ปฐมบท สิงหาคม 2556 - รัฐบาลไทยโดยการนำของพรรคเพื่อไทยได้เสนอ ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ รัฐบาลอ้างว่าจะนิรโทษเฉพาะผู้ชุมนุม และในวันที่ 31 กรกฎาคม 2556 ฝ่ายรัฐบาลตอบโต้การชุมนุมครั้งนี้ด้วยการออก พระราชบัญญัติ ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และเขตดุสิต ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2556 ถึง 8 สิงหาคม 2556 - ต่อมา ประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ได้แปรญัตติซึ่งจะนิรโทษกรรมความผิดของทุกฝ่ายย้อนหลังไปถึงปี 2547 โดยถูกหลายฝ่ายคัดค้าน และมีการชุมนุม ในระหว่างการชุมนุมมีเหตุความไม่สงบ โดยเป็นการแกนนำคือนายสุเทพ เทือกสุบรรณและพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้นำ และอีกฝ่ายหนึ่งคือแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ และคนเสื้อแดงทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต พฤศจิกายน 2556 - วันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 วุฒิสภาลงมติเป็นเอกฉันท์ไม่เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ - การชุมนุมซึ่งนำโดยสุเทพยังคงดำเนินต่อไป โดยเปลี่ยนเงื่อนไขเป็นการต่อต้านรัฐบาลแทน ธันวาคม 2556 - ยิ่งลักษณ์ประกาศยุบสภาวันที่ 9 ธันวาคม 2556 โดยในคำแถลงยุบสภาผู้แทนราษฎร ลั่นแก้ไขวิกฤติภายในประเทศ สร้างความปรองดองถึงที่สุดแล้ว เผยไม่อยากให้เกิดการสูญเสียอีก ทำให้ ยิ่งลักษณ์เป็นนายกรักษาการ และประกาศเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 - กลุ่ม กปปส ต้องการให้มีการปฎิรูปประเทศก่อน การเลือกตั้ง ทำให้มีความขัดแย้งถึงการเลือกตั้งก่อน 2 กุมภาพันธ์ 2557 ระหว่าง กปปส และกลุ่มคนที่สนับสนุนรัฐบาล นปช ทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต กุมภาพันธ์ 2557 - มีการเลือกตั้งทั่วไปทั่วประเทศ กลุ่ม กปปส ไม่อยากให้ให้มีการเลือกตั้ง อ้างปฎิรูปก่อน แล้วค่อยเลือกตั้ง ผลการเลือกตั้งครั้งนั้น พรรคเพื่อไทย คะแนนสูงสุด - ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอเรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 245 ว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาผูแทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ตามพระราชกฤษฎีกายุบสภาผ้แทนราษฎร พ.ศ. 2556 เป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ หรือไม่ มีนาคม 2557 - ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดคดีนี้เมื่อวันศุกร์ที่ 7 มีนาคม 2557 ซึ่งเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล โดยคดีนี้ศาลปกครองชั้นต้นได้มีคำพิพากษาตัดสินไปเมื่อปี 2556 ว่าคำสั่งย้ายคุณถวิลฯไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งยืนตามศาลปกครองกลาง สั่งให้คืนตำแหน่งเลขาธิการ สมช. แก่ ถวิล เปลี่ยนศรี ภายใน 45 วัน เนื่องจากพิจารณาแล้วว่า นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจโดยมิชอบ และไม่มีเหตุผลที่เหมาะสมรองรับการโยกย้ายดังกล่าว อีกทั้งยังเห็นว่า การดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สมช. สามารถเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีได้โดยตรง โดยตำแหน่งอยู่แล้ว ต่างกับการเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีที่การจะแสดงความเห็นใด ๆ ต้องผ่านเลขาธิการนายกรัฐมนตรีก่อนจึงจะถึงนายกรัฐมนตรี ดังนั้น จึงไม่สามารถอ้างได้ว่าการโยกย้ายไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ***นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวยิ่งลักษณ์ จากการโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี ออกจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งทั้งนางสาวยิ่งลักษณ์ และนายถวิล ก็ได้ไปชี้แจงเรื่องนี้ต่อศาลในวันที่ 6 พฤษภาคม 2557 - ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่าพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2556 เฉพาะในส่วนที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 มิได้จัดการให้เป็นการเลือกตั้งวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร อันเป็นการไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 108 วรรคสอง การพิจารณาวินิจฉัยเหตุแห่งคำร้องในข้ออื่นๆ ไม่อาจทำให้ผลการวินิจฉัยเปลี่ยนแปลงไป จึงไม่จำต้องวินิจฉัยเหตุแห่งคำร้องในข้ออื่นๆ อีก ศาลรัฐธรรมนูญจึงวินิจฉัยโดยเสียงข้างมากว่า พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2556 เฉพาะในส่วนที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ไม่สามารถจัดการให้เป็นการเลือกตั้งวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักรจึงไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 108 วรรคสอง พฤษภาคม 2557 - ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ลงมติเอกฉันท์ คดีตามคำร้องของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวยิ่งลักษณ์ จากการโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี ชี้ว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ โยกย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี โดยมิชอบ เป็นการขัดต่อคุณธรรม จริยธรรม ขัดต่อรัฐธรรมนูญที่เป็นการก้าวก่าย แทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการประจำ เพื่อประโยชน์ของตนเอง พวกพ้อง เอื้อประโยชน์ให้เครือญาติ อันเป็นเหตุให้ต้องสถานะความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเป็นการเฉพาะตัว และด้วยเหตุดังกล่าวก็ส่งผลให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องพ้นจากตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ 9 รัฐมนตรี ประกอบด้วย นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกฯ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน - ทางพรรคเพื่อไทยเสนอนาย นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ขึ้นปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี และกระจายคณะรัฐมนตรีที่เหลืออยู่ทำหน้าที่แทนรัฐมนตรีที่พ้นสภาพ ส่งผลให้เกิดความขัดแยกถึงอำนาจ และที่มา ทั้งกลุ่ม กปปส และ นปช - วันที่ 20 -21 พฤษภาคม 2557 พลเอก ประยุทธ์ ประกาศกฎอัยการศึก ตั้งแต่เวลา 03:00 นาฬิกา ด้วยการอาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 ฝ่ายทหารได้เรียกกลุ่มการเมือง กลุ่มผู้ชุมนุม เข้าหาข้อยุติปัญหาดังกล่าว เพื่อให้บ้านเมืองสงบ - วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 จากการเจรจาระหว่างฝ่ายสนับสนุน และฝ่ายคัดค้านไม่สามารถ หาข้อยุติได้ ต่างฝ่ายต่างอ้างว่าตนทำในสิ่งที่ถูก ทำให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เวลา 16.30 น. กลางที่ประชุมทั้งสามฝ่าย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. (อังกฤษ: National Peace and Order Maintaining Council ) โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นหัวหน้าคณะ * คำอ้างที่ว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ โดนยึดอำนาจนายกรัฐมนตรีนั้นไม่เป็นความจริงเพราะ นางสาวยิ่งลักษณ์ พ้นจากตำแหน่งรักษาการ ก่อนมีการยึดอำนาจ ** ส่วนสาเหตุที่ คสช ได้ยึดอำนาจนั้นเกิดจาก นปช , กปปส , และการขาดความสามารถในการดูแลความสงบ ของรัฐบาลรักษาการในขณะนั้น
** ส่วนสาเหตุที่ คสช ได้ยึดอำนาจนั้นเกิดจาก นปช , กปปส , และการขาดความสามารถในการดูแลความสงบ ของรัฐบาลรักษาการในขณะนั้น พ่นมาก็น่าฟังนะครับ ดูดี ได้ความดีความชอบเยอะเลย "รัฐบาลขาดความสามารถในการดูแลความสงบ" ..... ถามว่า ตอนนั้น คสช. ดูแลความสงบเรียบร้อยยังไงทำอะไรไปบ้าง? ..... ถามว่า ตอนนั้น ทบ. ขาดความสามารถในการดูแลความสงบไหม? 'ปู'สั่ง'ทบ.-ตร.'จัดทำแผนรับมือกปปส.
พ่นมาก็น่าฟังนะครับ ดูดี ได้ความดีความชอบเยอะเลย เหมาะกับมือดีมากกว่าครับ เอาแต่โทษคนอื่นว่าคนอื่น แต่ตัวเองไม่ทำอะไรซักอย่าง มือดีอ้างคุณธรรม แล้วตอนนี้มือดีมีคุณธรรมอะไรบ้าง
คือเจตนาที่พ่นอะครับ เตือนสติ ท่านนั้นละ เอาแต่โทษว่าโดนยึดอำนาจ แต่ไม่พูดถึงสาเหตุว่าทำไม เตือนสติคำพูดว่าท่านชอบพูดแบบใหน อย่าให้ต้องเอาหัวข้อกระทู้ของท่านมาร้อยเรียงเลย นี้คือเหตุผลที่ ตั้งกระทู้นี้ละครับ แล้วท่านก็มาตอบ ผมถือว่า สำเร็จแล้ว คุณพลาดแล้ว "มือดี จากพระนคร"
จนแต้มทางปัญญา ไม่รู้จะหาอะไรมาตอบล่ะสิ ตอบไปเดี๋ยวก็พันคอตัวเองอีก ผมรู้ ผมฉลาด สาเหตุว่าทำไม โดนยึดอำนาจ ผมก็รู้ ผมฉลาด ...... มันเป็นแผนการ สมคบกันคิดชั่วๆ ก็เท่านั้นเอง