ท่ามกลางข้อครหาสงสัย ว่าทำไมคดีที่นักการเมืองถูกชี้มูลว่ากระทำผิดอาญาจากโครงการจำนำข้าว ปรากฏยอดเสียหายมโหฬาร ขาดทุนหลายแสนล้านบาท เหตุใดยังไม่มีการฟ้องร้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เสียที? ป.ป.ช.ชี้มูลด้วยมติเอกฉันท์ แต่อัยการสูงสุดเห็นว่าสำนวนยังมีข้อไม่สมบูรณ์ ตั้งคณะทำงานร่วม ป.ป.ช.กับอัยการ ประชุมกันมา 3 นัด... คดีไม่ไปไหน ป.ป.ช.มั่นใจในพยานหลักฐาน สามารถเอาผิดนักการเมืองได้แน่นอน แต่จะฟ้องเองก็ยังทำไม่ได้เพราะฝ่ายอัยการบอกว่า จะต้องรอผลการตัดสินใจของอัยการสูงสุดก่อนว่าจะฟ้อง หรือไม่ฟ้อง? ถามว่า ต้องรออีกนานแค่ไหน? ไม่มีคำตอบแน่นอนชัดเจน... ความหมายคือ รอไปเรื่อยๆจะอีกกี่ปีก็ไม่รู้ ทั้งๆ ที่ คดีนี้ หากอัยการไม่ฟ้อง ป.ป.ช.ก็สามารถฟ้องต่อศาลฎีกาฯ ได้โดยตรง เช่นเดียวกับคดีทุจริตโกงกินหลายคดีที่ ป.ป.ช.ฟ้องร้องเอาผิดนักการเมืองทุจริตเอง แถมศาลฎีกาฯ ก็พิพากษาลงโทษนักการเมืองเหล่านั้นด้วย! 1) 9 พ.ย.ที่ผ่านมา นิด้าโพลล์ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “การหาผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว” ปรากฏว่า ประชาชนร้อยละ 40 เชื่อว่าโครงการมีมูลค่าความเสียหาย 5-7 แสนล้านบาท ร้อยละ 35 เชื่อว่าโครงการมีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 7 แสนล้านบาท!!! ที่น่าสนใจ คือ เมื่อถามว่า หน่วยงาน องค์กร หรือสถาบันที่เกี่ยวข้องในการหาผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวควรดำเนินการอย่างไร? ปรากฏว่า ร้อยละ 61 เห็นว่า ควรหาผู้รับผิดชอบทั้งทางการเมือง (เช่น การดำเนินการถอดถอนจากตำแหน่งทางการเมือง) และทางอาญา (เช่น การดำเนินการส่งฟ้องศาลบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด) ยิ่งกว่านั้น เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นต่อหน่วยงานใดในการดำเนินการฟ้องร้องผู้กระทำความผิดจากโครงการรับจำนำข้าว? ปรากฏว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 54 เชื่อมั่นในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร้อยละ 20 เชื่อมั่นในสำนักงานอัยการสูงสุด 2) โดยหลักการแล้ว อัยการ คือ ทนายของแผ่นดินกินเงินเดือนจากภาษีอากรของประชาชน มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องปกป้องผลประโยชน์ของแผ่นดินเป็นสำคัญ แต่ที่ผ่านมา ประชาชนก็จำได้ว่า มีคดีเกี่ยวกับการกระทำผิดของนักการเมืองหลายคดีที่อัยการสั่งไม่ฟ้องในคดีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดแล้วส่งมาให้ เช่น สั่งไม่ฟ้องนายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ กรณีปราสาทพระวิหาร, สั่งไม่ฟ้องคดีทุจริตจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 ที่เกี่ยวข้องกับทักษิณและพวก, สั่งไม่ฟ้องกรณีพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ กรณีสั่งการให้สลายการชุมนุมพันธมิตรฯ 7 ต.ค. ฯลฯ ที่เข้าตามากที่สุดในช่วงหลัง (ช่วงที่ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี) ก็คือกรณีอัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฎีกาคดีเลี่ยงภาษีของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร และนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ อันมีผลทำให้คดียุติลงไปโดยปริยาย โดยที่ศาลฎีกาฯ ไม่มีโอกาสได้พิจารณาพิพากษาคดีให้เป็นที่สิ้นสงสัยของทุกฝ่าย คดีดังกล่าว อัยการสูงสุดยื่นฟ้องต่อศาลชั้นต้น แสดงว่าอัยการย่อมเห็นว่าคดีมีพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอที่จะเอาผิดกับคุณหญิงพจมานและพวกได้ แถมเมื่อชนะคดีในศาลชั้นต้น ก็แสดงว่า ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีนี้มีพยานหลักฐานแน่นหนา เพียงพอที่จะเอาผิดคุณหญิงพจมานและพวกได้ (ลงโทษจำคุก) แต่พอศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องคุณหญิงพจมานเท่านั้น อัยการสูงสุดไม่ติดใจเสียอย่างนั้น ไม่ฎีกาคดีไปให้ถึงที่สุด เพื่อให้ศาลฎีกาได้พิจารณาชี้ขาดให้เป็นที่ยุติ สิ้นข้อครหาสงสัยใดๆ เคยมีหลายคดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิด แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง และเมื่อมีการฎีกาฯ ศาลฎีกากลับพิพากษาว่าจำเลยผิดเหมือนศาลชั้นต้น แถมคดีนี้ ประธานศาลอุทธรณ์ คุณชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ยังทำความเห็นแย้งต่อคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ดังกล่าวเอาไว้ด้วย การที่อัยการสูงสุดสั่งไม่ฎีกาในครั้งนั้น มีผลให้คดีจบสิ้นลง เป็นประโยชน์แก่ฝ่ายคุณหญิงพจมาน อัยการควรเป็นทนายของแผ่นดิน ลองคิดในทางกลับหัน หากคดีดังกล่าว ฝ่ายมหาเศรษฐีเป็นฝ่ายฟ้องร้อง ว่าจ้างทนายความเอกชน ปกป้องผลประโยชน์ของเขา ลองถ้ามีคำพิพากษาศาลชั้นต้นชนะคดี ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ แต่มีความเห็นแย้งของประธานศาลอุทธรณ์อย่างนี้ ถามว่า ทนายความเอกชนเขาจะยื่นฎีกาเพื่อรักษาผลประโยชน์สูงสุดของลูกความหรือไม่? ด้วยเหตุนี้ จึงไม่แปลกใจที่สังคมจะสั่งสมความคลางแคลงใจต่อสำนักงานอัยการสูงสุด พอมาถึงคดีจำนำข้าว นักการเมืองถูก ป.ป.ช.ชี้มูลด้วยมติเอกฉันท์ว่ามีการกระทำผิดอาญาแผ่นดิน ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง แต่คดียังไปไม่ถึงศาล ยังอยู่ในความดูแลของอัยการ แถมอัยการยังออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ป.ป.ช.ฟ้องเองไม่ได้ ต้องรออัยการตัดสินใจก่อน คนยิ่งคิดไปถึงไหนต่อไหน 3) นอกจากคดีที่อยู่ในความดูแลของอัยการแล้ว ยังมีหลายกรณีที่อัยการตกเป็นข้อครหาโดยตรง หนึ่งในนั้น คือ กรณีที่อัยการบางคนถูกกล่าวหาเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ซื้อตั๋วเครื่องบิน นำพา พ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึก หรือนายเกียรติกรณ์ แก้วเพชรศรี ขึ้นเครื่องบินเดินทางจากประเทศไทยไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2555 (พยานในคดีลักพาตัวนายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี) โดยที่นายคนนี้เป็นผู้หลบหนีหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ถูกศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิตในคดีฆ่าผู้อื่น แต่กลับปรากฏหลักฐานว่ามีอัยการรู้เห็นและนำพาตัวหนีออกไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ล่าสุด นักข่าวไปสอบถามเรื่องนี้เอากับนายวันชัย รุจนวงศ์ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นายวันชัยตอบว่า “เรื่องนี้อย่าถามเลยดีกว่า” ก่อนจะเดินออกไปในทันที ไม่ตอบคำถามอื่นๆต่อ การไม่มีคำอธิบายชี้แจงยิ่งทำให้สังคมเกิดข้อครหาสงสัยกับสำนักงานอัยการสูงสุดมากยิ่งขึ้น อัยการต้องเร่งล้างบ้านตัวเองโดยด่วน ปฏิรูปองค์กรอัยการ ทำงานอย่างรวดเร็ว โปร่งใส ปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ ก่อนที่สังคมจะพิพากษาอัยการ! สารส้ม http://www.naewna.com/politic/columnist/15425 หึ หึ หึ... ใกล้แล้วล่ะ... ไอ้ย๊ะกวย...
เค้าเรียกว่าพวกกินบนเรือนขี้รดหลังคา...........ชาวบ้านทั่วไป(ยกเว้นฝูงควาย)ต่างมองออก...ว่าอัยกินพวกนี้มันทำงานให้ใคร..........กรั่ก กรั่ก กรั่ก
````````````````````````````````````````````````````````````````````````````````````` "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม - กมฺมุนา วตฺตตีโลโก " `````````````````````````````````````````````````````````````````````````````````````
เพราะไม่มีใครเอาผิดอัยการได้เลย แม้จะตัดตอนคดีไปเฉยๆ ไม่ต้องส่งเรื่องให้ศาลตัดสิน องค์กรนี้ ทำเลวระยัมยังไง มันไม่แคร์สายตาประชาชนเลยด้วยซ้ำ ไม่แปลกใจ ทำไมรัฐบาลเพื่อแม้ว ถึงได้พยายามจะออกกฎหมาย ตัดสิทธิ์ประชาชนฟ้องศาลเอง ให้ทุกคดีไปที่อัยการก่อนทั้งหมด
เรื่องนี้ดันโผล่มาได้ถูกเวลาเสียจริงขอรับ... จะว่าเป็นข่าวประเภทเจื่อกเข้าป่าเก็บเห็ดแถวที่เค้าตัดไม้พอดีแล้วติดคุก หรือเมียเซนผัวติดคุกก็คงไม่ใช่ เพราะเรื่องราวมันเป็นวิถีที่เห็นได้จริงๆ...
ล้างทั้งบ้านทั้งเมือง ล้างกันมานานทั้งโดยเลือกตั้ง ปฏิวัติ ล้างจนบ้านกร่อนเหลือแต่เสา ก็คนนึงล้าง คนนึงเผา รัฐธรรมนูญมันก็ไม่ยอมรับ กฏหมายมันก็แก้ คนห้าล้านคนก็มาล้าง ก็โดนระเบิด คำถามว่าจะให้ทำยังไง คำตอบที่ถูกต้องมันควรมีคำตอบเดียว ถ้ามันมีหลายคำตอบ มันก็จะนำไปสู่คำถามต่อไปอีก อย่างคำถามว่า ก็หยุดความเสียหายไม่ได้ จะให้ทำยังไง ถ้าไม่ปฏิวัติ ก็ถ้าตอบว่า เลืิอกตั้ง ก็ถ้า จะเลือกตั้งให้มันยุติไม่ซ้ำร้ายเหมือนเดิม ถามว่า ต้องปฎิวัติก่อนเลือกตั้งไหม ถ้าตอบว่า ปฏิวัติก็เหมือนเดิม เสียของ ก็ถามว่า ปฏิวัติมันอีกเรื่อยไปดีไหม เราก็จะได้คำตอบไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายผมก็เห็นว่า ไม่ว่าประเทศไหนๆ มันก็ปฏิวัติกันจนกว่า เผด็จการจะคุมหลังประชาธิปไตยไว้ได้กันทุกประเทศ เสื้อแดงก็แบบนี้ เช่นกันแระ ก็อยู่ที่ว่า สลิ่มกับเสื้อแดง ใครจะเป็นคนจบเกมส์ นั่นก็จะเป็น คำตอบสุดท้าย (สงครามกลางเมืองนั่นอะ ปฏิวัติที่ร้ายแรงที่สุด บรรพบุรุษไทยเก่งที่หลีกเลี่ยงมาได้)
ล้างบ้านอัยการ ผมไม่รู้ว่าควรใช้อะไร แต่ถ้าล้างปากอัยโกง ที่เสพแต่ของสกปรกเน่าเหม็น แนะนำอันนี้เลย อ้อ แต่ขวดเดียว เอาไม่อยู่ แน่นอนครับ ต้องประมาณ 10 คัน รถบรรทุก