คนละเรื่องเลยครับ เพราะจะส่งกลับต้องพิสูจน์สัญญาติก่อนไม่ใช่เพื่อเอาใจใคร คำว่ามีข่าวว่ายืนยันไม่ได้หรอกครับว่าสังหารกี่คน แต่ถ้าเขาอยากไปตุรกีทำไมมุ่งหน้ามาไทย จะมโนอะไรช่วยมโนให้ใกล้ความจริงหน่อย
พวกที่โดนส่งกลับจีนคือพวกที่จีนมีหลักฐานว่ามีการทำผิดกฏหมายที่จีน แล้วทางการไทยตรวจสอบแล้วว่าข้อมูลที่จีนส่งมาให้เป็นข้อมูลที่ถูกต้องจริงๆถึงจะส่งกลับ ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะเป็นเรื่องผิดอะไรถ้าไม่ได้แกล้งโง่เพื่อจะหาเรื่องด่ากัน แต่ถ้าจะด่ากันเพราะกลัวส่งไปจีนแล้วคนเหล่านั้นจะไปโดนอะไรก็ตาม(โดยไม่คำนึงว่าคนพวกนี้เคยทำผิดกฏหมายมาก่อน) ทางอเมริกาก็ไม่ควรจะโวยวายที่รัสเซียไม่ส่งตัว เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน กลับไปให้ เพราะถ้าส่งกลับไปอเมริกา สโนว์เดนเองก็คงโดนจัดหนักเหมือนกัน
สรุปว่า การประท้วงด้วยความรุนแรงเป็นผลสำเร็จ ทำให้ทั่วโลกหันมาด่าไทยได้ ทั้งๆที่สถานฑูตไทยโดนทุบถึงขนาดนั้น ถึงไม่มีคนตายก็เถอะ หรือต้องรอให้มีคนตายก่อน ขอให้อเมริกาจำไว้ด้วยนะครับ ว่าหากมีมุสลิมไม่พอใจอเมริกาจะใช้วิธีนี้กับอเมริกา คงจะคิดเช่นเดียวกัน (หรือเคยโดนไปแล้วหว่า RPG ยิงเข้าสถานฑูตเลย)
สงสัยเพิ่มเติม ทำไมไทยรับขี้ไว้เอง ในเมื่อตุรกีรับแล้ว ก็ส่งให้ตุรกีทั้งหมด แล้วให้จีนไปเคลียร์กับตุรกีเองสิ หรือผมคิดง่ายไป
มันมีคนที่ทำผิดกฏหมายที่จีนแล้วถือโอกาสหนีมารวมอยู่ด้วยไงครับ ถ้าส่งให้ตูรกีเลยทางการจีนก็คงไม่มีทางได้ตัวคนพวกนั้นแล้ว ต่อไปก็สนุกสนานล่ะครับ พวกนี้ก็ไล่ฆ่าคน วางระเบิดเล่นที่ซินเจียงแล้วหนีมาไทยเลย แสนสบาย ยังไงก็ไม่โดนส่งกลับอยู่แล้ว
แค่สงสัยว่า 1 ปีที่ผ่านมาก่อนจะส่งตัวไปที่จีน... UNHCR องค์สิทธิฯต่างๆ อเมริกา ตุรกี เอง... เคยมาช่วยอะไรบ้างหรือเปล่าครับ หรือ ขอรับตัวกลับประเทศตัวเองอะไรแบบนั้น
ถ้าตุรกีรับและอยากปกป้อง ให้จีนไปไล่บี้ เอากับตุรกีดีกว่า ไทยไม่เล่นด้วย ไม่ได้ผลประโยชน์จากจีน แต่ก็ไม่เสียประโยชน์ในเวทีโลก แบบลอยตัว
เพิ่มเติม ตุรกีเคยขอตัวกลับครับ จีน-ตุรกี เปิดศึก! แย่งชาวอุยกูร์ที่ถูกจับในไทย อ้างสิทธิเป็นพลเมืองของตัวเอง http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1427279486
การปล่อยให้อาชญากรของประเทศใดก็ตามหนีมาประเทศเราแล้วส่งต่อไปประเทศปลายทางที่คนพวกนี้ต้องการได้ง่ายๆคงทำให้เราอยู่แบบลอยตัวไม่ได้หรอกครับ มันไม่ได้หมายความถึงชาวอุยกูร์อย่างเดียวแต่มันจะทำให้มีกรณีแบบเดียวกันจากประเทศอื่นมาอีก แล้วถ้าพูดถึงผลประโยชน์ต่างๆแล้ว จีนนี่เป็นคู่ค้าสำคัญของไทยนะ ทั้งทางด้านการส่งออกและการท่องเที่ยว จีนก็มาเป็นอันดับหนึ่งครับ จะทำอะไรก็ต้องคิดให้ดีๆหน่อยล่ะ ส่วนเรื่องเวทีโลกผมว่าไทยทำอะไรก็โดนด่าอยู่แล้วครับ แต่พวกเขาก็กดดันไทยได้แค่ที่ทำอยู่ทุกวันนี้นั่นแหละ ใส่ใจไปก็เท่านั้น
ใช่ว่าจะต้องถูกส่งกลับจีนทั้งหมด... ที่ผ่านมาเขาก็ทำการพิสูจน์สัญชาติแล้ว โดยเมื่อเดือนมีนาคม 2557 ทางการไทยเคยจับกุมผู้อพยพชาวอุยกูร์ ได้ที่บริเวณเทือกเขาแก้ว อ.สะเดา จ.สงขลา จำนวน 280 คน ซึ่งต่อมามีการพิสูจน์สัญชาติจนมีการส่งตัวไปยังตุรกีแล้ว 171 คน ส่วนอีก 109 คน ถูกส่งกลับไปยังประเทศจีน เพราะพิสูจน์สัญชาติแล้วพบว่าเป็นชาวจีน ในจำนวนนี้บางรายมีหมายจับของทางการจีนในข้อหาเกี่ยวข้องกับการใช้ความรุนแรงในเหตุการณ์ประท้วงในจีนก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีชาวอุยกูร์เพียงไม่กี่คนที่อยู่ระหว่างการกักตัวของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไทย เพื่อรอกระบวนการพิสูจน์สัญชาติ หลังจากนั้นจะถูกผลักดันออกนอกประเทศ http://www.komchadluek.net/detail/20150709/209471.html
เวลาเสพข่าวงับแต่ขี้อย่างเดียวน๊ะเอ็ง ไอ้สี่ขา ....เนื้อหาไม่ต้องสนใจกันแระ..ขอให้ได้ด่าก็พอ http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=763176 นายเสข กล่าวยืนยันว่า รัฐบาลไทยได้ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงหลักมนุษยธรรมควบคู่กับหลักสิทธิมนษุยชนและพันธกรณีระหว่างประเทศของไทย อีกทั้งรัฐบาลไทยได้พิจารณาอย่างรอบคอบจากหลักฐานของทุกฝ่ายสรุปว่า สามารถแยกชาวอุยกูร์ดังกล่าว ได้เป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกจำนวน 172 คน ซึ่งกลุ่มนี้ ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับการกระทำผิดกฎหมาย และบุคคลดังกล่าวได้แสดงความประสงค์ที่จะเดินทางไปตุรกีและรัฐบาลตุรกีพร้อมที่จะรับ ขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยได้รับหลักฐานการกระทำผิดและการพิสูจน์สัญชาติชาวอุยกูร์จำนวน 109 คนจากรัฐบาลจีน และยังมีอีกประมาณ 60 คนที่ยังอยู่ในความดูแลของไทย นายเสข กล่าวอีกว่า จากข้อเท็จจริงข้างต้น รัฐบาลไทยจึงได้ดำเนินการต่อเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2558 และตัดสินใจส่งชาวอุยกูร์ จำนวน 172 คน ให้กับรัฐบาลตุรกี ซึ่งได้รับบุคคลเหล่านี้ไปตั้งถิ่นฐานในตุรกีเรียบร้อยแล้ว และในวันที่ 9 กรกฎาคม 2558 รัฐบาลไทยได้ตัดสินใจส่งชาวอูยกูร์จำนวน 109 คน ตามที่รัฐบาลจีนได้ส่งหลักฐานการกระทำผิดและการพิสูจน์สัญชาติให้กับฝ่ายไทยแล้ว นายเสข กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังมีชาวอูยกูร์ ประมาณ 60 คน อยู่ในความดูแลของรัฐบาลไทยซึ่งยังไม่มีหลักฐานเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายรัฐบาลไทย โดยจะพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป
กรณีนี้ต่างกันตรง ตุรกีเป็นคนเสนออ้าแขนรับทั้งหมดเอง ไม่ใช่ว่าเป็นความปรารถนาของอาชญากรฝ่ายเดียว ดังนั้นคนรับผิดชอบสามารถชี้ไปที่ตุรกีได้เต็มๆ หากหนึ่งในนั้นเป็นอาชญากรและตุรกีก็รู้อยุ่เต็มอก แต่ก็ยังเสนอรับทั้งหมด
ตอนนี้ชาวอุยกูร์ที่เหลืออยู่ UN จะเอาไง บอกมาเลยดีกว่า ถ้าจะให้ไปตุรกีทั้งหมดก็ไปคุยกับจีนเองให้จีนยอมรับ แล้วมาแจ้งไทย เราเองก็ไม่อยากรับภาระตรงนี้ คำชมก็ไม่มี รบ.สวนตุรกีต้องขอบคุณด้วยซ้ำ ย้อนแบกภาระอุยกูร์ไร้คำชม เชื่อชาติอื่นก็ทำแบบไทย “วีรชน” เผยสถานการณ์ล่าสุดตุรกีไม่บานปลาย คุมได้ ไม่ต้องอพยพคนไทย ทางการจัดกำลังดูแลสถานกงสุล-ทูต แต่สั่งปิดก่อน 1 วัน เพื่อประเมิน ยังไม่โต้แถลงการณ์ตุรกี เข้าใจรัฐบาลเจอกดดัน ย้อนคิดให้รอบคอบไทยช่วยอุยกูร์อย่างไร อย่านำการเมืองปนความสัมพันธ์ชาติ ชี้ต้องขอบคุณด้วยซ้ำ พร้อมแจงต่างประเทศ-UN บ่นไทยแบกภาระดูแลไม่มีคำชม เชื่อชาติอื่นก็ทำแบบเดียวกัน รับเข้มจุดผ่านแดนขึ้น แต่ยังมีช่องโหว่ http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000078023 ......................................................................................................
ประเทศไทยมีทั้งความสัมพันธ์กับจีนและตูรกี เพราะฉะนั้นก่อนจะมองว่าตูรกีเป็นคนเสนอจะรับคนพวกนี้ถ้ารับไปแล้วมีปัญหาก็เป็นเรื่องของเขาเพราะเขายอมรับเองนั้นหมายถึงเรามองข้ามความสัมพันธ์ ไทย - จีน ไปเลยครับ อย่าลืมว่าคนพวกนี้ทำผิดกฏหมายที่จีนนะครับ จีนก็มีสิทธิที่จะขอตัวคนเหล่านี้ไปดำเนินดคีเหมือนกัน ถ้าเราส่งตัวให้ตูรกีเลยเรื่องมันไม่ได้จบแค่นั้นแล้วทางจีนไปมีปัญหากับตูรกีโดยที่ไม่นึกถึงว่าไทยทำอะไรลงไปนะครับ มันจะต้องมีปัญหาตามมาอีกยาวไม่แตกต่างจากที่เรามีปัญหากับตูรกีตอนนี้หรอก(หรืออาจจะเบากว่าเพราะคนเขาคงไม่คลั่งแบบนี้) เพราะฉะนั้นการตัดสินใจเรื่องพวกนี้ยังไงก็ต้องใช้ทั้งกฏหมาย ข้อตกลงระหว่างประเทศต่างๆและการรักษาความสมดุลของความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝั่งด้วย
สงสัยลุงตู่จะเริ่มรำคาญแล้ว ทำเนียบรัฐบาล 10 ก.ค. – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันการส่งชาวอุยกูร์กลับไปยังจีน ปฏิบัติตามหลักสากล เป็นไปตามพันธสัญญา และทำตามระเบียบกฎหมายทุกอย่าง ทั้งยังเห็นว่า จากนี้เป็นต้นไป จีนควรจะหารือตุรกีเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไทยไม่ใช่ประเทศต้นตอของปัญหา และที่ผ่านมาไทยเองก็แบกรับผู้อพยพมานาน. – สำนักข่าวไทย http://www.tnamcot.com/content/229912
วันศุกร์ ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2558, 16.57 น. tags : บิ๊กตู่, รัฐบาล, มุสลิม, จดหมาย, เขียน, ชนินทร์ 10 ก.ค. 58 นายชนินทร์ คล้ายคลึง อดีตทหาร ที่ถูกให้ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำความผิดวินัยทหาร ฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง โดยฝ่าฝืนข้อห้าม และมีพฤติกรรมหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ หรือสถาบันพระมหากษัตริย์ โพสต์ข้อความลงยังเฟซบุ๊ค "Chanin Klayklung" แสดงความคิดเห็นกรณีที่ กลุ่มผู้ประท้วงชาวตุรกีก่อเหตุโจมตีสถานกงสุลไทยในนครอิสตันบูล เมื่อคืนวันพุธ(ตามเวลาท้องถิ่น) ก่อนทุบกระจก หยิบฉวยและรื้อค้นข้าวของภายในตัวอาคาร เพื่อประท้วงต่อกรณีที่ไทยส่งชาวมุสลิมอุยกูร์เกือบ 100 คนกลับไปจีน โดย นายชนินทร์ ได้ระบุข้อความว่า "เรียนพี่น้องชาวมุสลิมที่รัก เนื่องด้วยกรณีที่รัฐบาลไทย ได้จับผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ ส่งให้กับทางการจีนนั้น ประชาชนชาวไทย ไม่มีส่วนรู้เห็นด้วยเลย. สืบเนื่องจากรัฐบาลนี้ มิได้มาจากการเลือกตั้ง เพราะได้ทำการรัฐประหารยึดอำนาจ รัฐบาลจากประชาชน ตั้งแต่ 22. พ.ค. 57 ซึ่งในขณะนี้ รัฐบาลเผด็จการทหารได้ทำการร่วมมือทางการค้าหลายอย่างกับรัฐบาลจีน. เช่นการค้าอาวุธ โดยประชาชนไม่ยินยอมและกำลังต่อต้านอย่างหนัก และในขณะส่งตัว พี่น้องชาวมุสลิมอุยกูร์ไปให้ทางการจีนนั้นเป็นไปในทางลับ ประชาชนไทยมิได้มีโอกาสรับรู้เลย จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์. บุกสถานกงสุลไทยที่ตุรกี เมื่อชาวไทยได้รับรู้ความจริงรู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมาก ที่รัฐบาลนี้ ได้กระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชน และทำผิดต่อกฎหมายสากล ขอพี่น้องชาวมุสลิมทั่วโลกได้โปรดอย่าโกรธเคืองชาวไทยที่บริสุทธิ์ ด้วยเลย ซึ่งเราจะร่วมกันประณามรัฐบาลเผด็จการทหารร่วมกับพวกท่าน และพวกเราจะขอสวดวิงวอนต่อ องค์อัลเลาะห์(ซ.บ.) ได้โปรดคุ้มครองพี่น้องมุสลิมอุยกูร์ ทั้ง107 คน ให้ได้รับความปลอดภัย อัสลามมุอะลัยกุม ขอสันติสุขจงมีแด่ท่าน."
พอถึงจุดนี้ ก็คงจะมีวาทกรรมว่า ไทยเป็นสวรรค์ของโจร เป็นที่พักพิงหรือกบดานของอาชญากร เหมือนหลายเคสที่ผ่านมา
ชาติไม่เกี่ยวครับ อย่าตุ๊ด เอามาบังหน้า นายชนินทร์ ได้ระบุข้อความว่า "เรียนพี่น้องชาวมุสลิมที่รัก เนื่องด้วยกรณีที่รัฐบาลไทย ได้จับผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ ส่งให้กับทางการจีนนั้น ประชาชนชาวไทย ไม่มีส่วนรู้เห็นด้วยเลย.
หัวกระทู้บอกเรื่องระหว่างประเทศ... แล้วจะไม่เกี่ยวยังไง แล้วไอ้ที่โพส fb นี่โพสแทนประชาชนหรือไง ถึงอ้างได้
แปะไว้อ้างอิงนะครับ จากกระทรวงการต่างประเทศ http://www.mfa.go.th/main/th/media-center/14/58151-กรณีการส่งกลับผู้ลักลอบเข้าเมืองชาวมุสลิมที่อ้างว่.html ข่าวสารนิเทศ : กรณีการส่งกลับผู้ลักลอบเข้าเมืองชาวมุสลิมที่อ้างว่าเป็นชาวตุรกี (ชาวอุยกูร์) ตามที่ได้มีการส่งชาวอุยกูร์ไปประเทศจีนเมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๕๘ นั้น กระทรวงการต่างประเทศขอแจ้งข้อมูลดังต่อไปนี้ ๑. ตั้งแต่เดือนมีนาคม ๒๕๕๗ ชาวอุยกูร์ประมาณ ๓๐๐ กว่าคน ได้หลบหนีเข้าประเทศไทย และรัฐบาลจีนได้เรียกร้องให้รัฐบาลไทยส่งบุคคลเหล่านี้กลับไปยังประเทศจีน เนื่องจากบุคคลเหล่านี้อาจมีความเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายในประเทศจีน รัฐบาลไทยได้ขอให้ฝ่ายจีนดำเนินการส่งหลักฐานการกระทำผิดและการพิสูจน์สัญชาติให้แก่ฝ่ายไทยพิจารณา ก่อนที่จะดำเนินการส่งตัวให้ฝ่ายจีนต่อไป ๒. รัฐบาลไทยได้ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างรอบคอบโดยคำนึงถึงหลักมนุษยธรรมควบคู่ไปกับหลักสิทธิมนุษยชนและพันธกรณีระหว่างประเทศของไทย ๓. รัฐบาลไทยได้พิจารณาอย่างรอบคอบจากหลักฐานของทุกฝ่าย สรุปว่าสามารถแยกชาวอุยกูร์ ดังกล่าวได้เป็น ๓ กลุ่ม กลุ่มแรกจำนวน ๑๗๒ คน ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับการกระทำผิดกฎหมาย และบุคคลดังกล่าวได้แสดงความประสงค์ที่จะเดินทางไปตุรกีและรัฐบาลตุรกีพร้อมที่จะรับ ในขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยได้รับหลักฐานการกระทำผิดและการพิสูจน์สัญชาติจากรัฐบาลจีนสำหรับชาวอุยกูร์ จำนวน ๑๐๙ คน และยังมีอีกประมาณ ๖๐ คนที่ยังอยู่ในความดูแลของไทย ๔. จากข้อเท็จจริงข้างต้น รัฐบาลไทยจึงได้ดำเนินการดังนี้ ๔.๑ เมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๘ รัฐบาลไทยได้ตัดสินใจส่งชาวอุยกูร์จำนวน ๑๗๒ คน ให้กับรัฐบาลตุรกี ซึ่งได้รับบุคคลเหล่านี้ไปตั้งถิ่นฐานในตุรกีเรียบร้อยแล้ว ๔.๒ เมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๕๘ รัฐบาลไทยได้ตัดสินใจส่งชาวอุยกูร์ จำนวน ๑๐๙ คน ซึ่งรัฐบาลจีนได้ส่งหลักฐานการกระทำผิดและการพิสูจน์สัญชาติให้กับฝ่ายไทยแล้ว ๔.๓ ขณะนี้ยังมีชาวอุยกูร์ประมาณ ๖๐ คน อยู่ในความดูแลของรัฐบาลไทยซึ่งยังไม่มีหลักฐานเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย รัฐบาลไทยจะพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป ๕. ตามที่หลายฝ่ายมีความห่วงกังวลว่าชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับไปยังประเทศจีนอาจถูกลงโทษอย่างรุนแรงจนถึงแก่ชีวิตนั้น รัฐบาลจีนได้ยืนยันกับรัฐบาลไทยว่า จะปฏิบัติต่อบุคคลเหล่านี้ด้วยความเป็นธรรมและรับรองความปลอดภัย นอกจากนั้น ผู้ที่ไม่มีความผิดจะได้รับการดูแลให้กลับคืนสู่สังคมและรัฐบาลจีนจะจัดหาที่ทำกินให้ตามความเหมาะสมต่อไป ๖. รัฐบาลจีนยินดีเชิญให้รัฐบาลไทยส่งผู้แทนไปติดตามผลการปฏิบัติ ซึ่งสภาความมั่นคงแห่งชาติจะจัดผู้เกี่ยวข้องจากหน่วยราชการต่างๆ รวมทั้งจะพิจารณาเชิญองค์กรระหว่างประเทศ อาทิ ICRC เข้าร่วมกับฝ่ายไทย เดินทางไปตามคำเชิญของรัฐบาลจีนต่อไป 9 ก.ค. 2558 23:21:42 / อัพเดต : 10 ก.ค. 2558 16:19:50
โหนมุสลิมนั่นเอง (รัฐบาลเลือกตั้งก็เคยมีปัญหากับชายแดนใต้มาก่อนนี่ กรือเซะ - ตากใบ) ปล. ชนินทร์เป็นมุสลิมหรือ ? ถึงสำคัญตนเป็นพวกมาขอพรพระผู้เป็นเจ้าด้วย ?
“เมื่อผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และมีหลักฐานว่าเคยกระทำผิดในประเทศอื่นมาก่อน รวมทั้งพิสูจน์สัญชาติแล้วว่าเป็นพลเมืองของประเทศนั้น ประเทศไทยก็ไม่มีทางเลือกเป็นอื่นที่จะต้องส่งกลับไปยังประเทศต้นทาง อยากถามประเทศที่ประณามไทยเช่นกันว่า หากมีผู้กระทำผิดกฎหมายร้ายแรงจากประเทศหนึ่งหลบหนีมาพำนักในประเทศของท่าน ท่านจะดำเนินการส่งตัวกลับไปดำเนินคดียังประเทศต้นทาง หรือสนับสนุนให้ส่งต่อไปยังที่อื่น ในทางกลับกัน ถ้าเป็นผู้กระทำผิดในประเทศของท่านแล้วหลบหนีไปประเทศอื่น ท่านต้องการให้ส่งตัวกลับไปรับโทษในประเทศของท่านหรือไม่ คำตอบนั้นชัดเจนด้วยหลักเหตุผลที่สมบูรณ์ จึงไม่มีความเหมาะสมใดๆ เลยที่จะกล่าวร้ายต่อการปฏิบัติของประเทศไทย และในส่วนผู้ที่พิสูจน์แล้วว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับการก่อคดีใดๆ รวมทั้งผ่านการพิสูจน์สัญชาติแล้ว ประเทศไทยก็ดำเนินการดูแล ส่งไปยังประเทศปลายทางตามประสงค์อย่างปลอดภัย โดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนเสมอมา" พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวไว้ http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000078699 ......................................................................................
อัพเดทข่าวด้วยคน http://www.thairath.co.th/content/511007 ทางการจีนยันชาวอุยกูร์ 109 คนถูกไทยส่งกลับ มีแผนไปเป็นนักรบญิฮัดที่ตุรกี!! โดย ไทยรัฐออนไลน์ 12 ก.ค. 2558 00:31 กระทรวงตำรวจจีนออกโรงยืนยัน ชาวมุสลิมอุยกูร์ 109 คนที่ถูกทางการไทยส่งตัวกลับจีน มีแผนเดินทางไปเป็นนักรบญิฮัด ในตุรกี ซีเรีย หรืออิรัก พร้อมระบุ ในจำนวนนี้ 13 คน เคยลงมือก่อการร้าย และ 2 คนได้แหกคุกหลบหนีออกจากจีน วันที่ 11 ก.ค. 58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงตำรวจของจีนยืนยันเมื่อวันเสาร์ที่ 11 ก.ค. ว่า ผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย ชาวมุสลิมอุยกูร์ จำนวน 109 คน ซึ่งถูกทางการไทยเนรเทศส่งตัวกลับจีน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 ก.ค. ที่ผ่านมานั้น มีแผนการเดินทางไปเป็นนักรบญิฮัดในประเทศตุรกี ซีเรีย หรืออิรัก โดยจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนพบว่า มีแก๊งคนหัวรุนแรงทางศาสนาหลายแก๊งในตุรกี ที่มีการเกณฑ์ผู้คนด้วยการปลุกระดมชักชวนให้พวกเขาเดินทางไปซีเรีย และอิรัก เพื่อเข้าร่วมเป็นนักรบญิฮัด นอกเหนือจากนั้นเจ้าหน้าที่จีนยังมีการสืบทราบด้วยว่ามีนักการทูตชาวตุรกีหลายคนที่ประจำการอยู่ในประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) บางประเทศที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเคลื่อนไหวผิดกฎหมายนี้ทำได้ง่ายขึ้น ตามรายงานของกระทรวงตำรวจของจีน ยังระบุด้วยว่า ชาวจีนหัวรุนแรงหลายคน และเหล่าหัวหน้าแก๊ง ซึ่งรู้จักในชื่อ ‘พวกปลาช่อน’ ได้ถูกเนรเทศออกจากประเทศในอาเซียนปีนี้ ขณะที่ผู้อพยพผิดกฎหมาย 109 คน ที่ถูกส่งกลับมายังประเทศจีน ในสัปดาห์นี้ ปรากฏว่า 13 คนได้หลบหนีออกจากจีนไปหลังจากร่วมมือกันก่อการร้าย และอีก 2 คน ได้หลบหนีออกจากสถานคุมขัง กระทรวงตำรวจของจีน ยังแจ้งว่า ตามรายงานเกี่ยวกับประวัติผู้อพยพผิดกฎหมาย 109 คน พบว่า คนเหล่านี้ส่วนมากถูกปลุกปั่นยุยงให้กลายเป็นคนหัวรุนแรง โดยสื่อที่เผยแพร่จากสภาอุยกูร์โลก และขบวนการอิสลาม เตอร์กีสถานตะวันออก ส่วนชาวจีนพวก ‘ปลาช่อน’ หลายคนนั้น ยังรวมถึงนายมีห์มุต โอบูลีลา ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ถูกส่งกลับมาจีน ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า แก๊งเหล่านี้ได้มีการจัดตั้งมาอย่างดีและจัดระบบตามลำดับขั้นที่ชัดเจน โดยได้ดำเนินการให้คนที่ถูกชักชวนมาเดินทางทั้งทางบกและทางทะเล ผ่านหลายประเทศ รวมทั้งเวียดนาม กัมพูชา ลาว และไทย เพื่อเข้าไปยังตุรกี และหลังจากเดินทางถึงตุรกีแล้ว กลุ่มก่อการร้าย ETIM จะนำคนเหล่านี้ไปยังซีเรียเพื่อร่วมในการสู้รบ ที่มา:criEnglish.com
จากบล็อก กาแฟดำ คุณสุทธิชัย พาทีมงานเข้าคุยท่านทูตจีน มีที่น่าสนใจตอนหนึ่งว่า " อยากให้สื่อฯไทย ฟังความเห็นจากเรา( จีน ) บ้าง อย่างฟังจากฝั่งตะวันตกเพียงอย่างเดียว " น่าจะใช้ในสถานการณ์นี้ได้เป็นอย่างดีครับ
ยังจำ ฮัมบาลีกับวิกเตอร์ บูต ได้มั้ยครับ ถ้าไทยไม่ส่งให้สหรัฐฯทั้งที่สหรัฐฯยืนยันว่าเป็นผู้ร้ายที่ทำผิดกฏหมายสหรัฐฯ แต่กลับส่งไปอัฟกานิสถานโดยอ้างว่า เขาเป็นผู้อพยพ ต้องการไปยังอัฟกานิสถาน จะเกิดอะไรขึ้นครับ สี่ขา ว่ามันเป็นคดี คนละลักษณะเดียวกันหรือเปล่า???
UNHCR ไม่รู้ว่า ใช่หน้าที่หรือเปล่า ส่วนใหญ่ ที่เข้ามาตั้งในประเทศต่างๆ ก็เพื่อ สอดส่อง ตามความตกลง ระหว่างประเทศ หรืออะไรก็ตาม ในการปฏิบัติ ต่อประชาชน ของตน ในประเทศนั้นๆ แต่ผมว่าไม่ใช่เลย เหมือนเข้ามาจับผิดมากกว่า เหมือนเป็นเครื่องมือสักอย่าง ที่ระบุฝ่าย และตั้งธง ไว้เรียบร้อยแล้ว
ดูข่าวจากสำนักข่าวไทย ประธานาธิปดี เรเจป ของตุรกี แถลงว่า การที่สื่อตุรกีนำเสนอข่าวและภาพเกี่ยวกับการกดขี่ชาวอุยกูร์เติร์กในเขตปกครองตนเองซินเจียงของจีน เมื่อไม่นานมานี้ เป็นการนำเสนอที่เกินจริง และที่น่าสังเกตคือ การปลุกปั่นนี้ เกิดขึ้นก่อนที่เขาจะเดินทางไปเยือนจีนเมื่อวันที่ 28 มิย ที่ผ่านมา ข่าวนี้เป็นชนวนที่ทำให้เกิดความวุ่นวายตามมา ซึ่งเป็นการกระทำที่ตุรกีไม่เห็นด้วย และขอให้ชาวตุรกีอย่างหลงผิดเพราะการยั่วยุเหล่านี้ อ่านแล้ว อยากฝากข่าวนี้ถึง แก๊งค์ปลุกปั่นยั่วยุแห่งประเทศไทย สื่อทำลายชาติ รวมถึงนักวิชาการและองค์กรณ์ผู้สู่รู้ทั้งหลาย ว่า ผู้นำประเทศที่เป็นต้นเหตุของความวุ่นวายท่านแถลงออกมาอย่างนี้ ยังจะก้มหน้าก้มตาปลุกปั่นกันแบบไม่ลืมหูลืมตา หรืออวดรู้เรื่องสิทธิมนุษยชน กันอย่างเมามัน ต้องระวังนะครับ เพราะถ้าประเทศไทยมีปัญหา ตัวพวกคุณ รวมทั้งญาติพี่น้องของคุณ ก็ไม่รอดหรอกครับ
สงสัยพวกกาสรสีชาดคงอยากได้พวกฆ่าตัดหัวแบบสดๆ เพิ่มขึ้นมั้ง ********************************************** จีนเปิดแถลงยำตุรกีขาย ‘อูยกูร์’ ไปเป็นนักรบสดโต่ง ทางการจีนยืนยัน ชาวอุยกูร์ที่ไทยส่งกลับไปให้จีน เป็นผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และมีความผิดอาญา พร้อมระบุ นักการทูตตุรกีออกเอกสารสัญชาติตุรกีให้แก่ชาวอุยกูร์ที่มาจากจีนเพื่อให้คนเหล่านี้เดินทางเข้าตุรกี บางส่วนถูกขายไปเป็นนักรบของกลุ่มสุดโต่ง ขณะที่ยังมีความเคลื่อนไหวต่อต้านไทยในบางประเทศ รวมทั้งออสเตรีย ทำให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียนนา ออกประกาศเตือนคนไทยจีนยันไทยทำตามหลักสากลนางหัว ชุนอิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงข่าวในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม กรณีไทยส่งชาวอุยกูร์กว่า 100 คน กลับมาให้จีนว่า ชาวอุยกูร์ดังกล่าวถือสัญชาติจีน และลักลอบเข้าเมืองผิดกฏหมาย เช่น ใช้หนังสือเดินทางปลอม ทำให้ไม่มีสถานะเป็นผู้อพยพและถือเป็นอาชญากรรม การที่ไทยส่งชาวอุยกูร์ที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฏหมายกลับมาให้จีน เป็นไปตามหลักกฏหมายสากล และข้อตกลงความร่วมมือของ 2 ประเทศ ในความพยายามปราบปรามการลักลอบเข้าเมือง พร้อมกันนี้ จีนยังขอแสดงการคัดค้านกรณีที่รัฐบาลต่างชาติบางประเทศ เพิกเฉยต่อข้อเท็จจริง และเรียกชาวอุยกูร์เหล่านี้ว่าเป็นผู้อพยพ รวมทั้งจงใจแทรกแซงกิจการภายในของจีนด้วยประเด็นปัญหาเชื้อชาติและศาสนา สื่อแฉรบ.แอบช่วยอุยกูร์ ด้านหนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์ของรัฐบาลจีนเผยว่า กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนออกมาตอบโต้เรื่องดังกล่าว โดยระบุมีหลักฐานว่ารัฐบาลตุรกีให้ความช่วยเหลือกลุ่มชาติพันธุ์อุยกูร์ ผ่านการออกหนังสือเดินทางและให้สัญชาติตุรกีกับชาวอุยกูร์ นำไปสู่การหลบหนีออกจากจีนอย่างผิดกฎหมาย เพื่อกลับสู่ประเทศตุรกีโดยใช้เส้นทางผ่านประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่บางส่วนมุ่งหน้าไปยังประเทศซีเรียและอิรัก เพื่อเข้าร่วมกับกลุ่มก่อการร้าย นอกจากนี้ยังมีเรื่องขบวนการค้ามนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่มีงานทำ-ถูกขายเป็นนักรบ สอดคล้องกับความเห็นของ นายถ่ง ปี้ซาน หัวหน้าแผนกสอบสวนคดีอาญา กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน ที่เผยกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศกลุ่มหนึ่งในกรุงปักกิ่งว่า สถานทูตตุรกีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ออกหนังสือรับรองสัญชาติตุรกีให้แก่ชาวอุยกูร์ที่หลบหนีไปจากจีน แล้วอนุญาตให้เดินทางเข้าตุรกี แต่คนเหล่านี้มักไม่มีงานทำและบางส่วนถูกขายไปเป็นนักรบให้กลุ่มสุดโต่ง ถูกล้างสมองและให้ออกไปรบแนวหน้าเป็นวัตถุทำสงครามเท่านั้น บางคนถูกส่งไปอิรัก บางคนถูกส่งไปซีเรีย กลุ่มสุดโต่งจ่ายค่าตัวให้คนละ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 67,875 บาท) เป็นอย่างต่ำ ทั้งนี้ ทางการจีนพบวีดิทัศน์และข้อความโฆษณาชวนเชื่อในโทรศัพท์เคลื่อนที่และคอมพิวเตอร์ของชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งตัวกลับมา ส่วนกระแสข่าวที่ว่าจีนจะปฏิบัติไม่ดีกับชาวอุยกูร์ที่กลับประเทศเป็นเพียงความพยายามทำให้จีนดูเลวร้าย คนที่กลับมาล้วนได้รับการดูแลอย่างดี แต่หากต้องสงสัยว่ากระทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย เตือนคนไทยระวังอันตราย ด้าน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ประกาศเตือนคนไทยในออสเตรีย ผ่านทางเว็บไซต์เฟซบุ๊ก ว่า จะมีผู้มาชุมนุมเคลื่อนไหวคัดค้านกรณีที่ไทยส่งชาวอุยกูร์กลับไปให้จีน ที่บริเวณสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา เวลา 15.30 น. วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น จึงขอให้งดการเดินทางมาติดต่อราชการในช่วงเวลาดังกล่าว ในกรณีฉุกเฉิน สามารถติดต่อได้ที่หมายเลขฮอตไลน์ +43 664 999 0424 นอกจากนี้ ยังเตือนให้คนไทยที่พำนักในออสเตรีย สโลวะเกีย และสโลวีเนีย ใช้ความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการแสดงความเห็นหรือโต้เถียงใดๆ ในเรื่องนี้ รวมทั้งใช้ความระมัดระวังดูแลความปลอดภัยตัวเอง สถานทูตอังการาปัดข่าวปิดทำการ ด้านสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา ประเทศตุรกี ปฏิเสธข่าวที่ปรากฎตามสื่อและเว็บไซต์ต่างๆ ว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการ่า ปิดทำการ แต่สถานเอกอัครราชทูตปิดให้บริการเฉพาะฝ่ายกงสุลในวันที่ 8-9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของผู้มารับบริการ ส่วนสถานการณ์โดยทั่วไปบริเวณรอบสถานเอกอัครราชทูต ตำรวจและหน่วยความมั่นคงตุรกี กระจายกำลังคุ้มกัน ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม หลังจากเกิดเหตุผู้ชุมนุมบุกโจมตีสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ นครอิสตันบูล เชื่อบัวแก้วแถลงการณ์ชัดแล้ว ทางด้าน นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีองค์กรต่างประเทศโดยเฉพาะ UNHCR ออกแถลงการณ์ประณามไทยที่ส่งชาวอุยกูร์กลับไปที่จีนว่า ก่อนหน้านี้เราก็ส่งชาวอุยกูร์ไปประเทศตุรกีแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน จำนวน 172 คน และครั้งที่ 2 ส่งไปประเทศจีนเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม จำนวน 109 คน ซึ่งทั้งหมดผ่านการพิสูจน์สัญชาติและผ่านกระบวนตรวจสอบแล้วว่ามีใครที่ทำผิดอะไรหรือไม่ ซึ่งตอนที่เราส่งไปตุรกี ทางจีนก็ไม่เห็นด้วย และก่อนหน้านี้ 3-4 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็เคยส่งไปในลักษณะเช่นนี้ให้จีนเหมือนกัน ซึ่งก็ถูกต่างชาติตำหนิบ้าง อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศของไทยน่าจะมีความชัดเจนแล้ว ขณะเดียวกันจีนเองก็ยืนยันว่าจะดูแลความปลอดภัยและจะให้ไทยส่งผู้แทนไปดูความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ที่ส่งไปได้และจะเชิญผู้แทนขององค์กรระหว่างประเทศไปดูด้วยเช่นกัน ชี้บิดเบือนข้อมูลปลุกม็อบ “ที่ตุรกี เราตรวจสอบพบว่า มีการบิดเบือนข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดียในตุรกี หาว่าเราไปฆ่าคนอุยกูร์ และเรียกร้องให้ไปรวมตัวกันประท้วงเพราะเราไปฆ่า ไปทำร้ายเขา มีการปล่อยข่าวอย่างนี้ ซึ่งมันไม่จริง ซึ่งทางรัฐบาลตุรกี บอกว่าสาเหตุที่มีการใช้ความรุนแรงไปทำลายทรัพย์สินของกงสุลไทยในตุรกีก็เพราะมีการบิดเบือนข้อมูลในโซเชียลของตุรกีนี่เอง ส่วนที่สวีเดนและเยอรมัน คนไม่เยอะ แต่ตอนนี้เราก็ดูอีกหลายประเทศว่าจะมีการชุมนุมในแบบเดียวกันนี้หรือไม่เพราะมันมีสมาคม มีชมรมอุยกูร์ ที่อยู่ในยุโรป และสหรัฐฯก็มี ในเอเชียก็มี ซึ่งที่ต้องจับตาในขณะนี้ก็เช่นประเทศญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส สหรัฐฯ ซึ่งล้วนมีชมรมอุยกูร์อยู่ เพราะฉะนั้นต้องดูทั้งหมดและก็ประสานงานผ่านสถานทูตโดยกระทรวงการต่างประเทศ” นายสุวพันธุ์ กล่าว ยันสถานการณ์ไม่น่าห่วง นายสุวพันธ์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มีความเป็นห่วงและให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของคนไทย แต่อย่างไรก็ตามฝ่ายความมั่นคงได้ประเมินแล้วว่า เหตุการณ์นี้ไม่น่าจะขยายตัวเพราะประเทศอื่น นอกจากตุรกี ซึ่งทางตุรกีเองก็ไม่น่าห่วงเพราะทางรัฐบาลเขาวางมาตรการในการดูแลเต็มที่ และคนที่ชุมนุมประท้วงไม่ใช่คนตุรกี แต่เป็นชาวอุยกูร์ที่อยู่ในตุรกี ที่ออกเพราะเข้าใจผิด ส่วนองค์กรต่างประเทศที่ออกแถลงการณ์ตำหนิเรา ก็เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ และสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)ที่จะต้องทำความเข้าใจ และต่อไปก็คงต้องมีมาตรการเพิ่มเติม โดยเฉพาะจีนที่ต้องเป็นผู้รับผิดชอบดูแลความปลอดภัยให้ผู้อพยพชาวอุยกูร์ ตามที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ นายกฯเรียกถกสมช.จันทร์นี้ ขณะที่ นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการ สมช. เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคมนี้ นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุม สมช. ซึ่งคาดว่าจะมีการหยิบยกปัญหาผู้อพยพชาวอุยกูร์ และกรณีเหตุการณ์ระเบิดในภาคใต้ขึ้นมาหารือด้วย แม้ว่าจะไม่มีในวาระการประชุมก็ตาม ส่วนการเดินทางไปประเทศจีน เพื่อดูสภาพความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ที่ไทยส่งกลับไปนั้น กำลังรอความเห็นชอบจาก พล.อ.ประวิตร หากอนุมัติก็พร้อมที่จะออกเดินทางไปในทันที http://www.naewna.com/inter/168106