ใช้ ม.44 จัดการรีสอร์ทรุกป่าภูทับเบิก พูดคุยกับคุณชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ และคุณกุญช์ภัสส์ พัฒนฉัตรรุ่งรุจ เจ้าของรีสอร์ท "โรงเตี้ยม ภูทับเบิก" สำนักงานปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศเตรียมตรวจสอบการถือครองที่ดิน ส.ป.ก.ตามคำสั่ง คสช. ข่าว 7 สี - สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เตรียมยึดคืนที่ดิน สปก.ตามมาตรา 44 กว่า 110,000 ไร่ ช่วงต้นเดือนหน้านี้ นายชำนาญ กลิ่นจันทร์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่าช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้ จะเริ่มเข้ายึดคืนพื้นที่ สปก.ตามมาตรา 44 โดยที่จังหวัดนครราชสีมา มีพื้นที่ที่เข้าข่ายจำนวน 134 แปลง เนื้อที่กว่า 113,000 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่อำเภอปากช่อง วังน้ำเขียว ครบุรี เสิงสาง และด่านขุนทด และถือว่าเป็นจังหวัด ที่จะมีการยึดคืนมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งหากมีการตรวจสอบพบว่า เกษตรกรตัวจริง มีเอกสารถือครองที่ถูกต้อง ก็จะมอบที่ดินคืนให้ ส่วนการเข้าปฏิบัติงานในแต่ละพื้นที่นั้น ทางสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา จะมีการสนธิกำลังร่วมกับทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เข้าดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมาอยู่ระหว่างรอรูปแบบการประกาศจากส่วนกลาง หลังจากนั้นก็จะนำไปปิดประกาศในทุกอำเภอ และดำเนินการเข้ายึดคืนต่อไป วัดบ้านขุน หมู่ 3 ตำบลบ่อหลวง อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 70 ไร่ เป็น 1 ใน 4 วัด ที่ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ เข้าตรวจยึดพื้นที่ พบมีการบุกรุกที่ดินสาธารณะ สร้างวัดและอาคารปฏิบัติธรรม รวมทั้งรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติแม่ลาย อีกกว่า 32 ไร่ ที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ก่อสร้างอาคารเรียน 3 ชั้น ศาลาการเปรียญให้สามเณร กว่า 240 รูป ใช้เป็นอาคารเรียนที่พัก ตรวจสอบพื้นที่วัดกลับไม่พบเจ้าอาวาส มีเพียงพระ 9 รูป และชาวบ้านจำนวนหนึ่งที่เดินทางมาอยู่ในศาลาการเปรียญ เจ้าหน้าที่ระบุเข้าข่ายผู้มีอิทธิพลที่ถือครองที่ดินโดยไม่ได้รับอนุญาต มีการก่อสร้างนอกเหนือพื้นที่ เจ้าหน้าที่ยังตรวจยึดวัดพระธาตุกองลอย ที่บุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่ลาย 2 ไร่ วัดแม่ลายเตือนอาง อำเภอฮอด ที่บุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติแม่แจ่ม และป่าแม่ตื่น 14 ไร่ และศูนย์อบรมเยาวชนวัดดอยโมคลานะ ที่อำเภอจอมทอง อีก 14 ไร่ และพบความเชื่อมโยงมีการนำพระภิกษุไปร่วมกิจกรรมของวัดธรรมกาย เจ้าหน้าที่ได้ยึดพื้นที่และห้ามเข้าใช้ทำประโยชน์ทั้งหมด พร้อมดำเนินคดีกับผู้ถือครองที่ดิน ตาม พ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติ ข่าว 7 สี - เจ้าหน้าที่นำประกาศรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างติดประกาศ บนภูทับเบิก โดยเจ้าของรีสอร์ท ได้ยื่นหนังสือคัดค้าน ระบุประกาศดังกล่าวมิชอบด้วยกฎหมาย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทหาร และฝ่ายปกครอง นำกำลังแบ่งเป็น 6 ชุดเข้าปิดประกาศ ของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนพื้นที่ภูทับเบิก อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 18 แปลง ในประกาศกำหนดให้รื้อถอนภายใน 30 วัน หากไม่ดำเนินการ จะเข้ารื้อถอนเอง ผู้ประกอบการบางราย ออกมารวมกันยื่นหนังสือเรียกร้อง ระบุว่า ประกาศออกโดยมิชอบและเลือกปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงว่า ไม่ได้เป็นการเลือกปฏิบัติ แต่ที่ติดประกาศรีสอร์ท 18 แห่งก่อน เพราะคดีถึงที่สุดแล้ว นายณรงค์ คงคำ รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า ชาวไทยภูเขาบนภูทับเบิกกว่า 4,000 คน หลังมีการรื้อถอนรีสอร์ทบนภูทับเบิกแล้วว่า ได้เตรียมมาตรการดูแลชาวไทยภูเขาใหม่ทั้งหมด โดยแบ่งเป็นกลุ่มอาชีพเกษตรกรรม และกลุ่มที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวรวมทั้งจะแบ่งโซนนิ่งพื้นที่ใหม่ด้วย ส่วนเจ้าของรีสอร์ทที่ถูกรื้อ ให้ไปยื่นคำร้องกับกองอำนวยการแก้ไขปัญหาพื้นที่ภูทับเบิก เพื่อรวบรวมความเดือดร้อน ก่อนพิจารณาช่วยเหลือต่อไป
ข่าว 7 สี - เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สนธิกำลังเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ตรวจยึดพื้นที่ถูกบุกรุก เพื่อทำสวนทุเรียนหมอนทอง เจ้าหน้าที่ประกอบด้วย ส.ป.ก.,ป่าไม้ ,ทหาร และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ จังหวัดชุมพร นำกำลังกว่า 30 นาย เข้าตรวจสอบพื้นที่ ส.ป.ก.บริเวณกลางหุบเขา รับร่อ - สลุย หมู่ที่ 9 ตำบลหงส์เจริญ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าสงวน และติดเขตสัมประทาน ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งและยังเป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พบนายทรงพจน์ จิตเจริญ อายุ 45 ปี พร้อมลูกจ้างกำลังใช้รถแบ็คโฮและรถไถขุดปรับพื้นที่ จึงขอตรวจสอบเอกสาร โดยนายทรงพจน์ให้การว่า รับจ้างจาก นายพล ไม่ทราบนามสกุล ให้ปรับที่ เพื่อจะปลูกทุเรียนหมอนทอง เจ้าหน้าที่รังวัด สปก.ชุมพร ระบุว่า จากวัดพิกัดโดยเครื่องจีพีเอสพบว่า ที่ดินดังกล่าวจำนวน 18 ไร่ 2 งาน 20 ตารางวา แต่อยู่ในเขต สปก.ที่ถูกบุกรุกกว่า 6 ไร่ จึงต้องดำเนินคดี นอกจากนี้ ยังพบว่า มีการบุกรุกที่ป่าบริเวณใกล้เคียงอีกนับ 100 ไร่ เพื่อทำสวนยางพาราและสวนทุเรียน ซึ่งจะได้ตรวจสอบ เพื่อดำเนินคดีต่อไป นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส เลขาส.ป.ก. เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 11 กรกฏาคมนี้ ส.ป.ก.จะเริ่มส่งใบปิดประกาศพื้นที่เป้าหมายที่จะเรียกคืน ใน 11 จังหวัด 125 แปลงก่อน และตั้งเป้าให้แล้วเสร็จครบพื้นที่ ทั้ง 25 จังหวัด กว่า 400 แปลง เนื้อที่ประมาณ 4 แสน 3 หมื่นไร่ ด้านพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เน้นย้ำให้ ส.ป.ก.อย่าเลือกปฏิบัติ แม้ว่าที่ดินจะเป็นของผู้มีอิทธิพล เพราะรัฐบาลมีนโยบาย ที่จะปราบปรามผู้กระทำผิด ข่าว 7 สี - ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ชี้การปิดประกาศรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรีสอร์ต ภูทับเบิก ไม่เลือกปฏิบัติ เนื่องจากศาลตัดสินคดีสิ้นสุดแล้ว ตั้งแต่ ปี2554 หลังเจ้าหน้าที่ได้นำคำสั่งสำนักจัดการทรัพยากรป่าป่าไม้ที่ 4 ไปติดประกาศ บนภูทับเบิกรวม 19 จุด และให้ผู้ประกอบการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างภายใน 30วัน แต่ถูกกลุ่มผู้ประกอบการ ยื่นหนังสือคัดค้านว่า เป็นการเลือกปฏิบัติ ขัดคำสั่ง คสช.ที่ 35/2559 นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ชี้แจงว่า คำสั่งที่ถูกนำไปติดประกาศ เป็นไปตามคำสั่ง คสช. แต่ที่ต้องดำเนินการ 19 จุดก่อนคดีสิ้นสุดแล้ว ตั้งแต่ปี 2554 แต่ผู้ประกอบการทั้งหมด ยังนิ่งเฉยไม่ยอมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไป ช่วงนี้จะเห็นข่าวการทวงคืนพื้นป่าจากผู้บุกรุกเกือบทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และเขตพื้นที่แห่งชาติหาดเจ้าไหม ก็เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ถูกบุกรุกสร้างรีสอร์ท เห็นว่าเป็นอดีตนักการเมืองระดับท้องถิ่น และระดับชาติ ขณะนี้เจ้าหน้าที่สั่งรื้อถอนแล้ว หลังประกาศยึดคืนตามคำสั่งศาล รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดตรัง ฝ่ายทหาร พ.อ.ธวัชชัย รักอาชีพพร้อมด้วยนายมาโนช วงศ์สุรีรัตน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม และเจ้าหน้าที่ชุดพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน และอุทยานฯ เดินทางเข้าไปตรวจสอบสถานที่ภายใน “ฉางหลางรีสอร์ท” รีสอร์ทชื่อดัง ของอดีตนักการเมืองระดับท้องถิ่นและระดับชาติคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ภายในพื้นที่บ้านฉางหลาง เขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย หลังศาลสั่งให้เพิกถอน นส.3 ก. รวมจำนวน 2 แปลง เนื้อที่รวมกว่า 16 ไร่ โดยอุทยานฯ ได้ประกาศปักป้ายเพื่อยึดคืนไว้เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมสั่งให้เจ้าของดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดออกไปภายในระยะเวลา 30 วัน ซึ่งเจ้าของยอมให้ดำเนินการรื้อถอนในสิ่งที่จำเป็นออกไปทั้งหมดแล้ว คงเหลือไว้เพียงซากปรักหักพังของรีสอร์ท ห้องพัก รวมทั้งบ้านพัก สำนักงาน รวมไม่ต่ำกว่า 40 หลัง ไว้ เพื่อรอให้ทางอุทยานฯแห่งชาติหาดเจ้าไหม เข้าไปดำเนินการเคลียพื้นที่ต่อไป หลังจากนี้ทางอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมจะต้องใช้เครื่องจักรกลขนาดใหญ่เข้าไปดำเนินการรื้อถอน และฝังกลบซากปรักหักพังทั้งหมด และฟื้นฟูปลูกป่าทดแทนให้กลับสู่สภาพป่าที่สมบูรณ์ เป็นสมบัติของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมให้ประชาชนได้เข้าไปท่องเที่ยวใช้ประโยชน์ร่วมกันต่อไป ภายในสัปดาห์หน้า ผู้อำนวยการเขตวัฒนาเตรียมเรียกผู้ค้าย่านสุขุมวิท หารือถึงแนวทางการจัดระเบียบทางเท้าเป็นครั้งที่2 ขณะที่ผู้ค้าเรียกร้องขอจำหน่ายสินค้าในพื้นที่เดิม เช้าวันนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้จัดกิจกรรม "จตุจักร Big Cleaing Day" ทำความสะอาดครั้งใหญ่ตลาดนัดจตุจักร ปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในตลาดนัดจตุจักรให้สะอาด ถูกสุขลักษณะ และเป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อให้นักท่องเที่ยวและประชาชนเดินจับจ่ายสินค้าในตลาดได้อย่างมีความสุข นับเป็นการนำร่องแผนการจัดระเบียบตลาดนัดจตุจักร โดยจะดำเนินการปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ปรับปรุงห้องน้ำให้สะอาดและมีเพียงพอ จัดระบบทางเข้าออกใหม่ให้สะดวก จัดระเบียบร้านค้า รวมทั้งปราบปรามผู้มีอิทธิพล และแผงค้าที่ไม่ได้ลงทะเบียนกับการรถไฟฯ นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารตลาดนัดจตุจักร กำลังพิจารณาปรับลดค่าเช่าแผงค้าตลาดนัดจตุจักรลง 5-10 % จากการที่ผู้ค้าเรียกร้องให้ปรับลดค่าเช่าพื้นที่ลง เนื่องจากประสบปัญหาขาดทุนจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว โดยจะหารือร่วมกับกลุ่มผู้ค้าอีกครั้ง คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนหน้า ปัจจุบัน ตลาดนัดจตุจักรมีผู้ค้ารวมกว่า 10,000 ราย เป็นผู้ค้าที่ทำสัญญากับการรถไฟฯ ประมาณ 9,000 ราย โดยเสียค่าเช่าแผงค้าเดือนละประมาณ 3,600 บาท
กรุงเทพมหานครเดินหน้าจัดระเบียบร้านค้าบนทางเท้าอย่างต่อเนื่องมากว่า 2 ปี ล่าสุดทางสำนักงานเขตวัฒนาได้ประชุมร่วมกับผู้ค้าย่านสุขุมวิท เพื่อดำเนินมาตรการดังกล่าว แต่ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ ข่าว 7 สี - เจ้าหน้าที่ตรวจสอบรีสอร์ต อดีตรัฐมนตรี ที่จังหวัดกระบี่ พบบางส่วนบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลน ส่วนที่จังหวัดเพชรบุรีและกาญจนบุรี ยึดคืนพื้นที่บุกรุกป่าชายเลน และพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ชุดปฏิบัติการพิเศษฉลามขาว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สนธิกำลังเข้าตรวจสอบ อัยลันดารีสอร์ต หมู่ 3 ตำบลคลองประสงค์ อำเภอเมืองกระบี่ พบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลน ป่าคลองกระบี่ใหญ่ พื้นที่กว่า 11 ไร่ โดยผู้ดูแลได้นำหลักฐาน นส.3ก. มาแสดง แต่พบว่าบางส่วนบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลน และมีการปลูกสร้างห้องแถว 6 ห้อง ที่มีร่องรอยการทุบทำลายไปบางส่วน จึงได้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน สำหรับอัยลันดารีสอร์ต เป็นของครอบครัวอดีตนักการเมืองชื่อดัง ที่มาซื้อที่ดินของชาวบ้าน เพื่อสร้างเป็นรีสอร์ต เมื่อปี 2550 มีห้องพักรวมกว่า 30 ห้อง ส่วนเจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ายึดคืนพื้นที่ป่าชายเลน ในพื้นที่ตำบลปากทะเล และตำบลบางขุนไทร อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี พบมีการครอบครองและใช้ประโยชน์ บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าปากทะเล โดยปลูกสร้างเป็นยุ้งฉาง สำหรับเก็บเกลือที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ ได้ปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าชายเลน ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี มาแล้ว 4 ครั้ง ได้พื้นที่คืนกว่า 600 ไร่ และเตรียมยึดคืนอีก 200 ไร่ และที่จังหวัดกาญจนบุรี ตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าตรวจสอบอาคารสิ่งปลูกสร้างภายในวัดถ้ำเนรมิต บ้านต่อเรือ อำเภอศรีสวัสดิ์ พบว่า ได้ขออนุญาตจัดตั้งวัดเพียง 2 ไร่ แต่กลับบุกรุกพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ มากถึง 97 ไร่ จึงแจ้งให้รื้อถอนภายในเวลาที่กำหนด หากไม่ดำเนินการเจ้าหน้าที่จะเข้ารื้อถอนทันที ฟาร์มม้าสว่างใจ คือหนึ่งในที่ดินที่ถูกทวงคืนจาก สปก.จังหวัดนครราชสีมา โดยมีชาวบ้านร้องเรียนมากว่า 9 ปี แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนินการได้ จนมาถึงการใช้มาตรา 44 ของหัวหน้า คสช.ติดตามจากรายงาน คุณ อนุพรรณ จันทนะ ที่ดินผืนนี้กว้าง 535 ไร่ เป็นฟาร์มเลี้ยงม้า ของ พล.ต.ต.ชาลี เภกะนันทน์ เป็นหนึ่งในจุดที่ถูกสำนักงานการปฎิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรเรียกคืน เพราะมีการถือครองผิดกฎหมาย ปฎิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ชำนาญ กลิ่นจันทน์ เล่าให้ฟังว่า ที่ดินพื้นนี้ถูกดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2549 หลังมีคนร้องเรียน ว่า ถือครองไม่ถูกกฎหมาย จนท้ายสุดศาลมีคำพิพากษาเมื่อเดือน เม.ย. 2558 ว่า พล.ต.ต.ชาลี ถือครองที่ดินโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้ สปก.เรียกคืนที่ดินได้ แต่ผ่านมาแล้วกว่า 1 ปี ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ จนต้องใช้มาตรา 44 เข้าจัดการ ทีมข่าวเนชั่นทีวี ลงพื้นที่ฟาร์มม้าสว่างใจ ในอำเภอปากช่อง พบทางเข้ามีประตูและรั้วกั้น แสดงอณาเขตอย่างชัดเจน สิ่งที่เราเห็นคือบรรยากาศเงียบสงบ ประตูได้ถูกเปิดไว้ แต่ไม่มีคนเฝ้าประตู ทีมข่าวจึงเข้าไปสำรวจข้างในพบว่า มีการประกอบกิจการเลี้ยงม้า มีการกั้นคอก และกั้นพื้นที่อย่างชัดเจน ภายในฟาร์มเลี้ยงม้าสว่างใจ มีการแบ่งโซนอย่างสวยงาม ร่มรื่น โดยมีการกั้นคอกม้า เป็นส่วนๆ มีสนามซ้อมแข่งม้า นอกจากนี้ ยังพบว่า มีนกยูงอีกจำนวนมาก แต่แทบไม่พบผู้คน และเมื่อเจอผู้ดูแล เราจึงได้เข้าไปพูดคุย ได้ข้อมูลว่า ฟาร์มแห่งนี้เลี้ยงม้าเพื่อเพาะพันธุ์ และเลี้ยงม้าแข่ง โดยปัจจุบันมีม้ากว่า 100 ตัว มีคนงานประมาณ 30 คน ส่วนที่ดินผิดกฎหมายหรือไม่ เขาไม่รู้รายละเอียด และเจ้าของฟาร์ม ก็เดินทางมาไม่บ่อย เมื่อเดินสำรวจพื้นที่ภายในฟาร์ม ทีมข่าวแทบไม่พบพันธุ์ม้าแข่ง อย่างที่คนดูแลให้ข้อมูล สิ่งผิดปกติที่เห็นได้ชัดอีกอย่าง คือ ฟาร์มปิด ที่ไม่เคยเปิดให้บุคคลภายนอกเข้า นอกจากมาติดต่อซื้อม้า เวลานี้กลับมีสภาพที่เหมือนกำลังถูกทิ้งร้าง เพราะการเข้าพื้นที่ของทีมข่าวได้สำรวจโดยที่ไม่มีผู้มาสอบถามว่า มาติดต่ออะไร ตลาดสะพานพุทธเป็นตลาดค้าขายในยามค่ำคืนที่เก่าแก่ ซึ่งกรุงเทพมหานคร ประกาศจัดระเบียบและขยายเวลาให้ผู้ค้าขายถึงวันที่ 11 กันยายน 2559
การจัดระเบียบทางเท้าปากคลองตลาด ทำให้ผู้ค้าดอกไม้ ที่หาทางย้ายไปขายที่ใหม่ ทำเลใหม่ ของพ่อค้าแม่ค้าดอกไม้ ได้ขยับขยายไปจองแผงค้าในตลาดดอกไม้ ปากคลองตลาดใหม่ ตั้งอยู่บนเส้นทางตัดใหม่ ถนนพระเทพ หรือราชพฤกษ์-กาญจนาภิเษก ไม่ไกลจากแยกไฟฉาย เปิดให้จับจองถึงสิ้นเดือนนี้ พุ่งเป้าเป็นตลาดค้าส่งและค้าปลีกดอกไม้ขนาดใหญ่ บนเนื้อที่ 27 ไร่ เน้นตลาดดอกไม้ ผลักดันให้มีชื่อเสียงระดับโลก รองรับผู้ค้าผู้ขายกว่า 2,000 แผง เปิดขายได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เส้นทางเชื่อมต่อการจราจร การเดินทางไม่แออัด พร้อมจัดไฟฟ้าส่องสว่าง มีจุดจอดรถเป็นระเบียบ พร้อมเปิดตลาดก่อนปีใหม่ ความทรงจำของปากคลองตลาด ในวันเก่าๆ จะย้อนคืนกลับมาได้อีกครั้งหรือไม่ ต้องรอวันเปิดปากคลองตลาดแห่งใหม่ ฝั่งธนบุรี ด้วยความหวังของผู้ค้าผู้ซื้อและนักท่องเที่ยวกับตลาดค้าส่งที่จะกลับมาเป็นถนนสายดอกไม้บานสะพรั่งสวยงาม มีชีวิตชีวา ลุยจัดระเบียบรถตู้เฟส 3 สั่งให้จอดที่สถานีขนส่ง ดีเดย์ 25 ต.ค.นี้ กทม.เรียกผู้ค้าตลาดบางแค ทำความเข้าใจเพื่อจัดระเบียบทางเท้า และแก้ปัญหาการจราจรติดขัด บนถนนเพชรเกษม
กรมป่าไม้โดยชุดพยัคฆ์ไพร ร่วมกับชุดพญาเสือและฉลามขาว. ลงพื้นที่ทวงคืนผืนป่าที่ถูกบุกรุกบนเกาะพะงัน สุราษฎร์ธานี จากกลุ่มทุนและผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ กรมป่าไม้ นายชลธิศ สุรัสวดี สั่งการให้นายอรรถพล เจริญชันษา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและควบคุมไฟป่า และนายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ร่วมกับชุดปฎบัติการของชุดพญาเสือและฉลามขาว นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าเปิดปฎิบัติการตรวจยึดดำเนินคดี ต่อกลุ่มนายทุนและผู้มีอิทธิพลที่เข้ายึดครอบครอง ที่ดินในเขตป่าไม้บนเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี หลายจุดพร้อมกันโดยในวันพรุ่งนี้(31ก.ค.) และอธิบดีกรมป่าไม้จะลงพื้นที่ร่วมปฎิบัติการครั้งนี้ด้วย โดยเกาะพะงันมีเนื้อที่ 76,493 ไร่ ประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าเกาะพะงัน ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2509 และได้ประกาศแก้ไขเมื่อปี พ.ศ.2526 เนื้อที่ 24,450 ไร่ ซึ่งเตรียมการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพะงัน เมื่อปี พ.ศ.2553 เนื้อที่ 26,000 ไร่ แบ่งเป็นทางบก 25,300 ไร่ และทางทะเล 1,700 ไร่ จากการแปลภาพถ่ายดาวเทียมเมื่อปี พ.ศ.2558 พบว่าเกาะพะงันมีสภาพป่าสมบูรณ์ จำนวนเนื้อที่ 33,817 ไร่ คิดเป็น 44% ของพื้นที่เกาะ ขณะที่สถานการณ์การบุกรุกในพื้นที่พบมีการแผ้วถางป่าพื้นล่างเพื่อจับจองเป็นจำนวนมาก และมีการทำไม้เพื่อใช้สอยด้วย ปัจจุบันพื้นที่ที่เคยถูกบุกรุกได้มีการขยายออกและได้ขายเปลี่ยนมือให้กับกลุ่มทุน อธิบดีกรมป่าไม้ บอกว่าภาระกิจในครั้งนี้มุ่งเป้าไปที่ที่มีการบุกรุกป่าใหม่ ตลอดจนการตรวจสอบการครอบครองพื้นที่โดยมิชอบของกลุ่มทุน โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการขุดตักหน้าดินที่มีผลกระทบต่อทัศนียภาพและความเสียหายต่อสภาพป่า การปลูกสร้างอาคารบ้านพักรีสอร์ทในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม การทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และเขตอุทยานแห่งชาติ กลุ่มผู้ค้ารถเร่ในเมืองพัทยาจังหวัดชลบุรี เรียกร้องหน่วยงานที่ข้องผ่อนปรนมาตรการควบคุมผู้ค้ารถเร่ หลังได้รับความเดือดร้อนจากมาตรการนี้จนไม่สามารถค้าขายได้ตามปกติ
วัดฝีมือ "ทักษิณ-ประยุทธ์" ปราบเจ้าพ่อ กรุงเทพมหานคร ขยายเวลาให้ผู้ค้าบริเวณ ประตูน้ำ หน้าห้างเซนทรัลเวิลด์ และสยามสแควร์ ค้าขายบนทางเท้าได้ถึงวันที่ 5 กันยายน เนื่องจากพื้นที่แห่งใหม่ยังปรับปรุงไม่แล้วเสร็จ กรุงเทพฯ 20 ส.ค.-กรุงเทพมหานคร เตรียมจัดระเบียบผู้ค้าถนนข้าวสาร โดยให้ขายทุกวันพฤหัสบดีถึงอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 06.00 น.- 24.00 น. ส่วนการจัดระเบียบเยาวราช คาดสัปดาห์หน้ามีความชัดเจน นายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยหลังประชุมทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการถนนข้าวสารว่า ขณะนี้นักท่องเที่ยวบนถนนข้าวสารได้ลดจำนวนลง โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะเสน่ห์ และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของผู้ค้าริมทางเท้าได้หายไป ที่ประชุมจึงสรุปร่วมกันว่าหลังจากนี้ถนนข้าวสารจะต้องกลับมามีเสน่ห์ มีระเบียบ และมีความยั่งยืนอีกครั้ง โดยจะให้ผู้ประกอบการได้ลงบันทึกความร่วมมือกับ กทม. ไม่ให้เปิดเพลงเสียงดัง ห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์เกินเวลากฎหมายกำหนด และต้องไม่มีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายอยู่ในสถานประกอบการ ส่วนการจัดระเบียบทางเท้าบนถนนข้าวสาร หลังจากจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ค้า ที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักเทศกิจอย่างถูกต้องซึ่งมีกว่า 100 รายเสร็จสิ้นแล้ว จะเริ่มทดลองให้ค้าขายได้ในวันพฤหัสบดี-วันอาทิตย์ ช่วงเวลา 18.00 น. – 24.00น. โดยขายได้ 1 ใน 3 ของเส้นทางการจราจรส่วนวันอื่นๆ ต้องไม่มีการค้าขายอย่างเด็ดขาด หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดจะยกเลิกทันที เพื่อสร้างเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นที่ดึงดูดการท่องเที่ยวตามแนวทาง “ข้าวสารโมเดล” พร้อมกันนี้จะจัดเจ้าหน้าที่สังกัด กทม. เข้าไปสำรวจที่พักและสิ่งปลูกสร้าง เพื่อตรวจสอบใบอนุญาต และต้องมีทางหนีไฟชัดเจนเพื่อป้องกันการเกิดเพลิงไหม้ นอกจากนี้ในส่วนของการจัดระเบียบถนนเยาวราช ซึ่งมีการร้องเรียนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง นายวัลลภ กล่าวว่าภายในสัปดาห์หน้าจะได้ความชัดเจน ส่วนกระแสข่าวที่จะมีการปิดถนนเยาวราชเพื่อค้าขายนั้น เป็นเพียงแนวคิดที่ต้องร่วมประชุมกับผู้บริหาร กทม. และตำรวจจราจร ซึ่งเยาวราชก็เป็นถนนอีกเส้นที่ต้องคงเสน่ห์ ซึ่งจะต้องมีการหารือที่ชัดเจนเช่นเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย ถนนข้าวสาร มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเป็นเวลานานแล้ว แต่การจัดระเบียบกำลังจะเปลี่ยนถนนข้าวสาร นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการ ร้านค้า จะมองสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างไร คุณกลกร เวียงดอนก่อ รายงาน ร้านค้าที่เรียงรายบนทางเท้ากว่า 140 ร้าน บนถนนข้าวสาร เป็นภาพที่ชินตาของนักท่องเที่ยว และอาจจะนับได้ว่า เป็นเสน่ห์ที่ดึงดูนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกให้มาเยือน แม้ภาครัฐจะอ้างว่าเพราะความไม่เป็นระเบียบทำให้นักท่องเที่ยวลดลง แต่ผู้ประกอบการยืนยันว่า สภาพถนนข้าวสารที่เป็นอยู่นี้ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้นทุกปี และผู้ค้าก็ได้ร่วมกันจัดระเบียบกันเองอย่างเต็มทีอยู่แล้ว แต่หากภาครัฐจะจัดระเบียบเพิ่มเติม ควรให้ความสนใจกับร้านรถเข็น และคนต่างด้าว ที่เข้ามาขายโดยไม่ได้รับอนุญาตมากกว่า ปัทมา วงค์ธรรม แม่ค้าที่ขายผัดไทบนถนนแห่งนี้มาเกือบ 10 ปี เห็นด้วยกับการจัดระเบียบ เพราะหวังจะได้มีพื้นที่ขายเป็นหลักแหล่ง แต่หากไม่ให้ขายคงส่งผลกระทบทั้งรายได้ และนักท่องเที่ยวอาจลดลง ด้วยวัฒนธรรม บ้านเมืองที่มีเอกลักษณ์ และมนุษยสัมพันธ์ที่ดีของผู้คน ทำให้ Sergio Palomeres Garcia นักท่องเที่ยวชาวสเปน กลับมาเที่ยวเมืองไทยอีกเป็นครั้งที่ 2 โมเดลการจัดระเบียบถนนข้าวสาร คือ จะเปิดให้ผู้ค้าขายสินค้า อาหาร บนพื้นผิวถนน เฉพาะวันพฤหัสฯ ถึง วันอาทิตย์ 4 วัน เท่านั้น จะช่วยจัดระเบียบ คืนเสน่ห์ของถนนข้าวสาร และเรียกนักท่องเที่ยวเข้าประเทศได้จริงหรือไม่ คงต้องติดตาม 3 เดือนต่อจากนี้ จัดระเบียบถนนข้าวสารอีกครั้ง
ข่าว 7 สี - ตำรวจจังหวัดภูเก็ต กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้มีอิทธิพล ซึ่งข่มขู่เจ้าหน้าที่ชุดฉลามขาว จนต้องขอย้ายตัวเองออกจากพื้นที่ จากกรณีนายพศวัต คุระวรรณ หัวหน้าสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 23 จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นหนึ่งในชุดฉลามขาว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ทำหนังสือขอย้ายตัวเองออกจากพื้นที่ โดยระบุว่าถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ข่มขู่ และได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ถลาง พลตำรวจตรีธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต บอกว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนายพศวัต ไว้อย่างละเอียดแล้ว และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่ข่มขู่นายพศวัต โดยสาเหตุเชื่อว่ามาจากเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งอาจจะไปขัดผลประโยชน์ของกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ยังกล่าวว่า ที่ผ่านมาได้กวาดล้างกลุ่มผู้มีอิทธิพลอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มมาเฟียแท็กซี่รับจ้าง, การจัดระเบียบชายหาด รวมทั้งกลุ่มนอมินี และยืนยันจะกวาดล้างผู้ที่ทำตัวเป็นมาเฟีย หรือสร้างอิทธิพลในจังหวัดภูเก็ต ต่อไป เพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของเมืองท่องเที่ยว รองนายกรัฐมนตรี สั่งการแม่ทัพภาคที่ 3 ดูแลข้าราชการที่ถูกโทรศัพท์ลึกลับข่มขู่ไม่ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนภูทับเบิก เผยอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นกลุ่มใด พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่าได้สั่งการให้แม่ทัพภาคที่ 3 เข้าไปดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายอำเภอหล่มเก่า ที่ถูกโทรศัพท์ข่มขู่หากไม่หยุดรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนภูทับเบิก ซึ่งเรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด ส่วนที่มองว่าเป็นผู้เสียประโยชน์บนภูทับเบิกหรือไม่ ต้องรอผลการตรวจสอบ ทั้งนี้ยืนยัน คสช.จะดูแลความปลอดภัยให้เจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ไม่ให้ถอดใจ และไม่มีผลกระทบต่อการเดินหน้าจัดระเบียบภูทับเบิก โดยจะรื้อถอนต่อไปตามคำสั่งศาล ซึ่งเหตุผลที่รัฐบาลต้องเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ เพราะต้องการแก้ไขปัญหาการบุกรุกและทำลายป่า ขณะนี้มีป่าไม้เหลืออยู่เพียง 152,000 ตารางกิโลเมตร และในแต่ละปีจะถูกทำลาย 719 ตารางกิโลเมตรต่อปี โดยจังหวัดที่มีพื้นที่ป่าลดลงมากที่สุด คือ จังหวัดนครพนม รองลงมาเป็น อุดรธานี ยะลา และ จังหวัดเลย ข่าว 7 สี - ตำรวจ สภ.หล่มสัก และชุดสืบสวนจังหวัดเพชรบูรณ์ นำหมายเลขโทรศัพท์ 3 หมายเลข ที่คนร้ายใช้เป็นคู่สายโทรศัพท์หานายอำเภอหล่มสัก และผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรอนุรักษ์ที่ 4 สาขาพิษณุโลก เพื่อหาพิกัดของคนร้าย ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ อยู่ระหว่างให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่เบื้องต้นพบว่าทั้ง 3 หมายเลขเป็นคนร้ายเป็นคนเดียวกัน ที่ใช้หมายเลขที่ไม่มีการระบุเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์ ส่วนสาเหตุตั้งประเด็นเรื่องการก่อกวน และผู้เสียผลประโยชน์ ทั้งนี้ขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่กว่า 700 นาย ยังมีขวัญและกำลังใจดี โดยวันนี้ได้เข้ารื้อถอนรีสอร์ตเพิ่มอีก 2 แห่ง และยังเดินหน้ารื้อรีสอร์ตอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะแล้วเสร็จ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บอกว่า แม่ทัพภาค 3 ได้ลงไปดูแลพื้นที่ เพิ่มกำลังทหาร 40 นาย เข้าไปดูแลความเรียบร้อย พร้อมทั้งกันพื้นที่ไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไป เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางสนธิกำลังเปิดปฎิบัติการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและฮั้วประมูล ลุยค้นบ้านนักการเมืองท้องถิ่น 5 จังหวัด ยึดปืนและกระสุนได้จำนวนมาก พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงผลปฏิบัติการตามยุทธการไพร่ฟ้าหน้าใส หลังจากเมื่อเช้าเมื่อวานนี้ (14 ก.ย.59) ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด มีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ และตำรวจกองปราบปราม โดยปฎิบัติการครั้งนี้เป็นการตรวจสอบความผิดเกี่ยวกับการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ความผิดเกี่ยวกับการฮั้วประมูล ซึ่งทำการตรวจค้นสถานที่ในจังหวัดต่างๆ 5 จุด ประกอบด้วย จ.นนทบุรี 5 จุด ได้แก่ ที่บ้านนายกองค์การบริหารส่วนตำบล หรือ อบต.ไทรน้อย บ้านนายก อบต.บางรักน้อย บ้านนายก อบต.บางบัวทอง บ้านนายกเทศมนตรีตำบลปลายบาง และบ้านนายกเทศมนตรีตำบลบางเลน ส่วนที่ จ.ปทุมธานี 4 จุด ได้แก่ บ้านนายก อบต.ลำลูกกา บ้านนายกเทศมนตรีเมืองธัญบุรี บ้านนายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง และบ้านนายกเทศมนตรีตำบลบึงยี่โถ ที่ จ.นครปฐม 3 จุด ได้แก่ บ้านนายกเทศมนตรีเมืองกระทุ่มล้ม บ้านนายกเทศมนตรีตำบลศาลายา และที่ทำการนายกเทศมนตรีตำบลศาลายา ใน จ.สงขลา 1 จุด คือที่บ้านนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ และ ในพื้นที่ จ.ชลบุรี1 จุด โดยเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดอาวุธปืนได้ 13 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน จำนวน 110 นัด สำเนาบัญชีธนาคารและโฉนดที่ดิน พร้อมจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 6ราย
นายกฯเปิดโครงการพัฒนาสุวรรณภูมิเฟส 2 ประกาศกำจัดมาเฟียดอนเมือง ชี้สนามบินเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ ทหารสนธิกำลังฝ่ายปกครองในจังหวัดชลบุรี เข้าจัดระเบียบท่าเทียบเรือท่องเที่ยวเมืองพัทยา หลังได้รับร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวว่า ผู้ประกอบการรับฝากรถ ตามตื๊อให้ใช้บริการ และทำการจราจรติดขัด ข่าว 7 สี - กรมการขนส่งทางบก ขานรับคำสั่งนายกรัฐมนตรี เร่งจัดระเบียบรถแท็กซี่หน้าท่าอากาศยานดอนเมือง แก้ปัญหารถติด นายณันทพงศ์ เชิดชู รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีสั่งให้กระทรวงคมนาคม เร่งแก้ปัญหามาเฟียแท็กซี่ บริเวณหน้าท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งมีรถแท็กซี่จอดรอรับผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหารถติดบนถนนวิภาวดีรังสิต โดยระบุว่า กรมการขนส่งทางบกได้จัดระเบียบบริการรถแท็กซี่ทั้งภายใน และภายนอกท่าอากาศยานดอนเมือง โดยตั้งคณะกรรมการทำงานบูรณาการร่วมกันหลายหน่วยงาน เบื้องต้นได้จัดเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ลงพื้นที่ตรวจสอบคนขับรถแท็กซี่ และรถแท็กซี่ทุกคันเป็นประจำทุกวัน ป้องกันการกระทำความผิด และแก้ไขปัญหารถแท็กซี่ฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้โดยสาร พร้อมดูแลความเรียบร้อยการใช้บริการรถแท็กซี่ของผู้โดยสาร รวมทั้งวางแผนจัดรถแท็กซี่ให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้โดยสาร โดยเฉพาะช่วงที่มีเครื่องบินลงจอดพร้อมกันหลายเที่ยวบิน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหารถแท็กซี่จอดรอผู้โดยสาร ส่งผลให้การจราจรหน้าสนามบินชะลอตัว ปัจจุบันท่าอากาศยานดอนเมือง มีรถแท็กซี่หมุนเวียนให้บริการกว่า 6,000 คัน ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการของผู้โดยสาร โดยเจ้าหน้าที่จะคอยสอดส่องดูแล และเข้มงวดกวดขันบริการรถแท็กซี่มากขึ้น ถ้าพบคนขับรถแท็กซี่เจตนาเอาเปรียบผู้โดยสาร จะดำเนินการตามกฎหมายทันที เมื่อวานนี้ (22 ก.ย.) พันเอกภพอนันฒ์ เหลืองภานุวัฒน์ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 14 นำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณท่าเทียบเรือท่องเที่ยวแหลมบาลีฮายเมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อดำเนินการตามนโยบายการจัดระเบียบพื้นที่ท่องเที่ยวอย่างจริงจัง โดยมีตัวแทนจาก เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สภ.เมืองพัทยา และกำลังเทศกิจ เข้าร่วม จากการตรวจสอบพบปัญหาเรื่องพื้นที่จอดรถรับส่งนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังเกาะล้าน ซึ่งพบว่าสภาพผิวการจราจรมีความคับแคบ ขณะที่การขนถ่ายนักท่องเที่ยวสูงถึงวันละหลายหมื่นคน ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก ทั้งๆที่พื้นที่ของท่าเรือแหลมบาลีฮายพัทยาใต้นี้มีขนาดใหญ่รวมกว่า 17 ไร่ ซึ่งสาเหตุสำคัญเป็นเพราะลานสาธารณะ ถูกนำไปทำลานจอดเรือสปีดโบ๊ท มีเรือสปีดโบ๊ทมาจอดถึง 800-900 ลำ ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมาบริหารจัดการใหม่ ทั้งกรณีในเรื่องของสัญญาสัมปทาน เรื่องของผลประโยชน์ และการจัดการพื้นที่ใหม่เพื่อให้ส่วนรวมได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ไม่ใช้เฉพาะกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำที่สุ่มเสี่ยงเป็นการทำผิด ก็จะดำเนินการโดยไม่ละเว้น จึงอยากให้ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ เพราะเรื่องนี้คงปล่อยให้เป็นปัญหาเรื้อรังต่อไปไม่ได้ พื้นที่แห่งนี้ถือเป็นที่สาธารณะจึงต้องเข้ามาจัดระเบียบอย่างจริงจัง พันเอกภพอนันฒ์ กล่าวว่า ความเป็นมาของปัญหาที่มีมาอย่างยาวนานนั้น การแก้ไขปัญหา ก็คงต้องให้เวลา ทำอะไรที่มันไม่ถูกต้องก็ทำให้ถูกต้อง โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่ต้องติดตามการดำเนินการแก้ไข หากไม่ทำจะถือว่าเป็นการละเว้น เราต้องเอาพื้นที่สาธารณะของเมืองพัทยากลับมาใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด นอกจากนี้ยังถือเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรในเมืองพัทยา รวมถึงเป็นการรักษาภาพพจน์การท่องเที่ยว "พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง" ลงจัดระเบียบทางเท้าย่านประตูน้ำ
กรุงเทพฯ 6 ต.ค.-ผู้ค้าสยามสแควร์รวมตัวกันเข้าเจรจากับเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร ระหว่างการลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยบริเวณทางเท้าในย่านสยามสแควร์ บรรยากาศเป็นไปอย่างตรึงเครียด ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่คุมเข้มกว่า 200 นาย ล่าสุด แม้จะมีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่ก็ยังมีกลุ่มผู้ค้าจำนวนหนึ่งจับกลุ่มคุยกัน เมื่อเวลา 18.00 น. นายยุทธพันธ์ มีชัย ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯ กทม พร้อมด้วยผู้อำนวยการกองตรวจและปฏิบัติการพื้นที่ 1 สำนักเทศกิจ ลงพื้นที่ตรวจดูความเรียบร้อยพื้นที่ทางเท้าบริเวณสยามสแควร์ หลัง กทม.ประกาศดีเดย์ไม่ให้มีการขายของบนทางเท้าเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีการนำแผงเหล็ก พร้อมกำลังเทศกิจจำนวนกว่า 200 นาย ตรึงกำลังบริเวณตลอดแนวถนนตั้งแต่แยกปทุมวัน-แยกเฉลิมเผ่า เบื้องต้นเหตุการณ์ยังสงบเรียบร้อย ผู้ค้าไม่มีการฝ่าฝืนประกาศของ กทม. นอกจากนี้ กลุ่มผู้ค้าได้เข้าพูดคุยกับ กทม.เพื่อขอความเห็นใจ ขยายเวลาให้ผู้ค้ามีเวลาระบายสินค้าก่อน พื้นที่อื่นๆ ที่ กทม.หาไว้ให้นั้นก็ไม่เอื้อต่อการค้าขาย ด้าน กทม.ยังคงยืนยันต้องทำตามประกาศเดินหน้าจัดระเบียบต่อไป ผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกปรับ 2,000 บาท และโดนยึดสินค้า โดยขณะพูดคุยกัน ไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย เชียงใหม่ ผู้ว่าฯ ชี้อาคารโรงแรมอิสตินตัน ของ"เสี่ยตัน "ผิดกฎหมายควบคุมอาคาร ไม่มีใบอนุญาตประกอบธุจกิจโรงแรม ต้องปิดให้บริการด้านโรงแรม ขณะที่นายอำเภอเมืองระบุหากเปิดให้บริการสามารถเข้าจับกุมได้ตลอด ด้านโยธาและผังเมือง ระบุอาคารโรงแรมอิสตินตัน ผิด พ.ร.บ.ผังเมืองและกฎหมายควบคุมอาคารชัดเจน ไม่เกี่ยวกับผังเมืองใหม่ หรือ เก่า เหตุในสถานที่ดังกล่าวไม่อนุญาตให้ทำโรงแรมขนาดใหญ่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงกรณีทางจังหวัดได้มอบหมายให้ทางอำเภอเมืองเชียงใหม่เข้าทำการตรวจสอบโรงแรมอิสติน ตัน โฮเทล เชียงใหม่ ของนายตัน ภาสกรนที นักธุรกิจชื่อดัง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนห้วยแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่นั้น เนื่องจากอาคารดังกล่าวได้ขออนุญาตก่อสร้างเป็นอาคารชุดที่พักอาศัย หรือ คอนโดมิเนียม แต่ทางผู้ประกอบการได้นำอาคารดังกล่าวมาเปิดให้บริการเป็นโรงแรมที่พัก ซึ่งผิดต่อ พ.ร.บ.ผังเมือง ทางอำเภอเมืองเชียงใหม่ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องดังกล่าว จึงไม่สามารถอนุญาตให้ดำเนินกิจการประเภทโรงแรมได้ ขณะที่ทางโรงแรมอิสติน ตันฯ จึงได้ยื่นอุทธรณ์ต่อฝ่ายปกครองของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทางคณะกรรมการจังหวัดประชุมร่วมกัน พร้อมทำเรื่องขอความเห็นไปยังกรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งได้พิจารณาแล้วเห็นว่าขัดต่อพ.ร.บ.ผังเมืองและกฎหมายควบคุมอาคาร จึงไม่อนุญาตให้ดำเนินการจัดตั้งเป็นโรงแรมที่พัก จากกรณีการขออนุญาตอาคารดังกล่าวนี้ เป็นเรื่องเกิดขึ้นมาก่อนที่จะเข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แต่เมื่ออาคารดังกล่าวนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการโรงแรมที่พักตามกฎหมาย จึงไม่สามารถที่จะเปิดให้บริการได้เป็นหลักที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ส่วนเรื่องที่โรงแรมออกมาชี้แจงว่ากำลังยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการส่งเสริม และกำกับธุรกิจโรงแรม เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2559 นั้น ยังไม่ได้รับรายงาน นายศรัญญู มีทองคำ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ กล่าวว่า หลังจากที่เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2559 ทางอำเภอได้เข้าตรวจโรงแรมอิสติน ตัน โฮเทล เชียงใหม่นั้น เนื่องจากทางจังหวัดได้รับการร้องเรียนเข้าไปว่า อาคารดังกล่าวได้มีการเปิดให้บริการเป็นโรงแรมที่พัก ซึ่งผิด พ.ร.บ.ผังเมือง และกฎหมายควบคุมอาคาร จึงได้เข้าทำการตรวจสอบพร้อมทั้งขอดูใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ซึ่งทางโรงแรมไม่สามารถนำออกมาแสดงได้ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาพร้อมกับให้หยุดดำเนินกิจการทันที ทั้งนี้หากทางผู้ประกอบการยังไม่หยุดดำเนินการ ทางเจ้าหน้าที่สามารถเข้าดำเนินการจับกุมได้ตลอด ส่วนที่มีการออกมาชี้แจงว่ามีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมนั้น จากการตรวจสอบโรงแรมไม่มีการนำใบอนุญาตออกมาแสดง ซึ่งหากมีใบอนุญาตมาแสดงตามที่ออกมาชี้แจงหน้า เฟซบุ๊ก ของนายตัน ภาสกรนที เจ้าหน้าที่โรงแรมที่มีหน้าที่รับผิดชอบคงไม่ถูกเชิญตัวไปรับทราบข้อกล่าวหา ส่วนกรณีที่มีการยื่นอุทธรณ์นั้นยังไม่ทราบเรื่อง ด้านนายสมหวัง บุญระยอง โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับโรงแรมอิสติน ตัน โฮเทล เชียงใหม่ นั้น ไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้างอาคาร เพื่อดำเนินธุรกิจโรงแรมตั้งแต่เริ่มแรก แต่ขออนุญาตก่อสร้างอาคารชุดที่อยู่อาศัยรวม หรือคอนโดมิเนียม การทำ EIA ก็ดำเนินการสำหรับอาคารชุดที่พักอาศัย ไม่ได้ทำ EIA สำหรับโรงแรม การที่นำอาคารชุดมาดัดแปลงจึงผิดกฎหมาย ซึ่งไม่เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนกฎหมายผังเมืองใหม่ หรือผังเมืองเก่า ช่วงแรกของการดำเนินการขออนุญาตนั้น ได้ทำเรื่องของอนุญาตเป็นอาคารชุดที่พักอาศัยรวม พร้อมกับทำ EIA ซึ่งได้รับอนุญาตให้ดำเนินการได้ หลังจากนั้นได้มาขออนุญาตดำเนินกิจการโรงแรมในบางชั้นที่พักอาศัยของอาคารชุดที่ทำการก่อสร้าง ซึ่งผิดกับข้อกฎหมาย ไม่สามารถอนุญาตได้ จึงได้ทำหนังสือจากทางจังหวัดเชียงใหม่ ไปถึงกรมโยธาธิการและผังเมืองเกี่ยวกับการขออนุญาตนำอาคารชุดพักอาศัยบางชั้นมาประกอบธุรกิจโรงแรมสามารถดำเนินการได้หรือไม่ ซึ่งได้รับตอบกลับมาว่าไม่สามารถทำได้ เนื่องจากพื้นที่บริเวณดังกล่าวได้ถูกควบคุมไว้ตาม พ.ร.บ.ผังเมือง และกฎหมายควบคุมอาคาร ว่าโรงแรมในบริเวณดังกล่าวต้องเป็นโรงแรมขนาดเล็กเท่านั้น ดังนั้นจึงผิดตั้งแต่การอนุญาตก่อสร้างครั้งแรก ที่ไม่ได้ขอเพื่อประกอบธุรกิจโรงแรม นอกจากนั้นอาคารที่ก่อสร้างขึ้นมาได้มีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมพื้นที่โดยรอบ รถดับเพลิงไม่สามารถที่เข้าไปได้อย่างสะดวก มีการกีดขวางทางเข้าของรถดับเพลิง ถือเป็นอันตรายต่อผู้ที่พักอาศัย หากเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ขึ้นในอาคารดังกล่าว ซึ่งการที่อาคารจะปรับเปลี่ยนมาประกอบธุรกิจโรงแรมจึงเป็นอันตรายต่อผู้พักอาศัย เนื่องจากตามกฎหมายโรงแรมจะต้องมีเส้นทางหนีไฟที่ชัดเจน เพราะผู้ที่เข้ามาพักอาศัยไม่ได้อยู่เป็นประจำ ไม่ทราบผังอาคารเหมือนกับผู้ที่พักอาศัยอยู่ตลอดที่รู้จักเส้นทางออกจากอาคาร ดังนั้นอาคารนี้จึงผิดกฎหมายควบคุมอาคารและต้องยุติการให้บริการด้านโรงแรม แต่การดำเนินการเพื่อขอความคุ้มครองเป็นเรื่องของผู้ประกอบการจะดำเนินการ "การนำอาคารชุดที่พักอาศัยรวมมาดัดแปลงเป็นโรงแรมนั้น ไม่สามารถดำเนินการได้ และไม่มีช่องทางที่จะแก้ไขนอกจากจะหยุดให้บริการด้านโรงแรม และ ดำเนินการเฉพาะอาคารชุดพักอาศัยตามที่ได้ขออนุญาตไว้เท่านั้น จึงขอยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงผังเมืองใหม่ หรือผังเมืองเก่า" นายสมหวัง กล่าว ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อเข้าไปยังโรงแรม อิสติน ตัน โฮเทล เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ของโรงแรมปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนี้ จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่ายังคงเปิดให้บริการโรงแรมห้องพักตามปกติ โดยไม่ได้หยุดดำเนินการตามที่ฝ่ายปกครองแจ้งให้หยุดดำเนินการ ในขณะที่เฟซบุ๊ก "ตัน ภาสกรนที" ได้มีการโพสต์หนังสือชี้แจงเรื่องการขอมบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม อิสติน ตัน โฮเทล เชียงใหม่ ข้อความว่า ตามที่มีข่าวเรื่องการ ประกอบธุรกิจโรงแรม โดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อ โรงแรม อิสติน ตัน โฮเทล เชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้ 29 มิถุนายน 2555 บริษัท ตันบุญ จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมอิสติน ตัน โฮเทล ได้รับใบอนุญาตให้ก่อสร้าง (อ.1) และ Eia อาคารสูง 9 ชั้น 9 ธันวาคม 2556 บริษัทฯ ยื่นขออนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม 20 กรกฎาคม 2557 บริษัทได้รับใบอนุญาต อ.1 ครั้งที่ 2 เพื่อปรับการให้บริการจากคอนโดมิเนียมเป็นธุรกิจโรงแรมรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น 19 สิงหาคม 2557 การก่อสร้างอาคารแล้วเสร็จ ได้รับอนุญาตเปิดใช้อาคาร (อ.6) เป็นช่วงเวลาเดียวกับการใช้กฎหมายผังเมืองใหม่ ซึ่งมีข้อกำหนดบางประการเปลี่ยนไป 13 กันยายน 2559 บริษัทได้รับการปฏิเสธการขออนุญาตการประกอบการธุรกิจโรงแรม เนื่องจากการเปลี่ยนกฎหมายผังเมืองใหม่ 28 กันยายน 2559 จากการดังกล่าว บริษัทฯ จึงได้ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการการส่งเสริมและกำกับธุรกิจโรงแรม ซึ่งมีระยะเวลาในการพิจารณายื่นอุทธรณ์ โรงแรมอิสติน ตัน โฮเทล ขอเรียนให้ทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากปัญหารอยต่อระหว่างประกาศผังเมืองฉบับเก่าและฉบับใหม่ บริษัทฯ ไม่มีเจตนาในการดำเนินการขัดกับข้อกฎหมายทุกประการ ตลอดระยะเวลาเปิดให้บริการบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจด้วยความสุจริตเปิดเผยชำระภาษีถูกต้องด้วยความโปร่งใส และพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานราชการทุกกรณี จากนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ในการจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะที่วิ่งให้บริการในเส้นทางต่างจังหวัด ระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร ที่จอดอยู่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยในวันนี้เป็นวันแรก ที่ผู้ประกอบการรถตู้ทุกรายต้องนำรถเข้าไปจอดรับ-ส่งผู้โดยสารที่สถานีขนส่งหลัก 3 แห่ง ได้แก่ สถานีขนส่งหมอชิต, สถานีขนส่งเอกมัย และสถานีขนส่งสายใต้ ประชาชนบางส่วนที่มาใช้บริการรถตู้โดยสารต่างจังหวัดในวันนี้ ยังสับสนเรื่องจุดจอดรถตู้ และการต่อรถโดยสารไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และรถไฟฟ้า BTS ซึ่งการย้ายจุดจอดรถทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ด้านผู้ประกอบการรถตู้โดยสาร ยอมรับว่า ช่วงแรกผู้โดยสารหายไปส่วนหนึ่งเนื่องจากบริเวณอนุสาวรีย์ฯ ยังมีรถตู้วิ่งระยะสั้นให้บริการ ซึ่งขอประเมินผลอีกระยะ หากผู้โดยสารลดลงมาก อาจต้องเลิกกิจการ นายณันทพงศ์ เชิดชู รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ผู้ประกอบการทุกรายให้ความร่วมมือนำรถเข้ามาจอดรับ-ส่งผู้โดยสารในพื้นที่ที่กำหนดเป็นอย่างดี แต่ยังต้องกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลกับผู้โดยสาร พร้อมทั้งจัดรถ shuttle bus อย่างน้อย 15 คัน อำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร ซึ่งหลังจากนี้จะประเมินผลในรอบระยะเวลา 6 เดือน พร้อมย้ำว่า หากพบผู้ประกอบการรายใดไม่นำรถเข้าจอดรับ-ส่งผู้โดยสารที่สถานีขนส่ง จะมีโทษปรับสูงสุด 5,000 บาท และหากกระทำผิดซ้ำ จะพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตเดินรถ ที่ประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการจอดเรือ ท่าเรือแหลมบาลีฮาย ยืนยันไม่ให้ผู้ประกอบการจอดเรือ ที่ท่าเทียบเรือท่องเที่ยวพัทยาใต้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป
ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวที่พัทยา ได้ทยอยเคลื่อนย้ายเรือ ออกจากท่าเรือแหลมบาลีฮาย ตามคำสั่ง คสช.แล้ว หลังจากที่กองบัญชาการควบคุมมณฑลทหารบกที่ 14 กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 1 ได้เข้าดำเนินการจัดระเบียบพื้นที่สาธารณะ บริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย ตามนโยบายทางคืนพื้นที่สาธารณะ ของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ และประกาศให้เจ้าของเรือนำเที่ยว เคลื่อนย้ายเรือออกจากพื้นที่ ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2559 ล่าสุด วันนี้ พบว่ามีผู้ประกอบการเรือหลายราย ทยอยขนย้ายเรือนำเที่ยว ออกจากพื้นที่มากกว่า 100 ลำแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนกำหนด ส่วนผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ไม่ดำเนินการในเวลาที่กำหนด จะถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิดฐานบุกรุกที่สาธารณะ ที่จะเข้าข่ายผู้มีอิทธิพล ซึ่งจะต้องมีการนำไปตัวไปปรับทัศนคติด้วย เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานในจังหวัดพังงา ร่วมกันเข้าตรวจสอบร้านอาหารริมชายหาดคึกคัก แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังย่านเขาหลัก หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีการบุกรุกแผ้วถางป่า เมื่อวานนี้ นายธรรมเนียม บำรุง ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดพังงา นายประกาศิต พรประสิทธิ์ รักษาการนายอำเภอตะกั่วป่า รวมทั้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาหลัก นำกำลังเข้าตรวจสอบร้านอาหารแห่งหนึ่งบริเวณชายหาดคึกคัก ม.3 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังย่านเขาหลัก หลังมีการร้องเรียนการบุกรุกแผ้วถางป่า โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบพิกัดดาวเทียมพบว่า ร้านอาหารดังกล่าว มีสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ป่า ประกอบด้วย ตัวร้านอาหาร เต็นท์2หลัง ซุ้มสำหรับรับประทานอาหาร5หลัง และซุ้มโรงนวดอีก 3 หลัง มี นางเสมอ หนองใจบุญ อายุ 52 ปี รับเป็นเจ้าของร้าน แต่ไม่มีเอกสารสิทธิมายืนยันความเป็นเจ้าของที่ดินได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ จึงได้กล่าวหากระทำผิดพระราชบัญญัติป่าไม้ นายประกาศิต รักษาการนายอำเภอตะกั่วป่า กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางจังหวัดได้ทำการจัดระเบียบผู้บุกรุกชายหาด และได้รื้อถอนร้านค้าออกไปเรียบร้อยแล้ว โดยได้บรรเทาผลกระทบให้กับผู้ค้าด้วยการขอใช้พื้นที่ ราชพัสดุ บริเวณใกล้ชายหาด ให้ผู้ประกอบการได้ทำการค้าขาย ซึ่งยังอยู่ในช่วงดำเนินการ แต่พบมีการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีการบุกรุกอีกครั้ง จึงเข้าตรวจสอบและจับกุมผู้ฝ่าฝืนดังกล่าว สิ้นสุดวันดีเดย์ จัดระเบียบท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย เสร็จสมบูรณ์ 100% ผบ.มทบ.14 พอใจผลการปฏิบัติงานคืนพื้นที่สาธารณะ ตามที่ คสช.มีนโยบายเข้ามาจัดระเบียบพื้นที่สาธารณะบริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ จ.ชลบุรี เพื่อเป็นการสนองนโยบายของภาครัฐในการทวงคืนพื้นที่สาธารณะ อีกทั้งยังเป็นการจัดเตรียมความพร้อมในการรองรับการจัดกิจกรรมสวนสนามทางเรือนานาชาติ ที่จะจัดขึ้นในช่วง พ.ย.ปี 2560 ซึ่งถือเป็นกิจกรรมระดับนานาชาติ ที่มีทัพเรือจากกว่า 40 ประเทศเข้าร่วม จึงได้มีออกประกาศให้ผู้ประกอบการและเจ้าของเรือนำเที่ยวเคลื่อนเรือออกจากพื้นที่สาธารณะให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ต.ค.2559โดยผู้ประกอบการเรือได้พยายามหาแนวทางแก้ไขปัญหารับนโยบายดังกล่าวอย่างต่อเนื่องนั้น ล่าสุด วันนี้ (1พ.ย.) ที่กองอำนวยการร่วมการจัดระเบียบท่าเทียบเรือพัทยาใต้ (แหลมบาลีฮาย) จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่จากหลากหลายภาคส่วน ทั้ง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง เจ้าหน้าที่เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าพัทยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยกิจการพิเศษรวมกว่า 600 นาย ลงพื้นที่ตามความคืบหน้านโยบายการจัดระเบียบท่าเทียบเรือ โดยนำกำลังรื้อสิ่งปลูกสร้างรวมถึงท่าขึ้นลงเรือท่องเที่ยวจำนวน 2 ท่า พร้อมทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบ เบื้องต้นพบว่ากลุ่มเรือท่องเที่ยวทั้งหมดได้ขนย้ายเรือออกจากพื้นที่แล้วเสร็จสมบูรณ์ 100% ต่อมา พล.ต.ยุทธชัย เทียรทอง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 14 พ.อ.ภพอนันฒ์ เหลืองภานุวัฒน์ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 14 นายชนัฐพงศ์ ศรีวิเศษ ปลัดเมืองพัทยา ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกเมืองพัทยา พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา พร้อมคณะผู้เกี่ยวข้องได้เดินทางมาตรวจสอบผลการปฏิบัติการตามนโยบายจัดระเบียบของ คสช.โดยเดินเท้าตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พร้อมให้กำลังใจในการปฏิบัติงานกับทางเจ้าหน้าที่ พล.ต.ยุทธชัย เทียรทอง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 14 เปิดเผยว่าผลการดำเนินการมีความพึงพอใจเป็นอย่างมากเพราะเป็นไปตามแนวทางที่วางไว้ พื้นที่ทั้งหมดหลังจากกลุ่มเรือท่องเที่ยวขนย้ายออกหมดแล้วจะทำการกั้นพื้นที่ไว้ใช้ประโยชน์เพื่อสาธารณชน โดยหลังจากนี้เมืองพัทยาจะประชุมหาแนวทางการพิจารณาว่าให้มีการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวไปในทิศทางใด อาจจะเป็นการปรับภูมิทัศน์เป็นสวนสาธารณะหรือสิ่งก่อสร้างที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองพัทยา นอกจากนี้ยังได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับใช้กฎหมายด้านการจราจรเพื่อความชัดเจนต่อไปด้วย รัฐบาลเดินหน้าจัดระเบียบรถบรรทุกน้ำหนักเกินให้เกิดความเรียบร้อย โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับรัฐและคนส่วนใหญ่ทั้งการป้องกันถนนชำรุดเสียหาย ลดปัญหาจราจรติดขัดและเพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้โดยสารและผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งหากผู้ประกอบการมีจิตสำนึกที่จะร่วมมือแก้ปัญหาก็ยังไม่ถึงเวลาต้องใช้มาตรา 44 เข้ามาจัดการ พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า นายกได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม บูรณาการกับจังหวัด และตำรวจทหารในพื้นที่ เข้มงวดตรวจตรารถบรรทุกที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน เช่น รถบรรทุก 10 ล้อ ต้องบรรทุกน้ำหนักไม่เกิน 25 ตัน รถบรรทุกพ่วง ไม่เกิน 50.5 ตัน เพราะที่ผ่านมายังมีรถบรรทุกบางส่วนฝ่าฝืนกฎหมาย ส่งผลให้ถนนชำรุดเสียหาย และรัฐต้องสูญเสียงบประมาณในการซ่อมแซมแต่ละปีเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันสิ่งของที่บรรทุกเกินอย่างสินค้าเกษตรและสินค้าก่อสร้าง อิฐ หิน ปูน ทราย ที่บรรทุกเกินและไม่มีผ้าคลุมยังตกหล่นบนพื้นถนน เป็นอันตรายต่อรถคันอื่น โดยให้กระทรวงคมนาคมเข้มงวดเรื่องการชั่งน้ำหนักของรถบรรทุกที่ด่านชั่งถาวรและด่านชั่งเคลื่อนที่ด้วย ส่วนการเรียกร้องให้ใช้มาตรา 44 เอาผิดกับผู้ประกอบการที่จงใจฝ่าฝืนหรือกระทำผิดซ้ำนั้นจะต้องคิดให้รอบคอบ หากบังคับใช้กฎหมายปกติได้อย่างจริงจังถ้าผู้ประกอบการมีจิตสำนึกไม่คำนึงถึงแต่กำไรของตนแต่เพียงอย่างเดียวแล้วก็ไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ ผลการจัดระเบียบธุรกิจต่างๆ บนเกาะเสม็ดเดือนต.ค.ที่ผ่านมา พบว่าทำให้อุทยานฯจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า ขณะเดียวกัน ทหารลงพื้นที่ร่วมฝ่ายปกครอง เตรียมชี้แจงผู้ประกอบการรีสอร์ท 24 แห่ง เรื่องรื้อถอนวันที่ 21 พ.ย.นี้ นายณัฐพล รัตนพันธุ์ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติทางทะเล กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) แถลงความคืบหน้า กรณีที่ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ ได้ลงนามในคำสั่งโยกย้ายหัวหน้าอุทยานฯ เขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จ.ระยอง พร้อมเจ้าหน้าที่รวม 80 คนเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังตรวจสอบพบว่าอาจมีส่วนทุจริต และต่อมา พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอธิบดีกรมอุทยานฯ มีคำสั่งให้เร่งจัดระเบียบบนเกาะเสม็ด เพราะพบว่าบนเกาะเสม็ดทุกธุรกิจตั้งแต่มอเตอร์ไซค์ จักรยานให้เช่า เจ็ทสกี เรือสปีดโบ๊ท เรือกล้วย นวดชายหาด รวมทั้งธุรกิจอื่นๆ ที่ให้บริการนักท่องเที่ยวล้วนแล้วแต่มีมาเฟีย ที่ว่ากันว่าเกี่ยวข้องกับคนมีสีคุมทั้งสิ้น ความคืบหน้า ในวันนี้ (18 พ.ย.) นายประยูร พงศ์พันธ์ หัวหน้าอุทยาน แห่งชาติเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด กล่าวว่า การจัดระเบียบเกาะเสม็ด ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามารับหน้าที่ ก็ยกเลิกเจ็ทสกี // เรือกล้วย //พาราเซล หรือเรือลากร่ม ออกจากชายหาดบนเกาะเสม็ดไปแล้ว // ให้รถรับจ้างทุกคันลงทะเบียน เช่นเดียวกับ หมอนวดชายหาด และธุรกิจอื่นๆ รวมถึง ท่าเรือ ที่ปัจจุบัน มีทั้งหมด 7 แห่ง ได้ให้เจ้าหน้าที่ เฝ้าติดตามการขึ้นลง โดยจัดเก็บเข้าระบบ ทุกบาททุกสตางค์ ทำให้ยอดรายได้เข้าอุทยานฯ จากเดือนตุลาคม ปีก่อนเก็บได้ 1.2 ล้าน แต่ปีนี้เก็บได้กว่า 4.8 ล้าน และตั้งแต่วันที่ 1 พย. เป็นต้นมา เก็บได้แล้ว 2.6 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเก็บค่าเข้าอุทยานฯส่งเจ้าหน้าที่โดยตรงไม่ผ่านใครซึ่งในอนาคตจะยุบท่าเรือทั้งหมด คงไว้ท่าเรือ อบจ.แห่งเดียว ขณะเดียวกัน พล.ต.ยุทธชัย เทียรทอง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 14 (ผบ.มทบ.14) ได้ไปตรวจเยี่ยมกำลังพล กองพันทหารราบที่ 6 กองร้อยรักษาความสงบกองทัพเรือที่ 2 ค่ายมหาสุรสิงหนาท ระยอง และลงพื้นที่เกาะเสม็ด ประชุมร่วมคณะทำงานจัดระเบียบเกาะเสม็ดจังหวัดระยอง โดยมีนายธีระวัฒน์ สุดสุข รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมคณะทำงานรายงานความคืบหน้าการจัดระเบียบ เช่น การรุกล้ำสิ่งปลูกสร้างแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด กว่า 24 แห่ง ที่จะเชิญผู้ประกอบการทั้งหมดมารับทราบในวันที่ 21 พฤศจิกายน ต้องรื้อถอนภายใน 90 วัน นอกจากนี้จะมีการนำระบบโปรแกรมดาต้าเบท ที่สามารถป้องปรามตรวจสอบการเข้าออกของประชาชน นักท่องเที่ยว และแรงงานต่างด้าวที่มาทำงานบนเกาะเสม็ด โดยการแสกนบาร์โค้ตของบัตรประชาชน หรือ พาสปอร์ต ซึ่งจะทำให้รู้จำนวนคนเข้าคนออกที่ชัดเจน ที่สำคัญสามารถจัดเก็บภาษีต่างๆได้อย่างชัดเจน และลดปัญหาคอรัปชั่นได้
เจ้าหน้าที่อุทยานเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง สั่งให้ผู้ประกอบการจำนวน 22 ราย รื้อรีสอร์ทที่รุกล้ำพื้นที่ราชพัสดุ ของกรมธนารักษ์ ที่อนุญาตให้ผู้ประกอบการเช่า โดยกำหนดกรอบระยะเวลา 90 วัน หากยังไม่ดำเนินการเมื่อครบกำหนดจะดำเนินคดีตามกฎหมาย / ขณะที่ผู้ประกอบการเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่เป็นเฉพาะกรณีไป โดยอ้างว่าเอกสารการรังวัดของเจ้าหน้าที่กับผู้ประกอบการไม่ตรงกัน นายธีรวัฒน์ สุดสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมธนารักษ์ / เจ้าหน้าที่อุทยานเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เรียกผู้ประกอบการอยู่ในเขตพื้นที่สีแดง หรือพื้นที่ที่มีสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำนอกเขตให้เช่าของพื้นที่ราชพัสดุ ที่อยู่ในความดูแลของกรมธนารักษ์ บนเกาะเสม็ด จังหวัดระยอง รวม 22 ราย มาประชุมชี้แจง และหาทางออกร่วมกัน ในการแก้ไขปัญหาการรุกล้ำพื้นที่ราชพัสดุ นายมนตรี ชนะชัยวิบูลย์วัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างและรังวัดเกาะเสม็ด เปิดเผยว่า วันนี้เรียกผู้ประกอบการ 22 ราย ที่มีพื้นที่อยู่นอกเขตเช่า หรือพื้นที่สีแดง และต้องให้ลงนามร่วมกันในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างโดยให้ระยะเวลา 90 วัน หรือครบกำหนดวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ปี 2560 หากไม่รื้อตามกรอบระยะเวลาจะเข้าดำเนินการตามกฎหมาย ตามมาตรา 22 พ.ร.บ อุทยานแห่งชาติฯ ปี 2504 ด้านกลุ่มผู่ประกอบการ เรียกร้องให้คณะกรรมการพิจารณาการรื้อถอนเป็นราย ๆ ไปเนื่องจากเอกสารการรังวัตแนวเขตในปี 2542 ระหว่างกรมธนารักษ์ และผู้ประกอบการ มีบางส่วนไม่ตรงกัน จึงอยากให้พิจารณาเป็นรายไป เพื่อความถูกต้อง หากพบว่าอยู่นอกพื้นที่จริง ก็ยินดีที่จะให้มีการรื้อถอน โดยวันนี้ในจำนวนผู้ประกอบการ 22 ราย 24 สัญญา / มีผู้ลงนามเอ็มโอยูยินยอมรื้อถอนจำนวน 6 ราย ส่วนอีก 16 ราย จะขอยื่นเอกสารหลักฐานโต้แย้ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เปิดแผนปฏิบัติการจัดระเบียบเกาะเสม็ด ล้างบางมาเฟีย พูดคุยกับ ดร.ทรงธรรม สุขสว่าง ผู้ตรวจราชการกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการสำนักอุทยานฯ ชุดเฉพาะกิจพญาเสือ เข้าตรวจสอบบริเวณสัมปทานรังนก เนื่องจากบางพื้นที่ไม่ได้ขออนุญาตผ่านทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดเฉพาะกิจพญาเสือ ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นำกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณสัมปทานเกาะรังนกอีแอ่น หมู่เกาะ 4 เกาะ 5 ท้องที่อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง หลังจากบริษัทแห่งหนึ่งได้รับสัมปทานจากจังหวัดพัทลุง ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ขออนุญาตจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทำให้รัฐต้องเสียรายได้ปีละประมาณกว่า 500,000 บาท ตรวจสอบพบมีการก่อสร้างอาคาร จำนวน 3 หลัง โดยไม่ได้รับอนุญาต บริเวณหน้าถ้ำเทวดา และมีการทิ้งขยะในบริเวณดังกล่าว ทำให้มีผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ของเกาะ พร้อมกันนี้ยังได้มีการตั้งเสาวิทยุไว้บนยอดเขาหน้าถ้ำเทวดาโดยไม่ได้รับอนุญาต เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลหลวงพัทลุง ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรปากพะยูนไว้เป็นหลักฐานแล้ว ส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้ารื้อถอนรีสอร์ทบนภูทับเบิก โดยวันนี้รื้อ 3 แห่ง หลังคดีในชั้นศาลถึงที่สุดแล้ว คือ เอวารีสอร์ท, สมอลล์วิว รีสอร์ท และ รีสอร์ทบ้านภูสายหมอก อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทั้ง 3 รีสอร์ทได้รื้อถอนโครงสร้างบางส่วนออกไป สำหรับพื้นที่ภูทับเบิกมีการรื้อรีสอร์ทไปแล้ว 22 แห่ง หลังครบกำหนด 30 วัน ตามประกาศหัวหน้า คสช. ที่ให้รีสอร์ทและสถานประกอบการบนภูทับเบิกที่ขาดคุณสมบัติ ล็อตที่ 2 ซึ่งเข้าข่ายทำผิดระเบียบเพิ่มเติมอีก 3 แห่ง ให้ปฏิบัติตามคำสั่งศาล โดยการขนย้ายและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไป ล่าสุดวันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สนธิกำลังร่วมกับหลายหน่วยงาน นำกำลังและเครื่องจักรเข้ารื้อถอนโครงสร้างอาคารที่เหลือให้เรียบร้อย และขอความร่วมมือสถานประกอบการอื่น ๆ อย่าเพิ่งก่อสร้างอาคารเพิ่มเติม เพื่อให้ภาครัฐจัดระเบียบและฟื้นฟูสภาพพื้นที่ พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและบริการบนเกาะเสม็ด จังหวัดระยอง เรียกร้องให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาเกาะเสม็ด มีความชัดเจนเรื่องการจัดระเบียบบนเกาะ เพื่อไม่ให้กระทบกับภาพรวมการท่องเที่ยว ย้ำทุกคนพร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย การจัดระเบียบเกาะเสม็ดดำเนินการต่อเนื่องมาหลายปี และจริงจังขึ้นหลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.เข้าควบคุมอำนาจการปกครองเมื่อปี 2557 มีการส่งทหารเข้าไปจัดระเบียบและกดดันผู้มีอิทธิพลซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังมานาน ตามด้วยการประกาศล้างมาเฟียบนเกาะของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รวมทั้งจัดระเบียบบ้านพักตากอากาศไม่ให้รุกล้ำพื้นที่สาธารณะ จากการลงพื้นที่ของ “ทีมพิกัดข่าวฯ” พบว่าเดิมผู้ประกอบการสาขาต่างๆ บนเกาะเสม็ดได้รวมตัวตั้งเป็นชมรมธุรกิจของตนเองเพื่อบริหารจัดการดูแล โดยแยกเป็นกลุ่มธุรกิจอย่างชัดเจน ซึ่งก็ไม่มีปัญหาใดๆ เพียงแต่ไม่ได้จำกัดจำนวนผู้ประกอบการ ทำให้ธุรกิจบางสาขามีมากเกินไป จนแก่งแย่งลูกค้ากันเอง ขณะที่บางสาขามีการจำกัดจำนวน แต่ก็กลายเป็นช่องทางให้มีการเรียกเก็บค่าหัวคิวสำหรับคนที่ต้องการร่วมในธุรกิจ เช่น หมอนวด คิวรถจักรยานยนต์ คิวรถสองแถว เป็นต้น นายพิศณุ เขมะพรรค์ อดีตนายกสมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกาะเสม็ด บอกกับ “ทีมพิกัดข่าวฯ” ว่า การจัดระเบียบเป็นเรื่องที่ดี เพราะบางเรื่องชมรมธุรกิจที่ตั้งขึ้นมาก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด ต้องพึ่งการดำเนินการของคณะกรรมการฯ เพียงแต่ทางผู้ประกอบการขอให้มีความชัดเจน ออกประกาศคำสั่งมาให้เป็นลายลักษณ์อักษรได้ยิ่งดี เพราะทุกคนต้องการทำถูกกฎหมาย ด้านผู้ประกอบการวินรถจักรยานยนต์ให้เช่า ร้องเรียนกับทีมพิกัดข่าวฯว่า ที่ผ่านมามีการเปิดคิวปลอม หรือคิวผีขึ้นมา ซึ่งเป็นคิวผิดกฎหมาย นอกเหนือข้อตกลงที่ทำไว้กับหน่วยงานรัฐ แล้วมาหลอกเอาเงินจากผู้ที่สนใจทำธุรกิจ เป็นค่าแรกเข้าถึง 15,000 บาทต่อคัน แต่เมื่อมีการจัดระเบียบ จึงทราบว่าเป็นคิวเถื่อน ทำให้พวกตนได้รับความเดือดร้อน จึงขอให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาเกาะเสม็ดตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย จากการตระเวนสอบถามผู้ประกอบการสาขาต่างๆ บนเกาะเสม็ด มีเสียงติติงว่าการจัดระเบียบของหน่วยงานภาครัฐเข้มงวดเกินไป โดยเฉพาะการส่งกำลังทหารเข้ามาในพื้นที่ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติหวาดกลัว ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงอย่างเห็นได้ชัด ชุดปฏิบัติการพิเศษฉลามขาว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เดินหน้าปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าชายเลนที่จังหวัดเพชรบุรี เป็นวันที่ 2 ตรวจสอบรีสอร์ทบุกรุกออกเอกสารสิทธิทับซ้อนกับป่าชายเลน นายรัชชัย พรพา หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฉลามขาว นั่งเฮลิคอปเตอร์บินตรวจดูพื้นที่รอบเกาะเบ๊นซ์ พื้นที่ 18 ไร่ ที่ตำบลปึกเตียน หลังพบออกโฉนดที่ดินและสร้างรีสอร์ททับซ้อนพื้นที่ป่าชายเลน ก่อนที่นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจะสนธิกำลังเข้าตรวจสอบ ซึ่งรีสอร์ทนี้ เมื่อปี 2542 คณะกรรมการ ป.ป.ป.เคยส่งเรื่องให้กรมที่ดินเพิกถอนโฉนดแล้ว เนื่องจากออกทับซ้อนกับที่สาธารณะประโยชน์ แต่ปัจจุบันกลับยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านร้องเรียนรีสอร์ทแห่งนี้สร้างเขื่อนกันคลื่นทำให้เกิดปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งรุนแรง รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงต้องรื้อรีสอร์ทออกให้เร็วที่สุดและปรับสภาพให้เป็นหาดทรายเหมือนเดิม หลังจากนี้จะส่งเรื่องให้จังหวัดและกรมที่ดินอีกครั้ง เพื่อพิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิต่อไป ผลปฏิบัติงานทวงคืนพื้นที่ป่าชายเลนของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในปีนี้ได้พื้นที่คืน 19,840 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ประมาณ 1,000 ไร่ แม่ทัพภาคที่ 1 ติดตามผลการจัดระเบียบท่าเรือแหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ตามคำสั่ง คสช. ล่าสุด สามารถดำเนินการได้แล้วร้อยละ 95 ชุดฉลามขาว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สนธิกำลังร่วมกับ กอ.รมน.จังหวัดเพชรบุรี มณฑลทหารบกที่ 15 และส่วนปกครอง สนธิกำลังกัน เปิดยุทธการตรวจสอบ รังวัด แจ้งดำเนินคดีผู้บุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนในจังหวัดเพชรบุรีกว่า 400 ไร่ จากภาพมุมสูงจะเห็นว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ติดแนวชายฝั่งทะเล ถูกแปรสภาพเป็นนาเกลือจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าแจ้งความบันทึกจับกุมตามกฏหมาย ขณะที่ชุดฉลามขาวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ให้เข้าตรวจสอบรีสอร์ท บนเกาะเบ็นซ์ ตำบลบางเก่า อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี หลังพบมีการทิ้งหินถมชายหาด เมื่อเข้าตรวจสอบ พบมีการถมหินผิดหลักวิชาการ และรุกเข้าไปในทะเล ชายหาด และคลองบางส่วน ที่ล้วนเป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ ที่คณะรัฐมนตรีประกาศเป็นพื้นที่ป่าชายเลน ห้ามทำประโยชน์มาตั้งแต่ปี 2530 แต่ต่อมากลับมีการออกเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนด ในปี 2534 จึงนำไปสู่กระบวนการพิสูจน์สิทธิ์ พื้นที่จำนวน 18 ไร่เศษ ระหว่างเจ้าของรีสอร์ท และ ปปช. ผ่านมา 17 ปี เรื่องยังไม่มีความคืบหน้า ด้านเจ้าของรีสอร์ทบนเกาะเบ็นซ์ ยืนยัน มีสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมายโดยยึดตามเอกสารที่ตัวเองครอบครอง จากนี้ชุดฉลามขาวจะรวบรวมทั้งเรื่องที่ดิน และปัญหากัดเซาะชายฝั่ง ส่งต่อให้กรมที่ดินพิจารณาเพิกถอนต่อไป ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ชุดฉลามขาวลุยบุกจับการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนได้ตามเป้าหมาย โดยเฉพาะปีนี้ได้เกินเป้า เกือบ 20,000 ไร่ โดยตั้งเป้าหมายในปีหน้าจะลุยทวงคืนป่าชายเลนให้ได้ไม่ต่ำกว่า 15,000 ไร่ โดยจะเน้นไปพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ ที่มีการทำรีสอร์ทและนากุ้งจำนวนมาก พร้อมจะผลักดันให้เกิดกฎหมายพิเศษ เพื่อแก้ปัญหาระยะเวลาการพิสูจน์เอกสารสิทธิ์ให้รวดเร็วขึ้นด้วย ผ่านมา 1 เดือน หลังเจ้าหน้าที่เข้าจัดระเบียบพื้นที่สาธารณะบริเวณแหลมบาลีฮาย ก็เกิดความแตกต่างขึ้นอย่างชัดเจน เรือสปีดโบ๊ทของผู้ประกอบการที่จอดอยู่อย่างหนาแน่นจำนวนกว่า 1,000 ลำ ถูกย้ายออกจากพื้นที่ทั้งหมด คืนพื้นที่สาธารณะกลับคืนให้กับชาวเมืองพัทยา ซึ่งนี่เป็นอีก 1 โมเดลความร่วมมือในการบูรณาการจัดระเบียบร่วมกันของหน่วยงานท้องถิ่นตามนโยบายของ คสช. ในการจัดระเบียบผู้บุกรุกพื้นที่สาธารณะ
เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังจัดระเบียบทางเท้าหน้าตลาดโรงเกลือ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่นและเทศกาลปีใหม่ โดยหวังดึงเม็ดเงินเข้าจังหวัดสระแก้ววันละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ รวมถึงเจ้าหน้าที่เทศกิจ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้สนธิกำลังออกทำการจัดระเบียบบริเวณทางเดินเท้าบนฟุตบาทริมถนนศรีเพ็ญ ซึ่งเป็นถนนหน้าตลาดโรงเกลือ แหล่งการค้าชายแดนสำคัญใน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อสร้างความเป็นระเบียบและความสวยงามให้แก่ตลาดโรงเกลือ สำหรับรองรับการเข้าสู่ไฮซีซั่น และเทศกาลปีใหม่ของตลาดโรงเกลือ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ตระเวนทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการร้านค้าริมถนนศรีเพ็ญ หน้าตลาดโรงเกลือ ให้ช่วยการรักษาความสะอาดและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ตลาดโรงเกลือ โดยห้ามนำสินค้าและสิ่งของต่างๆ มาวางขายและวางเกะกะบนฟุตบาททางเดินเท้าริมถนนศรีเพ็ญ พร้อมเตือนผู้ประกอบการ หากพบมีการนำสินค้าและสิ่งของมาวางเกะกะบนฟุตบาทอีกเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจยึดและดำเนินคดี การจัดระเบียบครั้งนี้ หวังจะกระตุ้นการท่องเที่ยวตลาดโรงเกลือ และด่านพรมแดนอรัญประเทศ ซึ่งตามปกติในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวในเทศกาลปีใหม่ จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาเที่ยววันละประมาณหมื่นคน เพื่อมาจับจ่ายซื้อสินค้าในตลาดโรงเกลือ โดยคาดว่า จะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในจังหวัดสระแก้วไม่ต่ำกว่าวันละ 10 ล้านบาท กรุงเทพมหานครเดินหน้าจัดระเบียบทั่วกรุงฯ สั่งเทศกิจต้องเอาจริง หากพบผู้กระทำผิด ขับหรือจอดรถมอเตอร์ไซด์บนทางเท้าต้องสั่งปรับทันที 5,000 บาท หากเอาไม่อยู่โดยสั่งย้ายแน่ เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงาน กทม. หลังเสร็จสิ้นการประชุม นายสัจจะ คนตรง รองผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กทม. กล่าวว่า ทางกทม.ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า ประชาชนเป็นจำนวนมากได้รับเดือดร้อนจากผู้ที่ขับขี่จักรยานยนต์บนทางเท้า ทางกทม.จึงกำชับให้เจ้าหน้าที่กวดขันไม่ให้มอเตอร์ไซค์ขับและจอดบนทางเท้า หากพบการฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5 พันบาท นอกจากนี้ สำนักเทศกิจได้เสนอให้ปลัด กทม. ทำหนังสือกำชับไปยังสำนักงานเขตให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด โดยให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบว่าการขับขี่รถจักรยานยนต์และจอดรถบนทางเท้าถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ส่วนกรณีที่พบผู้จอดรถจักรยานยนต์บนทางเท้า แต่ไม่พบผู้ครอบครอง ขอให้เจ้าพนักงานเคลื่อนย้ายรถที่กระทำความผิดไว้ที่สำนักงานเขต พร้อมทั้งลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจท้องที่ เพื่อให้ผู้กระทำความผิดจ่ายค่าเปรียบเทียบปรับ แต่หากภายใน 15 วันผู้กระทำความผิดไม่ยินยอมขอให้เจ้าพนักงานดำเนินคดีได้ทันที ทั้งนี้ ในปี 2559 สำนักงานเขตได้จับกุมผู้กระทำความผิดกรณีมอเตอร์ไซค์ขับและจอดบนทางเท้าแล้ว 9,514 ราย และมียอดค่าปรับ 7,227,760 บาท ด้านพล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ได้ให้สำนักเทศกิจตั้งคณะทำงานทำการประชาสัมพันธ์ เพื่อไม่ให้ผู้ที่มักง่ายขับมอเตอร์ไซค์บนทางเท้า แต่หากการประชาสัมพันธ์ยังแก้ปัญหาไม่ได้ ขอให้เจ้าหน้าที่เทศกิจบังคับใช้กฎหมายทันที โดยหากพื้นที่ตรงไหนเจ้าหน้าที่เทศกิจเอาไม่อยู่ ก็จะมีการสั่งย้ายเทศกิจทันทีเช่นกัน ขณะที่นายศรชัย โตวานิชกุล รองผู้อำนวยการสำนักการโยธา กทม. กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา กทม.ได้ทำการรื้อย้ายตู้โทรศัพท์ในกรุงเทพ ตามนโยบายจัดระเบียบตู้โทรศัพท์ ซึ่งขณะนี้สามารถรื้อย้ายตู้โทรศัพท์ไปแล้ว 3,189 ตู้ และล่าสุดนายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯกทม.มอบหมายให้สำนักการโยธา รวบรวมข้อมูลตู้โทรศัพท์ที่ยังคงเหลือในพื้นที่เขตต่างๆ และรายงานกลับมาในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ ก่อนจะทำการรื้อย้ายต่อไป สำหรับตู้โทรศัพท์ที่จะรื้อย้าย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม 1.ตู้โทรศัพท์ที่ได้รับอนุญาต แต่ดำเนินการผิดเงื่อนไข 2.ตู้โทรศัพท์ของบริษัท ฟังค์ชั่น แอ็ดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด ซึ่งมีทั้งหมด 485 ตู้ และ 3.ตู้โทรศัพท์ในตรอก ซอก ซอย ซึ่งกีดขวางการจราจร เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกรุกชายหาดหัวหิน หลังศาลมีคำสั่งให้รื้อถอน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการได้ ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมเข้าแจ้งความเพิ่มเติม ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สั่งจัดระเบียบร้านค้ารอบบึงพระราม และโบราณสถานทุกแห่ง หลังส่งผลกระทบกับนักท่องเที่ยว และมีปัญหาการเรียกรับผลประโยชน์ กทม.เริ่มเอาจริงเอาจังกับการจัดระเบียบทางเท้า โดยเฉพาะจักรยานยนต์ที่ขึ้นมาวิ่ง และ จอดกีดขวางทางเท้า หากพบผู้กระทำผิดสามารถจับปรับได้ทันที พลตำรวจโท อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุแนวทางการแก้ไขการขับขี่จักรยานยนต์บนทางเท้า ว่าเป็นหนึ่งในมาตรการจัดระเบียบทางเท้าเพื่อให้เป็นระเบียบ และเกิดความปลอดภัยของประชาชน ขณะนี้ได้เร่งประชาสัมพันธ์เพื่อขอความร่วมมือจากประชาชน โดยจะขึ้นป้ายประกาศตามเส้นทางที่การจราจรติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วนเป็นหลัก พร้อมให้เจ้าหน้าที่เทศกิจใช้เครื่องเปล่งเสียงประกาศเตือนหากพบผู้ขับขี่จักรยานยนต์บนทางเท้า และหากพบยังมีการกระทำผิดจะทำการจับปรับทันที โดยตามความผิดปรับไม่เกิน 5,000 บาท ตามพ.ร.บ.จราจร ห้ามมิให้ผู้ใดจอดหรือขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือล้อเลื่อนบนทางเท้า ส่วนกรณีพบผู้จอดรถจักรยานยนต์บนทางเท้าแต่ไม่พบผู้ครอบครอง เจ้าพนักงานสามารถเคลื่อนย้ายรถที่กระทำความผิดไว้ที่สำนักงานเขต พร้อมลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจท้องที่ เพื่อให้ผู้กระทำความผิดจ่ายค่าเปรียบเทียบปรับ
กรมอุทยานแห่งชาติ ยันไม่ผ่อนปรนรื้อ 24 รีสอร์ทบนเกาะเสม็ด เตรียมลงพื้นที่พิสูจน์สัญญาเช่าอีก 9 รายที่ยังยื้อให้จบภายใน 15 ธันวาคมนี้ หากยุติต้องรื้อภายใน 90 วัน อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายธัญญา เนติธรรมกุล บอกถึงการจัดระเบียบและล้างบางมาเฟียในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จ.ระยอง ว่าจะดำเนินการจริงจัง เบื้องต้นได้รับรายงานผลการประชุมร่วมกับฝ่ายความมั่นคง ซึ่งได้เชิญตัวแทนผู้ประกอบรีสอร์ททั้ง 24 ราย โดยบางส่วนยินดีที่จะรื้อถอนเอง และส่วนหนึ่งยังไม่ยอม โดยกลุ่มที่ไม่ยอมรื้อถอนจะยื่นส่งเอกสารที่อ้างการครอบครอง ซึ่งจะให้โอกาสส่งมา หากไม่ถูกต้องก็จะดำเนินการทั้งหมด และขณะนี้กำลังวางแผนขั้นตอนการดำเนินการว่าจะต้องทำอะไรบ้าง นับจากนี้ไปอีก 90 วันตามเงื่อนเวลาที่กำหนดไว้ เจ้าหน้าที่ทหารร่วมกับตำรวจ สภ.เพ นำกำลังบุกเข้าตรวจค้นรีสอร์ทบนเกาะเสม็ด เพื่อกวาดล้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและปราบปรามยาเสพติด เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ทหารค่ายมหาสุรสิงหนาท พร้อมตำรวจ สภ.เพ จ.ระยอง และเจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอเมืองระยอง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกว่า 120 นาย แบ่งเป็นกลุ่มละ 12 คน เข้าตรวจค้นรีสอร์ทบนเกาะเสม็ด รวม 10 แห่ง ในเวลาเดียวกันเพื่อจับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาทำงานโดยผิดกฎหมาย และปราบปรามยาเสพติด ผลปฏิบัติการสายฟ้าแลบสามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา เป็นชาย 2 คน หญิง 2 คนได้ที่ รีสอร์ทแห่งหนึ่ง โดยพบว่าแรงงานต่างด้าวมีบัตรสีชมพู เป็นบัตรทำงานประเภทแปรรูปสัตว์น้ำ แต่กลับมาทำงานประเภทบริการ เจ้าหน้าที่แรงงานจังหวัดระยอง จึงแจ้งข้อหาทำงานผิดประเภทตามมาตรา 26 พร้อมนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เพ ดำเนินคดี ต่อไป ด้าน นาวาตรีเอกพล ทองรักษา นายทหารยุทธการ กล่าวว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้เป็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังโดยได้ทำการตรวจสอบใบอนุญาตทำงาน และสุ่มตรวจหาสารเสพติดของแรงงานต่างด้าวที่ทำงานบนเกาะเสม็ด ถือเป็นการจัดระเบียบเกาะเสม็ดให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว จากคำสั่งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 35/2559 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2559 เรื่อง มาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินป่าภูทับเบิก ในท้องที่ตําบลวังบาลและตําบลบ้านเนิน อําเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) 2557 ที่มีใจความสำคัญ คือสั่งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองสิ่งปลูกสร้างออกจากป่าภูทับเบิกภายในเวลาที่กําหนด และงดเว้นการกระทําใด ๆ ในป่าภูทับเบิก หลังจากที่มีปฎิบัติการรื้อถอนรีสอร์ตต่าง ๆ มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม โดยดำเนินการกลุ่มแรก 19 แห่งเรียบร้อยแล้ว // กลุ่มสอง 19 แห่งเช่นกัน รื้อถอนแล้ว 3 แห่ง และอยู่ระหว่างการปฎิบัติตามคำสั่งศาลให้รื้อถอนภายในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ 1 แห่ง คือภูนับดาว ซึ่งจากการประชุมคณะทำงานฝ่ายปฏิบัติการ ศูนย์ปฏิบัติการตามมาตรการแก้ไขปัญหาการครอบครองและใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าภูทับเบิกวันนี้ ซึ่งมีนายกฤษณ์ คงเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดบูรณ์ เป็นประธาน มีมติว่า หากครบกำหนดและยังดื้อแพ่งไม่รื้อถอน // ในวันที่ 5 มกราคม 2560 จะนำคณะเจ้าหน้าที่ไปรื้อถอนให้แทน ส่วนที่เหลืออีก 15 แห่งอยู่ระหว่างรอคำสั่งศาล ที่ประชุมวันนี้ยังหารือถึงแนวทางดำเนินคดีรีสอร์ต 14 แห่ง จาก 64 แห่งในกลุ่ม 3 ซึ่ง 14 แห่งนี้ นายสมลักษณ์ ยกน้อยวงษ์ นายอำเภอหล่มเก่า ได้รายงานผลเจรจากับเจ้าของและผู้ประกอบในกลุ่มนี้ ว่าบางส่วนยินยอมรื้อถอนเองและเลิกกิจการไปบ้างแล้ว ทำให้เหลือ 11 แห่ง ที่อยู่ในเป้าหมายถูกจับกุมดำเนินคดี ได้แก่ 1.ภูกระต๊อบเงิน 2.ชิวแลนด์ 3.ไร่ภูแสงตะวัน 4.ไร่ลุงหั่งภูทับเบิก 5.ไร่มะลิหอม 6.ร้านกาแฟพาโนรามา 7.ภูไร่ข้าวฟ่าง 8.เกาะแกะภูทับเบิก 9.ร้านกาแฟมอนโตริโอ 10.กองฟางเต้นท์ และ11.ทับเบิกอินดี้ ที่ประชุมได้กำหนดว่าวันที่ 21-23 ธันวาคมนี้ ให้เปิดปฏิบัติจับกุมรีสอร์ต 11 แห่ง โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดบูรณ์ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เตรียมการให้พร้อมและให้ปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้นก่อนถึงปีใหม่ เจ้าหน้าที่เมืองพัทยาปิดหมายแจ้งโรงแรมดังริมหาดวงศ์อมาตย์ ในพื้นที่พัทยา สั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำพื้นที่สาธารณะจี้แก้ไขภายใน 15 วัน เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ส่วนผังเมือง สำนักการช่างเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นำใบประกาศแจ้งให้ดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำที่สาธารณะ ไปปิดประกาศไว้บริเวณแนวกำแพงหน้าบันไดทางขึ้นสระว่ายน้ำของโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่พัทยา ฝั่งริมทะเลชายหาดวงศ์อมาตย์ ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยใบประกาศระบุว่า ด้วยเมืองพัทยาได้ตรวจสอบพบว่ามีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำที่ดินสาธารณประโยชน์ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดฐานเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของรัฐ ซึ่งเมืองพัทยาในฐานะผู้ได้รับมอบ หมายจากกระทรวง มหาดไทยให้เป็นผู้ดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันที่ดินอันเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่น จึงขอแจ้งให้ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำที่สาธารณประโยชน์ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับดังกล่าว โดยหากครบระยะเวลาที่กำหนดแล้วยังฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามเมืองพัทยาจะเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการทางกฎหมาย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ บอกว่า ทางเมืองพัทยาตรวจสอบพบว่าโรงแรมดังกล่าว มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่รุกล้ำกินพื้นที่สาธารณะชายทะเลขนาดประมาณ 6 เมตร จึงทำหนังสือและนำมาปิดเพื่อแจ้งให้ทราบ และหาแนวทางการแก้ไขในเร็ววันนี้
ส.ป.ก.ตรวจยึดพื้นที่สวนส้มชื่อดัง 3 ราย ได้แก่ สวนส้มธนาธร สวนส้มเชียงใหม่มิตรเกษตร และสวนส้มอมรมิตร ใน จ.เชียงใหม่ พื้นที่รวมกว่า 6,000 ไร่ รุกโบราณสถานด้านหลังวิหารพระมงคลบพิตร รัฐชี้แจงผู้ค้ากว่า 100 ร้านย้าย 15 มี.ค.นี้ ข่าว 7 สี - สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกหนังสือชี้แจงการดำเนินคดีกับพลตำรวจเอกจุมพล มั่นหมาย อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฐานบุกรุกป่าเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ออกเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงการดำเนินการกับพลตำรวจเอกจุมพล มั่นหมาย อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีปลูกบ้านบุกรุกเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน โดยเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ได้เข้าตรวจสอบบ้านพักตากอากาศเลขที่ 163 หมู่บ้านสุขสมบูรณ์ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านของพลตำรวจเอกจุมพลที่ก่อสร้างไว้พักผ่อน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีเนื้อที่กว่า 13 ไร่และก่อสร้างอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน โดยพลตำรวจเอกจุมพลได้ซื้อที่ดินดังกล่าวต่อมาจากพลตำรวจตรีพงษ์เดช พรหมวิจิตร และภรรยา ตั้งแต่ปี 2554 ก่อนนำไปก่อสร้างบ้านพัก และปรับภูมิทัศน์ที่ดินเพื่อพักอาศัย เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีกับพลตำรวจเอกจุมพล, พลตำรวจตรีพงษ์เดช และภรรยา ในหลายข้อหาตาม พ.ร.บ.ป่าไม้, พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ, พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย รอง ผบ.ตร.เรียกประชุมคดีที่ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย กับ พวก บุกรุกที่ดินวังน้ำเขียว ในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ก่อนแถลงความชัดเจนในการดำเนินคดีอีกครั้ง พลตำรวจเอก ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมคณะทำงานทั้งตำรวจปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ ตํารวจภูธรวังน้ำเขียว ในคดีการสร้างบ้านพักต่างอากาศเนื้อที่กว่า 13 ไร่ ของพลตำรวจเอก จุมพล มั่นหมาย อดีตรอง ผบ.ตร.กับพวก บุกรุกพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติทับลาน อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา หลังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งให้ตรวจสอบเพื่อดำเนินการเอาผิดอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งล่าสุดอยู่ระหว่างการประชุมซึ่งจะมีความชัดเจนในการดำเนินการเอาผิดอีกครั้ง ทั้งนี้ยังได้เรียกประชุมคณะทำงานคดีของวัดพระธรรมกายด้วย ด้านนายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ข้อมูลทางคดีและการตรวจยึดต่างๆมาจากส่วนกลาง ในส่วนของอุทยานได้ให้เจ้าหน้าที่ไปร้องทุกข์กล่าวโทษเท่านั้น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ในส่วนของพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานในช่วงที่ตนเองมาทำหน้าที่ ส่วนใหญ่ไม่พบการบุกรุกเพิ่ม โดยขณะนี้มีคดีความอยู่ในกระบวนการพิสูจน์สิทธิ์กว่า 300 คดี ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่วังน้ำเขียว บางแปลงอยู่ก่อนออกประกาศเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ขณะที่หลายแปลงถูกเปลี่ยนมือมาหลายคน จึงต้องใช้เวลาในการพิจารณากว่าจะเสร็จสิ้นคดีความ
26 ก.พ. – ชุดพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมกับชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจ และทหาร ลงพื้นที่อ่าวต้นไทร ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ตรวจสอบการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาอ่าวน้ำเมา และป่าเขาอ่าวนาง เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 พบมีการบุกรุก ปลูกสร้างที่พัก โรงแรม รีสอร์ท และสถานประกอบการนำเที่ยวหลายสิบ เนื้อที่กว่า 100 ไร่ จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่มีหลักฐานการครอบครอง ขณะที่ผู้ประกอบการอ้างว่าเช่าพื้นที่ต่อจากผู้ครอบครองอีกทอดหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงยึดพื้นที่ เพื่อให้เจ้าของที่ดินนำหลักฐานมาแสดง นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ เปิดเผยว่า บางแปลงมีการจับกุมไปแล้วและอยู่ระหว่างการดำเนินคดีและมีการบุกรุกพื้นที่เพิ่มเติม บางแปลงเป็นการบุกรุกพื้นที่ใหม่ ก่อนแบ่งเป็นล็อคเปิดให้เอกชน และผู้ประกอบการเช่าพื้นที่เปิดกิจการ สำหรับพื้นที่อ่าวต้นไทร เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม มีโรงแรมระดับ 5 ดาวหลายแห่ง ทำให้ที่ดินราคาสูงถึงไร่ละ 10 ล้านบาท ส่วนคืบหน้าเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย เข้าตรวจสอบพร้อมตรวจยึดรีสอร์ทบ้านบ้านพักตากอากาศ พื้นที่เกาะพยาม แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอันดับ 1 ของจังหวัดระนอง วันนี้เจ้าหน้าที่ทำบันทึกจับกุมพร้อมเอกสาร ส่งพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรปากน้ำ อำเภอเมืองระนอง แจ้งความดำเนินคดีกลุ่มนายทุน 7 ราย จาก 9 ราย ส่วน 2 ราย นำเอกสารมาแสดงเพิ่มเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบ และอีก 40 ราย กำลังตรวจสอบเอกสารว่าเป็นของจริงหรือไม่ โดยต้องนำไปเทียบกับแผนที่ดาวเทียมปี 2545 ว่า มีร่องรอยการทำกินหรือไม่ และหนังสือที่นำมาแสดงเป็นจุดเดียวกับที่ถือครองหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาตรวจสอบพบมีการปลอมแปลงเอกสารทางราชการเรื่องหนังสือครอบครองที่ดินมาหลอกขายให้กับผู้ถือครองหลายราย และอาจจะมีเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งเป็นที่น่าเชื่อถือเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง และเจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 40 บางสัก ตรัง ลงพื้นที่ ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง เพื่อตรวจสอบกรณีฟาร์มกุ้ง บริษัทลูกของบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ออกเอกสาร น.ส.3 ก รุกป่าชายเลน เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ทับที่ดินทำกินและบ้านเรือนกว่า 400 ไร่ ชาวบ้านร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ 2557 แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข และมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบระดับอำเภอ แต่ต้องสะดุดลงเนื่องจากบริษัทไม่สามารถนำชี้แนวเขตของที่ดินได้ และแจ้งว่าไม่มีงบประมาณจ้างเจ้าหน้าที่ทำการรังวัดแนวเขต ชาวบ้านจึงร้องเรียนไปกรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงมาตรวจสอบ โดยที่ดินจังหวัดตรัง สาขา กันตัง กำลังเร่งตรวจสอบ เนื่องจากพบว่าเอกสารแบบที่ ส.ค.1 ราย แปลงหายไป จึงต้องบูรณาการตรวจสอบร่วมกับหลายหน่วยงาน แต่เบื้องต้นพบความผิดปกติการออกเอกสาร น.ส.3 ก หลายอย่าง เชื่อว่าเนื้อที่ต้องเกินไปจาก ส.ค.1 จำนวน 12 แปลง รวมทั้งรายละเอียดของบุคคลที่เกี่ยวข้องพบว่าเป็นกลุ่มคนเดียวกัน ออกเอกสารสิทธิ์เวลาใกล้เคียงกัน. –สำนักข่าวไทย ตำรวจเตรียมคุมตัวพล.ต.อ. จุมพล สอบปากคำที่กองปราบปราม 2 มี.ค. นี้ พร้อมส่งศาลจังหวัดนครราชสีมา ข่าว 7 สี - ปฏิบัติการไล่รื้อบ้านที่อยู่อาศัยใต้ทางด่วนดินแดง ยืดเยื้อมาตั้งแต่ช่วงเช้า ล่าสุดเจรจาตกลงกันได้ ในเงื่อนไข 30 วัน เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตดินแดง พร้อมกำลังตำรวจและทหาร เจรจากับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใต้ทางด่วนดินแดง ให้ย้ายออกจากพื้นที่ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เพราะชาวบ้านได้ปลูกสร้างบุกรุกที่ ซึ่งชาวบ้านขัดขวางเจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้ารื้อบ้านเรือน และอาศัยที่อยู่โดยผิดกฎหมาย เกิดการกระทบกระทั่งยื้อแย่งสิ่งของ ปฏิบัติการยืดเยื้อกว่า 6 ชั่วโมง ที่สุดทั้ง 2 ฝ่าย ตกลงกันได้มีมติร่วมกัน กทม.รับข้อเสนอ และทำสัญญาให้ชาวบ้านอยู่ต่อได้อีก 30 วันตามที่ขอ แล้วจะยอมย้ายออกไป หากฝ่าฝืนจะรื้อถอนตามกฎหมายควบคุมอาคาร สำหรับการรื้อถอนบ้าน เบื้องต้นมีบ้าน นางลออ และ นายไวพจน์ จั่นพา รวม 2 หลัง อยู่ระหว่างดำเนินคดีตามกฎหมาย และยังมีสิ่งปลูกสร้างของประชาชนอีกกว่า 30 ราย ที่พบว่าบุกรุกเช่นกัน และในพื้นที่นี้ เมื่อปี 2549 เคยเกิดเหตุเพลิงไหม้ วอดไป 14 ห้องมาแล้ว กรณีร้านค้าบริเวณวิหารพระมงคลบพิตร โบราณสถานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไม่ยอมย้ายออกหลังมีการเจรจามานาน ล่าสุดถึงกำหนดเส้นตายให้ย้ายร้านค้าทั้งหมดรอบวิหารพระมงคลบพิตร ออกจากพื้นที่แล้ว นางสยุมพร กุลสุ หัวหน้าชุดเฉพาะกิจศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บอกว่า ล่าสุดได้ตัดน้ำ ตัดไฟ ร้านค้าที่ไม่ยอมย้ายออกจากบริเวณวิหารหลวงพ่อมงคลบพิตร อำเภอพระนครศรีอยุธยา พร้อมปิดทางเข้า-ออกทุกทาง เพื่อไม่ให้ร้านค้าขนข้าวของเข้าออกมาในพื้นที่ เพราะที่ผ่านมามีการเจรจาขอให้ย้ายออกจากบริเวณโบราณสถานมานานร่วมปี ประกอบกับองค์การยูเนสโก้ มีหนังสือเตือนเนื่องจากเป็นมรดกโลก แต่กลับมีร้านค้าเพิ่มมากขึ้น จึงไม่เหมาะสม ไม่เช่นนั้นทางยูเนสโก้อาจจะถอดจากการเป็นพื้นที่มรดกโลก สำหรับจุดจำหน่ายสินค้าแห่งใหม่ที่เตรียมไว้อยู่บริเวณศูนย์ราชการหลังเก่า ห่างจากโบราณสถานวิหารหลวงพ่อมงคลบพิตร ประมาณ 100 เมตร ร้านค้าที่ยังไม่ยอมย้ายออก จำนวน 160 ร้านค้า ทางเจ้าหน้าที่ยังให้โอกาส หากประสงค์จะค้าขายต่อไป สามารถมาลงชื่อเพื่อย้ายไปยังจุดขายแห่งใหม่ แต่หากยังดื้อรั้นไม่ยอมออกจากพื้นที่จะถูกดำเนินการตามกฎหมายทันที คาดว่าการเคลียร์พื้นที่มรดกโลกนี้จะแล้วเสร็จภายในวันนี้ เนื่องจากบางส่วนรื้อเต็นท์วางจำหน่ายสินค้าออกไปบ้างแล้ว และเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หลังจากทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีคำสั่งให้เร่งจัดระเบียบร้านค้าหลังวิหารพระมงคลบพิตร โดยวันนี้ เจ้าหน้าที่บูรณาการ 3 หน่วยงาน ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่เทศบาล เทศกิจและกรมศิลปากร นำคนงานจำนวน 300 คน เข้ารื้อร้านค้าบริเวณหลังวิหารพระมงคลบพิตรแล้ว เพื่อเร่งปรับปรุงภูมิทัศน์ ทำให้พ่อค้าแม่ค้าบางส่วนไม่พอใจ โดยให้เหตุผลว่า ยังไม่ถึงเส้นตายคือ วันที่ 31 มีนาคม ซึ่งร้านค้าส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และพร้อมที่จะย้ายไปอยู่ในบริเวณที่ทางจังหวัดจัดให้ แต่การรื้อถอนต้องใช้เวลา เพราะต้องรอช่าง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับทรัพย์สิน ขณะที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชี้แจงว่า ที่ต้องเร่งรื้อร้านค้า เพราะเห็นว่ามีร้านพร้อมจะไปอยู่ที่ใหม่แล้ว 136 ร้าน เหลืออีกเพียง 27 ร้านค้าที่ยังไม่ยอมไป อย่างไรก็ตาม บริเวณสถานที่ค้าขายแห่งใหม่ วันนี้พ่อค้าแม่ค้าทยอยไปเปิดร้านกันเกือบเต็มจำนวนที่ได้ลงทะเบียนไว้แล้ว ส่วนที่ศาลปกครองกลาง กลุ่มผู้คัดค้านการจัดระเบียบร้านค้า ได้ยื่นเรื่องต่อศาลปกคลอง ให้ดำเนินการกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา, เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา และผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 3 ในฐานความผิด ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และความผิดทางละเมิด กรณีไล่รื้อย้ายร้านค้าอย่างไม่เป็นธรรม โดยไม่ดำเนินการกับร้านค้าเรือนทรงไทยที่อยู่พื้นที่ใกล้กัน พร้อมกับขอให้ศาลปกครองกลางไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อระงับการรื้อถอนและชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ค้าทั้งหมด
มาตรการแก้ไขปัญหาจัดระเบียบชายหาดภูเก็ต ตามนโยบายของรัฐบาล จะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด และเพื่อความเป็นระเบียบในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ตลอดจนเป็นการยกระดับให้จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ติดตามได้จากรายงาน