ในอดีตจะมีข่าวเรื่องแผนที่ในแต่ละหน่วยที่ทำออกมาไม่ตรงกัน มีการซ้อนทับกัน ทำให้เกิดความยากลำบากในการปฎิบัติงาน ดังจะเห็นในข่าวหลายๆ ครั้ง http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9570000107451 http://www.onep.go.th/index.php?opt...8----&catid=72:2010-10-08-06-35-05&Itemid=266 ดังนั้นลุงตู่คงเห็นถึงความสำคัญของปัญหานี้ จึงได้ประกาศให้ใช้แผนที่กลาง สัดส่วน 1:4000 ให้ใช้ทุกหน่วยงาน ทำให้ปัญหาเหล่านี้น่าจะหมดไปซักที ข่าว 7 สี - โครงการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตรการส่วน 1 ต่อ 4,000 เป็นอีกนโยบายหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาการครอบครองที่ดินทับซ้อนผิดกฎหมาย และหวังแก้ปัญหาทุจริต ติดตามจากรายงาน โครงการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ ไม่ใช่โครงการใหม่เป็นสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำมาแล้วเมื่อ 10 กว่าปีก่อน โดยมอบหมายให้แต่ละหน่วยงานจัดทำ ข้อมูลแนวเขตที่ดินของรัฐใหม่ ทั้งป่าไม้ ป่าสงวน อุทยานแห่งชาติ ก่อนจัดทำเป็นแผนที่อย่างละเอียด เป็นข้อมูลกลางของรัฐบาล นโยบายดีแต่กลับทำไม่สำเร็จ เพราะต่างคนต่างทำ ข้อมูลที่ได้ไม่ตรงกัน นำมาทับซ้อนวางเรียงรวมกันเป็นแผนที่ใหม่ไม่ได้ จึงเกิดปัญหาถือครองที่ดินทับซ้อน ผิดกฎหมาย ทุจริตมาตลอด ที่สำคัญรัฐไม่สามารถบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ โครงการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 ต่อ 4,000 หรือ One Map จึงเกิดขึ้น โดยมีการจัดตั้งคณะกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐใหม่ มีหลายหน่วยงานร่วมอยู่ในคณะกรรมการชุดเดียวกัน ทำงานแบบบูรณาการ รวบรวมข้อมูลแนวเขตที่ดิน โดยใช้ทั้งแนวธรรมชาติ แนวเขตสิ่งปลูกสร้าง ภาพถ่ายทางอากาศ ดาวเทียม ลักษณะทางกายภาพอื่นๆ มาประกอบ ก่อนจัดทำเป็นแผนที่ใหม่ เป็นข้อมูลกลางให้ทุกส่วนราชการยึดถือเป็นเกณฑ์ปฎิบัติ มีผลตามกฎหมายชัดเจน One Map จึงช่วยรัฐบริหารจัดการทรัพยารธรรมชาติอย่างเหมาะสมยั่งยืน เกิดประโยชน์สูงสุดของชาติ ขจัดปัญหาอ้างสิทธิถือครองที่ดิน ที่ออกโดยหลายหน่วยงาน อุดช่องโหว่ทุจริตการออกเอกสารสิทธิ์ได้อีกด้วย
สิ่งที่นักการเมืองไม่คิดจะยุ่งเกี่ยว ***ไม่เห็นผลประโยชน์ที่ชัดเจน(ปิดทองหลังพระ ชาวบ้านไม่เห็น) ***ไม่เห็นช่องทางรายได้เข้ากระเป๋า หรือได้น้อยเกินไป ***ต้องรบกับฐานเสียง(แม้ว่าสิ่งที่ทำจะมีประโยชน์ต่อประเทศ ในระยะยาว)
ข้าราชการกรมที่ดิน กรมป่าไม้ กรมชลประทาน ตำรวจ ฝ่ายปกครอง อัยการ ฯลฯ ต่างเป็นอัจฉริยะกันทั้งนั้น มีคนเอาที่ดินสาธารณะที่เป็นต้นน้ำลำธาร ป่าสงวน ภูเขา ชายหาดไปเป็นสมบัติส่วนตัว แถมบาวคนสร้างบ้าน รีสอร์ท โรงแรมหรู หรือแม้แต่สนามแข่งรถ แต่หน่วยงานข้างต้นที่มีหน้าที่โดยตรงต้องดูแลสมบัติชาติ ออกมาแถลงข่าวดูมีหลักการน่าเชื่อถือ ต่างก็บอกว่ากำลังดำเนินการอย่างเด็ดขาดจริงจัง แต่ผลคือไม่เห็นมีผู้ใดได้รับโทษ และบ้านหรู รีสอร์ท โรงแรม และสนามแข่งรถ เกือบทุกแห่งก็ยังเปิดดำเนินธุรกิจต่อไป
รัฐบาลเดินหน้าปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ เพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อน ในพื้นที่ 22 แห่งให้แล้วเสร็จก่อนเดือนกันยายน ปัญหาการถือครองโฉนดที่ดินทั่วประเทศคนละฉบับและมีตัวเลขมากกว่าพื้นที่ประเทศไทยที่มีถึง 320 ล้านไร่ ทำให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการในโครงการ ONE MAP โดยมีพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน เน้นปรับแนวเขตที่ดินรัฐ ใน 22 พื้นที่ โดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ต นครราชสีมา สระบุรี เชียงราย เชียงใหม่ เลย พิษณุโลก ซึ่งล้วนเป็นจังหวัดท่องเที่ยว จัดทำแผนที่ใหม่ในมาตราส่วน 1ต่อ 4,000 จากเดิมใช้อยู่1ต่อ 2,000 ซึ่งมีข้อดีมีรายละเอียดสูงมาก สามารถบอกพิกัด ลักษณะภูมิศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างชัดเจน ความคืบหน้าการปฏิบัติงานล่าสุด อยู่ระหว่างทำความเข้าใจระดับจังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมประชุม ทำความเข้าใจในหลักเกณฑ์ 13 ข้อ ซึ่งถือเป็นโรดแม็บแก้ปัญหาระยะยาวต่อไป พร้อมฝึกเจ้าหน้าที่จัดทำแผนที่รูปแบบใหม่ทั่วประเทศ แผนปฏิบัติการจัดรูปที่ดินรัฐทั่วประเทศ เพื่อให้ทุกหน่วยงานใช้แผนที่ฉบับเดียว มีวิธีการปฏิบัติ รวมถึงข้อดีและข้อห่วงใยของนักวิชาการต่อการทวงคืนที่ดินรัฐอย่างไร
นายกรัฐมนตรี เร่งรัด 3 กระทรวง มอบหนังสืออนุญาตให้ผู้ยากไร้ตามขั้นตอน หลังรัฐบาลตั้งเป้าเดินหน้าจัดสรรพื้นที่ทำกินให้ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมกว่า 1.9 แสนไร่ ใน 47 จังหวัด พร้อมวางแนวทางปฏิรูปที่ดินระยะยาว พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุในปี 2558 รัฐบาลได้นำร่องจัดสรรที่ดินให้ประชาชนยากไร้เข้าทำประโยชน์ ครอบคลุมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเสื่อมโทรม ใน 18 จังหวัด มีเนื้อที่รวม 129,754 ไร่ ประชาชนได้ประโยชน์ 12,215 ราย ส่วนในปี 59 ได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายครอบคลุมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเสื่อมโทรม พื้นที่ปฏิรูปที่ดิน ที่ราชพัสดุ และที่สาธารณประโยชน์ รวม 80 พื้นที่ ใน 47 จังหวัด เนื้อที่รวม 195,451ไร่ ได้แก่ ภาคเหนือ 8 จังหวัด ภาคอีสาน 15 จังหวัด ภาคกลาง 9 จังหวัด ภาคตะวันตก 4 จังหวัด ภาคตะวันออก 3 จังหวัด ภาคใต้ 8 จังหวัด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กำชับให้ 3 กระทรวง คือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ กระทรวงมหาดไทย เร่งรัดดำเนินการให้ประชาชนมีที่ดินทำกินจริง โดยมอบหนังสืออนุญาตให้ประชาชนเข้าทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐตามที่ได้จัดสรรไว้โดยเร็ว เหมือนที่เคยมอบหนังสืออนุญาตฯ ให้แก่ประชาชนอำเภอแม่ออน และ อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าสงวน รวมเนื้อที่ 15,208 ไร่ มีผู้ได้รับประโยชน์ 2,612 ราย รวมถึงล่าสุดที่ จังหวัดอุทัยธานี ที่เป็นพื้นที่ ส.ป.ก.โดยหากมีโอกาส นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ไปพบกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง
กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย จัดทำโครงการจัดรูปที่ดินใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินตาบอด หรือ ที่ดินไม่เป็นระเบียบ ที่เกิดจากการไม่ได้วางผังเมือง ทำให้เจ้าของที่ดินต้องเสียโอกาสในการใช้ประโยชน์ โครงการจัดรูปที่ดินเพื่อการพัฒนาพื้นที่ ถือเป็นแนวทางใหม่ในการพัฒนาที่ดิน โดยเฉพาะปัญหาที่ดินตาบอดที่น้ำ-ไฟ เข้าไม่ถึง ด้วยการนําแปลงที่ดินตาบอดหลายๆแปลงมารวมกัน และวางผังที่ดินเพื่อจัดรูปแปลงที่ดินใหม่ เจ้าของที่ดินเดิม อาจต้องสละที่ดินบางส่วนเพื่อสร้างถนน พื้นที่สาธารณะ และ ออกเอกสารสิทธิ์ใหม่ โดยจะได้ที่ดินขนาดใกล้เคียงกับของเดิม แต่มีรูปทรงสวยงาม มีถนนตัดผ่าน และ ราคาเพิ่มมากขึ้น เบื้องต้น กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ใช้พื้นที่ดินในจังหวัดพะเยาเป็นพื้นที่นำร่อง ซึ่งมีผู้เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 19 ราย เนื้อที่ดินรวมทั้งหมด 65 ไร่ และ ได้ออกแบบตัดถนนใหม่ 3 สาย ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการ ต้องเสียที่ดินบางส่วนไปประมาณ 20% แต่ทำให้ที่ดินมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นถึง 10 เท่า อย่างไรก็ตาม ปีนี้กรมโยธาธิการและผังเมือง ตั้งเป้าจะดำเนินการต่อให้ได้อีก 9 จังหวัด อาทิ จังหวัดนครนายก น่าน สมุทรสาคร และ จังหวัดสระแก้ว เป็นต้น และ ภายในปี 2561 จะทำให้ครบทั่วทั้งประเทศภายใต้โครงการ"จัดรูปที่ดิน 1 จังหวัด 1 โครงการ" แผนแม่บทพลิกโฉมภูทับเบิกคลอดแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีปรับภูมิทัศน์รีสอร์ทภูทับเบิกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่าคณะทำงานตามแผนปฏิบัติการภูทับเบิก388 ได้เห็นชอบแผนแม่บท การบริหารจัดการการใช้ที่ดิน หรือ Master Plan ที่ให้รีสอร์ตที่ตั้งบนภูทับเบิกทั้งหมด 95 แห่ง รวมเนื้อที่กว่า 13,000 ไร่ เปลี่ยนหลังคาใหม่เป็นทรงจั่วตามมาตรฐานความปลอดภัยของวิศวกรรมโยธาและให้ทาหลังคาเป็นสีเขียวกลมกลืนกับธรรมชาติรวมทั้งได้กำหนดระยะเวลาเปิดปิดฤดูกาลท่องเที่ยวเพื่อปรับเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการเตรียมนำ Master Plan ฉบับนี้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ทันกำหนด ตามแผนปฏิบัติการภูทับเบิก 388 ที่จะสิ้นสุดภารกิจในเดือนมิถุนายนนี้ นายกรัฐมนตรี กำชับทวงคืนป่าจากนายทุน หลังปีที่ผ่านมาได้คืนถึง 3 แสนไร่ พร้อมใช้"วันแมป" ตรวจสอบแนวที่ดินรัฐ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ เกี่ยวกับนโยบายทวงคืนผืนป่าว่าปี 2558 ทวงคืนผืนป่าได้กว่า 3 แสนไร่ และดำเนินคดีผู้บุกรุก 13,000 คดี ส่วนการสร้างความยั่งยืนต้องอาศัยการบูรณาการหลายหน่วยงานทั้งเรื่องสิทธิทำกิน การจัดการพื้นที่ป่า โดยใช้แนวทางประชารัฐมาขับเคลื่อน เช่น แนวเขตพื้นที่ทับซ้อนต้อง ให้ทุกภาคส่วน ผู้มีส่วนได้เสีย มีส่วนร่วมจัดทำแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ ที่เราเริ่มต้นจาก วัน-แมป เพราะว่าทุกหน่วยงานแผนที่คนละฉบับ ถ้าทาบทับกันได้ ก็ตรงกัน ถ้าไม่ได้ก็ต้องพิจารณากันอีกที นอกจากนี้ กำหนดมาตรการให้ชุมชน และประชาชนผู้ยากไร้ ด้วยการจัดสรรที่ดินทำกิน ให้แก่ชุมชนในพื้นที่ป่า ที่บุกรุกไปแล้ว รวม 340,413 ไร่ แบ่งเป็น 82 พื้นที่ ใน 47 จังหวัด ควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง จะบุกรุกไม่ได้อีกแล้ว เพื่อทวงคืนผืนป่าจากผู้มีอิทธิพล หรือนายทุน หรือนอมินีด้วยการเพิ่มพื้นที่ป่า พื้นที่สีเขียวให้กับประเทศ เพื่อเป็นแหล่งต้นน้ำให้กับประเทศ
ยึดคืนที่ ส.ป.ก. 2 ล้านไร่ เล็งใช้ ม.44 เริ่มผู้ถือครอง 500 ไร่ก่อน ข่าว 7 สี - ที่ดินจังหวัดภูเก็ต มีมติเพิกถอนที่ดิน 24 ไร่ ของบริษัทภูเขาหกลูก จำกัด บนเกาะนาคาน้อย ผลการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ บนที่ดินบนเกาะนาคาน้อย ตำบลป่าคลองอำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ล่าสุด คณะกรรมการสอบสวนเพื่อเพิกถอนตามมาตรา 61 ได้พิจารณาสรุปเรื่องการออกเอกสารสิทธิ์ นส. 3 ก.เนื้อที่ 24 ไร่ ของบริษัท ภูเขาหกลูก จำกัด โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์แปลงดังกล่าวในเบื้องต้น ก่อนส่งมอบให้กรมที่ดิน เพื่อให้อธิบดีกรมที่ดิน เป็นผู้พิจารณาในการเพิกถอนอีกครั้ง โดยเจ้าของที่ดินสามารถใช้สิทธิ์ยื่นขออุทธรณ์ คำสั่งได้ใน 15 วัน ส่วนที่ดินของครอบครัวหิรัญพฤกษ์ ที่ถือครองตามเอกสารสิทธิ์ 53 ไร่ แปลงใกล้เคียงกัน เจ้าหน้าที่ยังไม่มีการเพิกถอน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของคณะทำงานของกรมที่ดินจังหวัดภูเก็ต กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมเสนอนายกรัฐมนตรีบังคับใช้ ม.44 กับผู้ถือครองที่ดินรายใหญ่ผิดกฎหมาย พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ขอให้ผู้ถือครองที่ดินแปลงใหญ่เกิน 500 ไร่ขึ้นไป มาแสดงตนภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบที่ดินและสิทธิ์ครอบครองตามกฎหมาย หากพบว่ามีการครอบครองและใช้ผิดวัตถุประสงค์ ก็จะให้นำที่ดินของรัฐมาปฏิรูปให้เกษตรกรได้ใช้ประโยชน์ทันที ด้านนายสรรเสริญ อัตจุตมานัส เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก.กล่าวว่า พบมีการถือครองเกิน 500 ไร่ขึ้นไป ในพื้นที่ 34 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 563 ราย เป็นพื้นที่รวม 540,351 ไร่ พร้อมทั้งได้สั่งการให้ ส.ป.ก.จังหวัด ตรวจสอบอีกครั้งเพื่อทำแผนที่แนบท้าย ก่อนจะนำเสนอนายกรัฐมนตรี ให้พิจารณาประกาศบังคับใช้ ม.44 แก้ปัญหากับผู้ถือครองที่ดินผิดกฎหมาย เนื่องจากพบปัญหารายใหญ่ไม่ให้ความร่วมมือ และมีการปกปิดข้อมูลที่แท้จริง รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสรุปการทำงาน 7 เดือน ยังคงเน้นภารกิจทวงคืนป่าและขบวนการตัดไม้จากนายทุน ตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า นำชุดพยัคฆ์ไพร พญาเสือ และฉลามขาวร่วมปฎิบัติงาน รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ แถลงสรุปผลดำเนินงานรอบ 7 เดือนในการเข้ามาทำหน้าที่ว่า ยังคงภารกิจทวงคืนป่า และขบวนการตัดไม้จากนายทุนเป็นลำดับแรกเพราะเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล จึงมีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่าขึ้นเพื่อให้เป็นกองบัญชาการพิเศษในการทวงคืนผืนป่าและเพื่อสาวไปถึงผู้บงการรายใหญ่ ซึ่งตนเป็นผู้อำนวยการเอง นอกจากนี้ ได้นำชุดพยัคฆ์ไพร ชุดพญาเสือ และชุดฉลามขาวมาเป็นชุดปฎิบัติงานด้วย รวมทั้งดึงเจ้าหน้าที่จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักข่าวกรองแห่งชาติร่วมด้วยเพื่อทำงานสืบสวนเชิงลับ และเชื่อมโยงเครือข่ายขบวนการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ โดยจะนำรายชื่อผู้ที่อยู่ในเครือข่าย ผู้จ้างวานผู้ที่เข้ามาตัดไม้ทั้ง 77 จังหวัดให้หน่วยข่าวสำนักข่าวกรองแห่งชาติไปกรองและเอาผิดให้ได้ ตามติดภารกิจทวงคืนผืนป่าใน จ.ระนอง ชุมพร และ ตราด
ครบ 1 ปีเต็มที่รัฐบาลสั่งให้หลายกระทรวงบูรณาการการทำงานจัดทำแนวเขตป่าไม้ใหม่ โดยจัดทำเป็น One Map ซึ่งตอนนี้มีความคืบหน้าไปมาก แทบทุกจังหวัดสำรวจเส้นแนวเขตป้าไม้เสร็จสมบูรณ์แล้ว คาดว่าอีก 3 เดือน One Map จะคลอดออกมาใช้ได้ ปัญหาการบุกรุกการใช้ที่ดินทับซ้อน ความเหลื่อมล้ำในการใช้ประโยชน์ที่ดินจนเกิดข้อพิพาทอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองที่ดินระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนเกิดขึ้นมานานและยากต่อการแก้ไขจัดการ เพราะเส้นแนวเขตที่ดินของรัฐไม่ชัดเจน โดยแต่ละหน่วยงานที่มีอำนาจออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ต่างคนต่างถือแผนที่แนวเขตที่ดินที่มีมาตราส่วนต่างกัน ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2558 ให้หลายกระทรวงบูรณาการทำงาน กำหนดแนวเขตป่าไม้ใหม่ โดยจัดทำเป็น One Map เพื่อให้ทุกส่วนราชการใช้และยึดถือเป็นแนวทางเดียวกัน One Map จะแสดงอาณาเขตที่ดินของรัฐครอบคลุมที่ดินของทุกหน่วยงานรัฐบนแผนที่มาตราส่วน 1 : 4,000 ซึ่งทุกเส้นแนวเขตของ One Map เกิดจากการปรับปรุงแนวเขตที่ประกาศตามกฎหมาย แนวเขตจริง และแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศตามห้วงเวลาตามสภาพข้อเท็จจริงในพื้นที่ ที่ทำการสำรวจตามหลักวิชาการ โดยเส้นแนวเขตใน One Map ต้องเชื่อมต่อกันสนิท ไม่ทับซ้อน ไม่มีช่องว่างให้เกิดข้อพิพาทการถือครองที่ดินได้อีก ล่าสุดแต่ละจังหวัดส่งแนวเขตของจังหวัด มาให้คณะกรรมการ One Map ครบแล้วร้อยเปอร์เซ็นต์ ตอนนี้อยู่ระหว่างคณะอนุกรรมการเทคนิคการปรับปรุงแผนที่ ที่มีกองทัพภาคและกรมแผนที่ทหาร ร่วมตรวจสอบหากแนวเส้นแนวเขตไม่ทับซ้อน ไม่มีช่องว่าง จะจัดชุดภาคสนามลงสอบพื้นที่อีกครั้ง ถึงแม้จะมีความคืบหน้าจัดทำแนวเขตป่าไม้ใหม่ แต่อีก 45 จังหวัดที่มีปัญหาครอบครองพื้นที่ตั้งแต่เบาไปจนถึงหนักขั้นวิกฤตรุนแรง ซึ่งกระจายอยู่ทุกภาคของประเทศ จำเป็นต้องเร่งเคลียร์ปัญหาให้จบก่อนเดือนกันยายนนี้ หลังจัดทำแนวเขตป่าไม้ใหม่ จัดทำ One Map แล้ว ก็ต้องเร่งเข้าสู่กระบวนการแก้ไขกฎหมาย เพื่อให้ประเทศไทย มีแผนที่วันแมป 1 : 4,000 ที่มีมาตรฐานเดียวกัน กรมที่ดิน เร่งออกเอกสารสิทธิ์ ในที่ดินทำกินให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันปัญหาการทับซ้อน และประชาชาสามารถใช้ที่ดินได้ตามกฎหมาย พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสั่งการให้กรมที่ดิน เร่งรัดแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินและปัญหาประชาชนไม่มีที่ดินทำกินและป้องกันการออกเอกสารสิทธิ์ดินทำกินโดยมิชอบ หลังจากมีการแพร่ข้อมูลผ่านสังคมออนไลน์ โดยต้องแก้ไขในทุกมิติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และให้บุคลากรของกรมที่ดินทำอย่างต่อเนื่อง ปลอดการทุจริต มีความโปร่งใส พร้อมนำเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยมาบริการให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ในการออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดินทำกิน และอำนวยความสะดวกกับประชาชนในการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ที่ดินของตัวเองว่าถูกต้องหรือมีการออกทับซ้อนกับหน่วยงานรัฐหรือไม่เพื่อป้องกันปัญหาความขัดแย้งในอนาคต ทั้งยังให้ประชาชนได้มีที่ดินทำกินที่ถูกต้อง ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม หรือการประกอบการอื่นๆ
ถือแผนที่คนละฉบับกัน ออกมาตีกันแล้ว ข่าว 7 สี - กระทรวงมหาดไทย ส่งหนังสือถึงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ชี้แจงการให้ข่าวของเจ้าหน้าที่ พาดพิงกรมที่ดินก่อนมีการพิสูจน์เอกสาร หนังสือจาก กระทรวงมหาดไทย ลงนามโดยปลัดกระทรวงมหาดไทย ถึงปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องการให้ข่าวเกี่ยวกับการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน โดยข้อความในหนังสือ ระบุถึงการให้ข่าวของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ หรือป่าชายเลน ที่ทำหน้าที่ทวงคืนผืนป่า มีการกล่าวอ้างการออกหนังสือแสดงสิทธิ โดยกรมที่ดิน ไม่ชอบด้วยกฏหมาย ทั้งที่ยังไม่ได้มีการตรวจสอบโดยละเอียด ซึ่งทำให้ประชาชนมองว่าการออกโฉนด ของกรมที่ดินไม่น่าเชื่อถือ เช่นกรณีที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ตรวจสอบสนามกอล์ฟ ที่จังหวัดภูเก็ต ว่าน่าจะออกเอกสารสิทธิมิชอบ ทับซ้อนป่าสงวนแห่งชาติ และป่าชายเลนแต่การตรวจสอบเบื้องต้น ของจังหวัดภูเก็ต พบว่ามีหลักฐานตราจอง ครอบครองทำประโยชน์มาก่อน การให้สัมภาษณ์จึงก่อให้เกิดความเสียหายต่อกรมที่ดิน ด้านนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า การลงพื้นที่ได้ประสานกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยมีการตรวจสอบจากภาพถ่ายทางอากาศ ช่างรังวัดในพื้นที่ป่าสงวน และเปิดโอกาสให้เจ้าของเอกสารสิทธิชี้แจงทุกครั้ง ยืนยันว่าทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ ตามนโยบายของ คสช. และที่ผ่านมาติดปัญหาการประสานขอเอกสารกับกรมที่ดินมาโดยตลอด
คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 35/2559 เรื่อง มาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินป่าภูทับเบิก ในท้องที่ตำบลวังบาลและตำบลบ้านเนิน อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2559/E/150/24.PDF คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 36/2559 เรื่อง มาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมโดยมิชอบกฎหมาย http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2559/E/150/26.PDF
คนที่ถือครองที่ดินเกิน50ไร่มีแต่คนรวยทั้งนั้น น่าจะมีมาตราการเข็มงวดกับคนถือครองที่ดินเยอะ เพราะพวกนี้คือตัวปัญหากว้านซื้อที่ไปทั่วประเทศประชาชนก็พากันขาย แล้วไปบุกรุกป่าสงวนจับจองที่สปก.แล้วก็ถ่ายโอนเอามาขายนายทุน ทำนิติกรรมอำพรางปกปิดซ้อนเร้น พื้นที่สปก.ทุกคนรู้ห้ามซื้อห้ามขายแต่ก็มีคนตีมึนแอบซื้อแอบขายมาตลอด ทำไมไม่ออกกฏหมายห้ามถือครองที่ดินเกิน50ไร่เรื่องจะได้จบ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ประชาชนตัวปัญหาคือนายทุนที่เขาไปกว้านซื้อสะสมที่ดิน
กรุงเทพฯ 6 ก.ค.-รมว.เกษตรฯ สั่ง ส.ป.ก. สางปัญหาที่ดิน ตีกรอบ 129 วัน หลังนายกฯ ลงนามคำสั่งหัวหน้า คสช. เพื่อแก้ไขปัญหาผู้ถือครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงรายละเอียดเรื่องนี้ว่า ตามที่กระทรวงเกษตรฯ มีนโยบายจัดหาที่ดินทำกินให้เกษตรกรผู้ยากไร้ ไม่มีที่ดินทำกิน และแก้ปัญหาที่ดิน ส.ป.ก. ที่ครอบครองไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นช่องว่างของกฎหมายที่ไม่สามารถดำเนินการอย่างได้ผลและเป็นปัญหาที่สะสมมานาน จึงสั่งการให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก. ออกกฎหมายพิเศษเพื่อแก้ไขปัญหาผู้ถือครองที่ดินของรัฐโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเมื่อวานนี้ และนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งให้มีผลบังคับใช้ทันที ตามคำสั่งมาตรา 44 มีเป้าหมาย 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.พื้นที่ที่ไม่เข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดิน เนื้อที่ตั้งแต่ 500 ไร่ขึ้นไป มี 25 จังหวัด จำนวน 422 แปลง เนื้อที่ประมาณ 426,300 ไร่ 2.พื้นที่ที่จัดให้เกษตรกรแล้ว แต่ขายให้กับบุคคลอื่น เนื้อที่ตั้งแต่ 100 ไร่ขึ้นไป มี 2 จังหวัด 2 แปลง เนื้อที่รวม 488 ไร่ คือ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนครราชสีมา และ 3.พื้นที่ที่มีคำสั่งพิพากษาถึงที่สุดให้ขับไล่ เนื้อที่ตั้งแต่ 500 ไร่ขึ้นไป ใน 3 จังหวัด คือ จังหวัดกระบี่ สุราษฎร์ธานี และนครราชสีมา จำนวน 5 แปลง เนื้อที่ 5,906 ไร่ ซึ่งทั้ง 3 กรณีนี้อยู่ในพื้นที่ 25 จังหวัด 429 แปลง เนื้อที่รวม 432,765 ไร่.-สำนักข่าวไทย ผู้ประกอบการ รีสอร์ท ภูทับเบิก อ.หล่มเก่า เพชรบูรณ์ เตรียมยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมเพื่อหาทางออกร่วมกับผู้ประกอบการและชาวบ้านโดยเร็วที่สุด หลัง คสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ยึดที่ดิน ส.ป.ก.คืน นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก. เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม นี้ ส.ป.ก. จะเริ่มส่งใบปิดประกาศพื้นที่เป้าหมายที่จะเรียกคืนเบื้องต้น 11 จังหวัด 125 แปลงก่อน และตั้งเป้าให้แล้วเสร็จครบพื้นที่ ทั้ง 25 จังหวัด รวม 400 กว่าแปลง เนื้อที่ประมาณ 430,000 ไร่ ให้แล้วเสร็จภายใน 10 วัน ด้าน พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.อย่าเลือกปฏิบัติ แม้ว่าที่ดินจะเป็นของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ เพราะรัฐบาลชุดนี้ มีนโยบายที่จะปราบปรามผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม การบังคับใช้มาตรา 44 ทวงคืนพื้นที่จากผู้ถือครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ได้เปิดโอกาส ให้ผู้ถือครองมาแสดงสิทธิ์อย่างเป็นธรรมแล้ว หากไม่มีเอกสารก็ต้องคืนที่ดินแก่รัฐ เพื่อนำไปจัดสรรให้ผู้ไม่มีที่ทำกินได้นำไปใช้ประโยชน์ต่อไป รัฐบาลกำลังเร่งทวงพื้นที่คืนจากนายทุนรายใหญ่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเพื่อนำมาจัดสรรใหม่ให้เกษตรกร ซึ่งผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ในที่ดิน ส.ป.ก.4-01 อย่างถูกต้องควรจะมีคุณสมบัติอย่างไร ไปติดตามในรายงาน กฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ระบุว่าการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หมายความว่า การปรับปรุงเกี่ยวกับสิทธิและการถือครองตลอดถึงการจัดที่อยู่อาศัยในที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยรัฐนำที่ดินของรัฐ หรือที่ดินที่รัฐจัดซื้อหรือเวนคืนจากเจ้าของที่ดิน ซึ่งไม่ได้ทำประโยชน์ด้วยตนเอง ผู้มีสิทธิ์ได้รับที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พุทธศักราช 2518 จะจำแนกได้เป็น 2 ประเภท คือกลุ่มแรกเป็นเกษตรกรมีอาชีพทำเกษตรเป็นหลัก หรือรายที่ยังไม่เป็นเกษตรกรและต้องการทำเกษตร กลุ่มนี้ไม่มีที่ดินของตนเอง หรือมีน้อยมากไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือเป็นบุคคลในครอบครัวเดียวกันกับเกษตรกร กลุ่มนี้จะได้รับการจัดสรรที่ดิน เมื่อรวมกับที่มีอยู่เดิมต้องไม่เกิน 50 ไร่ ส่วนกลุ่มที่ 2 เป็นสถาบันเกษตรกร จะมีสิทธิ์ขอรับที่ดินนำไปทำประโยชน์ ตามที่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ คปก.เห็นสมควรตามลักษณะการดำเนินงาน ดังนั้นบุคคลที่มีคุณสมบัติไม่ตรงตามข้อกฎหมายของ ส.ป.ก.และถือครองที่ดินไม่ชอบด้วยกฎหมาย รัฐบาลจะต้องยึดคืนทั้งหมด โดยข้อบังคับตามกฎหมายที่ผู้ได้รับการจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก.จะต้องทำการเกษตรเท่านั้น และไม่สามารถโอนสิทธิ์ไปให้ผู้อื่น เว้นแต่ตกทอดทางมรดกให้แก่ทายาท ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำเกษตรโดยแท้จริง ทีมข่าวเกษตร รายงาน นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก. ก็เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า มีนายทุนรายใหญ่ ที่ถือครองที่ดิน ส.ป.ก. เกิน 500 ไร่ ได้แบ่งซอยที่ดินออกเป็นแปลงย่อย แล้วโอนกรรมสิทธิ์หรือขายให้กับผู้อื่น เพื่อเลี่ยงความผิดการถือครองที่ดินแปลงใหญ่ แต่เพียงผู้เดียว จนหลายฝ่ายเกรงว่าไม่สามารถที่จะยึดคืนและเอาผิดกับนายทุนได้ เลขาธิการ ส.ป.ก. ยืนยันชัดว่าไม่สามารถจะดำเนินการเช่นนี้ได้ และนอกจากนี้ ผู้ที่รับซื้อหรือรับโอนที่ดินต่อจากนายทุนยังมีความผิดตามกฎหมายอีกด้วย และจะใช้มาตรา 44 มาบังคับใช้เพื่อเรียกคืนที่ดินทั้งหมด และในช่วงบ่ายวันนี้จะเรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หารือเพื่อหามาตรการอุดช่องโหว่ในขั้นตอนการปฏิบัติ และเร่งออกประกาศพร้อมแผนที่แนบท้าย ส่งให้ ส.ป.ก. ในพื้นที่ปิดประกาศ
สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก. เร่งจัดทำแผนที่ภาพถ่ายกำหนดขอบเขตที่ดินที่ถูกบุกรุก เบื้องต้น ดำเนินการเสร็จแล้ว 125 แปลง กว่า 1 แสนไร่ ใน 13 จังหวัด ก่อนนำไปติดประกาศคืนพื้นที่ล็อตแรก วันศุกร์นี้ ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา แผนที่ท้ายคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ที่ 36/2559 เรื่อง มาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมโดยมิชอบกฎหมาย เป็นแผนที่ๆจัดทำขึ้นเพื่อเตรียมใช้สำหรับติดประกาศยึดคืนที่ดินเป็นรายแปลง โดยจะนำไปติดประกาศ ณ ที่ทำการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้ผู้ที่ครอบครองที่ดิน สามารถยื่นคำร้องคัดค้าน พร้อมแสดงหลักฐานได้ภายใน 15 วัน นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส เลขาธิการ ส.ป.ก.เปิดเผยว่าการใช้มาตรา 44 เพื่อดำเนินการยึดคืนที่ดิน เนื่องจากที่ผ่านมาเคยประสบปัญหาแม้ศาลจะมีคำสั่งตัดสินแล้ว แต่ทาง ส.ป.ก.ไม่สามารถเข้าพื้นที่ หรือดำเนินการกับที่ดินที่ยึดคืนได้ ซึ่งตามคำสั่งเพื่อไม่ให้กระทบกับเกษตรกรตัวจริง จึงกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มนายทุน หรือ ผู้มีอิทธิพลบุกรุกถือครองที่ดินตั้งแต่ 500 ไร่ขึ้นไป รวม 422 แปลง 25 จังหวัด คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 430,000 ไร่ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำแผนที่ให้แล้วเสร็จ ก่อนนำไปติดประกาศล็อตแรก 125 แปลง รวม 116,266 ไร่ ในสัปดาห์นี้ เพื่อให้ผู้ที่ครอบครองที่ดิน ออกมาแสดงตนพิสูจน์ความจริง ทั้งนี้ แผนดำเนินงานคาดว่าจะใช้เวลา 129 วัน พร้อมกำหนดเป้าหมายยึดคืนพื้นที่ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 25 หรือประมาณ 1 แสนไร่ หลังจากนั้นจะนำไปจัดสรรให้กับเกษตรใช้ทำประโยชน์ต่อไป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มั่นใจว่าที่ดิน ส.ป.ก. ที่จะยึดคืนได้จากผู้ถือครองโดยมิชอบ ราว 1 แสนไร่ จะถูกจัดให้ผู้ไร้สิทธิ์ทำกินในรูปแบบของสหกรณ์ เพื่อให้บริหารจัดการร่วมกัน ขณะที่ติดป้ายยึดคืนที่ดิน สปก. แปลงแรก หลังมีคำสั่ง คสช. วันนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยเจ้าของที่ดินต้องย้ายออกภายใน 30 วัน พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำป้ายบังคับคคี ติดหน้าประตูทางเข้าบ้านพักของพลตำรวจตรีชาลี เภกระนันท์ ซึ่งเป็นผู้ครอบครองที่ดินแปลงนี้ ที่บ้านกอก ตำบลปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา หลังจากศาลฏีกามีคำพิพากษาให้ผู้ครอบครอง คืนที่ดินแปลงนี้เนื้อที่กว่า 535 ไร่ คืนให้สำนักงานปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก. โดยคำบังคับคดีดังกล่าวกำหนดให้ต้องออกจากพื้นที่ภายใน 30 วัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่านี่เป็นเพียงแปลงแรกที่ดำเนินการตามคำสั่งมาตรา 44 ซึ่งหลังจากนี้จะตรวจสอบและยึดคืนอีกถึง 430,000 ไร่ โดยเบื้องต้นนี้คาดว่าจะได้คืน 1 แสนไร่ เพื่อเตรียมจัดสรรให้เกษตรกรผู้ไร้ที่ดินทำกิน ซึ่งขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนต้องการที่ทำกิน ที่ดิน ส.ป.ก. แล้ว 370,000 ราย แต่ในขั้นตอนการจัดสรรที่ดินให้ไม่ใช่ในรูปแบบรายบุคคลที่จะได้รับ 50 ไร่ เหมือนในอดีต แต่จะมีคณะกรรมการหลายกระทรวง เช่นมหาดไทย และกระทรวงเกษตกรฯ เป็นต้น เพื่อจัดสรรในรูแบบคล้ายสหกรณ์ ที่ทำประโยชน์ร่วมกัน จนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำแผนที่แนบท้าย สำหรับผู้ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. ประเภทที่ 1 กรณีครอบครองเลย จำนวน 427 แปลง ดำเนินการไปแล้ว 235 แปลง ส่วนที่เหลือ อีก 132 แปลง ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 21 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ และเฉพาะจังหวัดนครราชสีมา มีพื้นที่ต้องยึดคืนมากที่สุดของประเทศ ทั้งหมด 130 แปลง รวมเนื้อที่ 111,078 ไร่ 11 วันหลังประกาศใช้มาตรา 44 แก้ไขปัญหาผู้ถือครองที่ดินไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็มีความคืบหน้าในการทวงคืน ติดตามจากรายงาน วันที่ 5 กรกฎาคม 2559 หัวหน้า คสช.ประกาศให้บังคับใช้มาตรา 44 แก้ไขปัญหาที่ดินกับผู้ถือครองรายใหญ่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย วันรุ่งขึ้นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์และขั้นตอนทวงคืน ให้ ส.ป.ก. จัดทำแผนที่รายแปลง ระบุสถานที่ข้างเคียง เช่น โรงเรียน วัด และถนน ลงไปด้วย เพื่อชี้ให้ชัดๆ ว่าไม่ผิดแปลง แนบท้ายไปพร้อมกับประกาศคำสั่ง โดยตั้งเป้าใน 129 วัน ต้องทวงคืนที่ดินของรัฐให้ได้ขั้นต่ำ 1 แสนไร่ ใน 25 จังหวัด 422 แปลง เจ้าหน้าที่ทำงาน ภายใต้กฎระเบียบอย่างเคร่งครัด เดินหน้าตรวจสอบกันไม่เว้นวันหยุด กระทั่งวันที่ 13 กรกฎาคม 2559 พบมีที่ดินอีก 5 แปลงในจังหวัดกาญจนบุรี เชียงใหม่ และเชียงราย ที่ต้องทวงคืนเพิ่มอีก รวมแล้วขณะนี้มีพื้นที่ที่ต้องเรียกคืน 427 แปลง และวันที่ 15 กรกฎาคม 2559 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ทวงคืนที่ดินของรัฐด้วยตัวเอง นำร่องปิดประกาศคำสั่งที่อำเภอปากช่องจังหวัดนครราชสีมา พื้นที่แรก ที่แปลงที่ดินหมายเลข 8069 ที่อดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ครอบครองอยู่ พื้นที่ที่ยึดคืนมาได้ จะถูกจัดสรรเป็นแปลงรวมให้เกษตรกรทำกินในรูปแบบสหกรณ์ ไม่มีการแยกเอกสารสิทธิ์รายแปลง รายครัวเรือนอีก เพื่อตัดวงจรนายทุนกลับมากว้านซื้อที่ดิน ช่วยเหลือเกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำเกษตรโดยแท้จริงทีมข่าวเกษตร รายงาน ปฏิบัติการบุกยึดคืนพื้นที่ป่าของหน่วยงานรัฐ เริ่มเห็นเป็นรูปธรรมคาดว่าจะทวงคืนพื้นที่กลับมาได้กว่า 5 แสนไร่ ข่าว 7 สี - กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ที่ยึดคืนจากนายทุนได้ภายใน 1 ปี นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก.เปิดเผยว่า จากที่ได้ตั้งเป้าหมายยึดคืนพื้นที่ ส.ป.ก.4-01 ให้ได้อย่างน้อย 100,000 ไร่ หลังจากคำสั่ง คสช.ตามมาตรา 44 มีผลบังคับใช้ ขณะนี้ได้จัดทำแผน จัดสรรพื้นที่ให้กับเกษตรกรที่ลงทะเบียนไว้แล้ว โดยหลังจากที่ได้พื้นที่คืนมา จะใช้งบประมาณ ของ ส.ป.ก จะดำเนินการเอง ประมาณ 30,000 ไร่ เพื่อปรับพื้นที่ให้เหมาะสำหรับทำการเกษตร จัดทำแหล่งน้ำ รวมทั้งก่อสร้างถนนสายหลัก และถนนซอย คาดว่าจะใช้งบประมาณไร่ละ 10,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 70,000 ไร่ เดิมจะล้อมรั้ว ก่อนจัดสรรพื้นที่ แต่ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอให้จัดสรรให้เกษตรกรทันทีเพื่อป้องกันการบุกรุกพื้นที่อีก โดยจะต้องเสนอของบประมาณเพิ่ม และขอให้หน่วยงานทหารเข้ามาช่วยดำเนินการ ส่วนกรณีที่พบพื้นที่ ส.ป.ก.4-01 ที่ครอบครองไม่ชอบด้วยกฎหมายพื้นที่เกิน 500 ไร่ เพิ่มขึ้นนั้น เลขาธิการ ส.ป.ก.ชี้แจงว่า เป็นพื้นที่ที่นายทุนกว้านซื้อหลังจากการสำรวจปี 2553 ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการทวงคืนต่อไป
นครราชสีมา 20 ก.ค. – ติดตามความคืบหน้าเรียกคืนที่ดิน ส.ป.ก. ตามคำสั่ง คสช.ที่ 36/2559 ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปแล้ว เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดย ส.ป.ก.ได้ประกาศแจ้งพิกัดในที่ดินต้องยึดคืนไปแล้ว 430,000 ไร่ พร้อมตั้งเป้าเรียกคืน 100,000 ไร่ ให้กลับมาเป็นสมบัติชาติ ภายใน 4 เดือน. – สำนักข่าวไทย นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก.เปิดเผยว่าวันนี้ (21 กค.59) จะรายงานความคืบหน้าการใช้มาตรา 44 ทวงที่ดิน ส.ป.ก.4-01 คืนจากนายทุน ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับทราบ และเตรียมเสนอของบประมาณนำมาใช้ปรับพื้นที่ที่ยึดคืนมาได้ โดยประมาณการงบที่จะใช้ ไร่ละ 10,000 บาท ส่วนสาธารณูปโภคอื่นๆ เช่น ไฟฟ้า น้ำประปา และอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในความดูแลนั้น ส.ป.ก.จะประสานขอความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ให้ช่วยจัดหาให้ เพื่อให้เกษตรกรสามารถใช้ประโยชน์ได้ทันที นอกจากนี้ ยังได้เสนอขอให้นายกรัฐมนตรีบังคับใช้มาตรา 44 ทวงคืนที่ดิน ที่จัดสรรให้เกษตรกรแล้ว แต่มีนายทุนถือครองเกิน 100 ไร่ด้วย ซึ่งขณะนี้มีทั้งสิ้น 11,800 แปลง ที่อยู่ระหว่างตรวจสอบและจัดทำแผนที่ชี้เป้าเพื่อยึดคืน เลขาธิการสำนักงานปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือ สปก. ยอมรับว่ายังมีบางจังหวัด ที่เจ้าหน้าที่ไม่ปักป้ายแจ้งยึดคืนที่ดินสปก. โดยอ้างว่า นายทุนผู้ครอบครองมีเอกสารสิทธิ์ แต่ไม่ยอมชี้แจง ซึ่งหากพบว่า เจ้าหน้าที่เพิกเฉยไม่ติดป้ายยึดคืน ต้องถูกดำเนินคดีเช่นกัน ส่วนที่ดิน ที่สปก.ยึดคืนมาแล้ว กำลังของบประมาณเพื่อปรับปรุงพื้นที่ก่อนกำหนดจัดสรรให้เกษตรกร แม้ว่าบางแปลงยังมีปัญหาถูกขายต่อหลายมือ เลขาธิการ ส.ป.ก.ชี้แจงกรณีจะเปิดให้เช่ารีสอร์ต ที่ก่อสร้างในพื้นที่ส.ป.ก เป็นเพียงแค่แนวคิด ต้องเสนอให้รัฐบาลพิจารณาก่อน นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก. ชี้แจงกรณีที่ก่อนหน้านี้มีการนำเสนอว่า ทาง ส.ป.ก. จะนำรีสอร์ต โฮมสเตย์ หรือร้านอาหาร ที่ก่อสร้างในพื้นที่ ส.ป.ก.4-01 ในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 112 แห่ง ให้เอกชนเช่า จนหลายฝ่ายมองว่าเป็นแนวทางที่ผิดวัตถุประสงค์ของการจัดสรรที่ ส.ป.ก.ว่า เป็นเพียงการนำเสนอแนวคิดเท่านั้น และยอมรับว่าหาก ส.ป.ก. ยึดคืนมาได้แล้ว ก็ไม่สามารถดูแลเองได้ทั้งหมด มิฉะนั้น ก็อาจต้องขอให้ใช้คำสั่งตามมาตรา 44 เพื่อรื้อถอนทั้งหมด แต่เนื่องจาก รีสอร์ตส่วนใหญ่ปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ ส.ป.ก 4-01 ไม่เกิน 100 ไร่ ซึ่งไม่เข้าหลักเกณฑ์ คำสั่งตามมาตราที่ 44 ที่บังคับใช้ในปัจจุบัน ทั้งนี้จะดำเนินการอย่างไรนั้น ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาล
ไม่ต้องไปไหนไกลหรอกครับ แค่ปากคลองรังสิตติดกับฟิวเจอร์พาร์คก็เกลื่อนแล้ว ทั้งแพ ทั้งบ้านในคลองยาวเหยียด อยู่อาศัยยังไม่พอ เปืดร้านอาหารมันเสียเลย มีร้านหนึ่งกลางคืนติดไฟวับๆแวมๆ ขายเหล้าปั่นให้เยาวชนอีกต่างหาก วอนลุงตู่ลงมือเถอะครับ แถวนั้นเป็นฐานเสียงเผาไทยด้วย ถ้านักเลือกตั้งกลับมาผมก็จะหมดหวัง อดเห็นรังสิตเป็นคลองสวยๆเชิดหน้าชูตาจังหวัดปทุมธานี
รมว.เกษตรฯ ระบุ เตรียมนำร่องจัดสรรที่ดิน สปก.ที่ยึดคืนจากนายทุนให้เกษตรกรรายละ 6 ไร่ ข่าว 7 สี - กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เร่งตรวจสอบวัดที่สร้างในพื้นที่อุทยานแห่งชาติฯ สั่งห้ามสร้างสิ่งปลูกสร้างอลังการ กระทบธรรมชาติ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่ดินวัดทุกแห่งที่อยู่ในพื้นที่ป่า ว่าบุกรุกพื้นที่อุทยานหรือไม่ แม้กระทั่งในโครงการพุทธอุทยาน ที่ยกที่ดินให้วัดก่อตั้งได้ในป่าเขาของอุทยานฯ ประมาณ 15 ไร่ ให้ตรวจสอบด้วยว่า ห้ามขยายพื้นที่เกินกว่าที่กำหนด และไม่ให้วัดก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างที่ใหญ่โตเกินไป บดบังทัศนียภาพ ตัดไม้ทำลายป่า ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ได้ตรวจสอบวัดในโครงการพุทธอุทยานไปแล้ว 529 แห่ง เหลืออีก 200 กว่าแห่ง อยู่ระหว่างตรวจสอบ แต่ในส่วนของวัด หรือสำนักสงฆ์ใด ที่ก่อสร้างบุกรุกเข้าไปพื้นที่อุทยานฯ สั่งยึดพื้นที่ป่าคืนทันที พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า พื้นที่ ส.ป.ก.4-01 ที่มีผู้ถือครองเกิน 500 ไร่ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย 431 แปลง ใน 27 จังหวัด รวมพื้นที่ 434,000 ไร่ มีผู้ยื่นคัดค้านแล้ว 3,495 ราย และอยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสาร โดยล่าสุดวันนี้ (3 ส.ค.2559) ส.ป.ก ได้รับพื้นที่คืนที่แน่นอนแล้ว จำนวน 4 แปลง ได้แก่ ที่จังหวัดกาญจนบุรี 3 แปลง จำนวน 2,395 ไร่ และที่จังหวัดสระแก้วอีก 1 แปลง พื้นที่ 1,000 ไร่ และยังมีอีก 52 แปลง พื้นที่กว่า 50,000 ไร่ ที่ครบกำหนดยื่นคัดค้านแล้ว และกำลังตรวจสอบเอกสาร คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 30 วัน ส่วนที่ดินปิดประกาศคำสั่งแปลงแรก ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เจ้าของแปลงได้แสดงความจำนงขอคืนให้ ส.ป.ก.แล้ว กรมป่าไม้ เร่งตรวจสอบแยกสิทธิอ้างครอบครองรีสอร์ท-บ้านพักในเขตป่าสวงนแห่งชาติ คาดโชว์ผลงาน 907 แห่งกลางเดือนกันยายนนี้ อธิบดีกรมป่าไม้ นายชลธิศ สุรัสวดี บอกว่า หลังจากกรมป่าไม้ ตรวจพบรีสอร์ท บ้านพักตากอากาศ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติทั่วประเทศมี จำนวน 907 แห่ง โดยมอบหมายให้นายอรรถพล เจริญชันษา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันปราบปราม และควบคุมไฟป่าเร่งตรวจสอบรายละเอียดของรีสอร์ท บ้านพักตากอากาศเป็นรายแปลง โดยจะสแกนเราจะคัดกรองว่าที่มาของเอกสารครอบครองที่นำมาแสดงสิทธิ มีสิทธิ์อยู่ในที่ดินเอกสารประเภทไหน หรือ ถ้าเราสงสัยว่าอาจจะได้มาโดยมิชอบ เพราะแปลภาพถ่ายแล้วไม่น่าจะเป็นไปได้ ก็จะส่งให้กรมที่ดิน ตรวจสอบซ้ำจะยังไม่ถึงขั้นให้เพิกถอนทันทีโดยรีสอร์ททั้ง 907 แห่งมีเวลาในการนำหลักฐานมาแสดงภายใน 30 วันเพื่อเข้ากระบวนการตรวจ ขณะนี้ได้รับรายงานว่าตรวจไปได้มากกว่าร้อยละ 70 แล้ว โดยเป้าหมายจะให้เสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ ขณะนี้ใกล้จะมีข้อมูลที่ชัดเจนแล้วว่ารีสอร์ท เหล่านี้มีหนังสืออนุญาตกี่แห่ง พื้นที่ไหนที่ไม่มี ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ลงพื้นที่ที่สุราษฎร์ธานีมีการขยายออกจากพื้นที่อ้างออกเอกสารสิทธิเยอะ และเราจะเปิดโอกาสให้กับผู้ครอบครองแสดงสิทธิ์ของตัวเองยังไม่เรียกว่าเป็นคนทำผิด แต่จะให้ชี้แจงว่ามี่ที่ดินในป่าไม้ได้อย่างไร เรามั่นใจว่าหากมีการออกเอกสารสิทธิ และตรวจสอบร่วมกับกรมที่ดิน หากพบว่าที่ดินออกมาโดยชอบ ก็จะสบายใจ การทำธุรกิจจะได้สบายใจ เพราะกรมป่าไม้ รับรอง และถ้าอนาคต มีการถูกรีดไถ ว่าในยุคของรัฐบาล พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ เราทำความจริงให้ปรากฎ รายงานพิเศษ : ชุดพญาเสือทวงคืนพื้นที่อช.หาดนพรัตธารา-หมู่เกาะพีพี
ข่าว 7 สี - กรมป่าไม้ เตรียมรื้อรีสอร์ทบนภูทับเบิก ล็อตแรก 19 แห่งในสัปดาห์หน้า พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เลิกกำหนดให้เจ้าของรีสอร์ทที่บุกรุกพื้นที่บนภูทับเบิกรื้อสิ่งปลูกสร้างออกไปแล้ว แต่ปรากฎว่า ยังไม่ยินยอมรื้อ ดังนั้น ในสัปดาห์หน้าจะส่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ลงพื้นที่ดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรีสอร์ท 19 แห่งตามคำสั่ง คสช. โดยไม่มีการผ่อนปรนให้อีก ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ กล่าวว่า ขณะนี้ได้นำป้ายไปติดแจ้งให้เจ้าของรีสอร์ททุกราย รับทราบตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว หากวันที่ลงพื้นที่มีการคัดค้าน หรือไม่ยินยอม ก็จะใช้การเจรจาให้เข้าใจถึงขั้นตอนการดำเนินการตามคำสั่งของ คสช. และจะติดป้ายแจ้งให้รีสอร์ทอีกประมาณ 40 แห่ง รับทราบว่าต้องรื้อถอนออกไปตามกำหนดเวลา ชุดพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ลงพื้นที่วัดแนวเขตที่เอกชนครอบครองกว่า 3 พันไร่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหลังเอกชนยื่นขอออกเอกสารสิทธิ์ อ้างเข้าทำประโยชน์ก่อนประกาศเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ส.ป.ก.นครราชสีมาตรวจสอบเอกสารสิทธิ์กว่า 1 แสนไร่ คาดว่าต้องใช้เวลาอีก 30 วัน จึงจะแล้วเสร็จ ผู้ประกอบการรีสอร์ท สกายวิว ในพื้นที่หมู่ 8 ตำบลบ้านเนิน อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ยอมรื้อถอนรีสอร์ทตามคำสั่งของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 พิษณุโลก แต่เนื่องจากเป็นรีสอร์ทที่เป็นบ้านพักแบบน็อคดาวน์จึงใช้รถเครน ยกบ้านพักทั้งหลังใส่รถบรรทุกและเคลื่อนย้ายลงจากภูทับเบิก ไปยังที่ดินของเจ้าของรีสอร์ทในพื้นที่ตำบลเข็กน้อย อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ นายชาญชัย ศรศรีวิชัย นายอำเภอหล่มเก่า กล่าวว่า การที่เจ้าของรีสอร์ทได้ยอมรื้อถอนรีสอร์ทเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะหากจะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปทำการรื้อถอนอาจจะทำให้ทรัพย์สินเกิดความเสียหายได้ จึงขอให้เจ้าของรีสอร์ทที่เหลืออีก 16 ราย ได้ทำการรื้อถอนรีสอร์ทก่อนเจ้าหน้าที่จะเข้าไปดำเนินการรื้อถอนรีสอร์ทในวันที่ 19 สิงหาคม 2559 ศูนย์ปฏิบัติการตามมาตรการแก้ไขปัญหาการครอบครอง และใช้ประโยชน์ที่ดินป่าภูทับเบิก อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ จัดประชุมเพื่อซักซ้อมแผนปฏิบัติการเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่เป็นรีสอร์ต 16 แห่ง หลังครบกำหนดให้รื้อถอนครั้งที่ 2 แล้วในวันนี้ และเตรียมเปิดปฏิบัติการรื้อถอนขั้นเด็ดขาดในวันพรุ่งนี้ โดยจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่กว่า 500 นาย นอกจากนี้ ได้ตั้งศูนย์อำนวยการที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าบริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านทับเบิกพร้อมจัดวางกำลัง กำหนดกรอบภารกิจให้กับชุดปฏิบัติการ ที่แบ่งออกเป็น 5 ชุด นายบุญลาภ สุกใส ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก ยืนยันว่าหากในวันพรุ่งนี้ ผู้ประกอบการรายใด ยังไม่ยอมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างตามคำสั่ง จะให้เจ้าหน้าที่ พร้อมอุปกรณ์หนัก เข้าไปดำเนินการรื้อถอนให้แล้วเสร็จเป็นรายๆ ไป ขณะเดียวกัน มีคำสั่งจากฝ่ายปกครอง ให้ผู้ปฏิบัติทุกนายใช้ความอดทน อดกลั้น ต่อคำยุยงหรือปลุกปั่นที่จะก่อให้เกิดความรุนแรงในทุกกรณี สำคัญที่สุด ในวันพรุ่งนี้ ห้ามพกพาอาวุธขณะเข้าปฏิบัติงานอย่างเด็ดขาด
ข่าว 7 สี - กรมป่าไม้ พร้อมลุยรื้อรีสอร์ตรอบภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ 16 แห่งวันพรุ่งนี้แล้ว ติดตามรายงานจาก คุณธนพัต กิตติบดีสกุล วันพรุ่งนี้ครบกำหนดเส้นตาย ตามคำสั่งของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก ให้รีสอร์ต รอบภูทับเบิก อำเภอล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ 19 แห่งต้องรื้อถอนออกไป ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เน้นการแจ้งให้เจ้าของรีสอร์ต ทำการรื้อถอนเองแล้ว แต่ยังเพิกเฉย มีรีสอร์ตเพียง 3 แห่ง ที่ยอมรื้อถอนออกไปแต่โดยดี ก่อนที่กรมป่าไม้ จะเริ่มภารกิจรื้อถอนรีสอร์ต 16 แห่ง ได้มีการประชุมชักซ้อมแผนปฏิบัติการกับเจ้าหน้าที่ใหม่ เน้นการทำงานอย่างรัดกุม หลีกเลี่ยงการปะทะไม่พกพาอาวุธ พร้อมระดมกำลังเจ้าหน้าที่ 500 นายลงพื้นที่อย่างพร้อมเพรียงกันในเช้าวันพรุ่งนี้ และในวันนี้ได้มีการขนเครื่องจักรกล รถบรรทุกเข้าประจำพื้นที่เป้าหมายแล้ว แม้เจ้าของ รีสอร์ตโรงเตี้ยม ยินยอมปฎิบัติตามกฎหมายให้รื้อรีสอร์ตแต่ยังต้องขอความชัดเจนกับอธิบดีกรมป่าไม้ในวันพรุ่งนี้ ถึงสิ่งปลูกสร้างอีกบางส่วนต้องถูกรื้อถอนหรือไม่ ส่วนรีสอร์ตแห่งอื่น ๆ ยังนิ่งเงียบ ไม่ขนของและไม่แสดงตน การรื้อรีสอร์ต 16 แห่ง ไม่ได้กำหนดเวลาทำงานชัดเจน แต่จะค่อยๆ ทยอยรื้อให้ครบทุกหลัง ซึ่งหากรีสอร์ตแห่งไหนทางการเป็นคนรื้อ เจ้าของรีสอร์ตต้องเป็นผู้รับผิดชอบจ่ายค่าใช้จ่ายในการรื้อและขนย้ายสิ่งของทั้งหมด นอกจากรีสอร์ต 16 แห่งที่จะเริ่มถูกรื้อแล้ว วันนี้เจ้าหน้าที่ยังได้เข้าปิดป้ายเตรียมรื้อถอนรีสอร์ตใหม่อีก 4 แห่งเพิ่มเติม จากเป้าหมายที่เข้าข่ายรื้อทั้งหมด 41 แห่ง การรื้อรีสอร์ตรอบภูทับเบิกทุกหลัง ต้องยึดปฎิบัติตามคำสั่ง ทำตามกฎหมายทุกขั้นตอนไม่มีการเลือกปฎิบัติ เน้นการเจรจาเป็นหลัก หลังเจรจาไม่เป็นผลถึงเวลารื้อก็ต้องรื้อ ทีมข่าวสังคม รายงาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งรัดทวงคืนที่ดิน ส.ป.ก.จัดสรรให้เกษตรกรตัวจริง พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าทวงที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ตามมาตรา 44 ว่าวันนี้ครบกำหนดให้ผู้ถือครองรายใหญ่มายื่นแสดงสิทธิ์ ทั้งสิ้น 431 แปลง รวม 430,000 กว่าไร่ โดยมีผู้ยื่นคัดค้าน 402 แปลง และไม่ยื่นคัดค้าน 29 แปลง ทั้งนี้ ผู้ยื่นคัดค้านทั้งหมด 11,462 ราย หรือคิดเป็นพื้นที่ 280,000 ไร่ จะต้องเข้าสู่ขั้นตอนตรวจสอบเอกสารสิทธิ์โดยกรมที่ดิน ว่าได้มาถูกต้องหรือไม่ โดยใช้เวลาตรวจสอบภายใน 30 วัน ในกรณีผู้ยื่นคัดค้าน ไม่มีเอกสารสิทธิ์ แต่ใช้ใบ ภบท.5 หรือ ภบท.11 ยื่นแทนนั้น เอกสารดังกล่าวไม่ใช่เอกสารสิทธิ์ ต้องมีการตรวจพิสูจน์ว่าบุคคลที่ถือครอง มีคุณสมบัติเป็นเกษตรกรหรือไม่ ถ้าเป็นเกษตรกรจริง จะต้องถือครองที่ดินไม่เกิน 50 ไร่ ส่วนที่เกินมาก็จะต้องคืนให้ ส.ป.ก. นอกจากนี้ ส.ป.ก.ยังขออนุมัติงบประมาณประจำปี 23 ล้านบาทเพื่อใช้จัดสรรที่ดินให้เกษตรกรได้ใช้ประโยชน์ ใน 3 แปลงที่ยึดคืนได้ ในพื้นที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 1,027 ไร่ และ อีก 2 แปลงที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวม 971 ไร่ ข่าว 7 สี - แผนปฎิบัติการรื้อรีสอร์ต 19 แห่งบนภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์เริ่มขึ้นแล้ว ติดตามรายงานจาก คุณธนพัต กิตติบดีสกุล แผนปฎิบัติการรื้อรีสอร์ตบนภูทับเบิก เริ่มต้นตั้งแต่เช้าวันนี้ โดยไร้การต่อต้าน คัดค้านจากเจ้าของรีสอร์ต และชาวไทยภูเขาบนพื้นที่ ทำให้การทำงานเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยอธิบดีกรมป่าไม้ อธิบดีกรมพัฒนาสังคม และผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้นำเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครองกว่า 500 นายเข้าพื้นที่ พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจกับเจ้าของรีสอร์ต 19 แห่งอีกครั้ง จากนั้นเริ่มตัดกระแสไฟฟ้า เข้าสำรวจจัดทำบัญชีสิ่งของและทรัพย์สินภายในรีสอร์ต ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนลงมือรื้อสิ่งปลูกสร้าง การรื้อเริ่มจากโรงเตี๊ยม รีสอร์ตขึ้นชื่อแห่งใหญ่ ที่เจ้าของพยายามต่อสู้คัดค้านมาโดยตลอด ซึ่งก่อนเจ้าหน้าที่จะลงมือรื้อ เจ้าของได้ขอให้การปฎิบัติการครั้งนี้เป็นธรรมไม่เลือกปฎิบัติ อธิบดีกรมป่าไม้ เน้นย้ำการปฎิบัติการครั้งนี้ต้องทำอย่างระมัดระวัง เป็นธรรมไม่เลือกปฎิบัติยึดบรรทัดฐานเดียวกันหมดทุกแห่ง การรื้อรีสอร์ตครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ต้องทำงานร่วมกับตัวแทนของรีสอร์ตในทุกขั้นตอน ขณะที่รีสอร์ตแห่งอื่นๆ ได้ย้ายข้าวของและมีผู้รับเหมามาทำการรื้อบางส่วนออกไปแล้วเช่นกัน ระหว่างที่กำลังรื้อรีสอร์ตโรงเตี๊ยม ชาวเขาเผ่าม้ง ได้เฝ้าติดตามสังเกตุการณ์อยู่ไม่ห่าง ส่วนระยะเวลาการรื้อรีสอร์ตทั้ง 19 แห่งไม่กำหนดไว้แน่ชัด เช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน ค่าเก็บรักษาทรัพย์สิน เจ้าหน้าที่ต้องคิดประเมินอีกครั้งก่อนเรียกเก็บกับเจ้าของในแต่ละรีสอร์ต ทีมข่าวสังคมรายงาน นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก.เปิดเผยว่า ได้เร่งรัดจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก.ที่ยึดคืนมาได้ให้เกษตรกร หรือทำประโยชน์อื่นๆ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งเดิมมีอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ถือครองอยู่ ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เบื้องต้นตน ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบด้วยตนเอง พบว่ามีต้นไม้หายากหลายชนิด และอาคารที่มีมูลค่าสูง แต่ต้องเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิจารณาก่อน โดยมีทางเลือก 3 แนวทาง คือรื้อถอนทั้งหมด, โอนที่ให้กรมธนารักษ์ และจัดเป็นที่ทำการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วนสวนส้มที่จังหวัดเชียงใหม่ เบื้องต้นมีผู้ถือครอง 1 รายประสงค์จะคืนที่ให้ ส.ป.ก.แต่เนื่องจากพื้นที่ที่ปลูกส้มใช้เทคนิคชั้นสูง และเกษตรกรทั่วไปไม่สามารถดูแลได้ ขณะนี้กำลังหาแนวทางที่เหมาะสมว่าจะจัดการอย่างไร และวันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ที่จังหวัดกระบี่ เรียกปฏิรูปที่ดิน 4 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และยะลามอบนโยบายการปฏิบัติงานในพื้นที่และสรุปผลงานยึดคืนพื้นที่ ส.ป.ก.คืน
อธิบดีกรมที่ดิน ห่วงการขาดแคลนช่างรังวัดทั่วประเทศ ทำให้เกิดความล่าช้าในการตรวจสอบและไม่สอดคล้องกับการร้องเรียนที่มีเกือบร้อยละ 90 ด้านชาวเขาเผ่าม้ง ร่ำไห้ หลังถูกเจ้าหน้าที่รื้อถอนร้านค้าของฝากบนภูทับเบิก เป็นวันที่ 2 เกิดม็อบรีสอร์ทภูทับเบิก ปิดถนนห้ามเจ้าหน้าที่เข้ารื้อรีสอร์ทแห่งที่ 3 เร่ง เจรจา เพื่อลดความตึงเครียด ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปรามและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ นายอรรถพล เจริญชันษา บอกว่า หลังจากเข้าปฏิบัติรื้อรีสอร์ทภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ วันที่ 2 ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้สนธิกำลังเตรียมเข้ารื้อรีสอร์ทชื่อ คานาอัน ซึ่งถูกคำสั่งให้คดีสิ้นสุด และต้องรื้อถอนตามคำสั่งคสช.แล้ว ทางเจ้าของไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่รื้อถอน ขณะเดียวกันยังพบมีการมวลชนปิดถนน เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติงานได้ โดยเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ และตัวแทนจากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และหน่วยงานท้องถิ่นกำลังเจรจาเพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์ตึงเครียด และไม่เกิดเหตุบานปลาย พร้อมกันนี้ได้รายงานให้อธิบดีกรมป่าไม้ และนายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแล้ว โดยจะเจรจาขอให้เปิดถนนก่อน อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นหากมีการนำมวลชน มาขัดขวางการปฏิบัติงาน อาจจะต้องยืดเวลาในการดำเนินการ แต่ทั้งหมดจะอยู่บนหลักการที่จะไม่ให้มีการปะทะอย่างเด็ดขาด สำหรับรายชื่อ 16 รีสอร์ทที่อยู่ในกลุ่มแรกต้องเข้ารื้อถอน ได้แก่ 1.โรงเตี๊ยม 2.สานฝัน 3. คานาอัน-ร้านค้า 4. คานาอัน-บ้านพัก 5.ทับเบิกภูฎาน 6.ไร่ตายาย 7. บ้านสายหมอก 8. ภูทองคำ 9.อิงฟ้าภูทับเบิก 10. ทับเบิกวิลเลจ 11. เคียงดาว 12. มอนเตรีโอ 13. บ้านชมวิว 14.ประชารีสอร์ต 15.ทับเบิกอินดี้ (รื้อ 1 หลัง) 16.ทับเบิกอีโคแคมป์ ข่าว 7 สี - เจ้าหน้าที่นำเครื่องจักรเข้าทำการรื้อถอนรีสอร์ทที่ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นวันที่ 2 ขณะชาวเขาผ่าม้งรวมตัวกันคัดค้าน เจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักรได้เข้ารื้อถอนรีสอร์ทที่ภูทับเบิก ที่อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นวันที่สอง โดยได้เข้ารื้อถอน"โรงเตี้ยม" รีสอร์ท ต่อจากวานนี้ หลังจากเมื่อวานได้เกิดฝนตกลงมา ทำให้รื้อถอนได้เพียงบางส่วน โดยคาดว่าจะใช้เวลา 5 วัน ในการรื้อถอน ขณะที่ นายกุญช์ภัสส์ พัฒนฉัตรรุ่งรุจ เจ้าของได้ขอรื้อถอนเอง เนื่องจากกลัวว่าทรัพย์สินจะได้รับความเสียหาย โดยนายบัณฑิตย์ เทวิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ผ่อนผันให้เวลา 1 ชั่วโมง ในการเก็บทรัพย์สิน จากนั้นได้ใช้รถแบคโฮเข้าทำการรื้อถอน โดยคาดว่าจะใช้เวลา 5 วัน ขณะที่เจ้าหน้าที่อีกชุดได้นำเครื่องจักรเข้ารื้อ "สานฝันรีสอร์ท" ที่เป็นอาคารจำหน่ายสินค้าให้นักท่องเที่ยว และที่ "คานาอัน" โดยมีชาวเขาเผ่าม้งประมาณ 50 คน ได้รวมตัวกันคัดค้านการรื้อถอนของเจ้าหน้าที่ โดยให้เหตุว่า ก่อนหน้านี้มีหน่วยงานของราชการได้เข้ามาส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว จนมีการก่อสร้างอาคาร ที่พัก โดยขอให้มีการทบทวนคำสั่งที่ให้มีการรื้อถอนด้วย ข่าว 7 สี - หลังจากรื้อถอนรีสอร์ทบนภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ผิดกฏหมายไปแล้ว ภูทับเบิกจะถูกจัดระเบียบพื้นที่ใหม่ทั้งหมด ติดตามจากรายงาน คุณธนพัต กิตติบดีสกุล พื้นที่นิคมสร้างตนเองสงเคราะห์ชาวเขา ภูทับเบิก อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์เนื้อที่ 47,000 ไร่ ขณะนี้กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ได้จัดทำแผนแม่บท การใช้ประโยชน์พื้นที่ภูทับเบิกในอนาคตเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยจะนำมาใช้ทันที หากกรมป่าไม้ และจังหวัดเพชรบูรณ์ เข้ารื้อถอนรีสอร์ทที่บุกรุก โครงสร้างไม่ได้มาตรฐาน และไม่มีคุณสมบัติครบทั้ง 111 แห่งที่ตั้งอยู่บนภูทับเบิก โดย "โมเดลการใช้ประโยชน์พื้นที่ภูทับเบิกในอนาคต" จากนี้จะไม่ให้มีรีสอร์ทเกิดขึ้นบนภูทับเบิกอีก เน้นการกางเต้นท์ หรือใช้สิทธิชาวเขาทำเป็นโฮมสเตย์แทน ซึ่งนายทุนที่ถือครองพื้นที่จะเสียสิทธิทันที ส่วนที่ดินทำกินให้คงสัดส่วนเท่าเดิม ให้เฉพาะชาวเขาเผ่าม้ง 4,037 ครัวเรือน โดยส่งเสริมการปลูกพืชผัก เช่น กะหล่ำปลี ควบคู่กับปลูกไม้ยืนต้นหรือกาแฟ ระหว่างแปลงผัก เพื่อเพิ่มความเป็นธรรมชาติ สำหรับรีสอร์ทที่ถูกรื้อไป จะนำมาฟืนฟูเพิ่มพื้นที่ป่า เป้าหมายต้องให้ได้ 62 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ นอกจากนี้ยังให้มีพื้นที่ส่วนกลาง สาธารณะ สำหรับชุมชนและภาครัฐ ส่งเสริมอาชีพและภูมิปัญญาท้องถิ่นด้วย โมเดลนี้เป็นเพียงการแบ่งสัดส่วน เตรียมไว้รอกำหนดจุดพื้นที่ตามจริงเมื่อรื้อสิ่งปลูกสร้างจากรีสอร์ทออกหมดแล้ว เร็วๆนี้ เราคงจะได้เห็นภูทับเบิกโฉมใหม่ เน้นท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สัมผัสธรรมชาติที่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง ทีมข่าวสังคม รายงาน ข่าว 7 สี - หลังมีการเจรจาระหว่าง เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปรื้อรีสอร์ทบนภูทับเบิก กับตัวแทนกลุ่มชาวเขาที่ปิดถนนได้ข้อยุติ เจ้าหน้าที่ยอมหยุดรื้อถอนรีสอร์ทชั่วคราวแล้ว เป็นวันที่ 2 ที่เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน เข้ารื้อรีสอร์ทบนภูทับเบิก โดยวันนี้ได้มีการรื้อรีสอร์ทขนาดเล็กเพิ่มอีก 2 แห่ง โดยมีกลุ่มชาวเขาเผ่าม้ง ซึ่งคัดค้านการรื้อรีสอร์ท เข้ามาพยายามเรียกร้องกับเจ้าหน้าที่ให้ยุติการรื้อถอน จนช่วงบ่าย กลุ่มชาวเขาได้รวมตัวกันกว่า 100 คน ปิดถนนขึ้นลงภูทับเบิก ทำให้นักท่องเที่ยวและประชาชน ไม่สามารถผ่านขึ้นลงได้ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน คอยควบคุมสถานการณ์ พร้อมกับมีการเปิดโต๊ะเจรจาเพื่อหาข้อยุติ ระหว่างเจ้าหน้าที่กับตัวแทนชาวม้ง นายชิต อินทระนก ป่าไม้จังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า หลังมีการรวมตัวปิดถนน และเจรจากันนานเกือบ 4 ชั่วโมง จึงได้ข้อยุติ โดยกลุ่มชาวเขา ได้ยื่นข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ประเด็นหลักคือให้เจ้าหน้าที่ยุติการรื้อถอนไว้ก่อน พร้อมกับให้หาทางออกร่วมกัน โดยขอให้ทหารเข้ามาร่วมแก้ไขด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้รับข้อเสนอเบื้องต้นไว้ก่อน และจะหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน หลังได้ข้อยุติ ทางชาวเขาจึงยอมเปิดเส้นทาง ให้เจ้าหน้าที่นำเครื่องจักรที่ใช้ในการรื้อถอนทั้งหมดออกไป ส่วนชาวเขาเอง ได้ยอมสลายการชุมนุมไปโดยไม่เกิดเหตุรุนแรงแต่อย่างใด
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งรัดให้ปักป้ายยึดคืนพื้นที่ ส.ป.ก. พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ทางภาคใต้ มอบนโยบายทวงคืนที่ดินของรัฐ ตามมาตรา 44 ให้กับปฏิรูปที่ดินจังหวัดกระบี่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และยะลา โดยมีพื้นที่เป้าหมายทวงคืน 31 แปลง 33,000 กว่าไร่ จังหวัดกระบี่ มีมากถึง 18 แปลง พื้นที่ 13,000 กว่าไร่ มีกรณีบังคับคดี 3 แปลง โดยพบว่าพื้นที่ที่มีผู้คัดค้าน 15,000 ไร่ ไม่มีผู้คัดค้าน 19,000 ไร่ และได้มีตัวแทน"กลุ่มเกษตรกรไร้ที่ทำกิน"มายื่นหนังสือเรียกร้องให้จัดที่ดินทำกินให้ด้วย ส่วนภาพรวมทั้งประเทศ ที่มีผู้มายื่นคัดค้าน ประมาณ 11,000 ราย ในส่วนที่มีเอกสารสิทธิ์ มีพื้นที่ 1 แสนไร่ จะให้กรมที่ดิน เป็นผู้ตรวจสอบ ส่วนผู้ที่ใช้เอกสาร ภบท.5 หรือ ภบท.11 มีพื้นที่ กว่า 180,000 ไร่ จะต้องไปตรวจสอบกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ว่าได้มาถูกต้องหรือไม่ และเกษตรกรมีฐานะยากจน ไม่มีที่ดินทำกินจริงหรือไม่ ส่วนรายที่ยื่นคัดค้าน แต่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ ต้องลงตรวจสอบพื้นที่พร้อมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจะใช้เวลาตรวจสอบ 30 วัน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ และฝ่ายปกครอง สนธิกำลังเข้ารื้อถอนรีสอร์ท บนภูทับเบิก ตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งปฏิบัติการเป็นวันที่ 2 ช่วงบ่าย มีชาวม้งรวมตัวกันกว่า 100 คน คัดค้านการรื้อรีสอร์ท โดยนายมงคล เถารักตระกูล สมาชิก อบต.วังบาล บอกว่าที่ดินในหมู่บ้านบนภูทับเบิก อาศัยอยู่มานานหลายสิบปี ไม่เป็นป่าตั้งนานแล้ว จึงไม่ได้บุกรุกป่า หากจะรื้อถอน ก็ขอให้รื้อถอนเอง นายไกรสร กองฉลาด และนายกฤษณ์ คงเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เข้าเจรจากับตัวแทนชาวบ้านนานกว่าสองชั่วโมง โดยชาวบ้านได้ยื่นข้อเรียกร้อง 5 ข้อ คือ 1 ให้เจ้าหน้าที่ยุติการรื้อถอน และนำเครื่องจักรพร้อมเจ้าหน้าที่ลงจากภูทับเบิก 2 ให้หาทางออกร่วมกันเป็นลำดับขั้นตอน 3 ให้ทหารเข้ามามีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น 4 ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดินให้เป็นกิจลักษณะ ตามกฏหมายที่ดินที่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่พึงมีพึงได้ 5 ให้อาศัยกฏหมาย มาตรา 44 ที่ประกาศแล้ว แก้ไขปัญหาขาวบ้านที่ถูกดำเนินคดีและบังคับคดีให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ทำตามในข้อที่ 1 คือถอนกำลังไปก่อน ส่วนที่เหลือ จะเสนอคณะกรรมการแก้ไขปัญหาภูทับเบิกได้รับทราบ ชาวบ้านจึงพอใจ เมื่อคืนนี้ นายบัญฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ประชุมด่วน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณา ข้อเรียกร้องของชาวบ้าน 5 ข้อ สรุปผลดังนี้คือ 1.เจ้าหน้าที่ จะยังปฏิบัติการรื้อรีสอร์ทต่อไป ตามคำสั่ง จนแล้วเสร็จ ครบ ทั้ง 19 แห่งที่ถูกบังคับคดี 2.จะแจ้งชาวบ้าน ขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ให้ชัดเจน 3.ทหาร จะทำหน้าที่ ยกของ ตามคำสั่งเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนในการแก้ปัญหานี้ 4.ดำเนินการตามแผนการพัฒนาของ กรมพัฒนาสังคม ในการแก้ไขปัญหาที่ดินต่อไป 5.เจ้าหน้าที่จะบังคับใช้กฏหมายเฉพาะสิ่งปลูกสร้างเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับการยึดที่ดินแต่อย่างใด และช่วงสายวันนี้ เจ้าหน้าที่จะประชุมหารือการปฏิบัติงานอีกครั้ง ที่ที่วาการอำเภอหล่อเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ยืนยันเดินหน้าเข้ารื้อถอนรีสอร์ตภูทับเบิก ย้ำชัดเป็นคำสั่งของ คสช.พร้อมเรียกผู้ประกอบการชาวม้งประชุมทำความเข้าใจพรุ่งนี้ หลังมีการปิดถนนในหมู่บ้านที่ภูทับเบิกของชาวม้ง เมื่อวานนี้ จนทำให้นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ มีคำสั่งให้ถอนกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมด รวมทั้งเครื่องจักร ลงจากพื้นที่ภูทับเบิกตามคำเรียกร้องของชาวม้ง ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เรียกประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาภูทับเบิกเป็นการเร่งด่วน พร้อมยืนยันให้เจ้าหน้าที่เข้ารื้อถอนรีสอร์ตในภูทับเบิกต่อไป เพราะเป็นคำสั่งของ คสช.โดยวันพรุ่งนี้ จะเรียกผู้ประกอบการชาวม้งบนภูทับเบิกมาทำความเข้าใจเพื่อหาทางออกร่วมกันเวลา 14.00 น.ที่ว่าการอำเภอหล่มเก่า ทั้งนี้ สาเหตุการชุมนุมปิดถนนเมื่อวานนี้เนื่องจากมีข่าวลือทำให้เกิดความสับสนว่าจะรื้อถอนที่พักทั้งหมด และต้องขอบคุณผู้ประกอบการหลายรายที่ให้ความร่วมมือรื้อถอนเอง ส่วนผู้ที่ขัดขวางต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย และขณะนี้ทางกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และกระทรวงมหาดไทย เร่งจัดทำแผนแม่บทการใช้ที่ดินบนภูทับเบิกที่จะกำหนดพื้นที่ หรือ การโซนนิ่งอย่างชัดเจน ให้มีความสมดุลในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ชี้ยังไม่ล้มเลิกปฏิบัติการรื้อถอนรีสอร์ทบนภูทักเบิกของกรมป่าไม้ ยืนยันดำเนินการตามกฎหมาย โดยในระหว่างเป็นประธานเปิดการประชุม ทิศทางการปฏิรูปอุทยานแห่งชาติ ตามนโยบายปฏิรูปประเทศ นายกรัฐมนตรีได้โทรศัพท์มาสั่งการพลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถึงปัญหาชาวบ้านไม่ยินยอมให้รื้อถอนรีสอร์ตบนภูทับเบิก โดยพลเอกสุรศักดิ์ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้กระทรวงเข้าไปดูแลปัญหานี้ แต่ต้องแยกประเด็นระหว่างความเดือนร้อนของประชาชน และการทำผิดกฎหมาย โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกันดูแลเยียวยาผู้ที่เดือดร้อนจากการรื้อถอน ทั้งนี้ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ดำเนินการโดยยึดตามกฎหมาย ตามที่ศาลตัดสินและคดีสิ้นสุดแล้ว จึงไม่ต้องทบทวนภารกิจ เพราะหากยกเว้นก็จะกลายเป็นบรรทัดฐานในพื้นที่อื่น ส่วนหัวหน้าชุดเฉพาะกิจฉลามขาว ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทำเรื่องขอย้ายออกจากพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพราะถูกข่มขู่จากผู้เสียผลประโยชน์ในยุทธการทวงคืนผืนป่า และมีกระแสข่าวว่า ได้จ้างวานมือปืนมายิงนั้น พลเอกสุรศักดิ์ บอกว่า กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง หากเป็นจริงกองทัพภาค 4 ซึ่งให้ไปดูแลพื้นที่ ก็สามารถใช้กฎหมายพิเศษจัดการได้ทันที ข่าว 7 สี - มีการเจรจาหาข้อสรุปกรณีการรื้อถอนรีสอร์ทบนภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยทางจังหวัดจะให้ระยะเวลา 7 วัน เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าไปทำการรื้อถอนรีสอร์ทเอง นายบัณทิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมเจรจากับผู้ประกอบการรีสอร์ทบนภูทับเบิก อำเภอหล่มเก่า จำนวน 19 ราย ที่บริเวณที่ว่าการอำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อหาข้อสรุปกรณีการรื้อถอนรีสอร์ทบนภูทับเบิก ในระยะที่ 2 ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า สำหรับการประชุมมีข้อสรปุว่า ทางจังหวัดจะดำเนินการรื้อถอนรีสอร์ททั้งหมด 19 ราย แต่จะให้เวลาเวลากับผู้ประกอบการรีสอร์ท ได้เข้าไปทำการรื้อถอนเอง โดยจะให้เวลา 7 วัน แต่หลังจากนั้น ทางจังหวัดจะเข้าไปดำเนินการรื้อถอนรีสอร์ท ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2559 ส่วนรีสอร์ทที่อยู่ในขั้นตอนของชั้นพนักงานสอบสวน จะต้องมีการดำเนินการเช่นเดียวกัน แต่จะดำเนินการเฉพาะผู้ที่ทำผิดกฏหมายเท่านั้น ทางด้านนายชาญวิทย์ เฟื่องฟูกิจการ ที่ปรึกษาฝ่ายกฏหมาย สมาคมพ่อค้าม้ง กล่าวว่า อยากจะให้ทุกฝ่ายทั้งประเทศ ได้ทราบว่า เราเกิดมาในที่ที่มันผิดและจะให้เป็นเรื่องที่ถูกได้อย่างไร ในเมื่อกฏหมายให้เราเป็นฝ่ายผิด ตั้งแต่เราเกิดเพราะเราอยู่ในที่ผิด จะให้เป็นเรื่องที่ถูก คงเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้น เราเป็นคนผิดของประเทศอยู่แล้ว
รัฐบาลเดินหน้าทวงคืนพื้นที่ภูทับเบิกคืน ขณะที่ 3 รีสอร์ท เร่งรื้อถอนโครงสร้างอาคารให้ทันตามกำหนด วันที่ 2 ที่ให้เวลาผู้ประกอบการรีสอร์ทบนภูทับเบิก 19 ราย รื้อถอนภายใน 7 วัน ก่อนที่ทางจังหวัดจะเข้าไปรื้อถอนในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ล่าสุดมีโรงเตี๊ยม คานาอานรีสอร์ท และ ตายายรีสอร์ท เร่งรื้อถอนให้เสร็จทันตามกำหนดเวลา ขณะที่นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าจะแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบและหาทางออกร่วมกัน ผู้ประกอบการอย่าอ้างเพียงว่าไปกู้ยืมเงินมา เพราะเป็นเรื่องผิดกฎหมาย โดยรัฐบาลจะเอากลับคืนมาให้เป็นของหลวง เพื่อจัดสรรให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยต่อไป ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ย้ำว่าจะยึดตามกฎหมายและไม่ยุติการรื้อถอน แต่จะหารือหน่วยงานเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ซึ่งเป็นผู้จัดสรรที่ดินให้ชาวม้ง เพื่อเยียวยาหลังรื้อถอน ซึ่งกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการได้เตรียมแผนแม่บท "ภูทับเบิกโมเดล" ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยหลังรื้อถอนเสร็จจะบูรณะฟื้นฟูป่าไปพร้อมกับสร้างอาชีพให้ชาวม้งในพื้นที่ 200 ไร่ที่มีปัญหา ส่วนการจัดการที่ดินทำกินชุมชน พลเอกสุรศักดิ์ ได้มอบหนังสืออนุญาตเข้าทำประโยชน์ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติและป่าชายเลนแห่งแรก ในจังหวัดนครศรีธรรมราช 3,960 ไร่ ใน 4 ตำบล ให้ทำกินคนละไม่เกิน 15 ไร่ และห้ามบุกรุกป่าชายเลนที่สมบูรณ์เพิ่มเติมเด็ดขาด รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดโมเดลบริหารจัดการที่ดินทำกินในป่าชายเลน "ป่าไม้-ประมง" นำร่องนครศรี ธรรมราช 11,000 ไร่ วันนี้(24ส.ค.) ที่เทศบาลเมืองปากพูน จ.นครศรีธรรมราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ประธานมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาตินำร่อง 3 พื้นที่ บริเวณตำบลปากพนังฝั่งตะวันตก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช รวม 3,964 ไร่จากเป้าหมาย 11,000 ไร่ ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้ชาวบ้านใช้ประโยชน์ที่ดินทำกินในป่าเสื่อมสภาพ แต่ไม่ได้รับสิทธิ์การทำกินอย่างถูกต้องกฏหมายมานานกว่า 20 ปี โดยจะจัดสรรในรูปแบบแปลงรวมหรือสหกรณ์ วางกติกาป้องกัน ไม่มีการออกเอกสารสิทธิ หรือนำที่ดินไปขายต่อให้กับกลุ่มนายทุนหรือผู้มีอิทธิพล ส่วนที่เหลืออีกกว่า 7,000 ไร่ ได้กำชับให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและจังหวัด เร่งดำเนินการตามขั้นตอนการขออนุญาตให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ นายสมศักดิ์ พิริยโยธา ผอ.สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) บอกว่า ทช.เตรียมเสนอการบริหารพื้นที่ทำกินแบบใหม่ภายใต้รูปแบบป่าไม้-ประมง ที่นำตัวอย่างจากอินโดนีเซียมาประยุกต์ใช้ โดยจะผสมผสานระหว่างพื้นที่บ่อเลี้ยงสัตว์น้ำกับพื้นที่ป่า แบ่งออกเป็นแปลง และบริหารจัดการระบบน้ำป้องกันน้ำเน่าเสีย พบว่า จะเพิ่มผลผลิตต่อไร่มากกว่าร้อยละ 5-6 ซึ่งจะเสนอรูปแบบให้กับผวจ.นครศรีธรรมราชและชุมชนที่ได้รับมอบหนังสืออนุญาตใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อประกอบการพิจารณาและนำไปใช้ปฏิบัติในพื้นที่ต่อไป ข่าว 7 สี - ผู้ประกอบการรีสอร์ต ต่างโอดครวญการให้เวลารื้อถอนรีสอร์ต 7 วัน คงไม่เพียงพอ โดยเฉพาะสิ่งปลูกสร้างที่เป็นอาคารคอนกรีต สำหรับความคืบหน้าในการรื้อถอนรีสอร์ตบนภูทับเบิก อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 19 ราย ในระยะที่ 2 ตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ผู้ประกอบการรีสอร์ตส่วนใหญ่ ต่างว่าจ้างผู้รับเหมา เข้าไปทำการรื้อถอนอาคาร และสิ่งปลูกสร้าง ผู้ประกอบการรีสอร์ตบางราย ได้โอดครวญในเรื่องการให้เวลารื้อถอน 7 วัน ซึ่งคงจะไม่เพียงพอ เนื่องจากโครงสร้างอาคารเป็นคอนกรีต และเหล็กทำให้การรื้อถอนทำได้ยาก แต่ได้ให้พนักงาน และลูกจ้าง ช่วยกันรื้อถอนอย่างต่อเนื่อง แม่บ้านรีสอร์ตแห่งหนึ่ง เล่าว่าได้ระดมคนงานเข้ารื้อถอนรีสอร์ตเพื่อจะให้แล้วเสร็จในเวลา 7 วัน แม้จะมีอุปสรรคในเรื่องสภาพอากาศที่มีฝนตก และยังถูกตัดไฟฟ้า จึงต้องหาเครื่องปั้นไฟฟ้ามาใช้ ในช่วงการรื้อถอนรีสอร์ต ขณะที่ตำรวจ สภ.หล่มเก่า อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม ในการแจ้งข้อหากับแกนนำ 4 คน ที่ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ กรมป่าไม้ ระบุ 1.3 พันรีสอร์ทที่ถูกตรวจสอบยังมีโอกาสในการแจงหลักฐานการครอบครอง เตรียมสรุปผล 18 ก.ย.นี้ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและ ควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ นายอรรถพล เจริญชันษา บอกถึงความคืบหน้าการตรวจสอบรีสอร์ททั่วประเทศ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ จำนวน 1,300 ราย จากที่ตรวจพบทั้งหมด 1,800 ราย ทั้ง นี้กรมป่าไม้มีขั้นตอนตรวจสอบที่เป็นขั้นเป็นตอน ตั้งแต่การแจ้งให้ยื่นเอกสาร การนำตรวจสอบพื้นที่ การตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หากพบว่าผิดกฏหมายก็ดำเนินคดี หรือถ้ามีเอกสารสิทธิทางที่ดินแล้วพบว่าน่าจะออกโดยมิชอบก็จะประสานงานกรมที่ดินเพื่อตรวจสอบต่อไป โดยกรมป่าไม้เตรียมจะสรุปผลการตรวจสอบรีสอร์ททั้งหมดในแต่ละพื้นที่ในสถาปนากรมป่าไม้วันที่ 18 ก.ย.นี้ ข่าว 7 สี - กรมป่าไม้ เตรียมเข้าตรวจสอบรีสอร์ตบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนอีก 1,300 แห่ง ทั่วประเทศ นายอรรถพล เจริญชันษา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ ระบุว่า ได้ตรวจสอบรีสอร์ตที่ปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติทั่วประเทศแล้วมีอยู่ 1,800 แห่ง จึงได้เรียกตรวจสอบเอกสารสิทธิ์การครอบครองรีสอร์ต 1,300 แห่งก่อน โดยจะตรวจสอบตามขั้นตอน เริ่มจากการให้เจ้าของรีสอร์ตยื่นเอกสารแสดงสิทธิ์ การตรวจสอบเอกสาร และลงพื้นที่ตรวจสอบ หากพบว่ามีการครอบครองที่ดิน และก่อสร้างรีสอร์ตผิดกฏหมาย หรือตรวจพบเอกสารสิทธิ์ที่มีอยู่ได้มาโดยมิชอบก็จะส่งให้กรมที่ดิน ตรวจสอบและเพิกถอนสิทธิ์ต่อไป คาดว่าจะสรุปผลตรวจสอบได้กลางเดือนกันยายนนี้ สำหรับรีสอร์ต 1,300 แห่งที่ต้องตรวจสอบอยู่ส่วนมากอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ เช่นที่จังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ลำปาง ส่วนที่เหลือกระจายอยู่ในภาคอีสาน และภาคใต้
ปฏิบัติการรื้อถอนรีสอร์ตบนภูทับเบิก ตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ รอบ 2 เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าท่ามกลางสายหมอก โดยกำลังเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ประกอบด้วย ป่าไม้ ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง อาสาสมัคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กว่า 650 นาย พร้อมเครื่องจักรขนาดใหญ่ ลงพื้นที่เข้าปฏิบัติการ โดยพบว่า รีสอร์ตทั้ง 17 แห่ง มีการรื้อถอนไปแล้ว 9 แห่ง อยู่ระหว่างรื้อถอน 6 แห่ง ส่วนอีก 2 แห่ง ยังไม่ดำเนินการรื้อถอน คือภูทองคำ รีสอร์ตอาคารปูน 2 ชั้น จำนวน3หลัง สร้างเมื่อปี 2557 และ รีสอร์ตสายหมอก ที่ลงทุนสร้างกว่า 2 ล้านบาท เนื่องจากเจ้าของรีสอร์ตทั้งสองแห่ง ยินยอมให้เจ้าหน้าที่นำเครื่องจักรเข้ารื้อถอนให้ เพราะปัญหาโครงสร้างส่วนใหญ่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ส่วนรีสอร์ตภัตตาคารชื่อดัง “โรงเตี๊ยม” เจ้าของได้เร่งระดมช่างหลายสิบคน พร้อมนำรถเครนขนาดใหญ่ เร่งรื้อถอนตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน การเข้ารื้อถอนรีสอร์ตภูทับเบิก ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ เชื่อว่า ไม่น่าจะมีกลุ่มชาวม้งออกมาปิดถนนคัดค้านเหมือนครั้งที่ผ่านมา หลังได้ขยายระยะเวลาเพิ่มอีก 7 วัน ให้ผู้ประกอบการเข้าไปรื้อถอนเอง ซึ่งหลายส่วนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะหากผู้ประกอบการขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ จะถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และจะต้องถูกดำเนินคดี รายงานสดจาก ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ อุปสรรคการรื้อถอนรีสอร์ทวันที่ 2 คือสภาพที่ตั้งรีสอร์ทเป็นแนวหน้าผา และที่สูง ทำให้การทำงานต้องระมัดระวังมากขึ้น คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ อนุมัติเพิ่มเติมพื้นที่เตรียมมอบให้ทำกินให้กับชุมชนผู้มีรายได้น้อยอีก 100,000 ไร่ และนายกรัฐนตรี สั่งให้เตรียมแผนพัฒนาอาชีพหลังประชาชนรับมอบที่ดินทำกินแล้ว เมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เพื่อติดตามความคืบหน้าการจัดที่ดินให้กับชุมชนในลักษณะของแปลงรวม โดยไม่ให้กรรมสิทธิ์ โดยที่ประชุมได้อนุมัติพื้นที่ที่จะนำมาจัดสรรที่ดินทำกินให้กับราษฎรในลักษณะของแบบกลุ่ม เพิ่มเติมอีก 18 พื้นที่ 100,000 ไร่เศษ และเมื่อรวมที่ดินที่มีการอนุมัติไปแล้ว 320,000 ไร่ เศษ รวมทั้งหมดปี 2559-2560 จะมีพื้นที่เตรียมจัดสรรจำนวน 450,000 ไร่ นางรวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี เร่งรัด ให้สำรวจพื้นที่แปลงที่จะจัดสรรให้เกษตรกร ซึ่งปัจจุบันครอบคลุมพื้นที่ 55 จังหวัด เช่น พื้นที่ที่มีราษฎรบุกรุกอยู่แล้ว รวมถึงแปลงว่างที่นำมาจัดสรรให้ราษฎรเพิ่มเติมได้ นอกจากนี้ ประชุมเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.คณะกรรมการนโยบายที่ดิน เพื่อแก้ปัญหาข้อกฎหมายที่ซับซ้อนกันในการแก้ปัญหาที่ดิน โดยกำหนดให้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน 1 เดือน ทั้งนี้ ที่ผ่านจัดสรรที่ดินให้กับประชาชนแล้ว 5,628 ราย รวม 7,600 แปลง หลังจากที่จัดสรรแล้ว รัฐบาลจะจัดงบประมาณไปช่วยพัฒนาอาชีพ ข่าว 7 สี - เจ้าหน้าที่ประชุมแผนการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนภูทับเบิก พร้อมเตรียมเข้ารื้ออีกครั้งในวันจันทร์หน้า แม้ว่าจะถูกโทรศัพท์ข่มขู่เจ้าหน้าที่ซ้ำเป็นรอบ 2 ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เรียกประชุมคณะทำงานชุดรื้อถอนรีสอร์ต และสิ่งปลูกสร้างบนภูทับเบิก ที่ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ หลังจากที่วันนี้ได้หยุดการปฏิบัติการรื้อถอนชั่วคราวเพื่อวางมาตรการความปลอดภัย และกำหนดแผนการเข้ารื้อถอนให้กับคณะทำงานกว่า 700 คน ที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ระบุว่า คนร้ายได้โทรศัพท์ไปข่มขู่เอาชีวิต ผู้อำนวยการสำนักจัดการอนุรักษ์ป่าไม้ที่ 4 พิษณุโลก เป็นครั้งที่ 2 หากไม่ยุติการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ทั้งนี้ยืนยันว่าการดำเนินการื้อถอนจะคงดำเนินต่อไป ซึ่งล่าสุดสามารถรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างไปแล้ว 121 ห้อง และจะเข้ารื้อถอนอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 5 กันยายนนี้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังมีกำลังใจดี ส่วนความคืบหน้าทางคดี ตำรวจ สภ.หล่มเก่า อยู่ระหว่างตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์เพื่อเร่งติดตามตัวคนร้าย ขณะที่นายอำเภอหล่มเก่า เตรียมเข้าแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวัน ที่ สภ.หล่มเก่า อีกครั้ง
ข่าว 7 สี - เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเข้ารื้อถอนร้านค้าริมหาดเฉวง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อคืนพื้นที่ให้กับรัฐจำนวน 9 ไร่ มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท เป็นการชี้แจงและทำความเข้าใจของเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ กองกำลังรักษาความสงบ กองทัพภาคที่ 4 ระหว่างที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเข้าไปรื้อถอนร้านค้า จำนวน 30 ร้านค้า ที่ปลูกอยู่ริมหาดเฉวง ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการขายสินค้าของฝาก เครื่องประดับ และเสื้อผ้า ก่อนหน้านี้ เทศบาลนครเกาะสมุย ได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนผู้ประกอบการให้รื้อถอน พร้อมเซ็นรับทราบถึงคำสั่งดังกล่าว แต่จนถึงวันนี้ พบว่ามีอยู่ 30 รายที่ไม่ดำเนินการ โดยอ้างว่าไม่ได้รับการแจ้งเตือน สำหรับพื้นที่ริมหาดเฉวงที่ถูกรุกล้ำ มีเนื้อที่ทั้งหมด 9 ไร่ มูลค่าของที่ดินรวมกว่า 576 ล้านบาท และศาลจังหวัดเกาะสมุยมีคำพิพากษาสั่งรื้อถอน เนื่องจากการพิสูจน์สิทธิ์ เป็นการก่อสร้างทับพื้นที่หนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง หรือ นสล. นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานปล่อยแถวกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทหาร จากกองพลทหารม้าที่ 1 ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง รวมกว่า 800 นาย พร้อมรถแบคโฮ 2 คัน เข้ารื้อถอนรีสอร์ตที่เหลือในจำนวน 19 แห่ง ที่ถูกศาลพิพากษาและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ให้รื้อถอน โดยวันนี้ ได้เข้าปฏิบัติการรื้อถอนเพียงแห่งเดียวคือ รีสอร์ตภูฏาน ของนายไหม แซ่ท่อ เป็นอาคารปูน 3 ชั้น ขนาดใหญ่ 1 หลัง มีห้องพัก 16 ห้อง อยู่บริเวณทางขึ้นจุดสูงสุด ซึ่งเป็นจุดชมวิวของวิสาหกิจชุมชนภูทับเบิก ภายหลังเจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้ารื้อถอน มีลูกชาย เจ้าของรีสอร์ต สองคนเข้าไปดูการรื้อถอนด้วยน้ำตา โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงหรือต่อต้านใดๆ การรื้อถอน รีสอร์ตภูฏาน อาจเป็นแห่งสุดท้ายบนภูทับเบิก เพราะหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะหยุดพักการดำเนินงานชั่วคราว เนื่องจากรีสอร์ต ที่เหลืออีก 5 แห่ง เจ้าของ ขอรื้อถอนเอง ซึ่งเป็นรีสอร์ตขนาดเล็ก สามารถรื้อถอนเองได้ เจ้าหน้าที่จึงอนุโลมให้ แต่หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล และ คสช. ก็จะเข้าไปทำการรื้อถอน เหมือนรีสอร์ตอื่นๆต่อไป ก่อนหน้านี้มีการประเมินสถานการณ์ว่า อาจจะถูกต่อต้านขัดขวางการปฏิบัติงาน จึงมีมาตรการ การเข้ารื้อถอนอย่างรัดกุม จึงจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่ถึง 800 นาย เข้าบล็อกพื้นที่โดยรอบ พร้อมจัดตั้งด่านตรวจเข้มงวด เพื่อกันผู้ไม่เกี่ยวข้อง เข้าพื้นที่รื้อถอน อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้เวลา 6 เดือน ตรวจสอบเอกสารสิทธิ์บุกรุกที่ดินอุทยานแห่งชาติสิรินาถ จังหวัดภูเก็ต ให้แล้วเสร็จ ก่อนส่งให้ดีเอสไอดำเนินคดี พร้อมเตรียมตรวจสอบเพิ่มเติมในอุทยานแห่งชาติทางทะเลอีกหลายแห่ง รวมถึงเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล และแปลงที่มีความเชื่อมโยงกับประเด็นอดีตเจ้าพนักงานที่ดิน จังหวัดพังงา ที่เสียชีวิต ความคืบหน้านโยบายทวงคืนผืนป่าของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ล่าสุด โดยเฉพาะที่ดินอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ได้รับการเปิดเผยจากนายกิตติพัฒน์ ธาราภิบาล หัวหน้าอุทยานฯสิรินาถ ว่าหลังจากพบเข้าข่ายออกโฉนดที่ดินมิชอบถึง 715 แปลง ใน 3,900 ไร่ ในจำนวนนี้มี 340 แปลง ที่ตรวจสอบเอกสารสิทธิเรียบร้อย และส่งมอบให้ดีเอสไอดำเนินคดี ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างตรวจสอบให้แล้วเสร็จ ทั้งนี้ พบว่าที่ดินของอุทยานฯสิรินาถ มีที่หาดลายัน 1 แปลง จำนวน 7 ไร่ นายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าพนักงานที่ดิน จังหวัดพังงา ที่เสียชีวิตระหว่างดีเอสไอควบคุมตัว ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง ส่วนที่ดินแปลงอื่นๆ ที่พบพฤติกรรมเกี่ยวข้องในการออกเอกสารสิทธิยังมีที่ หาดฟรีดอมของกรมป่าไม้ และ ที่เขาหน้ายักษ์พื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปี หาดท้ายเหมือง จังหวัดพังงา มากกว่า 500 ไร่ มูลค่า 10,000 ล้านบาท ขณะที่พื้นที่อื่นๆ ทางกองนิติการ กรมอุทยานแห่งชาติฯ กำลังอยู่ระหว่างเรียกข้อมูลจากพื้นที่มาตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ ทั้งที่ อุทยานแห่งชาตินพรัตน์ธารา จังหวัดกระบี่ และ เกาะหลีเป๊ะ พื้นที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล โดยจะสามารถตรวจสอบได้ประมาณ 2 สัปดาห์นับจากนี้ ทั้งนี้ พบว่าส่วนใหญ่ออกโฉนดมิชอบด้วยการออก สค.ไม่ถูกต้อง มีรายงานว่า ที่ดินส่วนใหญ่ถือครองโดยนักการเมืองระดับชาติ นักธุรกิจชื่อดัง ข้าราชการระดับสูง และผู้พิพากษา วันนี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี เพื่อติดตามการทวงคืนที่ดิน ส.ป.ก.ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยกระทรวงเกษตรฯ ได้เข้าไปตรวจสอบการถือครองที่ดิน ส.ป.ก.ในแปลงที่มีพื้นที่มากกว่า 500 ไร่ ว่าครอบครองถูกต้องหรือไม่ สำหรับผลการดำเนินงานล่าสุดเข้าไปตรวจสอบที่ดิน 413,180 ไร่ มีผู้ยื่นคัดค้าน 15,022 ราย ในพื้นที่ 403 แปลง เนื้อที่ที่มีผู้คัดค้าน 362,866 ไร่ โดยในจำนวนที่ดินที่คัดค้านได้ยื่นหลักฐานตามประมวลกฎหมายที่ดิน หรือ กฎหมายอื่น 127,172 ไร่ และยื่นหลักฐานการครอบครองเดิม 235,694 ไร่ ซึ่งตรวจสอบเสร็จแล้ว 58% มีทั้งหลักฐานที่ฟังขึ้นและฟังไม่ขึ้น รวมแล้วขณะนี้มีที่ดิน ส.ป.ก.ที่ยึดคืนได้ 111,567 ไร่ ทั้งนี้ ที่ผ่านมากระทรวงเกษตรฯ ได้ลงพื้นที่ติดตามการตรวจสอบที่ดิน เช่น แปลงสวนส้ม จ.เชียงใหม่ สนามกอล์ฟไมด้า จ.กาญจนบุรี ซึ่งการตรวจสอบเอกสารคัดค้านจะครบกำหนดในกลางเดือน ก.ย.นี้ พล.อ.ฉัตรชัย ยืนยันว่า ไม่มีการวิ่งเต้นมาเพื่อให้ครอบครองได้ต่อ และถึงแม้จะมีผู้มาวิ่งเต้นก็คงดำเนินการให้ไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของกฎหมาย สำหรับที่ดิน ส.ป.ก.ที่เรียกคืนใน จ.กาญจนบุรี มีที่ดินที่อยู่ในการครอบครองของนางเพียงใจ หาญพาณิชย์ มารดาของนายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการ บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ที่ถือครองไว้ตั้งแต่ปี 2532 รวม 1,263 ไร่ พล.อ.ฉัตรชัย ระบุว่า รับทราบการครอบครองของนางเพียงใจมานานแล้ว จากนี้ต้องไปดูว่าเข้ามาครอบครองได้อย่างไร ส.ป.ก.เตรียมแจกที่ดินที่ยึดคืนมาได้ และจะออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-07 นำร่องครั้งแรก 3 จังหวัด พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยระหว่างลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีว่า ภายในสิ้นปีนี้เตรียมแจกที่ดิน ที่ ส.ป.ก.ยึดคืนมาได้ และออกเป็นเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-07 ซึ่งเป็นหนังสืออนุญาตให้สถาบันเกษตรกรใช้ทำประโยชน์ในที่ดิน นำร่องครั้งแรก 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา สุราษฎร์ธานี และจังหวัดกาญจนบุรี แห่งละ 1 แปลง ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ไม่ต้องการแจกที่ดินให้รายบุคคลแบบเดิม ในรูปของ ส.ป.ก.4-01 อีก เนื่องจากต้องการตัดปัญหาขายเปลี่ยนมือกัน และมีนายทุนกว้านซื้อที่ดิน เช่นที่ผ่านมา ทั้งนี้ พื้นที่นำร่อง 1 แปลง อยู่ที่ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี มีเนื้อที่ 1,263 ไร่ ซี่งนางสาวเพียงใจ หาญพาณิชย์ มอบคืนให้ ส.ป.ก. จะเป็นแปลงแรกที่ให้เจ้าหน้าที่เข้าปรับพื้นที่ และคัดเลือกเกษตรกร 100 ราย เข้าใช้ประโยชน์ได้ก่อน 300 ไร่
ส.ป.ก.4-07 คือ เอกสารสิทธิ์ ซึ่งเป็น "หนังสืออนุญาตให้สถาบันเกษตรกรเข้าทำประโยชน์ในที่ดินในเขต" แตกต่างจาก ส.ป.ก.4-01 ซึ่งเป็นเอกสารสิทธิ์ที่รัฐให้กับเกษตรกรเป็นรายบุคคล ถือว่า ส.ป.ก.4-07 เป็นเรื่องใหม่ของการดำเนินงานจัดสรรที่ดิน ก่อนหน้านี้ ส.ป.ก.ได้มอบเอกสารสิทธิ์รูปแบบใหม่นี้ให้กับสหกรณ์ปฏิรูปที่ดินระบำ จำกัด ที่ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี เป็นแห่งแรก และจัดทำเป็น "ระบำโมเดล" ให้กับชุมชน แก้ไขปัญหาการบุกรุกที่สงวนหวงห้ามของรัฐ นายกรัฐมนตรี จึงให้นำมาใช้เป็นแนวทางจัดสรรที่ดินที่ ส.ป.ก.ยึดคืนมาได้ตามมาตรา 44 ในครั้งนี้ โดยจะมอบเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก.4-07 ให้สถาบันเกษตรกร หรือกลุ่มเกษตรกรที่รวมตัวกันในรูปของสหกรณ์ เข้าทำประโยชน์ที่ดิน และจะนำร่องใน 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี นครราชสีมา และสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยึดคืนมาได้ก่อน จังหวัดละ 1 แปลง ส่วนรูปแบบจะให้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ คทช.คัดเลือกเกษตรกรเข้าทำประโยชน์ที่ดิน แล้วเสนอรายชื่อให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ จากนั้นจะรวมกลุ่มในรูปสหกรณ์ แล้วให้อำนาจสหกรณ์ในการจัดสรรที่ดินในแปลงที่ได้รับจาก ส.ป.ก.ให้กับเกษตรกรสมาชิกอีกครั้งหนึ่ง ทวงคืนผืนป่า จากกลุ่มผู้บุกรุกในปีนี้ได้แล้วกว่า 9 หมื่นไร่ เร่งเดินหน้าตรวจสอบพิสูจน์สิทธิ์การได้มาของพื้นที่สร้างรีสอร์ทป่ากว่า 1,000 แห่ง ได้มาถูกกฎหมายหรือมีเอกสารสิทธิ์หรือไม่ อธิบดีกรมป่าไม้ นายชลธิศ สุรัสวดี บอกถึงความคืบหน้าการทวงคืนผืนป่า ว่า ได้เดินหน้าทวงคืนป่าที่ถูกกลุ่มนายทุนบุกรุกป่าในปีนี้ ได้กว่า 9 หมื่นไร่ จากแผนทั้งหมดปีนี้ตั้งเป้าไว้ 1 แสนไร่ คาดว่าสิ้นปีนี้ จะดำเนินการได้ทั้งหมดตามแผนที่วางไว้ ซึ่งทำควบคู่กับการดูแลรักษาพื้นที่ป่าไม้ของประเทศที่เหลืออยู่ให้มีความสมบูรณ์ไม่ถูกบุกรุกเพิ่มอีก โดยจากสถิติระหว่างปี 2551-2557 ประเทศไทย มีพื้นที่ป่าไม้สูญหาย ถึงปีละกว่า 1 แสนไร่ แต่หลังดำเนินนโยบายทวงคืนผืนป่าระหว่างปี 2558 จนถึงปัจจุบัน การเปลี่ยนของสภาพป่าของไทยมีการบุกรุกพื้นที่น้อยลงมาก ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการเพิ่มพ้นที่ป่าของประเทศในอีก 20 ปีข้างหน้าให้ได้ตามแผนของภาครัฐ ทั้งนี้ จะเดินหน้าเข้าพื้นที่ตรวจสอบและตรวจพิสูจน์สิทธิ์บ้านพักตากอากาศ และรีสอร์ท ว่าได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมีเอกสารสิทธิ์ครอบครองหรือไม่ ที่สำคัญเป็นผู้เหมาะสมหรือผู้ยากไร้ที่สมควรได้รับสิทธิ์ทำกินตามที่รัฐจัดสรรด้วยหรือไม่ ในเบื้องต้นมีรายชื่อรีสอร์ทที่ตั้งรุกเขตป่าไม้แล้วมากกว่า 1,000 แห่ง กองทัพเรือแจ้งความดำเนินคดีอาญาผู้บุกรุกที่ดินแสมสาร 55 ราย ระบุมีการบุรุกสร้างรีสอร์ท ร้านอาหาร และการถมทะเล ขณะที่ชาวบ้านเสนอให้มีการพูดคุยอีกครั้ง ชาวบ้านตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ออกมาชูป้ายที่มีข้อความระบุว่า ให้มีการพูดคุยกันระหว่างชาวบ้านและฐานทัพเรือสัตหีบ เพื่อขอยุติข้อพิพาทปัญหาที่ดิน ขณะที่ตัวแทนจากฐานทัพเรือสัตหีบพาสื่อมวลชนลงพื้นที่ตำบลสัตหีบ เพื่อชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งการสร้างบ่อขยะ และรีสอร์ท บ้านพักที่ไม่ได้รับอนุญาต และการถมที่ลงทะเล ตัวแทนกองทัพเรือโดยฐานทัพเรือสัตหีบ ชี้แจงว่าได้แจ้งความดำเนินคดีอาญาต่อผู้บุกรุกที่ดินแสมสารแล้ว 55 ราย และจะฟ้องคดีแพ่งควบคู่ไปด้วยอีก 55 ราย รวมถึงรายอื่นต่อไปจนกว่าจะแก้ปัญหาแล้วเสร็จ ซึ่งมีทั้งกลุ่มนายทุนท้องถิ่น บริษัทมหาชนและหน่วยงานส่วนท้องถิ่นระบุความผิดชัด ทั้งบุกรุกภูเขา ถมทะเลทำรีสอร์ท ร้านอาหาร และสำนักงานเดินหน้าจัดระเบียบที่ดินตามนโยบาย คสช. โดยย้ำว่ากองทัพเรือมีนโยบายดูแลชาวบ้านตัวจริงที่เดือดร้อนพร้อมให้เช่าที่กับกรมธนารักษ์ตามเงื่อนไขของรัฐแต่จะไม่อ่อนข้อต่อผู้บุกรุกในทุกกรณี ที่ผ่านมาฐานทัพเรือสัตหีบมีการจัดระเบียบ โดยเปิดให้ชาวบ้านลงทะเบียนเช่าที่ราชพัสดุตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2559 ถึง 31 กรกฎาคม 2559 มีชาวบ้านมายื่นความประสงค์ทั้งหมด 400 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ ในอนาคตอาจจะต้องเปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้งหนึ่ง และจะทำการประชาสัมพันธ์มากขึ้น ตัวแทนกองทัพเรือ กล่าวอีกว่า ที่ดินแสมสารปัจจุบัน เป็นทำเลที่ตั้งที่มีมูลค่าจึงมีความพยายามต่อสู้โดยกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ เพื่อผลักดันให้มีเอกสารสิทธิ์จนเกิดการเรียกร้องให้มีการพิสูจน์สิทธิ์ในที่ดินมาโดยตลอดเวลาหลาย 10 ปีที่ผ่านมา กระทั่งเดือนเมษายนที่ผ่านมาศาลปกครองสูงสุดได้มีคำตัดสิน แล้วว่าที่ดินแสมสารเป็นส่วนหนึ่งของที่สงวนหวงห้ามตามกฎหมายต้องห้ามมิให้ออกโฉนดที่ดินแก่บุคคลใดตามมาตรา 56 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ประกอบกับกฎกระทรวงฉบับที่ 53 ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน ปี 2497 ฉะนั้นประชาชนที่อาศัยอยู่จึงไม่สามารถครอบครองกรรมสิทธิ์ใด ๆ ในที่ดินได้ตามกฎหมาย จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดแรกที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำป่าชายเลนเสื่อมโทรม 27,000 ไร่ มาจัดสรรที่ดินทำกินให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นผืนแรก และกันพื้นที่บางส่วนไว้เพื่อรักษาระบบนิเวศป่าชายเลนและชายฝั่งทะเล ส่วนผืนป่าที่เหลืออีก 7,000 ไร่จะเร่งจัดสรรให้ประชาชนภายในปีนี้ นโยบายการจัดสรรที่ดินทำกินให้ชุมชน เป็นหนึ่งในนโยบายที่รัฐบาลมุ่งหวังจะลดความเหลื่อมล้ำและช่วยประชาชนผู้ยากไร้ให้มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง โดยป่าทุกผืนทั่วประเทศที่นำมาจัดสรร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รับเป็นเจ้าภาพจัดหาที่ดิน ให้กับกระทรวงมหาดไทยได้นำไปจัดสรร ซึ่งที่ผ่านมาได้จัดหาที่ดินได้แล้ว 10 พื้นที่ ใน 6 จังหวัดในภาคเหนือและภาคอีสาน เนื้อที่กว่า 31,000 ไร่ ซึ่งกำลังทยอยแจกจ่ายให้ประชาชน ล่าสุดได้นำป่าชาเลนในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าชายเลน จังหวัดนครศรีธรรมราช 27,000 ไร่มอบให้ทางจังหวัดได้จัดสรรแล้ว ซึ่งเป็นป่าชายเลนผืนแรกที่นำมาจัดสรรให้กับประชาชน โดยแบ่งจัดสรรให้ประชาชน 11,000 ไร่ และได้กันพื้นที่ป่าชายเลนเพื่อรักษาระบบนิเวศป่าชายเลน และชายฝั่งทะเลอีก 16,000 ไร่ หลังมีการบังคับใช้กฏหมายตามประกาศ คสช. ในการปราบปรามหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ สามารถตรวจสอบและยึดคืนพื้นที่รุกป่าป่าในปีนี้ได้กว่า 1 แสนไร่ ผลการดำเนินงานตรวจสอบรีสอร์ทรุกผืนป่าของกรมป่าไม้ ในรอบปี 2559 จำนวน 1,958 ราย ตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว 476 ราย ดำเนินคดีแล้ว 94 ราย อยู่ระหว่างตรวจสอบ 1,022 ราย และยังไม่ได้แสดงเอกสาร 460 ราย ส่วนผลปฏิบัติงานทวงคืนผืนป่า ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยึดพื้นที่ได้ 9,213 ไร่ เป็นสิ่งปลูกสร้าง 228 หลัง ผู้ต้องหา 997 คน นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า หลังมีการบังคับใช้กฏหมายตามประกาศ คสช. ทำให้ในปีนี้ สามารถยึดคืนพื้นที่ป่าจากกลุ่มนายทุนและผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศ จำนวน 103,124 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 9,218 ล้านบาท จากการตรวจสอบบ้านพักตากอากาศและรีสอร์ทรุกผืนป่าพบว่าเกินครึ่งเป็นนายทุนเข้าครอบครองพื้นที่ของรัฐโดยพื้นที่ที่ยึดคืนมาแล้วกรมป่าไม้จะนำมาฟื้นฟูบางส่วนจะจัดสรรให้ราษฎรผู้ยากไร้ทำกิน ส่วนคดีจับกุมผู้กระทำผิดลักลอบตัดไม้และขนไม้ผิดกฏหมาย กรมป่าไม้ได้แจ้งความดำเนินคดีแล้ว 3,451 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 700 ล้านบาท
จังหวัดเชียงใหม่เป็น 1 ในพื้นที่เป้าหมายการยึดคืนพื้นที่ของ สปก. การตรวจสอบหลักฐาน พบมีพื้นที่ที่ต้องยึดคืนมากกว่า 5,000 ไร่ โดยทั้งหมดเป็นสวนส้มของ 3 บริษัทใหญ่ และช่วงกลางเดือนนี้ครบกำหนด 30 วัน คำสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออก ขณะที่สวนส้มยื่นคัดค้าน แต่ทาง สปก. วินิจฉัยว่าผู้ครอบครองที่แจ้งเป็นนอมินี การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่รัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 ต่อ 4,000 เสร็จสมบูรณ์แล้ว คาดประกาศใช้ได้เร็วๆ นี้ นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวถึงความคืบหน้า การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่รัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 ต่อ 4,000 หรือ วันแมปว่า ขณะนี้ทุกหน่วยงานรวมทั้งภาคเอกชน ได้จัดทำข้อมูลการแบ่งแนวเขตที่ดินใหม่ ตามมาตราส่วน 1 ต่อ 4,000 เสร็จแล้ว โดยจัดทำเป็น แผนที่วันแมปเพื่อใช้แก้ปัญหาข้อพิพากทการใช้พื้นที่ทับซ้อน ระหว่างรัฐกับรัฐ และรัฐกับเอกชน ซึ่งจะเร่งเสนอคณะรัฐมนตรี คาดว่าจะประกาศใช้ได้เร็วๆ นี้ สำหรับการดูแลการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าไม้นั้น กรมป่าไม้ได้ให้สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA พัฒนาเทคโนโลยีตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยใช้ภาพถ่ายดาวเทียมติดตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพพื้นที่ รวมถึงการบุกรุกพื้นที่ป่า เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ ดูแลความอุดมสมบูรณ์ของป่าในแต่ละพื้นที่ รวมไปถึงการตรวจสอบพืชพันธุ์ในป่าที่กำลังสูญพันธุ์ เพื่อการอนุรักษ์พันธุ์พืช นอกจากนี้ จะนำระบบออนไลน์ มาใช้ในการลงทะเบียนขออนุญาตตัดไม้และเคลื่อนย้ายไม้ในพื้นที่สวนป่า เพื่อแก้ปัญหาการจ่ายสินบนใต้โต๊ะ และผู้ประกอบการสามารถตัดไม้ส่งขายได้ สะดวกรวดเร็วขึ้น ที่งานเสวนา "การจัดการปัญหาป่าไม้ที่ดิน มุมมองต่อมติคณะรัฐมนตรี 30 มิถุนายน 2541" มีตัวแทนจากภาครัฐ เอกชน และประชาชน ร่วมหาแนวทางแก้ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าอย่างยั่งยืน เพื่อให้คนอยู่ร่วมกับป่าได้ ติดตามจากรายงานคุณสรารัตน์ รัตนสุวรรณ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าว 3 มิติ ลงพื้นที่หาข้อมูล คดีพิพาทที่ดินสาธารณะประโยชน์วะช่องโค ตำบลกุดพิมาน อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา หลังจากชาวบ้านร้องเรียน ว่า อยู่อาศัยทำกินในที่ดินพิพาทมาตั้งแต่บรรพบุรุษ และไม่รู้ว่า มีการขึ้นทะเบียนเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์มาก่อนหน้านี้ด้วย ชาวบ้านที่บ้านโกรกมะเขือหมู่ 7 ก็เป็นกลุ่มที่ต่อสู้เพื่อยืนยันสิทธิ์มาตลอด จนบางรายแพ้คดี ถูกจำคุกไปแล้ว ล่าสุดคดีของนางระดา สะเทื้อน ศาลสั่งจำคุก 2 คดี เป็นเวลา 20 เดือน ขณะนี้ อยู่ระหว่างยื่นฎีกา ก่อนหน้านี้ไปร้องที่ดีเอสไอ ให้ผู้เชี่ยวชาญแปลภาพถ่าย ดูร่องรอยการทำประโยชน์ เพื่อจะนำไปเป็นหลักฐานสู้คดี ที่ศาลต่อไป ขณะที่ข่าว 3 มิติ ได้รับแจ้งจากทั้งสำนักงานคณะกรรมการการป้องกันและปราบปราม การทุจริตภาครัฐหรือป.ป.ท. และกองทัพภาคที่ 2 ว่า คดีพิพาทที่ดินวะช่องโค มีข้าราชการนายหนึ่ง กำลังถูกตั้งกรรมการสอบวินัยหลังพบว่า เป็นผู้สนับสนุนชาวบ้านบางรายและว่าจ้างรถเข้าไปบุกรุกที่สาธารณะประโยชน์วะช่องโคจริง ยังคงติดตามความชัดเจนของการให้เช่าที่ดิน ส.ป.ก. เพื่อประกอบกิจการกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้าซึ่งขณะนี้ ส.ป.ก.ได้ปฏิบัติการลงพื้นที่เพื่อสอบถามความชัดเจนของชาวบ้านและเกษตรกรในพื้นที่ว่าได้รับประโยชน์หรือผลกระทบอย่างไรบ้างนำไปสู่การกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ให้คลอบคลุมประโยชน์โดยตรงซึ่งมีบรรทัดฐานเป็นคำตัดสินของศาลในกรณี บริษัท เทพสถิต วินฟาร์ม เราจะไปติดตามแผนปฏิบัติการดังกล่าวรวมถึงไปดูความชัดเจนด้วยว่ากรณีที่ แม้ทุ่งกังหันลมจะไม่ได้ให้ชาวบ้านทำการเกษตรแต่เน้นที่การส่งเสริมเป็นแหล่งท่องเที่ยว ทาง เลขธิการส.ป.ก. มีความเห็นอย่างไร ในรายงาน เปิดแผนตรวจสัญญาเช่าที่ส.ป.ก.ทำกังหันลม ประเด็นคำสั่งศาลปกครองสูงสุดจังหวัดชัยภูมิมีคำพิพากษาให้ ให้บริษัท เทพสถิต วินฟาร์มที่เช่าพื้นที่ ส.ป.ก ระงับการดำเนินกิจการการใช้กังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้าจำหน่าย เพราะเป็นการใช้พื้นที่ผิดวัตถุประสงค์หลักของการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ทำให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พลเอกฉัตรชัย สาลิกัลยะ ต้องมาไร่รื้อดูหลักเกณฑ์ว่าข้อเท็จจริงการให้เช่าที่ ส.ป.ก.สามารถให้ประโยชน์กับเกษตรกรทางตรงหรือทางอ้อมอย่างไรบ้าง แผนการตรวจ 20 ก.พ. - 20 มี.ค. 2560 โดยตั้งปฏิบัติการตรวจสอบข้อเท็จจริงการให้เช่าที่ ส.ป.ก. ขึ้นมา 2 ชุดขณะนี้กำลังเดินหน้าทั้งในพื้นที่ จ.นครราชสีมาและ จ.ชัยภูมิ แบ่งเป็น จ.ชัยภูมิ 7 คน จังหวัดนครราชสีมา 5 คน แผนการตรวจ 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. - 20 มีนาคม นี้ ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ เริ่มที่ บริษัท เทพนา จำกัด ใน อ.เทพสถิต จำนวน 3 เสา และ บริษัท วะตะแบก จำกัด ใน อ.เทพสถิต เช่นเดียวกัน 45 เสา ส่วนในพื้นที่ นครราชสีมา เริ่มที่ บริษัท เฟิสท์ โคราช จำกัด อ.ด่านขุนทด 45 เสา และบริษัท เค.อาร์.ทู. จำกัด อ.ด่านขุนทด 45 เสา ส่วนที่เหลือจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ ซึ่งมีจำนวนทั้งหมดราว 17 บริษัท เพื่อรายงานให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทราบภายในวันที่ 27 มีนาคมนี้ ซึ่งประเด็นที่ต้องหยิบยกมาพิจารณาด้วย คือ ประเด็นรายได้ในพื้นที่ผ่านการท่องเที่ยวทุ่งกังหันลมนับเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งตามความเห็นของเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม หรือ สปก. สมปอง อินทร์ทอง บอกว่า ประเด็นนี้ต้องตีความในหลายด้าน ท้ายที่สุดแล้วคงต้องรอการตีความจากศาลถึงขอบเขตการให้ประโยชน์กับเกษตรกรโดยตรงว่าคลอบคลุมไปถึงเรื่องใดบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้ประโยชน์ของเกษตรกรในพื้นที่ และการท่องเที่ยวถือว่าเข้าข่ายหรือไม่ เพราะถ้าย้อนดูตอนหนึ่งในคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด จังหวัดชัยภูมที่ตัดสินให้ บริษัทเทพสถิต วินฟาร์ม ระงับกิจการ เพราะเห็นว่า โครงการกังหันลมผลิตไฟฟ้าแม้จะเป็นบริการสาธารณะให้ประโยชน์ต่อส่วนรวม แต่เป็นการผลิตไฟฟ้าเพื่อขายเป็นกิจการที่มีวัตถุประสงค์แสวงหากำไร ไม่ใช่กิจการที่เป็นการบริการหรือเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของเกษตรกรในท้องที่ ซึ่งพลเอกฉัตรชัยจะยึดบรรทัดฐานของคำตัดสินนี้เป็นหลักเกณฑ์ของการตรวจสอบสัญญา อย่างไรก็ตามในประเทศพื้นที่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นทุ่งกังหันลมผลิตไฟฟ้าใหญ่ที่สุดและเป็นแห่งแรกของไทยคือ ทุ่งกังหันลมห้วยบง ที่ตำบลห้วยบง อ.ด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีเสากังหันลม 90 ต้น ครอบคลุมพื้นที่กว่า 10,000 ไร่ และมีกำลังการผลิตสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้รับซื้อ และในปัจจุบันทุ่งกังหันลมห้วยบงก็ได้รับการส่งเสริมเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดนครราชสีมาด้วย
ความคืบหน้ากรณีสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร หรือ ส.ป.ก.ให้เอกชน 20 ราย เช่าที่ดินส.ป.ก.ทำโครงการกังหันลม ที่จังหวัดชัยภูมิ และนครราชสีมา ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการตามมาตรการแก้ไขการครอบครองและใช้ประโยชน์ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ เข้าพบชาวม้ง ทั้ง 21 ราย เพื่อเข้าไปจัดระเบียบและขอความร่วมมือในรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง โดยไม่ต้องรอคำสั่งศาลจังหวัดหล่มสัก เนื่องจากเป็นพื้นที่บุกรุกชัดเจน แต่ทั้ง 21 ราย ยืนยันจะรอคำพิพากษาเท่านั้น นายสมลักษณ์ ยกน้อยวงศ์ นายอำเภอหล่มเก่า เปิดเผยว่า หลังผลการเจรจาไม่ประสบความสำเร็จ จึงเตรียมปรับแผนเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการระดับจังหวัด เสนอให้ใช้คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 35/59 หลังสิ้นเดือนมีนาคมนี้ทันที ครั้งหลังสุดที่นำคำสั่งไปปิดให้นายทุนรายอื่นรื้อถอนตามคำพิพากษาของศาล กำหนดระยะเวลาไว้ 30 วัน ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบ ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คงเหลืออีก 21 รายนี้เท่านั้น
