ช่วงนี้น้องปูเตรียมสู้คดีอย่างเต็มที่อยู่ครัช เห็นเดินสายทำบุญแจกปฏิทิน น่าจะเป็นหมัดเด็ดน๊อคอัยการคาศาล
ผมว่าช่วงนี้ เจ๊รูปูคงพยายามหาช่องมุดรูหมา เพื่อไปค้นหาประชาทืบตายที่มอนเต อยู่ จะออกไปแบบเท่ๆ คงยากส์
อาจจะไปอยู่ชายแดน เหนือสุด แล้วขอให้ ฮ.ไปรับมาศาล (เตรียมค่าน้ำมันไว้ให้เปลี่ยนเส้นทางเป็นตัวเลข 8 หลัก)
สาวกเสื้อแดง ผมเชื่อว่ามีบางคนมาด้วยความใจบริสุทธิ์ บางคนนับถือและเชื่อมั่นในศาสดาจนมองไม่เห็นอันตราย หรือความล่มจมของสถาบันชาติ เปรียบเสมือน สาวกทำกาย ที่หลงใหลในตัวศาสดา และทำบุญด้วยใจที่อยากได้บุญ อยากขึ้นสวรรค์ ตรงนี้ผมพอยอมรับได้ แต่ที่รับไม่ได้เลยคือพวกที่อยู่ระดับข้างบนของทั้งองค์กรทำกาย และเสื้อแดง พวกนี้ หลอกเอาความเชื่อความบริสุทธิ์ใจ ความศรัทธา ของเหล่าสาวก มาเพื่อแสวงหาผลประโยขน์ ให้กับตัวเองและพวกพ้อง สร้างความหลงผิด ความเข้าใจผิดในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ กว่าที่เหล่าสาวกจะมองเห็น ความเลวร้ายของศาสดา สถาบันทั้ง 3 ก็คงสั่นคลอนจนไม่รู้เมื่อไหร่จะกลับมามั่นคงดังเดิม
ผมไม่ให้เครดิตกับนักการเมืองฉ้อฉลและเอเย่นต์ขายบุญมากขนาดนั้นครับ คนชั่วคนเลวต่างก็เป็นองค์ประกอบของสังคม กลุ่มหนึ่งล้มไป ไม่นานก็จะมีกลุ่มใหม่มาคิดชั่วทำชั่วต่อไป แต่สามสถาบันหลักของเราฝ่าฟันผ่านวิกฤติมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เผาเมืองและขายบุญสร้างความระส่ำระสายกับบ้านเมืองได้ระดับหนึ่งแต่ไม่จีรังยั่งยืนหรอกครับ ผมว่าเราโชคดีที่มีลุงตู่และขอให้กำลังใจลุงตู่ให้นำสัมมาทิษฐิกลับมาสู่สังคมไทยครับ
พยานจำเลย จากเอกชนของยิ่งลักษณ์คดี #โกงจำนำข้าว มี ประธานกลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของเครือ CP ร่วมด้วย "คนเราคบกันโดยธาตุ".......จริงแท้แน่นอน
วันนี้ (15 ม.ค.) l ข่าว 16.00 น.นัดแรกการไต่สวนพยานโจทก์จำนวน 4 ปาก ในคดีที่อัยการสูงสุดยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในโครงการรับจำนำข้าว เสร็จสิ้นไปแล้วเพียง 2 ปาก ศาลเลื่อนนัดสอบพยานไปเป็นวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ ************************************************ วันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการพิจารณาคดีอาญารับจำนำข้าว โดยเส้นทางคดีหลังจากนี้ อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังจำเป็นต้องมาศาลด้วยตัวเองไปตลอดทั้งปีนี้
"โง่แต่ขยัน ต้องเอาไปประหาร" คำพูดนี้ไม่รู้ของใครกันแน่ เพราะถามในอากู๋ ยกอ้างมาสามคน ขงจื้อ โจโฉ ฮิตเลอร์ ------------------------------------------------------------------------------- พท.สะกิดนายกฯ รับผิดชอบ หากมีทุจริตโครงการช่วยชาวสวนยาง โดย ไทยรัฐออนไลน์ 16 ม.ค. 2559 14:01 สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล จี้ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบและชดใช้ความเสียหาย หากมีการทุจริตโครงการรับซื้อยางจากชาวสวนยาง ชี้ ไม่ต่างไปจากโครงการจำนำข้าว อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ดักคอหวังไม่นำ ม.44 ออกมาเว้นความผิดให้ใคร... http://www.thairath.co.th/content/563656 ---------------------------------------------------------------------------------------------------- มาดูบริบทที่แตกต่าง ระหว่างที่ปูทำเรื่องจำนำข้าว ---------------------------------------------------------------------------------------------------- ย้อนกลับไปในปี 2554 นโยบายประชานิยม โดยเฉพาะการรับจำนำข้าวไม่ใช่เรื่องใหม่ หากแต่ราคาที่พุ่งสูงกว่าราคาซื้อขายตามปกติในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งอยู่ที่ 8,000-9,000 บาท กลายเป็น 15,000 บาท หรือเกือบหนึ่งเท่าตัว กลายเป็นฐานเสียงชั้นดีในการหาเสียงเลือกตั้ง ส่งผลให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาลในปี 2554 และได้ดำเนินโครงการรับจำนำข้าวตามที่ประกาศไว้ตั้งแต่ 7 ต.ค. 2554 เป็นต้นมา กระทั่ง ปี 2555 หลังจากเปิดรับจำนำข้าวได้เพียง 1 ปี เริ่มมีเสียงเตือนจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะในกลุ่มนักวิชาการ กรมการค้าข้าว และนักเศรษฐศาสตร์ รวมไปถึงองค์กรนานาชาติด้านเศรษฐกิจ ว่าโครงการดังกล่าวอาจสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้กับประเทศ และอาจทำให้ประเทศไทยเสียแชมป์การส่งออกข้าวโลก ที่เคยเป็นอันดับหนึ่งมานานกว่า 31 ปี ขณะที่ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ได้ออกโรงเตือนในเรื่องนี้ว่า จะทำให้เกิดปัญหาขาดทุนและการทุจริต ตั้งแต่ก่อนดำเนินโครงการ ฝ่าย ป.ป.ช.เอง ก็ยื่นหนังสือถึงอดีตนายกฯ ให้ยุติโครงการรับจำนำข้าวก่อนดำเนินโครงการเช่นกัน และยื่นอีกครั้ง หลังดำเนินโครงการไปแล้วประสบปัญหาขาดทุน ที่สำคัญกลุ่มชาวนาได้ออกมาร้องเรียนว่า ราคาข้าวที่รัฐตั้งไว้เกวียนละ 15,000 บาท จำนำได้จริงเพียง 10,500-11,000 บาท และมีขบวนการสวมสิทธิ์ นำข้าวคุณภาพต่ำจากประเทศเพื่อนบ้านมาร่วมจำนำด้วย ส่งผลให้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าตรวจสอบโครงการดังกล่าวอย่างเร่งด่วน และพบว่ารัฐใช้เงินงบประมาณไปกับการรับจำนำข้าวใน 2 ปีการผลิตสูงถึง 6.77 แสนล้านบาท เกินกรอบวงเงินที่กำหนดไว้จำนวน 5 แสนล้านบาท แถมยังระบายข้าวได้เพียง 1.28 แสนล้านบาท เท่ากับมีภาระหนี้ค้างชำระกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 5.48 แสนล้านบาท พร้อมตรวจพบการทุจริต และเกษตรกรไม่ได้รับความเป็นธรรม จากนั้น สตง.มีหนังสือเตือนเรื่องโครงการรับจำนำข้าวต่อรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถึง 4 ฉบับ ไม่ต่างจาก กระทรวงการคลังที่ทำหนังสือถึงคณะรัฐมนตรี เพื่อย้ำเตือนปัญหารับจำนำข้าวว่า เริ่มส่งผลกระทบต่อสถานะทางการคลัง ถึง 2 ครั้ง http://www.thairath.co.th/content/476431 จะเห็นได้ว่า มีการเตือนจากหลายฝ่าย แต่ก็ยังทำ โดยไม่สนใจคำเตือน พอเจ๊งเป็นแสนล้านแบบนี้ สมควรไหมที่ต้องโดนฟ้อง
คงไม่ยากครับ ชิณวัตร หาดบุญพาดเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้ มุดไปมาเขมรหลายรอบตอนโดนรัฐประหาร ไปรูไหนมันชำนาญมาก
วันที่-4มีค.-นี้-อย่าลืมละ-เรามีนัดกันนะน้องไอซ์???? Anna Ann Zuntson มิน่าพ่อมึงออกมาดิ้นจัง!! รองอธิบดีDSI เผย พานทองแท้ ชินวัตรจะเข้าพบDSI วันที่ 4 มีนาคมนี้ เพื่อชี้แจงเรื่องเงินกู้จากธนาคารกรุงไทย อัยการผู้เชี่ยวชาญฯ เผย คดีทุจริตเงินกู้ธนาคารกรุงไทย สอบปากคำพยานไปแล้ว200 ปาก คดีคืบหน้าเกินครึ่ง (วันนี้ แม่-สามี กาญจนาภา เลขาฯส่วนตัวคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร เข้าสอบปากคำที่ DSI คดีปล่อยเงินกู้แบงค์กรุงไทย หลังสอบปากคำพยาน"คดีเงินกู้แบงค์กรุงไทย"เสร็จ พ.ต.ท.สมบูรณ์ รองอธิบดีDSI จะเป็นฝ่ายชี้แจงความคืบหน้า)
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยานโจทก์ ครั้งที่ 3 ในคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีกลไกพิเศษในระยะเปลี่ยนผ่านหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ติดตามรายละเอียดจากคุณรพีพรรณ เรือนศรี ผู้สื่อข่าวไทยรัฐทีวี รายงานสดจากศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 26 ก.พ. l ข่าว 09.00 น.รายงานสดจาก ศาลฎีกา วันนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดสืบพยานฝ่ายโจทก์นัดที่ 3 ในคดีละเว้นปฏิบัติหน้าที่และกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ในโครงการรับจำนำข้าว 26 ก.พ.| ข่าว 16.00 น. การเบิกความพยานฝ่ายโจทก์ นัดที่ 3 คดีโครงการรับจำนำข้าว พยานฝ่ายโจทก์ 2 ปาก ที่เข้าเบิกความ ยืนยันถึงความล้มเหลวของการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลในอดีต
เจ๊บอกว่า "คนไทยอยากเห็นการเลือก" คงไม่ทุกคนมั้งครับ ผมคนหนึ่งละที่ยังกลัวๆกล้าๆ ที่อยากเลือกตั้งก้เพราะการเลือกตั้งคือองค์ประกอกสำคัญของปชต. แต่ที่ยังไม่อยากเลือกตั้งก็เพราะกลัวเจ๊ และพรรคพวกที่ยืนข้างหลังเจ๊กลับมากัดแทะแผ่นดินอันเป็นที่รักของผมอีกแหละครับ
ต่อมาช่วงบ่ายตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นการไต่สวนพยานปากที่ 2 คือ เครือข่ายแกนนำชาวนา ระวี รุ่งเรือง ได้เบิกความต่อศาลถึงภาพรวมโครงการจำนำข้าว เป็นโครงการที่ดี มีระบบจัดการ แต่เรื่องการตรวจสอบให้โครงการมีประสิทธิภาพไม่สามารถปฏิบัติได้จริงเพราะ เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ไม่มีความเชี่ยวชาญเรื่องเมล็ดพันธุ์ข้าว รวมถึงมีการสวมสิทธิ์ข้าวของชาวนาโดยโรงสี มีจริงลักษณะเป็นสมยอมกันระหว่างชาวนากับโรงสีที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย เช่น หลักเกณฑ์การผลผลิตกำหนดให้ได้ 800 กิโลกรัมต่อไร่ แต่ความเป็นจริงหากชาวนาได้ผลผลิตไม่ถึง 800 ตันต่อไร่ ส่วนต่างที่ขาดหายไปโรงสีจะมาขอใช้สิทธิ์กับชาวนา โดยให้ค่าตอบแทน 1,000 – 3,000 บาทต่อใบประทวน แล้วเมื่อหน่วยงานรัฐลงมาตรวจสอบโรงสีจะนำข้าวอื่นที่ไม่ได้คุณภาพมาใส่แค่ ให้ครบจำนวนตรวจสอบตามใบประทวน ดังนั้นจึงหาหลักฐานได้ยากคล้ายกับการซื้อสิทธิขายเสียงเลือกตั้งที่ไม่มี หลักฐานเป็นเอกสารลายลักษณ์อักษร แต่เป็นการรับรู้ทั่วกัน อย่างไรก็ตามเมื่อศาลไต่สวนพยานทั้ง 2 ปากเสร็จสิ้นเวลา 15.30 น. ศาลได้นัดไต่สวนพยานโจทก์ปากต่อไปวันที่ 4 มี.ค.นี้ โดยนางสาวยิ่งลักษณ์เดินทางกลับทันทีโดยงดให้สัมภาษณ์เนื่อจากศาลยุติธรรม ได้ออกหนังสือชี้แจงถึงการให้สัมภาษณ์ของพยานก็ดี หรือ ผู้เกี่ยวข้องรวมถึงสื่อมวลชนว่าห้ามให้การสัมภาษณ์และหรือวิเคราะห์ข้อมูล เกี่ยวกับคดีใดๆ จนมีผลกระทบต่อรูปคดีหรือการชักจูงให้เกิดมีคำพยานเท็จและสร้างความเข้าใจ ผิดให้กับประชาชนหรือแม้ว่าข้อความเหล่านั้นอาจเป็นความจริงก็เป็นสิ่งที่ ไม่สามารถกระทำได้และอาจเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลตามประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความแพ่ง มาตรา 32 (2) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือ วานนี้ รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวน ชีพ จุลมนต์ พร้อมองค์คณะรวม 9 คน ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยานโจทก์ครั้งที่สาม คดีโครงการรับจำนำข้าว โดยนาวสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ารับฟังการไต่สวนพร้อมสมาชิกพรรคเพื่อไทยและอดีตรัฐมนตรีหลายคน เช่น กิตติรัตน์ ณ ระนอง, นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล, จากนั้นบรรยากาศการเบิกความพยานโจทย์ปากแรกเริ่มขึ้นในเวลา 09.30 น. -12.00 น.ซึ่ง อัยการ โจทก์ นำ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย วิชัย ศรีประเสริฐ พยานขึ้นเบิกความโดยมีประเด็นสำคัญๆ ก็คือการวางกรอบซื้อ-ขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี โดยระบุว่า ไม่ใช่การขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐอย่างแท้จริง เพราะมีการส่งข้าวที่ขายให้ผู้แทนไทยที่หน้าโกดังในประเทศไทย ไม่ได้ส่งออกไปตลาดต่างประเทศ ทำให้เกิดช่องโหว่ นำข้าวนั้นมาหมุนเวียนขายในประเทศซึ่งการขายแบบจีทูจีที่ดำเนินการช่วงปลาย ของรัฐบาลจำเลย ที่พยานเห็นว่าดำเนินการจริงๆน่าจะมีเพียง 1 ล้านตันเท่านั้น ที่บริษัทคอฟโก้ เดินทางมากับรัฐบาลจีนแล้วทำสัญญารับซื้อข้าวที่เป็นข้าวใหม่ นอกจากนี้ ทางประเทศจีนมีโควตารับซื้อข้าวต่างประเทศเพียง 5.3 ล้านตัน แต่มีระบุว่ามีการทำสัญญาซื้อขายจีทูจี 14 ล้านตัน พยานจึงไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ และบริษัทเอกชนที่เป็นตัวแทนของประเทศจีนที่ได้สิทธิ์ซื้อข้าว ต้องเป็นบริษัทคอฟโก้บริษัทเดียวตามพันธะที่ประเทศจีนแจ้งไว้กับ WTO ส่วนบริษัท ไห่หนาน เกรน แอนด์ ออยล์ อินดัสเทรียล เทรดดิ้ง ซึ่งรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์อ้างว่าได้ทำสัญญาซื้อขายข้าวไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นตัวแทนจีน ในการทำการค้าแทนได้
กปปส. ลุมพินี ป้ามาแล้ว 8.24น. ปชช.เดินทางมารอให้กำลังใจ '#ยิ่งลักษณ์' ที่จะเดินทางมาศาลฎีกาฯ เพื่อฟังการไต่สวน #คดีจำนำข้าว ป้าแกดูดี มีราศีขึ้นมากนะ สงสัยได้ขึ้นตำแหน่ง
“หมอวรงค์”ซ้อมให้การหนักกว่าอภิปรายในสภา ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดไต่สวนพยานโจทย์ครั้งที่ 4 โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาฟังการไต่สวนด้วยตัวเองเหมือนเดิมตามคำสั่งศาลฯ ในคดีจำนำข้าว พยานฝ่ายโจทย์นัดนี้ คือ นายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หัวทีมไต่สวนโครการจำนำข้าวของ ป.ป.ช. และนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม์ อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ที่อภิปรายไม่ไว้วางใจโครงการจำนำข้าว รัฐบาลยิ่งลักษณ์ต่อรัฐสภา โดยข้อซักถามของนายแพทย์วรงค์มี 59 คำถาม เน้นเรื่องการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี การบริหารโครงการจำนำข้าวรวมถึงข้อมูลที่เคยอภิปรายต่อรัฐสภา ในขณะที่นายแพทย์วรงค์ มีแกนนำพรรคประชาธิปัตย์มาให้กำลังใจ เช่น คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร โดย นพ.วรงค์ ให้สัมภาษณ์ว่า ใช้เวลาในการซักซ้อมให้ปากคำ 6-7 ชั่วโมง มากกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว “ยิ่งลักษณ์”ชี้จัดเลือกตั้ง2ก.พ.57ตามกฎหมาย ส่วนบรรยากาศก็มีประชาชนที่สนับสนุน น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาให้กำลังใจพร้อมแจกดอกกุหลาบมอบให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์และตะโกนให้กำลังใจ “ยิ่งลักษณ์สู้ๆ” โดยอดีตนายกรัฐมนตรีใช้เวลาฝ่ามวลชน 15 นาที จึงจะเดินขึ้นมาถึงทางเข้าศาลฯ วันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับคดีจำนำข้าวตามที่ศาลฯ ขอความร่วมมือคู่ความ แต่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเกี่ยวกับมติคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยืนยันให้จัดเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.2557 และเรียกค่าเสียหายจาก กปปส.ที่ขัดขวางการเลือกตั้งครั้งดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า รู้สึกแปลกใจ และยืนยันทำตามขั้นตอนกฎหมายให้มีกฤษฎีกาเลือกตั้ง ส่วนเรื่องจะฟ้องกลับ กกต.หรือไม่ ขอดูรายละเอียดก่อน กปปส.ยืนยันเลือกตั้ง2ก.พ.57เป็นโมฆะ ในขณะที่นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส.ที่มาให้กำลังใจ นพ.วรงค์ เดชวิกรม ที่ศาลฎีกาฯ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับ มติ กกต.ด้วยว่า การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.2557 ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไปแล้วว่าโมฆะ และเห็นว่า กกต.ที่เป็นองค์กรอิสระ ควรเลือนการเลือกตั้งออกไป เพราะมีผู้สมัครไม่ครบทุกเขต แต่กลับยืนยันจัดเลือกตั้งตามความเห็นรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ 4 มี.ค. l ข่าว 09.00 น.รายงานสดจาก ศาลฏีกา การเบิกความพยานฝ่ายโจทก์คดีจำนำข้าวนัดที่ 4 วันนี้ นายวิชา มหาคุณ และ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม จะให้ข้อเท็จจริงต่อตุลาการศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง การเบิกความพยานฝ่ายโจทก์ ในคดีปล่อยปะละเลยโครงการรับจำนำข้าว เป็นเหตุให้รัฐเสียหายนัดที่ 4 วันนี้ นายวิชา มหาคุณ อดีตประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนโครงการรับจำข้าว และนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่ติดตามและตรวจสอบการดำเนินโครงการ 4 มี.ค. l ข่าว 12.00 น.ผ่านไปแล้ว 2 ชั่วโมง สำหรับการไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์นัดที่ 4 ในคดีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตกเป็นจำเลยในโครงการรับจำนำข้าว โดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ให้น้ำหนักไปที่การยืนยันข้อมูลพบการทุจริตในโครงการ
มีนัดอีกทีวันที่ 23 นะ ศาลฎีกาแผนกคดีการเมืองนัดไต่สวนพยานโจทก์นัด 5 คดีจำนำข้าว 23 มี.ค. เป็น จนท.ปปช.