รัฐบาลกับปัญหาความเหลื่อมล้ำ

กระทู้ใน 'สภากาแฟ' โดย Ricebeanoil, 5 Apr 2016

  1. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482
    ด้านการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม

    พรบ.กองทุนยุติธรรม
    http://library2.parliament.go.th/giventake/content_nla2557/law102-271058-1.pdf



    รัฐบาลเร่งส่งเสริมกองทุนยุติธรรม ช่วยเหลือผู้ยากไร้ในกระบวนการยุติธรรม เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม

    กองทุนยุติธรรม ซึ่งตั้งขึ้นตามร่างพระราชบัญญัติกองทุนยุติธรรม ภายใต้สังกัดของกระทรวงยุติธรรม ที่มีหลักการและเหตุผล เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม โดยได้ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 จนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2559 หรือเป็นเวลา 1 ปี 3 เดือน มีผู้ขอความช่วยเหลือจากกองทุนแล้วทั้งสิ้น 5,983 ราย โดยกองทุนได้ให้เงินช่วยเหลือไปแล้ว 2,552 ราย โดยส่วนที่เหลือเป็นเรื่องที่ไม่เข้าเกณฑ์ บางเรื่องยุติไปแล้ว และบางเรือง อยู่ระหว่างดำเนินการ

    ที่ผ่านมา แม้กองทุนจะมีหน้าที่เป็นแหล่งเงินทุน สำหรับใช้จ่ายเกี่ยวกับการช่วยเหลือประชาชน ในการดำเนินคดี ทั้ง ค่าจ้างทนายความ ค่าธรรมเนียมศาล หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เกี่ยวกับคดี รวมไปถึง การขอปล่อยตัวชั่วคราว และการช่วยเหลือ ผู้ได้รับผลกระทบจากการละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่ยังมีผู้ที่เข้าไม่ถึงกองทุนดังกล่าว อันเนื่องจากไม่ผ่านหลักเกณฑ์การพิจารณา

    พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในปี 2559 นี้ รัฐบาลจะทบทวน เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย พร้อมวางระบบสารสนเทศให้รองรับการทำงานระดับจังหวัดกระจายอำนาจให้กองทุน ทั้ง 76 จังหวัด มีความเท่าเทียม เพื่อสามารถช่วยเหลือประชาชนให้ได้มากที่สุด โดยผู้ที่จะขอรับการสนับสนุนจะต้องมีฐานะยากจน มีความประพฤติดี ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และไม่ซ้ำซ้อนกับการช่วยเหลือตามกฎหมายอื่น

    ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ต้องการลดความเลื่อมล้ำและสร้างความเท่าเทียมในสังคมทุกมิติ โดยเฉพาะการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ที่ทุกคน สามารถต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิของตนเองไม่ว่าจะมีสถานะทางสังคมอย่างไรต้องได้รับความยุติธรรมที่เท่าเทียม
    ***********************************************************
    ด้านการกระจายรายได้และทรัพยากร

    พรบ.ภาษีการรับมรดก พ.ศ. 2558
    http://www.rd.go.th/region12/fileadmin/web_internet2555/news/2558/Inheritance_Tax_Act_2015.pdf




    ส่วนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างยังรอสรุป คาดว่าประกาศใช้ปี 2560
    http://news.mthai.com/hot-news/infographics/464630.html





    กระทรวงการคลังแจงอยู่ในระหว่างพิจารณาและปรับแก้ ร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ก่อนนำเสนอ ครม.ยันไม่กระทบต่อประชาชน ชี้นำมาแทนภาษีบำรุงท้องที่และภาษีโรงเรือน ยันเป็นการปรับปรุงวิธีการเก็บให้ทันสมัยขึ้น และลดดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้แหล่งข่าวเปิดเผยว่าอาจมีการพิจารณาไม่เก็บภาษีกับบ้านที่ราคาไม่ถึง 10 ล้านบาทอาจได้รับการยกเว้น
     
    Last edited: 22 Jul 2017
    Alamos likes this.
  2. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482
    ด้านความมั่นคงของชีวิตหลังเกษียณการทำงาน

    ความจริงกฎหมายนี้ได้ผ่านเป็น พรบ. ตั้งแต่สมัยอภิสิทธิ์แล้ว แต่พอมารัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ไม่ได้ตั้งกองทุน
    พอมารัฐบาลประยุทธจึงได้ทำให้มีกองทุนเป็นรูปเป็นร่างตามกฎหมายที่ออกมาแล้ว

    พรบ.กองทุนการออมแห่งชาติ ลงในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 11 พฤษภาคม 2554
    http://www.fpo.go.th/FPO/member_profile/it-admin/upload/file/1(10).pdf
    **************************************************
    แต่พอมารัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ตั้งกองทุนทำตามกฏหมายนี้ 2 ปีกว่า
    จนหลายฝ่ายต้องออกมาทวงกันใหญ่

    'กรณ์'อัด'พท.'ไม่ยอมตั้งกองทุนการออม
    http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/578814?view=desktop

    นักวิชาการนิด้า จี้คลังเร่งเดินหน้ากองทุนการออมแห่งชาติ
    http://www.isranews.org/thaireform-news-labor-quality/item/34394-thaireform161157.html

    ยุบ "กองทุนการออมแห่งชาติ" "บำนาญประชาชน" ต้องรอกันต่อไป?
    http://www.naewna.com/scoop/66808
    **************************************************



    รัฐบาลเตรียมตั้งกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ดูแลคนไทยในวัยเกษียณที่ไม่อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญราชการ หวังสร้างนิสัยการออมทุกช่วงวัย แนะออมเร็วออมมาก ยิ่งสบายยามชรา เริ่ม 18 ส.ค.นี้

    ล่าสุดขณะนี้ได้จัดเตรียมระบบรองรับใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งในวันเปิดโครงการ นายกรัฐมนตรีจะสมัครเข้าเป็นสมาชิกคนแรก เพื่อส่งเสริมให้ผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระที่มี อยู่กว่า 30 ล้านคน ได้ออมเงินไว้ใช้ในยามเกษียณ โดยที่รัฐจะช่วยจ่ายสมทบให้ส่วนหนึ่ง และเมื่อผู้ออมมีอายุครบ 60 ปีก็จะได้รับเงินบำนาญพร้อมดอกเบี้ยเป็นรายเดือนตลอดชีพ ซึ่งผู้สนใจสามารถยื่นสมัครได้ที่ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และที่ ธกส. โดยใช้หลักฐานเพียงบัตรประชาชนอย่างเดียว

    ทั้งนี้เงินสะสมขั้นต่ำสามารถส่งได้ตั้งแต่ 50 บาทขึ้นไป แต่ไม่เกิน 13,200 บาทต่อปี โดยภาครัฐจะจ่ายเงินสมทบให้ตามสัดส่วนของอายุ คืออายุตั้งแต่ 15 ปี แต่ไม่เกิน 30 ปี รัฐจ่ายสมทบให้ร้อยละ 50 ของเงินสะสม แต่ไม่เกิน 600 บาทต่อปี แต่ถ้าอายุ 30 ปี แต่ไม่เกิน 50 ปี รัฐสมทบให้ร้อยละ 80 แต่ไม่เกิน 960 บาทต่อปี และอายุ 50 ปีขึ้นไป รัฐสมทบ 100 % แต่ไม่เกิน 1,200 บาท

    เกณฑ์การจ่ายเงินสมทบภาครัฐ
    1.อายุ 15-30 ปี รัฐสมทบให้ 50 % แต่ไม่เกิน 600 บาท/ปี
    2.อายุ 31-50 ปี รัฐสมทบให้ 80 % แต่สูงสุดไม่เกิน 960 บาท/ปี
    3.อายุ 51 ปีขึ้นไป รัฐสมทบให้ 100 % แต่สูงสุดไม่เกิน 1,200 บาท/ปี


    **********************************************
    ล่าสุดได้ขยายโครงการให้ครอบคลุมพนักงานเงินเดือนบริษัทและรัฐวิสาหกิจด้วย



    กระทรวงการคลังเดินหน้าฟื้นกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ เพื่อให้ครอบคลุมกับพนักงานบริษัทที่ไม่มีสวัสดิการ

    ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กฤษฎา จีนะวิจารณะ บอกว่า เพื่อดูแลประชาชนวัยเกษียณให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม จึงฟื้นแนวคิดการตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ หรือ กบช. เพื่อให้เป็นกองทุนรองรับการดูแลประชาชนให้มีสวัสดิการวัยเกษียณให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม เพราะกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือกบข. ดูแลข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพดูแลพนักงานรัฐวิสาหกิจและบริษัทจดทะเบียน ขณะที่กองทุนประกันสังคมดูแลพนักงานบริษัท กองทุนการออมแห่งชาติ หรือกอช. ดูแลผู้มีอาชีพอิสระ แต่พนักงานบริษัทบางกลุ่มไม่มีสวัสดิการดูแลในเรื่องบำนาญและยังไม่ครอบคลุม จึงต้องการรื้อฟื้นแนวคิดดังกล่าว เพื่อให้กองทุนประกันสังคมสามารถดึงกลุ่มพนักงานที่ต้องการรับเงินบำนาญนำส่งเงินสะสมเข้ากองทุนเพิ่มจากปัจจุบัน โดยขณะนี้กำลังเร่งสรุปแนวทางการศึกษาทั้งหมด เพื่อเสนอปลัดกระทรวงการคลังพิจารณา

    สำหรับแนวทางการดำเนินงานของ กบช.เตรียมมอบหมายให้ กอช.บริหารจัดการกองทุน ขณะนี้ต้องศึกษาอีกหลายด้าน ทั้งแนวทางการนำส่งเงินสะสมเข้ากองทุนของนายจ้างและลูกจ้าง หลังจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเคยศึกษามาแล้วในช่วงปี 2550 โดยช่วงนั้นเสนอให้สมาชิกลูกจ้างและนายจ้างส่งเงินสะสมเข้ากองทุนอัตราร้อยละ 3 ของเงินเดือน แต่ปัจจุบันปัจจัยหลายด้านได้เปลี่ยน จึงต้องศึกษาแนวทางการนำส่งเงินสมทบให้ชัดเจน



    ข่าวดีมนุษย์เงินเดือน และพนักงานรัฐวิสาหกิจ วันนี้ กระทรวงการคลัง เตรียมจัดตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ เพื่อให้คนกลุ่มนี้ มีเงินใช้เพิ่มยามเกษียณอายุ

    เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยจาก นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค.ว่า ขณะนี้ กำลังเร่งสรุปการตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ หรือ กบช.เพื่อดูแลสวัสดิการทุกคนให้มีโอากาสได้รับเงินบำนาญเมื่อเกษียณอายุเพียงพอต่อการยังชีพอย่างเท่าเทียมเช่นเดียวกับสวัสดิการของข้าราชการที่เป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือ กบข.

    โดยกองทุน กบช.จะดำเนินการแบบภาคบังคับ ครอบคลุมพนักงานรัฐวิสาหกิจ และ พนักงานบริษัทขนาดใหญ่ โดยการส่งเงินสมทบเข้ากองทุน กบช.จะมีลักษณะเดียวกับกองทุน กบข. แต่จะไม่มีภาระเพิ่มเติมกว่าที่เคยจ่ายในปัจจุบัน เช่น ปัจจุบันพนักงานส่งเงินสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 10% นายจ้างจะสมทบให้ 10% แต่หากมีกบช.ภาคบังคับ พนักงานจะลดเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 7% และ แบ่งไปสมทบในกบช. 3% โดยนายจ้างจะแบ่งสมทบในลักษณะเดียวกัน และ เมื่อเกษียณ จะนำเงินดังกล่าวจ่ายคืนให้เป็นบำนาญแบบรายเดือน

    โดยจะสรุปหลักเกณฑ์ และ เสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณาในเร็วๆ นี้
    ****************************************
    สรุป : เรื่องกองทุนดูแลหลังเกษียณ
    ข้าราชการ => กบข. (กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ)
    พนักงานรัฐวิสาหกิจ,พนักงานเอกชน => กบช. (กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ)
    ประชาชนทั่วไป => กอช. (กองทุนการออมแห่งชาติ)
     
    Last edited: 30 Jul 2017
    กีรเต้ และ Alamos ถูกใจ.
  3. กีรเต้

    กีรเต้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    11,917
    Location:
    เชียงใหม่
  4. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    ชงภาษีที่ดินเข้า ครม.วันนี้ คลังลดแรงต้านเสนอบ้านต่ำ 50 ล้านไม่เสียภาษี



    กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เข้าสู่ที่ประชุม ครม. วันอังคารที่จะถึงนี้

    รัฐมนตรีคลัง อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ บอกว่า ร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการสอบถามความคิดเห็นของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ครม.ได้ ในวันที่ 26 เมษายนนี้ โดยยืนยันว่า ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวที่ออกมานั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้มีรายได้น้อยอย่างแน่นอน เพราะเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการดูแลผู้มีรายได้น้อยอยู่แล้ว ขณะเดียวกันในส่วนของการขออนุญาตการก่อสร้างและขอใช้ระบบไฟฟ้านั้นจะเชื่อมโยงข้อมูลรวมทั้งการขออนุญาตก่อสร้างไฟฟ้าและประปาจะแล้วเสร็จในวันที่ 30 กันยายน นี้ โดยจะนำระบบออนไลน์เข้ามาให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกมากยิ่งขึ้น

    ขณะเดียวกัน ในเดือนพฤษภาคมนี้ รัฐบาลจะจัดงานประชาสัมพันธ์ให้นักธุรกิจไทยและต่างชาติ รับทราบในการปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบในการทำธุรกิจในไทยที่มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุน
     
    Last edited: 24 Apr 2016
  5. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    ยธ.ส่งมอบภารกิจ-เดินหน้าช่วยคนจนลดเหลื่อมล้ำ



    กองทุนยุติธรรมโฉมใหม่ : ช่วยคนจน-ลดเหลื่อมล้ำ



    รายงานพิเศษ : กองทุนยุติธรรมที่พึ่งของคนจน



    การคลังเตรียมออกกฎหมายกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภาคบังคับ กระตุ้นการออมเพื่อให้รายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพหลังวัยเกษียณ

    วันนี้ (2พ.ค.59) นายกฤษา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ระบุว่า ความจำเป็นของการมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภาคบังคับ เนื่องมาจากการศึกษาพบว่า รายได้หลังเกษียณของผู้สูงอายุส่วนใหญ่ไม่พอ แก่การเลี้ยงชีพหลังเกษียณ โดยกรณีของข้าราชการเกษียณ ประมาณ 3 ล้านคน มีรายได้หลังเกษียณ เท่ากับร้อยละ 70 ของรายได้ก่อนเกษียณ ขณะที่แรงงาน ที่เป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม 12 ล้านคน มีรายได้เฉลี่ยหลังเกษียณ อยู่ที่ร้อยละ 40 ของรายได้ก่อนเกษียณ ส่วนแรงงานนอกระบบ 27 ล้านคน ไม่มีระบบบำนาญหลังเกษียณ โดยปัจจุบันกฎหมายกำหนดให้ลูกจ้าง และนายจ้างสมทบเงินเข้ากองทุนในอัตราตั้งแต่ร้อยละ 2-15 ของค่าจ้างแล้วแต่จะตกลงกัน

    สำหรับ การจ่ายเงินสะสมของลูกจ้าง และเงินสมทบของนายจ้างใหม่นั้น อัตราการจ่ายเงินสะสมและสมทบ จะมีอัตราเท่ากัน และทยอยปรับขึ้น เป็นช่วงๆ คือ ปีที่ 1-3 ของการใช้กฎหมายนี้ กำหนดในอัตราที่ร้อยละ 3 ของเงินเดือน แต่ไม่เกิน 1,800 บาท ปีที่ 4-6 กำหนดในอัตรา ร้อยละ 5 ของเงินเดือน แต่ไม่เกิน 3,000 บาท ปีที่ 7-9 กำหนดในอัตราร้อยละ 7 ของเงินเดือน แต่ไม่เกิน 4,200 บาท และปีที่ 10 เป็นต้นไป ร้อยละ 10 แต่ไม่เกิน 6,000 บาท

    ทั้งนี้ ในปีแรกของการบังคับใช้กฎหมายนี้ จะกำหนดให้กิจการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 100 คน ขึ้นไปจะต้องมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ นอกจากนั้น สำหรับกิจการที่ได้รับสัมปทานจากภาครัฐ กิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน กิจการที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รัฐวิสาหกิจ และองค์กรมหาชน จะต้องจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทันทีที่กฎหมายนี้มีผลบังคับใช้



    "ออมสิน" รอ ครม.ไฟเขียว-คาดดอกเบี้ย 0.75-1%
     
    Last edited: 6 May 2016
  6. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    เตรียมเปิดโครงการบ้านหลังสุดท้าย ให้ผู้สูงอายุนำบ้านมาจำนองกับธนาคารพาณิชย์ และรับเงินเป็นรายเดือนจนครบอายุขัย เพื่อช่วยสนับสนุนคุณภาพชีวิตให้กับคนชรา

    นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. เปิดเผยว่า ที่ประชุมสภาสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ได้หารือเกี่ยวกับแนวทางการขยายบทบาทดูแลผู้สูงอายุ ด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อสนับสนุนกิจการทางสังคม เช่น การค้ำประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือ Mortgage Guarantee และสินเชื่อสำหรับผู้สูงอายุ หรือ Reverse Mortgage เพื่อดูแลคุณภาพชีวิตให้กับคนชรา ซึ่งแนวทางดังกล่าว เพื่อเป็นช่องทางให้คนชราที่ไม่มีลูกหลานเลี้ยงดู หรือ ไม่มีทายาทรับมรดก สามารถนำทรัพย์สินมาแปลงเป็นเงิน เพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้

    ขณะที่นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า พร้อมสนับสนุนสินเชื่อในโครงการดังกล่าว โดยหลักการเบื้องต้นจะเปิดให้ผู้มีอายุ สามารถนำทรัพย์สิน อาทิ บ้าน หรือ ที่ดิน มาแปลงเป็นเงิน ด้วยการจำนองกับสถาบันการเงิน โดยมีเงื่อนไข ต้องเป็นบ้านของตนเอง และไม่ติดจำนองใด ๆ โดยธนาคารจะประเมินจากราคาบ้าน และความต้องการใช้เงินเป็นระยะเวลากี่ปี และจะทยอยจ่ายเงินเป็นงวดรายเดือนจนสิ้นอายุขัย และหากลูกหลาน หรือ ทายาท ต้องการซื้อบ้านกลับคืน จะได้รับสิทธิ์ซื้อก่อนนำไปประมูลขายทอดตลาด



    นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญความท้าทาย 3 ด้าน ได้แก่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศภัยแล้งและน้ำท่วม การเปลี่ยนแปลงทางประชากรเข้าสู่สังคมสูงวัยและการเปลี่ยนทางเทคโนโลยี

    ทั้งนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังหรือ สศค. จึงเห็นว่า ในอนาคต ควรปรับปรุงระบบการจ่ายสวัสดิการหรือเงินเบี้ยคนชรารายเดือนที่ให้ผู้สูงอายุใหม่ โดยมุ่งหวังให้การให้สวัสดิการแก่คนชราของภาครัฐ ตรงต่อคนที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลืออย่างแท้จริง โดยอาจกำหนดเกณฑ์สำหรับคนชราที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปมีสิทธิ์ได้รับเบี้ยยังชีพคนชราเป็นรายเดือนเฉลี่ยเดือนละ 600 บาท เช่น เป็นบุคคลที่มีรายได้ไม่เกิน 9 พันบาทต่อเดือน หรือมีทรัพย์สิน ไม่เกิน 3 ล้านบาท

    เนื่องจากแนวทางดังกล่าวจะทำให้ลดภาระงบประมาณลงไปได้ถึงประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จากในปี 2557 รัฐมีภาระค่าใช้จ่าย สำหรับเบี้ยยังชีพคนชราเฉลี่ยคนละ 600 บาท รวมประมาณ 6 หมื่นล้านบาท เนื่องจากคาดว่าในปี 2567-2568 งบประมาณส่วนนี้ จะเพิ่มขึ้นเป็น 9 หมื่นล้านบาทต่อปี

    ทั้งนี้ สังคมไทย กำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุ โดยปัจจุบันมีผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ราว 14%ของประชากรทั้งประเทศ และคาดว่า ภายในปี 2568 สังคมไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุแบบสมบูรณ์ กล่าวคือ มีประชากรสูงอายุราว 21.2%

    โดยหลังจากนี้ไปจะต้องดำเนินการเก็บข้อมูลของผู้สูงอายุซึ่งจะทำร่วมกับการเก็บข้อมูลของผู้มีรายได้น้อยตามนโยบายพัฒนาการชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์หรืออีเพย์เม้นท์

    ซึ่งการลงทะเบียนคนที่สมควรได้รับสวัสดิการผ่านระบบ National e-payment ที่กระทรวงการคลัง กำลังดำเนินการอยู่นั้น จะทำให้รัฐสามารถช่วยคนจนได้ตรงเป้าหมายมากขึ้น ซึ่งรวมถึงสวัสดิการ รถเมล์ รถไฟ ฟรีด้วย เนื่องจากปัจจุบัน ยังไม่มีระบบคัดกรองคนที่สมควรได้สิทธิ์



    รัฐมนตรีช่วยคลัง วิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ กับแนวความคิดในการเตรียมปรับรูปแบบเบี้ยผู้สูงอายุ โดยผู้สูงอายุที่มีรายได้เกิน 9,000 บาทต่อเดือน หมดสิทธิ์รับ โดยคาดว่าจะลดภาระงบประมาณได้กว่า 1 หมื่นล้านบาท

    รัฐมนตรีช่วยคลัง วิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ เผยกระทรวงการคลัง ได้คาดการณ์ว่าประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ส่งผลกระทบกับงบประมาณภาครัฐที่ต้องจ่ายสวัสดิการให้กับกลุ่มผู้สูงอายุที่เกิน 60 ปีขึ้นไป โดยในอนาคตจะมีการปรับการจ่ายสวัสดิการ หรือเงินเบี้ยคนชรารายเดือนที่ให้ผู้สูงอายุใหม่ โดยจะเลือกจ่ายให้กับผู้ที่จำเป็นและต้องการได้รับความช่วยเหลือจริง จากปัจจุบันจ่ายให้คนละ 600 บาทต่อเดือน

    ทั้งนี้ ในเบื้องต้นจะต้องกำหนดเกณฑ์ขึ้นมาว่าหากผู้สูงอายุมีรายได้รวมเกิน 9,000 บาทต่อเดือน หรือสินทรัพย์เกิน 3 ล้านบาท จะไม่ได้รับสิทธิ์เบี้ยผู้สูงอายุ ซึ่งจะทำให้ลดภาระงบประมาณลงไปได้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันรัฐต้องจ่ายถึง 6 - 7 หมื่นล้านบาท จากผู้ได้รับสิทธิ์กว่า 10 ล้านคน

    โดยหลังจากนี้ไปจะต้องดำเนินการเก็บข้อมูลของผู้สูงอายุ ซึ่งจะทำร่วมกับการเก็บข้อมูลของผู้มีรายได้น้อย ตามนโยบายพัฒนาการชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีเพย์ เม้นท์



    นายสมพร จิตเป็นธม เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. กล่าวว่า ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จะมีสิทธิสมัครเป็นสมาชิก กอช.ภายใน 25 กันยายนนี้ ซึ่งกำหนดให้สิทธิการออม 1 ปี นับจากประกาศบังคับใช้กฎหมาย ส่วนผู้ที่มีอายุ 50-60 ปี จะยังได้รับสิทธิออม 10 ปีนับจากอายุในวันสมัคร แต่หากสมัครเข้ากองทุนหลังจากวันที่ 25 กันยายนนี้ไปแล้ว ผู้สูงอายุจะออมได้ถึงแค่อายุ 60 ปี เท่านั้น ดังนั้นจึงขอให้ผู้สูงอายุเร่งมาสมัครให้ทันก่อนวันที่ 25 กันยายนนี้ ที่ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และ ธกส.ทุกสาขา

    สำหรับผู้สูงอายุในประเทศไทยมีโอกาสเพิ่มขึ้นเป็น 14 ล้านคน ในปี 2568 รัฐบาลจึงต้องผลักดันให้ประชาชนออมมากขึ้น เพื่อชีวิตยามเกษียณ และลดภาระทางการเงินการคลังที่ต้องใช้ดูแลประชากรสูงวัยในทุกด้าน อีกทั้งให้ประชาชนที่เป็นแรงงานนอกระบบ หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระไม่มีนายจ้าง กว่า 25 ล้านคนทั่วประเทศ ได้มีโอกาสรับบำนาญเพื่อเลี้ยงชีพเมื่อสูงอายุและไม่มีรายได้แล้ว

    ด้านธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดโครงการ "โรงเรียนการเงิน ให้คำปรึกษาและดูแลผู้ที่ต้องการขอสินเชื่อซื้อบ้าน และผู้ที่ไม่รับอนุมัติสินเชื่อบ้าน ให้รู้แนวทางการการบริหารทรัพย์สินที่มีอยู่ให้เป็นตัวเลขเงินในบัญชี เพื่อเป็นหลักประกันการขอสินเชื่อบ้าน รวมทั้งช่วยแนะนำแก้ไขข้อบกพร่องที่ทำให้ไม่ได้รับอนุมัติสินเชื่อบ้าน จนได้รับการอนุมัติสินเชื่อในที่สุด และเพื่อให้การขอสินเชื่อครั้งต่อไป ผ่านง่ายขึ้น



    ครม.เห็นชอบให้ไทยลงสัตยาบรรณในภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลจากการบังคับให้หายสาบสูญ พร้อมผ่านความเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา
     
    Last edited: 30 Jul 2017
  7. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    นายสมพร จิตเป็นธม เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน กอช.มีวงเงินออมของสมาชิก บวกเงินสมทบ 1,100 ล้านบาท นำไปลงทุนสร้างผลตอบแทน 2% ถือว่าต่ำกว่าเป้าหมาย เพราะลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงต่ำ หรือ ไม่มีความเสี่ยง แต่ปีนี้ตั้งเป้าผลตอนการลงทุนที่ 3%

    ปัจจุบัน กอช.มีสมาชิก 423,000 ราย คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีสมาชิก 1.5 ล้านราย โดย กอช.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมบัญชีกลาง ประชาสัมพันธ์สิทธิประโยชน์การออม ไปยังแรงงานนอกระบบทุกอาชีพ 25 ล้านคนทั่วประเทศ เช่น เกษตรกร แม่ค้า นักเรียน นักศึกษา จักรยานยนต์รับจ้าง หรืออาชีพที่ไม่มีรายได้ประจำ โดยจะชี้ประโยชน์ถึงเงินสมทบที่ผู้ออมได้จากรัฐ และบำนาญตลอดชีวิต

    ทั้งนี้ แรงงานนอกระบบมีสัดส่วนถึง 60% ของแรงงานทั้งหมด และถ้ามีสมาชิกตามเป้าหมาย จะทำให้สิ้นปีนี้ กอช.มีวงเงินออม 5,000 ล้านบาท เป็นระดับเพียงพอที่จะนำเงินไปลงทุนประเภทที่ให้ผลตอบแทนสูง

    นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังต้องการดึงผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป มาสมัครมากขึ้น เพราะยังเปิดโอกาสให้กลุ่มนี้สมัครได้ถึงวันที่ 25 ก.ย.นี้ จากปกติที่รับสมัครเฉพาะอายุ 15-60 ปีเท่านั้น

    ทั้งนี้ สมาชิก กอช.ปัจจุบันมีสัดส่วนสมาชิกที่อายุมากกว่า 60 ปี ขึ้นไป เพียง 7.22% ถือว่ายังน้อย โดยสมาชิกส่วนใหญ่มีช่วงอายุ 30 ปี แต่ไม่เกิน 50 ปี 45.64%

    ส่วนอาชีพสมาชิก ส่วนใหญ่ 68.57% เป็นเกษตรกร รองลงมาค้าขาย 12.17% และที่เหลือเป็นนักเรียน นักศึกษา ลูกจ้างเอกชน ขับรถรับจ้าง ลูกจ้างส่วนราชการ ลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ



    รัฐมนตรีคลัง คาดสิ้นปีนี้สมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติจะเพิ่มขึ้นถึง 1.5 ล้านราย เป็น เกษตรกรสูงสุดถึงร้อยละ 68

    รัฐมนตรีช่วยคลัง วิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ บอกว่า ปัจจุบันกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช.มีสมาชิกประมาณ 423,000 ราย คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีจำนวนสมาชิกถึง 1.5 ล้านราย โดยประชาชนที่สนใจยังสามารถลงทะเบียนได้จนถึงวันที่ 25 กันยายนนี้ เริ่มการออมได้ครั้งละ 50 บาท สูงสุดไม่เกินปีละ 13,200 บาท ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการลดความเหลื่อมล้ำ และการสร้างหลักประกันผู้สูงอายุยามชรา โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพอิสระ

    สำหรับสัดส่วนสมาชิกในขณะนี้แบ่งเป็น เกษตรกรสูงสุดถึงร้อยละ 68 รองลงมาคืออาชีพค้าขายร้อยละ 12 และนักเรียน นิสิต นักศึกษาร้อยละ 2



    วันนี้มาติดตามกันต่อเกี่ยวกับรายละเอียดของ “กองทุนยุติธรรมโฉมใหม่” ทั้งหลักเกณฑ์และช่องทางการให้ความช่วยเหลือ เพื่อให้คนจนและคนด้อยโอกาสได้เข้าถึงความยุติธรรม จากรายงานพิเศษ





    นายวรภพ ฉิมพันธ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล หรือ อบต.ไร่รด อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่ากฎหมายที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ กระทรวงการคลังขออนุมัติ ครม.วันนี้ มีอัตราการจัดเก็บ และแบ่งแยกหมวดหมู่ของที่ดินแต่ละประเภทชัดเจน ทำให้เกิดความเป็นธรรมในการเสียภาษี ขณะเดียวกัน อบต.ก็สามารถจัดเก็บภาษีได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้น จากเดิมที่ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าพนักงานประเมิน โดยคาดว่าจะจัดเก็บรายได้จากภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างรูปแบบใหม่ เพิ่มขึ้น 10% ส่งผลให้มีเม็ดเงินเพื่อนำไปพัฒนาท้องถิ่นเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันได้รับงบประมาณจากส่วนกลาง 20 ล้านบาท และรายได้จากการจัดเก็บภาษีประมาณ 3 ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงพอต่อการพัฒนา

    ขณะเดียวกันได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปทำความเข้าใจกับประชาชน พร้อมทำคู่มือฉบับย่ออธิบายให้คนในพื้นที่เข้าใจ และเสียภาษีได้อย่างถูกต้อง หลังเกิดความกังวล ว่าการจัดเก็บภาษีที่ดินฯ ใหม่นี้ จะทำให้ต้องเสียภาษีสำหรับครัวเรือนด้วย โดยยืนยันว่าประชาชนจะไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว
     
    Last edited: 14 Jun 2016
  8. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวในการแถลงข่าวว่า พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบในวันนี้ กำหนดให้บ้านที่มีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี ส่วนบ้านหลังที่ 2 มูลค่า 5 ล้านบาท เสียภาษี 0.03% แต่โดยรวมแล้วบ้านที่อยู่อาศัยเพดานภาษีอยู่ที่ 0.50%

    สำหรับภาษีที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมจะได้รับยกเว้นในส่วน 50 ล้านบาทแรก โดยมีเพดานการจัดเก็บสูงสุดไม่เกิน 0.2%

    ส่วนการจัดเก็บภาษีที่ดินเพื่อพาณิชยกรรมหรืออื่นๆ สำหรับมูลค่าทรัพย์สิน 20 ล้านบาทจะเริ่มต้นอยู่ที่ 0.3% และขยับขึ้นตามมูลค่าทรัพย์สินโดยเพดานจะอยู่ที่ 2%

    ขณะที่ที่รกร้างว่างเปล่าปีที่ 1-3 จะเก็บ 1% และขยับขึ้นเรื่อยๆ ทุก 3 ปี หากไม่นำที่ดินดังกล่าวไปทำประโยชน์โดยที่เพดานสูงสุดจะอยู่ที่ 5%

    ทั้งนี้กฎหมายดังกล่าว จะเป็นการลดความเหลื่อมล้ำ เนื่อจากเป็นการเก็บแบบอัตราก้าวหน้า คนที่มีทรัพย์สินสูง จะเก็บสูง มีทรัพย์สินน้อย เสียน้อย ตรงนี้จะช่วยดูแลเกษตรกร และผู้มีที่อยู่อาศัย เพิ่มประสิทธิภาพจัดเก็บให้โปร่งใส ซึ่งคาดว่า การจัดเก็บภาษีดังกล่าว จะทำให้มีรายได้เข้ารัฐราว 6.4 หมื่นล้านบาทต่อปี จากเดิมมีรายได้ 3 หมื่นล้านบาท

    นายอภิศักดิ์ คาดว่า พ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯ ดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้ในปี 2560 แต่ก็ต้องขึ้นกับการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ด้วยว่า จะมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดในส่วนใดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากกฎหมายดังกล่าวออกมา จะมีผลให้มีการยกเลิกกฎหมายภาษีบำรุงท้องที่ รวมถึงภาษีโรงเรือนและที่ดิน ซึ่งใช้กันมาก่อนหน้านี้



    ปรับโครงสร้างหนี้เอสเอ็มอี กฎหมายใหม่เปิดทางยื่นขอฟื้นฟูกิจการ



    กรมบังคับคดี ได้แก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย ฉบับที่ 9 พ.ศ. 2559 เปิดให้ธุรกิจ SME ที่ประสบปัญหาสภาพคล่อง ไม่สามารถชำระหนี้ได้แต่ยังมีช่องทางดำเนินธุรกิจ สามารถยื่นคำขอฟื้นฟูกิจการได้ มีผลตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

    นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. เปิดเผยว่า นับเป็นครั้งแรกที่กฎหมายเปิดช่วยฟื้นฟูแก่บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ที่มีหนี้ไม่เกิน 10 ล้านบาท เมื่อเจ้าหนี้หลักรับแผนฟื้นฟูของธุรกิจ SME แล้ว เจ้าหนี้รายอื่นจะมาฟ้องร้องไม่ได้ จะทำให้การปรับโครงสร้างหนี้ทำได้ง่ายขึ้น และเจ้าหนี้สามารถปล่อยเงินกู้ให้แก่ SME เพื่อไปทำธุรกิจต่อได้

    โดย สสว.จะประสานให้ SME ที่ประสบปัญหา เข้ามายื่นแผนฟื้นฟูกิจการและกู้เงินจากกองทุนพลิกฟื้นของ สสว.ได้ไม่เกิน 1,000,000 บาท โดยไม่คิดดอกเบี้ยเป็นเวลา 7 ปี ซึ่งคาดว่าจะมีธุรกิจ SME ที่ได้รับประโยชน์ 7,400 ราย คิดเป็นยอดหนี้กว่า 43,000 ล้านบาท

    ทั้งนี้ สสว.จะร่วมกับกรมบังคับคดี จัดงาน "สานพลัง SME พลิกฟื้นยืนได้ ใส่ใจผู้ประกอบการ" โดยจะเปิดให้ SME เข้ายื่นแผนฟื้นฟูและปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารพาณิชย์ หรือบริษัทบริหารสินทรัพย์ต่างๆ ในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์



    ในที่สุดร่างกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างก็ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี และดูเหมือนว่าหลักเกณฑ์ใหม่ แทบจะไม่มีเสียงคัดค้าน
    โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยที่ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ต้องเสียภาษี



    ทำเนียบฯ 7 มิ.ย.-ครม.เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. …. คาดว่าจะมีผลใช้บังคับ 1 มกราคม พ.ศ.2560

    นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง โดยแบ่งประเภทจัดเก็บภาษีออกเป็น 4 ประเภท และกำหนดให้เป็นแบบอัตราก้าวหน้า มีทรัพย์สินจำนวนมากเสียภาษีมากกว่ารายย่อย ประกอบด้วย กลุ่มแรก ที่อยู่อาศัย หากเป็นบ้านหลังแรก ราคาไม่เกิน 50 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี ส่วนบ้านพร้อมที่ดินราคาตั้งแต่ 50-100 ล้านบาท เสียภาษีในอัตราจัดเก็บจริงร้อยละ 0.5 หากบ้านราคาเกิน 100 ล้านบาท เสียภาษีร้อยละ 0.1 และหากบ้านหลังที่ 2 รายชื่อกรรมสิทธิ์ต้องเสียภาษีนับตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป ตั้งแต่ร้อยละ 0.3 ของราคาประเมิน กลุ่มที่อยู่อาศัยกำหนดเพดานสูงสุดร้อยละ 0.5 ของราคาประเมินที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง

    ประเภทที่ 2 คือ กลุ่มพื้นที่เกษตรกรรม กำหนดอัตราเพดานสูงสุด ร้อยละ 0.2 ราคาที่ดินไม่เกิน 50 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี โดยราคาที่ดิน 50-100 ล้านบาท ร้อยละ 0.5 หากราคาเกิน 100 ล้านบาทจัดเก็บร้อยละ 0.1 ของราคาประเมินที่ดิน

    ประเภทที่ 3 จัดเก็บภาษีจากอาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหรรม ทรัพย์สินมากว่า 20 ล้านบาท จัดเก็บจริงร้อยละ 0.3 -1.5 ของราคาที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กำหนดอัตราเพดานสูงสุดร้อยละ 2

    ส่วนประเภท 4 จัดเก็บภาษี จากกลุ่มที่ดินรกร้าง ว่างเปล่าและไม่ใช้ประโยชน์ จัดเก็บจริงในช่วงปีที่ 1-3 ปี ร้อยละ 1 และถือครองที่ดินว่างเปล่าปีที่ 4-6 ร้อยละ 2 ปล่อยให้รกร้างว่างเปล่าอีกปีที่ 7 จัดเก็บร้อยละ 3 ยังเป็นช่วงให้ปรับตัวจัดเก็บเพียงเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นยังไม่ได้ทำประโยชน์ในปีที่ 4-6 จัดเก็บเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว กำหนดอัตราเพดานสูงสุดร้อยละ 5 ของราคาที่ดิน

    นอกจากนี้ ยังผ่อนปรนเพื่อบรรเทาภาระให้เจ้าของบ้านพักอาศัยหลักที่ได้มาจากการรับมรดก ผู้ประกอบกิจการอสังหาริมทรัพย์ สถาบันการเงินที่มีอสังหาริมทรัพย์รอการขายที่ได้มาจากการชำระหนี้ และกิจการสาธารณะ ประกอบด้วย 1.ในกรณีที่เจ้าของบ้านพักอาศัยหลักได้รับกรรมสิทธิ์บ้านหลังดังกล่าวมาจากการรับมรดกก่อนที่กฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ จะมีการบรรเทาภาษีให้ โดยการลดภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างร้อยละ 50 ของจำนวนภาษีที่จะต้องเสีย 2.ให้ยกเว้นการจัดเก็บภาษีเป็นเวลา 1 ปี สำหรับที่ดินที่อยู่ระหว่างการปลูกสร้างบ้านที่เจ้าของใช้เป็นบ้านของตนเอง 3.ให้จัดเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 0.05 ของฐานภาษี สำหรับที่ดินที่อยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อจัดทำเป็นโครงการที่พักอาศัยเพื่อขาย ที่นิติบุคคลที่ประกอบกิจการอสังหาริมทรัพย์เป็นเจ้าของ เป็นเวลา 3 ปี นับตั้งแต่เจ้าของที่ดินได้กรรมสิทธิ์ในที่ดิน และยกเว้นภาษีให้กับพื้นที่ส่วนกลางของหมู่บ้าน คอนโดมิเนียม 4.ให้จัดเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 0.05 ของฐานภาษี สำหรับอสังหาริมทรัพย์รอการขายที่ได้มาจากการชำระหนี้ของสถาบันการเงิน เป็นระยะเวลา 5 ปี 5.ให้ลดภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไม่เกินร้อยละ 75 ของจำนวนภาษีที่จะต้องเสีย สำหรับกิจการสาธารณะ เช่น โรงพยาบาล และโรงเรียน เป็นต้น

    สำหรับแนวทางการจัดเก็บภาษี ได้ออกกฎระเบียบวางกรอบการประเมินราคา สำหรับราคาที่ดิน กรมธนารักษ์ได้ทยอยประเมินราคาออกมาแล้ว 7-8 ล้านแปลง เพื่อใช้ในการเมินราคาจัดเก็บภาษี สำหรับสิ่งปลูกสร้างได้จัดแปลนบ้านแบ่งออกเป็น 7 ประเภท โดยจะกำหนดราคาไว้ชัดเจนว่าจัดเก็บในอัตราเท่าใด เพื่อตัดปัญหาการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ อปท.สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม กำหนดให้จัดจ้างบริษัทประเมินราคากรณีพิเศษในรูปแบบโรงงานอุตสหากรรม สำหรับอาคารพาณิชย์ เมื่อมีทั้งอยู่อาศัยและทำการค้า ให้นับชั้น 1, 2 เมื่อใช้ในการกอบพาณิชย์กรรม ชั้น 3, 4 ที่ใช้อยู่อาศัยให้คำนวณภาษีแบบอยู่อาศัยตามประกาศ

    นายอภิศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กฎหมายยังให้อำนาจผู้บริหารท้องถิ่นสามารถขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำจังหวัด หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเพื่อลดหรือยกเว้นภาษีให้กับเจ้าของอาคารบ้านเรือนที่ได้รับความเดือดร้อนได้ เช่น เกิดภัยพิบัติ หรืออาคาร บ้านเรือนเกิดเสียหายหรือถูกทำลาย รวมทั้งการปรับฐานภาษีให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในพื้นที่ การจัดเก็บภาษีดังกล่าว เกษตรกรที่มีที่ดินไม่เกิน 50 ล้านบาท มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 99.98 ส่วนเกษตรกรมีที่ดินมูลค่าตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป หรือเจ้าของทรัพย์ต้องเสียภาษีสัดส่วนเพียงร้อยละ 0.011 ขณะที่บ้านอยู่อาศัยเข้าข่ายต้องเสียภาษีราคาเกิน 50 ล้านบาทมีเพียงร้อยละ 0.04 หรือจำนวนบ้าน 8,556 หลัง รายได้จากภาษีดังกล่าวมาจากด้านพาณิชยกรรม 60,000 ล้านบาท จากด้านเกษตร 50 ล้านบาท และที่อยู่อาศัยประมาณ 4,000 ล้านบาท รวมรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 60,000 ล้านบาท จากปัจจุบัน อปท.จัดเก็บรายได้ภาษีท้องถิ่นอยู่ที่ 20,000-30,000 ล้านบาท

    พระราชบัญญัติที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2560 ภาษีที่ดินฯ ดังกล่าวเป็นการจัดภาษีจากฐานทรัพย์สินจัดเก็บจากมูลค่าทรัพย์จากเจ้าของทรัพย์ ผู้ครอบครองสินทรัพย์ของรัฐให้เช่า ผู้ครอบครองจึงต้องจ่ายภาษี และจัดเก็บแทนภาษีโรงเรือนและที่ดิน ซึ่งจัดเก็บรอยละ 12.5 จัดเก็บได้ประมาณ 20,000 ล้านบาท/ปี และภาษีบำรุงท้องที่ จัดเก็บได้ 700-800 ล้านบาท และมีปัญหาการใช้ฐานราคาประเมินในปี 2521 และการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พยายามจัดเก็บให้ใกล้เคียงของเดิม และเป็นการขยายฐานภาษีไปด้วย.-สำนักข่าวไทย
     
    Last edited: 22 Jul 2017
  9. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    ลงทะเบียนรับสวัสดิการรัฐ รายได้ไม่เกินปีละแสน





    ความพร้อม "Any ID" กับการรับรู้ของประชาชน



    วันนี้มีความคืบหน้าเรื่องการศึกษา ที่เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 28/2559 โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 เรื่อง ให้จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 15 ปี โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย

    โดยคำสั่งระบุชัดเจนว่า “การศึกษาขั้นพื้นฐาน 15 ปี” หมายความว่า การศึกษาตั้งแต่ระดับก่อนประถมศึกษา (อนุบาล) (ถ้ามี) ระดับประถมศึกษา จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช. 3 ) หรือเทียบเท่า และให้หมายความรวมถึงการศึกษาพิเศษและการศึกษาสงเคราะห์ด้วย

    กลุ่ม“การศึกษาพิเศษ” หมายความว่า การจัดการศึกษาให้แก่บุคคลซึ่งมีความผิดปกติอย่างหนึ่งอย่างใด ซึ่งจําเป็นต้องจัดการศึกษาให้เป็นรูปแบบโดยเฉพาะ และ“การศึกษาสงเคราะห์” หมายความว่า การจัดการศึกษาให้แก่เด็กที่ตกอยู่ในภาวะยากลําบาก หรืออยู่ในสถานภาพที่ด้อยกว่าเด็กทั่วไป หรือที่มีลักษณะเป็นการกุศล

    ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ต้องดําเนินการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 15 ปี ให้มีมาตรฐานและคุณภาพ โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีกําหนดอัตรา ค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษา 15 ปี เพื่อเสนอตามกระบวนการจัดทํา งบประมาณรายจ่ายประจําปี ซึ่งค่าใช้จ่ายนี้ครอบคลุม

    (1) ค่าจัดการเรียนการสอน (2) ค่าหนังสือเรียน (3) ค่าอุปกรณ์การเรียน (4) ค่าเครื่องแบบนักเรียน (5) ค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน (6) ค่าใช้จ่ายอื่นตามที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ

    คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป คือตั้งแต่วันนี้ ขณะเดียวกัน ให้กระทรวงศึกษาธิการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาใช้แทน และขยายผลต่อจากคำสั่งนี้แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน 6 เดือนนับแต่วันที่คำสั่งนี้ใช้บังคับ และกรณีมีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาด

    ส่วนอัตราค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่มีผลใช้อยู่ในวันก่อนวันที่คำสั่งนี้ใช้บังคับ ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไปจนกว่าครม.จะมีการกำหนดอัตราค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 15ปี

    เรื่องการศึกษานี้ ถือเป็นจุดอ่อนหนึ่งในร่างรัฐธรรมนูญ ที่ฝ่ายการเมืองบางกลุ่มวิจารณ์ว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ ระบุเรื่องการศึกษาไว้ในมาตรา 54 ให้ทุกคนได้รับการศึกษา 12 ปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับ โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย จนถูกวิจารณ์ว่าเป็นการเรียนฟรีนับตั้งแต่อนุบาล จนถึงม.3 จากเดิมถึง ม.6

    แน่นอนว่าการใช้คำสั่งม.44 นี้ทำให้รัฐบาลคสช.สร้างความมั่นใจเรื่องการเรียนฟรี ได้ 15 ปี

    "วิษณุ"ชี้ม.44 หลักประกันเรียนฟรี 15 ปี

    “วิษณุ”ยัน ม.44 ให้เด็กเรียนฟรี 15 ปี ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เตรียมเสนอ ครม.ออกเป็น พ.ร.บ.ภายใน 6 เดือน เป็นหลักประกันทางการศึกษา ได้ฟรีต่อแม้ร่างรธน.จะไม่ผ่านประชามติ

    นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงคำสั่งเรื่องเรียนฟรี 15 ปีนี้ว่ากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. ยืนยันว่าไม่ขัดกับร่างรัฐธรรมนูญ ที่อยู่ระหว่างการรอลงประชามติ และไม่ขัดกับกฎหมายการศึกษาที่ใช้อยู่ คือกฎหมายการศึกษาภาคบังคับ 9 ปี ตั้งแต่ป.1 จนถึง ม.3 ส่วนกฎหมายการศึกษาแห่งชาติที่ใช้อยู่ กำหนดไว้ 12 ปี ได้ขยายเป็น 15 ปี จนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย ตั้งแต่รัฐบาลสมัยพรรคประชาธิปัตย์จนถึงรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่ที่ผ่านมาระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการจัดเรียนฟรีไม่ชัดเจน และขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละรัฐบาลที่เข้ามา ทุกอย่างต้องวัดดวงอยู่ที่นโยบาย

    คำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับนี้ เป็นฉบับแรกที่ยอมอ้างถึงมติคณะรัฐมนตรีรัฐบาลอื่น และเพื่อเป็นหลักประกันว่าอนาคตจะยังคงใช้อยู่ ไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ และเพื่อให้เกิดความยั่งยืนจึงเตรียมกำหนดไว้เป็นพระราชบัญญัติเสนอต่อคณะรัฐมนตรีภายใน 6 เดือน ก่อนเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา พร้อมยืนยันว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ



    ธนาคารรัฐ 3 แห่ง เตรียมรับลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย เพื่อเข้าโครงการรับสวัสดิการแห่งรัฐ โดยกระทรวงการคลัง คาดว่าจะมีผู้เข้าเงื่อนไขการลงทะเบียน 20 ล้านคน

    หลังจาก คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนรับสวัสดิการรัฐ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ และระบบการชำระแบบAny ID

    นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ระบุว่า กระทรวงการคลังประเมินว่าจะมีผู้มีรายได้น้อยมาลงทะเบียน 20 ล้านคน ซึ่งประเมินจากจากฐานข้อมูลลูกค้าธนาคารรัฐทั้ง 3 แห่ง โดยลูกค้าที่มีรายได้ต่ำกว่าปีละ 100,000 บาท มี 20 ล้านคน และกระทรวงการคลังคาดว่าผู้มีรายได้น้อยจะมาลงทะเบียนทั้งหมด 100%

    สำหรับโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ จะเปิดให้ผู้ว่างงาน หรือ มีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาท ต่อ ปี มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป มาลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน ถึง 15 สิงหาคมนี้ ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย รวม 3,591 แห่ง ทั่วประเทศ

    ทั้งนี้ ข้อมูลการลงทะเบียนในครั้งนี้จะช่วยให้รัฐบาลมีฐานข้อมูลของผู้มีรายได้น้อย เพราะต้องแสดงข้อมูลรายได้ ทรัพย์สิน เจ้าหนี้และการเป็นหนี้ จะทำให้รัฐบาลทราบข้อมูลและนำไปกำหนดนโยบายช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยได้ตรงจุด ซึ่งในปัจจุบันรัฐบาลมีสวัสดิการสังคมและการให้เงินช่วยเหลือ อาทิ สวัสดิการด้านสุขภาพอนามัย สวัสดิการคนพิกร สวัสดิการผู้ด้อยโอกาส สวัสดิการผู้สูงอายุ

    ด้านนายธัชพล กาญจนสกุล รองผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารออมสิน กล่าวว่า ออมสินจะปรับปรุงฐานข้อมูลลูกค้าใหม่ จากเดิมใช้ฐานรายได้ต่อเดือน เป็นฐานรายได้ต่อปี โดยปัจจุบันออมสินมีลูกค้า 20 ล้านบัญชี และผู้ที่มีรายได้ 11,000-15,000 บาท ต่อ เดือน มี 5-7 ล้านบัญชี ซึ่งเป็นกลุ่มที่เข้าเกณฑ์ผู้มีรายได้น้อย คิดเป็น 25%ของลูกค้าทั้งหมด
     
    Last edited: 15 Jun 2016
  10. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    เป็นโครงการที่คณะรัฐมนตรี รับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อเป็นการยกระดับการจัดสวัสดิการสังคม และการให้เงินช่วยเหลือภาครัฐไปสู่การแก้ไขปัญหาความยากจน เพื่อให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยให้ได้รับความช่วยเหลือและสนับสนุนจากภาครัฐอย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย

    สำหรับคุณสมบัติของผู้ขอรับสิทธิดังกล่าว ต้องมีสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ที่ว่างงาน หรือมีรายได้ที่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ต้องเปิดเผยรายละเอียดทรัพย์สินและหนี้สิน โดยจะเปิดลงทะเบียนที่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และ ธ.ก.ส ตั้งแต่ 15 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม และทุกเดือนกันยายนของปีต่อไป

    คณะรัฐมนตรี ยังเห็นชอบเสนอร่างพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ เพื่อส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาล และป้องกันปราบปรามทุจริต และประพฤติมิชอบในภาครัฐ ป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนทุกระดับ โดยจะมีการปรับระบบการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐและเอกชน ที่มีข้อตกลงคุณธรรม ยึดหลักการ คุ้มค่า โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเปิดเผยรายละเอียดต่อสาธารณะ จากนั้นจะส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาเห็นชอบต่อไป

    ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้ นายปฏิคม วงษ์สุวรรณ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และเห็นชอบให้ นายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ เป็นผู้ว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยอีกด้วย



    กรมที่ดินเผย หลัง ครม. ผ่านร่างภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ยังไม่เห็นการเร่งโอนที่อยู่อาศัยจากประชาชน คาดรอความชัดเจน พร้อมเดินหน้าสำรวจแปลงที่ดินและการใช้ประโยชน์ที่ดินเสร็จทันปี 60 เพื่อการจัดเก็บภาษีที่ดินไม่ให้รั่วไหล

    นายมานัส ฉั่วสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมที่ดิน เปิดเผยว่า ได้เตรียมเร่งสำรวจแปลงที่ดินทั่วประเทศ ทั้งที่มีโฉนดที่ดินและ นส.3 ให้ครบ 33 ล้านแปลง ให้เสร็จภายในปีนี้ โดยปัจจุบันได้สำรวจไปแล้วกว่า 24 ล้านแปลง พร้อมทั้งเร่งสำรวจการใช้ประโยชน์ที่ดินของทั้ง 33 ล้านแปลง ให้เสร็จภายในปี 2560 โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จริง และสำรวจผ่านทางกลูเกิ้ลสตรีทวิว เพื่อให้การจัดเก็บภาษีไม่มีการรั่วไหลและจัดเก็บได้ตรงกับประเภทการใช้ที่ดิน ทั้งเพื่อการอยู่อาศัย เพื่อการเกษตร อุตสาหกรรมและพาณิชย์ รวมถึงที่ดินรกร้างว่างเปล่า เนื่องจากที่ผ่านมาจะมีการจัดเก็บตามที่ประชาชนมีการแจ้งเท่านั้น จึงทำให้บางครั้งจัดเก็บภาษีได้ไม่ถูกประเภท และทำให้รายได้จากการจัดเก็บภาษีต่ำกว่าความเป็นจริง เช่น กรณีอาคารพาณิชย์ที่มีการค้าขายในชั้นล่าง แต่อยู่อาศัยในชั้นบน ก็จะแจ้งว่าเป็นที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย แต่ความเป็นจริงแล้วต้องแจ้งว่าเป็นที่ดินเพื่อการพาณิชย์เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้เม็ดเงินจากการจัดเก็บภาษีสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาท้องถิ่นได้ดียิ่งขึ้น

    ส่วนความเคลื่อนไหวของประชาชนในด้านการโอนที่ดินหลังจากที่ร่าง พรบ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ผ่านมติ ครม. ขณะนี้ยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงมากนัก เนื่องจากประชาชนน่าจะรอความชัดเจนเมื่อกฎหมายมีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการ สอดคล้องกับนายรุ่งโรจน์ วรรณเวช เจ้าพนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาห้วยขวาง ที่เปิดเผยว่าประชาชนที่มาใช้บริการที่สาขาห้วยขวาง ยังอยู่ในระดับปกติ ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากมายนัก หลังคณะรัฐมนตรีผ่านร่างกฎหมายภาษีที่ดิน ต่างจากช่วงที่ภาษีมรดกมีผลบังคับใช้ ซึ่งช่วงนั้นมีประชาชนเข้าข่ายเสียภาษีมาดำเนินการโอนที่ดินให้กับทายาทหรือญาติพี่น้องจำนวนมาก รวมถึงช่วงใกล้สิ้นสุดการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนในช่วงสิ้นเดือนเมษายนที่ประชาชนมาใช้บริการอย่างหนาแน่น จึงเชื่อว่าประชาชนน่าจะรอให้กฎหมายบังคับใช้อย่างเป็นทางการ



    นายกฯเห็นชอบใช้ ม.44 ให้กระทรวงการคลังแก้หนี้นอกระบบเบ็ดเสร็จ





    รัฐบาลแก้ปัญหาที่ดินทำกินกับผู้ยากไร้ โดยการให้ใช้พื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติเสื่อมโทรม แต่ให้รวมกลุ่มแบบแปลงรวมในรูปแบบสหกรณ์ ไปแล้วกว่า สามหมื่นหนึ่งพันไร่ ติดตามรายละเอียดกับ คุณพิชานัน อินโปธา

    จากนโยบายการจัดที่ดินทำกินให้แก่ผู้ยากไร้ ที่ไม่มีที่ทำกินของรัฐบาล ความคืบหน้าขณะนี้ได้มีการอนุญาต ให้ชุมชนเข้าใช้ประโยชน์แล้ว 10 พื้นที่ 6 จังหวัดรวมเนื้อที่ประมาณ 3 หมื่น 1 พันไร่

    เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดร.รวีวรรณ ภูริเดช บอกว่า การจัดการที่ดินของรัฐบาล เป็นการให้ที่ดินแบบรวมกลุ่มสหกรณ์ โดยที่ผ่านมาได้มีการมอบหนังสืออนุญาตในการใช้ประโยชน์ในพื้นที่แล้ว 10 พื้นที่ใน 6 จังหวัดได้แก่ จ.เชียงใหม่ จ.อุทัยธานี จ.อุดรธานี จ.นครพนม จ.ยโสธร จ.นครราชสีมา รวม 31,395 ไร่

    โดยพื้นที่เป้าหมายตามแผนนโยบาย จะการจัดสรรพื้นที่รวมทั้งสิ้น 97 พื้นที่ 55 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 427,021 ไร่ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจาก คณะกรรมการ นโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ คทช. แล้ว 80 พื้นที่ 47 จังหวัด เนื้อที่กว่า 3 แสนไร่ และยังมีเป้าหมายอีก 18 พื้นที่ 13 จังหวัด ที่กำลังจะเสนอให้ คทช. รับทราบ

    ทั้งนี้หลังจากมอบที่ดินให้ตัวแทนกลุ่มชาวบ้าน ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างถูกต้องตามกฏหมายแล้ว รัฐบาลจะมีการส่งเสริมพัฒนาอาชีพให้ด้วย. โดยมีการแต่งตั้ง คทช.จังหวัดให้เป็นกลไกสำคัญในการดำเนินการ

    การจัดสรรที่ดินที่ผ่านมายังไม่เป็นเอกภาพ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ยกร่าง พรบ.คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ. ... เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีอำนาจในการจัดการเรื่องข้อพิพาทเกี่ยวที่ดินด้วย อยู่ระหว่างการขอความเห็นชอบต่อ คทช. ต่อไป ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้แนวนโยบายการจัดการที่ดินให้เป็นเอกภาพมากขึ้น และช่วยในการกระจายการถือครองที่ดินในอนาคต
     
    Last edited: 22 Jul 2017
  11. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    หลังทางคณะกรรมการพิจารณาการทำงานของคนต่างด้าว ปลัดกระทรวงแรงงาน เผยปลดล็อคบุคคลไร้สัญชาติไทย พื้นที่สูงได้ทำงานทุกประเภท

    หม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาการทำงานของคนต่างด้าว เห็นชอบในหลักการ ตามที่กรมการจัดหางาน เสนอ เรื่องกำหนดงานให้บุคคลพื้นที่สูงที่ยังไม่มีสัญชาติไทย ที่มีในประเทศไทยกว่า 5.6 แสนคน สามารถทำงานได้ทุกประเภทงาน ตามความรู้ความสามารถ

    รวมทั้งได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียม 2,000 บาท แต่ให้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการยื่นคำร้อง 100 บาท ซึ่งขั้นตอนต่อไปกรมการจัดหางาน จะนำร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ส่งให้คณะกรรมการฯ พิจารณาอีกครั้ง ก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบและเสนอกฤษฎีกาพิจารณาในขั้นตอนต่อไป







    สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ยืนยัน การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จะไม่ส่งผลกระทบต่อบ้านจำนวนกว่า 22 ล้านหลัง และเกษตรกรที่มีที่ดินจำนวนไม่เกิน 50 ไร่

    นายลวรณ แสงสนิท ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ยืนยันว่า การจัดเก็บภาษี ตามกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ พุทธศักราช 2559 จะไม่ส่งผลกระทบหรือสร้างภาระเพิ่มเติม แก่ประชาชนกลุ่มเจ้าของบ้าน และคอนโดมิเนียมหลังแรก มูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศกว่า 22 ล้านหลัง รวมถึงเกษตรกรที่มีที่ดินทางการเกษตรไม่เกิน 50 ไร่ และกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เนื่องจากเชื่อว่าการออกกฎเกณฑ์ มีความครอบคลุม โดยพิจารณาถึงสำคัญด้านผลกระทบของกลุ่มผู้มีรายได้น้อยอยู่แล้ว เพื่อหวังจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ

    การจัดเก็บภาษีที่ดินใหม่ จะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมและเกษตรขนาดใหญ่และผู้มีที่อยู่อาศัยมูลค่ามากกว่า 50 ล้านบาท รวมถึงผู้ทีมีบ้านหลังที่สอง รวมทั้งผู้ซื้อที่ดินเพื่อเก็งกำไร กลุ่มนี้จะต้องเสียภาษี ตามอัตราใหม่ แต่ก็จะไม่สูงจากอัตราภาษีเดิมที่เคยชำระอยู่มากนัก แต่ผลดีคือ จะทำให้รัฐบาลมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีที่ดินฯเพิ่มขึ้น จากปีละ 25,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นปีละ 64,000 ล้านบาท นอกจากนี้จะทำให้ผู้ถือครองที่ดินรกร้างว่างเปล่า นำที่ดินออกมาซื้อขายทำประโยชน์มากขึ้นด้วย



    ก.คลังเตรียมเสนอ ครม.พิจารณามาตรการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ หวังแก้ปัญหาผู้มีรายได้น้อยอย่างครบวงจร หลังธนาคารและสถาบันการเงินของรัฐ 3 แห่ง เตรียมเปิดลงทะเบียนคนจน วันที่ 15 กรกฎาคมนี้
     
    Last edited: 22 Jul 2017
  12. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    กลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณ 690 ล้านบาท ให้สถาบันบริหารจัดการ ธนาคารที่ดินนำใช้ช่วยเหลือเกษตรกรที่ขาดแคลนที่ดินทำกิน ซึ่งขณะนี้ได้พื้นที่นำร่องแล้วในจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน หลังจากที่นั่นมีปัญหาพิพาท ระหว่างชาวบ้านที่เข้าไปทำกินบนที่ดิน ซึ่งมีผู้อ้างสิทธิ์ถือครองเอกสารที่ดินอยู่แล้ว จนถูกศาลตัดสินจำคุกขณะนี้ 7 ราย แนวทางนำร่องจากนี้คือหาทางเจรจาซื้อที่ดินจากนายทุน เพื่อให้ชาวบ้านในทำกินในรูปแบบสหกรณ์หรือโฉนดชุมชน



    กระทรวงการคลัง เตรียมเปิดให้ผู้ว่างงาน หรือผู้มีรายได้ไม่เกินปีละ 1 แสนบาท ไปลงทะเบียนเพื่อเตรียมรับสวัสดิการจากภาครัฐในอนาคต

    นายพรชัย ฐีระเวช รองผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเปิดการลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการจากรัฐ สำหรับผู้ว่างงาน หรือผู้มีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาท ในปี 2558 มีสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป หรือเกิดก่อนวันที่ 16 สิงหาคม 2541 สามารถไปลงทะเบียนได้ ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม ถึง 15 สิงหาคมนี้

    โดยต้องนำบัตรประชาชนไปยื่นแสดงตนด้วยตนเองเท่านั้น ส่วนกรณีที่ไปลงทะเบียนด้วยตนเองไม่ได้ ต้องมีหนังสือมอบอำนาจ หรือหลักฐานแสดงความจำเป็นที่ไม่สามารถไปลงทะเบียนด้วยตนเองได้ เช่น ใบรับรองแพทย์ พร้อมบัตรประชาชน มอบให้ญาติไปลงทะเบียนแทน โดยหนังสือมอบอำนาจต้องมีลายเซ็นของผู้มอบอำนาจ ถ้าไม่สามารถลงชื่อได้ ให้ใช้วิธีประทับรอยนิ้วโป้งแทนได้ ซึ่งผู้ลงทะเบียนจะมีสิทธิ์ได้รับสวัสดิการต่างๆ จากภาครัฐที่จะออกมาในอนาคตด้วย

    การลงทะเบียนครั้งนี้ ยังเป็นการสำรวจฐานข้อมูลใหม่ เพื่อออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนได้ตรงเป้าหมาย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะพบว่ามีการโอนเบี้ยผู้สูงอายุ เข้าบัญชีของผู้สูงอายุที่เสียชีวิตแล้ว นับแสนบัญชี ซึ่งต้องติดตามเงินกลับคืนมา ดังนั้นผู้ที่เคยลงทะเบียนรับสิทธิ์ไปแล้ว เช่น เบี้ยผู้พิการ เบี้ยผู้สูงอายุ ควรไปลงทะเบียนอีกครั้ง เพื่อให้มีชื่ออยู่ในฐานข้อมูลใหม่



    ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคมนี้ รัฐบาลจะเปิดให้ผู้ว่างงานหรือผู้มีรายได้ไม่เกิน 1 ล้านบาท ลงทะเบียนรับสวัสดิการของรัฐ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย อย่างเหมาะสม

    นายพรชัย ฐีระเวช รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. พร้อมด้วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ผู้แทนจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. และธนาคารกรุงไทย เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนใน "โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ" ที่ธนาคารของรัฐทั้ง 3 แห่งดังกล่าว เพื่อให้รัฐบาลมีข้อมูลที่ถูกต้องและนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้จัดสวัสดิการ ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยอย่างเหมาะสมในอนาคต

    เชื่อว่าโครงการนี้ จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อยอย่างยั่งยืน โดยจะอัพเดทข้อมูลใหม่ทุกปี และยืนยันจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล แต่นำไปใช้เป็นทำฐานเพียงอย่างเดียว

    คุณสมบัติของผู้มีสิทธิลงทะเบียน ต้องมีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป หรือเกิดก่อนวันที่ 16 สิงหาคม 2541 เป็นผู้ว่างงานหรือมีรายได้ไม่เกิน 1แสนบาทในปี 2558 และต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น รายได้ การถือครองทรัพย์สิน หนี้สินคงค้าง แต่หากเป็นผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุเกินกว่า 70 ปี หรือผู้พิการ จนไม่สามารถเดินทางไปลงทะเบียนด้วยตนเองสามารถมอบอำนาจให้ลงทะเบียนแทนได้ แต่ต้องแสดงหลักฐาน เช่น ใบรับรองแพทย์ เป็นต้น

    เบื้องต้น ธ.ก.ส. คาดว่า จะมีลูกค้าเข้ามาลงทะเบียน 3 ล้านคน ขณะที่ธนาคารออมสิน จะมีผู้ลงทะเบียน 3-4 ล้านคน จาก 7-8 ล้านคนที่มีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาท และธนาคารกรุงไทย 5 ล้านคน

    สศค. ยังกล่าวถึงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมสินค้าท้องถิ่นไทย สามารถนำรายจ่ายการซื้อสินค้า โอทอป หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 15,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1-31 สิงหาคมนี้ เชื่อว่าจะกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงเดือนสิงหาคมได้ 10,000 ล้านบาท จากช่วงปกติ 8,000 ล้านบาท และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง



    พรุ่งนี้จะเป็นวันแรกของการเปิดลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดความเหลือมล้ำ และสร้างคุณภาพชีวิตของประชาชนที่มีรายได้น้อยให้ดีขึ้น เรื่องนี้มีความสำคัญอย่างไร ติดตามได้จากคุณสุจิตรา วรุณโณ

    กุญแจดอกสำคัญของการสร้างความมั่นคั่งและยั่งยืนนั้น คือ การขจัดความยากจนและลดความเหลือมล้ำของสังคม

    ตั้งแต่วันพรุ่งนี้จนถึง 15 สิงหาคม รัฐบาลได้เปิดให้ผู้มีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี/อายุ 18 ปีขึ้นไป มาลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ อาทิ สิทธิการรักษาพยาบาล การรับบริการรถไฟ รถประจำทางสาธารณะฟรี

    ผู้ต้องการลงทะเบียน เพียงนำบัตรประจำตัวประชาชนแสดงตนและกรอกเอกสารที่ธนาคารรัฐที่เปิดให้ลงทะเบียน จากนั้นรอการตรวจสอบคุณสมบัติให้ตรงตามเงื่อนไข จากกระทรวงมหาดไทย กรมสรรพากรและธนาคารพาณิชย์ เพื่อป้องกันให้กรอกข้อมูลเท็จ หวังได้รับสิทธิ

    ข้อมูลที่ได้จากการลงทะเบียนครั้งนี้ จะถูกนำไปบูรณาการ จัดทำฐานข้อมูล จัดกลุ่มสวัสดิการ และจัดสรรงบประมาณให้ตรงกับประเด็นปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังการจัดสวัสดิการอื่น เช่นเบี้ยยังชีพคนชราเด็กแรกเกิด และผู้พิการ รัฐต้องสูญเสียงบประมาณจำนวนมากจากฐานข้อมูลที่คลาดเคลื่อน

    การลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐนี้ จะเปิดให้ลงทะเบียนเป็นประจำทุกปี เพื่อการปรับฐานข้อมูลให้ทันสมัย ซึ่งคาดว่าในครั้งแรกนี้จะมีผู้ลงทะเบียนมากถึงร้อยละ 50 จากผู้มีสิทธิ์เข้ารับสวัสดิการแห่งรัฐ 10 ล้านคน

    รัฐบาลมุ่งหวังว่าในปี 2573 ประเทศไทยขจัดความยากจนและหิวโหยได้ทุกพื้นที่ อย่างที่สหประชาชาติตั้งเป้าไว้...สุจิตรา วรุณโณ ทีมข่าวการเมือง รายงาน



    ดร.สมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กับกรณีที่รัฐบาลเปิดให้ผู้มีรายได้น้อยต่ำกว่า 1 แสนบาท ลงทะเบียนรับสิทธิ์สวัสดิการรัฐ ผ่าน 3 แบงก์รัฐ "ออมสิน-กรุงไทย-ธ.ก.ส." โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ 15 ก.ค.ถึง 15 ส.ค.นี้

    บรรยากาศที่ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ประชาชนมาลงทะเบียนในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง ชี้จะช่วยทำให้รัฐบาลมีฐานข้อมูลของผู้มีรายได้น้อย และสามารถนำไปกำหนดนโยบายเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม เปิดลงทะเบียน 15 กรกฎาคม-15 สิงหาคมนี้
     
    Last edited: 22 Jul 2017
  13. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ภายหลังการประชุมคณะทำงานสังคมผู้สูงวัย หรือ Aging Society ว่า รัฐบาลเตรียมออกแพ็กเกจดูแลผู้สูงอายุ โดยจะเริ่มที่มาตรการทางภาษีก่อน เบื้องต้นได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังจัดทำหลักเกณฑ์เพื่อส่งเสริมให้บริษัทต่างๆ ว่าจ้างผู้สูงอายุมากขึ้น และมีแนวคิดว่าผู้สูงอายุที่อยู่ในบริษัทนั้นๆ มีโอกาสจะสามารถลดหย่อนภาษี 2 เท่าจากฐานเงินเดือนที่จะกำหนดไว้ โดยน่าจะมีความชัดเจนในเดือนหน้า และสามารถประกาศใช้ได้ทันในปีนี้

    นอกจากนี้เตรียมพิจารณา มาตรการด้านที่อยู่อาศัย โดยมอบหมายให้ธนาคารออมสิน จัดเตรียมสินเชื่อที่อยู่อาศัย ในกรณีที่ผู้สูงอายุมีอายุ 60 ปี และมีบ้านของตนเอง สามารถที่จะนำบ้านไปจำนองกับสถาบันการเงิน และจะได้รับเงินเป็นรายเดือนรวมทั้งได้มอบหมายให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. และการเคหะแห่งชาติ หรือ กคช. กำหนดหลักเกณฑ์การให้สิทธิประโยชน์พิเศษในการซื้อ หรือเช่าบ้านในโครงการของรัฐ สำหรับลูกกตัญญู ที่เลี้ยงดูพ่อแม่ โดยจะได้รับสิทธิพิเศษก่อน ส่วนมาตรการด้านแรงงานนั้น กระทรวงแรงงานจะมีการจัดตั้งศูนย์ เพื่อเปิดให้ผู้สูงอายุที่ยังต้องการมีงาน เข้ามาลงทะเบียนไว้ โดยหากบริษัทใดมีความต้องการแรงงานสามารถมาดูที่ศูนย์นี้ได้ และนำไปสู่การจ้างงานในอนาคต

    สำหรับมาตรการดูแลผู้สูงอายุออกมาเป็นกลุ่มๆ เช่น มาตรการภาษี มาตรการที่อยู่อาศัย มาตรการแรงงาน เรื่องไหนเสร็จให้ดำเนินการได้เลยและต้องหาทางกระตุ้นให้เอกชนเข้ามาร่วมในการดูแลผู้สูงอายุด้วย รวมทั้งการจัดตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ หรือ กบช. ที่กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาใกล้แล้วเสร็จ และจะดำเนินการในรัฐบาลชุดนี้



    วันแรกของการเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนคนจน ในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านธนาคารของรัฐ 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม ถึง 15 สิงหาคมนี้ มีผู้ไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้มีรายได้น้อย ที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือเงินสวัสดิการรายเดือนเพิ่ม และช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ โดยผู้มีสิทธิ์ลงทะเบียน ต้องเป็นผู้ว่างงาน หรือผู้มีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาท ในปีที่แล้ว มีสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป โดยนำบัตรประชาชนไปยื่นแสดงตนด้วยตนเอง หากไปลงทะเบียนด้วยตนเองไม่ได้ ต้องมีหนังสือมอบอำนาจหรือหลักฐานแสดงความจำเป็นที่ไม่สามารถไปลงทะเบียนได้ มอบให้ญาติไปลงทะเบียนแทน

    ส่วนการลงทะเบียนในต่างจังหวัด มีเกษตรกรแห่ไปลงทะเบียนกับ ธ.ก.ส.เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเกษตรกรส่วนใหญ่เข้าเกณฑ์รายได้ต่ำ ไม่ถึงปีละ 100,000 บาท และเกรงจะเสียสิทธิ์รับการช่วยเหลือในอนาคต ทั้งนี้ ครอบครัวที่ทำการเกษตรเป็นหลัก จะใช้พื้นที่ทำเกษตรกรรมเป็นมีเกณฑ์ประเมินรายได้ต่อไร่ เกษตรกรที่จะเข้าเกณฑ์เป็นผู้มีรายได้ต่ำกว่าปีละ100,000 บาท ต้องมีพื้นที่ทำนาปี ต่ำกว่า 34 ไร่ หรือมีพื้นที่ปลูกยางพาราน้อยกว่า 11ไร่ หรือมีพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังน้อยกว่า 17 ไร่

    สำหรับครอบครัวเกษตรกร ให้ถือว่ารายได้จากการทำเกษตร เป็นรายได้ของหัวหน้าครอบครัวเพียงผู้เดียว หากต่ำกว่า 1 แสนบาท ก็มีสิทธิ์ลงทะเบียนได้และสมาชิกในครอบครัวก็ให้ถือว่ามีรายได้ต่ำกว่า 1 แสนบาท ลงทะเบียนได้เช่นกัน โดยเกษตรกรที่ลงทะเบียนเตรียมรับสวัสดิการจากรัฐ ส่วนใหญ่ได้ลงทะเบียนพร้อมเพย์ไปด้วย เพื่อให้ภาครัฐโอนเงินช่วยเหลือเข้าบัญชี แม้ส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจว่าพร้อมเพย์คืออะไร แต่ก็ลงทะเบียนไว้ เพราะเจ้าหน้าที่เชิญชวน ทั้งนี้ ข้อมูลการลงทะเบียนครั้งนี้ จะใช้เป็นฐานข้อมูลใหม่ของภาครัฐในการอนุมัติสวัสดิการช่วยเหลือประชาชนในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนที่เข้าเกณฑ์ ไปลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน จากจำนวนผู้รับสวัสดิการของรัฐในปัจจุบัน 10 ล้านคน

    ขณะที่ เมื่อวานนี้ ธนาคารพาณิชย์ก็เริ่มเปิดลงทะเบียนพร้อมเพย์อย่างเป็นทางการ เป็นวันแรก หลังจากเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนล่วงหน้า มาตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนพร้อมเพย์ไปล่วงหน้าแล้ว 9 ล้าน 7 แสนคนส่วนใหญ่ลงทะเบียนผูกบัญชีเงินฝากธนาคารกับเลขบัตรประชาชน ผ่านทางโมบายแบงก์กิ้ง,อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง และเอทีเอ็ม ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนแบบไม่มีกำหนด และจะเริ่มบริการโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ได้ ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคมนี้

    ด้าน นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า การโอนเงินผ่านพร้อมเพย์ เหมือนกับการโอนเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และเอทีเอ็มในปัจจุบัน ประชาชนจึงไม่ต้องกังวล เพราะการโอนเงินแบบพร้อมเพย์เป็นระบบปิดไม่มีการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า และธนาคารพาณิชย์ได้ทดสอบระบบแล้ว ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด



    กระทรวงแรงงาน ร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำแผนส่งเสริมการจ้างงานและอาชีพผู้สูงอายุ พร้อมสร้างฐานข้อมูลตลาดแรงงานผู้สูงอายุ

    ม.ล.ปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน บอกว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมการขยายโอกาสด้านอาชีพและการทำงานสำหรับผู้สูงอายุได้พิจารณาแผนปฏิบัติการประจำปี 2559 2564 ภายใต้แผนกลยุทธ์ด้านการทำงานของผู้สูงอายุ ระยะที่ 1 พ.ศ.2559-2564 ซึ่งมี 5 ด้านทั้งการกระจายงานสู่บ้านหรือชุมชน การขยายอายุเกษียณราชการ การส่งเสริมการจ้างงานอย่างต่อเนื่องของภาคเอกชน ส่งเสริมการจ้างงานให้กับผู้สูงอายุในอาชีพที่เหมาะสมกับวัย ประสบการณ์ทำงาน และสมรรถนะทางร่างกาย และสร้างฐานข้อมูลตลาดแรงงานผู้สูงอายุ โดยที่ประชุมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเพิ่มเติมโครงการและกิจกรรมตามแผนให้ครบถ้วนและชัดเจนแล้วเสนอต่อคณะอนุกรรมการฯ ทั้งนี้ จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2557 พบว่า มีผู้สูงอายุที่อยู่ในกำลังแรงงานร้อยละ 39.5 ของผู้สูงอายุที่มีทั้งหมดกว่า 10 ล้านคน



    หลังจากเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมาที่ภาครัฐเปิดให้ลงทะเบียน เพื่อมีสิทธิรับสวัสดิการรัฐ ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย และผู้ว่างงาน โดยมีเงื่อนไขคือเป็นผู้ที่มีรายได้ไม่แสน 1 แสนบาทต่อปี สัญชาติไทย และอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยในช่วงวันหยุดยาวหลายวันช่วงนี้ ตั้งแต่เมื่อวาน // วันนี้ และจันทร์ อังคาร หรือหลายคนอาจหยุดถึงวันพุธ ธนาคารที่มีสาขาในห้างสรรพสินค้าหลายแห่งอย่างออมสิน และกรุงไทย ที่เปิดทำการ ก็เปิดให้ประชาชนไปลงทะเบียนได้

    พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่าให้มาลงทะเบียนเพื่อมีฐานข้อมูลช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยโดยตรงอย่างเหมาะสม ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องการให้พี่น้องประชาชนใช้โอกาสที่ได้อยู่ร่วมกันในวันหยุดยาวนี้สำรวจตรวจสอบว่า มีญาติพี่น้องหรือบุคคลใกล้ชิดในครอบครัวเข้าข่ายคุณสมบัติไปลงทะเบียนได้ที่ธนาคาร 3 แห่ง คือ ธ.กรุงไทย ธ.ออมสิน และธกส. จนถึง 15 ส.ค.59 โดยต้องยินยอมเปิดเผยข้อมูล เช่น รายได้ ทรัพย์สิน เจ้าหนี้ และจำนวนหนี้สินที่คงค้าง

    เมื่อลงทะเบียนแล้ว ธนาคารทั้ง 3 แห่ง จะส่งข้อมูลไปยังกรมสรรพากรเพื่อจัดเก็บข้อมูลและตรวจสอบความถูกต้อง และจะเชื่อมโยงไปยังฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกระทรวงมหาดไทย เพื่อประมวลผลข้อมูลผู้มีรายได้น้อย และนำไปใช้จัดสวัสดิการสังคมแก่ประชาชนในระยะต่อไป



    ทางวิบากสู่รัฐสวัสดิการ
     
    Last edited: 22 Jul 2017
  14. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    กระทรวงการคลัง เตรียมพิจารณาเพิ่ม "เบี้ยยังชีพ" ให้ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยกว่า 1 แสนบาทต่อปี



    กองทุนหมู่บ้าน เพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก



    งบสวัสดิการผู้สูงอายุพุ่ง จ่ายเบี้ยยังชีพ 9 หมื่นล้านบาทต่อปี





    หมายข่าวเจาะ//สันติสุข มะโรงศรี กระตุ้น คสช ปฏิรูปชีวิตเด็กไทยก่อนวัยเรียน
     
    Last edited: 30 Jul 2017
  15. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    หลังจากรัฐบาลขับเคลื่อนมาตรการ การจ้างงานและส่งเสริมอาชีพให้กับผู้พิการ ตามยุทธศาสตร์ประชารัฐ โดยทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้ร่วมกันสนับสนุนให้โอกาสผู้พิการได้มีงานทำ ทั้งการทำงานในสถานประกอบการ และในชุมชนมาอย่างต่อเนื่องนั้น

    กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน จึงได้เปิดรับลงทะเบียนสมัครงานสำหรับผู้พิการที่ต้องการมีงานทำ โดยจะจัดหานายจ้างและประสานไปยังสถานประกอบการต่างๆ เพื่อจัดส่งผู้พิการไปทำงาน ปรากฎว่าในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีผู้พิการมาขอขึ้นทะเบียนหางานแล้วกว่า 3,200 คน ในจำนวนนี้ ได้งานแล้วถึง 1,695 คน มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนตั้งแต่ 9,000 – 16,500 บาท ขึ้นอยู่กับตำแหน่งงานและวุฒิการศึกษา

    นอกจากนี้ ยังมีผู้พิการที่ไม่พร้อมทำงานในสถานประกอบการ แต่มีนายจ้างให้โอกาสจ้างทำงานอยู่ในชุมชน หรือที่บ้านอีกกว่า 6,300 คน

    สำหรับผู้พิการทั่วประเทศที่มีกว่า 1,560,000 คน มีผู้ที่สามารถทำงานได้แต่ยังไม่มีงานทำอีกเกือบ 400,000 คน กระทรวงแรงงานจะเร่งหางานทำที่เหมาะสมให้ คาดว่าภายในปีนี้จะหางานให้กับผู้พิการได้อีก 10,000 คน ซึ่งผู้พิการกลุ่มนี้สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากถึง 1,000 ล้านบาทต่อปี



    ข่าวดีสำหรับผู้มีรายได้น้อยที่มาลงทะเบียนไว้ กระทรวงการคลังเตรียมออกมาตรการช่วยค่าครองชีพทั้ง ค่าน้ำ ค่าไฟ และก๊าซหุงต้ม คาดเริ่มได้ต้นปีหน้า

    นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีประชาชนมาลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยแล้ว 1.58 ล้านราย และรัฐบาลก็เตรียมจัดสวัสดิการช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ ที่มาลงทะเบียนตามเวลาที่กำหนด เช่น การช่วยเหลือ ค่าน้ำ-ค่าไฟ ในอัตราครึ่งหนึ่งของราคาที่ใช้จริง การใช้ก๊าซหุงต้มในราคาที่ต่ำกว่าราคาทั่วไป รวมถึงการเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากปัจจุบันที่ได้รับที่ 600 บาทต่อเดือน โดยจะเริ่มดำเนินการในช่วงต้นปีหน้า

    ทั้งนี้ คนที่ยังไม่มาลงทะเบียน หรือ ลงทะเบียนไม่ทันในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ จะไม่ได้รับสวัสดิการชุดนี้ แต่จะยังเฉพาะที่ได้อยู่ในปัจจุบันเท่านั้น ถ้าต้องการรับสิทธิ์จะต้องไปลงทะเบียน ซึ่งรัฐบาลจะเปิดให้ลงทะเบียนได้ทุกปี ในช่วงเดือนกันยายน

    ขณะที่การประชุม ครม.สัปดาห์หน้า รัฐบาลเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรากหญ้าอีกรอบ อาทิ เงินกู้ประชารัฐปล่อยกู้ไม่เกิน 200,000 บาทต่อราย ระยะเวลา 5 ปี ปลอดดอกปีแรก ปีถัดไปคิด 1 % พร้อมพักชำระหนี้ให้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี 3 ปี เป็นต้น



    คนหลังข่าว 29/07/2559 (ช่วงเช้า) ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย



     
    Last edited: 30 Jul 2017
  16. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    กอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย ครม.อนุมัติให้ธนาคารออมสินใช้งบ 2 หมื่นล้านบาท ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยในชุมชนเมือง ซึ่งมีมากถึง 9 ล้านคน

    นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติมาตรการช่วยเหลือ ผู้มีรายได้น้อยในชุมชนเมืองตามแนวทางประชารัฐ ใช้งบประมาณรวม 2 หมื่นล้านบาท เป้าหมายเป็นการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่อยู่ในชุมชนเมือง ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนถึง 9 ล้านคน โดยจะดำเนินการผ่านธนาคารออมสินใน 3 มาตรการ ประกอบด้วย

    1.มาตรการสินเชื่อประชารัฐเพื่อประชาชน ครม.มีมติให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการอิสระรายย่อย เช่น พ่อค้า แม่ค้า วินจักรยานยนต์รับจ้าง แม่บ้าน ผู้รับจ้างที่ให้บริการทั่วไป ผู้เข้าร่วมโครงการต้องมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 65 ปี สามารถมาขอกู้เงินจากธนาคารออมสินได้รายละไม่เกิน 50,000 บาท แต่เมื่อรวมกับของเดิมที่เคยกู้ไว้กับโครงการธนาคารประชาชน จะต้องไม่เกินรายละ 2 แสนบาท

    ทั้งนี้ ระยะเวลาการผ่อนชำระคืนภายใน 5 ปีไม่คิดดอกเบี้ยปีแรก ส่วนปีที่ 2-5 คิดดอกเบี้ย 1% ต่อเดือน สามารถใช้การค้ำประกันด้วยบุคคลหลักทรัพย์ หรือบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม เป็นผู้ค้ำประกัน ผู้ที่สนใจสามารถยื่นเรื่องมาที่ธนาคารออมสินได้ภายในสิ้นปีนี้

    2.มาตรการประชารัฐเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินประชาชนภายใต้นโยบายรัฐบาล โดยธนาคารออมสิน จะพักการชำระเงินต้น และชำระดอกเบี้ยได้นานสูงสุดเป็นระยะเวลา 3 ปี และขยายระยะเวลาชำระหนี้เพิ่มได้เท่ากับระยะเวลาพักชำระเงินต้น หรือขยายเวลาการชำระหนี้ได้ 2 เท่าของระยะเวลาคงเหลือตามสัญญาเงินกู้ แต่ไม่เกิน 20 ปี โดยผู้สนใจสามารถติดต่อเข้าร่วมรับความช่วยเหลือตามมาตรการนี้ได้ภายใน 31 ส.ค.นี้

    3.โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาอาชีพและสร้างความรู้ทางการเงินแก่ผู้ประกอบอาชีพรายย่อยในชุมชนเมือง กลุ่มเป้าหมายคือ ผู้ประกอบการรายย่อย ผู้ประกอบอาชีพอิสระจำนวน 150,000 ครอบครัว ครอบครัวละ 1 คน กระจายตามพื้นที่ทุกจังหวัด ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ ส.ค.-ธ.ค.2559 ใช้งบประมาณรวม 163 ล้านบาท



    รองนายกรัฐมนตรีสั่งกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย ประสานสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดบูธให้คณะรัฐมนตรีลงทะเบียนพร้อมเพย์ หวังสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทั่วไป



    รัฐบาลเดินหน้าเศรษฐกิจดิจิตอลเต็มที่ สั่งกระทรวงไอซีที ต้องวางโครงข่ายบรอดแบนด์ครบ 70,000 หมู่บ้าน ในปี 2560 หลังเลยกำหนดเริ่มงานมาแล้ว 2 เดือน



    ชาวบ้านในพื้นที่ห่างไกลเริ่มเข้าถึงไอซีทีมากขึ้นผ่านศูนย์การเรียนรู้ดิจิทัลชุมชน มีหลายชุมชนที่ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายอินเทอร์เน็ต นำสินค้าในท้องถิ่นส่งขายผ่านร้านค้าออนไลน์จนทำรายได้นับแสนบาทต่อเดือน ติดตามจากรายงานคุณกนกรัตน์ โกวิชัย

     
    Last edited: 30 Jul 2017
  17. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482






    รมว.พม.แถลงมีแผนปรับปรุงสวนลุมพินีร่วมกับ กทม. เพื่อให้คนพิการ และผู้สูงอายุ เข้าถึงใช้ประโยชน์ได้ โดยจะเริ่มปรับปรุงพื้นที่ลานตะวันยิ้มเป็นเฟสแรก ก่อนจะมีการออกแบบร่วมกับสถาบันการศึกษา วางแผนใน 3 สัปดาห์

    พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีมติเห็นชอบร่วมกันในหลักการปรับปรุงพื้นที่สวนลุมพินีกับกรุงเทพมหานคร เพื่อให้คนพิการ ผู้สูงอายุ และทุกคน เข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ ระยะแรกจะดำเนินการปรับปรุงพื้นที่บริเวณลานตะวันยิ้ม ให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ เช่น ห้องน้ำ ทางลาด ที่จอดรถ ป้ายสัญลักษณ์ บริการข้อมูล และปรับปรุงทางเดินเท้าเชื่อมโยงการเดินทางจากป้ายหยุดรถประจำทาง สถานีรถไฟฟ้า BTS และ MRT จากประตูทางเข้าหลักทั้ง 3 ด้าน เพื่อเป็นสวนสาธารณะต้นแบบ ระยะที่ 2 แต่งตั้งคณะทำงานร่วมหารือบูรณาการแผนงานการปรับปรุงพื้นที่ สวนลุมพินีร่วมกันภายใน 3 สัปดาห์ ร่วมด้วยระหว่างสถาบันการศึกษากับภาครัฐ ก่อนลงพื้นที่



    ธนาคารอาคารสงเคราะห์เตรียมปล่อยสินเชื่อเพื่อการดำรงชีวิต สำหรับผู้ที่มีอายุเกิน 50 ปี และผู้ประกอบการ ที่ต้องการทำที่อยู่อาศัยให้กับผู้สูงอายุ ในวงเงิน 7,000 ล้านบาท



    รัฐบาลตั้งเป้าหมายให้ธุรกิจ SME เกือบ 3,000,000 ราย ทั่วประเทศ เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ให้สามารถฟื้นตัวได้ ท่ามกลางปัจจัยลบรอบด้าน จึงระดมความช่วยเหลือ ทั้งด้านการเงินและการให้ความรู้ในการทำตลาด เพราะ SME ในประเทศไทย มีจำนวนมาก จะเป็นฐานให้เศรษฐกิจไทย เข้มแข็งจากภายใน

    SME เป็นเพียงธุรกิจเล็กๆ บางรายเพิ่งเริ่มกิจการยังมีความเสี่ยงสูง ธนาคารจึงไม่กล้าปล่อยสินเชื่อให้ ส่วน SME ที่มีศักยภาพหลายรายต้องล้มพับไป เพราะขาดเงินทุนต่อยอดพัฒนา ทั้งที่ธุรกิจกำลังจะไปได้สวย และเห็นว่ารัฐบาลควรใจกล้าปล่อยเงินกู้ให้ SME มากกว่านี้ ขณะที่บางรายเห็นว่ารัฐบาลมาถูกทางแล้ว ไม่ใช่คอยอุ้มอยู่ตลอดเวลา เพียงช่วยประคองให้คิดได้ก็พอ

    ธุรกิจ SME เกิดขึ้นมากมาย แม้หลายรายล้มหายไปเพราะแข่งขันไม่ไหว แต่รัฐบาลยังยืนยันว่า SME ยังไปได้ดี ไตรมาสที่ 1ที่ผ่านมา SME เติบโตถึง 5.1 % สูงกว่าการเติบโตของเศรษฐกิจเสียอีก

    รัฐบาลหวังใช้ธุรกิจ SME เป็นเสมือนมดงานช่วยขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทย เดินหน้าต่อไปได้ หากผลักดันธุรกิจเล็กๆ ให้สามารถยืนได้ แข่งขันได้ เศรษฐกิจไทยจะเติบโตจากภายใน ไม่ต้องพึ่งพิงแต่เศรษฐกิจภายนอก และ SME จะขยับขึ้นเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ได้ในที่สุด
     
    Last edited: 30 Jul 2017
    Alamos likes this.
  18. hey guys

    hey guys อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,066
    โอโฮ ไม่เข้ากระทู้นี้ผมจะไม่รู้เลยว่า ช่วงเวลาแค่2ปี รัฐบาลประยุทธผลักดันกลไกให้ทำงานได้มากได้เร็วขนาดนี้

    เห็นยังงี้แล้ว คิดอีกที คุณประยุทธจะอยู่ต่ออีกกี่ปีพอทนครับ

    พูดจริง
     
    Alamos likes this.
  19. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482




    ลงทะเบียนรายได้น้อย 5.7 ล้าน "หนี้นอกระบบ" ปัญหาใหญ่รัฐเร่งแก้ให้ถูกจุด



    โดยนายกรัฐมนตรีเปิดตัวสินค้า OTOP เพื่อจำหน่ายบนเครื่องบิน 128 รายการ พร้อมรับชมการแสดงสินค้าที่จะนำขึ้นจำหน่าย ทั้งผ้าไทย เครื่องประดับ เครื่องจักรสาน และผลิตภัณฑ์เลื่องชื่อ ผ่านแฟชั่นโชว์จากพนักงานต้อนรับบนของสายการบินไทย

    จากนั้นนายกรัฐมนตรี เป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการพัฒนาสินค้า OTOP ประชารัฐ เพื่อจำหน่ายบนเครื่องบิน หรือ OTOP ขึ้นเครื่องบินของ 8 หน่วยงาน ที่มีช่องทางจำหน่ายผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ การวางจำหน่ายบนเครื่องบินทุกเที่ยวบินของสายการบินไทย ผ่านเว็บไซต์ www.thailandmall.com และบูธศาลาไทย ร้านค้าปลอดภาษี ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

    นอกจากนี้ ยังจัดทำภาพยนตร์สั้นภาษาไทย จีน และอังกฤษ นำเสนอเรื่องราวโอทอป ฉายทุกเที่ยวบินของสายการบินไทย เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดของสินค้าโอทอปไทยให้มากขึ้น

    นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้า คสช.ออกคำสั่งตามมาตรา 44 ให้ นายจุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กระทรวงคมนาคม ออกจากราชการและไปเป็นผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เพื่อแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนโดยเร่งด่วน มีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป โดยระหว่างนี้ให้ นายจุฬารักษาการณ์แทนผู้อำนวยการคนเดิมที่ขอลาออกเนื่องจากปัญหาสุขภาพ



    นับตั้งแต่ พ.ศ.2544 กองทุนหมู่บ้านฯกลายเป็นสถาบันการเงินชุมชนไปแล้ว และจะทำอย่างไรไม่ให้กลายเป็นหนี้สูญเปล่า

     
    Last edited: 30 Jul 2017
    Alamos likes this.
  20. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    ฝึกอาชีพคนพิการ ป้อนตลาดแรงงาน ปี 60



    กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ร่วมมือกับ หน่วยงานพันธมิตรเปิดตัวเว็บไซต์ Thaitrade.com เว็บไซต์ส่งเสริมการค้าสินค้าออนไลน์ระหว่างประเทศ เพื่อสร้างช่องทางการขายให้SMEไทย โดยมีสินค้ากว่า2แสน5หมื่นรายการ

    เว็บไซต์ Thaitrade.com ดูแลโดยสำนักการตลาดพาณิชย์ดิจิตอล ประกอบด้วยพันธมิตรที่เข้าร่วม ได้แก่ ดีเอชแอลเอ็กซ์เพรสและไปรษณีย์ไทย ผู้บริการด้านขนส่ง ธนาคารกรุงเทพ ดูแลเรื่องการชำระเงินออนไลน์ ผ่านระบบ payment gateway ส่วนเรื่องข้อพิพาทในการสั่งซื้อออนไลน์ ทีเอซเอซี สถาบันอนุญาโตตุลาการ ทำหน้าที่ประณีประนอมระหว่างผู้ค้าและลูกค้า ผ่านบริการ TalkDD (ทอล์คดีดี) และระบบชำระเงินผ่านทางออนไลน์ PayPal (เพย์พาว) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการและลูกค้าทั่วโลก

    นอกจากนี้ยังได้ประสานกับ กูเกิล อีเบย์ และ อาลีบาบา เพื่อเชื่อมต่อสู่การซื้อขายสินค้าในเว็บไซต์ Thaitrade.com เพื่อสร้างกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกด้วย

    นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตั้งเป้า6เดือนแรกจะมีSMEไทยไม่น้อยกว่า5,000รายที่เข้าในระบบ คาดว่าภายใน3เดือนจะมีการสั่งซื้อสินค้าประมาณ5,000 รายการ มูลค่าการสั่งซื้อมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท และภายใน1ปี จะมูลค่าการสั่งซื้อไม่น้อยกว่า 1พันล้านบาท จาก 237 ประเทศทั่วโลก



    กรมบัญชีกลาง เตรียมจ่ายสวัสดิการรัฐผ่านระบบอีเพย์เมนท์เป็นครั้งแรก เริ่มจากเงินเลี้ยงดูบุตรแรกเกิด พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 9 ก.ย.นี้ มีผู้ได้รับสิทธิ 85,000 คน ใช้งบจำนวน 34 ล้านบาท

    นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยวว่า กรมบัญชีกลาง จะเริ่มจ่ายเงินสวัสดิการสังคมให้ประชาชนโดยตรงผ่านระบบอีเพย์เมนท์ เริ่มจากการจ่ายเงินอุดหนุน เพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิโดยตรง อัตราเดือนละ 400 บาท ในวันที่ 9 ก.ย.นี้ พร้อมกันทั่วประเทศ โดยมีผู้ได้รับสิทธินี้ทั้งสิ้น 85,000 คน ใช้งบจำนวน 34 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าว เป็นโครงการนำร่องและจะขยายผลไปยังเงินสวัสดิการอื่น เช่น เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ยยังชีพผู้พิการ เป็นต้น

    สำหรับเด็กที่จะได้รับเงินอุดหนุนต้องเกิดตั้งแต่ 1 ต.ค.2558 ได้รับไปจนถึงอายุไม่เกิน 3 ขวบ โดยต้องอยู่ในครอบครัวที่ยากจน หรือเสี่ยงต่อภาวะความยากจน บิดามารดามีสัญชาติไทย ไม่ได้รับสวัสดิการเกี่ยวกับบัตรใดๆ จากภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ จะได้รับเงินอุดหนุนในปีงบ 2559 เดือนละ 400 บาท

    ส่วนปีงบ 2560 รับเดือนละ 600 บาท โดยปีงบ 2559 ได้ในเดือนก.ย.นี้ เพียงเดือนเดียว หลังจากนั้นเริ่มปีงบ 2560 รับเดือนละ 600 บาท จะใช้งบไม่ต่ำกว่า 51 ล้านบาทต่อเดือน

    สำหรับการลงทะเบียนทำได้ที่สำนักงานเขต สำนักงานเทศบาล หรือที่ทำการอบต. ถ้าลงทะเบียนก่อนคลอด ต้องมีสำเนาบัตรประชาชนของหญิงตั้งครรภ์ หรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานราชการ สำเนาเอกสารแสดงการตั้งครรภ์ หรือสำเนาสมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก หน้า 1

    ถ้าลงทะเบียนหลังคลอด ต้องมีสำเนาสูติบัตรเด็กแรกเกิด สำเนาบัญชีธนาคารกรุงไทย ออมสิน หรือธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) หรือสำเนาบัญชีธนาคารที่ลงทะเบียนพร้อมเพย์ไว้



    นายกรัฐมนตรีได้ขอให้กองทุน กอช.และแบงก์รัฐทั้งกรุงไทย ออมสิน และธ.ก.ส. เร่งประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลประชาชนให้มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนเข้ามาใช้สิทธิสมัครกองทุน กอช. ก่อนปิดรับสมัครสมาชิกกองทุนฯ ภายใน 25 ก.ย.นี้

    ในวันที่ 25 ก.ย.นี้ จะครบ 1 ปีของการเปิดให้ผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปี สามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ได้ จากปกติจะรับสมัครเฉพาะผู้ที่มีอายุ 15 – 60 ปีเท่านั้น โดยเงื่อนไขนี้ยังรวมไปถึงผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไป ที่สมัครสมาชิกกองทุนฯ ภายใน 25 ก.ย.2559 และจะได้เป็นสมาชิกต่อไปอีก 10 ปี นับจากอายุตัวในวันสมัคร

    พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เร่งรัดให้กองทุนการออมฯ ธนาคารกรุงไทย ,ออมสิน และธ.ก.ส. ประชาสัมพันธ์ข้อมูลไปยังประชาชนให้มากที่สุด เพราะถือเป็นสิทธิที่ทุกคนควรได้รับ

    ผลประโยชน์ที่สมาชิกกองทุนฯ ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปจะได้รับ คือ เงินสมทบที่รัฐบาลจะจ่ายเข้าบัญชีให้เท่ากับจำนวนเงินที่สมาชิกออมเข้ากองทุน แต่ไม่เกินปีละ 1,200 บาท หรือเท่ากับฝาก 1,200 บาท ได้เพิ่มอีก 1,200 บาทต่อปี และยังมีผลตอบแทนที่กองทุนฯ ได้นำเงินสะสมและเงินสมทบไปลงทุนหาดอกผลให้กับสมาชิกเพิ่มเติมด้วย

    สำหรับการขอรับเงินคืนนั้นขึ้นอยู่กับความสมัครใจของสมาชิก คือ ผู้ใดที่ออมครบ 10 ปี ปีละ 13,200 บาท ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ก็จะได้รับบำนาญตลอดชีพทุกเดือน แม้ว่าเงินออมหมด แต่กองทุนก็ยังจ่ายให้อยู่

    ส่วนผู้ที่ไม่ต้องการออมถึง 10 ปี จะขอรับเงินคืนเมื่อใดก็ได้ โดยกองทุนจะทยอยจ่ายคืนให้ทุกเดือนจนกว่าเงินออมจะหมด และหากสมาชิกเสียชีวิต ทายาทก็จะได้รับเงินก้อนที่เหลืออยู่ในบัญชีทั้งหมด

    ประชาชนที่สนใจสามารถสมัครสมาชิกกองทุนฯ ได้ที่ ธนาคารกรุงไทย ออมสิน และธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ



    วันที่ 25 กันยายนที่จะถึงนี้ จะครบกำหนด 1 ปี ที่รัฐบาลให้ผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป สมัครเข้ามาเป็นสมาชิกองทุนการออมแห่งชาติแล้ว ดังนั้นรัฐบาลจึงเชิญชวนผู้สูงวัยให้รีบสมัครเป็นสมาชิกกองทุนภายใน 20 วันนับจากวันนี้ เพราะหากพ้นกำหนด จะไม่สามารถสมัครได้อีก
     
    Last edited: 30 Jul 2017
  21. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    ภาครัฐลงนามกับร่วมกับเอกชนจ้างงานผู้สูงอายุเพิ่ม รองรับการก้าวเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ คนสูงวัยมาก แต่เด็กเกิดน้อยจะกระทบกับประชากรวัยแรงงานขาดแคลน

    ข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ ประมาณการว่าในอีก 8 ปีข้างหน้าจะมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเป็น 12 ล้านคน ถือว่าประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ จำเป็นต้องมีแผนพัฒนาดูแลผู้สูงอายุทั้งทางร่างกายและจิตใจ สร้างการเรียนรู้ ให้ผู้สูงอายุได้ใช้ประสบการณ์ มีงานทำและมีรายได้ให้กับตัวเอง

    วันนี้กระทรวงแรงงาน และมูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาผู้ไทย ลงนามร่วมกับสถานประกอบการเอกชน 11 แห่ง ยืดระบบเกษียณอายุของลูกจ้างจากปัจจุบันอายุ55ปี เป็น 60 ปี เพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมผู้อายุ

    ซึ่งภายในปี 2567 จะมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ20 ของประชากรทั้งประเทศ สวนทางกับอัตราการเกิดของวัยเด็กที่น้อยลง ส่งกระทบกับประชากรวัยแรงงาน ที่มีความสำคัญต่อภาคการผลิตและพัฒนาประเทศ ซึ่งการร่วมมือกับภาคเอกชนขยายการจ้างแรงงานผู้สูงวัยเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

    นอกจากการขยายอายุการทำงาน ยังมีผู้มาลงทะเบียนผ่านศูนย์จัดหางานสำหรับผู้สูงอายุ ในตำแหน่งต่างๆ จนถึงขณะนี้กว่า 352 คน โดยผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนไว้มีอายุมากที่สุด 91 ปี



    นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการประชุม ติดตามความคืบหน้านโยบาย Nation E Payment ครั้งที่ 6 สำหรับการลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐหรือลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งจะใช้วิธีจ่ายสวัสดิการสิทธิประโยชน์ผ่านระบบอิเลกทรอนิกส์ โดยล่าสุดกำลังหารือกับกระทรวงคมนาคมเพื่อออกสวัสดิการตั๋วร่วม เชื่อมกับระบบพร้อมเพย์ เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะในราคาถูกลง ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในปีนี้ นอกจากนี้มั่นใจว่า ภายในเดือนตุลาคมนี้ จะสามารถเดินหน้าโครงการพร้อมเพย์ ได้ตามกำหนด พร้อมกำชับให้เร่งเดินหน้า ติดตั้งระบบรับชำระเงินผ่านบัตร หรือ อีดีซี ซึ่งขณะนี้มีความล่าช้ากว่าแผน



    เงินสวัสดิการค่าเลี้ยงดูบุตร จ่ายใน 2 แบบ คือจ่ายเข้าบัญชีธนาคาร และจ่ายเป็นเงินสดให้ไปรับที่ชุมชนหรือเทศบาลแต่ละพื้นที่ แต่หลังจากวันที่ 9 กันยายนนี้เป็นต้นไป เงินเหล่านี้จะส่งตรงเข้าบัญชีทั้งหมด กลุ่มคนที่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้จะคิดอย่างไร ติดตามจากรายงาน



    ครม.เห็นชอบมาตรการสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจและสังคมภายในท้องถิ่น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาคผ่านการตั้งกองทุนร่วมลงทุนระหว่างรัฐบาล กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (Matching Fund) วงเงิน 19,795 ล้านบาท รัฐบาล และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะนำเงินมาสมทบฝ่ายละครึ่งหนึ่ง โดยรัฐบาลจัดสรรงบกลางสมทบ 9,897 ล้านบาท และจัดตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการลงทุน ด้วยการให้ เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) รวม 7,851 แห่ง เสนอประเภทโครงการลงทุนมาให้คณะกรรมการพิจารณา เพื่อนำเงินมาลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในชุมชน และต้องไม่ซ้ำซ้อนกับการจัดสรรงบประมาณลงทุน ในปี 2559 และ 2560 แต่ต่อยอดกับโครงการเดิมเพื่อให้เติบโตขึ้นได้



    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ เตรียมเสนอแนวทางการแก้หนี้นอกระบบเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเป้าหมายกวาดเจ้าหนี้นอกระบบทั้งหมดเข้าสู่โครงการพิโก้ ไฟแนนซ์ ปล่อยกู้ดอกเบี้ย 36% ส่วนลูกหนี้เพิ่มทางเลือกนอกจากกู้กับพิโก้ ไฟแนนซ์ แล้ว 2 ธนาคารรัฐ ออมสิน – ธ.ก.ส.จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการปล่อยกู้คาดว่าดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 10%

    จากสถานการณ์หนี้นอกระบบที่เป็นเหมือนโรคร้ายที่เกาะกินสังคมไทยมานานโดยเฉพาะกลุ่มคนหาเช้ากินค่ำเกิดเป็นวงจรใช้หนี้ไม่รู้จบเพราะดอกเบี้ยก็โหดมากที่เดียว ขณะที่การแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาก็ไม่ประสบความสำเร็จ จนในที่สุดพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกกฎหมายพิเศษ ดำเนินคดีอาญากับเจ้าหนี้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยกับผู้กู้เกินกว่า 15% ต่อปี ขณะเดียวกันยังเปิดทางให้เจ้าหนี้นอกระบบที่ยังต้องการทำธุรกิจปล่อยเงินกู้ต่อไปต้องมาขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจในชื่อว่า พิโก้ไฟแนนซ์ (Pico Finance) จากกระทรวงการคลัง แล้วจะสามารถคิดดอกเบี้ยกับลูกหนี้ได้ไม่เกิน 36% ต่อปี

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ บอกว่าอีกประมาณ 2 สัปดาห์จะนำเรื่องนี้เสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีโดยมีเป้าหมายว่าจะต้องกวาดหนี้นอกระบบให้เข้ามาอยู่ในระบบให้หมดโดยเมื่อเรื่องดังกล่าวบังคับใช้เป็นกฎหมายแล้ว จะเรียกเจ้าหน้าที่นอกระบบทั้งหมดเข้ามาเจรจาจดทะเบียนเป็นพิโกไฟแนนซ์

    ในส่วนของลูกหนี้ กระทรวงการคลังจะให้ธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดตั้งหน่วยทำงานลักษณะ Business Unit ขึ้นมาทำหน้าที่ปล่อยสินเชื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ และออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินเช่นเดียวกับพิโก้ไฟแนนซ์ สำหรับลูกหนี้ที่ไม่อยากกู้กับเจ้าหนี้ในระบบ พิโก้ไฟแนนซ์ โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ประมาณ 10%

    อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นระบบพิโก้ไฟแนนซ์ หรือ ผ่าน ธนาคารออมสิน-ธ.ก.ส.ที่สำคัญ คือ การควบคุมการกู้หนี้จะต้องเพื่อความจำเป็นเท่านั้นไม่ใช่กู้เพื่อไปใช้หนี้อีกแหล่งหนึ่งโดยคาดว่าจำนวนของลูกหนี้นอกระบบขณะนี้มีอยู่ราว 1 ล้านคน
     
    Last edited: 30 Jul 2017
  22. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482




    มูลค่ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพปัจจุบันนี้จะมีมูลค่าเหยียบเกือบล้านล้านบาท แต่ลูกจ้างที่เป็นสมาชิกกลับมีไม่ถึง 20% เป็นเพราะอะไร และการผลักดันให้เกิด พ.ร.บ. กบช. เกิดประโยชน์อย่างไร ติดตามจากรายงาน



    กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ ให้ที่ประชุม ครม.พิจารณา ว่าจะบังคับผู้ประกอบการทุกรายที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป ต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพแบบขั้นบันได

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กล่าวว่า ร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ เป็นกฎหมายที่ช่วยให้พนักงานมีเงินออมหลังเกษียณอายุ โดยจะให้นายจ้างและลูกจ้างจ่ายเงินเข้ากองทุนฝ่ายละ 3% ในช่วง 3 ปีแรก และจะเพิ่มเป็นฝ่ายละ 5% และ 7% ในช่วงเวลาต่อไป และเชื่อว่าจะไม่กระทบกับฐานะของผู้ประกอบการมากนัก เพราะในเบื้องต้นจะบังคับเฉพาะรายใหญ่ที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 100 คนขึ้นไปก่อน

    โดยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ใช้ในปัจจุบัน กำหนดวงเงินสะสมไว้ตั้งแต่ 2-15 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน และนายจ้างจะต้องจ่ายสมทบในอัตราที่เท่ากัน แต่อาจมีเงื่อนไขในเรื่องอายุงาน หากอายุงาน 1-5 ปี กำหนดจ่ายสมทบเพียง 50% จากเงินสะสม และหากมีอายุงาน 5 ปีขึ้นไป ต้องอาจสมทบให้เต็ม 100% เช่น เงินสะสมของลูกจ้างทำงานมา 5 ปี รวมเงินสะสมอยู่ที่ 10,000 บาท ได้ผลตอบแทนอยู่ที่ 1,000 บาท

    ส่วนเงินสมทบจากนายจ้างจะอยู่ที่ 10,000 บาท และได้ผลตอบแทนอยู่ที่ 1,000 บาท เช่นกัน รวมสุทธิแล้วลูกจ้างรายนี้จะมีเงินสมทบถึง 22,000 บาท เพิ่มขึ้นกว่าเงินของตัวเองที่สะสมในตอนแรกถึง 120% และเมื่อรวมเงินก้อนที่สะสมไปเรื่อย ๆ ทุกปี เมื่อลูกจ้างรายนี้จะออกจากงาน หรือเกษียณอายุ จะมีเงินก้อนโต

    สำหรับมูลค่ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพในปัจจุบันทั้งระบบ พบว่า มูลค่าล่าสุด ณ ไตรมาสที่ 2 ของปี 2559 อยู่ที่ 937,409 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากสิ้นปี 2558 ที่มีมูลค่าที่ 883,493 ล้านบาท โดยมีกองทุนรวมทั้งหมด 407 กองทุน โดยสัดส่วนการลงทุนของกองทุนฯ แบ่งเป็นเงินฝาก 19.99 % พันธบัตร, ตราสารหนี้ 25.31% หุ้นกู้ 29.48 หุ้นสามัญ 15.24 % อื่น ๆ 9.98 %



    พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่าประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลัง เสนอมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ด้วยการสนับสนุนเงินให้ผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนไว้ก่อนหน้านี้รวม 8 ล้านคนจะมีประชาชน ได้รับการช่วยเหลือ 5ล้านคน เนื่องจากกลุ่มเกษตรกรที่ลงทะเบียนไว้ 3ล้านคนได้รับการช่วยเหลือไปแล้วก่อนหน้านี้

    พร้อมเชื่อว่าเมื่อมีเงินลงไปก็จะมีการใช้เงินกันมากขึ้น จะเกิดกระบวนการตั้งแต่ผู้บริโภคถึงผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่ายก็จะเกิดการใช้จ่ายเงินในระบบมากขึ้น ในส่วนของมาตรการวันขึ้นปีใหม่นั้น จะกำหนดในหลาย ๆ มาตรการขอให้รอฟังอีกครั้ง

    นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบปรับขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำ ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1มกราคม 2560 ครอบคลุมทุกภูมิภาค ประกอบด้วย ปรับขึ้น 5 บาทต่อวัน จำนวน 49 จังหวัด อาทิ กาญจนบุรี กำแพงเพชร จันทบุรี พิจิตร และพิษณุโลก ปรับขึ้น8 บาทต่อวัน จำนวน 18 จังหวัด อาทิ กระบี่ ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา ชลบุรีและเชียงใหม่
    ปรับขึ้น 10 บาทต่อวัน ใน 7 จังหวัด อาทิ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี และภูเก็ต และให้คงอัตราค่าจ้างขั้นต่ำไว้ที่ 300 บาทต่อวันใน 8 จังหวัด ประกอบด้วย ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี ยะลา ระนอง และสิงห์บุรี



    ที่ประชุม ครม.เห็นชอบ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ไม่เกิน 3 หมื่นบาทต่อปี ให้เงินช่วยเหลือ 3,000 บาท จำนวนกว่า 5.4 ล้านคน

    ซึ่งเงื่อนไขผู้มีรายได้น้อยที่มีสิทธิรับเงินช่วยเหลือ จะเป็นไปตามที่ลงทะเบียบผู้มีรายได้น้อย อาชีพอื่น ๆ ไว้นอกเหนือจากกลุ่มเกษตรกรที่รัฐบาลให้ความช่วยเหลือไปแล้ว โดยผู้ที่มีรายได้น้อยไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินช่วยเหลือ 3,000 บาท จำนวน 3.1 ล้านคน และผู้มีรายได้ตั้งแต่ 30,001 บาท ขึ้นไป ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จะได้รับเงินช่วยเหลือ 1,500 จำนวน 2.3 ล้านคน ใช้งบประมาณทั้งหมด 12,759 ล้านบาท เริ่มจ่ายตั้งแต่ 1-10 ธ.ค.2559 ผ่านบัญชีธนาคาร ธกส., ธนาคารออมสิน, ธนาคารกรุงไทย ส่วนมาตรการยกเว้นภาษีเพื่อสนับสนุนการซื้อสินค้า อยู่ระหว่างเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณา
     
    Last edited: 30 Jul 2017
  23. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอ ครม.อนุมัติ งบช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนเพื่อขอรับสวัสดิการรัฐกว่า 8 ล้านคน โดยจะเป็นแจกเงินเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่



    เวิล์ดแบงค์ เห็นด้วยรัฐบาลปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตามอัตราเงินเฟ้อ พร้อมแนะควรปรับขึ้นค่าแรงทุกปี เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถคำนวนต้นทุน และปรับตัวได้

    นายดิลกะ ลัทธพิพัฒน์ นักเศรษฐศาสตร์ด้านทรัพยากรมนุษย์ ประจำธนาคารโลก สำนักงานประเทศไทย กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในขณะนี้ถือว่าเหมาะสม เพราะเป็นการปรับขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ และสอดคล้องกับศักยภาพแรงงานของแต่ละพื้นที่ และเห็นว่าในอนาคควรมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในรูปแบบนี้ทุกปี เพื่อให้ผู้ประกอบการและผู้ใช้แรงงานปรับตัวได้ และที่สำคัญไม่ควรนำเรื่องค่าแรงขั้นต่ำมาเป็นนโยบายในการหาเสียงของพรรคการเมือง เพราะจากการวิจัยในนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่ผ่านมา แม้จะสามารถลดความเหลื่อมล้ำได้จริง แต่ผลกระทบทางลบค่อนข้างรุนแรง เพราะต้นทุนภาคเอกชนปรับเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 60 ทำให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กหลายรายต้องปิดกิจการ และผู้ประกอบการขนาดกลาง และใหญ่มีการย้ายฐานการผลิตไปต่างประเทศ



    กระทรวงการคลังจะประกาศเลื่อนวันจ่ายเงินเป็นวันที่ 3 ธ.ค.นี้นั้น อาจมีผลต่อประชาชนที่รอรับเงินส่วนนี้ ซึ่งคนกลุ่มนี้จะนำเงินไปทำอะไร ติดตามจากรายงาน



    ครม.อนุมัติหลักการสินเชื่อเพื่อวัยเกษียณแล้ววันนี้ โดยธนาคารออมสินประกาศพร้อมให้บริการเป็นธนาคารแรกช่วงต้นปี 2561 เบื้องต้นกำหนดวงเงินสูงสุดไม่เกิน 70% ของมูลค่าสินทรัพย์ค้ำประกัน



    ธนาคารกรุงไทย เริ่มจ่ายเงิน 1,500 และ 3,000 บาท ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยวันนี้เป็นวันแรก ส่วน ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. เตรียมโอนผ่านบัญชีของผู้ลงทะเบียนวันพรุ่งนี้
     
    Last edited: 30 Jul 2017
  24. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482




    รัฐบาลเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก สร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี พร้อมให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาปากท้อง หวังลดค่าครองชีพของประชาชน เพื่อขับเคลื่อนประเทศสู่ไทยแลนด์ 4.0





    นายกรัฐมนตรีเร่งเครื่องแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ เตรียมมอบนโยบายวันที่ 1 มี.ค.นี้ ขณะที่ ครม.นำร่องปล่อยกู้ฉุกเฉินรายละ 5 หมื่นบาท ด้าน "ดีเอสไอ" จับมือ "ตำรวจ" จัดการมาเฟียปล่อยกู้ดอกโหด

    ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (21 ก.พ.) มีมติเห็นชอบโครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท

    โดย ครม.มอบหมายให้ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดำเนินการปล่อยสินเชื่อฉุกเฉิน ให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกร รายละไม่เกิน 5 หมื่นบาท ระยะเวลาผ่อนชำระหนี้ไม่เกิน 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 10% ต่อปี ทั้งนี้ ผู้กู้สามารถยื่นขอกู้ได้ตั้งแต่วันนี้ (22 ก.พ.) ไปจนถึงวันที่ 21 ก.พ.2561 โดยผู้กู้ต้องมีบุคคลค้ำประกันอย่างน้อย 1 คน หรือมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน

    สำหรับหลักเกณฑ์การพิจารณาปล่อยสินเชื่อในโครงการนี้ ทางธนาคารจะพิจารณาสามารถในการชำระหนี้จากรายได้ และค่าใช้จ่ายรวมของบุคคลในครอบครัวเป็นหลัก คาดว่าจะมีประชาชนผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกรกู้เงินได้ 2 แสนคน

    นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า วันที่ 1 มี.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานมอบนโยบาย "การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน" ให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะที่กระทรวงการคลังจะเปิดตัวมาตรการทางการคลังเพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบในวันดังกล่าวด้วย

    ขณะที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังการหารือกับ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และ พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 4 ว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะร่วมมือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปราบปรามผู้มีอิทธิพล หรือมาเฟียที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบและคิดดอกเบี้ยสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด อย่างจริงจัง

    ข้อมูลจากโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2559 พบว่า มีประชาชนที่มาลงทะเบียน 8.32 ล้านคน และผู้ลงทะเบียนมีทั้ง "หนี้ในระบบ" และ "หนี้นอกระบบ"

    หากพิจารณาเฉพาะข้อมูลการหนี้เงินนอกระบบ พบว่า ผู้ลงทะเบียนที่เป็นหนี้นอกระบบไม่เกิน 30,000 บาท มีจำนวน 6.35 ล้านคน ผู้ที่เป็นหนี้นอกระบบตั้งแต่ 30,001-100,000 บาท มีจำนวน 1.06 ล้านคน ผู้ที่เป็นหนี้นอกระบบตั้งแต่ 100,001-500,000 บาท มีจำนวน 8.07 แสนคน ผู้ที่เป็นหนี้นอกระบบ 500,001-1,000,000 บาท มีจำนวน 8.12 หมื่นราย

    ผู้ที่เป็นหนี้นอกระบบ 1,000,001-3,000,000 บาท มีจำนวน 1.34 หมื่นราย และผู้ที่เป็นหนี้นอกระบบมากกว่า 3,000,000 บาทขึ้นไปมีประมาณ 1,000 ราย

    ขณะที่กระทรวงการคลัง เตรียมเปิดโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 ตั้งแต่วันที่ 3-30 เม.ย.นี้ โดยนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ระบุว่า ทั้งผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย และผู้ที่เคยลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยไปเมื่อปีที่แล้ว 8.32 ล้านคน จะต้องมาลงทะเบียนใหม่ทั้งหมด



    โฆษกรัฐบาลปฏิเสธแนวคิดล้มเลิกโครงการบัตรทอง ชี้รัฐจัดสรรงบรายหัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ย้ำประชาชนได้รับสิทธิคงเดิมและเพิ่มขึ้น 3 รายการ แนะตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อนหลงเชื่อ

    พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่างบประมาณรายหัวหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง ได้รับการจัดสรรไม่เพียงพอ เพราะเป็นภาระด้านงบประมาณ และรัฐบาลพยายามจะล้มเลิกโครงการบัตรทอง ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้ร่วมมือกันอย่างดีในการดูแลประชาชนและได้ปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ดีขึ้นด้วย

    ปีงบประมาณ 2561 กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้รับการจัดสรรงบประมาณเป็นจำนวนเงิน 128,533 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3,197.32 ต่อประชากร 1 คน เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2560 จำนวน 87.75 บาทต่อคน และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดช่วง 2-3 ปีนี้ โดยพี่น้องประชาชนยังคงได้รับสิทธิเช่นเดิม และมีส่วนที่จะได้รับเพิ่มขึ้น คือค่าบริการวัคซีนมะเร็งปากมดลูก ค่าบริการคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ และค่าบริการเจ็บป่วยฉุกเฉิน

    พลโทสรรเสริญ กล่าวต่อว่า รัฐบาลอยากให้พี่น้องประชาชนตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องถ้วนถี่ เมื่อได้รับข่าวสารจากแหล่งต่างๆ โดยเฉพาะโซเชียลมีเดีย เพราะมีหลายครั้งที่ข้อมูลถูกบิดเบือนเพื่อทำให้สังคมหลงเชื่อ เช่น มีการแชร์ข่าวต่อกันว่า ประชาชนถูกหลอกให้สนใจข่าวตามจับธัมมชโย แต่รัฐบาลได้ตัดงบโครงการบัตรทองไปเรียบร้อยแล้ว เป็นต้น

    ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติยืนยันว่า จะร่วมกันบริหารงบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อไม่ให้กระทบกับคุณภาพการให้บริการประชาชน
     
    Last edited: 30 Jul 2017
  25. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482




    ก.คลังเตรียมเสนอ ครม.นำภาษีบาปปีละ 2,000 ล้านบาท ตั้งกองทุนดูแลผู้สูงอายุให้มีสวัสดิการดีขึ้น

    นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. เปิดเผยว่า จะเสนอมาตรการดูแลผู้สูงอายุในที่ประชุม ครม. ด้วยการเพิ่มเงินให้กับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย โดยจะดึงเงินจากภาษีบาปที่จัดสรรให้กับ สสส. และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งเดิมแต่กองทุนจะได้รับเงินสนับสนุนปีละ 3,000-4,000 ล้านบาท โดยเกณฑ์ใหม่ ทั้ง 2 องค์กร จะได้เงินสนับสนุนไม่เกินปีละ 2,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินส่วนต่าง ประมาณ 2,000 ล้านบาท มาตั้งเป็นกองทุนดูแลผู้สูงอายุ และอีกส่วนจะมาจากเงินผู้สูงอายุที่ร่ำรวย และยอมสละสิทธิ์ ไม่ขอรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล เดือนละ 600 บาท ซึ่งมีอยู่ประมาณ 4.5 ล้านราย ซึ่งก็จะทำให้วงเงินของกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ แต่ละปีมีวงเงินรวมกว่า 34,000 ล้านบาท ช่วยให้รัฐบาลมีเงินนำไปเพิ่มให้กับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยเพิ่มขึ้นจากเดิม



    รัฐบาลได้ส่งเสริมให้จังหวัดขอนแก่นเดินหน้าโครงการเมืองอัจฉริยะ หรือ สมาร์ท ซิตี้ ด้วยเห็นศักยภาพเมืองขอนแก่นที่เป็นศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและเชื่อมต่ออนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ติดตามได้จากรายงาน



    บัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือบัตรทอง รัฐบาลยืนยันว่า งบประมาณปี 2561 จะเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้อีก 3 รายการ และย้ำว่าโครงการนี้ถือเป็นรัฐสวัสดิการที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มุ่งเดินหน้าพัฒนา เพื่อให้การดูแลสุขภาพคนไทย และให้เข้าถึงได้ง่าย ติดตามจากรายงาน

     
    Last edited: 30 Jul 2017
  26. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    ในโอกาสครบรอบ 1 ปี คณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เรียกประชุมคณะทำงาน เพื่อแถลงผลงานและทิศทางการขับเคลื่อนแผนงาน ในปี 2560

    โดยระบุว่า ได้จัดตั้งบริษัทประชารัฐรักสามัคคีจังหวัด หรือวิสาหกิจเพื่อสังคม ครบทั้ง 76 จังหวัดแล้ว ถือเป็นนวัตกรรมที่เป็นรูปแบบใหม่ของโลก เพื่อเข้าช่วยเหลือชุมชนเป้าหมายกว่า 1,200 กลุ่มทั่วประเทศ เป็นการยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนจากไทยแลนด์ 1.0 เป็น 4.0 ที่ใช้นวัตกรรม ทำให้ผลิตภัณฑ์ชุมชน มีคุณค่าและมูลค่าสูงขึ้น

    ซึ่งจากนี้ไปจะเร่งเดินหน้าสานพลังประชารัฐ สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน เพื่อให้ทุกชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศไปสู่ไทยแลนด์ 4.0

    สำหรับบริษัทวิสาหกิจเพื่อสังคม จะทำหน้าที่เป็นส่วนกลาง บริหารเชิงนวัตกรรม จากล่างขึ้นบน เพื่อเชื่อมโยงในระดับประเทศ โดยเฟ้นหาอัตลักษณ์ เพื่อเปลี่ยนแปลงตำแหน่งทางการตลาด แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ เกษตร แปรรูป และท่องเที่ยวชุมชน

    วิธีการนี้จะทำให้สินค้าที่ผลิตมีเอกลักษณ์และมีความคิดสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็น ผ้าขาวม้าท้องถิ่น ผ้าบาติก เครื่องสีข้าวครัวเรือน ไปจนถึงกลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชน



    โครงการสินเชื่อรายย่อยใช้จ่ายฉุกเฉินผ่านธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ หรือ ธ.ก.ส. ถือเป็นโครงการที่มีความเข้มงวดมากที่สุดเมื่อเทียบกับโครงการอื่น

    โครงการนี้เป็นการให้สินเชื่อเอนกประสงค์ภายใต้วงเงินไม่เกิน 5 หมื่น คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.5-0.85 ต่อเดือนหรือร้อยละ 10 ต่อปี มีระยะเวลาผ่อนสูงสุดไม่เกิน 5 ปี แต่มีเงื่อนไขว่าห้ามนำไปรีไฟแนนซ์หนี้ในระบบเดิม การยื่นขอกู้ต้องมีหลักทรัพย์ หรือ คนค้ำประกันอย่างน้อย 1 คน นอกจากนี้ต้องแสดงแหล่งที่มารายได้อย่างชัดเจน สามารถกู้ได้ทั่วประเทศที่มีสาขาธนาคารเปิดให้บริการ

    ส่วนโครงการพิโกไฟแนนซ์ หรือ การให้สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด เป็นการให้สินเชื่อเอนกประสงค์ในวงเงินไม่เกิน 5 หมื่นบาทเช่นเดียวกัน โดยไม่มีเงื่อนไขควบคุมการใช้เงิน แต่มีอัตราดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 36 ต่อปี ไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือคนค้ำประกัน ระยะเวลาผ่อนขึ้นอยู่กับผู้ให้กู้พิจารณา แต่จะกู้ได้ภายในจังหวัดที่ผู้กู้อาศัยหรือทำงานอยู่เท่านั้น ไม่สามารถกู้ข้ามจังหวัดได้

    สำหรับโครงการนาโนไฟแนนซ์ เป็นสินเชื่อเพื่อการประกอบอาชีพเท่านั้น ไม่สามารถนำเงินไปทำอย่างอื่นได้ โดยมีวงเงินให้กู้ถึง 1 แสนบาท อัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 36ต่อปี ผ่อนชำระสูงสุดได้ไม่เกิน 5 ปี ไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์หรือคนค้ำประกัน แต่การยื่นกู้จะต้องแสดงธุรกิจหรืออาชีพที่นำเงินไปลงทุน รวมถึงที่มาของรายได้อย่างชัดเจน การกู้ในโครงการนี้ไม่จำกัดพื้นที่ สามารถกู้ได้ทั่วประเทศ ขึ้นอยู่กับที่ตั้งสำนักงานว่ามีเปิดบริการในพื้นที่หรือไม่เท่านั้น



    ปัญหาหนี้นอกระบบ เป็นอีกปัญหาที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และพยายามดึงเข้ามาอยู่ในระบบ ทั้งลูกหนี้ และเจ้าหนี้ รวมทั้งป้องกันไม่ให้ลูกหนี้กลับไปเป็นหนี้นอกระบบอีก ติดตามจากรายคุณสิรีภัคกมณ ตรัยตรึงตรีคูณ



    นายกรัฐมนตรีเดินทางเป็นประธานเปิดโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน ที่อิมแพคเมืองทองธานี ติดตามรายละเอียดจากฐานิตา บุญหล้า

    นายกฯเปิดโครงการแก้หนี้นอกระบบนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ อย่างบูรณาการและยั่งยืน โดยประกาศให้เป็นวาระสำคัญของชาติ และขอเจ้าหนี้นอกระบบเร่งลงทะเบียนให้ถูกต้องตามกฏหมายก่อนที่รัฐบาลจะกวาดล้างอย่างจริงจัง

    ในงานเปิดโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้รับเกียรติจากนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยรองนายกรัฐมนตรี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีคลัง อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ และภาคีเครือข่ายเข้าร่วมงานกว่า 1500 คน

    ซึ่งพลเอกประยุทธ์ ได้ขึ้นกล่าวปาฐกฐาในหัวข้อเรื่อง"รวมพลังภาครัฐ ขจัดหนี้นอกระบบให้เป็นศูนย์" โดยปัญหาหนี้นอกระบบถือเป็นปัญหาสังคมที่มีมายาวนาน จากสาเหตุของรายได้ที่ไม่เพียงพอทำให้ต้องกู้หนี้ยืมสิน ส่งผลต่อเนื่องให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม และเป็นสาเหตุของการก่อความรุนแรงในครอบครัว จึงต้องยกให้เป็นวาระแห่งชาติ ที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการแก้ไขหนี้นอกระบบต้องแก้ไขอย่างครบวงจร โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่างบูรณาการ ดังนั้นงานในวันนี้จึงเป็นโอกาสในการขจัดปัญหาหนี้นอกระบบให้หมดสิ้นไป

    สำหรับเจ้าหนี้นอกระบบที่ยังไม่มาลงทะเบียน นายกรัฐมนตรี ก็ขอให้เร่งมาลงทะเบียนเข้าในระบบให้ถูกกฏหมาย ก่อนที่รัฐบาลจะกวาดล้างอย่างจริงจัง โดยมีโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 200,000 บาท

    พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังร่วมเป็นสักขีพยานในการมอบใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ หรือสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ให้กับผู้ผ่านการพิจารณาทั้ง 6 รายในรอบแรก และการมอบสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบ โดย ธ.ก.ส. และธนาคารออมสิน

    ซึ่งผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ลักษณ์ วจนานวัช บอกว่า ธนาคารมีความพร้อมดำเนินโครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินตามที่รัฐบาลมอบหมายให้แก่เกษตรกรและครอบครัวที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินฉุกเฉิน สำหรับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจะสามารถกู้ได้รายละไม่เกิน 5หมื่นบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ตามประเภทหลักประกัน เช่น ใช้บุคคลค้ำประกันคิดดอกเบี้ย 0.85% ต่อเดือน สามารถผ่อนชำระได้ทั้งรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน รายไตรมาส และรายปี ตามความสามารถในการชำระหนี้ ซึ่งมีกรอบระยะเวลาในการชำระคืนภายใน 5 ปี คาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ 100,000 ราย

    ขณะที่ในส่วนของธนาคารออมสิน จะให้สินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินในเงื่อนไขเดียวกันคือ ปล่อยกู้รายละ 50,000 บาท ดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0.85 ต่อเดือน

     
    Last edited: 4 Mar 2017
  27. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    ที่ประชุม ครม. เมื่อวานนี้ มีมติ เห็นชอบมาตรการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพื่อดึงผู้มีความสามารถสูงระดับโลก มาทำงานในอุตสาหกรรมเป้าหมาย EEC ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก พร้อมเปิดลงทะเบียนคนจนรอบใหม่ 3 เมษายน -15 พฤษภาคมนี้



    กรุงเทพฯ 1 มี.ค.-“พิโก ไฟแนนซ์” เป็นโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของรัฐบาล เพื่อเปิดให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุน ไม่ต้องกู้ยืมจากเจ้าหนี้โหด

    สำหรับสินเชื่อพิโก ไฟแนนซ์ (Pico Finance) เป็นโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืนของรัฐบาล ผ่านการเห็นชอบในหลักการของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยรัฐบาลเปิดให้มีการขออนุญาตเป็นผู้ประกอบธุรกิจสถาบันการเงินขนาดเล็กหรือสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด หวังเพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินเชื่อและแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งกำหนดทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ปล่อยกู้ให้บุคคลธรรมดาทั้งที่มีและไม่มีหลักประกัน วงเงินไม่เกิน 50,000 บาท/ราย อัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 36 ต่อปี โดยจะต้องปล่อยกู้เฉพาะจังหวัดที่ผู้ประกอบการ Pico Finance จัดตั้งเท่านั้น เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลลูกหนี้ได้อย่างแท้จริง และลดความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ โดยจะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง ซึ่งปัจจุบันมีลูกหนี้นอกระบบทั่วประเทศประมาณ 1 ล้านคน มูลหนี้ประมาณ 123,000 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายจะช่วยเหลือลูกหนี้ตามมาตรการได้ร้อยละ 20 ต่อปี หรือ 240,000 รายต่อปี มูลหนี้ประมาณ 25,000 ล้านบาทต่อปี.-สำนักข่าวไทย





    หลังจากเมื่อวานนายกฯ ได้สั่งการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบให้เป็นศูนย์ภายใน 2 ปี ล่าสุด กระทรวงการคลังสั่งกำชับกรมสรรพากรตรวจสอบข้อมูลการชำระภาษีของเจ้าหนี้นอกระบบรายใหญ่

    สั่งสอบเสียภาษีเจ้าหนี้นอกระบบรายใหญ่ปลัดกระทรวงการคลัง คุณสมชัย สัจจพงษ์ บอกว่า ได้สั่งการให้กรมสรรพากรตรวจสอบข้อมูลการชำระภาษีของเจ้าหนี้นอกระบบรายใหญ่ที่มีอยู่กว่า 100 รายทั่วประเทศ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เพราะจะสามารถทราบถึงที่มาของรายได้ในการปล่อยกู้ โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยที่ปล่อย หากคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด เจ้าหนี้เหล่านี้จะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย

    ขณะเดียวกัน รัฐบาลแต่งตั้งคณะกรรมการ 2 ชุด เพื่อดูแลเรื่องหนี้นอกระบบ โดยชุดแรกเป็นชุดที่ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยหนี้ระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้ ส่วนชุดที่สอง ทำหน้าที่ในการพัฒนาศักยภาพรายได้ของลูกหนี้ เพื่อให้ลูกหนี้มีรายได้กลับไปชำระหนี้ หนี้นอกระบบที่มีมากสุดจะอยู่ในภาคอีสานกว่า 50% รองลงมา คือ ภาคเหนือ และ ภาคใต้

    การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบให้เป็นศูนย์ คือไม่ให้มีหนี้นอกระบบที่เก็บดอกเบี้ยไม่เป็นธรรม ต้องกวาดล้างให้หมด ส่วนเจ้าหนี้ ทั้งทหาร ตำรวจ หากไปเป็นเจ้าหนี้นอกระบบหรือรับจ้างทวงหนี้นอกระบบเสียเองก็ให้แจ้งมา จะดำเนินการจับและปลดออกจากราชการทันที ซึ่งรัฐบาลจะเปิดรับเรื่องราวร้องเรียนเรื่องหนี้นอกระบบใครมีข้อมูลก็ให้แจ้งมาที่ศูนย์ทำเนียบรัฐบาลจะจัดการขั้นเด็ดขาด



    รัฐบาลเตรียมเปิดให้คนที่มีรายได้น้อยลงทะเบียนเพื่อเเสดงตัวตนในวันที่ 3 เม.ย.-15 พ.ค. 2560 เเต่ครั้งนี้จะมีรายละเอียดมากขึ้น ซึ่งกระทรวงการคลังเชื่อว่าคนที่มาลงทะเบียนจะมีมากกว่าครั้งที่เเล้ว
     
  28. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    กรุงเทพมหานครได้เปิดใช้ลิฟต์ขนส่งบนรถไฟฟ้า บีทีเอส วันนี้เป็นวันแรก หลังเกิดปัญหาด้านการก่อสร้างมานานตั้งแต่เปิดใช้งานเมื่อปี 2542 ทำให้ผู้พิการที่ใช้รถเข็นไม่สามารถใช้บริการได้ และเกิดการฟ้องร้องกันเกิดขึ้นเรื่อยมาโดยหลังจากนี้จะเร่งดำเนินการติดตั้งลิฟต์ขนส่งให้ครบทุกสถานี ก่อนทยอยเปิดให้ใช้บริการได้ครบทุกสถานีภายในสิ้นปีนี้

    พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยผู้ประสานงาน "ภาคีเครือข่ายขนส่งมวลชนทุกคนต้องขึ้นได้" ได้ร่วมทดลองใช้ลิฟท์ผู้พิการบนรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่เปิดให้บริการวันนี้เป็นวันแรก เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับ คนชรา ผู้พิการ และผู้มีความจำเป็นต้องใช้ได้อย่างเท่าเทียม หลังเกิดการทักท้วงจากกลุ่มผู้พิการมานานกว่า 10 ปี โดยทางกรุงเทพมหานครได้ชี้แจงถึงสาเหตุความล่าช้า ว่าเนื่องมาจากปัญหาการขอใช้พื้นที่บริเวณหน้าอาคารบ้านเรือนของประชาชนในการติดตั้งลิฟต์ และ ติดปัญหาด้านระบบสาธารณูปโภคใต้ดิน ทำให้ไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ในการก่อสร้างได้

    ขณะนี้กรุงเทพมหานครได้ติดตั้งลิฟต์คนพิการเพิ่มเติมแล้วรวม 11 ตัว ใน 4 สถานี คือ ที่สถานีราชดำริ, พร้อมพงษ์, ทองหล่อ และอ่อนนุช ขณะที่ลิฟต์ที่มีอยู่แล้วที่สถานีหมอชิต สยาม ช่องนนทรี อโศก และอ่อนนุชก็จะเปิดให้บริการตามปกติ รวมทั้งส่วนที่เหลือยังคงอยู่ในระหว่างดำเนินการก่อสร้าง โดยคาดว่าจะเสร็จสิ้นครบทั้ง 23 สถานี รวมแล้ว 56 ตัว ภายในสิ้นปีนี้ แต่สำหรับสถานีสะพานตากสินยังคงต้องรอการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางคู่ให้เสร็จสิ้นก่อนจึงจะสามารถทำได้



    กรุงเทพฯ 3 มี.ค.-พ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอย ตอนนี้ก็จะมีทางเลือกมากขึ้นในการหาเงินทุนหมุนเวียนหรือเงินเพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน โดยที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งถึงเงินกู้นอกระบบ ดอกเบี้ยโหดหรือง้อเงินกู้แบงก์ ที่ต้องใช้หลักประกัน เพราะรัฐบาลได้คิกออฟ พิโกไฟแนนซ์ สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ ให้กับผู้ประกอบการ 6 ราย และกำลังขยายไปทั่วประเทศในปีนี้ วันนี้เราจะลองสอบถามจากพ่อค้าแม่ค้าว่ารู้จักพิโกไฟแนนซ์หรือไม่ ติดตามจากรายงาน .-สำนักข่าวไทย



    นาโนฯ และ พิโกไฟแนนซ์ สถาบันการท้องถิ่น ให้กู้ไม่เกินแสนบาท รัฐบาลหวังเป็นช่องทาง เข้าถึงแหล่งทุนใช้ประกอบอาชีพและกรณีฉุกเฉินของประชาชนรายย่อย เชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาการเอาเปรียบจากนายทุนนอกระบบได้ ดีขึ้นจากในอดีตที่ไม่เคยมีมาก่อน ติดตามได้จากรายงาน



    เจาะสาเหตุคนไทยติดกับดักหนี้นอกระบบ

     
    Last edited: 10 Mar 2017
  29. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    การบริหารประเทศภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของรัฐบาล ด้านหนึ่งก็คือ การสร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ด้วยการแก้ปัญหาหนี้สินให้กับประชาชน เพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จึงเป็นที่มาของโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน ซึ่งได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ จะได้เห็นการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น



    รัฐบาลประกาศเอาจริงเอาจังกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ โดยในมิติของเจ้าหนี้ มีการออกกฏหมายกำกับดูแล และเปิดโอกาสให้จดทะเบียนเป็นพิโกไฟแนนซ์ เพื่อให้สามารถปล่อยกู้ได้ถูกต้องตามกฏหมาย จัดเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่เป็นธรรม เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างยั่งยืน ติดตามรายละเอียดจากคุณจินตนา ทิพยรัตน์กุล



    กระทรวงการคลัง เปิดให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มการลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐได้แล้ว ผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงการคลัง เพื่อนำมากรอกข้อมูลไว้ล่วงหน้าก่อนวันเปิดลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย ในวันที่ 3 เมษายน - 15 พฤษภาคมนี้ โดยผู้ที่ลงทะเบียนไว้ในรอบแรก ถือเป็นโมฆะ รวมทั้งผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทั้งที่ได้รับหรือยังไม่ได้รับเบี้ยยังชีพ จะต้องมาลงทะเบียนใหม่ทั้งหมด

    สำหรับแบบฟอร์มการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยรอบใหม่นี้ มีทั้งหมด 4 หน้า แตกต่างจากครั้งแรกที่มีเพียง 1 หน้า โดยข้อมูลที่ต้องกรอกรายละเอียดเพิ่มขึ้น ได้แก่ สถานที่ที่จะไปลงทะเบียน ซึ่งมีเพิ่มอีก 2 จุด คือที่สำนักงานเขตต่างๆ และที่คลังจังหวัด ซึ่งตั้งอยู่ในศาลากลางของแต่ละจังหวัด

    รวมทั้งต้องระบุสภาพร่างกายว่าปกติ หรือพิการ, ที่อยู่ปัจจุบัน, สถานภาพการอยู่อาศัย, สถานภาพครอบครัว, วุฒิการศึกษา, อาชีพ, หนี้สิน, ที่ดินที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน และบัญชีธนาคารเพื่อโอนรับสวัสดิการจากภาครัฐ

    เมื่อพิจารณาจากหัวข้ออาชีพผู้ที่สามารถไปลงทะเบียนได้ ได้แก่ ผู้ที่ศึกษาอยู่ มีอายุ 18 ปี ขึ้นไปในวันลงทะเบียน, ผู้มีอาชีพรับจ้าง, ธุรกิจส่วนตัว, ค้าขาย, ข้าราชการ, ลูกจ้างภาครัฐ, รัฐวิสาหกิจ, บริษัทเอกชน, ข้าราชการบำนาญ, เกษตรกรปลูกพืช, ทำประมง และเลี้ยงสัตว์

    แต่คุณสมบัติหลักของผู้ที่จะลงทำเบียนผู้มีรายได้น้อยได้ จะต้องมีอายุ 18 ปี ขึ้นไป มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 100,000 บาท และมีชื่อเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่มีมูลค่าไม่เกิน 100,000 บาท



    นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. กล่าวถึงภาวะสังคมไทย ตลอดปี 2559 โดยระบุว่าหนี้สินครัวเรือนชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนได้จากสินเชื่อและการสร้างหนี้ครัวเรือนไม่สูงเหมือนช่วง 3-4 ปี ก่อนหน้านี้

    ทั้งนี้ การที่ภาครัฐพยายามช่วยหนี้รายย่อยและครัวเรือนที่ต้องการกู้ฉุกเฉินให้มีความเป็นธรรมมากขึ้น สามารถลดภาระหนี้สินครัวเรือนลงได้เหลือ 4.1% จากปี 2556 ซึ่งหนี้ครัวเรือนสูงถึง 11.5% นอกจากนี้ยังพบว่าการผิดนัดชำระหนี้เกิน 3 เดือน ของสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับดูแลมีมูลค่า 10,602 ล้านบาท ลดลง 3.1% ของยอดสินเชื่อคงค้าง, ส่วนการผิดนัดชำระหนี้เกิน 3 เดือนขึ้นไป ของสินเชื่อบัตรเครดิต มีมูลค่า 10,383 ล้านบาท ลดลง 2.9% ของยอดสินเชื่อคงค้าง

    นอกจากนี้ยังพบว่าประชาชนมีการออมเพื่อเกษียณอายุเพิ่มขึ้น แต่ยังมีแรงงานกว่า 50% หรือ 18 ล้านคน ไม่มีหลักประกันรายได้หลังเกษียณ โดยเฉพาะแรงงานนอกระบบ จึงต้องเร่งรณรงค์สร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจ ตระหนักถึงประโยชน์เพื่อให้เข้าสู่ระบบการออมมากขึ้น

    ส่วนอัตราการจ้างงานตลอดปี 2559 เท่ากับ 0.99% แม้จะอยู่ในระดับต่ำ แต่ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา อัตราการว่างงานอยู่ที่ 1.2% นอกจากนี้จะมีผู้จบการศึกษาเข้าสู่ระบบเพิ่มอีกกว่า 500,000 คน สำหรับเศรษฐกิจไทยปีนี้ คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.0-4.0% พร้อมแนะรัฐบาลเร่งยกระดับคุณภาพการศึกษาไทย เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ยุคประเทศไทย 4.0 โดยส่งเสริมการเรียนรู้เชิงบูรณาการแบบ STEMS (science Technology Engineering and Mathematics) และกำหนดไว้ในร่างแผนการศึกษาแห่งชาติ ปี 2560-2579



    8 มี.ค.-หลังการเปิดลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย เพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐรอบแรกผ่านไปแล้ว ล่าสุด อีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ รัฐบาลเตรียมเปิดรับลงทะเบียนรอบ 2

    หลังการเปิดลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย เพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐรอบแรกผ่านไปแล้ว ล่าสุด อีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ รัฐบาลเตรียมเปิดรับลงทะเบียนรอบ 2 จะมีรายละเอียดเงื่อนไขเปลี่ยนแปลงอย่างไร และรัฐบาลจะช่วยเหลือผู้มีรายน้อยเพิ่มอีกหรือไม่ ติดตามในช่วง คับข่าว INSIDE.-สำนักข่าวไทย
     
  30. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482




    การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เป็นเรื่องที่ดำเนินการกันมาหลายรัฐบาล ซึ่งอาจจะสำเร็จบ้าง แต่ยังไม่ยั่งยืน เนื่องจากประชาชนยังไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อเมื่อจำเป็นต้องใช้จ่ายฉุกเฉิน จนมาถึงรัฐบาลชุดนี้ ได้มีการออกมาตรการที่ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้ลูกหนี้หลุดพ้นจากหนี้นอกระบบได้อย่างยั่งยืน ติดตามรายละเอียดจากคุณจินตนา ทิพยรัตน์กุล



    ภาคธุรกิจ เอสเอ็มอี มีความสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เพราะว่าเป็นอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ของประเทศและยังเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจฐานรากด้วย ดังนั้น การเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ก็จะส่งผลไปถึงเศรษฐกิจไทย ให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน รัฐบาลจึงมีนโยบายในการส่งเสริมเอสเอ็มอีอย่างชัดเจน ล่าสุด เตรียมจัดงานใหญ่ เปิดตัวโครงการขับเคลื่อน SME ทั้งระบบ วงเงินรวม 37,000 ล้านบาท ไปติดตามได้จากรายงาน



    ปัญหาหนี้นอกระบบสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ที่เป็นลูกหนี้มาช้านานและยังไม่เคยได้รับการแก้ไขเยียวยาอย่างจริงจัง มาถึงรัฐบาลชุดนี้ มีการเปิดตัวโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน ทำให้ลูกหนี้หลายราย มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น



    แผนยุทธศาสตร์พัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการของรัฐบาลนั้น ทำให้เกิดความเท่าเทียมกันในสังคม หนึ่งในนั้นคือการสร้างอาชีพให้กับคนพิการ ที่รัฐบาลกำลังมุ่งมั่นส่งเสริมอย่างเป็นระบบ ให้สามารถหาเลี้ยงชีพได้เหมือนคนทั่วไป แบบไม่เป็นภาระใครและสร้างความภาคภูมิใจให้คนเหล่านี้ได้
     
    Last edited: 13 Mar 2017
  31. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    นายกฯเร่งเพิ่มขีดแข่งขันเอสเอ็มอียุค 4.0



    การอำนวยความสะดวกให้ผู้พิการหางาน ถือเป็นอีกหนึ่งก้าว ที่กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ได้นำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่ออุดช่องว่างเรื่องการหางานให้กับผู้พิการ ให้มีความสะดวกสบายและเข้าถึงตำแหน่งงานว่างในตลาดแรงงานมากกว่าเดิม



    นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังเป็นประธาน สัมมนา"โครงการเตรียมความพร้อม SME เพื่อเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ หรือ ใหม่ เป็นครั้งแรก โดยเห็นว่า การพัฒนาธุรกิจ SMEให้เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จะเป็นช่องทาง ที่ทำให้ผู้ประกอบการมีแหล่งเงินทุนระยาวในการขยายธุรกิจ จากการระดมทุน เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนโดยไม่ต้องกู้ยืม หรือเสียดอกเบี้ย และยังช่วยทำให้ธุรกิจมีภาพลักษณ์ที่ดี เป็นที่น่าเชื่อถือทั้งในประเทศและคู่ค้าต่างประเทศ

    ในปีนี้ โครงการดังกล่าวเปิดรับสมัครผู้ประกอบการธุรกิจ SMEที่สนใจ 40 ราย โดยจะคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ และมีความพร้อมมากที่สุด 5 ราย โดยจะจัดทีมให้คำปรึกษา และพัฒนาองค์กร จากทั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย,สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย,กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และสำนักงาน ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. เป็นต้น เพื่อคอยให้คำแนะนำในการผลักดันให้ทั้ง 5 ราย เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ ได้ภายใน 3 ปี

    ทั้งนี้ปัจจุบัน ประเทศไทยมีธุรกิจ SME มากถึง 2,800,000 ราย ในจำนวนนี้เพียงแค่ 0.5% ที่เป็นผู้ประกอบการขนาดกลาง ซึ่งถือว่าน้อยมาก หากเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน สหรัฐอเมริกา มีสัดส่วนผู้ประกอบการขนาดกลางไม่ต่ำกว่า 5-10% พร้อมย้ำว่า ผู้ประกอบธุรกิจSME ไม่จำเป็นจะต้องเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ทุกราย แต่ก็สามารถเข้าถึงแหล่งทุนที่ทางรัฐบาลสนับสนุนให้ได้ ล่าสุดตลาดหลักทรัพย์ MAI มีบริษัทจดทะเบียนแล้ว 137 แห่ง ที่สำคัญหลายบริษัทเติบโตมาจากธุรกิจ SME มีการระดมทุนจากการขายหุ้นวันละ 2,700 ล้านบาท



    นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้เร่งเดินหน้าป้องกันปัญหากลุ่มนายทุนเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์และฟอกเงินในสหกรณ์ โดยร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ให้ร่วมตรวจสอบ ไม่ให้บุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกเข้ามาลงทุนในสหกรณ์ด้วยวงเงินมากผิดปกติ เพื่อป้องกันการฟอกเงิน

    นอกจากนี้ ยังได้จัดทำโครงการ "สหกรณ์สีขาว" โดยเน้นให้สหกรณ์ที่มีทุนดำเนินงานมากกว่า 1,000 ล้านบาท ที่มีอยู่ทั่วประเทศ 314 แห่ง เข้าร่วมโครงการฯ ด้วยความสมัครใจ เพื่อแสดงถึงการดำเนินงานสหกรณ์ด้วยหลักธรรมาภิบาล มีความโปร่งใส ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับสมาชิกสหกรณ์

    สำหรับสหกรณ์ที่ผ่านเกณฑ์คัดเลือกให้เป็นสหกรณ์สีขาวแล้ว จะได้รับใบประกาศนียบัตรรับรองเป็นรายปี เปรียบเสมือนใบรับรองเพิ่มความเชื่อมั่นให้สถาบันการเงินต่างๆ ด้วย



    กระทรวงการคลัง บริการแบบฟอร์มลงทะเบียนให้ผู้มีรายได้น้อย กรอกข้อมูลได้ล่วงหน้า

    นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า การลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยรอบใหม่ ระหว่างวันที่ 3 เมษายน ถึง 15 พฤษภาคม 2560 ได้เปิดให้ขอเอกสารลงทะเบียนได้ล่วงหน้า โดยดาวน์โหลดแบบฟอร์มข้อมูลและใบมอบอำนาจ ผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงการคลัง หรือจะขอที่สำนักงานคลังจังหวัด ในศาลากลางจังหวัดแต่ละแห่ง รวมทั้งที่ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. และธนาคารออมสิน ทุกสาขา โดยได้ประสานธนาคารกรุงไทย และสำนักงานเขตทุกแห่งในกรุงเทพมหานคร จัดเตรียมแบบฟอร์มไว้บริการ เพื่อนำไปกรอกข้อมูลได้ล่วงหน้า

    เอกสารจะมีทั้งหมด 4 หน้า และมีรายละเอียดข้อมูลจำเป็นที่ผู้ลงทะเบียนต้องกรอกจำนวนมาก เมื่อถึงวันลงทะเบียนจะได้ยื่นเอกสารอย่างรวดเร็ว

    สำหรับการลงทะเบียนครั้งนี้ถือเป็นการลงทะเบียนใหม่ โดยยกเลิกข้อมูลการลงทะเบียนครั้งที่แล้วทั้งหมด ดังนั้นผู้ที่ลงทะเบียนในรอบที่แล้ว และผู้ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน รวมทั้งผู้สูงอายุ และผู้พิการทั้งที่ได้รับหรือไม่ได้รับเบี้ยยังชีพ ต้องมาลงทะเบียนในรอบนี้ด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีผู้มาลงทะเบียนมากกว่าครั้งที่ผ่านมา เพราะประชาชนเห็นถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับจากภาครัฐ
     
  32. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    การลดความเหลื่อมล้ำ ด้วยการนำข้อมูลสถิติมาประมวล เป็นหนึ่งหนทางที่คณะกรรมการ ป.ย.ป. นำมาใช้เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนการวางยุทธศาสตร์ชาติ นำไปสู่การปฏิรูปอย่างเป็นขั้นตอน และมีแนวทางนำไปปฏิบัติได้อย่างแท้จริง ติดตามจากรายงาน



    ธ.ก.ส.โพลล์ เผยผลสำรวจระดับความสุขของเกษตรกรไทยต้นปี 2560 เพิ่มขึ้น ด้านความรู้ทางการเงิน พบเรียนรู้แล้วใช้จริงวางแผนทำบัญชีครัวเรือน รู้ออมก่อนกู้

    นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยผลการสำรวจของศูนย์วิจัยและพัฒนา ธ.ก.ส.ในหัวข้อ ความสุขมวลรวมของเกษตรกรไทย พบว่า ความสุขของเกษตรกรไทยในภาพรวมคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (คะแนนเฉลี่ย 83.11 จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน) เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรสำคัญหลายชนิดเริ่มปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ อาทิ อ้อย ปลาน้ำจืด และผลไม้ ทำให้เกษตรกรที่ปลูกพืชและทำประมงน้ำจืดมีรายได้เพิ่มขึ้น ด้านราคาสินค้าเกษตรชนิดอื่น ๆ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในเกณฑ์ที่เกษตรกรพอใจ อาทิ ข้าวและยางพารา ส่วนเหตุการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้หลายจังหวัดเป็นผลกระทบในระยะสั้น

    นอกจากนี้ ยังพบว่า เกษตรกรเริ่มนำความรู้ที่ได้จากโครงการให้ความรู้ทางการเงิน ของ ธ.ก.ส. มาประยุกต์ใช้เกี่ยวกับการใช้เงินตามวัตถุประสงค์มากที่สุดร้อยละ 98.0 รองลงมา คือ การออมเงินร้อยละ 95.4 และนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน ร้อยละ 94.1 ตามลำดับ



    รัฐบาลเตรียมเดินหน้านโยบายประชารัฐ โครงการเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐให้ผู้มีรายได้น้อยมาลงทะเบียนเพิ่ม เพื่อรับสวัสดิการเพิ่มเติม โดยหวังจะให้ลดความเหลื่อมล้ำทางฐานะของคนในสังคม ยกระดับความเท่าเทียมให้เสมอภาค หลังก่อนหน้านี้ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ติดตามได้จากรายงาน



    การสร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ด้วยการแก้ปัญหาหนี้สินให้กับประชาชน เพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เป็นที่มาของโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน ซึ่งได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ จะได้เห็นการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น เราจะติดตามเรื่องนี้กับคุณจินตนา ทิพยรัตน์กุล



    รัฐบาลประกาศเอาจริงเอาจังกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ โดยในมิติของเจ้าหนี้ มีการออกกฏหมายกำกับดูแล และเปิดโอกาสให้จดทะเบียนเป็นพิโกไฟแนนซ์ เพื่อให้สามารถปล่อยกู้ได้ถูกต้องตามกฏหมาย จัดเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่เป็นธรรม เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างยั่งยืน ติดตามรายละเอียดจากคุณจินตนา ทิพยรัตน์กุล
     
  33. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    รัฐบาลเดินหน้าแก้ปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน โดยรวมพลังทุกภาคส่วนเดินหน้าขจัดหนี้เป็นศูนย์ พร้อมออกมาตรการช่วยเหลือด้านการเงินให้ผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่าย โดยไม่ต้องพึ่งเงินกู้นอกระบบอีกต่อไป ติดตามจากรายงาน



    แผนยุทธศาสตร์พัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการของรัฐบาลนั้น ทำให้เกิดความเท่าเทียมกันในสังคม หนึ่งในนั้นคือการสร้างอาชีพให้กับคนพิการที่รัฐบาลกำลังมุ่งมั่นส่งเสริมอย่างเป็นระบบ ให้สามารถหาเลี้ยงชีพได้เหมือนคนทั่วไปแบบไม่เป็นภาระใคร และสร้างความภาคภูมิใจให้คนเหล่านี้



    ติดตามกันต่อเนื่องกับนโยบายของรัฐบาลที่จะแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้หมดจากสังคมไทยภายใน 2 ปี ซึ่งจะดำเนินการทั้งในส่วนของเจ้าหนี้และลูกหนี้ให้เข้ามาอยู่ในระบบ สำหรับผู้ที่เป็นลูกหนี้ อยากจะเข้าร่วมโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบจะต้องทำอย่างไร



    กทม. 15 มี.ค.-คับข่าว INSIDE วันนี้ จะซักถามแขกรับเชิญเรื่องใกล้ตัว เกี่ยวข้องกับปากท้องของประชาชน ทำอย่างไรเมื่อผลิตสินค้าออกมาแล้ว จะมีตลาดให้ขายได้มากขึ้น.-สำนักข่าวไทย



    กระทรวงการคลัง เตรียมเปิดลงทะเบียนรอบ 2 ต้นเดือนเมษายนนี้ และพร้อมจ่ายสวัสดิการครั้งแรก รถเมล์-รถไฟฟรี, ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ เดือนมิถุนายนนี้

    นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในการลงนามความความร่วมมือ โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 ร่วมกับ 11 หน่วยงาน เพื่อร่วมมือกันเปิดรับลงทะเบียนที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 3 เมษายน - 15 พฤษภาคมนี้ ผ่านหน่วยงานรับ 5 แห่ง คือ ธกส., ธนาคารออมสิน, ธนาคารกรุงไทย, คลังจังหวัด และสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร

    โดยนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง คาดว่า จะมีผู้มีรายได้น้อยมาลงทะเบียนประมาณ 14 ล้านคน จากครั้งที่แล้วมีจำนวน 8 ล้านคน และหลังลงทะเบียน จะใช้เวลา 1-2 เดือน ในการตรวจสอบคุณสมบัติ และจะประกาศรายชื่อ และรับบัตรภายในเดือนมิถุนายน โดยสวัสดิการแรกที่จะดำเนินการ คือ รถเมล์-รถไฟฟรี และส่วนลดค่าน้ำ และไฟฟ้า ซึ่งจะแบ่งส่วนลดตามฐานรายได้ และจะยังมีสวัสดิการอื่นๆ ตามมา เช่น ประกันอุบัติเหตุในราคา 99 บาท และให้เงินค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งสำหรับค่าเช่าที่พักอาศัย
     
  34. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    ก.คลัง คาดว่าผู้มีรายได้น้อยจะเข้ามาลงทะเบียนโครงการสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มขึ้นเป็น 14 ล้านคน พร้อมเร่งศึกษาสวัสดิการใหม่ ทั้งประกันอุบัติเหตุ ชดเชยรายได้วันละ 300 บาท และช่วยจ่ายค่าเช่าบ้านเดือนละ 500 บาท ก่อนออกบัตรประจำตัวอิเล็คทรอนิกส์ ภายในเดือน มิ.ย.



    การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เป็นเรื่องที่ดำเนินการกันมาหลายรัฐบาล ซึ่งอาจจะสำเร็จบ้าง แต่ยังไม่ยั่งยืน เนื่องจากประชาชนยังไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อเมื่อจำเป็นต้องใช้จ่ายฉุกเฉิน จนมาถึงรัฐบาลชุดนี้ ได้มีการออกมาตรการที่ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้ลูกหนี้หลุดพ้นจากหนี้นอกระบบได้อย่างยั่งยืน



    ปัญหาหนี้นอกระบบสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ที่เป็นลูกหนี้มาช้านานและยังไม่เคยได้รับการแก้ไขเยียวยาอย่างจริงจัง มาถึงรัฐบาลชุดนี้ มีการเปิดตัวโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน ทำให้ลูกหนี้หลายราย มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ติดตามรายละเอียดจากคุณจินตนา ทิพยรัตน์กุล



    หนี้นอกระบบในสังคมไทยถือว่าเป็นปัญหาที่รัฐบาลกำลังหามาตรการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยนากยกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำแนวทาง 5 มิติใหม่การบูรณาการให้ความช่วยเหลือผู้ที่เป็นหนี้นอกระบบ เริ่มตั้งแต่การให้หน่วยงานรับเข้าไปช่วยเหลือภาระหนี้และสอนทักษะวิชาชีพให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาหนี้นอกระบบ ติดตามได้จากรายงาน



    ประชาชนหลายคนยังมีความสงสัยว่าเหตุใดผู้ที่เคยลงทะเบียนในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ เมื่อปี 2559 ต้องมาลงทะเบียนใหม่ แต่หากดูจากแบบฟอร์มที่กระทรวงการคลัง เปิดให้ประชาชนขอรับจากหน่วยรับลงทะเบียน และดาวน์โหลดผ่านเว็ปไซด์แล้ว จะเห็นได้ว่ามีรายละเอียดมากขึ้น และจำเป็นต้องทำความเข้าใจ เพื่อให้การจัดรัฐสวัสดิการของรัฐตรงตามกลุ่มเป้าหมาย ติดตามจากรายงาน
     
  35. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    ปลัดกระทรวงการคลัง เตรียมเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณาทำประกันผู้มีรายได้น้อยคนละ 99 บาท โดยรัฐจ่ายค่าเบี้ยให้ทั้งหมด คาดว่าจะเสนอได้หลังเปิดรับลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยเพื่อให้ทราบจำนวนที่ชัดเจน



    แนวโน้มเทคโนโลยีเครื่องจักร ปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ และนวัตกรรมต่าง ๆ ที่เข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้นในยุค 4.0 จะกระทบต่อแนวโน้มการจ้างงานของคน และสถานะของเงินกองทุนประกันสังคมที่คอยดูแลแรงงานในยามแก่ชรา หรือปลดเกษียณหรือไม่

    เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยจาก นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน ที่ยืนยันสถานะเงินกองทุนประกันสังคมวันนี้ยังเข้มแข็งโดยมีอยู่กว่า 1.64 ล้านล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้กว่า 90 % เป็นเงินสะสม ที่ใช้ในการจ่ายสิทธิประโยชน์ระยะ ซึ่งก็คือสิทธิยามชราภาพ ส่วนอีก 10 % เป็นค่าใช้จ่ายระยะสั้น เช่น ค่าใช้จ่ายยามว่างงาน เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ค่ารักษากรณีเจ็บป่วย และกรณีการคลอดบุตร เป็นต้น


    ทั้งนี้ ปัจจุบันสมาชิกกองทุนมีจำนวนรวมกว่า 12 ล้านคน เป็นภาคบังคับ 11 ล้านคน สมัครใจ 1 ล้านคน ค่าเฉลี่ยการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 3-4 % ต่อปี แต่จากแนวโน้มที่สังคมไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้คาดว่าในปี 2597 แนวโน้มสมาชิกกองทุนจะค่อย ๆ ลดลง ซึ่งไม่ได้มาจากแนวโน้มการจ้างงานที่อาจถูกแทนที่โดยเครื่องจักรหรือปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งหากพิจารณาข้อเท็จจริงในขณะนี้ไทยยังอยู่ในภาวะขาดแคลนแรงงาน จนต้องมีการนำเข้าจากต่างชาติเพื่อนบ้านด้วยซ้ำ เรื่องนี้จึงไม่น่ากังวล

    อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เม็ดเงินที่ใช้ในการดูแลประชาชน สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น คณะกรรมการ สปส.อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียด ในการปรับแก้เกณฑ์เงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ก่อนที่จะเสนอคณะรัฐมนตรี และประกาศใช้ภายในปีนี้ โดยจากเดิมที่กำหนดเพดานสูงสุดสำหรับผู้มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาท/เดือน ก็จะเพิ่มเป็น 20,000 บาท/เดือน เนื่องจากปัจจุบันนี้ผู้ที่มีรายได้ 15,000 บาท มีสัดส่วนต่อทั้งประเทศเพิ่มเป็น 30 % ขณะที่ในอดีตที่มีการประกาศกฏหมายใช้มีสัดส่วนเพียง 15 % โดยจะทำให้ผู้ประกันตนที่มีเงินเดือน 20,000 บาท ต้องจ่ายสมทบเพิ่มจากไม่เกิน 750 บาท เป็นไม่เกิน 1,000 บาท สิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตนจะได้ ก็คือเงินเกษียณ ค่าใช้จ่ายกรณีว่างงาน ที่จะมีเพิ่มขึ้นจากฐานเงินคำนวณที่มีเพิ่มขึ้นพร้อมทั้งจะเตรียมขยายอายุการทำงานจากจากปัจจุบันเกษียณอายุที่ 55 ปี จะขยายเป็น 60 ปี เพื่อเพิ่มความมั่นคงผู้ประกันตน



    "พรเพชร" เผยรบ.-สนช.จะพิจารณาร่างพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง27มี.ค.นี้ ยันพร้อมรับฟังข้อเสนอจากทุกฝ่าย

    วันนี้( 22 มี.ค.60) นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 27 มี.ค.นี้ วิปรัฐบาลและวิป สนช. จะพิจารณามติคณะรัฐมนตรี(ครม.)ที่ผ่านความเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพื่อเตรียมบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม สนช. ส่วนจะเป็นการพิจารณา 3 วาระรวดหรือไม่ ยังตอบไม่ได้ เพราะต้องรอรายละเอียดและเนื้อหาว่าต้องปรับแก้ไขเรื่องใดบาง

    โดยในการพิจารณาสนช. พร้อมจะรับฟังข้อเสนอจากทุกฝ่าย ทั้งกฤษฎีกา รัฐบาลและผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งคาดว่ากฎหมายดังกล่าว จะผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมสนช.ไม่เกินเดือนก.ย.นี้ พร้อมระบุว่า ไม่รู้สึกกังวลว่าจะถูกต่อต้าน เนื่องจากกฎหมายดังกล่าวกระทบกับคนจำนวนมาก เพราะหากรัฐธรรมนูญฉบับประชามติประกาศใช้ สนช.ก็จะต้องรับฟังความคิดเห็นในวงกว้าง ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ แต่ระหว่างรอรัฐธรรมนูญประกาศใช้ สนช.ก็จะรับฟังความคิดเห็นตามขั้นตอน ปกติ

    ทั้งนี้ นายพรเพชร ยังเห็นด้วยกับกรณีที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก เพราะนายกรัฐมนตรีคงเห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากหากรอการปรับปรุงกฎหมายหลายฉบับก็จะไม่ทันต่อสถานการณ์ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในอนาคตจะต้องปรับแก้ไขกฎหมายตามขั้นตอนของนิติบัญญัติ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)คงต้องเสนอกฎหมายเสนอ สนช.ต่อไป

    ส่วนการประชุมสัมมนาเชิงวิชาการสมาคมพนักงานเทศบาลแห่งประเทศไทยวันนี้ นายพรเพชร เดินทางมาเป็นประธานเปิดงาน พร้อมปาฐกถาพิเศษ เรื่องมุมมอง ทัศนะ บทบาท ฝ่ายนิติบัญญัติต่อการปฏิรูปกฎหมายต่อสถานการณ์ปัจจุบัน โดยระบุว่า ทั้งสภาปฎิรูปแห่งชาติ(สปช.) และ สภาขับเคลื่อนการปฎิรูประเทศ(สปท.)จำเป็นต้องปฏิรูปกฎหมายเกี่ยวกับการปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งขณะนี้ กระทรวงมหาดไทยกำลังดำเนินการปฎิรูป และแก้ไขกฎมาย



    ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม หลังกฤษฎีกาปรับแก้แล้ว

     
    Last edited: 29 Mar 2017
  36. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    ร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ค้างคามานาน ก็ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย มุ่งเน้นเก็บภาษีคนรวย แก้ปัญหารวยกระจุก จนกระจาย และเพิ่มการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐ โดยกำหนดอัตราภาษีที่ดินรกร้างในอัตราสูงเพื่อจูงใจให้มีการพัฒนาที่ดิน และลดปัญหานายทุนซื้อที่เก็งกำไร



    ภาคธุรกิจ SME ถือว่าเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจไทย รัฐบาลจึงมีนโยบายให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ผ่านมาตรการส่งเสริมต่างๆมากมาย พร้อมกับอัดฉีดเม็ดเงิน 37,000 ล้านบาทผ่าน 3 กองทุนเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น



    กทม. 26 มี.ค. - เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษาประกาศยกเว้นภาษีให้นายจ้างที่รับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปทำงาน เท่ากับค่าจ้างที่ใช้จ่ายผู้สูงอายุ ทำให้เกิดความตื่นตัวให้หลายบริษัทรับคนวัยเกษียณเข้าทำงาน ล่าสุดมีร้านหนังสือแห่งหนึ่งเปิดรับสมัครพนักงานขายหนังสือ อายุตั้งแต่ 50 ขึ้นไปเข้าทำงาน

    หลังบริษัทซีเอ็ดบุ๊ค ประกาศรับสมัครพนักงานร้านหนังสืออายุ 50 ปีขึ้นไปเข้าทำงานทางเฟซบุ๊ก กิตติยา อดีตพนักงานประจำที่ต้องออกจากงานในวัยใกล้เกษียณ เหตุบริษัทขาดสภาพคล่องก็รีบนำเอกสารที่เคยใช้ตระเวนสมัครงานมาแล้วหลายที่แต่ไม่มีใครรับ มายืนสมัครที่นี่ทันที

    เช่นเดียวกับ อัญชสา ที่ผ่านวัยเกษียนมาแล้ว 2 ปี และออกจากงานประจำ หันมาทำอาชีพค้าขายนานกว่า 20 ปี ก็มาสมัครด้วย เพราะมองว่าเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะทำให้เธอมีรายได้โดยไม่ต้องเสี่ยงเงินเก็บหมด เพราะการลงทุนขาดทุนอย่างเช่นที่ผ่านมา

    โครงการอายุ 60 ปี มีไฟในการทำงานของร้านนี้ ถือเป็นการสนองนโยบายรัฐในการสร้างงาน สร้างรายได้ให้ผู้สูงอายุที่เห็นเป็นรูปธรรมมากที่สุด โดยผู้สมัครต้องมีอายุ 50 ปีขึ้นไป จบการศึกษาไม่ต่ำกว่า ม.3 มีใจรักงานบริการ เลือกวันทำงานได้ รายได้วันละ 300 บาท ไม่รวมค่าล่วงเวลาและสวัสดิการ มีประสบการณ์ ถ่ายทอดความรู้ได้ ตั้งใจทำงาน ซื่อสัตย์ เห็นคุณค่าของหนังสือที่มีในผู้สูงอายุมากกว่าคนรุ่นใหม่ คือเหตุผลหลักที่ทำให้รับเข้าทำงาน นอกจากแรงจูงใจเรื่องภาษีที่กำหนดไว้ สามารถหักภาษีได้เท่ากับค่าจ้างที่ใช้จ่าย พนักงานผู้สูงวัย แต่จำนวนที่จ้างต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของพนักงานทั้งหมด

    คุณค่าและประสิทธิภาพในทำงานไม่ได้ชี้วัดที่อายุ แต่ประสบการณ์และความซื่อสัตย์ อดทน กลับเป็นจุดเด่นที่ผู้สูงอายุมีและครองใจนายจ้าง ดังนั้น ความเชื่อที่ว่าคนวัยเกษียณทำงานไม่ได้ ในยุคที่เครื่องจักรทำงานแทนคนจึงไม่เป็นจริงเสมอไป. - สำนักข่าวไทย



    รัฐบาลเร่งปฎิรูประบบบำนาญของไทยรองรับหลังเกษียณ ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ให้ผู้ออมมีเงินใช้จ่ายไม่น้อยกว่า 50% ของรายได้เดือนสุดท้าย หวังลดภาระการคลังของรัฐบาล

    วันนี้ (27มี.ค. 60) กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการปฎิรูประบบบำนาญของไทยให้มีความเหมาะสมและมีความยั่งยืนในอนาคต รวมทั้งดูแลสมาชิกผู้ออมให้มีรายได้ไว้ใช้จ่ายเพียงพอหลังเกษียณ ซึ่งจากที่คำนวณต้องมีรายได้ไม่น้อยกว่า 50% ของรายได้หรือเงินเดือนเดือนสุดท้าย ขณะที่ปัจจุบันพบว่าเงินบำนาญจากกองทุนประกันสังคมจะได้รับอยู่ที่เฉลี่ย 20% จึงอยู่ระหว่างแก้ไขพ.ร.บ.กองทุนประกันสังคมเพื่อขยายอายุเกษียณจาก 55 ปีเป็น 60 ปี และเพิ่มอัตรานำส่งเงินทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างจากผ่ายละ 3% เป็น 5% และเปิดทางให้นำเงินไปลงทุนหาผลประโยชน์ให้มากขึ้น

    นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง บอกว่า ยังมีการส่งเสริมแรงงานให้ออมเงินภาคบังคับผ่านกองทุนบำแหน็จเหน็จบำนาญแห่งชาติ (กบช.) ที่กฎหมายจัดตั้งอยู่ในขั้นตอนพิจารณาของ สนช. ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในปี 2561 โดยรัฐบาลอาจมีภาระในการจ่ายสมทบช่วงแรกปีละ 1-2 หมื่นล้านบาท แต่ในระยะยาวจะช่วยลดภาระการคลังในการอุดหนุนสวัสดิการประชาชนปีละ 6-7 แสนล้านบาทลงได้

     
    Last edited: 30 Mar 2017
  37. Ricebeanoil

    Ricebeanoil อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    7 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,482


    รัฐบาลเร่งส่งเสริมการจ้างงานคนพิการอย่างเท่าเทียม ตั้งเป้าเพิ่ม 10,000 อัตราปีนี้ พร้อมเปิด 3 ทางเลือกให้หน่วยงานรัฐและเอกชนร่วมดูแลคุณภาพชีวิตคนพิการ
     

Share This Page