ามาทำสัญญาซื้อขายข้าว จำนวน 3 บริษัท จาก 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท Haikou Liangmao Cereals and Oils Trading Co., Ltd. , บริษัท Hainan Province land Reclamation Industrial Development และ บริษัท Hainan land Reclamation Commerce and Trade Group Co., Ltd. แต่ยังไม่ได้รับมอบข้าว เนื่องจากคณะอนุกรรมการพิจารณาจากข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญที่จะพิสูจน์ความผิดและเป็นพยานหลักฐานที่จะเอาตัวผู้กระทำผิดมาฟ้องลงโทษ ตาม มาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และเป็นทรัพย์สินที่ได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดตามมาตรา 33 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ดังนั้น เพื่อประโยชน์แห่งการไต่สวนข้อเท็จจริง และอาศัยอำนาจตามความ ใน มาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าว ประกอบมาตรา 132 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ยึดและอายัดเงินจำนวนนี้ไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุด
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์นัดที่ 9 ในคดีที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกกล่าวหาว่าปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งพยานในวันนี้มี 2 ปาก คือ นายสุพจน์ ศรีงามเมือง และ นายวิศิษย์ ตันอารี เจ้าพนักงานปราบปรามการทุจริตชำนาญการ ของ ป.ป.ช. โดยทีมทนายความได้เตรียมประเด็นซักค้านเกี่ยวกับเรื่องของการไต่สวน ซึ่งเริ่มตั้งแต่ช่วงที่มีการตั้งคณะกรรมการไต่สวนชุดของ ป.ป.ช. จนถึงขั้นตอนที่ตั้งคณะกรรมการร่วมของทั้ง ป.ป.ช.และอัยการสูงสุด จนเป็นที่มาของการสั่งฟ้อง ซึ่งพบว่ามีการดำเนินการอย่างเร่งรีบ มีอคติ เพราะสั่งฟ้องว่ามีการปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ทั้งที่ยังไม่มีการชี้มูลว่าโครงการนี้มีการทุจริตเกิดขึ้นจริง
ทำไม บรรยากาศต่างกันมากมาย คุณ พรเทพ ขี้ข้าทักษิณตรียมตัวตายหมู่ รวมทั้งอีปู...โดดเดี่ยวบุญทรง สายสืบจากศาลฎีกานักการเมืองรายงานว่า นายบุญทรงไปศาลคดีจีทูจีแบบโดดเดี่ยว อ้างว้างเดียวดาย ตรงข้ามกับนส.ยิ่งลักษณ์ ที่มีการเกณท์ทั้งอดีตส.ส. อดีตรมต. และหน้าม้ามาเต็มที่ ชนิดอดีตส.ส.สักคน ดอกไม้ให้กำลังใจสักดอก นายบุญทรงก็ไม่ได้รับจากพรรค ถูกถีบให้ห่างจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทย เพราะดูแล้วนายบุญทรงตายแน่ สายสืบย้ำมาว่า ยิ่งดูการสืบพยานแล้วยิ่งไม่รอด เพราะแค่สืบพยานวันแรก จำเลยแต่ละคนต่างเอาตัวรอด บุญทรงอ้างว่าแทรกแซงข้าราชการไม่ได้ ข้าราชการก็อ้างว่าต้องทำตามมติครม. ที่ซ้ำร้ายเอกชนที่ซื้อข้าวจีทูจี ก็ยิ่งโทษไปกันใหญ่ บางรายบอกว่าตนเองซื้อข้าวน้อยกว่าบางรายแต่โดน ทำไมบางรายซื้อข้าวมากกว่ากลับไม่โดน บางรายบอกตรงๆว่าซื้อข้าวเหล่านี้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นข้าวจากจีทูจี แค่สืบพยานวันแรกก็ยอมรับแล้วว่า เป็นจีทูจีเก๊ ไม่ได้ส่งออกต่างประเทศ ชนิดซื้อขายกันเอง จนแทบอ่านคำพิพากษาได้เลย จึงไม่แปลกที่พรรคเพื่อไทย และยิ่งลักษณ์จึงถีบนายบุญทรงออกห่าง เพราะรู้ว่าบุญทรงตายแน่ ถ้าเอาบุญทรงมาใกล้พรรค ใกล้ยิ่งลักษณ์กลายเป็นตัวเสนียดไปเลย ยิ่งสังเกตบุญทรงระหว่างสืบพยาน เห็นบุญทรงกุมขมับทั้งวัน ก็ยิ่งรู้เลยว่าไม่รอดแน่นอน ที่สำคัญนายใหญ่นี่ช่างใจดำจริงๆ เขาเรียกว่า เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล เอาตัวเองและน้องสาวให้รอดไว้ก่อน คนอื่นช่างมัน แต่เท่าที่ดูแล้วคดีข้าวตายหมู่แน่นอน สายสืบประจำศาล Cr. Suwit Kotasin
ถ้าเอกชนที่ซื้อข้าวหลายรายบอกตรงกันว่าเป็นจีทูจีเก๊ ถีบบุญทรงออกห่างไปเท่าไหร่ก็ไม่น่าช่วยให้น้องสาวรอดเลย ไม่รู้นิวัฒน์ธํารง บุญทรงไพศาลโดนด้วยมั๊ย
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ โพสต์ข้อความและภาพผ่านเฟซบุ๊ค ระบุว่า ดีใจที่ได้ทราบข่าวการมาเยือนประเทศไทยของท่านอองซาน ซูจี ซึ่งหลังจากที่ พรรค National League for Democracy (NLD) ชนะการเลือกตั้ง และตั้งรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 54 ปี เธอได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งการมาในครั้งนี้ ก็ได้ไปเยี่ยมเยียนชาวเมียนมาที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งภาพที่ชาวเมียนมาต้อนรับท่านอองซาน ซูจี ท่ามกลางสายฝนถือเป็นภาพแห่งความผูกพันระหว่างผู้นำทางอุดมการณ์ที่ยึดโยง กับประชาชนซึ่งแม้จะอยู่นอกประเทศ ซึ่งนั่นก็น่าจะเป็นผลพวงจากการยืนหยัดต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ของท่านโดยเฉพาะ การพัฒนาเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยมาตลอดระยะเวลากว่าครึ่งศตวรรษ น่าประทับใจมากค่ะ ในภาพรวม ประเทศไทยของเราพึ่งพาแรงงานจากต่างประเทศจำนวนนับล้านคนค่ะ และแรงงานเมียนมาถือได้ว่าเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งสอง ประเทศ สมัยที่ดิฉันเป็นรัฐบาลได้มีการส่งเสริมให้ไปจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว เพื่อให้แรงงานเหล่านั้นไม่ต้องอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ และสามารถมีสิทธิได้รับการคุ้มครองตามหลักกฎหมายสากล อย่างไรก็ดี ดิฉันเชื่อว่านับจากนี้ ประชาชนของประเทศเมียนมา น่าจะได้รับการดูแลจากทางรัฐบาลมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิทธิเสรีภาพ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการปกครองระบอบประชาธิปไตยค่ะ http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/703991
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์นัดสุดท้ายในคดีโครงการรับจำนำข้าว โดยให้น้ำหนักไปที่การตรวจสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด
ฮู้วว ลดราคาให้กว่าครึ่ง ยินดีด้วยนะครับยิ่งลักษณ์ เด๋ว คอยดูพยานจำเลยมั่ง เด๋วได้ลดราคาอีกกันมั่งและ
กปปส. ลุมพินี นางดอกไม้บอก ตัวเองออกจาากตำแหน่งตั้งแต่ โดนรัฐประหาร ความเสียหายหลังจากการรัฐประหาร จึงไม่เกี่ยวกะนาง ...โอยยย KobkarnL คัยบอกบทให้นางท่องหว่า!!!
5 ส.ค. -- "ยิ่งลักษณ์"ควงสามีขึ้นศาลสืบพยานนัดแรกคดีโกงจำนำข้าว แกนนำพท.-อดีตส.ส.-มวลชนแห่ให้กำลังใจแน่น พร้อมพิสูจน์ไม่ได้ทำอะไรผิด วอนขอความเป็นธรรมด้วย ชวนประชาชนลงประชามติกำหนดอนาคตประเทศ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี และทีมทนายความ เดินทางมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อขึ้นสืบพยานฝ่ายจำเลยเป็นนัดแรกในคดีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์จะเป็นผู้ตอบข้อซักถามอัยการฝ่ายโจทก์ด้วยตัวเองทั้ง 165 หัวข้อ รวมกว่า 500 คำถาม รวมทั้งการซักถามจากผู้พิพากษาองค์คณะในคดี โดยมีแกนนำพรรคเพื่อไทยและอดีตส.ส.ของพรรคมาให้กำลังใจ อาทิ นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกฯ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรมว.ต่างประเทศ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรมว.ศึกษาธิการ และนายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย นอกจากนี้ ยังมีมวลชนเดินทางมาร่วมให้กำลังใจอย่างหนาแน่นอีกด้วย ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จำนวน 1 กองร้อย ทั้งนี้ ทันทีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางมาถึงนั้น มวลชนต่างรุมกันเข้ามามอบดอกไม้พร้อมทั้งร้องเพลงและตะโกนว่า "ยิ่งลักษณ์สู้ ๆ " เพื่อเป็นการให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า วันนี้มีความมั่นใจที่จะนำเสนอพยานเอกสารและพยานบุคคลในคดีนี้ จะทำให้เต็มที่ในการพิสูจน์ว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิดตามที่มีการกล่าวอ้าง ส่วนการเรียกค่าเสียหายทางแพ่งจริง ๆ แล้วต้องประเมินคดีอาญาให้เสร็จสิ้นก่อน ทั้งนี้ ขอตั้งข้อสังเกตว่า เอกสารที่ตนได้ร้องขอความเป็นธรรมกับคณะกรรมการความรับผิดทางละเมิดนั้นไม่ได้ถูกนำมาพิจารณาทั้งข้อกฎหมายและเนื้อหาสาระต่าง ๆ อีกทั้งการฟ้องร้องค่าเสียหายต่าง ๆ นั้น ตนได้พ้นจากภารกิจหลังปฏิวัติแล้ว ซึ่งช่วงนั้นไม่ได้ดูแลรับผิดชอบและไม่สามารถควบคุมได้ ต้องขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้ด้วย ยืนยันว่า โครงการรับจำนำข้าวเป็นโครงการที่มีประโยชน์ และเราต้องการช่วยเหลือชาวนาอย่างแท้จริง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวถึงการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค.ด้วยว่า อยากชวนประชาชนคนไทยให้มาใช้สิทธิ เพราะการลงประชามติครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมา จะนับคะแนนเฉพาะคนที่มาใช้สิทธิเท่านั้นที่จะเลือกอนาคตประเทศให้ไปในทางใด อยากให้ทุกคนทำเต็มที่ เพราะจะได้ไม่เสียใจกับผลที่ออกมา อย่างไรก็ตาม ตนไม่ขอแสดงความเห็นหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ ขอให้ผลคะแนนออกมาก่อน และเชื่อว่าทุกคนห่วงใยเรื่องความโปร่งใสในการทำประชามติในครั้งนี้ เพราะเป็นการตัดสินอนาคตของประเทศ ส่วนหลักคิดที่อยากฝากถึงประชาชนคือ ช่วงโค้งสุดท้ายอยากให้ประชาชนพิจารณาเนื้อหาทั้ง 2 ฝ่าย ใช้วิจารณญาณอย่างเต็มที่และมองในระยะยาว เพราะเราต้องใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไปอีกนาน "สำหรับสถานการณ์หลังการลงประชามตินั้น ทุกคนต้องช่วยกันทำให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ หากทุกคนใช้สิทธิอย่างเต็มที่ จะได้ผลที่สะท้อนความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง หากมาใช้สิทธิน้อย ผลที่ได้จะไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการในหลักของประชาธิปไตย" น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว ข่าว 7 สี - นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้การในคดีโครงการรับจำนำข้าวเป็นนัดแรก โดยนำหลักฐานสำคัญมาแสดงต่อศาลด้วย เป็นคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไต่สวนพยานฝ่ายจำเลยนัดแรก ในคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว โดยอัยการโจทก์เตรียมซักถาม 165 หัวข้อ รวมกว่า 500 คำถาม ที่เน้นการระบายข้าวเป็นหลัก มีรายงานว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ขออนุญาตศาลแถลงคดี พร้อมฉายพาวเวอร์พ้อยท์ เพื่อชี้แจงทุกข้อกล่าวหาทั้ง 6 ประเด็น พร้อมระบุกระบวนการแจ้งข้อกล่าวหาเป็นไปอย่างเร่งรีบ ไม่ถูกต้อง และไม่ให้ความเป็นธรรม เพราะไม่เปิดโอกาสไต่สวนพยานจำเลยในชั้น ป.ป.ช. และเพิ่มหลักฐานจำนวนมาก ที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน พร้อมเปิดเอกสารลับการประชุมของนโยบายคณะกรรมการข้าว หรือ นบข. ที่ประธาน นบข.สั่งให้เจ้าหน้าที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ความผิดทางละเมิดประเมินความเสียหาย และนำส่งข้อมูลให้กรมบัญชีกลางตั้งเรื่อง เพื่อให้ทันตามกรอบเวลาส่งฟ้อง ซึ่งเป็นที่มาของตัวเลขความผิดทางละเมิด เพื่อเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง 280,000 ล้านบาทจากตนเอง โดยละเลยพิจารณาประเด็นแห่งความยุติธรรม ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงเอกสารลับ ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อ้างในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในระหว่างให้ปากคำคดีจำนำข้าว เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา เอกสารที่อดีตนายกรัฐมนตรี อ้างเป็นบันทึกการประชุมการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ครั้งที่ 3/2558 โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า เป็นการประชุมลับ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประธาน นบข.สั่งการให้การประเมินความเสียหาย ไม่ต้องพิจารณาประเด็นยุติธรรม แต่พิจารณาให้ทันกรอบเวลา นางสาวชุติมา บุญประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เอกสารดังกล่าวเป็นบันทึกการประชุม นบข.วาระปกติ วันที่ 18 พฤษภาคม 2558 แต่มีข้อพิจารณานอกจากวาระปกติ จึงกำหนดอยู่ในวาระลับ เพราะเป็นเรื่องที่ยังไม่ได้ข้อยุติ จึงเปิดเผยไม่ได้ และคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดในคดีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ต้องดำเนินการให้เสร็จ เพื่อไม่ให้ขาดอายุความ และขั้นตอนยังไม่สิ้นสุดต้องส่งให้กรมบัญชีกลาง พิจารณาความรับผิดชอบทางแพ่งต่อ ส่วนที่ระบุว่า ไม่ต้องพิจารณาประเด็นยุติธรรมนั้น ไม่ได้หมายถึง ไม่ต้องให้ความยุติธรรมเลย แต่ผู้ถูกร้องยังมีสิทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรม โดยสามารถร้องศาลปกครองกลางให้เพิกถอนคำสั่งเรียกค่าเสียหายได้ และอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้อีก
“ดิฉันดูในระดับนโยบาย ถ้าเอาคำถามในระดับปฏิบัติมาถาม จะไม่ถูกต้อง และเรื่องจีทูจีไม่ได้อยู่ในสำนวน ป.ป.ช.ตั้งแต่ต้นในการกล่าวหา แต่เอาข้อกล่าวหาดังกล่าวมาถามกับดิฉันทำให้ไม่มีโอกาสต่อสู้เหมือนเอาข้อหามายัดไว้ ” น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว เป็น นางโย้กฯ ง่ายอย่างงี้ รู้ยัง?? งั้น ตรูก้อเป็นได้สิหว้ะ??
อดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินทางถึงศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เพื่อฟังไต่สวนพยานจำเลย นัดที่ 2 ในคดีจำนำข้าว โดยมีแฟนคลับมารอให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยานจำเลย ในคดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวหาว่า กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่า ด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 จากกรณีที่ปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว นางสาวยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน โดยยืนยันว่า นายทักษิณ ชินวัตร พี่ชาย และอดีตนายกรัฐมนตรี ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดวางเพลิง 7 จังหวัดภาคใต้ เบื้องต้นได้ส่งทนายแจ้งความแล้ว ส่วนของรัฐธรรมนูญ หลังผ่านการลงประชามติแล้วนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า แม้ผลประชามติจะออกมาเป็นแบบนั้น แต่ก็ยอมรับและเคารพเสียงของประชาชน และหวังว่าทุกฝ่ายจะทำอะไรไม่ผิดไปจากเจตนารมย์ของประชาชน และขอให้การแก้บทเฉพาะกาล คำนึงเจตนารมณ์ ร่างรัฐธรรมนูญและประชาชน ที่ต้องเลือกนายกฯจากบัญชีรายชื่อพรรคการเมือง ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ขยายการพิจารณาคดีโครงการรับจำนำข้าวออกไปอีก 4 เดือน เป็นเดือน มิ.ย.2560 เพราะจำนวนพยานจำเลยมีมาก ช่วงเช้าวันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐนตรี เดินางไปที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อฟังการไต่สวนคดีจำนำข้าว ซึ่งเป็นการไต่สวนพยานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นครั้งที่ 2 ทั้งนี้ ศาลฎีกาฯแจ้งคู่ความว่าจะขยายการไต่สวนพยานจำเลยออกไปอีก 4 เดือน จากเดิมพยานจำเลยชุดสุดท้าย 16 คน จะให้ปากคำวันที่ 3 ก.พ.2560 ซึ่งศาลเห็นว่าไม่เพียงพอจึงเพิ่มเวลาการไต่สวนอีก 3 นัด โดยนัดสุดท้ายวันที่ 16 มิ.ย.2560 สำหรับการไต่สวนพยานจำเลยวันนี้ (19 ส.ค.) มีเพียง 1 ปาก คือ นายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งทนายโจทย์ซักถามประเด็นความเสียหายจำนำข้าว ที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีสินค้าเกษตรโครงการรับจำนำข้าว ประเมินผลว่าขาดทุน 5 แสนล้านบาท ซึ่งนายวราเทพ ชี้แจงว่า ตัวเลขนี้ยังเป็นที่ถกเถียง เพราะคณะอนุกรรมการฯ คำนวณราคาข้าวในสต็อกรัฐบาลในราคาเฉลี่ยต่ำที่สุด ส่งผลให้ผลขาดทุนสูง ทนายโจทย์ถามถึงการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี กับจีน ซึ่งนายวราเทพ อธิบายว่าเป็นเรื่องที่นอกเหนืออำนาจหน้าที่ จึงตอบไม่ได้ และทนายได้ซักถามต่อถึงประเด็นการไถ่ถอนข้าวที่มีปัญหาว่า รัฐได้สีแปรสภาพเป็นข้าวสารเก็บในสต็อก ขณะที่ชาวนานำข้าวเปลือกมาจำนำ ทำให้มีปัญหาเมื่อชาวนาต้องการมาไถ่ถอนขาวคืน โดยนายวราเทพ ชี้แจงว่า สัญญาที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ทำกับชาวนา ระบุว่า หากชาวนาไถ่ถอนจะได้ข้าวชนิดเดียวกับที่จำนำ แต่ต้องมาดูราคาข้าวขณะไถ่ถอนว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่ ทั้งนี้ ศาลฎีกาฯนัดไต่สวนพยานจำเลยครั้งต่อไปวันที่ 9 กันยายน 2559 คือนายยรรยง พวงราช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบหลักในโครงการจำนำข้าวตั้งแต่เป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์ การไต่สวนพยานฝ่ายจำเลยนัดที่ 2 ในคดีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวซึ่งเป็นการไต่สวนนายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ารับฟังการไต่สวนพยานจำเลยนัดที่ 3 ในคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว พร้อมระบุไม่เห็นด้วยหากรัฐบาลจะใช้มาตรา 44 หรือคำสั่งทางปกครองเรียกค่าเสียหาย ติดตามรายละเอียดจากคุณรพีพรรณ เรือนศรี ผู้สื่อข่าวไทยรัฐทีวี รายงานสดจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เช้าวันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อฟังการไต่สวน พยานจำเลยคดีจำนำข้าว โดยมีประชาชน และแกนนำพรรคเพื่อไทย มาให้กำลังใจเหมือนทุกครั้ง วันนี้มีพยาน 2 ปาก คือ นายสุเมธ เหล่าโมราพร ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ข้าวตราฉัตร และ นายสัตวแพทย์ ชัยวัชรรงค์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจการเกษตร มาให้ปากคำเกี่ยวกับกลไกการค้าข้าว นายสุเมธ ให้ปากคำว่า งบจำนำข้าวช่วยชาวนา 15 ล้านครอบครัว ถ้าเฉลี่ยคนในครอบครัวด้วยจะใช้งบไม่ถึง 1,000 บาท ต่อ คน แต่ช่วนให้ฐานรากเข้มแข็ง และผู้ค้าข้าวก็ต้องปรับตัวลดผลกระทบ ส่วนการระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์ เปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอซื้อข้าวได้ ซึ่งเป็นไปได้ที่ผู้ซื้อจะไปตกลงราคากัน แต่ ซี.พี.จะซื้อข้าวเฉพาะที่ภาครัฐเปิดประมูลเป็นการทั่วไป สำหรับการไต่สวนครั้งต่อไป วันที่ 7 ต.ค.นี้ พยาน คือนายโอฬาร ไชยประวัติ อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์
เวลา 09:00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองสืบพยานฝ่ายจำเลยนัด 4 คดีจำนำข้าว ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อาคารศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ
"ปู" ขึ้นศาลคดีโกงข้าว โวยคำสั่งเรียกค่าเสียหาย3.5หมื่นล.ไม่ถูกต้อง จี้รบ.พิจารณา http://www.fahwonmai.tv/politics/1216004 เม้ยบอกว่า ไม่ถูกต้อง ต้อง 100%เต็ม ถึงจะถูกจ้า
คณะกรรมการรับผิดทางละเมิด สรุป น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องรับผิดชอบความเสียหายจำนำข้าว 35,000 ล้านบาท จากวงเงินเสียหาย 178,000 ล้านบาท นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า คณะกรรมความรับผิดทางละเมิด ได้ประชุมสรุปความเสียจากจำนำข้าวเปลือก โดยสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ส่งหนังสือให้ความเห็นมาว่า ความเสียหายจากการจำนำข้าวเปลือกฤดูกาลผลิตปี 56/57 นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีความประมาทร้ายแรงทำให้มีความเสียหายวงเงิน 1.8 แสนล้านบาท และเมื่อพิจาณาการรับผิดตามกฎหมาย มีความเห็นร่วมกันให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับผิดชอบเฉพาะตัวแต่เพียงผู้เดียว ในสัดส่วนร้อยละ 20 ของมูลค่าความเสียหาย 1.8 แสนล้านบาท หรือเป็นเงินต้องรับผิดชอบ 35,717 ล้านบาท สำหรับการจำนำข้าวในฤดูการผลิต 54/55 วงเงิน 280,000 ล้านบาท ความเสียหายดังกล่าว ได้มีการตั้งข้อสังเกตุจาก ป.ป.ช.และ สตง. เห็นว่า การจำนำช่วงเวลาดังกล่าวไม่จงใจหรือประมาทจนก่อให้เกิดความเสีหายร้ายแรง จึงไม่ได้พิจารณาการชดเชยความเสียหาย ส่วนความเสียหายที่เหลืออยู่ หน่วยงานทีเกี่ยวข้องต้องรับไปดำเนินการต่อ ซึ่งพบว่ามีหลายบุคคลเกี่ยวข้องกับความผิดดังกล่าว โดยยังมีอายุความดำเนินดคีเอาผิด 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2564 ขณะนี้ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ได้ลงนามรับรองรายงานมติคณะกรรมการความรับผิดทางละเมิด เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา และเตรียมเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาลงนาม และเมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับหนังสือแล้ว สามารถยื่นคัดค้านคำสั่งต่อศาลปกครองกลาง เพื่อทุเลา หรือ เพิกถอนคำสั่งทางปกครองได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เตรียมส่งทนายความยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี คัดค้านการออกคำสั่งหัวหน้า คสช. เปิดทางให้กรมบังคับคดีทำหน้าที่ยึดทรัพย์ผู้ที่ต้องรับผิดชอบในคดีรับจำนำข้าว ขณะที่นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า การดำเนินการเป็นไปตามกฎหมาย ทำเนียบฯ 26 ก.ย. – รองนายกรัฐมนตรี ระบุเหตุผลที่อดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องชดใช้กว่า 35,000 ล้านบาท คดีโครงการรับจำนำข้าว เพียงแค่ 20% เท่านั้น ส่วนอีก 80% ต้องตามต่อ เบื้องต้นทราบว่ามีทั้งข้าราชการและเอกชนมีส่วนเกี่ยวข้อง นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่ากรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องรับผิดเรื่องการจำนำข้าวในขั้นตอนการรับผิดทางแพ่ง คณะกรรมการเห็นว่าความผิดครั้งนี้เป็นเรื่องของการละเว้นการทำหน้าที่ 2 ฤดูการผลิตในปี 2555-2556 และ 2556-2557 มูลค่าความเสียหายจึงลดลงมาเป็น 35,000 ล้านบาท ตามเกณฑ์ของกระทรวงการคลัง 20% ส่วน 80% ต้องไปตามต่อว่าใครร่วมกระทำความผิดบ้าง ซึ่งเท่าที่ทราบมีทั้งข้าราชการและเอกชน โดยกระทรวงต่างๆ หลังจากนี้มีหน้าที่ต้องติดตามตัวมาดำเนินคดี . – สำนักข่าวไทย
ทีมข่าว TNN24 เกาะติดกรณีศาลฎีกาฯไต่สวนพยานจำเลยคดีรับจำนำข้าวนัดที่ 4 ศาลฏีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไต่สวนพยานจำเลยนัดที่ 6 ในคดีกล่าวหา นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว โดยนางสาวยิ่งลักษณ์มาพร้อมทีมทนาย ซึ่งมีอดีตรัฐมนตรี อดีต สส.พรรคเพื่อไทย และประชาชนมาให้กำลังใจ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยวันนี้มี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นคิวขึ้นให้การ แต่ได้ขออนุญาตศาลเลื่อนเบิกความไปนัดหน้า เนื่องจากมารดาไม่สบาย จึงขอเลื่อนเบิกความนัดต่อไปในวันที่ 7 และ 21 กรกฎาคม 2560 ก่อนหน้านี้ นางสาวยิ่งลักษณ์พูดถึงมาตรการช่วยเหลือชาวนาของรัฐบาลนี้ว่า ไม่ต่างจากโครงการรับจำนำข้าว ที่ไม่หวังกำไรขาดทุน และการลงพื้นที่เมื่อวานไม่ได้มุ่งหวังภาพทางการเมือง แต่ต้องการช่วยเหลือชาวนาเท่าที่กำลังจะทำได้ ขณะที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม วันนี้ปฏิเสธให้ความเห็นกรณีของนางสาวยิ่งลักษณ์ และกรณีการช่วยเหลือชาวนาอีก ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ.แจ้งวัฒนะ-18 พ.ย.59-"อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ " ยัน จะใช้ทุกสิทธิ์ที่มีตามกฎหมาย ค้านคำสั่งชดใช้จำนำข้าว ระบุ มอบหมายทนายจัดการแล้ว อุบเรื่องฟ้องกลับ ไม่สนใครวิจารณ์อีเว้นท์การเมืองช่วยซื้อข้าวชาวนา ขอแรงช่วยกันดีกว่าเถียงหน้าสื่อ ฝากรัฐให้ความเป็นธรรม-อย่าเร่งรัด ตรวจเรียกค่าเสียหายคนเกี่ยวข้องจำนำข้าวอีก 80% เมื่อเวลา 09.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงศาลเพื่อร่วมฟังการไต่สวนพยานจำเลยนัดที่ 6 คดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกฯ เป็นจำเลย ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ กรณีไม่ยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งวันนี้ฝ่ายจำเลย เตรียมพยานให้ศาลไต่สวน 2 ปาก คือ นายอำพน กิตติอำพน อดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย อดีต รมช.คลัง รัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยวันนี้ยังคงมีมวลชนจำนวนมาก เดินทางมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกฯ เหมือนเช่นเคย ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีสีหน้าแจ่มใส ซึ่งก่อนเข้าไต่สวนพยาน น.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกฯ ได้กล่าวถึงการคัดค้านคำสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าวคืนแก่รัฐว่า ดิฉันได้ยื่นคำให้เพิกถอนคำสั่งแล้ว ยังไม่ได้ให้การตอบรับต่อคำสั่ง ซึ่งดิฉันยืนยันว่าจะขอใช้ทุกสิทธิ์ ทุกขั้นตอนที่เรามีภายใต้กรอบเวลาของกฎหมาย และหากมีอะไรเพิ่มเติมก็จะเป็นหน้าที่ของทนายความกับฝ่ายกฎหมายที่ศึกษาอยู่ ดังนั้นถ้ามีอะไรเพิ่มเติมดิฉันจะแจ้งให้สื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนทราบอีกครั้ง เมื่อถามถึงกรณีที่รัฐระบุว่า มีการตรวจสอบเรียกร้องค่าเสียหายกับผู้ที่เกี่ยวข้องโครงการจำนำข้าวอีก ร้อยละ 80น.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกฯ กล่าวว่า ดิฉันอยากจะขอว่าในฐานะของรัฐที่จะมาตรวจตรงนี้ ก็อยากขอให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกคน และทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกระบวนการทางกฎหมาย " อย่าเร่งรัด การมองหว่านแหแบบนี้ ก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นผลดีหรือไม่ หรือจะกลายเป็นผลกระทบโดยกว้างมากกว่า " ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงความพยายามในการช่วยเหลือชาวนาด้วยซึ่งถูกมองเป็นอีเว้นท์การเมืองด้วยว่า เราทำ เรารู้ เราคงห้ามไม่ได้กับผู้ที่จะมอง แต่ในสถานการณ์ขณะนี้ควรจะมองว่าใครกันที่ช่วยกันแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องชาวนา เราก็ควรช่วยกันมากกว่าที่จะมาตีกันเป็นประเด็นการเมือง เรามาช่วยชาวนากันดีกว่า อย่างมาเถียงหรือตีกันหน้าสื่อเลย เมื่อถามถึง แนวคิดเสนอแก้กฎหมายว่าควรเพิ่มโทษจะเอาผิดกับนักการเมืองถึงขั้นประหารชีวิต น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ดิฉันเองไม่มีข้อคิดเห็น แต่อยากจะเรียนว่าผู้ที่คิดกฎกติกา ควรจะคิดกฎกติกาที่จะทำให้ระบบทุกอย่างเดินไปได้ " อย่ามองเพียงแค่จุดเล็กจุดน้อย แล้วเอามาเขียนกติกาที่บังคับใช้กับคนหมู่มาก ซึ่งจะเกิดปัญหาขึ้นมาภายหลังแล้วการแก้ไขจะทำได้ยาก " น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ารับฟังการพิจารณาไต่สวนพยานจำเลยคดีรับจำนำข้าว พร้อมยืนยันสู้คดีจำนำข้าวทั้งแพ่ง และอาญาเต็มที่ แม้จะมีการปรับคณะรัฐมนตรี วันนี้ (9) นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนที่เข้ารับฟังการไต่สวนคดีจำนำข้าว ว่า ขณะนี้ทีมกฎหมายกำลังทำหนังสือเพื่อยื่นอุทรณ์ คำสั่งทางปกครอง ที่เรียกชดใช้ค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าง 3.5 หมื่นล้าน ที่ได้รับคำสั่งเมื่อวันที่ 19 ต.ค 2559 โดยคุณยิ่งลักษณ์ ยืนยันว่า จะสามารถยื่นอุทธรณ์ภายในกรอบเวลาที่กำหนดคือ ประมาณ ม.ค. 2560 ได้ทัน ส่วนเรื่องกาปรับ ครม. คุณยิ่งลักษณ์ ให้ความเห็นเพียงว่า ขอให้ดูว่าประชาชนต้องการอะไร เพราะไม่อยากให้ซ้ำเติมประเทศ เพราะปัญหาปากท้องเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนของคดีอาญาที่เดืนหน้าสืบพยานขณะนี้ก็ความคืบหน้าก็มากกว่าครึ่งทางแล้ว ซึ่ง อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ บอกว่า ตราบใดที่ยังไม่สิ้นสุดก็จะต่อสู้อย่างเต็มที่ สำหรับพยานที่จะขึ้นเบิกความวันนี้มี 2 ปาก คือนายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชี ซึ่งเป็นพยานฝ่ายจำเลยและเป็นการไต่สวนนัดที่ 8 ยิ่งลักษณ์ยืนยันใช้สิทธิ์ในการยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งทางปกครองเรียกชดใช้จำนำข้าว 3.5 หมื่นล้านทันกรอบเวลาเดือน ม.ค.ปีหน้าแน่นอน ลั่นพรรคเพื่อไทยแม้เห็นต่างก็จะลงสนามเลือกตั้ง เพราะถือเป็นเสน่ห์ของระบอบประชาธิปไตย วันนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าฟังการพิจารณาไต่สวนพยานฝ่ายจำเลยในโครงการรับจำนำข้าว ก่อนเข้าฟังการพิจารณาไต่สวน นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงการใช้ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งทางปกครองให้ชดใช้ความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว 35,000 ล้านบาท โดยนางสาวยิ่งลักษณ์กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า จะใช้สิทธิตามกรอบเวลาของกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ทนายความกำลังรวบรวมข้อมูล ยันเพื่อไทยลงสนามเลือกตั้งชี้เสน่ห์ประชาธิปไตย นางสาวยิ่งลักษณ์ ยังได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันให้ความร่วมมือ โดยเฉพาะสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และพรรคเองอยากขอให้มีการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมรับรู้เนื้อหาต่างๆด้วย และไม่อยากให้การกิจกรรมครั้งนี้เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ ด้วยกการให้พรรคการเมืองส่งตัวแทนเข้าไปรับฟังเท่านั้น ส่วนการวางแผนในการลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งหน้าของพรรคเพื่อไทย แม้ว่าพรรคมีจุดยืนที่เห็นต่างนั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ บอกว่า เป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองและนักการเมืองที่จะต้องแสดงเจตนารมย์ให้ประชาชนได้เห็น ในขณะที่ความคิดเห็นที่แตกต่างถือเป็นเสน่ห์ของระบอบประชาธิปไตย แนะรัฐบาลทำมาตรการเปิดโอกาสให้ ปชช.รากหญ้า นอกจากนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้กล่าวถึงมาตรการช็อปช่วยชาติของรัฐบาล ที่ให้สามารถนำยอดการใช้จ่ายไม่เกิน 15,000 บาทไปยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ว่า ถือเป็นความพยายามของรัฐบาลในการกระตุ่นการจับจ่ายใช้สอยในระบบเศรษฐกิจแต่ก็อยากฝากให้รัฐบาลช่วยประชาชนรากหญ้ามีโอกาสรับประโยชน์บ้าง สำหรับพยานที่จะขึ้นเบิกความในการพิจารณาไต่สวนคดีจำนำข้าววันนี้ มี 2 ปาก คือ นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายวีระนันท์ ทัดดอกไม้ ตัวแทนคณะกรรมการตรวจสอบคุณภาพข้าว
นโรตม์ วรจินต์ 09.00 น. เช้านี้.. "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" มาศาลฯไต่สวนพยานจำเลยนัดที่ 8 ยิ่งลักษณ์ระบุ "พิจารณาร่าง พรบ.พรรคการเมือง วอนขอเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมรับรู้เพื่อมีส่วนร่วม" @nna , bebe_porntip นัดที่ 8 แล้วเหรอ ลืมละเหนี้ยยย!!! อิป้ามุก ก้อรับ 2จ๊อบเลย เสร็จจากนี้ก้อไปวัดต่อเลย