อยากถาม อยากสงสัย อยากวิจารณ์ ว่า 14 ตุลา หลังๆมานี้ มันดูเงียบๆ ต่างจาก 6 ตุลา ที่ประโคมกันเต็มไทม์ไลน์ ขยันจัดอีเว้นท์อย่างหนัก ประกอบกับการสร้างวาทกรรมลดความสำคัญของ 14 ตุลาลง โดยมองว่าเป็นเรื่องของราชาชาตินิยมไปซะ ในมุมมองของร่าน แน่ล่ะ 6 ตุลา โหนได้ดีกว่า เพราะ 14 ตุลา มีเบื้องบนมาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวกู้กรุง เป็นบุคคลสำคัญในเหตุการณ์ ถือเป็นเหตุการณ์ที่แสดงถึงศักยภาพของเบื้องบนในสังคมไทย ร่านรับม่ายด้ายยยยยยยยย
จัดครัช แต่สื่ออำมาตย์ไม่ยอมโปรโมท 'กลุ่มดาวดิน'บุกชูสามนิ้วงานรำลึก 14 ตุลา | เดลินิวส์ „'กลุ่มดาวดิน'บุกชูสามนิ้วงานรำลึก 14 ตุลา "ปนัดดา"เป็นตัวแทนนายกฯ ร่วมงานรำลึก 42 ปี 14 ตุลาฯ แยกคอกวัว กลุ่มญาติวีรชน ยื่นหนังสือขอเงินยังชีพและเงินเยียวยาย้อนหลัง ด้านกลุ่มดาวดิน บุกชูสามนิ้ว อ่านแถลงการณ์ไม่เอาเผด็จการ วันพุธที่ 14 ตุลาคม 2558 เวลา 12:00 น. เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน มูลนิธิ 14 ต.ค.ร่วมกับญาติวีรชน 14 ตุลา จัดงานรำลึก "42 ปี 14 ต.ค. 16" โดยมีการตักบาตรพระสงฆ์ 14 รูป และประกอบพิธีกรรม 3 ศาสนา พุทธ คริสต์ และอิสลาม เพื่ออุทิศส่วนกุศลและรำลึกถึงวีรชน และผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้น โดย ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) วางพวงมาลา และกล่าวสดุดีวีรชน ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า เหตุการณ์ 14 ตุลา มีความสำคัญอย่างมากในประวัติศาสตร์การปกครองประเทศ ที่เหล่านิสิตนักศึกษา ประชาชน เสียสละเลือดเนื้อต่อสู้ให้ได้ประชาธิปไตยอย่างกล้าหาญ โดยอุดมการณ์ความเสียสละของวีรชน ถือเป็นความสำคัญต่อประเทศไทย ซึ่งประชาชนควรดำรงไว้คำนิยามของการเป็นประชาธิปไตย คือ 1.ความสามัคคี 2 .ความพอเพียง ปรัชญาของในหลวงที่เป็นคติประจำใจของคนไทย 3.การไม่ให้ร้ายผู้อื่น และประเทศ เพราถือเป็นบาปร้ายแรง 4.ไม่ทุจริตคดโกงประเทศอย่างเด็ดขาด ซึ่งจะช่วยค้ำจุนระบอบประชาธิปไตยให้ยั่งยืน ทางด้านนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวสดุดีว่า เชื่อว่าเหตุการณ์นี้ยังคงอยู่ในความทรงจำของคนไทยทุกคน เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของการเมืองประเทศไทย แต่น่าเสียดาย ที่ประชาธิปไตยสะดุดเป็นระยะ ในทางเดินที่ผ่านมาช่วยกันสร้างการเรียนรู้ให้กับสังคมไทย และตนยืนยันว่าจะสืบทอดเจนารมณ์ของเหล่าวีรชน เพื่อเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่ประชาธิปไตยที่มั่นคง สมบูรณ์ เป็นความหวังของคนไทยได้แท้จริง นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองคณบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ฝ่ายกิจการนักศึกษา กล่าวว่า ประชาธิปไตยของไทยเริ่มขึ้นเมื่อปี 2479 ซึ่งมีความหมายมาก และเหตุการณ์14 ตุลา ทำให้มีประชาธิปไตยคืนมา แต่หลังจากนั้นมีเหตุการณ์นองเลือดเกิดอีก 5 ครั้ง มีการยึดอำนาจ 13 ครั้ง มีรัฐธรรมนูญที่กำลังร่าง ฉบับที่ 20 ถามว่าจะเป็นฉบับสุดท้าย และการยึดอำนาจครั้งสุดท้ายหรือไม่ ประชาธิปไตยชะงักไปเมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 จะทำอย่างไรที่ประเทศจะกลับสู่ประชาธิปไตย ไม่กลับมานองเลือดอีก ซึ่งทุกคนต้องตระหนัก อะไรที่ล้มเหลว ผิดพลาดไป ต้องข่วยกันแก้ไข เพื่อทำให้ประชาธิปไตยเดินหน้าต่อไป ขณะที่กลุ่มญาติวีรชน นำโดยนายพีระศักดิ์ จิตวิมลกุล อายุ 63 ปี ซึ่งสูญเสียขาข้างหนึ่งจากเหตุการณ์ 14 ตุลา และนางละเมียด บุญมาก ภรรยาของนายจิระ บุญมาก อดีตพนักงานการไฟฟ้า ที่มาร่วมประท้วงและเสียชีวิต พร้อมด้วยญาติวีรชน กว่า 40 คน ได้เข้ายื่นหนังสือเรียกร้องรัฐบาล ผ่าน ม.ล.ปนัดดา ขอให้ชดเชยเยียวยาย้อนหลังเป็นเงิน 14 ล้านบาท และให้ช่วยค่าใช้จ่ายรายเดือน ๆ ละ7 พันบาท เพราะที่ผ่านมารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ได้อนุมัติแล้ว ที่ผ่านมาได้ไปยื่นเรื่องที่ศูนย์ดำรงธรรม มาแล้ว 3 ครั้งแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้า ในขณะนี้ญาติวีรชนไม่มีรายได้อย่างอื่น เพราะมีทั้งพิการ เจ็บป่วย จำนวนมาก โดยได้รับเงินมาแล้วคนละ 1 ล้านกว่าบาท แต่ญาติได้เพียง 2 แสนบาท หากรัฐบาลนี้ไม่อนุมัติจะมีการนัดประท้วง เพราะต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้ได้เงินมายังชีพ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้นายพายุ บุญโสภณ นายภาณุพงศ์ ศรีธนานุวัฒน์ พร้อมด้วยแกนนำกลุ่มดาวดิน ได้อ่านแถลงการณ์ ไม่เอาเผด็จการ และใส่หน้ากากถือป้ายข้อความว่า "ขอสรรเสริญ วีรชน 14 ตุลา ผู้กล้า แห่งห้วง ยุคสมัย มาวันนี้ ลืมอุดมการณ์ หรืออย่างไร จึงเปลี่ยนใจ มารับใช้เผด็จการ" พร้อมทำสัญลักษณ์ ชูสามนิ้ว และกล่าวว่าขอบคุณรัฐบาลเผด็จการ ที่ให้บทเรียนกับนักศึกษา ทำให้เรารู้ว่าการเรียกร้องประชาธิปไตยมีค่ามีความสำคัญขนาดไหน เจตนารมณ์ของเราจะต้องไม่มีเผด็จการในประเทศนี้อีกต่อไป เพราะขณะมีชาวบ้านเดือดร้อนอ้างการพัฒนาที่มาพร้อมคราบน้ำตาประชาชน เหมืองแร่เมืองเลย การขุดเจาะปิโตรเลียม ไล่รื้อบ้านชาวบ้าน แต่รัฐบาล คสช.ห้ามออกมาเรียกร้อง เวลานี้ประชาชนถูกจำกัดเสรีภาพมากกว่าช่วงเหตุการณ์ 14 ตุลา 16.“ อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/politics/354254
แค่กลุ่มปัญญานิ่ม ที่ไม่ยอมรับผิดชอบต่อผู้ชุมนุม(เดินขบวนช่วงดึก เพื่อ? อยากโดนชายชุดดำสร้างสถานการณ์?) กลับหันไปรวมทกลุ่มกะพวกไม่เอา ม. 112 แค่นี้ก็หมดราคาเต็มตัวแล้ว
ส่วนที่ไม่ค่อยกระตือรือล้นมารำลึกคงเพราะโลกหมุนไป เงื่อนไขเปลี่ยนไป จะให้คอยงมรำลึกความหลังอยู่ร่ำไปคงไม่ได้ ตอนนั้นต่อต้านทหารเพราะประเทศถูกปกครองโดยระบบทหารนานเกินไป แต่ตอนนี้ต้องขอให้ทหารดูแลการปฏิรูปประเทศให้ผ่านพ้นไปก่อน เพราะตระหนักแล้วว่านักการเมืองฉ้อฉลทำประเทศเสียหายสาหัสจนเกือบสิ้นชาติ คนที่เอาเดือนตุลามาจัดอีเว้นท์คงมีแต่พวกลูกจ้างนักการเมืองฉ้อฉล ออกมาโหนวีรชนเพื่อเร่งเวลาจัดเลือกตั้งเท่านั้น
