รัฐประหารเสียของ กับ สืบทอดอำนาจ

กระทู้ใน 'สภากาแฟ' โดย เผด็จการที่รัก, 4 Feb 2018

  1. เผด็จการที่รัก

    เผด็จการที่รัก อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,076
    คืนอำนาจเร็วก็บอก"เสียของ" คืนอำนาจช้าก็บอก "สืบทอดอำนาจ"

    ผมแน่ใจว่าถ้ามีพรรคที่เอาชนะ "เพื่อทักษิณ" ได้ลุงตู่คงลงไปนานแล้วล่ะ

    แต่ทุกวันนี้ที่ยื้อคงรู้ว่าถ้าปล่อย"แดง"คงกลับมาเต็มสภา

    ที่ด่าสืบทอดอำนาจหนักๆตอนนี้ก็มีกลุ่มอดีตพันธมิตรนี่แหละ

    เอาใจยากนะ:think:

    ป.ล.ถ้าลุงป้อมรักเพื่อนควรลาออกไปพักก่อนนะ แก่สะสมความเกลียดชังไว้มากเกิน ถ้าว่ากันตามตรงนาฬิกาเก๊หรือจริงก็ไม่มีใครรู้ ผิดกฎหมายข้อไหนก็ไม่มีใครฟันธงได้ ฐานะลุงป้อมก็ดีอยู่ เพื่อนฝูงก็มีแลกเปลี่ยนกันใส่ก็เรื่องธรรมดาไม่ได้ไปโกงใครเขามาอีกต่างหาก แต่ที่มันเป็นประเด็นคือ ลุงป้อมแก่เป็นจุดอ่อนมานานต่างหาก:sweating:
     
    gaiser, Anduril, ชายน้ำ และอีก 1 คน ถูกใจ.
  2. ชายน้ำ

    ชายน้ำ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    9 Feb 2015
    คะแนนถูกใจ:
    7,081
    ผมว่าพวกอยากเลือกตั้งก็ไม่ได้เกลียดชังอะไรลุงป้อม

    ถ้าลุงป้อมต้องมีอันจากรัฐบาลไป เขาก็หาเป้าหมายใหม่ เพราะเป้าประสงค์เดียวของพวกเขาคืออยากให้แก๊งโจรนายจ้างได้กลับมาครองเมือง

    ลองลุงตู่ประกาศไปสิครับว่าจะวางมือทุกอย่างและเชื่อว่าทักษิณ ยิ่งลักษณ์และเผาไทยเหมาะสมจะบริหารประเทศต่อไป

    ขี้คร้านพวกสื่อฯรับจ้าง นักวิชาการและนักกิจกรรมแบบวางบิลทั้งหลาย จะออกมาปูผ้ากราบว่าลุงตู่เป็นรัฐบุุรุษ
     
    Novice, Anduril และ comma ถูกใจ
  3. Anduril

    Anduril อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    4 Jun 2015
    คะแนนถูกใจ:
    5,268
    ผมเห็นต่างเรื่อง รองประวิตร ลาออกนะครับ ถึงแม้กระแสจะถูกสร้างขึ้นให้ดูเหมือนว่ามันรุนแรงจนสังคมยอมรับไม่ได้ เพราะตามกฎหมายต้องให้ปปช.ชี้มูลความผิดก่อนถึง จะต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่ และเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีมูลความผิดที่ชัดเจนใดๆเลย นอกเสียจากว่า มันขัดความรู้สึกว่า คนระดับรองนายกฯจะยืมเพื่อนมาใส่หรือ ตั้งมากมาย 25 เรือน (ผมไม่รู้ว่า มีกี่เรือนที่เกิดขึ้นในยุค คสช.)
    เพราะในอดีตผมก็ยังไม่เคยเห็นนักการเมือง ลาออกด้วยกระแสกดดันด้วยเรื่องที่เป็นข่าวหรือเป็นประเด็นที่ไม่ถูกต้องเลยนอกจากว่าในยุคคุณอภิสิทธิ์ที่โดนเรื่องปลากระป๋องเน่า แต่ผลการสอบสวนก็ไม่มีอะไรเลย ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่เคยเห็นการรับผิดชอบแบบนี้อีกเลย
    และถ้าหากว่า มีการลาออกจริงตามกระแสกดดันจริง แล้วจะกลายเป็นมาตรฐานให้นักการเมือง หรือข้าราชการระดับสูงปฎิบัติตามก็น่ายินดีครับ และรองประวิตรก็น่าจะออกเพื่อสร้างมาตรฐานให้การเมืองไทย แต่ผมก็คิดว่าทุกคนก็คงรู้ว่า ไม่มีทางเป็นอย่างนั้นแน่ เพราะจิตสำนึกของนักการเมืองไทยและข้าราชการระดับสูง ยังไม่ดีพออย่างนั้น
    ส่วนที่ว่า รองประวิตรเป็นจุดอ่อน ซึ่งถ้าเปลี่ยนออก รัฐบาลจะดีขึ้นผมก็คิดว่า ไม่จริง เพราะตอนนี้ ทั้งสื่อ นักการเมือง ก็กำลังถล่มรัฐบาลต่อแล้ว ด้วยข้ออ้างเดิมๆ เผด็จการ เศรษฐกิจ และแถมด้วยโกง
     
    bigTeacher และ หนูอ้อย ถูกใจ.
  4. นายพลตัดแปะ

    นายพลตัดแปะ อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    18 Jul 2015
    คะแนนถูกใจ:
    81
  5. ชายน้ำ

    ชายน้ำ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    9 Feb 2015
    คะแนนถูกใจ:
    7,081
    ผมว่าลุงตู่ตั้งใจทำงานต่อไปดีกว่าครับ

    ที่กำลังเย้วๆอยู่ตอนนี้น่ะ หากต้องเลือกข้างกันจริงๆแล้ว

    พวกที่ไม่ใช่ขี้ข้าชินวัตรก็ยังอยากอยู่กับทหารมากกว่าอยู่ดี
     
  6. Surawong

    Surawong อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    22 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,544
    ผมมองว่าการยึดอำนาจสมัย พลเอกสนธิ และสมัยพลเอกประยุทธ มีสองเรื่องเหมือนกันที่ทำสำเร็จ ไม่เสียของอย่างที่บางพวกบางกลุ่มพยายามนำมาโจมตีเพื่อสร้างกระแส เพราะผิดหวังที่ขออะไรไม่ได้ตามที่ต้องการ

    เรื่องที่ผมมองว่าทำสำเร็จ คือปราบทุจริต เพราะยุคพลเอกสนธิ ได้ตั้ง คตส ขึ้นมาตรวจสอบทักษิณ จนสามารถดำเนินคดีได้ยาวเป็นหางว่าว จนทักษิณต้องเผ่นหนีไปอยู่ต่างประเทศ ยังกลับไม่ได้

    ยุคพลเอกประยุทธ ก็ปราบทุจริตจำนำข้าว นี่ก็คดียาวเป็นหางว่าว ต้องเผ่นหนีไปต่างประเทศเหมือนกัน

    สองเรื่องนี้ ถ้านักการเมืองไม่ว่าพรรคไหนครองประเทศอยู่ ถามว่าทำได้ไหม ผมมองว่า ไม่มีปัญญาหรอกครับ แม้ว่าเรื่องจำนำข้าวจะมีข้อมูลมาจากนักการเมืองก็ตาม แต่ถ้าไม่มีการยึดอำนาจ เราลองถามใจเราเองก็ได้ว่า คดีมันจะเดินหน้าไปแบบนี้หรือไม่ ป่านนี้เรื่องยังอาจอยู่ที่ ปปช เพื่อรอให้หมดอายุความเพราะกลัวโดนระเบิดก็ได้

    ผมอยากให้นักการเมืองที่พยายามสร้างกระแสว่า รัฐบาลกำลังอยู่ระหว่างขาลง เพราะทำอะไรไม่ประสบความสำเร็จสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปราบทุจริต เรื่องการปฏิรูป เรื่องเศรษฐกิจ ลองย้อนกลับไปมองว่าขณะที่ตนเองเป็นรัฐบาลอยู่ มีอะไรที่ทำสำเร็จบ้าง เอาเฉพาะเรื่องที่ไปกล่าวหาเขานี่แหละ

    กลุ่มที่กำลังพยายามสร้างกระแสป่วนชาติอยู่ขณะนี้ ผมมองว่ามีอยู่ สามกลุ่ม คือ กลุ่มนักการเมือง กลุ่มสื่อมวลชน และกลุ่มแก๊งข้างถนน สามกลุ่มนี้อ้างเหตุการป่วนชาติเหมือนกัน คือ สิทธิ ประชาธิปไตย และประชาชน อ้างเหตุป่วนชาติเหมือนกัน มีเป้าหมายเหมือนกันคือ พลเอกประยุทธ แต่ความต้องการผลตอบแทนแตกต่างกันไป

    กลุ่มนักการเมือง ความต้องการ คือ ดิสเครติด พลเอกประยุทธ ให้ประชาชนเสื่อมความนิยม เพราะกลัวว่าเมื่อถึงเวลาเลือกตั้ง ประชาชนจะไปเทคะแนนให้พรรคการเมืองที่ชูพลเอกประยุทธเป็นนายก

    กลุ่มสื่อมวลชน ความต้องการคือ สร้างความขัดแย้งในข่าวที่นำเสนอ เพื่อให้ประชาชนสนใจ เพราะต้องแข่งขันกันเพื่อความอยู่รอด สื่อบางสำนักอาจไม่มีเจตนาดิสเครดิตรัฐบาล แต่เมื่อเห็นสื่อสำนักอื่นนำเสนออย่างนี้ ก็ต้องเอาบ้างเพราะกลัวว่าข่าวของตนจะไม่น่าสนใจ ทำไปทำมาก็เหมือนดิสเครดิตรัฐบาลนั่นแหละ เพราะเที่ยวไปหาข่าวตามโซเชียลเนตเวิร์คมานำเสนออย่างเป็นเรื่องเป็นราว ที่ร้ายไปกว่านั้นคือสื่อบางสำนัก น่าจะเริ่มมีพฤติการณ์รับค่าโฆษณา จากคนหนีคุก เพื่อมาโจมตีรัฐบาลด้วยซ้ำ

    กลุ่มสื่อมวลชนนี่ ผมมองว่าเป็นกลุ่มอันตรายที่สุด ความขัดแย้งปั่นป่วนในประเทศจะไม่มีวันสงบได้ ถ้ากลุ่มนี้ยังมีพฤติการณ์สร้างความขัดแย้งอยู่ตลอดเวลา การอ้างสิทธิ เสรีภาพในการตรวจสอบรัฐบาล เป็นเรื่องไร้สาระที่สื่อน่าจะรู้อยู่แก่ใจ เพราะสมัยทักษิณครองอำนาจ พวกคุณก็โดนกันมาแล้วจนต้องเงียบกันไปหมด ทำไมตอนนั้นไม่เห็นมาเรียกร้องสิทธิ เสรีภาพอะไร หรือกลัวกันจนหัวหด ผมมองว่าสื่อเหล่านี้น่าจะไปกราบขอบคุณพลเอกสนธิ นะ ที่นำเสรีภาพมาให้สื่ออีกครั้งหนึ่ง ไม่ใช่มานั่งท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง ว่าเผด็จการทหาร เผด็จการทหาร

    กลุ่มแก๊งข้างถนน กลุ่มนี้ความต้องการหลากหลาย แต่หลัก ๆ ก็คือ ทำเพื่อนาย จะมีที่หลงฝูงเข้าไปสอดแทรกบ้างก็พวกอยากดัง กลัวสังคมลืมชื่อ พวกเกลียดอภิสิทธิ์ เกลียด บิ๊กป้อม เกลียดบิ๊กตู่ มาแต่เดิมนั่นแหละ

    ปัญหาที่มันเป็นอยู่ในขณะนี้ก็คือ สามกลุ่มนี้ฉวยโอกาสจาก บิ๊กป้อม จุดเป็นประเด็นขึ้นมาเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องอื่น ที่นำมาโจมตีรัฐบาล มันเป็นเรื่องลม ๆ แล้ง ๆ มันก็เลยจุดไม่ติด ได้โอกาสจุดติดเรื่องบิ๊กป้อม ก็เลยพยายามเอาเรื่องโน้นเรื่องนี้เข้ามาผสมด้วย ไม่ว่าจะเป็นการยืดโรดแมบออกไป ซึ่งแม้นายกตู่จะบอกแล้วว่า ผมไม่ได้เป็นคนเลื่อน แต่ทั้งนักการเมือง ทั้งสื่อ ก็ยังพยายามจะให้เป็นนายกตู่เลื่อนให้ได้ นี่มันเห็นได้ชัดว่า นักการเมืองกลัวเรื่องคะแนนเลือกตั้ง ส่วนสื่อก็เอาที่นักการเมืองพูดนี่แหละมาเป็นประเด็นขัดแย้งอยู่ตลอดเวลา

    ทีนี้มาถึง บิ๊กป้อม ว่าควรลาออกไหม ผมมองว่า เมื่อพูดแล้ว ก็ควรลาออกซะ อย่าปล่อยเวลายืดออกไป มันเป็นโอกาสที่จะแสดงจริยธรรมทางการเมืองแล้ว ถ้าปล่อยเวลายืดยาวออกไป นอกจากจะเป็นขี้ปากเขาไม่รู้จบแล้ว และถ้าสุดท้ายจะลาออกมันก็จะไม่เป็นคุณกับตัวเองเท่าไร การลาออกมันไม่ได้หมายถึงว่าได้ทำผิด ซึ่งมันไม่เหมือนการถูกปรับออก แต่การลาออกมันเป็นการแสดงให้เห็นว่าเป็นคนมีคุณธรรม จริยธรรมทางการเมือง แม้ว่าลาออกไปแล้ว ไอ้สามกลุ่มนี่ก็หาเรื่องใหม่เข้ามาอีกก็ตาม แต่เรื่องนาฬิกานี่ สังคมมันไม่เชื่อตามกระแสไปแล้ว ซึ่งมันก็เกิดจากการทำตัวของ บิ๊กป้อมเองตั้งแต่แรก ที่พอมีข่าวเรื่องนี้แต่แรก ก็หลบหน้าหลบตานักข่าวไปเลย แล้วค่อย ๆ ปล่อยข่าวว่ายืมเพื่อนออกมาหยั่งกระแส แถมหลังสุดยังมาพูดเรื่องลาออกอีก ผมมองว่า พูดแล้วทำตามที่พูด ก็ยังพอกู้ชื่อคืนได้บ้างนะ
     
    ชายน้ำ และ Anduril ถูกใจ.
  7. ชายน้ำ

    ชายน้ำ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    9 Feb 2015
    คะแนนถูกใจ:
    7,081
    เรียนถามคุณ Surawong ข้อหนึ่งว่า อาจารย์มหาวิทยาลัยที่ออกมาละเมอเพ้อพกโจมตีทหารและโหยหาเลือกตั้ง ถูกจัดอยู่กลุ่มไหนในสามกลุ่ม

    เพราะโดยส่วนตัว ที่ผมเห็นว่าเข้าข่ายกลุ่มเดียวคือแก๊งข้างถนน ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ให้นึกสงสารเยาวชนและชาติไทยโดยรวมเป็นอย่างยิ่ง

    นานมาแล้วผมมีโอกาสได้ฟังอาจารย์จากสองมหาวิทยาลัย top 10 ของอเมริกาพูดเรื่องการบริหารธุรกิจ ผู้เข้าฟังทุกคนประทับใจมาก มิใช่เพราะเห่อฝรั่งแต่สิ่งที่เขาพูดคือความเป็นจริงและปฏิบัติได้จริง อาจารย์เหล่านี้ยังออกวารสารวิเคราะห์ธุรกิจเช่น Harvard Business Review ซึ่งอ่านแล้วจะรู้ว่าผู้เขียนรู้จริง

    ผมนึกถึงอาจารย์มหาวิทยาลัยของไทย ไม่รู้ว่าที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปลอกฝรั่งตาน้ำข้าวมาสอนผู้เรียน จะรู้ซึ้งถึงองค์ความรู้เหล่านั้นไหม

    หรือพอนายฝรั่งบอกว่าเลือกตั้งดีก็ก้มหน้าก้มตาทำตัวเป็นแผ่นเสียงตกร่อง ร่ำร้องเรียกหาเลือกตั้งอยู่ร่ำไป

    ยิ่งถ้ามีท่อน้ำเลี้ยงจากตระกูลปล้นบ้านปล้นเมืองมาช่วยด้วย คงช่วยกันตะโกนกันสุดจิตสุดใจทีเดียว
     
  8. Anduril

    Anduril อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    4 Jun 2015
    คะแนนถูกใจ:
    5,268
    ตัวผมมองว่า เอนจีโอ เป็นกลุ่มที่น่ากลัวที่สุดครับ ได้รับเงินทุนและแนวคิดจากต่างชาติ มาทำการแทรกแซงโดยอ้างประชาธิปไตย โดยแทรกซึมไปทำงานในองค์กรต่างๆ วางตัวคนของตัวเอง แล้วเข้าควบคุมองค์กรนั้นๆ เสร็จแล้วก็ใช้งบประมาณรัฐซึ่งก็คือภาษีของพวกเราทุกคน มาทำการต่อต้านรัฐบาล
     
  9. Surawong

    Surawong อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    22 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,544
    ขอบคุณคุณชายน้ำครับที่กรุณาถาม แต่ผมต้องออกตัวก่อนนะครับว่า มันเป็นเพียงมุมมองของผมเท่านั้น คือไม่ได้มีความเชี่ยวชาญอะไรมากมาย ผมมองตามที่มันปรากฎอยู่ในสังคมปัจจุบันนี้ครับ แต่ที่ไม่ได้พูดถึงนักวิชาการหรืออาจารย์มหาวิทยาลัย เพราะมีความรู้สึกว่า ช่วงนี้มันมีค่อนข้างน้อย ไม่เหมือนตอนที่นายกปูยังครองอำนาจอยู่ ปัจจุบันที่เห็นออกมาพูดแสดงความเห็นซ้ำซาก ก็มีอยู่ไม่กี่คน และดูเหมือนจะเป็นตัวยืนเสียด้วย ฝนตกแดดออกก็ยืนอยู่อย่างนี้แหละ จะพูดว่าเป็นนักประชาธิปไตยเต็มตัวก็พูดไม่ได้ เพราะตอนยุคทักษิณ ยิ่งลักษณ์ ไม่เห็นคนพวกนี้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อะไรเลย

    จะมองว่าที่ไม่วิพากษ์วิจารณ์ตอนนั้น เพราะเขามาจากการเลือกตั้ง แล้วมีม็อบมาไล่มันไม่ถูกหลักประชาธิปไตย มันก็มองไม่ได้ เพราะอภิสิทธิ ก็มาจากการเลือกตั้ง ถูกม็อบไล่เหมือนกัน แต่คนพวกนี้หุบปากเงียบ แถมมีแอบไปเข้าข้างม็อบอีก เลยมองไม่ออกว่า ประชาธิปไตยอะไรแน่ เหมือนข้าชอบใครคนนั้นก็คือประชาธิปไตย ข้าเกลียดใคร คนนั้นคือเผด็จการ ไม่รู้ว่าฝรั่งมันสอนมาแบบนี้หรือเปล่า

    เพราะฉะนั้น ถ้าคนเหล่านี้จะรวมอยู่ในกลุ่มแก๊งข้างถนนก็น่าจะรวมได้ครับ เนื่องจากแนวคิดเหมือนกัน คือชอบใคร เชียร์ใคร คนนั้นคือประชาธิปไตย ไม่ชอบใครไม่เชียร์ใคร คนนั้นคือเผด็จการ แต่ถ้าจะพูดให้ถูกต้องแล้ว น่าจะเป็นว่า แก๊งข้างถนนคือผลผลิตของคนกลุ่มนี้มากกว่า เพราะถอดแบบกันมาเลย

    ที่คุณชายน้ำยกตัวอย่างอาจารย์จากสองมหาวิทยาลัย Top 10 ของอเมริกา บรรยายเรื่องการบริหารธุรกิจ ว่าที่เขาบรรยายนั้นมันจริง ปฏิบัติได้จริง แล้วอาจารย์ของเราที่พูดถึงอยู่นี้ จะรู้อย่างเขาไหม ผมมองว่า คงไม่รู้หรอกครับ เพราะอาจารย์ของอเมริกานั้น น่าจะเรียนมาทาง เศรษฐศาสตร์ หรือ การเงิน หรือบริหารธุรกิจ ซึ่งแนวคิดทฤษฎี ของสาขาเหล่านี้มันค่อนข้างเป็นรูปธรรมกว่าสาขา รัฐศาสตร์ การวิเคราะห์ การคาดการณ์อะไรต่าง ๆ มันจึงค่อนข้างแม่นยำกว่าสาขารัฐศาสตร์เยอะ อาจารย์ของเราที่ออกมาเยิ้ว ๆ เรื่องประชาธิปไตยนั้น ส่วนใหญ่ก็น่าจะเรียนมาทางรัฐศาสตร์ทั้งนั้น ยิ่งถ้าเรียนมาแล้วฝังหัวด้วย ก็จะออกอาการอย่างที่เห็น ๆ กันนั่นแหละ คือ พูดได้ไม่กี่คำ เช่น ประชาธิปไตย ประชาชน สิทธิ เสรีภาพ เลือกตั้ง ตรวจสอบได้ เผด็จการ เหมือนท่องคาถากันผี แต่คาถานี้ต้องใช้ให้ถูกคนด้วยนะ จะเอาไปใช้กับนักประชาธิปไตยแบบทักษิณไม่ได้ เพราะมันไม่ขลัง เคยมีคนเอาไปอ้างใช้ตรวจสอบทักษิณแล้วปรากฎว่า ถูก ปปง อายัดบัญชีเงินฝาก ตรวจสอบกลับจนหงายท้องไปตาม ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น สื่อ หรือ นักวิชาการ คงเข็ดไปจนตาย เพราะไม่กล้าตรวจสอบอีกเลย แต่ถ้าใช้กับเผด็จการทหารแล้ว สบายมาก เพราะผลกระทบอย่างมากก็แค่ออกมาโวยวายให้สื่อรู้ว่า มันมีคนไปป้วนเปี้ยนแถวหน้าบ้าน พอสืื่อเอาไปขยายผลก็จบ (จริงไม่จริงก็แล้วแต่จะเชื่อ) ผมมองว่า แนวคิด ทฤษฎี ทางรัฐศาสตร์ มันค่อนข้างจะออกแนวนี้แหละ เพราะมันเป็นเรื่องของคนกับอำนาจ ให้คนดีมาใช้อำนาจ มันก็เป็นการใช้อำนาจในทางที่ดี ให้คนเลวมาใช้อำนาจมันก็เป็นการใช้อำนาจในทางที่เลว มันไม่เกี่ยวกับว่าคุณจะใช้ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย เผด็จการ หรือ สังคมนิยม เพราะระบอบการปกครองมันเป็นแค่การกำหนดวิธีการเลือกคนที่จะเข้ามาใช้อำนาจ ไม่มีระบอบไหนที่มีหลักประกันว่า ใช้ระบอบนี้แล้วคุณจะเลือกได้คนดีมีศีลธรรมเข้ามาใช้อำนาจ

    ประชาธิปไตยที่บอกว่าเป็นระบอบการปกครองที่ดีที่สุด เพราะมันสามารถตรวจสอบ ถ่วงดุลย์อำนาจได้ มันเป็นแค่วาทกรรม ที่คนพูดไม่ได้คำนึงถึงความเป็นจริง เหมือนหลับหูหลับตาพูด เพราะที่ผ่านมามันตรวจสอบถ่วงดุลย์ได้หรือไม่ ถ้าได้ทำไมประชาชนต้องออกมาประท้วงแล้วถูกยิงถูกระเบิดจนบาดเจ็บล้มตายมากมาย จนทหารต้องออกมายึดอำนาจ แต่ที่มันตลกมาก ๆ เรียกว่าตลกประชาธิปไตยก็ว่าได้ก็คือ ประชาชนที่ออกมาประท้วงจนถูกยิงถูกทำร้ายบาดเจ็บล้มตายมากมายนั้น ถูกตั้งข้อหาเป็นกบถต่อรัฐบาลที่ขาดความชอบธรรมที่มีนายกรัฐมนตรีอยู่ระหว่างการหนีคุกอยู่ในต่างประเทศ มันแสดงให้เห็นความเจริญสุด ๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานอัยการ จริง ๆ
     
    kokkai, Anduril และ ชายน้ำ ถูกใจ
  10. ชายน้ำ

    ชายน้ำ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    9 Feb 2015
    คะแนนถูกใจ:
    7,081
    ขอบคุณครับ

    วิชาด้านสังคมศาสตร์มีความเป็นนามธรรมสูง เอาความรู้สึกมาใส่สีตีไข่ยังไงก็ไม่ผิด

    แต่ขนาดวิชาที่เป็นวิทยาศาสตร์หน่อยเช่นวิชาเศรษฐศาสตร์ยังเสร็จนักวิชาการและนักกิจกรรมรับจ้างไทยเลยครับ

    เล่นงานลุงตู่เรื่องทุจริตคอรัปชั่น เรื่องการลงทุนจากต่างประเทศ เรื่องเงินเฟ้อ เรื่องCPI เรื่องตลาดหุ้น ฯลฯ ไม่ได้ก็หันมาแห่เรื่องการกระจายรายได้ ก็คงจะพอกระพือเบิกเงินได้ไปวันๆ

    สำหรับผม ศรัทธาต่อนักวิชาการและนักกิจกรรมไทยมีต่ำมาก กิจกรรมใดๆที่พวกเขาทำ ผมเชื่อว่ามีแค่สองปัจจัยขับเคลื่อนคือ

    "วางบิลนายไทย เอาใจนายฝรั่ง" เท่านั้น
     
  11. นายพลตัดแปะ

    นายพลตัดแปะ อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    18 Jul 2015
    คะแนนถูกใจ:
    81
    DVqAnufVQAExw4Z.jpg
     
  12. ชายน้ำ

    ชายน้ำ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    9 Feb 2015
    คะแนนถูกใจ:
    7,081
    อย่าเอาแต่เห่า

    คาบไปบอกนายจ้างโจรของเอ็งด้วย
     
  13. tonythebest

    tonythebest อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    2,730
    ดัน
     
  14. Surawong

    Surawong อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    22 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,544
    ต้องขอโทษคุณชายน้ำจริง ๆ ที่ไม่ได้คุยต่อเนื่อง พอดีมันมีธุระยุ่ง ๆ ต้องไปจัดการก่อน เลยไม่ได้มาคุย

    ผมเห็นด้วยนะ เรื่องนักวิชาการ ที่ชอบออกมาแสดงความเห็น บรรดานักวิชาการที่ชอบออกมาแสดงความเห็นในเรื่องต่าง ๆ ผมมองว่ามีน้อยมากที่ความเห็นของเขาจะไม่มีวาระซ่อนเร้นอยู่

    นักวิชาการฝั่งหนึ่ง เวลาแสดงความเห็น เราอาจมองได้ชัดเจนว่าพยายาม "อุ้มนาย" ซึ่งดูไม่ยาก เช่น พวกตะแบงกฎหมาย พวกอ้างสิทธิ เสรีภาพ โดยไม่ดูว่าประเทศชาติอยู่ในภาวะอะไร เหมือนกับว่าถ้าประเทศชาติไม่เป็นประชาธิบไตยแบบที่เขาต้องการแล้ว ใจมันจะขาดรอน ๆ เพราะหายใจไม่ออกยังงั้นแหละ แต่คนพวกนี้ผมมองว่าไม่ค่อยมีพลังในตัวเอง พูดอะไรหรือแสดงความเห็นอะไรออกไป ถ้าไม่อยู่ในจังหวะที่นายสั่งให้สู้ ก็จะไม่มีพลังสนับสนุนมากมายนัก การออกมาพูดออกมาแสดงความเห็นของนักวิชาการกลุ่มนี้ มันเป็นวิชาการหรือไม่ แม้จะพูดเฉพาะเรื่องประชาธิบไตย ไม่มีอะไรเกี่ยวกับนายเลย มันก็ไม่เป็นวิชาการ มันเป็นแค่ความเห็นของคน ๆ หนึ่งเท่านั้น เพราะมันไม่มีอะไรรองรับว่าประชาธิบไตยของคุณดีที่สุดในโลก นอกจาก "นายฝรั่ง" อย่างที่คุณชายน้ำว่านั่นแหละ ถ้าที่นายฝรั่งพูดมันถูกต้อง ผมก็มองไม่เห็นว่า แล้วนายฝรั่งของพวกเขาไปกลัวจีน ซึ่งไม่เป็นประชาธิบไตยทำไม ปล่อยให้เขาปกครองกันไปอย่างนั้่น อีกหน่อยก็ล่มสลายไปเองไม่ดีหรือ

    นักวิชาการอีกฝั่งหนึ่ง พวกนี้ก็ไม่ต่างกับพวกแรก แต่ชอบแปลงร่าง บางครั้งก็บอกว่าตัวเองเป็นนักวิชาการ บางครั้งก็บอกว่าตัวเองเป็นสื่อ บางคนหนักข้อเข้าไปอีก เป็นนักประวัติศาสตร์ เป็นหมอดู แล้วแต่จะอ้างเพื่อเป็นการสนับสนุนคำพูดของตัวเอง

    วาระซ่อนเร้นของนักวิชาการกลุ่มนี้คือ ความอยากได้ใคร่ดีของตนเอง เพราะฉะนั้น ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงประเทศ ถ้าตนเองไม่ได้เข้าร่วมอยู่ในกระบวนการเปลี่ยนแปลง ก็มักจะทำตัวเป็นคลื่นใต้น้ำ คอยขัด คอยแย้ง อยู่ตลอด ไม่เคยชม ที่หนักข้อก็คือกล่าวหาเลย จริงไม่จริงก็แล้วแต่ แต่พอเขาเรียกเข้าไปช่วยงานก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ คือเปลี่ยนจากกล่าวหาเป็น คอยปกป้อง ชนิดหลับหูหลับตามปกป้อง ก็มี

    ช่วงนี้ อาจเรียกได้ว่าเป็นปลายยุคของรัฐบาล คสช ก็ว่าได้ นักวิชาการกลุ่มนี้ก็เริ่มโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำ ช่วยโหมกระหน่ำคลื่นใส่รัฐบาลกันอย่างสนุกสนาน โดยอ้างว่าตนเป็นสื่อต้องตรวจสอบรัฐบาล แต่ส่วนตัวผม ผมยังมองไม่เห็นว่า มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันในการตรวจสอบ มันไม่เหมือนการตรวจสอบรัฐบาลนักการเมืองที่ผ่าน ๆ มา เพราะนั่นความผิดมันค่อนข้างชัดเจน แต่การตรวจสอบรัฐบาล คสช มันเหมือนกับเป็นการพยายามกล่าวหาเพื่อ สร้างกระแสความขัดแย้ง หรือดิสเครดิตรัฐบาลไปวัน ๆ เท่านั้น และเมื่อหาอะไรไม่ได้จริง ๆ ก็หันกลับมาหาของตาย คือ คืนประชาธิบไตยให้ประชาชนนั่นแหละ
     
    Anduril และ ชายน้ำ ถูกใจ.
  15. นายพลตัดแปะ

    นายพลตัดแปะ อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    18 Jul 2015
    คะแนนถูกใจ:
    81
    โคตรโกงรีเทิร์น! ดัชนีคอร์รัปชั่นไทยวูบต่อเนื่อง หอการค้ากระทุ้งรัฐหัดเอาจริง
    วันพฤหัสบดี ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561, 14.48 น.
    โคตรโกง คอร์รัปชั่น หอการค้า ใต้โต๊ะ ดัชนี วูบ โปร่งใส

    วันที่ 15 กุมภาพันธ์ นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทย หรือ CSI ประจำเดือนธันวาคม 2560 โดยสุ่มสำรวจจำนวน 2,400 ตัวอย่าง จากกลุ่มเป้าหมายทั้งข้าราชการ ผู้ประกอบการ และภาคประชาชน พบว่า อยู่ที่ระดับ 52 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงการสำรวจเมื่อเดือนมิถุนายน 2560 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 53 คะแนน โดยประเมินจาก 4 หมวด ได้แก่ หมวดปัญหาความรุนแรง และหมวดการปราบปรามไม่ดีขึ้น ส่วนหมวดการป้องกัน และการสร้างจิตสำนึก ดีขึ้นเล็กน้อย

    ทั้งนี้จากการสอบถามผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจกับภาครัฐ จะต้องจ่ายเงินพิเศษ หรือเงินใต้โต๊ะ เพื่อให้ได้สัญญาหรือไม่นั้น ส่วนใหญ่ 54% ไม่ต้องจ่าย ส่วนอีก 24% ยังต้องจ่ายเงินใต้โต๊ะ ซึ่งจ่ายเฉลี่ยที่ร้อยละ 5-15 ของเม็ดเงินโครงการ โดยหากประเมินวงเงินคอร์รัปชั่นจากงบประมาณรายจ่าย ค่าครุภัณฑ์ ที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งงบลงทุนวิสาหกิจ จากเงินงบประมาณปี 2561 ที่ 2.9 ล้านล้านบาท จะเกิดเป็นมูลค่าวงเงินคอร์รัปชั่นประมาณ 100,0000-200,000 ล้านบาท ที่หายไปจากระบบ และกระทบต่อจีดีพีให้ลดลง 0.41 - 1.23%

    นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า แม้คะแนนดัชนีคอร์รัปชั่นภาพรวมจะลดลง แต่ยังถือว่าเกิน 50 คะแนน สะท้อนว่าสถานการณ์พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น แต่หากดู 3 ปีย้อนหลังตั้งแต่ปี 2558 มีคะแนนถึง 56 ถือว่าสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทยเริ่มอยู่ในขาลง

    “ถือเป็นสัญญาณคอร์รัปชั่นที่แย่ลง หากนับจากช่วงเดือนมิถุนายน 2558 ที่รัฐบาลเริ่มทำงาน รวมไปถึงดัชนีปัญหาและความรุนแรงของคอร์รัปชันก็แย่ลงด้วย โดยในเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ 42 เทียบกับช่วงก่อนมิถุนายน 2560 อยู่ที่ 44 ซึ่งสาเหตุมาจากรัฐบาลกำลังเข้าสู่ช่วงการประมูลจัดซื้อจัดจ้าง จึงเห็นสัญญาณของการคอร์รัปชั่นเริ่มกลับมา”

    ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งเข้ามาแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง โดยเฉพาะปีนี้จะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมากอาจจะเกิดช่องทางให้เกิดการคอร์รัปชั่นได้ และขณะนี้ดัชนีการสร้างจริยธรรมสูงถึง 62 คะแนน ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากการสำรวจเมื่อมิถุนายน 2560 ที่ 60 คะแนน ถือว่าภาคสังคม ภาคเอกชน และประชาชน ไม่ยอมรับการคอร์รัปชั่น และพร้อมที่จะช่วยกันป้องกันปัญหา

    ส่วนกรณีประเด็นเรื่องนาฬิกาหรู ที่สังคมให้ความสนใจ จะส่งผลต่อการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันหรือไม่นั้นนายธนวรรธน์ กล่าวว่า ผลการสำรวจไม่ได้เจาะจงประเด็นนี้ และผลโพลล์ไม่ได้ชี้เรื่องนี้ออกมา แต่เมื่อมีประเด็นต่างๆ ประชาชนสามารถสัมผัสได้และมีมุมมองสะท้อนออกมาได้ ซึ่งสิ่งสำคัญขึ้นอยู่กับว่า รัฐบาลมีความจริงจังกับการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันเพียงใด

    ส่วนจะส่งให้การประเมินดัชนีสถานการ์คอร์รัปชั่นไทยในรอบหน้าแย่ลงหรือไม่นั้น นายธนวรรธน์ มองว่า ขึ้นอยู่กับความจริงจังของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา เพราะหลังจากนี้จะเข้าสู่ช่วงการประมูลโครงการของรัฐบาลมากขึ้น ทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยงต่อการคอร์รัปชั่นเพิ่มมากขึ้น

    ทั้งนี้ ดัชนีวัดภาพลักษณ์คอร์รัปชันปี 2559 จัดโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ หรือTransparency International อันดับของไทยหล่นจากอันดับ 76 มาอยู่ในอันดับ 101 จาก 168 ประเทศ ซึ่งคะแนนโดยรวม ไทยลดลงจาก 38 เหลือ 35 จากคะแนนเต็ม 100
    oz15tz117lTKZDBs0Y4t-o.gif
     
  16. Surawong

    Surawong อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    22 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,544
    ของจริงมีไหมครับท่านนายพล ของจริงแบบเห็น ๆ จับติดคุกได้ เหมือนจับนักการเมืองติดคุกนั่นแหละ โพลแบบนี้เห็นมีมาตั้งแต่สมัยนักการเมืองครองอำนาจแล้ว ทำขึ้นมาก็เหมือนประจานสมาชิกหอการค้าเอง แถมนายฝรั่งยังเอาไปเป็นสถิติคอรัปชั่นอีก แต่ไม่มีหลักฐานอะไรว่ามีการจ่ายจริงหรือเปล่า ขนาดมีคนพูด คนร้องทุกข์ว่าต้องจ่ายใต้โต๊ะ พอเขาจะดำเนินการให้จริง ๆ ก็บอกว่าไม่กล้า กลัวทำมาหากินไม่ได้ แบบนี้เอามาแฉ มันทำอะไรไม่ได้หรอก
     
  17. Anduril

    Anduril อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    4 Jun 2015
    คะแนนถูกใจ:
    5,268
    อ่านแล้วเหมือนว่า เป็นความรู้สึก เป็นการคาดการณ์นะ ว่า รัฐฯกำลังมีโครงการใหญ่ๆเพิ่มขึ้นมากมายในปีนี้ ทำให้คิดว่า จะมีการทุจริต ใช้เงินใต้โต๊ะมากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ถือว่าว่าดัชนีตัวหนึ่งที่รัฐฯต้องมอง เพื่อเป็นแรงกระตุ้นว่า ยังต้องทำงานต่อไปให้ดีขึ้น
    แต่เห็นข่าวล่าสุดว่า ไทยติดอันดับประเทศที่มีความสุขที่สุดอันดับ 1 อีกครั้งเป็นปีที่ 4 จากการจัดอันดับของต่างประเทศ
    ซึ่งเมื่อมาเทียบกับดัชนีความโปร่งใสแล้ว ผมก็สงสัยนะ ว่าทั้ง2ตัวนี้จะวิเคราะห์อย่างไรดี
    ไทยมีการคอร์รัปชั่นรุนแรงขึ้นทุกปี แต่มีความสุขที่สุดในโลก หรือประเทศเราชอบการคอร์รัปชั่นหรืออย่างไรครับ ? :p
     
  18. Surawong

    Surawong อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    22 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,544
    ที่คุณ Anduril พูดนั้น ถูกต้องแล้วครับ เพราะหอการค้าเขาก็สำรวจมาทุกปีตั้งแต่สมัยนักการเมืองครองอำนาจแล้ว แต่ ยุคนักการเมืองครองอำนาจมันก็ได้แค่ผลสำรวจ ไม่มีผลดำเนินการจากรัฐบาล ซึ่งผมมองว่ายุคนั้นมันมีเหตุที่ไม่มีผลดำเนินการหลายประการคือ รัฐบาลรู้เห็นเป็นใจให้พวกของตนทำแบบนั้น หรือรัฐบาลทำอะไรไม่ได้เพราะเวลาจะทำจริง ๆ ก็ขอข้อมูลอะไรไม่ได้ ไม่ได้รับความร่วมมือโดยอ้างว่า เดี๋ยวจะทำมาหากินต่อไปไม่ได้ ผลสำรวจมันก็เลยกลายเป็นสถิติให้ นายฝรั่ง เอาไปละเลงเล่น จัดอันดับคอรัปชั่นให้ประเทศไทยแบบไม่ต้องลงทุนอะไรเลย

    ยุค คสช เข้ามา เขาเริ่มปราบตั้งแต่แรก ทำให้สถิติคอรัปชั่นต่างจากสมัยนักการเมืองครองอำนาจมาก ที่หอการค้าสำรวจนี้ เขาเปรียบเทียบเฉพาะยุคของ คสช ว่า ตอนนี้มันเริ่มเพิ่มอีกแล้วนะ เขาไม่ได้เปรียบเทียบกับยุคนักการเมืองครองอำนาจ เพราะถ้าเปรียบเทียบกับยุคนั้นยังไงมันก็กินขาด เจตนาของเขาก็เหมือนที่คุณ Anduril ว่านั่นแหละ คือเขาห่วงโครงการใหญ่ ๆ ที่กำลังจะดำเนินการ เลยทำให้พวกสื่อมาตรฐานต่ำนำไปวิพากษ์วิจารณ์กันสนุกปากว่าการปราบคอรัปชั่นล้มเหลว เพื่อช่วยสนับสนุนนักการเมืองและพวก นายสั่งมา ให้ตีรวนรัฐบาล คสช ให้จัดการเลือกตั้งโดยเร็ว เพราะคุณแค่ปราบคอรัปชั่นยังทำไม่ได้เลย พวกนักเลือกตั้งมันก็เล่นกันดื้อ ๆ ด้าน ๆ อย่างนี้แหละ อาจเป็นเพราะมองประเทศว่าเป็น สมบัติผลัดกันชมริึเปล่าไม่รู้ ท่านนายพลรู้ไหมครับ
     
    Anduril likes this.
  19. Anduril

    Anduril อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    4 Jun 2015
    คะแนนถูกใจ:
    5,268
    ตอนนี้ทั้งสื่อฯ นักการเมือง ก็คงพยายามหาข่าวด้านลบมาดิสเครดิตรัฐบาลต่อไปนั่นแหล่ะครับ
    หลังจาก หมอธี พลาดคุยกันเองและถูกอัดเสียงว่า วิจารณ์นาฬิการองประวิตร จนถูกนำไปขยายออกสื่อ แต่เสียดายดันจุดประเด็นไม่ติด หักมุมจบไปเสียก่อน สื่อฯก็ยังเอาประเด็นรถตำรวจถอยชนกระถางบัวหน้าทำเนียบแตกว่า เป็นลางร้ายรัฐบาลเอาไปเล่นกันต่อไปทุกช่องทุกสื่อสิ่งพิมพ์ได้อีก มีคนมักบอกกันว่า คนไทยยังชอบงมงายกับความเชื่อที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ ก็คงต้องบอกว่า ก็ดูจากสื่อสารมวลชนไทยก็ได้ ว่ายังชอบนำเสนอข่าวแบบนี้อยู่เลย
     
  20. โยธกา

    โยธกา อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    20 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    3,727
    ผมว่า คสช ก็น่าด่า
    เรียกเข้ารายงานตัวแล้วปล่อย
    ดำเนินคดีก็หนีได้ง่ายๆ
    ชุมนุมก็แค่จับปรับ
    ทำไม่สุดซักด้าน
    ควายมันตั้งหลักได้ก็โต้กลับเอา
    ยังไม่มีปัญญาจัดการอีก
    นี่ดีว่าไอ้เหลิมดันโผล่มาโหยหาอำนาจ
    บางคนเลยได้สติว่าปล่อยให้เลือกตั้งก็ต้องได้ไอ้พวกเฮียนี่กลับมาเป็นใหญ่อีก
    4 ปีที่ผ่านมาน่าจะศูนย์เปล่า
    ขอร้อง คสช ละครับ
    ก่อนเลือกตั้งช่วยจับเฮียพวกนี้ไปยิงทิ้งให้หมดได้มั๊ย
     
  21. นายพลตัดแปะ

    นายพลตัดแปะ อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    18 Jul 2015
    คะแนนถูกใจ:
    81
    TtcEh1mSAEX2.jpg
     
  22. HiddenMan

    HiddenMan อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    11,779
  23. ปู่ยง

    ปู่ยง อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,820
    Anduril likes this.
  24. Anduril

    Anduril อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    4 Jun 2015
    คะแนนถูกใจ:
    5,268
    จริงๆแล้วผมมองว่า จนถึงวันนี้สิ่งที่คสช.เข้ามาทำลงไปและมีโครงการที่เตรียมทำต่อไปนั้น ไม่เสียของหรอกครับ เพราะแก้ไขสิ่งที่เป็นปัญหาไปเยอะมาก และยังวางรากฐานต่อไปอีกด้วย เพียงแต่มันอาจไม่ได้ดั่งใจเราว่า อยากให้อะไรที่เป็นปัญหาได้รับการแก้ไขให้หมด ซึ่งไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกเท่าไหร่
    จะทำแบบ จีน ที่ใช้ความเด็ดขาดแก้ไขปัญหาก็ไม่ได้ เพราะประเทศเราไม่ได้เข้มแข็งแบบเขา ที่พื้นฐานเป็นสังคมนิยม มีคณะกรรมการคอมฯควบคุมทุกอย่าง โดยเฉพาะในเรื่องของสื่อฯ ทำให้ไม่มีข่าวบิดเบือน ปั่นป่วนให้ปชช.เข้าใจผิด ไม่มีที่ยืนให้กลุ่มร่าน เอนจีโอ มาคอยประท้วงปั่นป่วนประเทศ เลยทำให้ประเทศเดินหน้าในทิศทางเดียวกันไปได้
    เราก็เลยเป็นเรา อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ต่อไป
     
  25. นายพลตัดแปะ

    นายพลตัดแปะ อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    18 Jul 2015
    คะแนนถูกใจ:
    81
    Y9o6Fns4?format=jpg&name=600x314.jpg
    ท่านว.ชี้รัฐประหารไม่ทำประเทศก้าวหน้า คาใจชนชั้นกลางกทม.อยู่ตรงข้ามประชาธิปไตย
    วันที่ 11 มีนาคม 2561 - 17:40 น.
    1120000-696x392.jpg
    เมื่อวันที่ 11 มี.ค. เวลาประมาณ 09.30 น. ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ มูลนิธิ 14 ตุลา มีการจัดงานเนื่องในวาระครอบรอบ 45 ปี 14 ตุลา โดยมีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว รวมถึงการปฐกถาธรรม โดย พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ‘ท่าน ว.วชิรเมธี’

    พระมหาวุฒิชัยกล่าวว่า หัวข้อที่รับนิมนต์ในครั้งนี้ คือ “14 ตุลา ธรรมาธิปไตย” ซึ่งเมื่อผู้คนเข้าใจธรรมาธิปไตย ก็จะกลับมาเข้าประชาธิปไตย เพราะเมื่อกล่าวโดยสารสำคัญแล้ว เนื้อหาสาระคือเรื่องเดียวกัน ในสังคมไทยนั้น ยังมีความเข้าใจเรื่องธรรมาธิปไตยที่ไม่ถูกต้อง ไม่ตรงกับความหมายที่จริงแท้และบริบทที่ถูกนำมาใช้ กล่าวคือ มีการหยิบยืมมาใช้แต่ไม่เข้าใจ คำว่า “ธรรมาธิปไตย” มาจากคำว่า ‘ธรรมะ’ สนธิ กับคำว่า “อธิปไตย” ทั้ง 2 คำเป็นภาษาบาลี

    “ธรรมาธิปไตย คือ การตัดสินใจที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชนและ ไม่ผิดทำนองคลองธรรม ยึดโยงกับประชาชน ไม่ละเมิดต่อธรรม นี่เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจร่วมกัน ไม่เช่นนั้นจะเกิดการตำหนิว่าระบบนั้นก็ไม่ดี ระบบนี้ก็ไม่ดี ธรรมาธิปไตยจึงดี ไปๆ มาๆ เอาธรรมาธิปไตยไปทะเลาะกับประชาธิปไตยก็มี หลายเวทีอาตมาเคยเห็น เคยได้ยินได้ฟัง จริงๆธรรมาธิปไตย เป็นเนื้อเป็นตัวของประชาธิปไตย เป็นสิ่งที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน ไม่ควรเอาไปทะเลาะกัน ประชาธิปไตยถ้าไม่มีระบบการตัดสินใจที่เป็นธรรม จะกลายเป็นผลประโยชน์ล้วนๆ ธรรมาธิปไตยคือสิ่งที่จะทำให้การบริหารประเทศในระบอบประชาธิปไตยเกิดประโยชน์สูงสุด”

    พระมหาวุฒิชัยกล่าวอีกว่า กว่าที่จะมาถึงวันนี้ คนรุ่น 14 ตุลาได้เอาชีวิตเป็นเดิมพัน มีกี่คนต้องบาดเจ็บล้มตาย พลัดพรากจากพ่อแม่ ต้องเข้าไปใช้ชีวิตในป่า สิ่งเหล่านี้หายไปจากระบบการศึกษาของประเทศชาติบ้านเมือง หายไปจากสื่อสารมวลชน จะทำอย่างไรให้เยาวชนคนรุ่นใหม่เห็นคุณค่าของประชาธิปไตย รักประชาธิปไตย ประชาธิปไตยสำคัญต่อคนทุกคน เป็นดั่งลมหายใจของเรา แต่กลับไม่เห็นคุณค่า ถ้าคนไม่เห็นคุณค่าของประชาธิปไตย จะเรียกหาแต่ปฏิวัติรัฐประหารอยู่ร่ำไป ซึ่งแต่ละครั้ง คงเห็นแล้วว่าไม่ได้ทำประเทศก้าวไปข้างหน้าอย่างที่ควรจะเป็น

    “อาตมาเกิดในพุทธศักราช 2516 ไม่ได้ใหม่เกินไปจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร และไม่ได้เก่าจนถึงขั้นไม่เห็นค่าของประชาธิปไตย อาตมาภาพเกิดในช่วงที่ประชาธิปไตยกำลังเบ่งบาน เพราะฉะนั้นจึงกล่าวได้ว่า ประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่มีคุณค่าเหลือเกิน นี่คือระบบการปกครองที่เคารพมนุษย์มากที่สุด เป็นระบบการเมืองการปกครองที่มนุษย์มีศักดิ์ศรีมากที่สุด เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด ระบบเช่นนี้มิใช่หรือที่มนุษย์เรียกร้องต้องการมากที่สุด”

    [​IMG]

    ท่าน ว.วชิรเมธี ยังระบุว่า น่าตั้งคำถามว่าชนชั้นกลางใน กทม.เหตุใดจึงอยู่ตรงข้ามกับประชาธิปไตย

    “ชนชั้นกลางในเมืองอย่างกรุงเทพมหานครอยู่ตรงข้ามกับประชาธิปไตยได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ถือว่าเป็นผู้ที่มีการศึกษาที่สุดในประเทศ แต่แล้วทำไมกลุ่มคนที่ถือว่ามีการศึกษาที่ดีที่สุดในประเทศไทยถึงอยู่ตรงกันข้ามกับประชาธิปไตย นี่คือหัวข้อวิจัยที่น่าสนใจมากๆ ที่อยากฝากให้พวกเราทุกคนไปร่วมกันคิด ร่วมกันแสวงหาคำตอบ ถ้าเราหวังว่าอยากจะให้ประชิปไตยในบ้านเมืองของเรามีความเจริญรุ่งเรืองยั่งยืนจริงๆ”



    ที่มา มติชนออนไลน์
     
  26. HiddenMan

    HiddenMan อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    11,779
    :giggle: ทีแบบนี้มาโหน...
     
  27. ่johnyoter

    ่johnyoter สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    12 Mar 2015
    คะแนนถูกใจ:
    246
    เสียของ - ไม่ได้ปฏิรูปอะไรเลย ไม่แก้ปัญหา
    สืบทอดอำนาจ - ไม่มีผลงาน ไม่ได้ปฏิรูปแล้วยังจะสืยทอดอำนาตต่ออีก

    การเมืองแบบเก่าก็จะเป็นแบบข้างบน รัฐรวมอำนาจ มันก็จะต้องหาวิธีเอาชนะฝ่ายตรงข้าม ด่ากันไปมาตีกันในเข่ง รัฐกระจายอำนาจก็ต่างคนต่างอยู่ทำมาหากิน
     
  28. AlbertEinsteins

    AlbertEinsteins อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    13 Dec 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,479

Share This Page