รูปในเน็ต ใช้อย่างไร ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ !!!

กระทู้ใน 'สภากาแฟ' โดย redfrog53, 1 Aug 2015

  1. redfrog53

    redfrog53 อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,466
    11709664_1148437478504875_5673633980472848457_n.jpg
     
    Alamos, sailom, kokkai และอีก 10 คน ถูกใจ
  2. ปู่ยง

    ปู่ยง อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,820
    ผม ก็อป รูปสาว กปปส. มาใส่ Wall ในคาราโอเกะ ไว้ร้องกับเพื่อนฝูง ผิดมั้ยครับ
     
    Alamos, อาวุโสโอเค, bookmarks และอีก 2 คน ถูกใจ
  3. Anduril

    Anduril อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    4 Jun 2015
    คะแนนถูกใจ:
    5,268
    ตามความเข้าใจถ้าไม่ใช่เพื่อประโยชน์ทางการค้า ไม่ผิดครับ
    ทางที่ดีคือ ให้เครดิตเจ้าของและทำลิ้งค์ไปต้นทางก็น่าจะโอเคครับ
     
    Alamos, อาวุโสโอเค, LazyLemon และอีก 7 คน ถูกใจ
  4. redfrog53

    redfrog53 อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,466
    ผิด ถ้าเก็บไว้ดูคนเดียว



    .


    ผิดใจแน่นวลลลลลล 55555
     
    Alamos, อาวุโสโอเค, JSN และอีก 4 คน ถูกใจ
  5. อู๋ คาลบี้

    อู๋ คาลบี้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    15 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,204
    เรื่องของเรื่องเป็นผลมาจากกฎหมาย พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) ที่จะบังคับใช้เร็วๆ นี้ นี่สิ
    http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2558/A/006/7.PDF
    ซึ่งเพิ่มความผิดเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ในระบบคอมพิวเตอร์ด้วย

    พูดถึงเรื่องรูปที่ไปโพสต์นี่ ถ้าถ่ายรูปได้เองก็ถ่ายเนอะ
     
    Alamos, อาวุโสโอเค, LazyLemon และอีก 1 คน ถูกใจ.
  6. กีรเต้

    กีรเต้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    11,917
    Location:
    เชียงใหม่
    ผิด ถ้าเก็บไว้คนเดียว ............................... กบแดงโพสก่อนอีกแล้ว เพิ่งเข้าเว็บมาไม่ทัน
     
    อาวุโสโอเค, ปู่ยง, kokkai และอีก 2 คน ถูกใจ
  7. คนกรุงธนฯ

    คนกรุงธนฯ สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    21 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    56
    ผิด....ผิดใจกับพันระยา
    อิอิอิ
     
    Alamos, อาวุโสโอเค, ปู่ยง และอีก 2 คน ถูกใจ
  8. คนกรุงธนฯ

    คนกรุงธนฯ สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    21 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    56
    อย่าทำให้เจ้าของเสียหาย เสียชื่อเสียง เสียประโยชน์...ก็ไม่มีปัญหาแล้วครับ
    ....และก็อย่าลืม ให้เครดิตเจ้าของภาพเขาด้วย
     
  9. ควันหลง

    ควันหลง อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,786
    WGOT0y.png
    ผมเข้าใจแบบนี้ถูกใช่ป่ะฮะ เวลาเขียนบทความเรื่อง ไม้เรียวกับการศึกษา จะได้เอารูปมาใช้ประกอบได้อย่างถูกต้อง :think:
     
  10. redfrog53

    redfrog53 อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,466
    ถูกครับบบ ถูกใจทั้ง2ภาพ แต่หาไม้เรียวไม่เจอ ที่ถือนั้น ไม้ชี้กระดานเขียว
    *ส่วนภาพ ถ้าเจ้าของภาพไม่ใส่ลายน้ำ หรือโลโก้ ก้อไม่ต้องแต่งใส่เพิ่ม แค่บอกว่ามาจากไหนก้อได้*
     
    อาวุโสโอเค และ ปู่ยง ถูกใจ.
  11. ควันหลง

    ควันหลง อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,786
    ผมเกรงว่าคนอ่านจะเสียสมาธิกับที่มาของรูปหน่ะซิฮะ :D
     
  12. redfrog53

    redfrog53 อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,466
    Sirisak Borisutsawat
    ยาวหน่อยนะแต่คุมครองตัวท่านเอง สละเวลาอ่านกันสักหน่อยนะคับ
    12 ข้อที่ชาวเน็ตควรรู้เกี่ยวกับพรบ.ลิขสิทธิ์
    1. "รูปของเรา ลิขสิทธิ์ของเรา"
    รูปภาพ ข้อความ ภาพถ่าย วิดีโอ คลิป ของเรา ที่เราถ่ายเอง หรือ จ้างถ่ายจ้างผลิต เป็นลิขสิทธิ์ของเราโดยอัตโนมัติทันที - สำนักข่าว เว็บไซต์ข่าว สื่อใดๆ จะเอาไปใช้งาน "ต้องขออนุญาตเราก่อน"
    และคุณสามารถให้พวกเขาใช้ฟรีๆ ได้ หรือ จะเจรจาขอส่วนแบ่งรายได้ ก็ยังได้ด้วย
    และแม้ว่าเราจะส่งภาพถ่าย คลิปวิดีโอ ให้กับสถานีข่าว รายการวิทยุ หรือหนังสือพิมพ์เพื่อนำเอาไปเผยแพร่รายงาน ก็เป็นการให้ลิขสิทธิ์สำนักข่าวนั้นๆ เพื่อเผยแพร่เท่านั้น แต่กรรมสิทธิ์ (ความเป็นเจ้าของ) ก็ยังตกเป็นของเราเช่นเดิม แต่สื่อถ้าจะซื้อภาพถ่ายเราไปใช้ในรายงานข่าว ก็สามารถซื้อได้ในราคายุติธรรม ซึ่งก็ทำให้รายการข่าวต่างๆ ต้องหันมาทำข้อตกลงการซื้อขายภาพข่าว คลิปวิดีโอกับนักข่าวพลเมืองอย่างเป็นธุรกิจมากขึ้น
    และสำนักข่าว เมื่อเอาคลิปเราไปใช้ ก็จะต้องระบุที่มา เจ้าของคลิปด้วย ไม่ใช่ซื้อไปแล้ว ขอไปแล้ว ไม่ระบุชื่อ แบบนี้ก็ยังผิดครับ
    แต่ "ถ้าเราโพสคลิปในยูทูบว์ หรือ เฟซบุ๊ก" แล้วตั้งค่าส่วนตัว ไม่ใช่ตั้งค่าสาธารณะ อันนี้ระวังนะครับ สำนักข่าวจะเอาคลิป ภาพ นี้ ไปใช้งานไม่ได้นะครับ เพราะไม่ได้ตั้งใจจะให้สาธารณะใช้ -- ถ้าบังเอิญนักข่าวมาพบ มาเห็นเจอ ต้องมาขออนุญาตก่อนนะครับ เจ้าของต้องยินยอม จึงจะนำเอาไปใช้ได้ /
    2. "เตือนใจนักก๊อป"
    ชาวเน็ตทั้งหลาย ที่ชอบก๊อป สำเนา ภาพ วิดีโอ เนื้อหาบทความ กราฟิก ฯลฯ ต่างๆ จากเว็บไซต์หรือแหล่งอื่นๆ มาแปะ วาง ใส่ทั้งเนื้อหานั้น ไว้ในช่องทางสื่อของของตนเอง เช่นเฟซบุ๊ก ไอจี หรือทวิตเตอร์ หรือ ยูทูปว์ชาแนลของตนเองนั้น "ผิดกฎหมายลิขสิทธิ์"
    แต่ถ้าการเอามาแปะนั้น อยู่ใน "บัญชีผู้ใช้งานทั่วไป คนธรรมดา ที่ไม่ได้หาผลประโยชน์เชิงพาณิชย์" ไม่ได้วางขายโฆษณาอะไร ก็ถือว่า "ยังผิดลิขสิทธิ์" แต่แก้ไขได้ โดยการที่ต้อง "ระบุเจ้าของผลงาน แหล่งที่มา หรือ ให้ข้อมูลระบุลิงก์ที่มา" ก็จะไม่ถือว่าผิดลิขสิทธิ์.
    (แต่ ถ้าลืมบอกที่มาล่ะ เช่นไม่รู้ที่มาจริงๆ ก็แชร์เขามาเรื่อยๆ แบบนี้ผิดลิขสิทธิ์ไหม คำตอบคือ ก็ยังผิด แต่เป็นความผิดที่ยอมความได้อยู่แล้ว และคงไม่มีใครไปฟ้องเอาผิด เพราะเป็นการแชร์ที่ไม่ได้เอาไปประโยชน์เชิงพาณิชย์ แค่แชร์เพื่อกระจายข่าวสารข้อมูลเฉยๆ )
    3. "เว็บท่า เว็บปรสิต"
    บรรดาเว็บไซต์ "portal web" เช่น กระปุก สนุก เอ็มไทย หรือเว็บไซต์กระทู้สนทนาดังๆ อย่างพันธ์ทิพยุ ถ้าจะเอาพวก ภาพ ข้อความ คลิป วิดีโอ บทความ รายงาน สกู๊ป รายการโทรทัศน์ เพลง มิวสิกวีดีโอ มาลงในเว็บของตนเอง ผิดหรือไม่ ?
    ผิดครับ เพราะเว็บไซต์เหล่านี้มีการหารายได้จากการโฆษณา
    อ้าวแล้วถ้าระบุว่า "ขอบคุณที่มาจาก...." จะยังผิดไหม คำตอบคือ ก็ยังผิดอยู่ดีครับผม เพราะก็ยังใช้เชิงพาณิชย์ (ถึงจะขอบคุณก็ตาม)
    ถ้าเว็บไซต์ที่มีโฆษณา มีแบนเนอร์ อยากทำเพียงแค่ "ก๊อบปี้พาดหัวข่าว" และ "ก๊อปปี้ ลิงก์ข่าว" มาวางไว้ในเพจตัวเอง แล้วเมื่อคนอ่านมากดคลิ๊ก จะนำลิ้งก์ไปที่ต้นทาง ต้นฉบับของหนังสือพิมพ์ ของเว็บไซต์ต้นทาง (โดยที่เราไม่ได้เอาเนื้อหาข่าวมาวางในเว็บเรา) แบบนี้ "ไม่ผิดกฎหมายลิขสิทธิ์" นะครับ
    ถ้าจะทำให้ถูก คือต้องไปตกลงเจรจา ขออนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจะดีกว่า (เช่นจะขอฟรีๆ ก็ต้องฟรีแบบมีสัญญา หรือจะทำการซื้อขายแบ่งปันรายได้ก็แล้วแต่ตกลง)
    4. "ข่าวไม่มีลิขสิทธิ์ จริงหรือ"
    ถ้าถามว่า เราจะแชร์ข่าว ผิดไหม?
    ตอบเลยว่า คนธรรมดา แชร์ข่าวไม่ผิดครับ แชร์ได้ตามปกติ และควรแชร์จากแหล่งต้นฉบับ ต้นทาง ไม่ใช่ มาโพสต์แชร์ใหม่
    (แต่ ถึงเอาข่าว บทความ มาโพสต์แชร์ใหม่ ในเฟซบุ๊กบัญชีบุคคลธรรมดา ถ้าเอามาทั้งต้นฉบับเหมือเดิม และบอกระบุแหล่งที่มา แบบนี้ก็ไม่ผิดนะครับ เพราะไม่ถือว่าใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์)
    แต่ถ้า "เว็บตระกูลท่า ตระกูลซ่า หรือ ตระกูลไลค์" ทั้งหลาย เอาข่าวแชร์มา มาแปะวางลิงก์ในเว็บตัวเอง พอคนกดคลิ๊ก ก็ยังเป็นการคลิ๊กอ่านในยูอาร์แอลของตนเอง อันนี้ผิดลิขสิทธิ์นะครับ และยิ่งเอาภาพข่าวเขามาด้วย เอาคลิปข่าว คลิปสัมภาษณ์ ภาพกราฟิกเขามาด้วย ยิ่งผิดหนักเลยครับ (ถ้าไม่ขออนุญาต ไม่เจรจาซื้อขาย ก็ยิ่งผิดมาก)
    5. แฟนคลับ เซฟรูปดารา ในไอจี ผิดไหม?
    หลายคนเป็นแฟนคลับดารา ชอบและติดตาม บางคนเซฟรูปไว้ดูในมือถือ คอมพิวเตอร์ตนเอง ถามว่า ผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ไหม คำตอบคือ "ผิด - แต่ยอมความได้นะครับ" เพราะไม่ได้เอาไปใช้ทำอะไร เอาไว้ใช้ส่วนตัวด้วยซ้ำ แต่ถ้าเอาไปเผยแพร่ซ้ำ ตัดต่อ อันนี้ก็ยิ่งผิดไปเลย
    ส่วนถ้าเป็นสำนักข่าวบันเทิง เซฟรูปดาราในไอจี หรือ เอาแหล่งรูปดาราในไอจีต่างๆ พริ๊ตตี้ คนดัง คนทั่วไปที่เป็นเน็ตไอดอล หน้าตาดี มาวางไว้ในเว็บไซต์ข่าวตัวเอง อันนี้ยิ่งผิดกฎหมายลิขสิทธิ์เลยนะครับ ฉะนั้น รีบไปเอาออกซะครับ
    6. คอเกาหลี ซีรี่ย์ต่างประเทศ
    เว็บดูหนัง ดูซีรี่ส์ เกาหลี หนังต่างประเทศ หนังแผ่น หนังออนไลน์ หนังชนโรง
    อันนี้ผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ แน่นอน ทั้งที่ไปเอามาจากต่างประเทศ เอามาจากในประเทศ เอารายการโทรทัศน์มา แล้วมาใส่ซับไทย ทำแปล ทำพากย์ภาษาเอง และมีการวางขายโฆษณา แบนเนอร์ต่างๆ
    แนะนำเลยว่า "รีบปลด และรีบปิดด่วนๆ" เพราะอันนี้ผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ชัดๆ และโทษน่าจะแรงที่สุดนะครับ
    แอดมินคอหนังซีรี่ส์เกาหลีทั้งหลาย ต้องระวังตัวเลยนะครับ
    7. ข่าวต่างประเทศ ทำอย่างไร?
    สำนักข่าว เอา ข่าวหนังสือพิมพ์มาอ่าน เอาข่าวต่างประเทศมาแปล ผิดไหม?
    คำตอบคือ ถ้าแปลเฉพาะเนื้อหาข่าว มารายงาน อ่านนิ่งๆ ไม่มีภาพประกอบ ไม่ผิดครับ
    แต่ถ้าเอาภาพ คลิปวิดีโอเขามาใช้ประกอบ (แล้วไม่ได้ขอ ไม่ได้ซื้อ) อันนี้ผิดกฎหมายครับ และโดนฟ้องร้องค่าเสียหายแพงมากด้วย
    ส่วนที่ เอาข่าวหนังสือพิมพ์ มาเปิดดูแสดงหน้าหนึ่งในรายการโทรทัศน์ ไม่ถือว่าผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ เอามาเล่า คุย ในรายการข่าว ก็ไม่ผิด ถ้าเอามาเล่าหรืออ่านในลีลาตัวเอง
    แต่ถ้าเอามานั่งอ่านจริงๆ ตามตัวอักษรเป๊ะๆ ทุกคำ แถมยังใช้กล้อง แช่ภาพข่าวนั้นๆ อย่างนาน และจน(ต้องพิสูจน์)เป็นเหตุให้ คนดูรายการข่าว ไม่ไปซื้อหนังสือพิมพ์มาอ่านจริงๆ เพราะเนื่องจากดูรายการคุยข่าวจนหมด จนพอใจที่จะคิดว่าไม่ต้องไปซื้อหนังสือพิมพ์มาอ่านแล้ว --- แบบนี้ถือว่า ผิดลิขสิทธิ์นะครับ เพราะถือว่าหนังสือพิมพ์เสียประโยชน์
    8. ถ่ายคลิปในโรงหนัง
    ดูหนังในโรงภาพยนตร์ ถ่ายคลิปหนังนั้นๆ ทั้งหมดหรือบางส่วน เอามาดูเองที่บ้าน ไม่ได้เอาไปขายทำหนังแผ่น ก็ผิดกฎหมายลิขสิทธิ์นะครับ
    9. อยากช่วยคนพิการเข้าถึงสื่อ
    อยากเป็นคนจิตใจดี ช่วยทำซ้ำ ดัดแปลง งานอันมีลิขสิทธิ์ เช่นหนัง รายการโทรทัศน์ เพลง ฯลฯ เพื่อให้คนพิการสามารถเข้าถึงงานนั้นได้ โดยมิใช่เป็นการแสวงหากำไร ไม่ผิดลิขสิทธิ์นะครับ
    10. ขายของเป็นมือสอง สำเนาเก็บสำรอง
    ซื้อหนัง ซื้อเพลง ภาพวาด หนังสือ ภาพถ่าย อย่างถูกต้องตามกฎหมายมาแล้ว ใช้งานจนเบื่อ อยากเอาไปขาย เป็นสินค้ามือสอง ไม่ผิดกฎหมายลิขสิทธิ์นะครับ
    หรือจะสำเนาซ้ำ อยากเก็บอยากใช้แต่แผ่นสำเนา ส่วนแผ่นจริงเก็บเอาไว้
    เอาแผ่นสำเนามาใช้เอง มาดูเอง ก็ยังไม่ถือว่าการสำเนาซ้ำนั้นผิดลิขสิทธิ์นะครับ (เพียงแต่อย่าสำเนาแล้วแจกจ่ายให้เพื่อนบ้าน เครือญาตินะครับ อันนั้นผิด)
    ยกเว้นว่า ทำสำเนาซ้ำจากต้นฉบับที่ซื้อมา แล้วเอาสำเนาซ้ำนั้นไปขายเพื่อการค้า หาเงิน แบบนั้นก็ถือว่าผิดลิขสิทธิ์แล้วครับ
    11. อาจารย์ นักศึกษา สำเนาข้อมูล งานวิจัย สื่อภาพยนตร์ วิดีทัศน์ เอาไปใช้ในการศึกษา เพื่อการค้นคว้า วิจัย ไม่ผิดกฎหมายลิขสิทธิ์นะครับ
    บรรณารักษ์สำเนาหนังสือหายาก ไม่ผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ แต่ถ้าบรรณารักษ์สำเนาหนัง เพลง หนังสือ ที่ยังอยู่ในช่วงของการหาประโยชน์รายได้อยู่ แบบนั้นบรรณารักษ์ผิดกฎหมายลิขสิทธิ์นะครับ
    12. ใส่รหัสป้องกันละเมิดสิทธิ์ได้ไหม
    ผลงานทุกอย่าง สามารถใส่รหัสป้องกันการละเมิดสิทธิ์ได้ หรือเราสามารถกำหนดวิธีการนำไปใช้งานได้ ตามที่เราจะเห็นสมควร เช่น เพื่อประโยชน์การศึกษา เพื่อวิจัย เพื่ออะไรก็ได้ตามที่เราระบุแต่แรก
    เรายังมีสิทธิ์ใส่ลายน้ำ ลายเซ็น ข้อมูลดิจิทัล หรือใส่รหัสป้องกันการละเมิดดิจิทัลได้
    และถ้าใครมาละเมิดหรือทำลายระบบป้องกันนั้น ก็ถือว่าผิดลิขสิทธิ์เช่นกัน
    จำไว้ว่า สิ่งที่ไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ คือ
    (1) ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่างๆที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร ฯลฯ (แต่ถ้าเป็น สกู๊ปข่าว บทวิเคราะห์ บทสัมภาษณ์ คลิปภาพวิดีโอ ภาพถ่าย ภาพนิ่ง ภาพกราฟิกประกอบข่าว อันนี้มีลิขสิทธิ์คุ้มครอง)
    (2) รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
    (3) ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของหน่วยราชการ
    (4) คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
    (5) คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่างๆ ตามข้อ 1-4 ที่หน่วยราชการจัดทำขึ้น
    • สุดท้าย จบที่ความหมายของคำว่า “ลิขสิทธิ์” กันนะครับ ว่าหมายถึง สิทธิแต่เพียงผู้เดียวที่จะกระทำการใด ๆ เกี่ยวกับงานที่ผู้สร้างสรรค์ได้ทำขึ้น กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ลิขสิทธิ์เป็นผลงานที่เกิดจากการใช้สติปัญญา ความรู้ความสามารถ และความวิริยะอุตสาหะในการสร้างสรรค์งานให้เกิดขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่ง
    โดยหลักแล้วผู้สร้างสรรค์งานเป็นผู้มีลิขสิทธิ์
    • ลิขสิทธิ์เป็นสิทธิแต่ผู้เดียว (exclusive rights)
    • ลิขสิทธิ์เป็นสิทธิในทางทรัพย์สิน (property rights)
    • ลิขสิทธิ์เป็นสิทธิที่มีจำกัดเวลา
    • ลิขสิทธิ์เป็นสหสิทธิ (multiple rights)
    • ลิขสิทธิ์แยกต่างหากจากกรรมสิทธิ์ (independence of ownership)
    เจ้าของลิขสิทธิ์มีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวดังต่อไปนี้
    • สิทธิในการทำซ้ำหรือดัดแปลง
    • สิทธิในการเผยแพร่ต่อสาธารณชน
    • สิทธิในการให้เช่าต้นฉบับหรือสำเนางานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ และสิ่งบันทึกเสียง
    • สิทธิในการให้ประโยชน์อันเกิดจากลิขสิทธิ์แก่ผู้อื่น
    • สิทธิในการอนุญาตให้ผู้อื่นใช้สิทธิแต่เพียงผู้เดียวของเจ้าของลิขสิทธิ์ดังกล่าวข้างต้น
    เพราะฉะนั้น นี่ก็เป็นสิ่งที่ชาวเน็ตทุกๆ คนควรทำความเข้าใจกันเอาไว้บ้างนะครับ จะได้ไม่หลงทำผิดกฎหมายเป็นกรณีฟ้องร้องให้เสียทั้งเงิน และเวลา
    Cr: line




    ถ้าตามนี้ทั้งหมด เฮี้ยย้อย แกจะเล่นอะไร ขนาดแชร์ออฟเดอะเดย์ เข้าข่ายพานิชย์ 100% เอาหัวข่าวของคนอื่นมาเล่น ก้อผิดแล้ว คราวนี้คงต้องเล่นข่าวตัวเองแล้ว ละที่นี้
     
  13. อาวุโสโอเค

    อาวุโสโอเค อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,527
    ไขข้อข้องใจ...สรุป อะไรแชร์ได้ อะไรแชร์ไม่ได้
    แชร์ได้ มีกรณีเดียว คือเราเปียแล้วดอกสูงที่สุดในวง...
    แชร์ไม่ได้ มี สาม กรณี ได้แก่
    1) เปียแล้วสู้ดอกคนอื่นไม่ได้
    2) แชร์ตาย.. เปียไปแล้วยังจะหน้าด้านเปียอยู่ได้
    3) เท้าแชร์หนี... เชิดเงินลูกแชร์ไปเกลี้ยง ....
    เข้าใจตามนี้นะ...จะได้ไม่มีปัญหา :giggle:
     
    ปู่ยง, Familie, chackrapbong และอีก 1 คน ถูกใจ.
  14. chackrapbong

    chackrapbong อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    10 Dec 2014
    คะแนนถูกใจ:
    2,297
    แชร์ไม่ได้ ไม่ต้องห่วง หันมาใช้เก้าอี้แทนแชร์ก็ได้..... เหมือนกัน
    GP3102.jpg
     
    อาวุโสโอเค และ Familie ถูกใจ.
  15. redfrog53

    redfrog53 อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,466
  16. คนกลาง

    คนกลาง อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    1 Aug 2015
    คะแนนถูกใจ:
    383
    น่าจะไม่ผิดครับ แต่ถ้าเป็นรูปทหารสาว นี่อาจได้ไปเที่ยว ลาบ 11 :wondering::wondering::wondering::sweating::sweating::sweating:
     
    ปู่ยง likes this.
  17. redfrog53

    redfrog53 อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,466
    แน่ใจหรือ???
    อ่าน 3บรรทัดจิงๆ
     
  18. อู๋ คาลบี้

    อู๋ คาลบี้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    15 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,204
    http://manager.co.th/AstvWeekend/ViewNews.aspx?NewsID=9580000089530

    ธาม เชื้อสถาปนศิริ “แชร์ในลักษณะส่วนตัว ไม่ผิดกฎหมายลิขสิทธิ์”
    blank.gif
    โดย ASTVผู้จัดการรายวัน
    blank.gif8 สิงหาคม 2558 06:48 น. (แก้ไขล่าสุด 8 สิงหาคม 2558 09:23 น.)


    ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ทันทีที่ พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2558 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา ประชาคมออนไลน์พุ่งเป้าให้ความสนใจอย่างมาก เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวเสียเหลือเกิน ยิ่งข่าวลือกรณีแชร์ภาพดอกไม้อรุณสวัสดิ์ในไลน์เข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์ อาจถูกปรับสูงสุด 4 แสนและจำคุกกระพือไป งานนี้ใครใคร่จะแชร์อะไรก็ประหวั่นพรั่นพรึงไปตามๆ กัน สุดท้ายได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นเพียงข่าวลือ

    ท่ามกลางกระแสปริวิตก ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ สัมภาษณ์พิเศษ ธาม เชื้อสถาปนศิริ นักวิชาการผู้คร่ำหวอดเรื่องโซเชียลมีเดีย สถาบันวิชาการสื่อสาธารณะ (สวส.) จาก พ.ร.บ.การกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ถึง พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2558 กฎหมายรับลูกนโยบายดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของรัฐบาลทหาร ประชาชนควรปฏิบัติอย่างไรเพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นจำเลยในคดีละเมิดลิขสิทธิ์ แล้วทางด้านหน่วยงานที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมายมีความพร้อมเพียงใด

    อย่างไรก็ตาม สาระสำคัญอย่างหนึ่ง คืออัตราโทษทัณฑ์ที่นักก๊อบปี้รวมทั้งผู้ชื่นชอบการแชร์โดยไม่ให้เครดิตเจ้าของผลงาน ปรับตั้งแต่ 10,000 - 100,000 บาท หากกระทำเพื่อการค้า มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือน - 2 ปี ปรับตั้งแต่ 50,000บาท - 400,000 บาท (สูงสุดปรับเพิ่ม 2 เท่า เป็นเงิน800,000 บาท)

    ในส่วนของประชาชนผู้ใช้งานทั่วไป ควรเตรียมการอย่างไรเพื่อหลีกเลี่ยงการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) ปี 2558 โดยเฉพาะในเรื่องการแชร์ข้อความ รูปภาพ และคลิปต่างๆ

    อย่าเพิ่งตกใจว่าต่อไปนี้แชร์อะไรไม่ได้ เพราะว่ากฎหมายอนุญาตเปิดช่องไว้ว่าถ้าคุณแชร์ในลักษณะส่วนตัวไม่ใช่เรื่องการค้า แชร์มาโดยตรงแบบมีลิงก์มาหรือว่าไม่ได้มีลิงก์มา ไม่ผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ (ยกตัวอย่าง การแชร์ภาพดอกไม้อรุณสวัสดิ์ในแอพพลิเคชั่นไลน์เป็นการใช้งานแบบส่วนตัวถือว่าไม่เป็นการละเมิด หรือส่งคลิปเพลงในเว็บไซต์ยูทิวบ์ระบุลิงก์โดยตรงให้เพื่อนฟังเป็นการส่วนตัวถือว่าไม่เป็นการละเมิดเช่นกัน)

    สิ่งที่อยากจะเน้นสำหรับประชาชนทั่วๆ ไป ท่องจำขึ้นใจ ประชาชนที่เสพข้อมูลข่าวสารออนไลน์ ผมอยากจะเน้นว่าการใช้แชร์โดยปกติไม่ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์อยู่แล้ว อันแรก ถ้าให้เครดิตเจ้าของภาพเจ้าของโพสต์เจ้าของคลิปคือใคร อันที่สอง การเอามาใช้เอามาใช้แบบไม่ดัดแปลง และสุดท้ายการบอกแหล่งที่มา เพราะฉะนั้นลักษณะการใช้งานจะไม่มีลักษณะการผิดลิขสิทธิ์ แต่ว่ากฎหมายฉบับนี้จะเน้นใช้กับธุรกรรมธุรกิจที่มีผลประโยชน์เชิงพาณิชย์

    ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียต้องระมัดระวังในการโพสต์หรือแชร์ข้อมูลต่างๆ อย่างไร

    สิ่งที่ชาวเน็ตต้องระมัดระวังคือการไปก๊อบปี้รูปภาพ เว็บข่าวต่างๆ เอามาใช้แล้วเอามาแชร์ โดยไม่บอกที่มา อันนี้ต่อให้คุณใช้งานส่วนตัว คุณก็ผิดลิขสิทธิ์เพราะคุณไม่อ้างอิงแหล่งที่มา ต้องแสดงแหล่งที่มาเสมอ เพื่อเป็นการแสดงว่าคุณจะไม่ทึกทักว่างานนั้นเป็นผลงานของคุณ ถามว่า..ถ้าไม่อ้างอิงแหล่งที่มาผิดไหม? ผิดครับ แต่เป็นความผิดที่ยอมความได้ เพราะไม่ได้เกิดความเสียหายทางธุรกิจ แต่ถ้าตั้งใจเอามาใช้แล้วลบแหล่งที่มาอันนี้ผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ อีกประเด็นหนึ่ง ในกรณีใช้เพื่อการค้าใช้คำว่า “ขอบคุณ” ขอบคุณภาพจาก ขอบคุณข้อมูลจาก ได้ไหม? ตรงนี้ถือว่าผิดครับ เพราะกฎหมายลิขสิทธิ์ในที่นี้ ระบุว่าจะต้องขออนุญาตอย่างเป็นทางการกับเจ้าของลิขสิทธิ์

    ปัจจุบันมีกฎหมายเกี่ยวข้องกับการใช้โซเชียลมีเดียมากขึ้น ล่าสุด พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ ทั้งนี้ ก็เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมออนไลน์

    โลกของเราเข้าสู่การเป็นประชาคมออนไลน์กันมานานแล้ว เหตุผลของการเพิ่มกฎหมาย พ.ร.บ ลิขสิทธิ์ 2558 ออกมาใหม่ 2 ฉบับ คือถ้าพูดให้ครบมันมีทั้งหมด 4 ฉบับ ฉบับแรกเราใช้กันมานานค่อนข้างมาก พบข้อบกพร่องและจุดอ่อนหลายอย่าง ยังไม่ได้คำนึงถึงเทคโนโลยีสื่อใหม่ ไม่ได้คำนึงถึงวิธีการใช้งานหลักการใช้งาน หลักการใช้งานที่ไม่ใช่เพื่อการค้าเชิงพาณิชย์ ตัวฉบับเก่ามันมีข้อกำหนดบทลงโทษที่ไม่ได้ชัดเจน ตัวของเก่าไม่ครอบคลุมลักษณะการใช้งานใหม่ๆ เช่น การใช้งานเพื่อการศึกษา เปิดโอกาสให้คนพิการ หรือการปกป้องคุ้มครองของดารา ฉบับเก่าลืมนึกถึงข้อมูลพื้นฐานของลิขสิทธิ์ เช่น ข้อมูลการบริหารสิทธิ ใครเป็นเจ้าของอะไรพวกนี้

    ฉบับเก่าถามว่าใช่ไหม ใช้ได้ครับ แต่ว่ายังไม่ครอบคลุม เพราะฉะนั้น การออกฉบับใหม่มา 2 ฉบับ เพื่ออุดช่องโหว่นั้น ที่ผ่านมา พ.ร.บ. มีข้อยกเว้นค่อนข้างมาก การเอาไปใช้จริงไม่เป็นผล ที่ผ่านมา พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ ก็ไม่ค่อยมีหน่วยงานรัฐอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ ฉบับที่ 2 และฉบับที่ 3 ดูเหมือนมาเกี่ยวข้องกับโซเชียลมีเดีย สื่อออนไลน์มากขึ้น แต่มันจะเป็นแค่บางส่วนมีส่วนมันทีส่วนเนื้อหาสาระอื่นๆ อีก ที่เกี่ยวข้อง

    พิจารณาดูในโซเชียลมีเดีย มีปัญหาเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว พ.ร.บ. ฉบับนี้จึงคลอดออกมาใช่ไหม

    ในสื่อออนไลน์เนี่ยมันมีปัญหาค่อนข้างมากเลย มันมีการกระทำซ้ำและการทำสำเนามา ทั้งโดยตัวสื่อ มวลชนอาชีพเอง หรือทั้งตัวผู้ใช้งานโดยประชาชนทั่วๆ ไป คือทุกวันนี้สื่อมันเข้าสู่การหลอมรวม อินเทอร์เน็ต โทรทัศน์ หลอมรวมเป็นสื่อออนไลน์ทั้งหมด อีกเหตุผลก็คือเรื่องของ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ที่ออกมาแถลงข่าวเรื่องนี้ ประเด็นหลักมันมีความหมายว่าต่อไปลิขสิทธิ์เนี่ยมันมีมูลค่า มันเป็นทรัพย์สินทางปัญหาที่มีลักษณะมูลค่าทางเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้น มันก็จะสะท้อนกับแนวทางของรัฐบาล คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ประกาศกฎหมายว่าด้วยดิจิตอลเพราะว่าเรากำลังจะตั้งกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจดิจิตอล จึงมองนโยบาลเศรษฐกิจดิจิตอลเป็นเรื่องสำคัญ

    ที่ผ่านมา ประเทศอเมริกา หรือสากลโลกก็มองว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีระดับปัญหาเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์ค่อนข้างเยอะมาก โดยเฉพาะพวกหนังพวกเพลง พวกภาพยนตร์ วีดิทัศน์ เกม เป็นต้น ประเทศไทยติดแบล็กลิสต์สินค้าเหล่านี้มานาน โดยเฉพาะประเทศอเมริกา ที่ส่งผลกระทบให้เราโดนมาตรการกีดกันทางการค้าอื่นๆ PWL Priority Watch List (PWL) เพราะฉะนั้น พอรัฐบาลเข้ามา มีการออก พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ตัวนี้ เอฟเฟ็กต์จะเกิดขึ้นต่อการปราบปราม การละเมิดลิขสิทธิ์เก่าๆ

    ในประเทศอังกฤษ รวมทั้งประเทศอเมริกา กังวลมากเรื่องการละเมิดฯ แต่ในประเทศไทยมีเกลื่อนกลาด ยกตัวอย่าง ในเว็บไซต์ดูหนังดูซี่รี่ย์ออนไลน์ ที่นำซี่รี่ย์ต่างประเทศมาใส่ซับไทย หรือพวกดูละครย้อนหลังของช่องต่างๆ ในประเทศเราเอง ที่ถูกนำมาอัพโหลดในเว็บไซต์เหล่านี้ ผิดลิขสิทธิ์ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ตัวนี้ส่งผลกระทบอย่างมหาศาลเลยนะ โดยเฉพาะสินค้าเศรษฐกิจดิจิตอล ส่วนผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียทั่วไป ก็เช่นชาวเน็ตต้องรู้ตัวต้องระวังการแชร์การก๊อบปี้ข้อมูลข่าวสารมาแชร์ แม้กระทั่ง ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเว็บปรสิต ตระกูลก๊อบปี้สำเนาข่าว หรือ ลิขสิทธิ์ภาพ ข้อมูล หรือคลิปวีดีโอ ที่อยู่ในของคนปกติธรรมดา ที่เชื่อมโยงกับ ISP ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต
     
  19. อู๋ คาลบี้

    อู๋ คาลบี้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    15 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,204
    ต่อครับ
    -----------------------
    เป็นไปได้ไหมว่า คนไทยจำนวนมากกำลังละเมิดลิขสิทธิ์โดยไม่รู้ตัว

    เป็นไปได้และเป็นไปได้อย่างมาก เราคิดว่าอะไรที่อยู่ในอินเทอร์เน็ตนั้นมันฟรี เรามักคิดว่าการก๊อบปี้ทำสำเนาซ้ำเป็นเรื่องปกติ เพราะว่าถ้าไม่อยากให้ใครเห็นใครใช้ก็คงไม่อัพโหลดขึ้นบนอินเทอร์เน็ตมั้ง ความคิด ตรงนี้มันทำให้เราคนไทยส่วนมากมีความคิดพฤติกรรมละเมิดลิขสิทธิ์ ภาพรวมของกฎหมายฉบับนี้ผมมองว่าเป็นการจัดระเบียบสินค้าดิจิตอลไปในตัว รองรับการตั้งกระทรวงเศรษฐกิจดิจิตอลของรัฐบาล และเพื่อแก้ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ในเมืองไทย ซึ่งมันมีผลกระทบต่อชื่อเสียง กระทบต่อนักพัฒนาวงการนี้

    คนไทยมีปัญหาเรื่องการใช้ภาพอย่างมาก เช่น เรารู้หรือไม่การแชร์รูปในไลน์ ในเฟซบุ๊ก แชร์คลิปฝังแบบEmbed ไม่บอกแหล่งที่มาว่าเจ้าของผลงานคือใคร เอามาเว็บไซต์ไหน เมื่อไหร่แชร์กันต่อไปเรื่อยๆ จนเราไม่สามารถรู้ต้นทางได้ หรือการแชร์ข่าวในเว็บข่าว แชร์ภาพคำคม ที่ตลกก็คือมีการแชร์ภาพดอกไม้ในโปรแกรมไลน์ เราแชร์กันแบบไม่รู้ต้นทาง หรือภาพดาราในไอจี เราคิดว่ามันเป็นของสาธารณะใช่ไหม? กฎหมายลิขสิทธิ์ระบุว่าเราสามารถที่จะเข้าไปดูได้ แต่ว่าเราไม่สามารถที่จะคลิกขวาเข้ามาที่หน่วยความจำของเราได้ นี่คือการละเมิดสิทธิ์ ซึ่งประชาชนก็ไม่รู้

    พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ฯ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค. 58 ที่ผ่านมา จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในสังคมไทยอย่างไรบ้าง

    ผมตั้งข้อสังเกตในอุตสาหกรรมข่าวจะต้องศึกษาทำความเข้าใจเรื่องนี้อยากชัดเจน เพราะว่าหนึ่งทำเพื่อปกป้องธุรกิจของตนเอง สองเพื่อที่ธุรกิจตัวเองจะไม่ไปละเมิดธุรกิจอื่น เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ถ้าจะเปลี่ยนต้องมีการอบรมในกองบรรณาธิการข่าวว่าทำแบบไหนผิดหรือไม่ผิด ยกตัวอย่าง ภาพดาราในอินสตาแกรม นั่นก็เป็นสิทธิของพวกเขานะ ถ้าเอาภาพเขามาเขียนข่าวต้องขออนุญาตดาราคนนั้นๆ เสียก่อน ไม่เช่นนั้น ก็เข้าข่ายผิดกฎหมายลิขสิทธิ์

    อีกอย่างต่อไปนี้ลิขสิทธิ์นักแสดง เช่น ไปเล่นหนังเล่นละคร เขาก็จะมีลิขสิทธิ์ในผลงานนั้นด้วย ใครจะไปกระทำเผยแพร่ซ้ำดัดแปลง ตัดต่อบางฉากบางตอนให้ดูเสียหาย ทำไม่ได้ แม้กระทั่งภาพในกองถ่าย ที่ไม่ได้ ออกอากาศก็มีกฎหมายคุ้มครอง จำได้ไหม ตอนภาพยนตร์เรื่องไอ้ฟัก มีฉากหลุดหัวนม คุณตั๊ก (บงกช คงมาลัย) มาเลย ซึ่งฉากนี้ไม่ได้อยู่ในหนัง เพราะผู้กำกับไม่ได้ใส่ฉากนี้ให้เห็น แล้วมีคนไปละเมิดเอาภาพมาลงในสื่อออนไลน์ในเว็บบอร์ดพันทิป ถ้าเป็นแต่ก่อนแค่ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ (พ.ร.บ. การกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550) เผยแพร่ภาพอนาจารต่อสาธารณะ แต่ต่อไปผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ด้วย เพราะเรือนร่างกายของนักแสดงต่อให้อยู่ในฉากเบื้องหลังก็มีลิขสิทธิ์

    อีกส่วนการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นกับ พลเมืองเน็ต ขอแบ่งเป็น 2 ประเภท ส่วนแรกผู้ที่ทำตัวเองเป็นผู้พัฒนาคอนเทนต์ เช่น ไปเอารายการซี่รี่ย์เกาหลี ซี่รี่ย์ฝรั่ง ละครย้อนหลัง มาทำซับไทยแปลเอง ทำสำเนาซับ พวกนี้ผิดลิขสิทธิ์ทั้งหมดแน่นอน หรืออย่างเฟซบุ๊กเพจยูไลค์ อยู่ในเพจเฟซบุ๊กดูเหมือนว่าจะไม่ได้หาผลประโยชน์กำไรทางการค้าเพราะเป็นหน้าเพจ แต่การที่มีคนฟอลโล่เป็นหมื่นเป็นแสนทางเฟซบุ๊กบอกเป็นการใช้งานเชิงพาณิชย์ เพราะมีการวางแบนเนอร์ทำโฆษณา ทำมาเก็ตติ้ง หรือบางคนทำธุรกิจออนไลน์ขายของ ในส่วนของคอนเทนต์ต้องมีการพิจารณาอย่างจริงจังว่าผิดกฎหมายลิขสิทธิ์หรือเปล่า ต้องระวังมากขึ้น เวลาคุณไปก๊อบปี้ภาพดอกไม้ของคนอื่นที่มีการจัดแสง มีคอมโพสต์ คุณกำลังละเมิดลิขสิทธิ์ ง่ายๆ ลองถึงเพจคำคมสิครับ แชร์รูปสุนัข แชร์รูปเด็กน่ารัก รูปภาพตรงนั้นผิดลิขสิทธิ์ทั้งหมด แต่เป็นความผิดลิขสิทธิ์ที่ยอมความได้คือไม่ถึงขั้นฟ้องร้อง

    สิ่งที่จะเกิดขึ้นทันทีหลังจาก พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ฯ ฉบับนี้มีผลบังคับใช้

    หลังการบังคับใช้กฎหมายลิขสิทธิ์ สิ่งที่จะเกิดขึ้นทันที เว็บไซต์ต่างๆ เหล่านี้ควรจะปิดชั่วคราวเพื่อป้องกันการถูกฟ้องร้อง เพราะว่าต่อไปนี้เจ้าของลิขสิทธิ์อย่างแท้จริง อย่างเช่น ประเทศเกาหลีใต้ ต้นทางซี่รีส์ จะโดนฟ้องจากต้นทางได้ หรือถ้าเป็นในประเทศเราก็เป็นลิขสิทธิ์ที่เราซื้อมาเพื่อเผยแพร่ ช่อง 3 ช่องโมโน ก็ซื้อลิขสิทธิ์เผยแพร่ในประเทศไทยหรือมีออป ชันเพิ่ม เช่น เผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ในเว็บไซต์ของตน ถ้าคนธรรมดาไปเอามาไปทำซ้ำหาผลประโยชน์ทางการค้าคือเรื่องใหญ่นะ เพราะโทษใหญ่นะครับ ปรับสูงสุด 400,000 แสนบาท และมีโทษจำคุกด้วย ตามหลักการที่มองเห็นจะสร้างผลกระทบอย่างมากกับคนที่ทำเว็บปรสิต ทำเว็บดูรายการทีวีย้อนหลัง หรือชาวโซเชียลมีเดียทั้งหลายที่มีการก๊อบปี้ข้อความแชร์ต่อ


    กฎหมายลิขสิทธิ์เอื้อประโยชน์ให้เจ้าของผลงานดำเนินคดีทางแพ่งและอาญาอย่างเต็มที่

    กฎหมายลิขสิทธิ์ เจ้าของลิขสิทธิ์มีสิทธิอย่างเต็มที่ในผลงานของตัวเอง เพราะฉะนั้น กฎหมายจึงเอื้อมากให้เจ้าของฟ้องร้องเอาผิดทางลิขสิทธิ์ได้ กฎหมายนี้จะต้องไปพิสูจน์ความจริง ถ้าต้องการฟ้องร้องทำได้ แต่ต้องเข้าใจพื้นฐานของกฎหมายลิขสิทธิ์ว่าการเอาไปใช้งานเรื่องการศึกษาวิจัยการเรียนการสอนได้ แต่ถ้าเป็นเชิงพาณิชย์มันผิดหมด ที่ผ่านมาไม่มีการฟ้องร้องนั้นคือความผิดปกตินะ ผมเห็นว่าถ้ามันเป็นการปกป้องผลงานทางวิชาชีพมันไม่ควรจะยอมความ แต่ถ้าในฐานะการใช้งานของประชาชนทั่วไป การใช้งานเพื่อเผยแพร่รับรู้ข้อมูลข่าวสารให้มากขึ้นตรงนี้ก็ยอมความได้

    ผมขอเพิ่มเติมส่วนที่เกี่ยวข้องหน่วยงานทางสถาบันการศึกษานะครับ ร้านถ่ายเอกสารเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ด้วยนะ เช่น มหาวิทยาลัยรามคำแหงมีร้านถ่ายเอกสารหน้ามหาลัยฯ แล้วมีคนมาจับกุมผลิตทำซ้ำ จัดจำหน่าย ตรงนี้กฎหมายลิขสิทธิ์ยกเว้นนะ เจ้าของร้านกระทำเพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น คือผม กลัวว่าต่อไปจะมีคนไปจับกุมร้านถ่ายเอกสารได้ มันเป็นปัญหาเพราะเจ้าหน้าที่รัฐแอบแฝงไปจับกุม คือกฎหมายลิขสิทธิ์บอกว่าถ้าจะมีการจับกุมอะไรก็ตาม จะต้องเป็นเจ้าของผลงานเท่านั้นที่แจ้งความ ไม่สามารถมีเจ้าหน้าที่ตัวแทนลิขสิทธิ์ได้

    ตาม พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ มีโทษค่อนข้างรุนแรง ปรับสูงสุด 400,000 และจำคุก การบังคับใช้กฎหมายจะมีศักยภาพแค่ไหน

    ประเด็นแรก คือหน่วยงานรัฐขาดการประชาสัมพันธ์อย่างดีนะ เพราะว่าประชาชนยังมีความสับสนว่ากฎหมายพูดเรื่องการละเมิดหรือไม่ละเมิด แต่ว่ายังไม่ได้อธิบายเรื่องการใช้งานเรื่องการศึกษา การใช้งานส่วนตัว เพราะฉะนั้น ช่วงแรกผมอยากให้หน่วยงานรัฐออกมาให้ความรู้มากกว่านี้ ทำความเข้าใจกับประชาชน

    ด้านหน่วยงานรัฐ กรมทรัพย์สินทางปัญหา แล้วก็กระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากถูกมองเป็นเชิงพาณิชย์ค่อนข้างมาก เพราะฉะนั้นต้องทำกิจกรรมอธิบายทำความเข้าใจแยกเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้อง กลุ่มสื่อสารมวลชน และกลุ่มเจ้าของลิขสิทธิ์ และกลุ่มทำธุรกิจดิจิตอลโดยตรง ในช่วงแรก 2-3 เดือนแรก มันจะเกิดความสับสนอลหม่านพอสมควร ในเรื่องของการผิดไม่ผิด เกิดการจับกุมฟ้องร้องกันมากมาย ตรงนี้มันเป็นโอกาสที่กระทรวงพาณิชย์ต้องเร่งทำความเข้าใจ เรื่องของการทำการค้าธุรกิจ ทำอย่างไรไม่ให้ผิดกฎหมายลิขสิทธิ์

    ผมเชื่อว่ากฎหมายออกมา จะมีการบังคับฟ้องกันกระจายเลย คดีลิขสิทธิ์จะมีเป็นร้อยเป็นพันเป็นหมื่นกระทรวงไอซีทีจะมีปัญหาอย่างหนักเลยว่า ถ้าเกิดมีการฟ้องร้องหลายๆ เว็บไซต์ต้องปิด ทุกวันนี้กระทรวงไอซีทีก็มีปัญหาปิดไม่ทันอยู่แล้ว เว็บดูหนังออนไลน์ ฟังเพลงออนไลน์ ดูซีรีส์ออนไลน์ เยอะ เว็บข่าวออนไลน์พวกปรสิต ไอซีทีมีมาตรการรับมือการร้องเรียนการปิดเว็บเหล่านี้แล้วหรือยัง? ยังไม่ต้องคิดถึงประชาชนทั่วไปแชร์ เพราะว่าประชาชนทั่วไปแชร์มันเป็นความผิดแต่ยอมความได้ แต่ในเว็บไซต์ที่มีการวางแบนเนอร์โฆษณาต่างๆ เรื่องใหญ่เลยนะ

    เท่ากับว่า พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ฯ จะตอกย้ำผู้บังคับใช้กฎหมายอย่างกระทรวงไอซีทีว่าด้อยศักยภาพ ไม่มีความพร้อมด้วยประการทั้งปวง

    ใช่ครับ คือกฎหมายฉบับนี้รักษาการโดยกระทรวงพาณิชย์ แต่ว่ากระทรวงไอซีทีมีบทบาทหนึ่งก็คือเรื่อง พ.ร.บ. การกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 การลักลอบกระทำซ้ำ ผลิตซ้ำเผยแพร่ สมมุติว่า ซีรีส์ย์ เรื่อง หนึ่งๆ มีการละเมิดบนเว็บไซต์ออนไลน์ สังคมออนไลน์ กระทรวงพาณิชย์ถือมาตรการ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ กระทรวงไอซีทีถือมาตรการ พ.ร.บ.คอมพ์ มีอำนาจการจับกุม เพราะฉะนั้น ลองจินตนาการดูสิว่าถ้ามีการฟ้องร้องผิดกฎหมายลิขสิทธิ์จะเป็นอย่างไร?

    ตอนนี้ (5 ส.ค.58) ผมไม่รู้ว่ากระทรวงไอซีทีรู้หรือเปล่าว่าภาระจะเพิ่มมากขึ้นด้วย เช่น ถ้ามีการฟ้องร้องว่าผิด กม.ลิขสิทธิ์ ด้วย ต่อไปนี้มันจะผิดกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ.คอมพ์ การกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ เรื่องของการกระทำซ้ำดัดแปลง คุณไปเอาข้อมูลของคนอื่นมามันก็ผิดมาตรา 12 การกระทำความเสียหายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ คุณอาจจะต้องผิดทั้ง พ.ร.บ.คอมพ์ และ พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ วันนี้กระทรวงไอซีที่กับกระทรวงพาณิชย์ได้มองภารกิจของตัวเอง ในการจับกุม ป้องกัน ปราบปราม ปิดกั้นเว็บไซต์หรือยัง?
     

Share This Page