สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงาน ไทยใช้เวลาเกือบ 4 วันก่อนจะยืนยันว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อทางเดินหายใจตะวันออกกลางในประเทศรายแรกจริง เป็นนักธุรกิจสูงอายู วัย 75 ปี โดยประกาศรายงานดังกล่าวมีขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากเชื้อไวรัสดังกล่าวเริ่มแพร่ระบาดในประเทศเกาหลีใต้เมื่อเดือนก่อน ซึ่งในประเทศเกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อแล้ว 166 ราย เสียชีวิตแล้ว 24 ราย อย่างไรก็ตาม สาธารณสุขของไทยรายงานด้วยว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยที่ต้องเฝ้าระวังอาการอีก 59 คน ซึ่งเป็นผู้โดยสารเที่ยวบินเดียวกับนักธุรกิจที่ถูกระบุเป็นผู้ติดเชื้อรายแรกของไทย ในจำนวนนี้ มี 3 รายที่กำลังพำนักอยู่ในโรงพยาบาล ขณะที่ผู้ที่อยู่ในสถานะติดตามอาการพักอยู่ที่พักและกระทรวงสาธารณะระบุให้อยู่แต่ในบ้านเป็นเวลา 14 วัน ทั้งนี้ คาดว่าอาจมีการแพร่ระบาดและจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในอนาคตด้วย อย่างไรก็ตาม จากการประกาศมีผู้ติดป่วยโรคติดต่อรายแรกทำให้หุ้นของบริษัทต่างๆ ในไทย และการจองโรงแรมที่พักในประเทศไทย ในวันศุกร์ลดลงทันที 6.6 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการใช้บริกาารสนามบินลดลง 4.2 เปอร์เซ็นต์ ขณะเดียวกันมีรายงานว่าประเทศจีน มีผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวเมื่อเร็วๆ นี้เช่นกัน http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9580000069520 ....................................................................................... เอ.. อเมริกาหาเรื่อง กัด เราอีกแล้วหรือเปล่า รอดูข่าวจากจีนครับ ว่ามีไหม ปล. ไม่รู้จะเอารูปอะไรมาลงเหมือนกันครับ
"เมอร์ส" เกาหลีใต้ส่งสัญญาณบวก-เรตติ้งผู้นำร่วง ข่าวค่ำ ตรงประเด็น เกาหลีใต้รายงานผู้เสียชีวิตจากเมอร์สเพิ่มเป็น 24 คน ติดเชื้อเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่คะแนนนิยมของผู้นำประเทศร่วงแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่รับตำแหน่ง กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้รายงานวันนี้ (19 มิ.ย.) ว่า พบผู้เสียชีวิตจากโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ “เมอร์ส” เพิ่มอีก 1 คนเป็น 24 คน และพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 1 คน เป็น 166 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนนี้ ส่งสัญญาณว่าอัตราการแพร่ระบาดมีแนวโน้มลดลง กระทรวงระบุด้วยว่า จำนวนผู้ถูกกักบริเวณได้ลดลง 12% เหลือ 5,930 คน และจำนวนผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลมีทั้งสิ้น 112 คน ส่วนอีก 30 คน หายป่วยและออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว ด้านผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก นางมาร์กาเร็ต ชาน ออกมาแสดงความยินดีที่เกาหลีใต้ลดอัตราการแพร่ระบาดได้ และยอมรับว่า แม้เกาหลีใต้จะออกตัวช้า แต่ด้วยความพยายามที่เข้มแข็ง รวดเร็ว และเป็นระบบ ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง พร้อมทั้งยืนยันว่า ไม่พบการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมของไวรัสเมอร์ส http://www.now26.tv/view/47758/เมอร์ส-เกาหลีใต้ส่งสัญญาณบวก-เรตติ้งผู้นำร่วง.html
ขออนุญาตท่านเจ้าของกระทู้ลงคลิปตั้งแต่ยุคอีโบลาระบาด ไขปัญหาการป้องกันตน,การล้างมืออย่างถูกต้อง ฯลฯ หลักการคล้ายๆกับการป้องกันตนจากเมอร์ส เป็นการรวบรวมคลิปไว้เป็นที่เป็นทาง เผื่อสมาชิกท่านใดพอมีเวลาว่างจะได้เปิดคลิปเข้าไปฟัง ....
สงสัยครับ ทำไมการใช้เครื่องเป่าความร้อนถึงมีปริมาณเชื้อโรคสะสมสูง ถึงความร้อนไม่สูงมากปริมาณเชื้อไม่ควรมีมากไม่ใช่หรือครับ ? ....................................................................................................................................... นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า กรณีผู้ป่วยต้องสงสัยจะป่วยโรคเมอร์สที่ จ.เชียงใหม่ ผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการออกมาช่วงบ่ายวันที่ 19 มิ.ย.ว่า พบเชื้อหวัดสายพันธุ์หนึ่ง ชื่อ ไรโนไวรัส (Rhinovirus) ซึ่งการเก็บเชื้อในรายดังกล่าวเป็นเชื้อที่เก็บตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก ซึ่งโอกาสที่จะพบเชื้อหลายสายพันธุ์ในคนเดียวกันนั้น ถือว่ามีต่ำมาก อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดได้มีมาตรการป้องกันและควบคุมโรคตามมาตรฐานอยู่แล้ว (ไรโนไวรัส ( Rhinovirus) อาจทำให้เกิดหวัดธรรมดา คันจมูกน้ำมูกไหล ไอ จามในผู้ใหญ่ แต่เชื้อเดียวกันนี้อาจทำให้เป็นปอดอักเสบติดเชื้อ คือมีไข้ ไอหอบเหนื่อย และอาจอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ในเด็กเล็กๆ เป็นต้น ) http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9580000069603
อีโบล่ายังติดยากกว่าครับในมุมมองผมนะ ส่วนโรคอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจนี่ติดง่ายมากกว่าเยอะ ถึงจะมีใครต่อใครออกมาว่า Mers นี่ติดยากงั้นงี้ แต่ระวังไว้ดีกว่าครับเพราะมันติดต่อช่องทางเดียวกับไข้หวัดธรรมดา ส่วนหน้ากากอนามัยนี่ ถ้าใช้แบบทั่วไปที่เราเห็นกันทั่วสีเขียวๆนี่ ถ้าเป็นไวรัสกันไม่ได้นะครับ เวลาจามแล้วน้ำลายไม่พุ่งก็จริงแต่ไวรัสนี่ทะลุหน้ากากไปแล้ว อย่างน้อยต้องรุ่น N95 ครับ ที่ผมยังหาข้อมูลไม่ได้คือ จำนวนไวรัสที่ต้องมีเท่าไหร่ถึงจะ detect ได้ เพราะเหมือนว่าเวลาเก็บตัวอย่างนี่เจอบ้างไม่เจอบ้าง บางทีเก็บผิดจุดไปไม่เจออีก(ทั้งๆที่มีเชื้อ)ก็มี ดังนั้นดีที่สุดคือต้องกักตัวล่ะครับ หวังว่าคนไทยคงไม่ดื้อเหมือนหมอเกาหลีสองคนที่ไม่ยอมอยู่บ้านนะครับ ตอนนี้ถ้าใครต้องไปแถวๆจุดเสี่ยงก็ต้องระวังหน่อยล่ะครับ
http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9530000113976 ลองอ่านดูนะคะแม้เป็นข้อพึงระวังสำหรับเด็กเล็กที่อาจอมนิ้วตามหลังการใช้โบลเออร์ แต่ในผู้ใหญ่ก็อาจได้รับเชื้อที่ปนเปื้อนออกมาจากเครื่องด้วยเช่นกัน สเป็คครื่องเป่ามือนั้นอุณหภูมิอยู่ในช่วง 20-70 องศาเซลเซียสแต่ความร้อนที่ต้องการให้เชื้อตายต้องเป็นน้ำเดือดมากกว่า 20 นาทีขึ้นไป ซึ่งถ้าร้อนตามนั้นลวกมือแน่นอน ยิ่งเป็นเชื้อพวกที่มีสปอร์ห่อหุ้มยิ่งต้องนานกว่านั้นอีก ดังนั้นแค่ใช้กระดาษซับมือจะสะอาดกว่า http://www.chulalongkornhospital.go.th/unit/hr/hr/Resident/02UniversalPrecaution2556.pdf ( หน้า 21 )
ระวังเรื่องสถานที่ที่จะไปเป็นทางออกที่ดี ที่พอจะนึกได้ก็เช่นควรหลีกเลี่ยงสถานพยาบาล ไม่จำเป็นต้องไปเยี่ยมไข้จริงๆก็เลี่ยงเอา อาจโทรไปหรือส่งการ์ดเยี่ยมจะดีกว่า หลีกเลี่ยงการไปสถานที่แออัด ที่ที่อากาศไม่ถ่ายเท เช่นทานอาหารก็ควรทานเอาท์ดอร์มากกว่าในห้องแอร์ หลีกเลี่ยงการไปสนามบินหรือที่ที่มีคนเดินทาง หรือมีคนต่างชาติไปชุมนุมกันเยอะๆ หรือการเที่ยวคลับเที่ยวบาร์ที่อยู่ในห้องแอร์อากาศไม่ถ่ายเทควรงดเว้นเสียในช่วงนี้ อย่าไปเพิ่มความเสี่ยงให้ตนเองจะดีที่สุด
ศึกษาบทเรียนเกาหลี โมเดลไทยรับมือเมอร์ส : พ.ต.ท.ปริญญา เจริญบัณฑิต http://www.komchadluek.net/detail/20150620/208350.html ........................................................................................................ จองไว้ก่อน กลับมาแล้วจะมาเพิ่มข้อมูลครับ
เกาหลีใต้เผยไม่มีผู้ติดเชื้อไวรัสเมอร์สเสียชีวิตเพิ่มในวันนี้ กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการสังคมของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ยังไม่มีรายงานการติดเชื้อไวรัสโรคทางเดินหายใจสายพันธุ์ตะวันออกกลาง หรือเมอร์ส (MERS) หรือผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตเพิ่มในวันนี้ ส่งผลให้กรณีผู้ติดเชื้อทั้งหมดยังอยู่ที่ 166 ราย กระทรวงระบุว่า ข้อมูลดังกล่าวนับเป็นวันแรกที่ไม่พบกรณีผู้ติดเชื้อเพิ่มนับตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ กระทรวงยังระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสเมอร์สได้ปรับตัวลดลงในระยะนี้ โดยลดลงจาก 8 รายเมื่อวันพุธที่ผ่านมาเหลือเพียง 3 รายในวันพฤหัสบดี และ 1 รายในวันศุกร์ http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/652723 ................................................................................................................ น่าดีใจที่ควบคุมได้อยู่แล้วครับ
สธ.เผยผู้ป่วยเมอร์สรายแรกดีขึ้น หายใจเองได้บ้าง ส่วนญาติๆ อาการเป็นปกติ ไม่มีไข้แล้ว อัปเดตตัวเลขผู้สัมผัสโรคต้องติดตามมี 175 ราย ตามชาวบุรีรัมย์นั่งใกล้ผู้ป่วยเมอร์สรายแรกได้แล้ว เฝ้าดูอาการ 14 วัน พร้อมเรียก รพ.-คลินิกเอกชน วางมาตรการคุมเมอร์ส ชี้ข่าวลือโซเชียลพบผู้ป่วยที่ต่างๆ ไม่จริง ลือหนักซื้อยาอะม็อกซีต้านเมอร์ส หมอจุฬาฯ เตือนอย่าเชื่อเหตุเป็นยาปฏิชีวนะรักษาแบคทีเรีย ไม่ใช่ไวรัส http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9580000069809 ................................................................................. “กรณีข่าวลือในต่างๆ ว่าพบผู้ป่วย หรือผู้ต้องสงสัยเมอร์สในพื้นที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รพ.สมุทรปราการ หรือ ชาวต่างชาติที่อุดรธานี หรือจังหวัดอื่นๆ ขอยืนยันว่ายังไม่มี ไม่อยากให้ประชาชนเชื่อข่าวลือจากโซเชียลมีเดีย ให้รับข้อมูลจาก สธ.โดยตรง ซึ่งหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 และขอความกรุณาให้เคารพสิทธิของผู้ป่วยหรือผู้ที่เข้าระบบติดตามด้วย ไม่เปิดเผยชื่อ ที่อยู่ ไม่ตามไปถ่ายภาพที่บ้านหรือภาพญาติ หรือผู้ป่วยเอง เพราะถือเป็นการทำผิดกฎหมาย
BREAKING NOW 16:16 สธ.เผยพรุ่งนี้รู้ผลตรวจญาติผู้ป่วยเมอร์สอีก 1 คน หลังตรวจลูกชาย-น้องชายไม่พบเชื้อ http://www.now26.tv/breakingnow/44265
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ได้เยี่ยมผู้ป่วยโารคเมอร์สชาวโอมานผ่านทางช่องหน้าต่าง พบว่า ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี ทักทายได้ ได้รับรายงานว่าไม่มีไข้ ความดันโลหิตและการเต้นของหัวใจปกติ ระบบการหายใจดีขึ้น ใช้ออกซิเจนรักษาน้อยลง ตอบสนองการรักษาเป็นที่น่าพอใจ ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้เอง แต่ก็ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิดที่เป็นญาติทั้ง 3 คน ได้รับไว้สังเกตอาการในห้องแยกโรคเช่นกัน ทั้งหมดไม่มีไข้ ขอยืนยันว่าขณะนี้ไม่มีผู้ป่วยยืนยันโรคเมอร์สรายใหม่ แม้กระทั่งในกลุ่มญาติที่ใกล้ชิดผู้ป่วยมากๆ ก็ยังไม่ใช่ผู้ป่วย ทั้งนี้ จากการตรวจเยี่ยมดูความพร้อมของสถาบันบำราศนราดูร พบว่ามีการดำเนินการตามมาตรฐานทั้งโครงสร้างของตัวอาคาร ระบบอากาศ รวมทั้งการแยกห้องตรวจโรค ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ไม่ปนกับผู้ป่วยรายอื่น และหากคัดกรองพบว่าเป็นผู้ป่วยจากพื้นที่เสี่ยง จะแยกไปตรวจในห้องแยกพิเศษความดันลบ เป็นการป้องกันเต็มที่ http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9580000069854 ...................................................................................... เหมือนเคยอ่านผ่านๆว่า เมอร์ส จะมีอาการ ไข้สูง หากถึงวันนี้ อาการดีขึ้น ก็น่าจะไม่เป็นอะไร หรือเปล่าครับ
การรักษาตามอาการ (เพราะยังไม่มีวัคซีน) ได้แค่ประคับประคองไปวันต่อวัน ไข้ลดลงหรือไม่มีไข้เป็นเพียงอาการอย่างหนึ่งในหลายๆอย่างที่บ่งบอกว่าดีขึ้น ร่วมกับระบบหายใจที่ค่อยๆฟื้นขึ้น หายใจทัน ไม่หอบ ให้หายใจเองได้มากขึ้นแต่ยังต้องมีให้ออกซิเจนร่วมด้วยบ้างเหล่านี้เป็นสัญญาณที่ดีขึ้นต่อระบบหายใจที่ผู้ป่วยถูก attack มาตลอด 3-4 วันที่ผ่านมา ระบบหัวใจและหลอดเลือดส่งสัญญาณต่างๆดีขึ้น ถ้าลองกลับไปดูรีพลาย #37 การรักษาตามอาการก็คือการคอนโทรลให้ระบบต่างๆกลับคืนสู่สภาพปรกติที่คนสามัญเขาเป็นกัน ส่วนจะฟันธงว่าหายขาดหรือยังก็เช่นเดียวกับตอนฟันธงตอนแรกว่าเป็นหรือไม่เป็น นั่นก็คือรอผลตรวจทางแล็ปว่ายังมีเชื้อหรือไม่ซึ่งเป็นเรื่องระดับชาติแล้วในตอนนี้ ต้องเป็นหน้าที่แล็ปของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และจะรู้ผลในแปดชั่วโมงหลังส่งตรวจ
เกาหลีใต้พบผู้เสียชีวิต MERS รายที่ 25 ของประเทศ - “ไทย” ประกาศไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม หลังคนไข้โอมานถูกส่งไปสถาบันระบาดวิทยาบำราศนราดูร รอยเตอร์/เอเจนซีส์/เอเอฟพี – กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ล่สุดวันอาทิตย์(21) ถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อทางลมหายใจเมอร์ส(MERS)ว่า มีการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นแพทย์ที่ให้การรักษาโรคเมอร์สที่โรงพยาบาลซัมซุง กรุงโซล ศูนย์กลางการระบาดของโรค และมีผู้เสียชีวิตรายที่ 25 ของประเทศ ส่งผลทำให้มียอดผู้ติดเชื้อรวมสูงถึง 169 คนในเกาหลีใต้ สูงที่สุดในการติดเชื้อโรคเมอร์สนออกซาอุดีอาระเบีย ในขณะที่กระทรวงสาธารณสุขไทยประกาศ “ไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม” ในขณะที่ผู้ป่วยชายชาวโอมาวัย 75 ปี ผู้ป่วยโรคเมอร์สรายแรกของไทยถูกย้ายไปทำการรักษาที่ยังสถาบันโรคระบาดวิทยาของสถาบันบำราศนราดูรที่อยู่ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขไทยในวันพฤหัสบดี(18) พร้อมกับญาติของผู้ป่วยอีก 3 คน หลังตรวจพบโรคนี้ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ก่อนหน้านี้ http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000070052 ........................................................................... แปลกใจจังที่ทีมแพทย์ติดเชื้อด้วย ?
หมอถึงขนาดตายก็มีแล้วนะคะ ติดอีโบลาในเซียร์ราลีโอน ก็คงจะมีการ contaminate ในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง นายแพทย์ซาเลีย ชาวอเมริกัน เชื้อสายเซียร์ราลีโอน ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่โรงพยาบาล United Methodist Kissy ในกรุงฟรีทาวน์ เมืองหลวงประเทศเซียร์ราลีโอน โดยนายแพทย์ซาเลียได้มีอาการป่วย และผลการตรวจวินิจฉัยออกมาว่าเขาติดเชื้อไวรัสอีโบลา โดยไม่ทราบแน่ชัดว่า นายแพทย์ซาเลียติดเชื้ออีโบลาได้อย่างไรหรือที่ไหน เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2557 รอยเตอร์รายงานข่าวเศร้า นายแพทย์มาร์ติน ซาเลีย ศัลยแพทย์ชาวอเมริกัน วัย 44 ปี ซึ่งติดเชื้อไวรัส อีโบลา ที่ เซียร์ราลีโอน ที่ไวรัสอีโบลาแพร่ระบาดอย่างรุนแรง ปรากฏว่า ได้เสียชีวิตแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 17 พ.ย. หลังจากนายแพทย์ซาเลียได้ถูกนำตัวส่งกลับมารักษาที่ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยเนแบรสกา สหรัฐฯ นับเป็นชาวอเมริกันคนที่ 2 ที่เสียชีวิตจากไวรัสมรณะ ในจำนวนชาวอเมริกันที่ติดเชื้ออีโบลารวม 10 ราย เครื่องบินที่นำร่างกลับมาสหรัฐและเสียชีวิตในที่สุด http://www.thairath.co.th/content/464050
เคยเห็นในหนัง ทีมแพทย์มักจะรัดกุม ทั้งชุดและอุปกรณ์ครับ เลยเข้าใจเป็นว่าน่าจะปลอดภัยที่สุด ( สงสัยว่า ในหนังอาจจะทำให้โอเวอร์ไว้)
จริงๆมันมีมาตรฐานตามระดับความอันตรายของเชื้อน่ะครับ เค้าจะระบุเลยว่าต้องสวมใส่อุปกรณ์ขนาดไหน แบบไวรัสชนิดนี้ต้องใส่ Hazmat แบบเต็มตัวเลยชนิดทีี่ air tight ต้องใช้ถังออกซิเจนอะไรแบบนี้ ปัญหาของ อีโบล่า คือประเทศที่มีการระบาดขาดแคลนอุปกรณ์พวกนี้ครับ ส่วนใหญ่เราจะเห็นแค่ใส่แว่น ใส่หน้ากาก ใส่ผ้ากันเปื้อน ซึ่งอีโบล่านี่ถ้าผมจำไม่ผิดเป็นระดับ Biohazard 4 ต้องพึ่งชุดแบบเต็มตัวเลยถ้าจะให้ปลอดภัยแน่นอน อีกอย่างโรงพยาบาลหรือห้องทดลองที่รองรับเชื้อโรคระดับ BSL-4 นี่มีแค่ไม่กี่แลปเองครับ ในอเมริกาเองเหมือนจะมีแค่แลปหรือสองแลปเองด้วย
ขอบคุณที่ให้ความกระจ่างครับ หากเป็นเช่นนี้ บุคคลากรทางการแพทย์ดูจะเป็นอาชีพที่เสี่ยงมากจริงๆนะครับ ยิ่งปัจจุบันเชื้อโรคใหม่ๆเกิดขึ้นมากมายจริงๆ
จะว่าไปเห็นมีหนังมากมายเกี่ยวซอมบี้ และมีการจินตนาการว่า หากเกิดซอมบี้จริงๆขึ้นมาจะทำอย่างไรดีก็น่ากลัวนะครับ แต่ไม่รู้ว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน
กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการเกาหลีใต้แจ้งวันนี้ (22 มิ.ย.)ว่า มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสเมอร์สเพิ่ม 2 คน รวมเป็น 27 คน หลังจากเมื่อวานนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 3 คน รวมเป็น 169 คน http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9580000070189
BREAKING NOW 17:35 สธ.ระบุไม่พบเชื้อไวรัสเมอร์สในผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ 7 คน จ.เชียงใหม่ 17:00 รพ.ปทุมฯโต้ข่าวโซเชียล ยันไม่พบผู้ป่วยไวรัสเมอร์ส http://www.now26.tv/breakingnow/44560
BREAKING NOW 08:42 เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อเมอร์สรายใหม่อีก 4 ราย รวมยอดผู้ติดเชื้อขณะนี้ 179 ราย http://www.now26.tv/breakingnow/44589
BREAKING NOW 08:37 เกาหลีใต้ รายงานวันนี้ว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 รายจากไวรัสเมอร์สระบาด และติดเชื้อเพิ่มอีก 1 ราย http://www.now26.tv/breakingnow/44713
แทรกข่าวเล็กๆ BREAKING NOW 09:57 ไวรัสอีโบลาหวนระบาดรอบใหม่ในเมืองหลวงของเซียร์ราลีโอน http://www.now26.tv/breakingnow/44721
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเมอร์สในเกาหลีใต้ ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 คน ติดเชื้ออีก 1 คน จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสเมอร์สในเกาหลีใต้รวม 31 คน ติดเชื้อทั้งหมด 181 คน เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อเมอร์สรายแรก วันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้ติดเชื้อรายล่าสุดเป็นแพทย์ ที่ศูนย์การแพทย์ซัมซุง ส่วนยอดผู้ที่ต้องถูกกักบริเวณสังเกตอาการเพิ่มเป็น 2,931 คน http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9580000072294 ................................................................................................. เอ.. ดูแล้วไม่จบง่ายๆเสียแล้ว
ต้องดูว่าเลย 14 วันหลังจากสั่งปิดศูนย์การแพทย์ที่แพร่เชื้อรึยัง ถ้าเลยไปแล้วยังพบการติดเชื้อเพิ่มอีกนี่น่าจะไม่ใช่แค่ในโรงพยาบาลล่ะครับ
เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ชายชาวเกาหลีใต้ที่ติดเชื้อไวรัส ‘เมอร์ส’ เป็นรายแรกบนจีนแผ่นดินใหญ่ ได้รับการปล่อยตัวออกจากโรงพยาบาลแล้วในเช้าวันนี้ ด้านสื่อท้องถิ่นเผยตัวเลขค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงกว่า 40 ล้านบาท (26 มิ.ย.) ว่า คณะแพทย์และผู้เชี่ยวชาญอนุญาตให้ผู้ป่วยชายแซ่คิม วัย 44 ปี ซึ่งตรวจพบการติดเชื้อไวรัสกลุ่มอาการทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือเมอร์ส (MERS) ตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค. ออกจากโรงพยาบาลในนครฮุ้ยโจว มณฑลกวางตุ้งทางตอนใต้ของประเทศ ด้านกลุ่มบุคคลผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับนายคิมระหว่างที่เขาอยู่ในจีน จำนวน 75 คน ก็ได้รับอนุญาตปล่อยตัวออกจากโรงพยาบาล หลังจากผ่านการตรวจสอบซ้ำอย่างละเอียดและอยู่ครบกำหนดเวลากักกันตัวเพื่อเฝ้าดูอาการ http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9580000072548 .................................................................................................... เอเอฟพี – เกาหลีใต้ระบุในวันนี้ (27) ว่า พวกเขากำลังเฝ้าตรวจสอบโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในทางตะวันออกของกรุงโซลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีความกังวลว่าคนหลายร้อยคนที่นั่นอาจสัมผัสเชื้อไวรัสกลุ่มอาการทางเดินหายในตะวันออกกลางหรือเมอร์ส ผู้ติดเชื่อรายใหม่ล่าสุดคือพยาบาลวัย 27 ปีจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งทางตะวันออกของกรุงโซล ซึ่งเชื่อว่าติดเชื้อขณะพยาบาลคนไข้ เธอเป็นผู้ติดเชื้อรายที่ 5 ของโรงพยาลแห่งดังกล่าว ซึ่งมีผู้ป่วยกว่า 100 คนถูกแยกเดี่ยวมาตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน หลังจากสัมผัสกับไวรัสชนิดนี้ขณะเข้ารับการล้างไต จากผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันแล้วทั้งหมด 182 คน 90 คนฟื้นตัวแล้ว 31 คนเสียชีวิต และอีก 61 คนยังอยู่ระหว่างรับการรักษา ในจำนวนนี้ 13 คนถูกบันทึกว่ามีอาการหนัก http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000072807
เอเอฟพี – กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้แถลงในวันอาทิตย์(28) พบผูเสียชีวิตด้วยโรคระบบทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ เมอร์ส (MERS) เพิ่มขึ้นอีก 1 ราย ส่งผลทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 32 ราย ในขณะที่ยอดผู้ป่วยติดเชื้อยังคงที่ 182 คนซึ่งรวมถึงผู้ป่วยอาการวิกฤตจำนวน 15 คน กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ประกาศยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้(28) ถึงการเสียชีวิตผู้ติดเชื้อเมอร์ส (MERS) รายที่ 32 ของเประเทศ เป็นชายชาวเกาหลีใต้วัย 55 ปี ซึ่งเสียชีวิตลงในวันเสาร์(27) ส่งผลทำให้อัตราการเสียชีวิตของการระบาดของโรคระบบทางเดินหายใจตะวันออกในเกาหลีใต้อยู่ที่ 17.5% http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000073001&Html=1&#Opinion
สธ.เผยชายโอมานปลอด เชื้อ 'เมอร์ส'แล้ว | เดลินิวส์ „สธ.เตรียมถกผู้เชี่ยวชาญ ก่อนปล่อยชายชาวโอมาน ออกจากห้องแยกโรค หลังอาการดีขึ้น ปลอดเชื้อเมอร์ส แต่ยังพบเชื้อในปัสสาวะ“ อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/politics/331268
ชายชาวโอมานหายป่วยจาก “เมอร์ส” เดินทางออกจาก สถาบันบำราศนราดูรแล้ว ด้วยรถตู้ของสถานทูตโอมาน เตรียมบินกลับประเทศคืนนี้ วันนี้ (3 ก.ค.) เมื่อเวลา 15.40 น. ที่สถาบันบำราศนราดูร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พญ.จริยา แสงสัจจา ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร พร้อมเจ้าหน้าที่สถาบันฯ ได้ส่งตัวชายชาวโอมานวัย 75 ปี ซึ่งหายป่วยจากโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ โรคเมอร์ส แล้ว หลังเข้ารักษาตัวตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมา พร้อมญาติ 3 ราย ขึ้นรถตู้ของสถานทูตโอมานประจำประเทศไทย เพื่อเดินทางไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีกำหนดกลับประเทศโอมานในคืนวันที่ 3 ก.ค. ซึ่งการส่งตัวในครั้งนี้ไม่ได้มีการสวมชุดเพื่อป้องกันการติดเชื้อแล้วแต่อย่างใด โดยเจ้าหน้าที่สถาบันฯแต่งกายด้วยชุดธรรมดา เช่นเดียวกับชาวโอมานทั้ง 4 ราย ที่อยู่ในชุดอาหรับ หรือ ชุดโต๊ปสีขาวที่มีผ้าคลุมศีรษะ แต่สวมหน้ากากอนามัยปิดปากเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพื่อแสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยหายจากโรคเมอร์สแล้วและไม่ได้มีการแพร่เชื้ออีกต่อไป http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9580000075337